Image

Miyeon’s Lab — รีวิว/Screening หา สารกลุ่ม Polyphenol ในสกินแคร์ และ homemade beauty

สวัสดีค่ะพี่ๆน้องๆเพื่อนๆห้องแป้งที่น่ารักทุกๆท่าน

วันนี้มี่มาลองตรวจหา Polyphenol ในสกินแคร์ที่มี่ใช้เป็นประจำทุกวันให้ชมกันค่ะ

Polyphenol คือ อะไร ??

Polyphenol เป็นสารพฤกษเคมีในพืช กลุ่มใหญ่ กลุ่มหนึ่ง ทีประกอบด้วยโครงสร้างที่มีหมู่ฟังก์ชั่น ฟีนอล และ -OH อยู่หลายๆตัว ซึ่งสารกลุ่มนี้มีคุณสมบัติที่ดีในเชิงเครื่องสำอางมากมายค่ะ ไม่ว่าจะเป็น Antioxidant, ลดการอักเสบ, Whitening และกลุ่มสาร Polyphenol ที่น่าสนใจตัวหนึ่ง คือ Tannin ซึ่งมีรสฝาด ให้ผลกระชับรูขุมขน ควบคุมความมัน และ มีผลฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ได้บางชนิดค่ะ

การตรวจ Polyphenol ง่ายๆ

จะใช้วิธี Ferric chloride reagent ค่ะ หยดลงไปแล้วสังเกตการเปลี่ยนสี จากสีเหลือง เป็น เขียว น้ำเงิน ม่วง ดำ น้ำตาล หรือ แดง ซึ่งสีที่เกิดขึ้นจะสอดคล้องกับชนิดของ Polyphenol ที่พืชมีค่ะ ถ้าเป็น Tannin มักจะให้สีน้ำเงิน และ เขียว

ซึ่งการตรวจแบบนี้เราเรียกว่า Screening test ซึ่งไม่ได้ถูกต้อง 100% นะคะ แต่ก็มีประโยชน์ในการคัดกรองเบื้องต้นค่ะ

พอดี Ferric chloride ที่ซื้อมา เหลือ เลยลองเอามาตรวจ Skincare เล่นๆค่ะ

ก่อนทำก็ละลาย Ferric chloride ให้ได้ความเข้มข้นที่เหมาะสมก่อนค่ะ

จะได้เป็นสารละลายสีเหลืองน้ำตาลค่ะ

fecl3.jpg
มี่ลองเอา Skincare ที่ใช้เป็นประจำมาตรวจดูค่ะ

fe 1

เยอะเชียว

เราเริ่มกันที่ Madre Labs Rose petal witch hazel toner ค่ะ

fe 2

ตอนแรกคิดว่าจะให้ผลบวกนะคะ เพราะ Witch hazel มี Tannin และ Polyphenol อยู่เยอะ แต่ผลคือ

fe 3

ไม่เกิดปฎิกิริยาค่าาา อาจจะเพราะว่าเจือจางเกินไปก็ได้

ตัวที่สอง Missha near skin black tea toner โทนเนอร์ชาดำของเกาหลีค่ะ

fe 4

ตัวนี้ก็ไม่เกิดปฎิกิริยาค่ะ

fe 5

ตัวที่สาม Skin Talk BHA music toner ลูกรักบ้านมียอนนั่นเองค่ะ

fe 6

ตัวนี้ให้ผลบวกนะคะ ได้เป็นสีม่วงค่ะ

fe 7

ตัวที่สี่ Labstory V10 Revital Whitening Intensive Booster ค่ะ

fe 8

ตัวนี้ดูไม่ค่อยชัด แต่เหมือนจะให้ผลบวกนะคะ ได้เป็นสีน้ำตาลอมเขียว

fe 9

ตัวที่ 5 Hada rizumu น้ำตบ Royal jelly และ Hyaluron ของ Kose cosmeport

fe 10

ตัวนี้คิดไว้แล้วว่าจะไม่เกิดปฏิกิริยา ก็ไม่เกิดจริงค่ะ

fe 11

ตัวที่ 6 Deep sea marine collagen ampoule ของ Mizon ลูกรักเช่นกัน

fe 12

ตัวนี้คิดไว้ว่าคงไม่เกิดปฎิกิริยา ก็ไม่เกิดจริงค่ะ เพราะส่วนผสมนางเป็นพวกคอลลาเจน ซึ่งเป็นโปรตีน

fe 13

ตัวที่ 7 It’s Skin GF effector ลูกรักเช่นกัน

fe 14

ตัวนี้ก็ไม่เกิดปฏิกิริยาค่ะ

fe 15

ลองดูพวก Homemade beauty บ้างนะคะ

สูตรแรก น้ำใบชาจีนต้มค่ะ

fe 16

ไม่เกิดจ้า ทั้งๆที่ควรจะเกิด อาจจะเพราะต้มเจืองจางไป

fe 17

สูตรสอง น้ำใบทับทิมต้มค่ะ

fe 18

ตัวนี้ค่อนข้างชัดค่ะ ว่าเปลี่ยนเป็นสีอมเขียว

fe 19

จบแล้วค่า

ถึงตัวที่ไม่ได้เกิดปฏิกิริยา ก็ไม่ได้แปลว่า จะไม่มีประโยชน์นะคะ เพราะวิธีนี้มันมีข้อจำกัดอยู่เยอะเหมือนกันค่ะ เขาอาจจะมี แต่เจืองจางไปหน่อย เลยไม่ทำปฏิกิริยาก็ได้

ขอบคุณที่รับชมมาจนจบนะคะ

Disclaimer: ผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นซื้อด้วยตัวเอง การรีวิวครั้งนี้เป็นเพียงการคัดกรองเบื้องต้นด้วย Ferric chloride reagent ซึ่งมีข้อจำกัดหลายประการ และการอ่านสีอ่านด้วยตาเปล่า การเตรียมตัวอย่างไม่ได้ใช้เครื่องชั่ง อาจจะมีการคาดเคลื่อน จึงเป็นเพียงแนวทางเท่านั้น

 

[MiYeon Favorites] It’s skin Power 10 formula GF effector

[MiYeon Favorites] It’s skin Power 10 formula GF effector

หลังจากอัพรวมลูกรักไป 3 ตอนก็หายสาปสูญไปพักใหญ่ๆเลย วันนี้เลยเอาตอนที่ 4 มาฝากค่ะ ผลิตภัณฑ์ลูกรักชิ้นที่ 4 ของมี่ก็คือ Power 10 formula GF effector ของ It’s Skin ค่ะ

ดูจากขวดเปล่าก็คงการันตีได้ว่า รักและลงหลักปักฐานมานานขนาดไหน ทุกวันนี้ขึ้นขวดที่ 6 แล้วค่ะ ขวดนึงใช้ได้ประมาณ 2 เดือนค่ะ

IMG_0272-re

ผลิตภัณฑ์ Line นี้มีหลายๆท่านสอบถามเข้ามาเหมือนกันค่ะ ว่าแล้วต้องเมาท์ซักหน่อย อาจจะเมาท์เรื่องนี้หลายรอบแล้ว อย่าพึ่งเบื่อนะคะ = =

ในสมัยแรกสุดแอดมินนั้นติดของญี่ปุ่นค่ะ แต่แล้วนางก็เลิกจำหน่ายในไทย พอของที่เราตุนไว้ใกล้หมด แอดมินก็เลยลองสอดส่องสินค้าพรีออร์เดอร์เกาหลี และได้มาเจอกับผลิตภัณฑ์ Line นี้ คือ มันถูกมาก สมัยนั้น 9800 วอน ก็ไม่ถึง 300 บาท ก็เลยไปลองหา Spot โฆษณาตามเวบต่างๆ ไปเจอรายการ Beauty ซักอย่างของเกาหลีเขาเอา YE effector มาเทียบกับซีรัมชื่อดังของแบรนด์ L กับ EL แล้วแบบว่า เฮ้ย อี YE นี่มันดีอะ ก็เลยอยากลอง

จากนั้นก็พรีออร์เดอร์มาใช้ค่ะ (สมัยนั้นแบรนด์นี้ยังไม่ดังในไทยค่ะ) พอได้มาก็แบบว่า เอ้อ ดีอะ ใช้แค่ 3 วัน หน้านุ่มขึ้นเยอะมาก ก็ใช้ YE มาตลอด จนมาวันหนึ่ง ขนขึ่้น – -* ก็เลยคิดไปคิดมา เออ ยีสต์มีวิตามินบีเยอะ ทำให้ขนขึ้นได้ ก็เลยตัดสินใจเปลี่ยน ตัวที่เลือกคือ GF effector ค่ะ เพราะว่าส่วนผสมค่อนข้างคล้ายกัน เลยลองใช้ดู หน้าก็นุ่มดีค่ะ แต่ไม่ฟินเหมือน YE แต่ก็ต้องเลือก เพราะ GF ขนไม่ขึ้น

สุดท้ายก็ใช้ GF มายาวๆ ตอนไปเที่ยวเจจูก็ไปเจอมา ตอนนั้นราคา 12000 วอน ตอนแรกก็นึกว่าของบนเกาะเจจูแพงกว่าโซล แต่จริงๆแล้วมันขึ้นราคา ถึงจะขึ้นราคาก็ยังไม่เลิกนะคะ

ก่อนจะไปดูส่วนผสมมาดูเนื้อของซีรัมกันก่อนดีกว่าค่ะ

IMG_0273-re

ของเขาจะเป็นขวดแบบมีหลอดหยด ตัวซีรัมเป็นเนื้อใสๆ มีเม็ดบีดส์สีฟ้าอ่อนๆกระจายอยู่ค่ะ แต่ส่วนมากตอนดูดมาใช้ จะไม่ค่อยได้เม็ดบีดส์มามากนัก

IMG_0274-re

พอเกลี่ย จะเกลี่ยง่ายและแฉะๆ หน่อยนะคะ ซึมผิวปานกลาง เย็นและชุ่มชื้นดี ตอนซึมหมดจะเหมือนมีแผ่นฟิล์มหนึบๆเคลือบผิวไว้ให้อิ่มน้ำค่ะ

IMG_0275-re

มาทั้งทีก็ต้องรีวิวส่วนผสมซักหน่อย

สผส GF

จากส่วนผสมจะเห็นว่าเน้นไปที่การเติมน้ำให้ผิวค่ะ

ตัวหลักๆที่อยากกล่าวถึง คือ Grifola frondosa mycelium ferment filtrate สารตัวนี้เป็นของเหลวที่กรองออกมาจากการหมักเห็ด Maitake ปกติเห็ดตัวนี้มีประโยชน์ปรับภูมิคุ้มกัน มีรายงานวิจัยกล่าวว่าในส่วนของ Mycelium มีสารในกลุ่ม Polysaccharide ที่สามารถกระตุ้นให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานได้ดีขึ้น (J Agric Food Chem. 2006;54(8):2906-14.) สารตัวนี้ทาง INCI จัดเป็น Antioxidant กับ Humectant (เพิ่มความชุ่มชื้น)

Polyglutamic acid โพลิเมอร์ที่เกิดจากกรดอะมิโน Glutamic acid พบได้ใน Natto ซึ่งเป็นสิ่งที่จุลินทรีย์บางชนิดสร้างระหว่างกระบวนการหมัก ในทางเภสัชกรรมมีประโยชน์ในการเป็นระบบนำส่ง ส่วนในทางเครื่องสำอางผู้ผลิตวัตถุดิบ Claim ว่าสามารถดูดและจับน้ำได้มากถึง 5000 เท่าของน้ำหนักตัวมัน และมีรายงานการวิจัยอีกฉบับกล่าวว่า Polyglutamic acid ที่มีขนาดโมเลกุลใหญ่สามารถกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันได้ (Chem Biodivers. 2010; 7(6):1555-62.) น่าจะมีส่วนช่วยให้ระบบผิวหนังแข็งแรงขึ้น

และ Sodium PCA กับ Urea เป็นสารดูดน้ำชนิดเดียวกับสารที่เป็น Natural mousturizing factor ในผิว พวกนี้มีขนาดเล็กจะดูดซึมเข้าผิวและช่วยอุ้มน้ำได้

ถ้าให้คะแนนส่วนผสมก็ขอให้ 5/5 ค่ะ เพราะไม่มีตัวไหนที่มีผลเสียกับผิว และ นอกจากผลในการเติมน้ำให้ผิวยังช่วยให้ผิวแข็งแรงได้ด้วย

ตอนนี้ที่เกาหลีขึ้นราคาแล้วนะคะจาก 9800 วอน เป็น 12000 วอน (ประมาณ 360 บาท) แล้วก็มีขนาดใหญ่ 60 ml ออกมาขายแล้วด้วยค่ะ

ไปเกาหลี (เกาะเจจู) ตอน เมษา มี่หอบมา 4 ขวด ตอนนี้เหลือแค่ไม่ถึง 2 ขวดค่ะ = =

Disclaimer/Conflict of interests: ผลิตภัณฑ์นี้ซื้อด้วยตัวเองค่ะ (Consumer reviewed)

MiYeon’s Shopping in Jeju, April 2015

MiYeon’s Shopping in Jeju, April 2015

Hi guys, this is my first English topic, please feel free to have comments or chats or etc.

On last April, I went to Jeju, South Korea with Thai tour company with very low cost (around 12900 THB for plane, hotels and some foods)

I am Korean Cosmetics-addicted, and always find the way to purchase them into Thailand.

I like to try everything that is Korean, so my daily routine is almost done bt Korean cosmetics.

Well, its time to see my shopping bags!!!

But before shopping bags, before going to Korea I have to check the price and products that will include in my wishlists, and here is my wishlists.

shopping list

Then, we have arrived !!, at Jeju airport

jeju

Tah dah!! here is my shoppings

IMG_2543-re

Wah Quite a lot, right??

In Jeju, the most frequent shop I found is Nature republic, which can be found in almost every place that tour guide to.

IMG_2361-re

Lucky!!, they are on sale !!!!

And these are my purchased.

IMG_2532-re

All of Nature Republic’s products are great and skin friendly.

I love the cactus gel and bamboo mist very much (which will be further reviewed in the next occasion).

The next brand is It’s Skin, It’s Skin is one of my fav’ and the product that I do love most is GF effector. This time I purchased four bottles, for one year.

IMG_2528-re

Woohoo!! See you again next year, Korea.

And the next brand is Innisfree, lucky I have some times and went to Innisfree Jeju House, which is the perfect place that I enjoyed most.

11173325_10204071639651462_5295637980083187181_n IMG_1853-re

These are my purchased,

IMG_2535-re

Sparkling mineral is the new line that launched in April, I think.

But I did not tried it yet, so when I tried it I will make a review.

For Etude House, I purchased Magic any cushion, which is my fav’ and some mask sheets for trying

IMG_2530-re

About magic any cushion, I used peach color.

And the next brand is Beyond. Beyond is one of my interesting since I went to Korea on June, 2014.

Their products are quite great, however there are few line that used alcohol, which may not suits some individuals, and this are my purchased.

IMG_2531-re

On that time I went, their mask sheet is on promotion, 10+10 (Buy 10 get 10 free).

And the next brand is Tony Moly, I used their Galactomyces water before. This time I went for their Goat milk toner, which is newly launched.

IMG_2537-re

Their mascara is also great!!!!!

The next brand is Hanyul, this time I go for their rice skin softener

IMG_2538-re

And the next brand is Mamonde, I love their concepts, I love flower, esp. roses.

This is my purchased,

IMG_2539-re

And the last one is the saem, another eco-friendly brand.

IMG_2540-re

their wrapping tints are great, look like natural lips.

Well That’s all

See you again in my next blog post

love you

xoxo

[Beauty Talks] Toner Myths Part 2

[Beauty Talks] Toner Myths Part 2

วันนี้เอาโทนเนอร์ในท้องตลาดมาวิเคราะห์แบบสรุปๆ เป็นกรณีศึกษาเพื่อนำไปใช้ประยุกต์เลือกโทนเนอร์ที่เหมาะสมกับผิวเราค่ะ

 

โฉมหน้าของ Case ในวันนี้ มีดังนี้ค่ะ

toner รวมดาว

 

 

เรียงจากซ้ายไปขวานะคะ

1. Toner กระชับรูขุมขนจากแบรนด์ T

2. Toner Ceramide จากแบรนด์ H

3. Toner ลดริ้วรอยจากแบรนด์ S

4. Peeling toner จากแบรนด์ I

5. Moisture toner จากแบรนด์ P

 

มาดูทีละตัวเลยนะคะ

โทนเนอร์ตัวที่ 1: โทนเนอร์กระชับรูขุมขนจากแบรนด์ T สูตร Original

thayer

ส่วนผสม

Purified Water, SD Alcohol 40-B (Natural Grain) 10%, Aloe Barbadensis Leaf Juice (Certified Organic Filet of Aloe Vera), Hamamelis Virgiana Extract (made from Certified Organic Witch Hazel), Glycerin (Vegetable), Fragrance (Natural Witch Hazel), Citrus Grandis (Grapefruit) Seed Extract, Citric Acid

 

บางที่เค้าจะล่อลวงเราด้วยคำว่า Organic, Natural แต่ความจริงก็ไม่ใช่ว่า ของที่มันไม่ Organic มันจะเป็นอันตรายกับผิวไปเสมอ ดูไปดูมาพวกสารที่ไม่ใช่ Organic มีคุณสมบัติบำรุงผิวดีกว่า มีสัมผัสสวยกว่าอีก

 

โทนเนอร์สูตรนี้มีสารสกัดจาก Witch hazel กับ ว่านหางจรเข้ ซึ่งดูเผินๆก็เหมือนจะดี ให้ผลกระชับรูขุมขน พร้อมกับเติมน้ำให้ผิวในเวลาเดียวกัน มาติดตรงส่วนประกอบของ Alcohol ซึ่งถ้าใครมีผิวมันได้ใช้คงโอเค เพราะ Alcohol จะช่วยชะเอาไขมันที่อุดตันในรูขุมขนออกมาข้างนอก ช่วยให้ผิวเรานุ่มสบายขึ้นด้วย แต่ถ้าใครผิวแห้ง มาเช็ดบ่อยๆก็คงไม่น่าจะเหมาะสมเท่าไหร่

 

โทนเนอร์ตัวที่ 2: โทนเนอร์ Ceramide จากกแบรนด์ H

holika

ส่วนผสม:

water, butylene, glycol, betaine, glycerin, glyceryl acrylate/acrylic acid copolymer, propylene glycol, dimethicone, dimethicone/vinyl dimethicone crosspolymer, peg-20 sorbitan cocoate, gylcosyl trehalose, hydrogenated starch hydroylsate, diphenylsiloxy phenyltrimethicone, triethylhexanoin, polyglyceryl-10 myristate, polyouaternium-51, glyceryl polymethacrylate, aleuritic acid, yeast extract, glycoproteins, dipotassium glycyrrhizinate, panthenol, cetearyl alcohol, gylceryl stearate, stearic acid, ethylhexyl isononanoate, phytosteryl/isostearyl/cetyl/stearyl/behenyl dimer dilinoleate, cetearyl glucoside, hydroxypropyl bispalmitamide mea, glycine soja (soybean) sterols, meadowfoam estolide, ceramide 3, hydrogenated polydecene, butyrospermum parkii (shea) butter, ceteareth-20, glyceryl citrate/lactate/linoleate/oleate, glycosphingolipids, ceramide 6 ii, eruca sativa leaf extract, sodium hyaluronate, xanthan gum, acrylates/c10-30 alkyl acrylate crosspolymer, peg-60 hydrogenated castor oil, caramel, disodium edta, tromethamine, citrus aurantium, bergamia (bergamot) fruit oil, fragrance, phenoxyethanol, caprylhydroxamic acid, caprylyl glycol

 

จากส่วนผสมนี้จะเห็นได้ว่า มีน้ำมันอยู่เป็นองค์ประกอบด้วย ซึ่งก็เป็นน้ำมันพืชดีๆ หลายชนิด รวมไปถึง Ceramides ซึ่งให้ผลทดแทนไขมันในผิว เสริมสร้าง Barrier function มีสารลดการระคายเคือง ลดการอักเสบในผิวด้วย ส่วนผสมที่มีน้ำมันน่าจะเหมาะกับคนที่มีผิวแห้งมากกว่า แต่ถ้าเป็นคนที่มีผิวมันมากๆ การมาใช้อันนี้ทุกวันๆ ก็น่าจะไม่ได้ตอบโจทย์อะไร

 

โทนเนอร์ตัวที่ 3: โทนเนอร์ลดริ้วรอยจากแบรนด์ S

 

sulwashoo

ส่วนผสม:

PINUS SYLVESTRIS BARK EXTRACT, ARTEMISIA VULGARIS EXTRACT, ANGELICA ACUTILOBA ROOT EXTRACT, CNIDIUM OFFICINALE ROOT EXTRACT, BUTYLENE GLYCOL, DICAPRYLYL CARBONATE, CETEARETH-12, CETYL ETHYLHEXANOATE, GLYCERYL STEARATE, CAMELLIA SINENSIS LEAF EXTRACT, PAEONIA ALBIFLORA ROOT EXTRACT, NELUMBO NUCIFERA SEED EXTRACT, POLYGONATUM OFFICINALE RHIZOME/ROOT EXTRACT, LILIUM TIGRINUM FLOWER/LEAF/STEM EXTRACT, REHMANNIA GLUTINOSA ROOT EXTRACT, CHRYSANTHEMUM MORIFOLIUM FLOWER EXTRACT, PAEONIA SUFFRUTICOSA ROOT EXTRACT, CITRUS UNSHIU PEEL EXTRACT, ADENOPHORA STRICTA ROOT EXTRACT, LYCIUM CHINENSE ROOT EXTRACT, COIX LACRYMA-JOBI MA-YUEN SEED EXTRACT, ANGELICA TENUISSIMA ROOT EXTRACT, HONEY, HYDROLYZED GINSENG SAPONINS (ENZYME-TREATED RED GINSENG SAPONINS), PINUS SYLVESTRIS LEAF EXTRACT, GLYCYRRHIZA URALENSIS (LICORICE) ROOT EXTRACT, OPHIOPOGON JAPONICUS ROOT EXTRACT, PANAX GINSENG ROOT EXTRACT, OLDENLANDIA DIFFUSA EXTRACT, PRUNUS MUME FRUIT EXTRACT, ROSA MULTIFLORA FRUIT EXTRACT, CHAENOMELES SINENSIS FRUIT EXTRACT, PINUS KORAIENSIS SEED EXTRACT, SESAMUM INDICUM (SESAME) SEED EXTRACT, PERILLA OCYMOIDES SEED EXTRACT, BETA-GLUCAN, LIMNANTHES ALBA (MEADOWFOAM) SEED OIL, CETEARETH-20, DIMETHICONE, WATER, CETEARYL ALCOHOL, CETYL PALMITATE, TOCOPHERYL ACETATE, METHOXY PEG-114/POLYEPSILON CAPROLACTONE, GLYCERIN, PROPANEDIOL, POTASSIUM CARBOMER, DISODIUM EDTA, PHENOXYETHANOL, FRAGRANCE

 

จากส่วนผสมจะเห็นว่าเต็มไปด้วยสารสกัดพืชหลายๆชนิด ซึ่งเป็น Signature ของแบรนด์นี้เลย ในส่วนผสมมีสารดูดน้ำดีๆหลายตัว แต่ก็มีน้ำมันปนมาด้วยเหมือนกัน ดังนั้นถ้าใครที่ผิวแห้ง หรือผิวธรรมดามาใช้ ก็น่าจะตอบโจทย์ แต่ถ้าคนที่ผิวมันมากๆมาใช้ก็อาจจะเหนอะหนะและหนักผิวเกินไป

 

โทนเนอร์ตัวที่ 4: Peeling toner จากแบรนด์ I

itsskin

 

ส่วนผสม:

WATER, ALCOHOL DENAT., HAMAMELIS VIRGINIANA (WITCH HAZEL) WATER, GLYCERETH-26, PORTULACA OLERACEA EXTRACT, LACTOBACILLUS FERMENT, SACCHAROMYCES FERMENT FILTRATE, METHYLPARABEN, SALIX NIGRA (WILLOW) BARK EXTRACT, FRAGRANCE, PEG-40 HYDROGENATED CASTOR OIL, PPG-26-BUTETH-26, TRISODIUM PHOSPHATE, POTASSIUM PHOSPHATE, BENZOPHENONE-4, SALICYLIC ACID, DISODIUM EDTA

 

จากส่วนผสม ก็จะมี Witch hazel ช่วยกระชับรูขุมขน สารสกัด Portulaca กับยีสต์ Saccharomyces Ferment filtrate ช่วยเรื่องความชุ่มชื้น และให้ความรู้สึกสบายผิว ส่วน Peeling ที่ว่า มาจาก สารสกัดจาก Willow bark ซึ่งมี Salicylic acid ตามธรรมชาติ กับ Salicylic acid ที่ใส่เพิ่มมา และ Lactobacilus ferment ซึ่งให้ Lactic acid เป็นองค์ประกอบหลัก แต่การออกฤทธิ์ของพวกนี้ขึ้นกับค่า pH ด้วย ถ้า pH อยู่ที่ราวๆ 4 สูตรนี้คงไม่เหมาะแน่ๆ ถ้าจะเอามาใช้ทุกวัน แต่ถ้าเอามาใช้อาทิตย์ละ 1 – 2 ครั้งน่าจะโอเคอยู่ แต่ว่ามี Alcohol ซึ่งบางคนอาจจะทนไม่ไหวก็ได้

 

โทนเนอร์ตัวที่ 5: Moisturizer toner จากแบรนด์ P

 

พอลล่า

ส่วนผสม

Water, Glycerin, Superoxide Dismutase, Camellia Sinensis (Green Tea) Leaf Extract, Epilobium Angustifolium (Willow Herb) Extract, Vitis Vinifera (Grape) Seed Extract, Sodium PCA, Creatine, Lecithin, Phospholipids, Linoleic Acid, Sodium PEG-7 Olive Oil Carboxylate, Magnesium Ascorbyl Phosphate, Tocopheryl Acetate, Butylene Glycol, Panthenol, Allantoin, Polysorbate-20, PEG-4, Hydroxyethylcellulose, Phenoxyethanol

 

จากส่วนผสมจะเห็นว่ามีสารสกัดและสารออกฤทธิ์ที่เป็น antioxidant ดีๆอย่าง Superoxide dismutase กับชาเขียว แม้ว่าจะไม่รู้ว่ามันจะออกฤทธิ์ได้จริงหรือเปล่า เพราะมันเป็นกลุ่ม Enzyme ซึ่งความคงตัวค่อนข้างต่ำ สูตรนี้มีน้ำมันด้วย แต่ไม่มากนัก ไม่มีแอลกฮอล์ จึงน่าจะใช้ได้กับทุกสภาพผิว

 

จะเห็นว่า ทุกๆโทนเนอร์ก็มีข้อดีข้อเสียในตัวมันเอง ถ้าเราเลือกประเภทที่เหมาะสมกับผิวเรา เราก็สามารถใช้ได้ แล้วให้ประโยชน์บำรุงผิวด้วยค่ะ

 

แต่ถ้าวันดีคืนดีเราใช้อะไรแล้วรู้สึกหนัก ไม่สบายผิว หรือร้อนๆ วูบวาบ ก็ลองพิจารณาหยุดดีกว่านะคะ อาจจะเป็นสัญญานเตือนว่า ผิวไม่ชอบ ก็ได้

 

สำหรับวันนี้ก็มีแค่นี้ค่ะ ขอบคุณที่ติดตามอ่านมาจนจบค่ะ

[Full Review] It’s Skin Power 10 Formula WR effector

[Full Review] It’s Skin Power 10 Formula WR effector

ถ้าพูดถึงซีรัมกระชับรูขุมขนลดเลือนริ้วรอย ตัวที่มี่ติดมากที่สุดตัวนึงก็คือ WR effector ก็ใช้กันมานานหลายเดือนแล้วค่ะ จริงๆตัวนี้มี่ว่ามันใช้เปลืองมากเลย แป๊บๆ หมด แป๊บๆหมด – -*

WR 1

เป็นซีรัมหนืดๆ ไม่มัน เนื้อใสๆสีเหลืองทองค่ะ

wr 2

wr 3 wr 4

จะเห็นได้ว่าดูดซึมค่อนข้างไว ไม่เหนอะหนะ

แต่จุดด้อยอยู่ที่ว่า น้ำหอมมันแรงมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ก ไก่ 428 ตัว

ดูส่วนผสมกันดีกว่าค่ะ

wr-ingr

ส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์
ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางแทบทุกชนิดจะประกอบด้วยส่วนหลักๆ 3 ส่วน คือ
1. Active (สารออกฤทธิ์) เป็นส่วนที่ทำให้เครื่องสำอางมีคุณสมบัติ/ฤทธิ์ทางชีวภาพ
2. Base คือ เนื้อของผลิตภัณฑ์ บางทีอาจเรียกว่า Vehicle
3. Additive คือ สารที่ช่วยเสริมให้ผลิตภัณฑ์มีคุณสมบัติที่ดี มีความน่าใช้

คุณสมบัติของสารต่างๆ แยกตามหน้าที่
1. Actives ได้แก่
– Polyglutamic acid โพลิเมอร์ที่เกิดจากกรดอะมิโน Glutamic acid พบได้ใน Natto ซึ่งเป็นสิ่งที่จุลินทรีย์บางชนิดสร้างระหว่างกระบวนการหมัก ในทางเภสัชกรรมมีประโยชน์ในการเป็นระบบนำส่ง ส่วนในทางเครื่องสำอางผู้ผลิตวัตถุดิบ Claim ว่าสามารถดูดและจับน้ำได้มากถึง 5000 เท่าของน้ำหนักตัวมัน และมีรายงานการวิจัยอีกฉบับกล่าวว่า Polyglutamic acid ที่มีขนาดโมเลกุลใหญ่สามารถกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันได้ (ChemBiodivers. 2010; 7(6):1555-62.) น่าจะมีส่วนช่วยให้ระบบผิวหนังแข็งแรงขึ้น
– Salicornia herbacea extractสารสกัดจากพืชอวบน้ำชนิดหนึ่ง มีรายงานการวิจัยกล่าวว่ามีฤทธิ์ Antioxidant และ Anti-inflammatory ที่ดี (J Med Food. 2009;12(3):661-8.) สามารถลดการสร้างเมลานินโดยไปยับยั้งเอนไซม์ Tyrosinase (BiosciBiotechnolBiochem. 2009;73(3):552-6.) ข้อมูลจากผู้จำหน่ายวัตถุดิบชี้ว่า เป็น Moisturizer ที่ดีโดยการไปออกฤทธิ์กระตุ้นการทำงานของ Aquaporin ชนิด AQP8 และ AQP3 ทำให้มีการสังเคราะห์สาร NMF ต่างๆ และไขมันในผิวหนังเพิ่มมากขึ้น ออกฤทธิ์ได้ยาวนาน (Hydrasalinolของบ. Codif)
– Viscum album leaf extract สารสกัดจาก Mistletoe ในฐานข้อมูลงานวิจัยพบแต่คุณสมบัติการต้านมะเร็ง ส่วนข้อมูลจากผู้ผลิตวัตถุดิบระบุว่าสารสกัดนี้ให้ผลเป็น Astringent ช่วยกระชับรูขุมขน และให้ความรู้สึกสบายผิว
– Caviar extract สารสกัดจากไข่ปลาคาเวียร์ ซึ่งเป็นไข่จากปลาชนิดหนึ่ง ไม่มีข้อมูลงานวิจัยรองรับ แต่เนื่องจากประกอบด้วยโปรตีนและวิตามินต่างๆจึงให้ผลบำรุงผิวหนัง
– Adenosine สารที่เป็นองค์ประกอบของสารให้พลังงานของเซลล์ที่ชื่อ ATP มีการ Claim ว่าสารนี้จะช่วยประสานการทำงานต่างๆของเซลล์ เพิ่มพลังให้เซลล์ ซึ่งถ้าอิงจากฐานข้อมูลงานวิจัยมีกล่าวถึงผลเกี่ยวกับการลดริ้วรอยอยู่ (J Cosmet Sci. 2007; 58(2):147-55.)

2. Base เป็นซีรัมชนิดปราศจากน้ำมัน ประกอบด้วยน้ำและสารอื่นที่ละลายได้ในน้ำได้แก่ น้ำ, Glycerin, Butylene glycol

3. Additives ได้แก่
3.1 สารเพิ่มความหนืด ได้แก่ Carbomer กับ Sodium polyacrylate
3.2 สารปรับ pH ได้แก่ Triethanolamine
3.3 Preservatives ได้แก่ Methyl parabenกับสารจับโลหะ EDTA
3.4 สารแต่งสี ใช้ Caramel ซึ่งนอกจากให้สีแล้วยังให้ความชุ่มชื้นได้ด้วย
3.5 สารแต่งกลิ่น/Fragrance

ถึงเวลาให้คะแนน
1. Actives สารออกฤทธิ์หลักเน้นไปที่ผลการเพิ่มความชุ่มชื้น มีเสริมด้วยคุณสมบัติ Antioxidant กระชับรูขุมขน ไวท์เทนนิ่ง และลดเลือนริ้วรอย โดยรวมก็ถือว่าโอเค แต่ถ้ามีพวก Antioxidant เพิ่มเข้ามาอีกซักตัวนึง และก็มีพวกที่ช่วยเรื่องริ้วรอยดีๆมาเสริมอีก น่าจะให้ผลที่ดีขึ้นกว่านี้ เลยขอให้ 4 ฟลาสก์
2. Base มาในรูปแบบของซีรัมชนิดน้ำ ไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน ไม่มีแอลกอฮอล์ สารดึงน้ำที่ใส่มาดูดน้ำให้ผิวได้ดีในระดับหนึ่ง แต่ถ้ามีสารดึงน้ำเพิ่มอีกหน่อยน่าจะสมบูรณ์แบบมากกว่านี้ จึงขอให้ 4 ฟลาสก์
3. Additives มีเท่าที่จำเป็น แต่ข้อเสียอยู่ที่การใช้พาราเบน กับน้ำหอม ซึ่งอาจจะไม่เป็นมิตรกับบางคน แต่ก็ไม่เคยหักคะแนนน้ำหอมในผลิตภัณฑ์ Skincare ทั่วไปมาก่อน เลยขอให้ 4 ฟลาสก์
4. เนื้อสัมผัส ไม่เหนอะหนะ ดูดซึมไว แต่กลิ่นฉุนไปหน่อย เลยขอให้ 4 ฟลาสก์ค่ะ

สรุป: 16/20

[MiiYeon’s NewBies]~My new items for 2015

[MiiYeon’s NewBies]~My new items for 2015

ปีใหม่ เราก็ต้องซื้อของใหม่เข้าบ้าน

ก็เลยได้ฤกษ์ลองของใหม่ๆ หลายๆอย่างเลยค่ะ

new 1

เริ่มด้วย

1. Cleansing water จาก Nature republic อันนี้เห็นสาวเกาหลีรีวิวความอลังของนางไว้ เลยจัดมาลองบ้างค่ะ แต่ ณ วันนี้ยังไม่ได้ลองเลย รอลูกรักอันเก่าหมดก่อน

2. Holika Holika wine therapy sleeping pack สูคร Red wine จริงๆอันนี้ซื้อมาผิด เคยลองเทสเตอร์ไป แต่ไม่รู้ว่ามัน red หรือ White เลยลองสั่ง Red มา แทบกรี๊ดค่ะ ผิดอันกับเทสเตอร์ที่เคยใช้

3. Etude house my castle
ครีมทามือรูปบ้านน่ารักๆ เคยเห็นคุณส้มรีวิวไว้เลยอยากได้บ้าง มี่เลือกมาสองกลิ่นค่ะ เป็นกลิ่นกุหลาบ กับ คุกกี้ เพราะชอบกลิ่นแนวๆประเภทนี้อยู่

new 2

ซื้อมาเพราะแพคเกจน่ารัก เท่านั้นเลยจริงๆ – -*

แต่ยังไม่ได้ลองใช้นะคะ รอ It’s Skin Cookie and Hand cream หมดก่อน

4. มาสก์ลอกเท้าจาก Nature republic

อันนี้เห็นรีวิวในพันทิป เลยอยากลองมั่ง แต่จนวันนี้ยังไม่กล้าลองเลยค่ะ กลัว

5. มาสก์บำรุงเท้าจาก Innisfree

กะว่าหลังจากเท้าลอก จะเอาอันนี้มาบำรุงต่อ

6. ลิปมัน I want chu จาก Holika Holika

อันนี้ซื้อมาด้วยความน่ารักกุ๊บกิ๊บ คือ คอนเซปท์ของนางจะประมาณว่า ให้ผู้ชายทากลิ่นหนึ่ง ผู้หญิงทาอีกกลิ่นนึง ละเวลาจุ๊บกัน จะได้เป็นรสชาดใหม่ๆ ค่ะ

ซื้อมาไปอย่างนั้นหละ ด้วยความน่ารัก ไอเดียบรรเจิดของมัน จริงๆมี่ยังไม่มีคู่ค่าา 55555

7. แผ่นลอกสิวเสี้ยน Pig nose ของ Holika Holika

ตัวนี้เคยไปหิ้วมาเองจากเกาหลี อันนี้ด้วยความชอบกลิ่นล้วนๆเลยค่ะ ประสิทธิภาพยังสู้บีโอเร สูตรสีดำไม่ได้ แต่ก็น่าจะดีที่สุดในบรรดาพอร์แพคของเกาหลีละค่ะ

จบกลุ่มพรีออร์เดอร์ ต่อไปเป็นสินค้าลดราคาในร้าน Karmarts บ้างค่ะ

new 3

เห็นนางติดป้ายหน้าร้านใหญ่โตว่าลดราคาปีใหม่ ทำไงได้ อำนาจต้านทานการลดราคาของหญิงต่ำมากกกกกกกกกกกกกกก

สุดท้ายก็เข้าไปค่ะ

ได้เจ้า No.1 Frink มาสองตัว ตัวแรกเป็น Essence คล้ายๆน้ำป้าเจี๊ยบกับ Tony moly เลยค่ะ ลดแล้วเหลือ 270 นิดๆมั้งคะ ไม่ได้เก็บใบเสร็จไว้

อีกตัวเป็น All day ampoule เหลืออยู่ 220 นิดๆมั้งคะ ตัวนี้ใช้ได้เกือบอาทิตย์ละค่ะ รู้สึกอะไรมั้ย ยังไม่รู้สึกนะ – -*

คงเพราะช่วงนี้หน้าหนาว หน้าฉันแห้งแตกลอกแดงมากมาย

แต่ก็ยังใช้กันต่อไปค่ะ

สุดท้ายก็ไปซื้อของ It’s Skin ค่ะ ตอนนาง Sale ยกร้าน 50%

ละนางแถมเซตหอยทากชื่อดังระดับโลกให้มาลอง

new 10

ตอนนี้กำลังเริ่มใช้ค่ะ แล้วจะเขียนรีวิวมาอีกทีนึงค่ะ

First time Beauty shopping in Korea~ June, 2014

First time Beauty shopping in Korea~ June, 2014

จะว่าก็ว่าเถอะ เกาหลีเป็นสวรรค์แห่งเครื่องสำอางเลยก็ว่าได้ค่ะ ด้วยนวัตกรรมใหม่ๆ รูปแบบผลิตภัณฑ์แปลกๆ สารใหม่ๆ นี่ต้องมาจากเกาหลีเป็นส่วนใหญ่

เมื่อเดือน มิย ที่ผ่านมา มี่ก็ได้ไปเที่ยวเกาหลีมาค่ะ กลับมากระเป๋าเบาเชียวค่ะ เห็นอะไรๆก็อยากได้หมด นี่เสียดายว่าไม่มีแรงขนมา ไม่งั้นคงได้มามากกว่านี้เยอะค่ะ

ประเดิมเลยดีกว่าค่ะ เดี๋ยวตอนท้ายๆจะบอกทริคเล็กๆน้อยๆให้นะคะ 😉

ย่านแรก มยองดง (Myeong-dong)

มีสารพัดร้านเครื่องสำอาง เรียกได้ว่า มีครบทุกแบรนด์เลยมั้ง แต่ราคาอาจจะสูงกว่าบางตลาดนะคะ

Innisfree นี่เป็นแบรนด์ในดวงใจเลยค่ะ
IMG_1485-re

Primera นี่เป็น High brand ค่ะ แต่มี่ไม่ได้ซื้ออะไรมานะคะ
IMG_1486-re

Skin foods ค่ะ ไม่ได้ซื้ออะไรมาเหมือนกัน
IMG_1490-re

ร้านโซนนี้นี่ใช้เวลากับมันนานมากๆค่ะ
IMG_1492-edit

ลาเนจ ก็ไม่ได้ซื้ออะไรมาเหมือนกัน -*-
IMG_1499-re

espoir นี่เค้าว่ากันว่าเป็นผู้นำเทรนด์เมคอัพ แต่มี่ก็ไม่ได้ซื้ออะไรมาเช่นกันค่ะ
IMG_1503-re

Mamonde นี่หมดเงินไปกับ Rose water เลยค่ะ คือเป็นคนบ้ากุหลาบมากๆ
IMG_1504-re

ส่วนอีกย่านเป็นย่านอินซาดงค่ะ ย่านนี้ลดราคากระหน่ำกว่าย่านมยองดงมากๆ ลดแหลกแจกแถมแบบฟินมาก ค่ะ

จุดเด่นของที่นี่คือ ป้ายร้านจะเป็นตัวฮันกึล ค่ะ

insadong

ส่วนย่านที่ไปอีกก็จะมี ทงแดมุน กับ นัมแดมุน ซึ่งของที่นี่ก็ถูกกว่าย่านมยองดงค่ะ

ถ้าไม่รีบ แนะนำว่าให้ไปดูย่านอื่นๆก่อนค่อยกลับมาหาของที่ไม่ได้จากมยองดงนะคะ

อันนี้เป็นความเสียหายค่ะ ใช้ได้ยาวจนแก่ 555

IMG_2370-re

จริงๆบางส่วนก็ส่งต่อให้เด็กๆกับญาติๆกับเพื่อนๆแล้วนะคะ ทุกวันนี้ก็ยังพรีออร์เดอร์อยู่ จะใช้กันทันไหม !!!

[Mini]Cosme-Diagnosis เปิดกรุ Primer 5 อันที่เคยใช้ + วิเคราะห์ส่วนผสมแบบย่อๆ

[Mini]Cosme-Diagnosis เปิดกรุ Primer 5 อันที่เคยใช้ + วิเคราะห์ส่วนผสมแบบย่อๆ

วันนี้เอาบทวิเคราะห์ Primer ในกรุ 5 สูตร จาก 4 แบรนด์ มาฝากค่ะ

ส่วนตัวพึ่งเริ่มใช้ Primer มาได้ปีกว่าๆ เลยยังลองไม่เยอะชนิดเท่าไหร่ค่ะ

ขอเล่าให้ฟังก่อนนิดนึงถึง Primer ก่อนนะคะ

คำว่า Primer จริงๆแล้ว ยังไม่มีนิยามทาง Formulation มากำหนดและอธิบายไว้ ว่ามันคืออะไร

แต่ในทาง Makeup Primer หมายถึง ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ทาเพื่อเตรียมผิวก่อนแต่งหน้าในขั้นตอนถัดไป เพื่อให้
1. ปรับสภาพผิวให้เรียบเนียน โดยไปเคลือบเป็นฟิล์มบางๆ เพื่อปิดรูขุมขน และริ้วรอยตื้นๆบนผิว
2. ป้องกันไม่ให้ Makeup เข้าไปอุดตันในรูขุมขน โดยเจ้า Primer เองจะเป็นตัวที่เข้าไปในรูขุมขน
3. ช่วยให้ Makeup ต่างๆติดผิวได้ดีขึ้น
(ถ้าผิดพลาดหรือตกหล่นไปรบกวนแจ้งด้วยนะคะ ไม่ค่อยถนัดเรื่อง Makeup เท่าไหร่ค่ะ)

ดังนั้นถ้ามองจากคุณสมบัติของ Primer มันก็ควรจะประกอบด้วย สารก่อฟิล์ม ที่จะช่วยเคลือบเป็นฟิล์มบางๆบนผิว เพื่อให้ผิวเรียบเนียนและกันเมคอัพตกไปในรูขุมขนบนผิวค่ะ

Primer ที่มี่เคยใช้ มี 5 ตัว ดังรูปเลยค่ะ

IMG_4715-re2

เรียงไปทีละตัว แล้วสุดท้ายจะลองบนผิวให้ดูอีกทีนึงค่ะ

คราวนี้เอาแบบสรุปๆเลยนะคะ จัดเต็มแบบกระทู้ก่อนๆ แลดูจะยาวและรบกวนพื้นที่ไปค่ะ

ตัวแรก LM foundation primer

เป็น Primer เนื้อเจลแฉะๆ สีเนื้อ เกลี่ยง่าย เคลือบผิวได้ปานกลาง ปกปิดรูขุมขนได้ปานกลาง ชุ่มผิวปานกลาง คุมมันได้น้อย เกลี่ยรองพื้นได้เรียบขึ้น และติดทนนานขึ้นปานกลาง

ส่วนผสม: Water, Tridecyl neopentanoate, cetyl alcohol, stearic acid, glyceryl stearate, lanolin, Diazolidinyl urea, Triethanolamine, Methylparaben, Carbomer, Propylparaben, Propylene glycol, Polymethylmethacrylate, Aloe barbadensis leaf juice, Allantion, Ascorbyl palmitate, Tocopherol, Glycine soja oil, Jasminum officinale oil, Lavendula angustifolia oil, Geranium maculatum oil, Cymbopogon martini oil, Citrus aurantium dulcis peel oil, Camellia sinensis leaf extract, Honey extract, Vitis vinifera fruit extract, Actinidia chinensis fruit extract, Citral, Geraniol, Linalool, Limonene

มีส่วนของสารก่อฟิล์มอย่าง Polymethylmethacrylate ที่ช่วยให้ผิวเรียบเนียนขึ้น มีส่วนผสมของสารกลุ่มน้ำมัน มีสารสกัดจากชาเขียวที่เป็น Antioxidant ที่ดีอยู่ มีส่วนผสมจาก Aloe น้ำผึ้ง องุ่น กับผล Kiwi ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวได้

ส่วนของน้ำมันหอมระเหยจากพืชอย่างมะลิ มีราคาแพง มีความอ่อนโยน แต่น้ำมันหอมระเหยที่ได้จากพืชตระกูล Citrus อย่างส้ม อาจจะทำให้เกิดการแพ้แสง (Photosensitivity จนถึง Phototoxic) ได้ จึงควรระวังการทาแล้วไปออกแดดจัดๆ อาจจะทำให้ผิวไหม้ ดำ ได้ (ผลการตอบสนองแล้วแต่บุคคล)

คะแนน
ส่วนผสม 3
ทาง่าย 4
ปกปิดรูขุมขน 3
เกลี่ยรองพื้นได้เรียบเนียนขึ้น 4
คุมมัน 2
รองพื้นติดทนนาน 3
กันเหงื่อกันน้ำ 3

ตัวที่สอง It’s Skin Cotton primer

ส่วนผสม:
Water, Cyclopentasiloxane, Butylene glycol, Silica, Dimethicone/Vinyl dimethicone crosspolymer, Polysorbate 60, Polyacrilamide, C13-14 isoparaffin, Allantoin, Laureth-7, EDTA, Terminalia chebula fruit extract, Camellia sinensis leaf extract, Anthemis nobilis flower extract, Aloe barbadensis leaf extract, Fragrance, Phenoxyethanol

Primer เนื้อเจลแห้งๆสีขุ่น เกลี่ยง่าย เคลือบผิวได้ดี คุมมันปานกลาง ปกปิดรูขุมขนปานกลาง ชุ่มผิวมาก เกลี่ยรองพื้นได้เรียบเนียนขึ้น ติดทนนาน กันเหงื่อกันน้ำ

หลักๆเป็น Silicone มี Silica ช่วยดูดซับน้ำมันบนผิว อาศัยสารก่อฟิล์มที่เป็นอนุพันธ์ของซิลิโคน กับ Polyacrilamide มีส่วนของน้ำมันอยู่ มีสารสกัดพืชอย่าง Terminalia ให้ผลกระชับรูขุมขน คุมมัน เป็น Antioxidant ชาเขียว เป็น Antioxidant Chamomile กะ Allantoin ลดการระคายเคือง Aloe เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว

คะแนน
ส่วนผสม 5
ทาง่าย 5
ปกปิดรูขุมขน 4
เกลี่ยรองพื้นได้เรียบเนียนขึ้น 4
คุมมัน 3
รองพื้นติดทนนาน 4
กันเหงื่อกันน้ำ 5

ตัวที่สาม Innisfree No sebum Mineral primer

ส่วนผสม (Copy มาจาก Innisfreeworld website ค่ะ)
CYCLOPENTASILOXANE, DIMETHICONE/VINYL DIMETHICONE CROSSPOLYMER, CYCLOHEXASILOXANE, ETHYLENE/ACRYLICACID COPOLYMER, PEG/PPG-19/19 DIMETHICONE, 1,2-HEXANEDIOL, CAMELLIA SINENSISLEAF EXTRACT, SILICA, MINERAL SALTS, MENTHA ARVENSIS LEAF EXTRACT, CAMELLIA JAPONICA LEAF EXTRACT, ORCHID EXTRACT, OPUNTIA COCCINELLIFERA FRUIT EXTRACT, CITRUS UNSHIU PEEL EXTRACT, TOCOPHEROL, FRAGRANCE

Primer เนื้อซิลิโคนเกือบใส เกลี่ยยาก แต่ลื่น เคลือบผิวได้ดี คุมมันได้ดี ปกปิดรูขุมขนดีมาก เกลี่ยรองพื้นได้ง่ายและเรียบเนียนปานกลาง ช่วยให้รองพื้นติดทน กันน้ำ กันเหงื่อ

หลักๆเป็น Silicone ไม่มีส่วนประกอบของน้ำ มี Silica ช่วยดูดซับน้ำมัน มีสารก่อฟิล์มจากอนุพันธ์ของซิลิโคน และ Acrylates มีสารสกัดพืชที่เป็น Antioxidant และควบคุมความมัน ส่วนของ Mineral salt ยังไม่มีหลักฐานรองรับถึงประโยชน์ต่อผิว

คะแนน
ส่วนผสม 5
ทาง่าย 3
ปกปิดรูขุมขน 5
เกลี่ยรองพื้นได้เรียบเนียนขึ้น 5
คุมมัน 5
รองพื้นติดทนนาน 5
กันเหงื่อกันน้ำ 5

ตัวที่ 4 Hydraveil จาก Illamasqua

ส่วนผสม (Copy มาจาก Illamasqua UK website)
AQUA (WATER, EAU), GLYCERIN, BUTYLENE GLYCOL, PEG-240/HDI COPOLYMER BIS-DECYLTETRADECETH-20 ETHER, PHENOXYETHANOL, NIACINAMIDE, CHLORPHENESIN, ETHYLHEXYLGLYCERIN, INULIN LAURYL CARBAMATE, SODIUM HYALURONATE, ALCOHOL, 3-O-ETHYL ASCORBIC ACID, DISODIUM EDTA, SODIUM ASCORBYL PHOSPHATE, SODIUM PHOSPHATE, PARFUM (FRAGRANCE), METHYLISOTHIAZOLINONE, ACMELLA OLERACEA EXTRACT, POTASSIUM LAURATE, CAPRYLIC/CAPRIC TRIGLYCERIDE, BHT, HAEMATOCOCCUS PLUVIALIS EXTRACT, SODIUM CHLORIDE, TOCOPHEROL, BUTYLPHENYL METHYLPROPIONAL, LIMONENE.

ไพรมเมอร์เนื้อเจลใส ชอบเกาะกันเป็นกลุ่มๆเลยทำให้เกลี่ยยากเล็กน้อย แต่ชุ่มชื้นมาก คุมมันได้ในระดับหนึ่ง ปกปิดรูขุมขนได้เล็กน้อย เกลี่ยรองพื้นได้ยาก เป็นคราบเล็กน้อย รองพื้นติดทนขึ้น ไม่ค่อยกันเหงื่อกันน้ำเท่าไหร่

ส่วนผสมหลักๆเป็นพวกสารก่อเจล ซึ่งมีคุณสมบัติเคลือบฟิล์มได้ มีสารสกัดพืชที่จริงๆมีคุณสมบัติเป็นยาชา จึงคาดว่าน่าจะทำหน้าที่ควบคุมการสร้างน้ำมันออกมาจากในผิว มีวิตามินบี 3 กับวิตซี ช่วยเรื่องความขาวกับริ้วรอย มี Antioxidant เสริมเข้ามา

คะแนน
ส่วนผสม 5
ทาง่าย 3
ปกปิดรูขุมขน 2
เกลี่ยรองพื้นได้เรียบเนียนขึ้น 2
คุมมัน 3
รองพื้นติดทนนาน 4
กันเหงื่อกันน้ำ 3

ตัวที่ 5 Matte veil

ส่วนผสม (Copy มาจาก Illamasqua UK website)
Aqua (Water, Eau), Alcohol Denat., Butylene glycol, Aluminum starch octenylsuccinate, Polyacrylamide, Phenoxyethanol, Ethylhexylglycerin, Polysorbate 60, C13-14 isoparaffin, Methylparaben, Carbomer, Sodium hydroxide, Laureth-7, Parfum (Fragrance), Sodium hyaluronate, Glycerin, Sodium citrate, Xanthan gum, Titanium dioxide (CI 77891), Iron oxides (CI 77491, CI 77492)

รองพื้นเนื้อเจลสีเนื้อ ทาง่าย แห้งไว ไม่ค่อยชุ่มผิวเท่าไหร่ คุมมันได้ดี แต่ทำให้เกลี่ยรองพื้นยากขึ้น และไม่สม่ำเสมอ ปิดรูขุมขนได้ปานกลาง

ส่วนผสมมี Aluminium starch octenylsuccinate เป็นอนุพันธ์ของคาร์โบไฮเดรต มีคุณสมบัติดูดซับความมันและสามารถช่วยไม่ให้เม็ดสีและ Pigment ต่างๆจับกลุ่มกันมองเห็นเป็นคราบ กับสารก่อฟิล์มอย่าง Polyacrilamide แต่มี Alcohol ซึ่งน่าจะเยอะด้วย นอกจาก Hyaluron ก็ไม่มีสารสำคัญอื่นๆที่จะช่วยบำรุงผิวได้เลย

คะแนน
ส่วนผสม 2
ทาง่าย 4
ปกปิดรูขุมขน 4
เกลี่ยรองพื้นได้เรียบเนียนขึ้น 1
คุมมัน 4
รองพื้นติดทนนาน 3
กันเหงื่อกันน้ำ 4

ลองทาให้ดูบนผิวนะคะ

ให้ดูเนื้อของแต่ละอัน

หลังเกลี่ย

พอแห้งก็หยดรองพื้นลงไป

เกลี่ยให้ทั่ว

แสงธรรมชาติ:

แสงนีออน

แสงแฟลช:

ส่วนตัวชอบเนื้อแบบ It’s Skin แต่ชอบคุณสมบัติในการปรับผิวแบบ Innisfree ค่ะ

[Beauty Talks] My Special skincare

[Beauty Talks] My Special skincare

ปกติเราน่าจะแบ่งการดูแลผิวออกเป็น 2 แบบ (มั้งคะ ตามคหสต.)

คือ 1. Routine care คือ การดูแลทุกๆวัน เช้า-เย็น กับ 2. Special care คือ การดูแลพิเศษ นานๆที แบบเข้มข้น (ว่างั้น)

วันนี้เอา Special care ของมี่มาแชร์ให้ชมกันค่ะ

10592817_10202726347900009_5645098694820530694_n

เรียกจากซ้ายไปขวาเลยนะคะ

1. Hair Removal Cream จาก Miniso

เป็นครีมสำหรับกำจัดขน (ตัวต้นแบบในบ้านเราน่าจะ Opilca ค่ะ) ซื้อมาใช้แทนของบูทส์ ที่ขาดตลาดไปนานมาก จริงๆติดของบูทส์มากกว่าค่ะ

ช่วงแรกๆเราใช้ ขนก็จะขึ้นถี่เหมือนเราโกนค่ะ แต่พอใช้ไปๆ ขนก็จะนุ่มขึ้น และขึ้นช้าลงค่ะ ตอนนี้ใช้เดือนละครั้ง เผลอๆก็ 6 อาทิตย์ครั้งค่ะ

แต่เนื่องจากส่วนผสมเป็นด่างกับ Thioglycolate จึงควรทดสอบการแพ้และการระคายเคืองก่อนใช้นะคะ

2. Play therapy soft clay pack จาก Etude

เป็นมาสค์โคลน ที่เหมาะกับคนผิวมันค่ะ จริงๆมี่ผิวแห้ง แต่เอามาใช้นานๆที เดือนละครั้งถึงสองครั้ง โดยมีความเชื่อว่า Clay จะช่วยดูดซับสารพิษที่ตกค้างในผิวได้

ตัวนี้จะเย็นๆ หอมมินท์ ให้ความรู้สึกสดชื่นดีค่ะ

แต่คนผิวแห้ง ใช้แล้วยิ่งแห้งขึ้นไปอีก แต่รู้สึกว่าสะอาดผิวดี

3. Black head clear oil gel จาก It’s Skin

เป็น Lipogel (ตามคหสต.) ที่มาพร้อมกับหัวแปรงเป็นขนๆเล็กๆ เป็นยางนุ่มๆ เอามาถูวนๆตรงจมูกและคางเพื่อกำจัดสิวเสี้ยน ส่วนตัวมี่ใช้อาทิตย์ละ 1-2 ครั้งค่ะ

เข้าใจว่าผลิตภัณฑ์ลักษณะนี้แบรนด์ที่ทำมาแบรนด์แรกคือของ Laneige นะคะ แต่ยังไม่เคยใช้ของ Laneige มาใช้ของอันนี้ก่อน ไปเกาหลีเจอโปรขายคู่ PO effector ราคาพิเศษพอดีค่ะ

4. Soothing & Moisture Aloe vera 92% จาก Nature republic

ตัวนี้พึ่งเขียนรีวิวแบบละเอียดใน Cosme-Diagnosis ค่ะ

เป็นเจลใสๆ กลิ่นหอมๆคล้ายแตงกวา เอาสำลีมาจุ่ม ละเอามาแปะบนหน้าแทนมาสค์ เย็นชุ่มฉ่ำ ฟินเว่อร์ค่ะ

ติดตามได้ที่ลิงค์นี้เลยค่ะ

[Review] It’s Skin Power 10 Formula 9 สูตร

[Review] It’s Skin Power 10 Formula 9 สูตร

สมัยก่อนมี่ติดผลิตภัณฑ์จาก DHC มาก คือเรียกได้ว่า เป็น Skincare จากเคาน์เตอร์ชิ้นแรกในชีวิตเลยก็ว่าได้ ใช้ DHC มาตลอดจนกระทั่ง DHC เลิกจำหน่ายในไทย ก็ไปตุนตอนเค้า Sayonara sale ไว้พอสมควรเลยค่ะ หลังจากเริ่มพร่อง เวลาเพื่อนๆพี่ๆน้องๆไปญี่ปุ่นก็จะฝากเค้าซื้อกลับมาเสมอ จนเริ่มหมด ไม่รู้จะใช้อะไรดี คนรู้จักก็ไม่มีใครมีแผนจะไปญี่ปุ่น เลยเริ่มมองหา Skincare ชิ้นอื่น ก็ลองเข้าเวบไปเรื่อยๆ ไปเจอเวบพรีออร์เดอร์เวบหนึ่งเข้า ละไปสะดุดกับเจ้า YE effector จาก It’s Skin ที่มีราคาไม่แพงมาก เลยลองสั่งมาใช้ แรกๆก็ไม่รู้หรอกค่ะว่ามันประกอบด้วยอะไรบ้าง ส่วนผสมนางก็เขียนเป็นภาษาเกาหลี อ่านไม่ออก จนกระทั่งเคาน์เตอร์ของ It’s Skin มาเปิดที่เชียงใหม่ ที่โลตัสมีโชค (หรือรวมโชค จำไม่ได้ – -*) ก็เลยเห็นส่วนผสม แล้วก็ติดใจ ใช้มาเรื่อยๆเลยค่ะ

 

นับวันๆ ก็เริ่มลองนู่นลองนี่เพิ่ม แล้วยิ่งเวลาเคาน์เตอร์เขา Sale 50% ซึ่งก็จัดอยู่บ่อยๆเหมือนกัน ก็ไปสอยอันนู้นอันนี้มาลองเพิ่มเรื่อยๆ สุดท้ายเมื่อเดือนมิย ที่ผ่านมา ไปเกาหลี เลยจัดมาเต็มค่ะ พร้อมกับเครื่องสำอางแบรนด์อื่นอีกหลายๆชิ้น จนทุกวันนี้ติดเกาหลีงอมแงม

 

เข้าเรื่องดีกว่าค่ะ ตัวที่จะเอามารีวิววันนี้เป็นผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Power 10 formula ซึ่งตัวที่มี่ใช้จริงๆ มี 4 ตัวค่ะ คือ YE WR PO และ Q10 ส่วนที่เหลืออีก 5 ชิ้นเป็นเทสเตอร์ซองๆที่ได้รับมาค่ะ

 

ถ้ามีโอกาสจะทำ Cosme-Diagnosis เจาะลึก 4 ตัวที่ใช้อยู่นะคะ

 

IMG_2692-edit

ตัวที่ได้ Tester มาก็จะมี VE (ซื้อแล้ว แต่ยังไม่ได้ใช้) LI WH VC และ GF (ซื้อแล้ว แต่ยังไม่ได้ใช้)

ลองดู Texture ของทุกๆสูตรในรูปดีกว่าค่ะ

IMG_2694-edit

 

เรียงจากซ้ายไปขวาเลยนะคะ

Q10 จะมาในรูปแบบเจล มีเม็ดบีดส์สีเหลืองๆ เข้าใจว่าเป็น Coenzyme Q10 ซึ่งไม่ละลายน้ำ เลยต้องทำให้อยู่ในรูปแบบเม็ดบีดส์กระจายตัวอยู่ค่ะ การดูดซึมค่อนข้างไว รู้สึกแปลกๆตอนทาแล้วเม็ดบีดส์แตก แต่ซักพักก็จะซึมหายไปหมด ไม่ทิ้งคราบอะไรค่ะ ให้คะแนนความพึงพอใจ 8/10

VE มาในรูปแบบเจลค่อนข้างมัน มีเกล็ดๆแผ่นๆสีขาวๆ เข้าใจว่าน่าจะเป็น Vitamin E ซึ่งละลายในน้ำได้น้อยเช่นกันค่ะ การดูดซึมค่อนข้างไว ไม่เหนอะหนะมาก (หรือเพราะมี่ผิวแห้งก็ไม่รู้ค่ะ) ให้คะแนนความพึงพอใจ 8/10 ตัวนี้ซื้อมาแล้ว กะว่าจะทาเฉพาะกลางคืนค่ะ

LI มาในรูปแบบเจลเช่นกัน ดูดซึมไว ไม่เหนอะหนะ แต่เนื่องจากความต้องการทางเครื่องสำอางของมี่ตอนนี้เน้นไปที่ ความชุ่มชื้นกับเรื่องริ้วรอยแล้ว จึงไม่ค่อยสนใจกลุ่ม Whitening แล้วค่ะ จริงๆของเค้าน่าสนใจนะ คือ ชะเอมนอกจากผิวขาว ยังลดการอักเสบในผิวได้ด้วย ให้คะแนนความพึงพอใจ 6/10

WH มาในรูปแบบของเหลว มันนิดๆ ดูดซึมไวมาก ไม่เหนอะหนะ ตัวนี้ใช้ Arbutin เป็นส่วนประกอบ เน้นไปที่ความเป็น Whitening เลย สาวๆที่อยากขาวน่าจะชอบค่ะ ด้วยราคาแบบว่า โยนครีมประตูน้ำทิ้งไปเลย ใช้อันนี้ดีกว่า ดูมีคุณค่า แต่มันเหลวไปนิด มันจะไหลจากมือตอนทาด้วยค่ะ ให้คะแนน 6/10

VC เป็นเจลหนืดๆนิดหน่อย สีขุ่นๆ ดูดซึมไว ไม่เหนอะหนะค่ะ ตัวนี้เคยใช้อยู่ แล้วก็หยุดไป เพราะ Skincare เริ่มเยอะ ขี้เกียจทาหลายๆอย่าง ให้คะแนนความพึงพอใจ 8/10

GF เป็นเจลความหนืดต่ำ สีใส ดูดซึมไว ไม่เหนอะหนะ เน้นไปที่ความชุ่มชื้น ซื้อมาแล้วแต่ยังไม่ได้แกะใช้ค่ะ ให้คะแนนความพึงพอใจ 8/10

YE เป็นเจลความหนืดต่ำ สีขุ่นนิดๆ ดูดซึมไว ไม่เหนอะหนะ มีกลิ่นแนวสมุนไพร แรกๆก็กลิ่นแปลกๆดี พอใช้ไปใช้ไป เริ่มเบื่อ ตัวนี้ใช้แล้วหน้านุ่มมาก (ใช้มาได้เกือบ 6 เดือนแล้วค่ะ) ยังไม่คิดจะเปลี่ยน ติดงอมแงม ให้คะแนนความพึงพอใจ 10/10

WR เป็นเจลหนืดปานกลาง สีเหลือง-น้ำตาล ดูดซึมไว ไม่เหนอะหนะ แต่กลิ่นฉุนไปหน่อย ตัวนี้เน้นไปเรื่องริ้วรอย มีสาร Adenosine กับสารสกัดอื่นๆที่ให้ผลเรื่องริ้วรอย ตัวนี้ใช้ครั้งแรกคือฟินมาก ทาก่อนนอนเช้าตื่นมาหน้าตึงมาก ถ้ากลิ่นดีกว่านี้คงรักเลย แต่นี่ทนใช้ เพราะยังหาตัวแทนไม่ได้ค่ะ ให้คะแนนความพึงพอใจ 6/10 คือกลิ่นแรงมากอ่ะ

PO เป็นโลชั่นหนืดมาก ดูดออกจากขวดค่อนข้างยาก ดูดซึมช้า มันเล็กน้อย พอใช้ไปๆ ก้นขวดจะดูดไม่ออก เทไม่ได้ ต้องเอาไม้พันสำลีล้วงไปเอาออกมาเพื่อจะทา ตัวนี้เน้นไปที่ฤทธิ์กระชับรูขุมขน ของเค้าก็ดีนะ คือผลิตภัณฑ์กระชับรูขุมขนบางอันใช้แล้วจะแสบ แต่อันนี้คือไม่แสบค่ะ ใช้ได้เลยทีเดียว เสียดายที่มันหนืดมากกกกกกก ใช้ยาก หมดขวดนี้จะไปลองของ Holika แทนค่ะ ให้คะแนนความพึงพอใจ 6/10 คือมันหนืดมาก กว่าจะเอาออกมาทาได้

 

สำหรับข้อมูลของส่วนผสม จะทยอยๆนำมาจัดแบบละเอียดให้นะคะ ซึ่งมีข้อมูลอยู่แค่บางตัวค่ะ

By Lady Miiyeon

หมีเกาะฟลาสก์