Image

[Beauty talks] All about mask ภาค 1: มาสค์หน้าไปทำไม บ่อยแค่ไหนดี และเลือกแบบไหนดี

สวัสดีค่ะ

 

วันนี้มาแชร์สาระเรื่อง Mask ค่ะ ตอนแรกนี้จะว่าด้วยประโยชน์ของ Mask และ Mask ประเภทแรก คือ Mask sheet ก่อนนะคะ

mask 1
ถ้าพูดถึงมาสค์ในท้องตลาดมีด้วยกันหลายรูปแบบ เช่น มาสค์โคลน มาสค์แบบล้างออก มาสค์แบบลอกออก มาสค์ชีท และมาสค์แบบที่ทาทิ้งไว้ข้ามคืน หรือ Overnight mask หรือ Sleeping mask ค่ะ

เดี๋ยวจะค่อยๆคุยกันทีละแบบนะคะ วันนี้ขอเริ่มด้วยมาสค์ชีทก่อนค่ะ

การ Mask หน้าด้วย Mask sheet เป็นการสร้างสิ่งที่เรียกว่า Occlusive effect ให้กับผิว คำนี้ไม่อยากแปลเป็นไทยเท่าไหร่ค่ะ แปลแล้วไม่ได้สื่อความหมายอะไรเท่าไหร่

ในการเอาแผ่นมาสค์มาแปะลงบนผิว ผลของ Occlusive effect จะทำให้ระบบและกลไกในผิวหนังเปลี่ยนไป อย่างแรกเลยคือ ความชื้นในผิวหนังจะเพิ่มขึ้น เพราะน้ำจากแผ่นมาสค์เข้ามาในผิว และน้ำในผิวไม่สามารถระเหยออกไปข้างนอกได้ เมื่อความชื่้นเพิ่มขึ้น ผิวจะมีการทำงานบางอย่างดีขึ้น เช่น การสมานแผลต่างๆในผิวดีขึ้น การสร้างโปรตีนและไขมันในผิวบางชนิดทำได้มากขึ้น และการผลัดเซลล์ผิวเกิดได้สมบูรณ์ขึ้น

 

ถึงแม้การแปะแผ่นมาสค์จะไม่ได้สร้างภาวะ Occlusive ที่สมบูรณ์เหมือนการทับด้วย Silicone sheet หรือ Plastic แต่ก็สามารถทำให้เกิดภาวะกึ่งๆ Occlusive ได้อยู่ค่ะ มี่เองก็ไม่แน่ใจข้อมูลเหมือนกันนะคะ ว่าแผ่นมาสค์จะทำให้เกิดภาวะ Occlusive ได้แค่ไหน และที่แน่ๆ วัสดุที่ใช้ทำแผ่นมาสค์ มีผลกับความสามารถในการ Occlusive แน่นอนค่ะ คหสต. มี่คิดว่า Mask sheet แบบที่เป็นแผ่นเจล หรือ Hydrogel patch น่าจะให้ผลในการ Occlusive ที่สูงกว่า และมีผลช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นได้ดีกว่าค่ะ


ความชื้นที่เพิ่มขึ้นในผิวยังมีผลต่อการดูดซึมสารบางชนิดเข้าสู่ผิวด้วย เพราะสารบางอย่างสามารถดูดซึมเข้าสู่ผิวได้มากขึ้นค่ะ

มาดูงานวิจัยที่เกี่ยวข้องบ้างนะคะ

Maibach และ Zhai ได้สรุปไว้ว่าผลของการ Occlusive ที่ผิวหนัง เป็นปรากฏการณ์ที่ส่งผลต่างๆต่อผิวหนังมากมาย และบางอย่างก็สลับซับซ้อน โดยรวมๆสรุปได้ว่า ภาวะ Occlusive มีผลต่อความชุ่มชื้นในผิว มีผลต่อการซึมผ่านของสารต่างๆเข้าสู่ผิว การฟื้นฟูและสังเคราะห์ไขมัน DNA การสมานแผลต่างๆในผิว รวมไปถึงมีผลต่อเชื้อจุลินทรีย์ดีๆ ที่เป็นเชื้อเจ้าบ้านด้วยค่ะ (Maibach and Zhai, Skin Pharmacol Appl Skin Physiol 2001;14:1-10)

การ Occlusive ทำได้หลายแบบไม่ว่าจะเป็นการทาผลิตภัณฑ์ที่มีไขมัน แล้วไขมันนั้นดูดซึมไม่ได้ กลายเป็นฟิล์มบางๆเคลือบผิวไว้กันน้ำระเหยออกไป หรือการใช้ Mask sheet นั่นเองค่ะ

ผิวหนังชั้นนอกปกติจะมีความชื้นอยู่ราวๆ 10 – 20% แต่เมื่อ Occlusive ไป 30 นาที พบว่าระดับความชื้นในผิวเพิ่มขึ้นจนถึงเกือบๆ 50% เลยทีเดียว ระดับความชื้นขนาดนี้ทำให้เซลล์ผิวบวม และโครงสร้างของไขมันใน Barrier ผิวก็มีการเปลี่ยนแปลงไป ทำให้สารบางชนิดซึมผ่านเข้าสู่ผิวได้มากขึ้น

สารที่จะซึมเข้าผิวได้ดีมากในช่วงที่เรา Mask มักจะเป็นพวกสารไขมันค่ะ

ในเอกสาร Review article ของ Maibach และ Zhai ยังกล่าวอีกว่า เมื่อเกิดการ Occlusive สาร Ethanol (Alcohol) สามารถซึมเข้าสู่ผิวได้มากขึ้นเช่นกัน ดังนั้นแผ่นมาสค์ที่มีแอลกอฮอล์ ก็อาจจะไม่ค่อยเหมาะกับคนที่มีผิวแห้ง

สรุปก็คือ ข้อดีของ การ Mask หน้า เราก็จะได้เรื่องความชุ่มชื้น แล้วสารวิตามินต่างๆในแผ่นมาสค์ก็จะเข้าสู่ผิวได้ง่ายขึ้น แต่!!!! เมื่อสารต่างๆซึมเข้าผิวได้มากขึ้น ก็ไม่ได้แปลว่า จะดีเสียหมด เพราะสารที่ไม่เป็นมิตรก็อาจจะซึมเข้าสู่ผิวได้มากขึ้นด้วย ทำให้เกิดการแพ้ และการระคายเคืองได้ง่ายกว่าปกติ จึงไม่ควรทิ้งมาสค์ไว้นานๆ ซัก 15-20 นาทีก็พอค่ะ แล้วอาทิตย์หนึ่งควรใช้ซัก 1 – 2 ครั้งพอ

ถ้าพูดถึง Mask sheet ในตลาด

Mask sheet ก็คือ แผ่นมาสค์ที่แช่อยู่ใน Vehicle (ขอเรียกว่า น้ำยา แม้ว่าจะดูแปลกๆไปหน่อย เพราะจะเรียกว่า Solution ก็คงไม่ถูก เพราะมาสค์บางอย่างเป็นน้ำนม หรือ Emulsion)

Mask sheet มีกี่แบบ???

เท่าที่ดูๆมา มี่ขอแบ่งแผ่นมาสค์ในท้องตลาด เป็น 2 แบบหลักๆ คือ แบบที่เป็น Vehicle น้ำ กับ แบบที่เป็น Vehicle น้ำนม

1. แบบน้ำ ผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้มากกว่า 90% มักจะใส่แอลกอฮอล์ลงมา เพื่อให้แห้งไว ไม่เหนอะหนะ แต่ก็อาจจะไม่ค่อยเหมาะกับคนผิวแห้ง มาสค์น้ำบางแบบจะเหนียวๆ ยืดๆ เป็นเมือกๆ เพราะสารก่อเจล เวลาเอาออกเสร็จควรไปล้าง แต่ถ้าเป็นมาสค์ที่ไม่เหนียว ไม่ยืด ไม่จำเป็นต้องล้างออก หรือจะล้างก็ไม่เป็นไร เพราะวิตามินบางส่วนก็ซึมเข้าผิวไปแล้ว

2. แบบน้ำนม ก็มีทั้งแบบน้ำนมเหลวๆ และแบบน้ำนมหนักๆ สังเกตได้จากสารน้ำมัน ตัวที่พบบ่อยที่สุดจะเป็น Capric/caprylic triglycerides กับพวก Fatty ester ต่างๆ (สังเกตจากชื่อสาร มี 2 วรรค วรรคแรกลงท้ายด้วย –yl วรรคสองลงท้ายด้วย –ate เช่น Ethyl hexylpalmitate, Cetyl ethylhexanoate ฯลฯ หรือไม่ก็ไม่วรรค แล้วลงท้ายด้วย –ate ไปเลย)

การเลือกมาสค์ให้เหมาะกับสภาพผิว
***คนผิวมัน ควรเลือกมาสค์น้ำที่มี Alcohol หรือเป็นมาสค์น้ำธรรมดาที่ไม่มี Alcohol

การใช้มาสค์ที่มี Alcohol ในคนที่มีผิวมัน Alcohol จะช่วยละลายไขมันบางส่วนบนผิวได้ด้วย น่าจะให้ผลดีเกี่ยวกับการคุมมันและเรื่องสิวด้วย (คหสต.)

***คนผิวผสม ควรเลือกมาสค์น้ำที่ไม่มี Alcohol

***คนผิวแห้ง ควรเลือกมาสค์น้ำนม

 

 

1432390518-o

 

ส่วนตัวมี่ลองมาสค์ชีทมาหลายแบรนด์ ซึ่งส่วนมากจะเป็นของเกาหลีค่ะ

 

1432390466-maskre-o

 

ถ้าสนใจลองตามไปอ่านกระทู้บนพันทิปได้เพิ่มเติมนะคะ 🙂

 

http://pantip.com/topic/33692147

 

พบกันใหม่ใน Part 2 กับ Mask เนื้อครีม/เนื้อเจล ค่ะ

MiYeon’s Shopping in Jeju, April 2015

MiYeon’s Shopping in Jeju, April 2015

Hi guys, this is my first English topic, please feel free to have comments or chats or etc.

On last April, I went to Jeju, South Korea with Thai tour company with very low cost (around 12900 THB for plane, hotels and some foods)

I am Korean Cosmetics-addicted, and always find the way to purchase them into Thailand.

I like to try everything that is Korean, so my daily routine is almost done bt Korean cosmetics.

Well, its time to see my shopping bags!!!

But before shopping bags, before going to Korea I have to check the price and products that will include in my wishlists, and here is my wishlists.

shopping list

Then, we have arrived !!, at Jeju airport

jeju

Tah dah!! here is my shoppings

IMG_2543-re

Wah Quite a lot, right??

In Jeju, the most frequent shop I found is Nature republic, which can be found in almost every place that tour guide to.

IMG_2361-re

Lucky!!, they are on sale !!!!

And these are my purchased.

IMG_2532-re

All of Nature Republic’s products are great and skin friendly.

I love the cactus gel and bamboo mist very much (which will be further reviewed in the next occasion).

The next brand is It’s Skin, It’s Skin is one of my fav’ and the product that I do love most is GF effector. This time I purchased four bottles, for one year.

IMG_2528-re

Woohoo!! See you again next year, Korea.

And the next brand is Innisfree, lucky I have some times and went to Innisfree Jeju House, which is the perfect place that I enjoyed most.

11173325_10204071639651462_5295637980083187181_n IMG_1853-re

These are my purchased,

IMG_2535-re

Sparkling mineral is the new line that launched in April, I think.

But I did not tried it yet, so when I tried it I will make a review.

For Etude House, I purchased Magic any cushion, which is my fav’ and some mask sheets for trying

IMG_2530-re

About magic any cushion, I used peach color.

And the next brand is Beyond. Beyond is one of my interesting since I went to Korea on June, 2014.

Their products are quite great, however there are few line that used alcohol, which may not suits some individuals, and this are my purchased.

IMG_2531-re

On that time I went, their mask sheet is on promotion, 10+10 (Buy 10 get 10 free).

And the next brand is Tony Moly, I used their Galactomyces water before. This time I went for their Goat milk toner, which is newly launched.

IMG_2537-re

Their mascara is also great!!!!!

The next brand is Hanyul, this time I go for their rice skin softener

IMG_2538-re

And the next brand is Mamonde, I love their concepts, I love flower, esp. roses.

This is my purchased,

IMG_2539-re

And the last one is the saem, another eco-friendly brand.

IMG_2540-re

their wrapping tints are great, look like natural lips.

Well That’s all

See you again in my next blog post

love you

xoxo

[Mini-Review] Nature Republic Bulgarian Rose Moisture Toner

[Mini-Review] Nature Republic Bulgarian Rose Moisture Toner

มีใครเป็นคอกุหลาบเหมือนมี่มั้ยคะ ???

ถ้าใช่ ตัวนีี้น่าจะเป็นชอยส์ที่น่าสนใจชอยส์นึงเลยทีเดียวค่ะ

นั่นก็คือ Nature Republic Bulgarian Rose Moisture Toner ค่ะ

NR rose 1แม้ชื่อจะเป็นโทนเนอร์ ที่เราเข้าใจว่าเอามาไว้หยดใส่สำลีแล้วเช็ด แต่โดยเนื้อสัมผัส หรือ Texture ของมัน ที่ค่อนข้างหนืด มันเหมาะกับการเอามาตบมากกว่าค่ะ กลิ่นหอมกุหลาบอ่อนๆ ค่อนข้างซึมไว ชุ่มผิวดี แต่แป๊บเดียวผิวก็แห้งเหมือนเดิมแล้วหล่ะ ซื้อมาเพราะกลิ่นกุหลาบเลยจริงๆค่ะ ส่วนผสมก็ไม่ทราบ เพราะมีแต่ภาษาเกาหลี

คือบางครั้ง แค่เราได้กลิ่นที่ถูกใจ เราก็ยอมจ่ายแล้วค่ะ แม้จะไม่รู้ว่ามันจะโอเคหรือไม่ เชื่อว่าผู้หญิงมากกว่า 95% เป็นเหมือนมี่ ในขณะที่ผู้ชายส่วนใหญ่จะค่อนข้างละเอียดและรอบคอบกว่าเราในการจับจ่ายซื้อเครื่องสำอางซักชิ้น

ให้ดูเนื้อนะคะ

NR rose 2-eNR rose3-eตอนนั้นถ้าจำไม่ผิดรู้สึกจะซื้อที่ชอปไทย ลดราคาเหลือสองร้อยนิดๆ คือซื้อมานานมากแล้วค่ะ และก็ใช้มาได้ซักพักแล้ว แต่ไม่มีเวลามาเล่าให้ฟัง

ถึงไม่ทราบส่วนผสม แต่ก็พอจะเมาท์เรื่อง Rose water ได้อยู่นะคะ

Rose water คืออะไร??

Rose water เป็นน้ำที่เหลือจากการกลั่นเอาน้ำมันออกจากดอกกุหลาบ ก็จะมีความหอมอ่อนๆ มีคุณสมบัติในการเพิ่มความชุ่มชื้น ผ่อนคลาย และให้ความรู้สึกสบายผิวค่ะ แต่ไม่มีรายงานทางวิทยาศาสตร์รองรับนะคะ 🙂

ที่หน้าเวบไซต์ของ Nature Republic Korea มีรูปให้ดูด้วยค่ะ

กลั่นกุหลาบ

(Image source: http://www.naturerepublic.com/)

ก็คือเราจะให้ความร้อน ให้น้ำกลายเป็นไอ มา Condense ใน Chamber ที่มีกลีบกุหลาบอยู่ น้ำมันหอมระเหยจากกุหลาบ จะระเหยออกไปแล้วก็จะถูก Condense ออกมาเป็น Rose oil ซึ่งมีราคาแพงมาก (กิโลละหลายพัน ถึงหมื่นบาท)

น้ำที่เหลืออยู่ใน Chamber ก็จะเป็นตัว Rose water นั่นเองค่ะ

[MiiYeon’s NewBies]~My new items for 2015

[MiiYeon’s NewBies]~My new items for 2015

ปีใหม่ เราก็ต้องซื้อของใหม่เข้าบ้าน

ก็เลยได้ฤกษ์ลองของใหม่ๆ หลายๆอย่างเลยค่ะ

new 1

เริ่มด้วย

1. Cleansing water จาก Nature republic อันนี้เห็นสาวเกาหลีรีวิวความอลังของนางไว้ เลยจัดมาลองบ้างค่ะ แต่ ณ วันนี้ยังไม่ได้ลองเลย รอลูกรักอันเก่าหมดก่อน

2. Holika Holika wine therapy sleeping pack สูคร Red wine จริงๆอันนี้ซื้อมาผิด เคยลองเทสเตอร์ไป แต่ไม่รู้ว่ามัน red หรือ White เลยลองสั่ง Red มา แทบกรี๊ดค่ะ ผิดอันกับเทสเตอร์ที่เคยใช้

3. Etude house my castle
ครีมทามือรูปบ้านน่ารักๆ เคยเห็นคุณส้มรีวิวไว้เลยอยากได้บ้าง มี่เลือกมาสองกลิ่นค่ะ เป็นกลิ่นกุหลาบ กับ คุกกี้ เพราะชอบกลิ่นแนวๆประเภทนี้อยู่

new 2

ซื้อมาเพราะแพคเกจน่ารัก เท่านั้นเลยจริงๆ – -*

แต่ยังไม่ได้ลองใช้นะคะ รอ It’s Skin Cookie and Hand cream หมดก่อน

4. มาสก์ลอกเท้าจาก Nature republic

อันนี้เห็นรีวิวในพันทิป เลยอยากลองมั่ง แต่จนวันนี้ยังไม่กล้าลองเลยค่ะ กลัว

5. มาสก์บำรุงเท้าจาก Innisfree

กะว่าหลังจากเท้าลอก จะเอาอันนี้มาบำรุงต่อ

6. ลิปมัน I want chu จาก Holika Holika

อันนี้ซื้อมาด้วยความน่ารักกุ๊บกิ๊บ คือ คอนเซปท์ของนางจะประมาณว่า ให้ผู้ชายทากลิ่นหนึ่ง ผู้หญิงทาอีกกลิ่นนึง ละเวลาจุ๊บกัน จะได้เป็นรสชาดใหม่ๆ ค่ะ

ซื้อมาไปอย่างนั้นหละ ด้วยความน่ารัก ไอเดียบรรเจิดของมัน จริงๆมี่ยังไม่มีคู่ค่าา 55555

7. แผ่นลอกสิวเสี้ยน Pig nose ของ Holika Holika

ตัวนี้เคยไปหิ้วมาเองจากเกาหลี อันนี้ด้วยความชอบกลิ่นล้วนๆเลยค่ะ ประสิทธิภาพยังสู้บีโอเร สูตรสีดำไม่ได้ แต่ก็น่าจะดีที่สุดในบรรดาพอร์แพคของเกาหลีละค่ะ

จบกลุ่มพรีออร์เดอร์ ต่อไปเป็นสินค้าลดราคาในร้าน Karmarts บ้างค่ะ

new 3

เห็นนางติดป้ายหน้าร้านใหญ่โตว่าลดราคาปีใหม่ ทำไงได้ อำนาจต้านทานการลดราคาของหญิงต่ำมากกกกกกกกกกกกกกก

สุดท้ายก็เข้าไปค่ะ

ได้เจ้า No.1 Frink มาสองตัว ตัวแรกเป็น Essence คล้ายๆน้ำป้าเจี๊ยบกับ Tony moly เลยค่ะ ลดแล้วเหลือ 270 นิดๆมั้งคะ ไม่ได้เก็บใบเสร็จไว้

อีกตัวเป็น All day ampoule เหลืออยู่ 220 นิดๆมั้งคะ ตัวนี้ใช้ได้เกือบอาทิตย์ละค่ะ รู้สึกอะไรมั้ย ยังไม่รู้สึกนะ – -*

คงเพราะช่วงนี้หน้าหนาว หน้าฉันแห้งแตกลอกแดงมากมาย

แต่ก็ยังใช้กันต่อไปค่ะ

สุดท้ายก็ไปซื้อของ It’s Skin ค่ะ ตอนนาง Sale ยกร้าน 50%

ละนางแถมเซตหอยทากชื่อดังระดับโลกให้มาลอง

new 10

ตอนนี้กำลังเริ่มใช้ค่ะ แล้วจะเขียนรีวิวมาอีกทีนึงค่ะ

[Beauty Talks]~My Sunscreen evolution diary

[Beauty Talks]~My Sunscreen evolution diary

วันนี้เอา Diary sunscreen มาแชร์ให้ฟังค่ะ

evol-re

ถ้าพูดถึงกันแดดแล้ว ก็มีอยู่ตัวนึง ที่มีติดมาก รักมาก และใช้ไปเยอะมาก (น่าจะเกิน 10 ขวด)

นั่นก็คือ DHC Suncut Q10 light touch ของประเทศญี่ปุ่นค่ะ

ย้อนอดีตไปเมื่อราวๆ 10 ปีก่อน DHC มาตั้งเคาน์เตอร์ในไทย ด้วยเบอร์โทรที่จำง่าย 02-3536-333 (ทุกวันนี้ยังจำได้อยู่เลย)

ก็ได้ไปลองใช้กันแดด Suncut ของเค้า และก็ติดงอมแงมค่ะ แม้ว่าสมัยนั้นจะยังดูส่วนผสมไม่ค่อยเป็นก็เถอะนะ (ยังเรียนปี 3-4 อยู่เลยมั้งคะ)

แล้วทีนี้นางก็เลิกจำหน่ายในไทย

แต่ก่อนนางจะอำลาไทยแลนด์ นางทิ้ง Sayonara sale ไว้ให้ แบบชนิดที่ว่า ลดถล่มทลาย คนลู่กันซื้อ มี่เองก็ตุนไว้เยอะมาก ชนิดที่ว่าพอใช้กันอีก เกือบ 3 ปีเลยทีเดียว

หลังจากนั้นก็ได้ไปโอซาก้า ก็ไปถอยมากับมือตัวเองคะ เป็น Limited edition รุ่นมินนี่เมาส์

ถอยมา 3 ขวด

แล้วหลังจากนั้นก็ฝากเพื่อน ฝากพี่ ฝากน้องที่ไปญี่ปุ่นหิ้วมาให้อยู่หลายครั้ง

และก็เริ่มลองตัวเบสทินท์ ก็โอเคนะ แต่หนักหน้าไปหน่อย ดีค่ะที่มีแค่ขวดเดียว

ตอนนี้ที่ญี่ปุ่นนางเปลี่ยนแพคเกจแล้วค่ะ คาดว่าคงปรับสูตรด้วย

จนกระทั่งได้มาพบกับ Solanoveil ค่ะ

ติดหนึบเลย สีเนื้อ แห้งๆ แมทท์ๆ เหมือนทาเบสไปในตัว

ต่อมาก็ไปเที่ยวเกาหลี เลยไปถอย Tony moly กับ Nature republic มาอีกอย่างละชิ้นสองชิ้น (เพราะมันมีโปร 1+1 กับ โปรลด 50% พอดี คือถ้ามันไม่โปรก็คง Solanoveil ต่อไปค่ะ)

แต่ยังไม่ได้ลองใช้นะคะ รอ Solanoveil หมด จะใช้เป็น Next item ค่ะ

ถ้ามีโอกาสจะเอาส่วนผสมมาวิเคราะห์ให้ชมนะคะ

สำหรับ Solanoveil เคยเขียนแล้ว ติดตามที่ได้ที่ลิงค์ข้างล่างนี้เลยค่ะ

[Review]~Nature Republic Cotton Fresh Deodorant Spray

[Review]~Nature Republic Cotton Fresh Deodorant Spray

วันนี้จะมารีวิวสเปรย์ระงับกลิ่นสูตรน้ำจาก Nature republic นะคะ

nr 1

เค้า Claim ว่าเค้าใช้ Cotton จากอียิปต์ค่ะ เพื่อให้วงแขนเรียบเนียนสวย

จริงๆไปเกาหลีตั้งแต่เดือน มิย แล้ว แต่พึ่งได้ฤกษ์เอามาใช้

ตอนนั้นที่ซื้อไม่ได้อะไรหรอกค่ะ แค่มันมีโปร 1+1 (ซื้อ 1 แถม 1) ก็เลยซื้อมา

แล้วเห็นว่าแถมไม่มีกำหนดด้วยค่ะ


(From: Naturerepublic.com)

ข้างในนางจะเป็นสเปรย์สูตรน้ำค่ะ ค่อนข้างแห้งไว

cotton 3-edit

พอยท์มันอยู่ตรงความใส่ใจในรายละเอียดของผู้ผลิตค่ะ

เค้าเจาะรูที่ฝาไว้ด้วย เพื่อให้ละอองของเหลวที่ติดปากสเปรย์ ระเหยออกมาได้ ไม่อบอวล ไม่ทิ้งคราบในนั้นค่ะ

ซึ่งเป็นอะไรที่ นวัตกรรมมาก และบ้านเราไม่มีค่ะ (หรือมีแต่มี่ไม่รู้ – -*)

ทำไมถึงควรเลือกสเปรย์สูตรน้ำหรอคะ?

เพราะว่า สูตรน้ำจะไม่มีผงแป้ง ที่จะไปเกาะติดเสื้อผ้าละเห็นเป็นคราบขาวที่วงแขนค่ะ

(ส่วนจะเหลืองมั้ย นี่ยังไม่แน่ใจนะคะ พอดีว่าที่ข้างกล่องไม่มีส่วนผสมมาให้ ถ้ามี Aluminium chlorhydrate ก็จะทำให้ผ้าเหลืองได้ค่ะ)

สรุปคือ

กลิ่น 5/5 (กลิ่นที่ชอบพอดี)
ความแห้งไว 5/5
ระงับเหงื่อ 4/5
ดับกลิ่นตัว 4/5

จริงๆ Product Line นี้นางมีหลายตัวนะคะ ตัวที่น่าสนใจอีกสองตัวคือ

เจลล้างจุ๊กกุแร๊ กับ ไวท์เทนนิ่งครีมสำหรับจุ๊กกุแร๊ค่ะ

NM7156-กระ
(From: Naturerepublic.com)

นับว่าเป็นนวัตกรรมอีกเช่นกันค่ะ

จริงๆเคยเห็นสครับด้วยนะ แต่ไม่รู้ว่าคงเลิกผลิตไปแล้วหรือเปล่าตอนนี้ไม่เห็นค่ะ

First time Beauty shopping in Korea~ June, 2014

First time Beauty shopping in Korea~ June, 2014

จะว่าก็ว่าเถอะ เกาหลีเป็นสวรรค์แห่งเครื่องสำอางเลยก็ว่าได้ค่ะ ด้วยนวัตกรรมใหม่ๆ รูปแบบผลิตภัณฑ์แปลกๆ สารใหม่ๆ นี่ต้องมาจากเกาหลีเป็นส่วนใหญ่

เมื่อเดือน มิย ที่ผ่านมา มี่ก็ได้ไปเที่ยวเกาหลีมาค่ะ กลับมากระเป๋าเบาเชียวค่ะ เห็นอะไรๆก็อยากได้หมด นี่เสียดายว่าไม่มีแรงขนมา ไม่งั้นคงได้มามากกว่านี้เยอะค่ะ

ประเดิมเลยดีกว่าค่ะ เดี๋ยวตอนท้ายๆจะบอกทริคเล็กๆน้อยๆให้นะคะ 😉

ย่านแรก มยองดง (Myeong-dong)

มีสารพัดร้านเครื่องสำอาง เรียกได้ว่า มีครบทุกแบรนด์เลยมั้ง แต่ราคาอาจจะสูงกว่าบางตลาดนะคะ

Innisfree นี่เป็นแบรนด์ในดวงใจเลยค่ะ
IMG_1485-re

Primera นี่เป็น High brand ค่ะ แต่มี่ไม่ได้ซื้ออะไรมานะคะ
IMG_1486-re

Skin foods ค่ะ ไม่ได้ซื้ออะไรมาเหมือนกัน
IMG_1490-re

ร้านโซนนี้นี่ใช้เวลากับมันนานมากๆค่ะ
IMG_1492-edit

ลาเนจ ก็ไม่ได้ซื้ออะไรมาเหมือนกัน -*-
IMG_1499-re

espoir นี่เค้าว่ากันว่าเป็นผู้นำเทรนด์เมคอัพ แต่มี่ก็ไม่ได้ซื้ออะไรมาเช่นกันค่ะ
IMG_1503-re

Mamonde นี่หมดเงินไปกับ Rose water เลยค่ะ คือเป็นคนบ้ากุหลาบมากๆ
IMG_1504-re

ส่วนอีกย่านเป็นย่านอินซาดงค่ะ ย่านนี้ลดราคากระหน่ำกว่าย่านมยองดงมากๆ ลดแหลกแจกแถมแบบฟินมาก ค่ะ

จุดเด่นของที่นี่คือ ป้ายร้านจะเป็นตัวฮันกึล ค่ะ

insadong

ส่วนย่านที่ไปอีกก็จะมี ทงแดมุน กับ นัมแดมุน ซึ่งของที่นี่ก็ถูกกว่าย่านมยองดงค่ะ

ถ้าไม่รีบ แนะนำว่าให้ไปดูย่านอื่นๆก่อนค่อยกลับมาหาของที่ไม่ได้จากมยองดงนะคะ

อันนี้เป็นความเสียหายค่ะ ใช้ได้ยาวจนแก่ 555

IMG_2370-re

จริงๆบางส่วนก็ส่งต่อให้เด็กๆกับญาติๆกับเพื่อนๆแล้วนะคะ ทุกวันนี้ก็ยังพรีออร์เดอร์อยู่ จะใช้กันทันไหม !!!

[Beauty Talks] My Special skincare

[Beauty Talks] My Special skincare

ปกติเราน่าจะแบ่งการดูแลผิวออกเป็น 2 แบบ (มั้งคะ ตามคหสต.)

คือ 1. Routine care คือ การดูแลทุกๆวัน เช้า-เย็น กับ 2. Special care คือ การดูแลพิเศษ นานๆที แบบเข้มข้น (ว่างั้น)

วันนี้เอา Special care ของมี่มาแชร์ให้ชมกันค่ะ

10592817_10202726347900009_5645098694820530694_n

เรียกจากซ้ายไปขวาเลยนะคะ

1. Hair Removal Cream จาก Miniso

เป็นครีมสำหรับกำจัดขน (ตัวต้นแบบในบ้านเราน่าจะ Opilca ค่ะ) ซื้อมาใช้แทนของบูทส์ ที่ขาดตลาดไปนานมาก จริงๆติดของบูทส์มากกว่าค่ะ

ช่วงแรกๆเราใช้ ขนก็จะขึ้นถี่เหมือนเราโกนค่ะ แต่พอใช้ไปๆ ขนก็จะนุ่มขึ้น และขึ้นช้าลงค่ะ ตอนนี้ใช้เดือนละครั้ง เผลอๆก็ 6 อาทิตย์ครั้งค่ะ

แต่เนื่องจากส่วนผสมเป็นด่างกับ Thioglycolate จึงควรทดสอบการแพ้และการระคายเคืองก่อนใช้นะคะ

2. Play therapy soft clay pack จาก Etude

เป็นมาสค์โคลน ที่เหมาะกับคนผิวมันค่ะ จริงๆมี่ผิวแห้ง แต่เอามาใช้นานๆที เดือนละครั้งถึงสองครั้ง โดยมีความเชื่อว่า Clay จะช่วยดูดซับสารพิษที่ตกค้างในผิวได้

ตัวนี้จะเย็นๆ หอมมินท์ ให้ความรู้สึกสดชื่นดีค่ะ

แต่คนผิวแห้ง ใช้แล้วยิ่งแห้งขึ้นไปอีก แต่รู้สึกว่าสะอาดผิวดี

3. Black head clear oil gel จาก It’s Skin

เป็น Lipogel (ตามคหสต.) ที่มาพร้อมกับหัวแปรงเป็นขนๆเล็กๆ เป็นยางนุ่มๆ เอามาถูวนๆตรงจมูกและคางเพื่อกำจัดสิวเสี้ยน ส่วนตัวมี่ใช้อาทิตย์ละ 1-2 ครั้งค่ะ

เข้าใจว่าผลิตภัณฑ์ลักษณะนี้แบรนด์ที่ทำมาแบรนด์แรกคือของ Laneige นะคะ แต่ยังไม่เคยใช้ของ Laneige มาใช้ของอันนี้ก่อน ไปเกาหลีเจอโปรขายคู่ PO effector ราคาพิเศษพอดีค่ะ

4. Soothing & Moisture Aloe vera 92% จาก Nature republic

ตัวนี้พึ่งเขียนรีวิวแบบละเอียดใน Cosme-Diagnosis ค่ะ

เป็นเจลใสๆ กลิ่นหอมๆคล้ายแตงกวา เอาสำลีมาจุ่ม ละเอามาแปะบนหน้าแทนมาสค์ เย็นชุ่มฉ่ำ ฟินเว่อร์ค่ะ

ติดตามได้ที่ลิงค์นี้เลยค่ะ