MiYeon’s Shopping in Jeju, April 2015

MiYeon’s Shopping in Jeju, April 2015

Hi guys, this is my first English topic, please feel free to have comments or chats or etc.

On last April, I went to Jeju, South Korea with Thai tour company with very low cost (around 12900 THB for plane, hotels and some foods)

I am Korean Cosmetics-addicted, and always find the way to purchase them into Thailand.

I like to try everything that is Korean, so my daily routine is almost done bt Korean cosmetics.

Well, its time to see my shopping bags!!!

But before shopping bags, before going to Korea I have to check the price and products that will include in my wishlists, and here is my wishlists.

shopping list

Then, we have arrived !!, at Jeju airport

jeju

Tah dah!! here is my shoppings

IMG_2543-re

Wah Quite a lot, right??

In Jeju, the most frequent shop I found is Nature republic, which can be found in almost every place that tour guide to.

IMG_2361-re

Lucky!!, they are on sale !!!!

And these are my purchased.

IMG_2532-re

All of Nature Republic’s products are great and skin friendly.

I love the cactus gel and bamboo mist very much (which will be further reviewed in the next occasion).

The next brand is It’s Skin, It’s Skin is one of my fav’ and the product that I do love most is GF effector. This time I purchased four bottles, for one year.

IMG_2528-re

Woohoo!! See you again next year, Korea.

And the next brand is Innisfree, lucky I have some times and went to Innisfree Jeju House, which is the perfect place that I enjoyed most.

11173325_10204071639651462_5295637980083187181_n IMG_1853-re

These are my purchased,

IMG_2535-re

Sparkling mineral is the new line that launched in April, I think.

But I did not tried it yet, so when I tried it I will make a review.

For Etude House, I purchased Magic any cushion, which is my fav’ and some mask sheets for trying

IMG_2530-re

About magic any cushion, I used peach color.

And the next brand is Beyond. Beyond is one of my interesting since I went to Korea on June, 2014.

Their products are quite great, however there are few line that used alcohol, which may not suits some individuals, and this are my purchased.

IMG_2531-re

On that time I went, their mask sheet is on promotion, 10+10 (Buy 10 get 10 free).

And the next brand is Tony Moly, I used their Galactomyces water before. This time I went for their Goat milk toner, which is newly launched.

IMG_2537-re

Their mascara is also great!!!!!

The next brand is Hanyul, this time I go for their rice skin softener

IMG_2538-re

And the next brand is Mamonde, I love their concepts, I love flower, esp. roses.

This is my purchased,

IMG_2539-re

And the last one is the saem, another eco-friendly brand.

IMG_2540-re

their wrapping tints are great, look like natural lips.

Well That’s all

See you again in my next blog post

love you

xoxo

[Cosme-Diagnosis]TonyMoly BCDation

[Cosme-Diagnosis]TonyMoly BCDation

ปกติมี่ไม่เคยรีวิวรองพื้นเลยค่ะ จนกระทั่งมาสัมผัสกับเจ้านี่ นางอุดมด้วยส่วนผสมที่ช่วยบำรุงผิวหนังได้เลอค่ากว่า Skincare บางอันเสียอีกค่ะ

เจ้า BCDation ตัวนี้มี่ไปได้มาตอนไปเกาหลีเมื่อเดือน มิย ปีที่แล้ว ตอนนั้นมีโปรซื้อ 1 แถม 1 แต่เป็นซื้อขนาดปกติเป็นขวด แถมหลอดเล็ก 20 กรัมให้ค่ะ

ทางแบรนด์ Claim ว่า BCDation = BB + CC + Foundation

ประมาณว่าขวดเดียวจบ

สีที่

มี่่เลือกมาคือสีเบอร์สองค่ะ

tm1-e

ลองสวอทช์เทียบกับ Illamasqua ลูกรักนะคะ
tm4-etm5tm6

จะเห็นว่าเนื้อสัมผัสค่อนข้างคล้ายเลยทีเดียว ทั้งการทาแล้วออกมาเป็นเนื้อแป้ง

ลองมาดูส่วนผสมดีกว่าค่ะ

tm3

อันนี้อ่านไม่ออกค่ะ ยอม ประมาณว่าปราศจาก 8 สารต้องห้าม เนียนได้ 24 ชั่วโมง มั้ง??

tm2

จะเห็นว่าอลังมาก

เอาแบบสรุปก่อนนะคะ เผื่อใครขี้เกียจอ่านยาวๆ

1. Actives คือ สารออกฤทธิ์ มีอยู่ค่อนข้างสมบูรณ์ ทั้ง Antioxidant, Anti-inflammatory, Whitening, กระชับรูขุมขน ควบคุมความมัน เพิ่มความชุ่มชื้น และเป็น Anti-aging โดยไปกระตุ้นการสังเคราะห์คอลลาเจนได้ ซึ่งก็ถือว่าเกือบจะสมบูรณ์แบบ ถือเป็น Skincare ชิ้นหนึ่งได้เลย จึงขอให้ 5 ฟลาสก์

2. Base ปกติผลิตภัณฑ์ประเภท Emulsion ถ้าพิจารณาให้คะแนนจากความสมบูรณ์ของการเป็น Moisturizer คือต้องมีสารชอบน้ำที่ดูดน้ำให้ผิว สารไขมันจากธรรมชาติ และสารไขมันเคลือบคลุมผิว ซึ่งผลิตภัณฑ์นี้มีสารที่ดูดน้ำให้ผิวอยู่หลายตัว ทุกตัวมีประสิทธิภาพที่ค่อนข้างดี และไม่ระคายเคือง มีน้ำมันจากพืชธรรมชาติอยู่หลายชนิด และมีสารเคลือบคลุมผิวกันน้ำระเหยอีกหลายตัว จึงขอให้ 5 ฟลาสก์

3. Additives มีอยู่หลายชนิด บางชนิดก็ให้คุณสมบัติบำรุงผิวเสริมเข้ามาด้วย จะมีก็ขอติเรื่อง Grapefruit oil ซึ่งมีสารกลุ่ม Coumarins ซึ่งอาจจะทำให้เกิดอาการแพ้แสงได้ในบางราย จึงควรหลีกเลี่ยงการทำงานหรือออกกำลังการแจ้งเมื่อใช้ผลิตภัณฑ์ จึงขอให้ 4 ฟลาสก์

คะแนนส่วนผสม 14/15
คะแนนการใช้งาน 4/5

รวม 18/20 ค่ะ

แบบเจาะลึกจัดเต็มค่ะ

1. Actives เป็นสารที่ทำให้เครื่องสำอางมีฤทธิ์ทางชีวภาพ ขอแบ่งเป็น 3 กลุ่มตามแหล่งที่มา ได้แก่

1.1 สารสำคัญที่ได้จากกระบวนการทาง Biotechnology ได้แก่

– Pseudoalteromonas ferment extract รู้จักกันในชื่อทางการค้าว่า Antarcticine ของบ. Lipotec ได้จากการแบคทีเรียชนิดหนึ่งที่พบในธารน้ำแข็ง ประกอบด้วยสารกลุ่ม Tripeptide ซึ่งมีคุณสมบัติในการกระตุ้นการสังเคราะห์คอลลาเจนและอิลาสติน จึงช่วยให้ผิวเรียบเนียนขึ้น ริ้วรอยลดลง นอกจากนี้มีคุณสมบัติในการเพิ่มความชุ่มชื้น และช่วยในกระบวนการสมานแผล (Promote Wound-healing) เวลาผิวหนังเกิดความเสียหาย ก็จะช่วยให้ซ่อมแซมตัวเองได้ไวขึ้น (ข้อมูลจากผู้ผลิตวัตถุดิบ)

1.2 สารสำคัญที่เป็นสารสกัดจากธรรมชาติ ได้แก่

– น้ำคั้นจาก Birch (Betula platphylla japonica juice) สารสกัดจากพืชตัวนี้มีรายงานเกี่ยวกับฤทธิ์ Antioxidant (Life Sci. 2004; 74(8):1013-26.) และสามารถป้องกันการเกิดผื่นการแพ้ ที่คล้าย Atopic dermatitis ในหนูทดลองได้ (J Ethnopharmacol. 2008; 116(2):270-8.) ส่วนข้อมูลจากผู้ผลิตบอกว่า มีคุณสมบัติคล้ายเอสโตรเจน และกระตุ้นการสังเคราะห์คอลลาเจน (Birch sap จาก บ. Koei Kogyo)

– Witch hazel extract (Hamamelis verginiana) รู้จักกันดีเพราะคุณสมบัติความเป็น Astringent ช่วยกระชับรูขุมขน ควบคุมความมัน สำหรับรายงานการวิจัยมีระบุถึงฤทธิ์ในการต้านการอักเสบ (J Pharm Pharmacol. 1994; 46(4):286-90.) และมีสารประกอบจำพวก Tannin และ Proanthocyanidins (Planta Med. 1988; 54(5):454-7.) ซึ่งพวกนี้มีฤทธิ์ Antioxidant ที่ดี

– สารสกัดจากพืชตระกูลสน (Pinus densiflora extract) มีรายงานเกี่ยวกับฤทธิ์ Antioxidant และคุณสมบัติในการปกป้อง DNA ไม่ให้ถูกทำลายจากอนุมูลอิสระ (Prev Nutr Food Sci. 2012; 17(2):116-21.) ซึ่งพืชตระกูลสนก็จะมีสารในกลุ่ม Proanthocyanidins ที่มีฤทธิ์แรง อยู่เกือบๆทุกสายพันธุ์ และมักจะมีคุณสมบัติเป็น Whitening อยู่ในตัวด้วย

– สารสกัดจากรากหญ้าคา (Imperata cylindrica root extract) มีรายงานการวิจัยระบุว่าในหญ้าคามีสารประกอบกลุ่ม Polysaccharide ที่มีคุณสมบัติกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ (Planta Med. 1999; 65(6):549-52.) ผู้จำหน่ายวัตถุดิบบอกว่าสารสกัดนี้มีคุณสมบัติช่วยควบคุมความดันในเซลล์ผิว และช่วยรักษาน้ำในผิวหนังชั้นนอก ควบคุมความชุ่มชื้นในผิวได้ 24 ชั่วโมง (Vegesome Moist 24 ของ บ.Sederma)

– สารสกัดจากถั่วเขียว (Phaseolus radiatus seed extract) ถั่วเขียวเป็นพืชหนึ่งที่ทางเกาหลีชอบนำมาใช้เป็นส่วนประกอบในเครื่องสำอาง เพราะมีโปรตีน กรดอะมิโน ฟลาโวนอยด์หลายๆชนิด ในฐานข้อมูลงานวิจัยยังไม่มีรายงานในส่วนที่เกี่ยวข้องกับทาง Skincare แต่ถ้าลองค้นในฐาน Patent จะเจอเป็นส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์ Anti-aging ส่วนข้อมูลจากผู้ผลิตวัตถุดิบบอกว่า สารสกัดจากถั่วเขียวสามารถปรับสภาพผิวให้ผิวนุ่มนวลเนียนและกระจ่างใส

– Oatmeal extract (Avena sativa extract) ส่วนของ Oatmeal มีรายงานเกี่ยวกับคุณสมบัติในการต้านการอักเสบ (Anti-inflammatory) ของเซลล์ผิวหนัง (Int J Tissue React. 2003; 25(2):41-6.) และช่วยป้องกันความระคายเคืองจากสารเคมีในผิว (การทดสอบใช้ SLS เป็นสารที่ทำให้ผิวหนังเกิดการระคายเคือง) (Skin Pharmacol Appl Skin Physiol. 2002; 15(2):120-4.) นอกจากนี้เนื่องจากใน Oatmeal มีทั้งคาร์โบไฮเดรตและโปรตีนจึงให้ผลเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวได้ด้วย

– น้ำมันจากพืชต่างๆหลายชนิด ได้แก่ Babassu (Orbignya oleifera), มะรุม (Moringa oleifera), ทานตะวัน, Meadowfoam, Argan, มะกอก และ Baobab (Adansonia digitata) ซึ่งบางชนิดเป็นพืชหายากที่ใช้กันบางเขตของโลก เหมือนเป็นการตลาดด้วยส่วนหนึ่ง เพราะปกติน้ำมันจากพืชจะมีสารประกอบกรดไขมันต่างๆ Phytosterol Phospholipid และสารอื่นๆที่สามารถดูดซึมเข้าสู่ผิวหนังได้ ให้ผลเพิ่มความชุ่มชื้นโดยไปทดแทนไขผิวหนังที่เสียสภาพไป อาจจะให้ผลลดริ้วรอยได้ แต่บางคนอาจจะแพ้น้ำมันพืชบางอย่าง หรือเกิดการอุดตันรูขุมขนจากน้ำมันได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่คาดเดาไม่ได้ในแต่ละบุคคลจึงควรทดสอบก่อน

1.2 สารสำคัญที่เป็นสารบริสุทธิ์ ได้แก่

– Sodium hyaluronate มีบทบาทในเรื่องการเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวหนัง

– Niacinamide หรือ วิตามินบี 3 ตัวนี้มีบทบาทหลายๆอย่าง ทั้งในเรื่องการเป็น Whitening ช่วยปรับสภาพสีผิวให้สม่ำเสมอ ลดการอักเสบ เพิ่มการไหลเวียนเลือด กระตุ้นการสร้าง Ceramides กรดไขมัน และไขมันชนิดต่างๆในหนังกำพร้า (Int J Cosmet Sci 2005; 27:255–261)

– Adenosine เหมือนเป็นสารชั้นสูงที่ใช้กันในเคาน์เตอร์แบรนด์ โดยเฉพาะแบรนด์ L แต่ปัจจุบันก็เห็นมีใช้กันหลายแบรนด์ Claim กันว่าเป็นองค์ประกอบของสารให้พลังงานของเซลล์ที่ชื่อ ATP ก็จะช่วยประสานการทำงานต่างๆของเซลล์ เพิ่มพลังให้เซลล์ ว่ากันไป ซึ่งถ้าอิงจากฐานข้อมูลงานวิจัยมีกล่าวถึงผลเกี่ยวกับการลดริ้วรอยอยู่ (J Cosmet Sci. 2007; 58(2):147-55.)

– Acetyl heptapeptide-9 ตัวนี้ใช้คู่กับ Colloidal gold นำมาจับกัน (Conjugated) เพื่อเพิ่มการดูดซึมเข้าสู่ผิว ออกฤทธิ์กระตุ้นการทำงานของ Fibroblast เพื่อให้สังเคราะห์คอลลาเจนเพิ่มขึ้น ทำให้ริ้วรอยต่างๆดูจางลง

– Oxygen อันนี้ไม่ทราบวัตถุประสงค์จริงๆค่ะ เป็นเทรนด์ของเกาหลีที่ชอบบอกว่าเติม Oxygen ให้ผิว แต่ Oxygen ถ้ามีมากเกินไปและถูกเหนี่ยวนำให้เป็น Radical (อนุมูลอิสระ) จะทำร้ายผิวได้

2.เนื้อผลิตภัณฑ์ ได้แก่

2.1 ส่วนของน้ำ ได้แก่ น้ำ, Propylene glycol, Butylene glycol, Pentylene glycol, Dipropylene glycol, Butylene glycol Dicaprate/Dicaprylate ซึ่งให้คุณสมบัติเพิ่มความชุ่มชื้นแก่ผิวได้ดี

2.2 ส่วนของน้ำมัน ได้แก่

– น้ำมันจากพืชหลายๆชนิด ที่ดูดซึมเข้าผิวได้ (กล่าวในส่วนของ Active ingredients) และ Hydrogenated vegetable oil

– สารเคลือบคลุมผิวรักษาความชุ่มชื้น ได้แก่ Hydrogenated polydecene, Methyl hydrogenated rosinate, Ethylhexyl olivate, Hexyl laurate ซึ่งทำหน้าที่ป้องกันน้ำระเหยออกจากผิวหนัง

3.สารองค์ประกอบอื่นๆ

3.1 อนุพันธ์ของซิลิโคน ได้แก่ Cyclopentasiloxane, Phenyltrimethicone, Cetyl PEG/PPG-10/1 Dimethicone, Cyclohexasiloxane, Dimethicone, Cetyl dimethicone, Triethoxycaprylylsilane, Hydrogenated dimethicone พวกนี้ทำหน้าที่แตกต่างกันไป และยังช่วยให้สัมผัสที่ดีตอนทาครีม ช่วยเคลือบคลุมผิวให้เรียบเนียน รู้สึกดี

3.2 Emulsifier/Surfactant ได้แก่ Polyglyceryl-4 isostearate ตัวนี้ให้สมบัติเพิ่มความชุ่มชื้นได้, Sorbitan isostearate, Sorbitan olivate, Disteardimonium hectorite ตัวนี้เป็นอนุพันธ์ของ Hectorite ซึ่งเป็นแร่ที่ได้จากธรรมชาติ เป็น Emulsifier จะให้ครีมที่มีเนื้อเนียนและมีสีขาว เป็นสารเพิ่มความหนืดในตัว ทำให้ครีมที่ได้มีความหนืดเหมาะสม แผ่กระจายบนผิวได้ดี และเป็นมิตรกับผิว

3.3 สารเพิ่มความหนืด ได้แก่ Glyceryl polymethacrylate, Gelatin และ Acacia gum ซึ่งสองตัวหลังเป็นสารที่ได้มาจากธรรมชาติ

3.4 Preservatives ได้แก่ Phenoxyethanol, 1,2-hexane diol, Caprylyl glycol, Ethylhexylglycerine 3 ตัวหลังมีฤทธิ์ฤทธิ์ระงับเชื้ออ่อนๆ นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวได้ด้วย

3.4 Pigment/Mineral ได้แก่ Titanium dioxide, Zinc oxide 2 ตัวนี้ให้สีขาว และมีคุณสมบัติเป็น Physical sunscreen ได้เมื่อใช้ในความเข้มข้นค่าหนึ่งขึ้นไป, Talc เป็นแร่ที่มีคุณสมบัติช่วยดูดซับความมันบนผิวได้ ไม่มีคุณสมบัติที่ให้สี, CI77491, CI77492, CI77499 3 ตัวนี้ เป็น Iron oxides สีเฉดเหลือง-ส้ม

3.5 สารแต่งกลิ่น/น้ำหอม ได้แก่ Grapefruit peel oil กับ Fragrance ซึ่ง Grapefruit peel มีสารพฤกษเคมีกลุ่ม Coumarins ที่อาจจะทำให้เกิดภาวะไวต่อแสงแดดได้ในบางราย จึงอาจจะระวังเวลาออกไปแดดจัดๆนานๆ

3.6 สารที่มีหลายหน้าที่ มีสองตัว

– Triethyl citrate ตัวนี้เป็น Ester ของ Citric acid มีหลายๆหน้าที่เช่นเป็น Solvent ช่วยละลายสาร และก็ทำหน้าที่ระงับการหลั่งเหงื่อ ซึ่งก็เป็นไปได้ทุกหน้าที่ นอกจากนี้ก็สามารถใช้เป็น Fixative ในผลิตภัณฑ์ประเภทน้ำหอมให้กลิ่นติดทนนานได้ มีวัตถุดิบตัวหนึ่งของบริษัท Elementis ชื่อว่า Bentone gel ประกอบด้วย Disteardimonium hectorite, Phenyltrimethicone และสารตัวนี้ ทำหน้าที่เป็นสารเพิ่มความหนืด และช่วยปรับลักษณะของผลิตภัณฑ์ให้แผ่กระจายได้ง่าย ไม่เหนอะหนะ ช่วยให้ผิวนุ่ม แลดูเงางาม ควบคุมความมัน ซึ่งก็ถือว่าเป็นคุณสมบัติของรองพื้น/BB ที่ดี

– Calcium stearate ตัวนี้สามารถเป็นสารให้สี สารป้องกันเม็ดสี(ของแข็งที่ไม่ละลาย)ตกตะกอนและอัดกันแน่น (Caking) เพิ่มความคงตัวของ Emulsion ควบคุมความหนืด
จะเห็นได้ว่าค่อนข้างมาเต็มเลยทีเดียว ถ้าใครผิวขาวๆหน่อยน่าจะจัดได้ค่ะ เนียนผ่องได้ทั้งวี่วันค่ะ

[Beauty Talks]~My Sunscreen evolution diary

[Beauty Talks]~My Sunscreen evolution diary

วันนี้เอา Diary sunscreen มาแชร์ให้ฟังค่ะ

evol-re

ถ้าพูดถึงกันแดดแล้ว ก็มีอยู่ตัวนึง ที่มีติดมาก รักมาก และใช้ไปเยอะมาก (น่าจะเกิน 10 ขวด)

นั่นก็คือ DHC Suncut Q10 light touch ของประเทศญี่ปุ่นค่ะ

ย้อนอดีตไปเมื่อราวๆ 10 ปีก่อน DHC มาตั้งเคาน์เตอร์ในไทย ด้วยเบอร์โทรที่จำง่าย 02-3536-333 (ทุกวันนี้ยังจำได้อยู่เลย)

ก็ได้ไปลองใช้กันแดด Suncut ของเค้า และก็ติดงอมแงมค่ะ แม้ว่าสมัยนั้นจะยังดูส่วนผสมไม่ค่อยเป็นก็เถอะนะ (ยังเรียนปี 3-4 อยู่เลยมั้งคะ)

แล้วทีนี้นางก็เลิกจำหน่ายในไทย

แต่ก่อนนางจะอำลาไทยแลนด์ นางทิ้ง Sayonara sale ไว้ให้ แบบชนิดที่ว่า ลดถล่มทลาย คนลู่กันซื้อ มี่เองก็ตุนไว้เยอะมาก ชนิดที่ว่าพอใช้กันอีก เกือบ 3 ปีเลยทีเดียว

หลังจากนั้นก็ได้ไปโอซาก้า ก็ไปถอยมากับมือตัวเองคะ เป็น Limited edition รุ่นมินนี่เมาส์

ถอยมา 3 ขวด

แล้วหลังจากนั้นก็ฝากเพื่อน ฝากพี่ ฝากน้องที่ไปญี่ปุ่นหิ้วมาให้อยู่หลายครั้ง

และก็เริ่มลองตัวเบสทินท์ ก็โอเคนะ แต่หนักหน้าไปหน่อย ดีค่ะที่มีแค่ขวดเดียว

ตอนนี้ที่ญี่ปุ่นนางเปลี่ยนแพคเกจแล้วค่ะ คาดว่าคงปรับสูตรด้วย

จนกระทั่งได้มาพบกับ Solanoveil ค่ะ

ติดหนึบเลย สีเนื้อ แห้งๆ แมทท์ๆ เหมือนทาเบสไปในตัว

ต่อมาก็ไปเที่ยวเกาหลี เลยไปถอย Tony moly กับ Nature republic มาอีกอย่างละชิ้นสองชิ้น (เพราะมันมีโปร 1+1 กับ โปรลด 50% พอดี คือถ้ามันไม่โปรก็คง Solanoveil ต่อไปค่ะ)

แต่ยังไม่ได้ลองใช้นะคะ รอ Solanoveil หมด จะใช้เป็น Next item ค่ะ

ถ้ามีโอกาสจะเอาส่วนผสมมาวิเคราะห์ให้ชมนะคะ

สำหรับ Solanoveil เคยเขียนแล้ว ติดตามที่ได้ที่ลิงค์ข้างล่างนี้เลยค่ะ