Image

รีวิว/วิเคราะห์ส่วนผสมครีมกันแดดนวัตกรรมสุดล้ำ กับ Foto Ultra Age Repair Fusion Water SPF 50 จากแบรนด์ ISDIN

สวัสดีค่ะ สำหรับคอนเทนท์นี้ขอหยิบเอาผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดด (ใน Content จะขอย่อว่ากันแดดนะคะ) อีกชิ้นหนึ่งจากแบรนด์ ISDIN แบรนด์เวชสำอางจากสเปนมาวิเคราะห์ส่วนผสมให้ได้ติดตามกันต่อนะคะ

ก่อนหน้านี้ส่วนตัวได้วิเคราะห์ส่วนผสมตัวกันแดดในรุ่น Active Unify fusion fluid ไป วันนี้จะหยิบเอาอีกรุ่นหนึ่งคือ Age repair fusion water มาวิเคราะห์ส่วนผสมต่อ

โดยมีชื่อเต็มๆ ว่า Foto Ultra Age Repair Fusion Water SPF 50

(สำหรับท่านที่พลาดไปสามารถติดตามรับชมได้ที่ https://miyeonthereviewer.com/2022/02/15/isdin-activeunify/)

ตัวนี้มาในขวดแบบปั๊ม

สูตรนี้ ถ้าอิงตามที่แบรนด์เคลมจะมีจุดเด่นอยู่ 5 ด้าน ได้แก่

  • ปกป้องผิวจากรังสี UV ได้ดี
  • ไม่ระคายเคืองต่อดวงตา
  • เหมาะกับทุกสภาพผิว เพราะมีเนื้อสัมผัสที่บางเบา ซึมซาบไว และให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว
  • ทาได้บนผิวที่เปียก
  • เป็นมิตรกับท้องทะเล

ว่าแล้วก็ต้องเอาไปใช้ที่ริมทะเล (ไม่ได้ลงไปเล่นน้ำให้เปียกถึงใบหน้า) ส่วนตัวค่อนข้างประทับใจกับสิ่งที่ได้ คือ ผิวไม่แสบร้อน ไม่ระคายเคือง ไม่แดง (สัมผัสแดดบริเวณชายหาดช่วงประมาณ 11 โมง อยู่กลางแดดประมาณ 1 – 2 ชั่วโมง)

เนื้อสัมผัสจะบางเบากว่าตัว Active unify ซึ่งในจุดนี้อธิบายได้ด้วยเทคโนโลยี Fusion water ซึ่งเป็น เทคโนโลยีเนื้อสัมผัสที่ผลิตตำรับให้มีลักษณะการไหลแบบพิเศษที่ในทางเภสัชกรรมเรียกว่า Thixotropy หมายความว่า ความหนืดของตำรับจะเปลี่ยนไปตามแรงที่ให้ คือ ถ้าเราไปเกลี่ยไปทา ตัวตำรับจะมีความหนืดลดลงทำให้เราเกลี่ยได้ง่าย แต่พอตั้งทิ้งไว้เฉยๆ ตัวความหนืดจะกลับขึ้นมาคืนค่าเดิมไม่ให้ไหลหกเลอะเทอะ

โดยสูตร Fusion water จะมีน้ำเป็นองค์ประกอบหลักในปริมาณที่สูงกว่า และจะมีความหนืดมากกว่า Fusion fluid

เกลี่ยได้ง่ายเหมือนเดิม แต่สัมผัสตัวนี้จะแห้งไวกว่าตัว Active unify และรู้สึกเบาผิวกว่า

ลักษณะปรากฏที่ได้จะค่อนไปในทาง Matte มากกว่า

ส่วนผสมเป็นดังนี้

จากส่วนผสม ในภาพรวม ผลิตภัณฑ์นี้เป็นกันแดดเคมี ที่มาในเบสของอิมัลชั่นที่มีส่วนผสมของน้ำ และซิลิโคน ไม่มีส่วนผสมของน้ำมันและแอลกอฮอล์

ในด้านของสารบำรุง และสารที่มีประโยชน์ในการบำรุงผิวทำไว้ในหลายสีเช่นเคย และด้วยความที่เป็นผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดด จึงขอเริ่มกล่าวถึงกลุ่มของสารกันแดด ซึ่งแทนด้วยสีฟ้า

  • Butyl methoxydibenzoyl methane (BMDBM, Avobenzone) เป็น Chemical sunscreen ที่เด่นในการกรองรังสี UVA เป็นหลัก เสริมความคงตัวมาด้วยคู่หูของนางคือ Octocrylene
  • Ethylhexyl salicylate หรืออีกชื่อคือ Octisalate ตัวนี้เด่นในการกรองรังสี UVB
  • Phenylbenzimidazole sulfonic acid (PBSA) จุดเด่นของน้องคือเป็นกันแดดเคมีที่ละลายน้ำได้ เน้นกรองรังสี UVB เป็นหลัก กรองรังสี UVA ได้ในช่วงน้อยๆ ข้อมูลความคงตัวและความปลอดภัยค่อนข้างดี เวลาใช้ร่วมกันกับกันแดดเคมีตัวอื่นๆ จะช่วยเสริมประสิทธิภาพในการป้องกันรังสี UV ได้ดี รวมถึงช่วยเสริมความคงตัวให้แก่ Avobenzone และกันแดดเคมีตัวอื่นๆ ในตำรับ ให้สลายตัวได้ช้าลง
  • Bis-Ethylhexyloxyphenol methoxyphenyl triazine (Bemotrizinol, BEMT, Tinosorb S) เป็น Chemical sunscreen ที่เด่นในการกรองรังสี UVA เป็นหลัก แต่ครอบคลุม Spectrum UVA ตัวน้องละลายในไขมันได้ดีกว่าสารกันแดดเคมีกลุ่มเก่าๆ เวลาเราทานางจะพร้อมออกฤทธิ์ปกป้องแสงแดดได้เร็วกว่าตัวปกติ มีความคงตัวต่อแสงแดดดีขึ้นเมื่อเทียบกับตัวเก่าๆ
  • สำหรับ Polysilicone-15 นั้นให้อารมณ์เหมือนเป็นกันแดดอ้อมๆ มาช่วยเสริมความคงตัวให้กับกันแดดเคมีตัวอื่นๆ อีกทีหนึ่ง

เสร็จจากสารกันแดดขอกล่าวถึงพระเอกของเรา ถึงแม้ว่าจะชื่อ Plankton extract แต่จริงๆ แล้ว นางเป็นสารนวัตกรรมสิทธิบัตรของทาง ISDIN โดยมีการเตรียม Plankton extract ด้วยกรรมวิธีพิเศษ ภายใต้ชื่อ DNA Repairsomes® จะมีเอนไซม์ที่ชื่อ Photolyase ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่มีอยู่แล้วตามธรรมชาติของเรา เอนไซม์นี้มีหน้าที่คอยสอดส่องหาองค์ประกอบของผิวที่ถูกทำลายไปเพราะรังสี UV จากแสงแดดและเข้ามาฟื้นฟู โดยอาศัยพลังงานจากแสงสีน้ำเงิน (Blue light) เป็นตัวกระตุ้น (Kavakli, et al., in Advances in Protein Chemistry and Structural Biology, 2019) มีผู้เสนอชื่อให้กระบวนการนี้ว่า Photorepair หรือ Photoreactivation

โดยการเกิด Photorepair นั้นจะเกิดที่ตำแหน่ง cyclobutane pyrimidine dimer (CPD) และ pyrimidine-pyrimidone (6–4) photoproduct (6–4PP) ที่เกิดขึ้นมาเพราะรังสี UV ไปทำลายองค์ประกอบในสาย DNA (Liu, et al. Phys Chem Chem Phys. 2015; 17(18): 11933–11949.) ซึ่งถือว่าเป็นประเด็นที่น่าสนใจสำหรับวงการเครื่องสำอาง โดยมีการกล่าวถึงในบทความว่า การฟื้นฟูความเสียหายดังกล่าวจะช่วยชะลอการเกิดริ้วรอย (Aging) รวมไปถึงมะเร็งผิวหนัง (Dermatol Ther (Heidelb) 9, 103–115 (2019))

ถัดมาเป็นสารบำรุงในกลุ่มของเปปไทด์ที่แทนด้วยสีม่วง ซึ่งมีด้วยกัน 3 ตัวหลักๆ โดยจะขอเลือกกล่าวถึงเปปไทด์ที่มีชื่อว่า Pentapeptide-34 Trifluoroacetate ซึ่งมีชื่อทางการค้าว่า peptide q10™ biofunctional ของบริษัท Ashland chemicals โดยนางมีคุณสมบัติพิเศษ คือ ไปเสริมกระบวนการสังเคราะห์ Coenzyme Q10 ตามธรรมชาติของผิว ซึ่งปกติแล้ว Q10 เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูงมาก การมี Q10 อยู่ ก็หมายความว่าผิวเราจะมีความสามารถในการกำจัดอนุมูลอิสระที่ดีขึ้นนั่นเอง นอกจากนี้ตัวเปปไทด์นี้ยังเสริมการสังเคราะห์สารพลังงานสูง ATP และลดเลือนริ้วรอยให้แลดูจางลงไปพร้อมๆ กัน

สีชมพูเป็น Antioxidant vitamin อย่างวิตามินซี และ อี

มี Hyaluron ช่วยดูแลเรื่องความชุ่มชื้น

สีเขียว Silica ให้ประโยชน์ในการควบคุมและดูดซับความมันส่วนเกินบนผิว อาจจะทำงานร่วมกับ Polymethyl Methacrylate เพื่อให้สัมผัสที่นวลเนียน แห้งสบายเมื่อทา

และสีส้ม Tropolone เป็น Antioxidant สังเคราะห์ที่ช่วยปกป้องเนื้อสารในตำรับไม่ให้เสื่อมสภาพ

แน่นอนว่าพอเป็นแบรนด์ ISDIN ทางแบรนด์มีการทดสอบประสิทธิภาพและความปลอดภัยของตำรับอยู่หลายชิ้นมากๆ 

โดยขอยกตัวอย่างการทดสอบประสิทธิภาพในการฟื้นฟูผิวของตำรับนี้ ที่ได้ตีพิมพ์ลงวารสาร โดยเป็นการศึกษาประสิทธิภาพในการปกป้องผิวจากรังสี UV ของตำรับกันแดดเบสน้ำที่มีส่วนผสมของ เอนไซม์ Photolyase encapsulated in liposome, Active biopeptides, Antioxidants, และ hyaluronic acid ทั้งในระดับเซลล์เพาะเลี้ยง ผิวหนังเลี้ยง จนไปถึงในอาสาสมัคร พบว่าให้ผลในการปกป้องและฟื้นฟูผิวได้ดี ทั้งจากแสงแดดและมลภาวะต่างๆ (Narda, et al. Clin Cosmet Investig Dermatol. 2019; 12: 533–544.)

อีกจุดที่ส่วนตัวค่อนข้างประทับใจ คือไม่ใช่แค่สารบำรุงเท่านั้นที่มีประโยชน์ที่ดีกับผิว สารก่อฟิล์มในตำรับยังสามารถเคลือบปกป้องผิว และลดการเกาะติดของมลภาวะต่างๆ บนผิว โดยทางแบรนด์ได้ทำการทดสอบด้วยการเอาผง Carbon มาทาทับบริเวณที่ทาตำรับ เทียบกับบริเวณที่ไม่ได้ทาแล้วล้างออก พบว่าบริเวณที่ทาตำรับ มีปริมาณของผง Carbon เหลืออยู่น้อยมากๆ เมื่อเทียบกับไม่ได้ทา

(Image from ISDIN)

มาให้คะแนนกันดีกว่าค่ะ

สำหรับผลิตภัณฑ์นี้ส่วนตัวให้คะแนนดังนี้ค่ะ

  1. สารกันแดดและสารบำรุงอื่นๆ เรียกได้ว่าทำมาได้ไม่มีที่ติตามที่ได้กล่าวไปในด้านบน และตรงตามคอนเซปท์ ป้องกัน ฟื้นฟู และ ดูแลไปพร้อมๆ กัน ให้ไป 5 ฟลาสก์
  2. ส่วนผสมอื่นๆ ไม่มีสารที่ไม่เป็นมิตรกับผิว ได้รับไป 5 ฟลาสก์
  3. การใช้งาน อันนี้ต้องบอกเลยว่าขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ เพราะตอนเอาไปใช้ที่กทม. นั้นคือ ฟีลแบบดีงามมาก ทาแล้วค่อนข้างเบาสบายผิว แต่ไม่ถึงกับเรียบเนียนผ่องเหมือนรุ่น Active Unify จะให้ความรู้สึกที่ค่อนไปทาง Matte มากกว่า แต่ถ้าเอามาใช้ที่ทางเชียงใหม่เชียงราย ตัวนี้จะรู้สึกมีอาการผิวแห้งระหว่างวันได้ในบางวัน แต่เรื่องของรอยแดง หรือการระคายเคืองหลังจากออกแดด ทั้งรุ่นนี้และรุ่น Active Unify คือทำมาได้ดีไม่แพ้กัน รับไป 5 ฟลาสก์

สําหรับรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ทางแบรนด์ ISDIN สาขาประเทศไทย ได้โดยตรงเลยนะคะ

Facebook https://www.facebook.com/ISDINTHAILAND/

“Flagship Store” ShopeeMall https://invol.co/clb1zun

“Flagship Store” LazMall : https://invol.co/clb1ztm

Disclaimer/conflict of interests: ผลิตภัณฑ์นี้ได้รับการสนับสนุนจากทางแบรนด์ ISDIN ประเทศไทย การรีวิวครั้งนี้เป็นการวิเคราะห์ส่วนผสม/วัตถุดิบตามหลักการทางวิทยาศาสตร์เครื่องสำอางและอาศัยความเห็นส่วนบุคคล และผู้เขียนไม่ได้มีผลประโยชน์ใดๆในการขายสินค้า โปรดใช้วิจารณญาณ

Image

รีวิว/วิเคราะห์ส่วนผสมผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดดสุดล้ำค่าจาก ISDIN รุ่น FOTO ULTRA100 สูตร Active Unify fusion fluid

สวัสดีค่ะ สำหรับคอนเทนท์นี้ขอหยิบเอาผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดด (ใน Content จะขอย่อว่ากันแดดนะคะ) จากแบรนด์ ISDIN แบรนด์เวชสำอางจากสเปนมาวิเคราะห์ส่วนผสมให้ได้ติดตามกันนะคะ

ถ้ากล่าวถึงกันแดดตอนนี้ที่ดังมากๆ และโดดเด่นด้วยเทคโนโลยีของ Texture คงหนีไม่พ้นกันแดดจากแบรนด์ ISDIN  

กันแดดของทางแบรนด์ที่ส่วนตัวได้รับมามีด้วยกันหลายสูตร แต่จะขอหยิบเอา 2 สูตรมารีวิว คือ Active unify fusion fluid และ Age repair fusion water นะคะ

โดย content แรกนี้จะขอเน้นวิเคราะห์ส่วนผสมของสูตร Active unify ซึ่งเป็นครีมกันแดดที่พัฒนามาเป็นพิเศษสำหรับผิวพรรณที่มีปัญหาฝ้า หมองคล้ำ และจุดด่างดำก่อนค่ะ

น้องมาในหน้าตาประมาณนี้นะคะ

สำหรับแพคเกจจะเป็นรูปแบบขวดที่มีปากด้านในเป็นปลายแหลมไว้หยดเนื้อผลิตภัณฑ์ออกมา

เนื้อมาในเนื้อโลชั่นที่มีความหนืดปานกลาง ซึ่งส่วนหนึ่งน่าจะเป็นเพราะตัวผลิตภัณฑ์มีค่า SPF ค่อนข้างสูง (จากข้อมูลที่ได้รับและค้นคว้าเพิ่มเติม คือ ตัวผลิตภัณฑ์นี้มีค่า SPF มากกว่า 100)

สัมผัสค่อนข้างชุ่มชื้นแต่ไม่ถึงกับเหนอะหนะ เกลี่ยได้ง่าย ไม่ทิ้งคราบขาว ซึ่งต่างจากที่ตัวเองคิดไว้ลิบลับเลย ตอนแรกพอดูจากส่วนผสมแล้วคิดว่าจะออกมาแห้งหน่อย แต่พอได้ใช้จริงคือดีงาม ไม่แห้งและไม่เยิ้มในระหว่างวัน

ถ้าดูใต้แสงแฟลช จะสังเกตเห็นว่ามีความมันวาวอยู่บ้างเล็กน้อย

จากที่ได้ลองเนื้อสัมผัส จุดที่ติดใจ คือ น้องช่วยปรับผิวให้แลดูเรียบเนียนขึ้น อารมณ์คล้ายๆ การทา Primer ก่อนการแต่งหน้าเลยทีเดียว

ถ้าพูดถึงปัญหา Sensitive skin บ้านเรามักจะเรียกแบบเหมารวมว่าเป็นผิวบอบบางแพ้ง่าย แต่จริงๆ แล้วคำว่า Sensitive skin นั้นมีความหมายค่อนข้างกว้าง และใช้รวมถึงสภาพผิวที่มีแนวโน้มเกิดปัญหาต่างๆ ได้ง่ายกว่าผิวปกติ ปัญหาเหล่านี้เช่น

  • การระคายเคือง
  • การเกิดสิวอุดตัน
  • การเกิดรอยแดง
  • การเกิดจุดด่างดำ รวมทั้งจุดด่างดำหลังกระบวนการอักเสบที่เรียกว่า Post-inflammatory hyperpigmentation (PIH)

โดยตัว Active unify นี้ทางแบรนด์ออกแบบมาเพื่อใช้สำหรับผิวบอบบางชนิดที่มีปัญหาฝ้า และผิวไวต่อแดด โดยเมื่อออกแดด หรือสัมผัสแสงแดดเป็นเวลานานแล้วอาจจะเกิดการระคายเคือง จุดด่างดำต่างๆ ได้ง่ายกว่าผิวปกติ โดยในส่วนผสมจะมีสารที่ให้คุณสมบัติดูแลด้านการอักเสบและระคายเคือง รวมถึงดูแลเรื่องปัญหาจุดด่างดำจากแดดที่เรียกว่า Sun spot

สำหรับกลไกในการเกิดจุดด่างดำจากรังสี UV นั้นมี 2 แบบ ได้แก่ แบบแรก รังสี UV ไป Oxidize เมลานินที่มีอยู่เดิมให้มีสีเข้มข้น ผลนี้จะเกิดขึ้นได้รวดเร็ว ทำให้เราพบว่าสีผิวมักจะคล้ำขึ้นหลังจากออกแดดไปไม่นาน

อีกแบบ รังสี UV จะไปเสริมการสร้างยีนที่มีชื่อว่า POMC ซึ่งจะไปทำให้ปริมาณของฮอร์โมน alpha-MSH ซึ่งเป็นเหมือนคุณแม่แห่งการสร้างเมลานิน ที่จะลงไปสั่งงานให้ Melanocyte สร้างเมลานินออกมา ทำให้สีผิวเข้มข้น ผลนี้จะใช้เวลานานกว่า ภาพด้านล่างนี้ส่วนตัวลองทำมาเพื่ออธิบายผลของรังสี UV ที่เกิดผ่านระบบ POMC ค่ะ

จริงๆ เรื่องของรังสี UV และการสร้างเม็ดสียังมีรายละเอียดอีกเยอะนะคะ แต่ขอละเว้นไว้ก่อนนะคะ

ก่อนไปดูส่วนผสม อยากเล่าถึงเทคโนโลยีของ Fusion fluid และ Fusion water อีกนิดหน่อย ว่าเทคโนโลยีเนื้อสัมผัส หรือ Texture เหล่านี้ของทาง ISDIN มันเป็นอย่างไร จากที่ได้ลองค้นข้อมูลเพิ่มเติมพอจะสรุปความได้ว่า ทั้งตำรับที่เป็น Fusion fluid และ Fusion water เป็นเทคโนโลยีหนึ่งของแบรนด์ที่ผลิตตำรับให้มีลักษณะการไหลแบบพิเศษที่ในทางเภสัชกรรมเรียกว่า Thixotropy หมายความว่า ความหนืดของตำรับจะเปลี่ยนไปตามแรงที่ให้ คือ ถ้าเราไปเกลี่ยไปทา น้องจะมีความเหลวมากขึ้นทำให้เราเกลี่ยได้ง่าย แต่พอตั้งทิ้งไว้เฉยๆ น้องจะมีความหนืดที่สูงในระดับหนึ่ง

ซึ่งตัวที่เป็น Fusion fluid จะมีความหนืดกว่าตัวที่เป็น Fusion water เล็กน้อย

และแน่นอนว่าพอเป็น ISDIN จะมาแบบธรรมดาๆ ไม่ได้ และใช่ค่ะ น้องผ่านการทดสอบประสิทธิภาพและความปลอดภัยทั้งในระดับหลอดทดลองและในอาสาสมัครมาเรียบร้อย โดยขอหยิบยกเอางานหนึ่งมาเล่าให้ฟังค่ะ

เป็นการทดสอบประสิทธิภาพในการป้องกันแสงแดดและความปลอดภัยของตำรับ Unify ในอาสาสมัครที่มีปัญหาฝ้าในความรุนแรงระดับเล็กน้อยและปานกลาง เป็นเวลา 84 วัน ความน่าสนใจอยู่ที่ หลังการใช้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าว อาสาสมัครมีคะแนนความรุนแรงของฝ้าลดลง เมื่อประเมินด้วย MASI score (Melasma area and severity index) ซึ่งการประเมินด้วย MASI จะมีวิธีคำนวณให้ออกมาเป็นตัวเลข

(Image from ISDIN)

มาดูกันที่ส่วนผสมดีกว่าค่ะ

สำหรับส่วนผสมเป็นดังนี้

สำหรับส่วนผสมวันนี้ทำไว้อยู่หลายหมวดสีนะคะ

เนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดดเลยขอโฟกัสที่สีฟ้า กลุ่มของสารกันแดดก่อน

  • Butyl methoxydibenzoyl methane (BMDBM, Avobenzone) เป็น Chemical sunscreen ที่เด่นในการกรองรังสี UVA เป็นหลัก เสริมความคงตัวมาด้วยคู่หูของนางคือ Octocrylene
  • Bis-Ethylhexyloxyphenol methoxyphenyl triazine (Bemotrizinol, BEMT, Tinosorb S) เป็น Chemical sunscreen ที่เด่นในการกรองรังสี UVA เป็นหลัก แต่ครอบคลุม Spectrum UVA ตัวน้องละลายในไขมันได้ดีกว่าสารกันแดดเคมีกลุ่มเก่าๆ เวลาเราทานางจะพร้อมออกฤทธิ์ปกป้องแสงแดดได้เร็วกว่าตัวปกติ มีความคงตัวต่อแสงแดดดีขึ้นเมื่อเทียบกับตัวเก่าๆ
  • Titanium dioxide ตัวนี้เป็นกันแดดแบบกายภาพ ที่กันได้ค่อนข้างกว้างทั้ง UVA, UVB และมีความคงตัวที่ดีกว่ากันแดดกลุ่มเคมี

สูตรกันแดด Active Unify นี้ทางแบรนด์เคลมที่การเลือกใช้ส่วนผสมของสารบำรุง 3 ชนิด ภายใต้ชื่อ DP3 Unify complex ซึ่งประกอบด้วย Tetrapeptide-30, Phenylethyl resorcinol และ Niacinamide มาดูรายละเอียดทีละตัวเลยนะคะ

  • Tetrapeptide-30 ตัวนี้รู้จักกันในหลายชื่อ เช่น PKEK หรือ TEGO® Pep 4-Even ซึ่งเป็นเปปไทด์สิทธิบัตรที่มีประโยชน์ที่ดีกับผิวหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของปัญหาจุดด่างดำ สีผิวที่ผิดปกติ เรื่องของการอักเสบระคายเคือง และปัญหาสิว โดยหลักๆ น้องจะเด่นในเรื่องของการปรับโทน และ Complexion ของผิวให้มีสีสม่ำเสมอ ดูมีสุขภาพดี ทางผู้ผลิตวัตถุดิบได้ทดสอบประสิทธิภาพของเปปไทด์ดังกล่าวหลายอย่างทั้งในระดับหลอดทดลองและในอาสาสมัคร

ขอหยิบการทดสอบชิ้นหนึ่งมาเล่าให้ฟังนะคะ การทดสอบนี้ให้อาสาสมัครทาตำรับที่มี Tetrapeptide-30 แล้วสัมผัส UVB ก่อนจะไปทำ Biopsy เอาชิ้นเนื้อมาตรวจวัดหายีนบางชนิดหลังจากโดน UVB ไป 24 ชั่วโมง ได้ผลตามรูปค่ะ

(Image from Evonik Nutrition & Care GmbH, 2011)

จากภาพเราจะเห็นว่า

  1. ปริมาณของ POMC gene ลดลง จากที่ได้เกริ่นไปก่อนหน้าว่า POMC ที่เพิ่มขึ้นจากรังสี UVB จะทำให้เกิดการสร้างเม็ดสี และทำให้ผิวคล้ำ กรณีนี้พบว่า POMC ที่เพิ่มมาน้อยกว่าครีมเปล่า ก็แปลว่า เวลาโดนแดดสีผิวก็จะไม่คล้ำขึ้นมากเหมือนไม่ได้ทาอะไร
  2. ปริมาณของ Tyrosinase gene ที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าครีมเปล่า นั่นคือ ผิวก็จะไม่คล้ำขึ้นมากเหมือนไม่ได้ทาอะไร
  3. ส่วนของ COX-2 เป็นยีนที่สร้างเอนไซม์ COX-2 ที่เกี่ยวกับการอักเสบ และ TNF-a เองก็เป็นยีนที่สร้างสาร Cytokine ที่ทำให้เกิดการอักเสบต่อไป

ผลชุดนี้พอจะสรุปได้คร่าวๆ ว่า Tetrapeptide-30 มีประโยชน์ปกป้องผิวไม่ให้สีผิวคล้ำขึ้น และป้องกันการอักเสบ (เมื่อเทียบกับไม่ได้ทา)

  • Phenylethyl resorcinol เรารู้จักน้องในชื่อของ Symwhite® 377 น้องเป็น Whitening ที่มีประโยชน์ในการยับยั้งเอนไซม์สร้างเม็ดสีอย่าง Tyrosinse โดยตรง มีการศึกษาในอาสาสมัคร โดยให้ใช้ครีมที่มีส่วนผสมของสารนี้กับสาร Whitening อื่นๆ เป็นเวลา 12 สัปดาห์ พบว่าผิวขาวขึ้น (J Cosmet Dermatol. 2013;12(1):12-7.) อีกการทดสอบพบว่าอาสาสมัครที่ใช้ครีมที่มีส่วนผสมของสารนี้พบว่ามีรอยฝ้าจางลง (J Cosmet Dermatol. 2011;10(3):189-96.)
  • Niacinamide น้องคือเจ้าหญิงแห่งวงการความงามที่แท้จริง ไม่ต้องพูดเยอะ น้องมีประโยชน์โดดเด่นกับผิวหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการลดการอักเสบระคายเคือง ความเป็น Whitening โดยไปลดการส่งผ่าน Melanin ที่สร้างเสร็จแล้วไม่ให้ออกไปสู่ด้านนอก รวมไปถึงเรื่องการดูแลและฟื้นฟู Barrier ผิว

ซึ่งสารทั้ง 3 ในสูตร DP3 นี้ทำงานร่วมกันได้อย่างลงตัว เสมือนเป็นผลิตภัณฑ์ Whitening ขนาดย่อม ตามภาพที่ทางแบรนด์เสนอไว้ค่ะ

(Image from ISDIN)

  1. ก่อนการสร้างเมลานิน: Tetrapeptide-30 ไปชะลอไม่ให้ Melanocyte ถูกกระตุ้นให้ทำงาน
  2. Symwhite 337 ไปป้องกันไม่ให้เกิดการสร้างเมลานิน ผ่านการยับยั้งเอนไซม์ Tyrosinase
  3. หลังการสร้างเมลานิน: Niacinamide ป้องกันการส่งผ่านของเม็ดสีที่สร้างเสร็จแล้วไม่ให้ออกไปด้านนอก

ที่รู้สึกว่าหลังทาแล้วให้ความเรียบเนียนเหมือนเป็น Primer น่าจะมาจาก Nylon-12 ที่ตัวเขาเองเป็นอนุภาคทรงกลมที่มีคุณสมบัติอำพรางรูขุมขนและริ้วรอยตื้นๆ ให้สัมผัสนุ่มนวล ร่วมกับความสามารถในการดูดซับน้ำมันจาก Silica

ส่วนผสมอื่นๆ เรียกได้ว่าเลือกมาได้อย่างดิบดี แต่จะติก็ตรงแอบมี Alcohol ติดมาหน่อย ซึ่งจุดนี้ส่วนตัวยอมรับว่าค่อนข้าง Surprise เพราะเนื้อไม่ได้แห้งตามที่คิดไว้เลย ชุ่มชื้นมากเสียด้วยซ้ำ

มาให้คะแนนดีกว่าค่ะ

  1. สารกันแดดและสารบำรุง ให้น้องไปเถอะค่ะ ทั้งในแง่ของสารกันแดดที่เพียบพร้อมในการดูแลปกป้องผิวจาก UVB, UVA และสารบำรุงที่มาดูเรื่องของการอักเสบระคายเคือง และดูแลเรื่องของเม็ดสีไปพร้อมๆ กัน จัดไป 5 ฟลาสก์
  2. ส่วนผสมอื่นๆ มีความจำเป็นจะต้องตัดคะแนนเพราะมี Alcohol ไป 1 คะแนน แต่เอาจริงๆ คือ แทบไม่รู้สึกว่ามี Alcohol เลย ออกจะชุ่มชื้นเสียด้วยซ้ำ ให้ไป 4 ฟลาสก์
  3. การใช้งาน ตามที่ได้เล่าให้ฟังว่าส่วนตัวค่อนข้างชอบเนื้อกันแดดสูตร Unify นี้มากๆ เพราะนางค่อนข้างชุ่มผิว และให้ความรู้สึกที่แบบว่าทาแล้วดู Rich เอาไปใช้จริงที่ทะเลมาก็รู้สึกว่าทางแบรนด์ทำมาได้ค่อนข้างดี แม้จะอยู่กลางแดดนานในระดับหนึ่งแต่ก็ไม่รู้สึกแสบ ร้อน หรือระคายเคืองผิวเพราะโดนแดดแต่อย่างใด ให้ไป 5 ฟลาสก์

สําหรับรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ทางแบรนด์ ISDIN สาขาประเทศไทย ได้โดยตรงเลยนะคะ ตอนนี้ทางแบรนด์มีแคมเปญเดือนแห่งความรักด้วยค่ะ

Facebook https://www.facebook.com/ISDINTHAILAND/

“Flagship Store” ShopeeMall https://invol.co/clb1zun

“Flagship Store” LazMall : https://invol.co/clb1ztm

Disclaimer/conflict of interests: ผลิตภัณฑ์นี้ได้รับการสนับสนุนจากทางแบรนด์ ISDIN ประเทศไทย การรีวิวครั้งนี้เป็นการวิเคราะห์ส่วนผสม/วัตถุดิบตามหลักการทางวิทยาศาสตร์เครื่องสำอางและอาศัยความเห็นส่วนบุคคล และผู้เขียนไม่ได้มีผลประโยชน์ใดๆในการขายสินค้า โปรดใช้วิจารณญาณ

Image

ทะลายกรุรีวิวกันแดด Scinic (ไซน์นิค) ยก 5 สูตร พร้อมแนะนำวิธีเลือกใช้ตามสไตล์มียอน

สวัสดีค่ะ

กันแดดนี่เสมือนเป็นไอเทมสำคัญที่ขาดไม่ได้เลย เพราะรังสี UV จากแสงแดดนั้นส่งผลเสียมากมายกับผิวเรา ไม่ว่าจะเป็นแก่ก่อนวัย สีผิวไม่สม่ำเสมอ กระดำกระด่าง จนไปถึงอาจเกิดมะเร็งผิวหนังได้เลยทีเดียว

แล้วนี่ยิ่งกลางฤดูร้อน แดดยิ่งรุนแรงเข้าไปอีกค่ะ

วันนี้มี่เลยเอากันแดดของ Scinic หรือ ไซน์นิค แบรนด์ดังจากเกาหลี นางออกกันแดดมา 5 สูตร ในกลุ่มของ Enjoy sun เพื่อตอบโจทย์ชีวิตของเราๆ เรียกได้ว่าครอบคลุมทุกความต้องการ และสภาพผิวเลยทีเดียวค่ะ อยากให้อ่านรีวิวจนจบ เพราะแบรนด์นี้เค้ากล้านำเข้ามาขายที่ไทยในราคาเท่ากับที่เกาหลีเลย ไม่ต้องเสียเวลาหิ้วให้หนักให้เสียเวลา

หน้าตาของพวกนางเป็นดังนี้ค่ะ

sun 3.JPG

นางเป็น 5 ศรีพี่น้อง มาด้วยกัน 5 สูตร เริ่มจาก

  • Waterproof sun cream หลอดสีฟ้าคาดส้มแดง เป็นกันแดดสูตรกันน้ำกันเหงื่อ มาในเนื้อเอสเซนส์บางเบา ซึมง่าย ไม่เหนอะหนะ มีค่า SPF 50+ และ PA++++ มาในคอนเซปท์ “กันแดดสูตรกันน้ำกันเหงื่อ”
  • Tone up sun cream หลอดสีขาว มีแถบสีชมพู/เทาด้านล่าง ตัวนี้เป็นสูตรผสม Pigment ช่วยปรับสภาพสีผิวให้กระจ่างใส ใช้เป็น Makeup base ได้ในตัว มีค่า SPF50+ และ PA++++ เช่นเดียวกัน มาในคอนเซปท์ “บล็อกแดด ผิวไบรท์ ไม่หลอกตา”
  • Silky pore sun milk ตัวนี้มาในขวดสีขาว ฝาเขียว เป็นเบสแบบเนื้อน้ำนม บางเบา ซึมง่าย แห้งไวไม่เหนอะหนะ ไม่หนักผิว เหมาะกับผิวมัน มีค่า SPF50+ PA+++ มาในคอนเซปท์ “กันแดดน้ำนมพรางรูขุมขน”
  • Safe shield sun cream นางมาในหลอดสีน้ำเงินคาดเขียวเหลือง เป็นกันแดดเนื้อเอสเซนส์ ซึมไว ไม่เหนอะหนะ เหมาะกับผิวแพ้ง่าย มีค่า SPF50+ PA++++ มาในคอนเซปท์ “Block แสงขั้นสุด ซึมไวใน 5 วิ”
  • Perfect daily sun cream มาในหลอดสีส้มคาดแดงอันร้อนแรง เป็นเบสแบบครีม เกลี่ยง่าย ไม่เป็นคราบ มีค่า SPF50+ PA+++ ตัวนี้นางเป็นตัว Top ติด Best seller ที่เกาหลี ได้รางวัลจากรายการ Beauty talk เมื่อปี 2017 มาในคอนเซปท์ “กันแดดในอุดมคติ”

 

เปรียบเทียบเนื้อของกันแดดทั้ง 5 ตัวซักหน่อย

sun 1.jpg

 

sun 2

ถ้าพูดถึงส่วนผสมที่สำคัญที่สุดของเครื่องสำอางป้องกันแสงแดด ก็คงหนีไม่พ้น สารกันแดด โดยสารกันแดดมีด้วยกัน 2 รูปแบบหลักๆ คือ สารกันแดดชนิดกายภาพ (Physical sunscreen) และ สารกันแดดเคมี (Chemical sunscreen)

  • สารกันแดดกายภาพ จะเป็นกลุ่มของ Titanium dioxide และ Zinc oxide ทำหน้าที่สะท้อนกระจายรังสี UV ออกไป
  • สารกันแดดเคมี จะเป็นกลุ่มของสารเคมี ทำหน้าที่ดูดซับรังสี UV เอาไว้ แล้วคายออกไป

 

ถ้าพิจารณาตามกลไกของสารกันแดด สารกันแดดเคมีที่มีการดูดซับรังสีไว้กับตัวและคายพลังงานออกมา ย่อมจะต้องเสื่อมลง จึงต้องทาทับทุกๆ 2 ชั่วโมง เมื่อออกแดดนานๆ หรือโดนแดดจัดๆ ส่วนกันแดดแบบกายภาพนั้นตามกลไกคือเขาจะสะท้อนรังสีออกไป ถ้าเราไม่ไปล้างไปเช็ด หรือเหงื่อไม่ออก มันก็จะอยู่บนผิว สะท้อนรังสีได้ยาวนานกว่า

 

มี่เคยอัพรายละเอียดเรื่องแสงแดดและกันแดดไว้ ถ้าใครสนใจไปตามอ่านได้ที่ https://cosmeknowledge.wordpress.com/2014/09/09/sun-and-sunscreen/ เลยค่ะ

 

มาดูรายละเอียดทีละสูตรเลยนะคะ

  • สูตร Waterproof

ถ้าเราพูดถึงกันแดดกันน้ำ เรามักจะจิตนาการถึงกันแดดเหนียวๆ หนักๆ ที่ทาก่อนลงไปทะเล หรือก่อนลงน้ำ ผิดคาดเลย กันแดดตัวนี้เนื้อเบามาก เบาจนไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นกันแดดกันน้ำ นางพลิกมิติและการรับรู้ถึงกันแดดและกันน้ำไปเลย ด้วยเนื้อเบา ซึมไว เกลี่ยง่าย ไม่เป็นปื้นขาว มาพร้อมกลิ่นหอมอ่อนๆ

waterproof

ในด้านส่วนผสม นางมาในกันแดดแบบเคมี มาในเบสชนิดอิมัลชั่นของน้ำและซิลิโคน ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ เสริมสารบำรุงมาหลายชนิด เน้นไปที่ด้านการลดการอักเสบและระคายเคืองของผิว มีส่วนของไขมันจากธรรมชาติที่ช่วยทดแทนไขมันจำเป็นให้แก่ผิว และมีส่วนผสมของสารสกัดพืชที่ช่วยเสริมปกป้องผิวจากรังสี UV

 

แต่ถึงจะเป็นสูตรกันน้ำ ก็ไม่ได้แปลว่าจะต้องใช้ตอนจะไปว่ายน้ำ หรือ ไปทะเล หรือจะสงกรานต์ แต่ก็สามารถใช้ได้แบบ Everyday โดยเฉพาะหน้าร้อน ที่เหงื่อออกเยอะๆ เพราะเนื้อกันแดดไม่ได้หนักผิวเลย

 

 

  • สูตร Tone Up

เป็นกันแดดที่มีส่วนผสมของ Pigment ที่ช่วยอำพรางสีผิวและปรับสภาพผิวให้กระจ่างใสขึ้นมา 1 Step ใช้แทน Makeup base ได้ดี เนื้อกันแดดจะข้นขึ้นมานิดหน่อย ตอนแรกลงอาจจะดูขาวนิด แต่พอเกลี่ยไปจะกลืนไปกับสีผิว ไม่ขาววอก ไม่เทา ไม่ลอย  ตัวนี้มีกลิ่นน้ำหอมจางมากๆ แทบจะไม่ได้กลิ่นค่ะ

 

tone

ดูแบบนี้อาจจะไม่ชัด ลองจัดให้ดูแบบจริงจังเลยดีกว่าค่ะ

ผิวรวม

ในด้านของส่วนผสม นางเป็นกันแดดลูกผสมกายภาพ/เคมี มาด้วยเบสอิมัลชั่น ที่มีน้ำ น้ำมัน และซิลิโคนนิดหน่อยพอกรุบกริบ นางมีส่วนผสมของสารบำรุงอยู่หลายชนิด ให้ประโยชน์ไปในทางด้าน Whitening, ต่อต้านอนุมูลอิสระ เป็น antioxidant ชะลอวัย ลดการอักเสบระคายเคือง รวมไปถึงด้านริ้วรอยก็มี Adenosine มาช่วยด้วยอีกส่วน

 

 

 

  • สูตร Safe shield เซฟชิลด์

ตัว Safe shield นี้มาในบสแบบเนื้อครีมที่ค่อนข้างบางเบา สมกับที่แบรนด์เรียกเป็นกันแดดเนื้อเอสเซนส์ เกลี่ยง่าย ซึมไว ภายในระยะเวลา 5 วิ ไม่เหนอะหนะไม่หนักผิว มีกลิ่นอ่อนๆ ทางแบรนด์เคลมว่ากันน้ำกันเหงื่อได้ด้วยหละ

safe shiled

ในด้านส่วนผสม นางเป็นกันแดดแบบลูกผสมกายภาพ/เคมี มาในเบสแบบอิมัลชั่นที่มีส่วนผสมของ น้ำ น้ำมัน แบะซิลิโคนนิดหน่อยพอกรุบกริบ เสริมสารบำรุงมาหลายชนิด ให้ประโยชน์ในด้านของการลดการอักเสบ ระคายเคือง เป็น Antioxidant และให้ความรู้สึกสบายผิว

 

 

  • สูตร Perfect daily

ที่ทางแบรนด์ว่าเป็นกันแดดในอุดมคติ นางได้รับรางวัล Best seller จากรายการ Beauty Talks พอได้ลองก็เข้าใจเลยว่าทำไมได้มา นางมาในเบสแบบเนื้อครีมนุ่มแน่น เกลี่ยง่าย ให้สัมผัสนุ่ม ไม่หนักผิว ตอนแรกเกลี่ยอาจจะดูเหมือนมีปื้นขาวนิดๆ แต่พอเกลี่ยไปซักครู่ ก็จะหายไปหมด สีขาวๆเหล่านั้นก็คือเม็ดของกันแดดกายภาพนั่นเองค่ะ พอเขาเรียงตัวบนผิวเสร็จ ด้วยขนาดเล็กมาก นางก็จะไม่มีความทึบแสงให้เราเห็น

perfect

นางเป็นกันแดดแบบผสมกายภาพ/เคมี มาในเบสกันแดดแบบอิมัลชั่น ประกอบด้วย น้ำ และซิลิโคนนิดหน่อยพอกรุบกริบ มีส่วนของน้ำมันสังเคราะห์อยู่นิดหน่อย ช่วยเคลือบผิวไม่ให้แห้งตึง เสริมสารบำรุงมามากมายหลายชนิด เด่นไปที่ด้านการเพิ่มความชุ่มชื้น ลดการอักเสบระคายเคือง ช่วยให้ผิวแข็งแรง

 

  • Silky pore sun milk

เป็นกันแดดแบบน้ำนม ที่มีความต่างจากพี่น้อง คือนางมาในขวด เนื้อจะค่อนข้างเหลว เหมือนน้ำนม เกลี่ยง่าย ซึมไว แห้งไวไม่เหนอะหนะ น่าจะเหมาะกับคนที่มีผิวมัน ตัวส่วนผสมจะช่วยอำพรางรูขุมขนได้อีกทาง ช่วยให้ผิวหน้าดูเรียบเนียนขึ้น

 

milk

ในด้านส่วนผสม นางมาในเบสแบบอิมัลชั่น  ทีป่ระกอบด้วยซิลิโคน กับน้ำ ตัวนี้จะมีแอลกอฮอล์อยู่ด้วย เพื่อให้กันแดดแห้งไว ไม่เหนอะหนะ และตอนแอลกอฮอล์ระเหยไปนางจะให้ความรู้สึกเย็นพร้อมกระชับรูขุมขนไปในตัว ส่วนตัวมี่มีผิวแห้งตกบ่ายมาก็จะแห้งตึงหน่อยๆ จึงน่าจะเหมาะกับผิวมันค่ะ

 

ก่อนจะไปวิเคราะห์ส่วนผสมมาตอบคำถามก่อน

กันแดดไซน์นิค มีตั้ง 5 สูตร ใช้อันไหนดี?

อันนี้ไปเอาของแบรนด์มาค่ะ

scinic fb-20180327-01

(ที่มา Scinic)

 

 

ตามความเห็นของมี่นะคะ มี่ทำตารางสรุปจุดเด่นให้ตามนี้ค่ะ

table

มาทั้งทีไม่วิเคราะห์ส่วนผสมคงไม่ได้ แต่จะวิเคราะห์หมดทั้ง 5 ตัวก็เกรงจะยาวยืดไปจนไม่น่าอ่าน เลยขอหยิบเอาสูตรที่ชอบที่สุด คือ สูตร Safe Shield มาวิเคราะห์ส่วนผสมให้ชมกันค่ะ

สผส sun

วันนี้มี่ทำสีส่วนผสมไว้ 3 สีค่ะ

  • สีส้ม เป็นกันแดดชนิดกายภาพ อย่าง Titanium dioxide ซึ่งพวกนี้จะออกฤทธิ์สะท้อนรังสี UV ออกไปแบบไม่จำเพาะเจาะจง นางมีความคงตัวค่อนข้างดี ถ้าเหงื่อไม่ออกไม่ไปล้างไปเช็ด นางก็จะยังคงเรียงตัวอยู่บนผิวสะท้อนรังสีต่อไป
  • สีฟ้า เป็นกันแดดชนิดเคมี มีด้วยกัน 4 ชนิด กันได้ครบถ้วนทั้ง UVA และ UVB ได้แก่
    • Homosalate ช่วยกรองรังสีในช่วง UVB
    • Ethylhexyl salicylate ช่วยกรองรังสีในช่วง UVB
    • Diethylamino hydroxybenzoylhexyl benzoate ช่วยกรองรังสีในช่วง UVA
    • Bis-Ethylhexyloxyphenol methoxyphenyl triazine ช่วยกรองรังสีในช่วงกว้างทั้ง UVA และ UVB
  • สีเขียว เป็นสารบำรุง มีอยู่หลายชนิดเลยค่ะ
    • Niacinamide เป็นรูปแบบหนึ่งของวิตามินบี 3 มีประโยชน์ด้าน Whitening ลดการอักเสบระคายเคือง
    • Adenosine มีประโยชน์ในเชิงการลดริ้วรอย
    • วิตามินอี เป็น Antioxidant
    • สารสกัดพืชทั้งหมด 8 ชนิด มีประโยชน์ในเชิงการเป็น Antioxidant ลดการอักเสบระคายเคือง ให้ความรู้สึกสบายผิว

enjoysafeshieldsun_720_07.jpg

(ที่มา Scinic Korea)

ตัวเบสมาในเบสแบบอิมัลชั่น มีส่วนผสมของน้ำ ซิลิโคน และน้ำมันอยู่นิดหน่อย ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ สารที่ใช้เสี่ยงอุดตันน้อยมาก และมีข้อมูลความปลอดภัยที่ค่อนข้างดี สมกับที่เคลมว่าเหมาะกับ Sensitive skin

 

มาให้คะแนนกันดีกว่านะคะ เป็นคะแนนของสูตร Safe shield เด้อ

  1. สารบำรุง รวมเอาสารกันแดดไว้ด้วย ในด้านของสารกันแดดก็ถือว่าทำมาได้ดี เป็นกันแดดแบบผสมกายภาพ/เคมี กันได้ครบถ้วนสมบูรณ์ดี เสริมสารบำรุงที่มีประโยชน์ในการลดการอักเสบระคายเคืองของผิว และ antioxidant ซึ่งจะช่วยปกป้องผิวจากรังสี UV ที่เล็ดรอดเข้าไปในผิวได้ ไม่มีอะไรในโลกนี้ที่กันแดดได้ 100% อย่างไรก็ต้องมีรังสี UV เล็ดรอดเข้าผิวได้อยู่ดี การมีพวก antioxidant หรือสารลดการอักเสบพวกนี้ก็จะช่วยปกป้องผิวเราได้ค่ะ จุดนี้ขอให้ 5 ฟลาสก์
  2. ส่วนผสมอื่นๆ ไม่มีสารที่ไม่เป็นมิตรกับผิว เลยไม่มีจุดให้หักคะแนน ให้ไป 5 ฟลาสก์
  3. การใช้งาน ตัวกันแดดทำมาได้ค่อนข้างดี เนื้อนุ่ม เกลี่ยง่าย ไม่แห้งไม่มันเกินไปสำหรับผิวมี่ เรื่องกลิ่นก็ไม่ได้แรงจนฉุนไป กำลังซอฟท์ๆ ไม่กวนใจ ทาแล้วสามารถลงรองพื้นได้เลย ไม่เหนอะหนะ ไม่ตีกับรองพื้นจนเป็นคราบ โดยรวมขอให้คะแนนการใช้งานไว้ที่ 4 ฟลาสก์

คะแนน sun

สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณทางแบรนด์ไซน์นิค ด้วยนะคะ ที่ส่งผลิตภัณฑ์ดีๆมาให้มี่ได้ทดลองใช้ และขอบคุณทุกๆท่านด้วยค่ะที่ติดตามรับชมมาจนจบ

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ทางแบรนด์ไซน์นิค โดยตรงเลยนะคะ มีจำหน่ายที่วัตสัน ตอนนี้มีโปร ลดราคา เหลือแค่ 450 เท่านั้น ราคาเท่ากับที่เกาหลีคือ 15,000 วอนเลย สำหรับขนาด 50ml. ถือว่าคุ้มมาก

https://www.facebook.com/SCINICThailand/

 

พบกันใหม่โอกาสถัดไป สำหรับวันนี้ สวัสดีค่ะ

 

Disclaimer/conflict of interests: ผลิตภัณฑ์นี้ได้รับการสนับสนุนจากทางแบรนด์ Scinic การรีวิวครั้งนี้เป็นการวิเคราะห์ส่วนผสมตามหลักการทางวิทยาศาสตร์เครื่องสำอางและอาศัยความเห็นส่วนบุคคล และผู้เขียนไม่ได้มีผลประโยชน์ใดๆในการขายสินค้า โปรดใช้วิจารณญาณ

 

Image

รีวิว/วิเคราะห์ส่วนผสม เซรั่มกันแดดสูตรน้ำ จาก Fairique UV watery serum SPF50 PA+++ เซรั่มกันแดดที่อัดแน่นด้วยสารบำรุงมากมาย

สวัสดีค่ะ

วันนี้มี่มีรีวิวเซรั่มกันแดดสูตรน้ำแบรนด์ไทยที่น่าสนใจมาฝากกันนะคะ

เป็นผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ Fairique ค่ะ มีชื่อเต็มๆว่า Fairique UV watery serum มีค่า SPF50 และ PA+++ ค่ะ

หน้าตามาในกล่องสีขาว ตัดด้วยลายสีน้ำสีชมพูพาสเทลดูสวยงาม

Fa 1

บนหน้ากล่องจะมี Claim 5 ประการหลักค่ะ คือ

Oil free, Fragrance free, Alcohol free, Parabens free และ Non-comedogenic

คือ ปราศจากน้ำมัน น้ำหอม แอลกอฮอล์ สารในกลุ่มพาราเบน และไม่อุดตันรูขุมขนค่ะ

 

ตรงส่วนนี้จะเป็น Claiming ด้านหลังกล่องนะคะ

Fa 2

ตัวแพคเกจเป็นแบบหลอดบีบค่ะ

Fa 3

ดูสวยใสสะอาดตาดีค่ะ

เนื้อกันแดดเป็นแบบน้ำนม ไม่หนืดและไม่เหลวจนเกินไป

Fa 4

เกลี่ยได้ง่าย ซึมไว ไม่เหนียวเหนอะหนะ

Fa 5

มาดูส่วนผสมกันบ้างนะคะ

ส่วนผสม

สผส Fa

ส่วนผสมวันนี้มี่ทำสีไว้ 4 สีนะคะ

ประเดิมกันที่สารกันแดด เป็นสีฟ้า และ สีเขียวค่ะ

  • สีเขียว คือ สารกันแดดกายภาพ มีทั้ง Titanium dioxide และ Zinc oxide ซึ่งอาศัยหลักการสะท้อนแสง UV ออกไป พวกนี้จะติดผิวนาน และมีความคงตัวสูง ถ้าเหงื่อไม่ออกไม่ไปล้างไปเช็ดมันก็จะอยู่อย่างนั้น
  • สีฟ้า คือ สารกันแดดแบบเคมี
    • Ethylhexyl methoxycinnamate เป็นตัวกรองดูดซับรังสี UVB
    • Methylene bis-benzotriazolyl tetramethylbutylphenol ชื่อยาวๆนี่ มีชื่อทางการค้าว่า Tinosorb M ดูดซับรังสี UV ได้ในช่วงกว้าง มีลักษณะกลไกเป็นแบบผสมทั้งแบบเคมีและกายภาพ มีความคงทนต่อแสง และสามารถเพิ่มความคงตัวของสารกันแดดแบบเคมีตัวอื่นๆที่ใส่มาได้
  • สีม่วงเป็นบรรดาสารบำรุงผิวชนิดต่างๆ มากันอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง
    • กลุ่ม Biosaccharide gum เห็นมี 2 ตัว เป็นวัตถุดิบนำเข้าจากฝรั่งเศส ตัวแรก gum-1 มีประโยชน์เพิ่มความชุ่มชื้น ลดการอักเสบ และ gum-2 ช่วยลดการอักเสบ (ข้อมูลจากผู้ผลิตวัตถุดิบ)
    • Polygonum aviculare extract เป็นวัตถุดิบของฝรั่งเศสเหมือนกัน ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ และยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ MMP ที่ไปย่อยสลายคอลลาเจน จึงช่วยลดผลเสียของรังสี Infrared ต่อผิว (ข้อมูลจากผู้ผลิตวัตถุดิบ)
    • สารสกัดจาก Dragon’s blood มีรายงานการวิจัยสนับสนุนถึงฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระ เป็น Antioxidant (J Ethnopharmacol. 2004;95(2-3):437-45.) ต้านการอักเสบและช่วยสมานแผล (J Altern Complement Med. 2003;9(6):877-96.)
    • วิตามิน 3 ชนิด คือ
      • วิตามินซี รูปแบบ Caprylyl-2 glyceryl ascorbate ตัวนี้นำเข้าจากญี่ปุ่น ปกติวิตซีก็เป็น Antioxidant มีส่วนช่วยลดการสร้างเม็ดสี และเป็นส่วนหนึ่งในขั้นตอนการสังเคราะห์คอลลาเจนแล้ว สารนี้ผู้ผลิตวัตถุดิบยังเคลมว่ามีส่วนช่วยเสริมการสร้าง Ceramide ในผิวได้
      • Panthenol คือ โปรวิตามินบี 5 ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ลดการอักเสบของผิว
      • Tocopheryl acetate คือ วิตามินอี เป็น Antioxidant
    • Hydrolyzed Sesame Protein PG – propyl methylsilanediol เป็นสารที่ได้จากการดัดแปลงโครงสร้างของโปรตีนที่แยกจากเมล็ดงา ผู้ผลิตวัตถุดิบเคลมว่า เมื่อทาสารนี้ลงไปบนผิว จะให้ความรู้สึกเรียบตึง ช่วยคลายริ้วรอย และเพิ่มความชุ่มชื้น

 

ด้านของเบส เป็นที่มาในเบสน้ำ ไม่มีน้ำมัน ไม่มีแอลกอฮอล์ และไม่มีสารที่ไม่เป็นมิตรกับผิว

มาให้คะแนนกันดีกว่านะคะ

  1. สารกันแดดและสารบำรุง ตัวกันแดดเป็นกันแดดแบบกายภาพผสมเคมีกันแดดได้ครบถ้วนสมบูรณ์ดีค่ะ ในส่วนของสารบำรุงถือว่าอัดมาแน่นครบทั้ง Antioxidant และกลุ่มของสารที่ช่วยลดการระคายเคืองของผิว จึงถือว่ามีตัวหักล้างผลเสียจาก UV ที่เล็ดรอดเข้าไปในผิวได้ ยังเสริมสารสกัดที่ช่วยป้องกันผิวจากรังสี Infrared เข้ามา อีก เลยขอให้ไป 5 ฟลาสก์
  2. ส่วนผสมอื่นๆ ตัวเบสเป็นเบสน้ำ ไม่มีน้ำมัน ไม่มีแอลกอฮอล์ และไม่มีสารที่ไม่เป็นมิตรกับผิว เลยไม่มีที่ให้หักคะแนน ให้ไป 5 ฟลาสก์
  3. การใช้งาน สำหรับมี่คิดว่ากันแดดตัวนี้เป็นกันแดดที่ค่อนข้างโอเลยหละ ด้วยเบสที่บางเบาไม่เหนียวเหนอะหนะ เกลี่ยได้ง่าย ไม่เป็นปื้น แต่ส่วนตัวมี่มีผิวผสมค่อนข้างแห้ง คิดว่าอาจจะยังไม่พอค่ะ ถ้าเราเตรียมผิวไม่ดี อาจจะมีผิวแห้งระหว่างวันได้ แต่คิดว่าคนที่มีผิวมันน่าจะชอบสัมผัสของกันแดดตัวนี้นะคะ จุดนี้ขอให้ 4 ฟลาสก์ค่ะ

 

คะแนน fa

สำหรับวันนี้มีแค่นี้ค่ะ ต้องขอขอบคุณทางแบรนด์ Fairique ด้วยนะคะที่ส่งสินค้าดีๆมาให้มี่ได้ทดลองใช้ และขอบคุณทุกท่านด้วยค่ะที่ติดตามรับชมมาจนจบ

 

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ทางแบรนด์โดยตรงเลยนะคะ

https://www.facebook.com/Fairique/

 

Disclaimer/conflict of interests: ผลิตภัณฑ์นี้ได้รับการสนับสนุนจากทางแบรนด์ Fairique การรีวิวครั้งนี้เป็นการวิเคราะห์ส่วนผสมตามหลักการทางวิทยาศาสตร์เครื่องสำอางและอาศัยความเห็นส่วนบุคคล และผู้เขียนไม่ได้มีผลประโยชน์ใดๆในการขายสินค้า โปรดใช้วิจารณญาณ

Image

รีวิว/วิเคราะห์ส่วนผสม ครีมกันแดดผสมสเตมเซลล์ดอกบัวเกาหลีจากแบรนด์ DNAh Perfect protection daily sunscreen cream SPF 50 PA+++

สวัสดีค่ะ วันนี้มี่มีรีวิวกันแดดที่น่าสนใจมาฝากกันค่ะ

เป็นกันแดดแบรนด์ไทย จาก DNAh (ดีนะห์) กับ Perfect protection daily sunscreen cream ค่ะ

ดูหน้าตากันก่อนเลยดีกว่าเนอะ

นางจะมาในกล่องสีเขียวสดค่ะ

sun 1

 

ด้านในเป็นแพคเกจแบบหลอดบีบค่ะ พกพาสะดวก เหมาะกับสาวน้อยนักเดินทางแบบเรามาก

ใครไม่ได้เดินทาง จะวางไว้บนโต๊ะเครื่องแป้งก็ไม่เกะกะไม่กินที่เลยค่ะ

 

sun 2

 

เนื้อครีมเป็นครีมสีออกขาวเงาๆ กลิ่นหอมจางๆ กลบกลิ่นของสารกันแดดได้ค่อนข้างดีเลยหละ

 

sun 3

 

เกลี่ยได้ค่อนข้างง่าย ให้ความรู้สึกเย็นสบายผิว ชุ่มชื้น ไม่เหนอะหนะ

 

sun 4

 

มาดูส่วนผสมกันบ้างนะคะ

 

%e0%b8%aa%e0%b8%9c%e0%b8%aa-dnah

 

มี่ได้ทำสีของส่วนผสมไว้ให้แล้วนะคะ

ส่วนผสมของสารกันแดดคือสีม่วงค่ะ

กันแดดสูตรนี้เป็นกันแดดชนิดเคมี ที่กันได้ครบถ้วนทั้ง UVA/UVB ค่ะ โดยสารกันแดดที่ทางแบรนด์เลือกใช้ มี 4 ชนิดค่ะ ดังนี้

  • Ethylhexyl methoxycinnamate เรียกกันย่อๆว่า OMC ดูดกลืนรังสีในช่วงเด่นที่ UVB
  • Benzophenone-3 ให้ผลเด่นที่ช่วง UVA ค่ะ
  • Octocrylene ตัวนี้ปกติมักจะใช้คู่กับ Avobenzone เพื่อช่วยเพิ่มความคงตัว ตัวมันเองก็สามารถดูดซับรังสีได้ในช่วง 280-320 nm อยู่ระหว่าง UVB และ UVA
  • Butyl methoxydibenzoylmethane คือ ชื่อเต็มของ Avobenzone เด่นที่ช่วง UVA แต่ต้องการสาร Photostabilizer มาเพิ่มความคงตัว ซึ่งในส่วนผสมก็มี Octocrylene อยู่ค่ะ

 

ในส่วนของสีฟ้าเป็นสารบำรุงผิวค่ะ จะเห็นว่ามีหลายตัวเลยหล่ะ เรามาดูกันไปทีละตัวเลยนะคะ

  • Stem cell จากดอกบัว (Nelumbo nucifera callus culture extract) เป็นวัตถุดิบของเกาหลี ผู้ผลิตวัตถุดิบ Claim ว่าให้คุณสมบัติฟื้นฟู ปรับสภาพผิว ส่งเสริมการทำงานของผิว ช่วยลดริ้วรอย และช่วยให้ผิวขาว
  • Alpha-arbutin มีส่วนช่วยเรื่อง Whitening โดยไปยับยั้งเอนไซม์ Tyrosinase ที่ช่วยสร้างเม็ดสีผิว
  • Bisabolol ได้จากคาโมมายล์ ให้ผลลดการอักเสบ และให้ความรู้สึกสบายผิว (Soothing effect)
  • สารสกัดจากแตงกวา และว่านหางจระเข้ มีผลในด้านความชุ่มชื้น และ Soothing effect
  • Tocopheryl acetate เป็นรูปแบบหนึ่งของวิตามินอี เป็น Antioxidant แต่ส่วนมากมักจะให้ผลปกป้องสารในผลิตภัณฑ์ไม่ให้เสื่อมสภาพ
  • Yeast polysaccharide ช่วยด้านชุ่มชื้น
  • Palmitoyl tetrapeptide-7 เป็นเปปไทด์ที่น่าสนใจค่ะ ผู้ผลิตวัตถุดิบ Claim ว่าเปปไทด์ตัวนี้สามารถกดการสร้างสารก่อการอักเสบชนิด IL-6 ในเซลล์ผิวที่ถูกกระตุ้นด้วยรังสี UV ได้ถึง 86%
  • สารสกัดจากมินท์ ชาเขียว และ Edelweiss เป็น Antioxidant ช่วยปกป้องผิว

โดยรวมจะเห็นว่าส่วนของสารบำรุงนั้นอัดมาค่อนข้างแน่น ให้ผลในแง่ชุ่มชื้น Soothing effect และลดการอักเสบในผิว จึงน่าจะช่วยลดผลเสียจาก UV ที่เล็ดรอดไปในผิวได้ดี

ด้านเนื้อครีม หรือ เบส มาในรูปแบบของ Emulsion ที่มีน้ำ มีซิลิโคน และมีกลุ่มน้ำมันสังเคราะห์ ไม่มีแอลกอฮอล์

สำหรับส่วนประกอบอื่นๆก็ไม่มีสารไหนที่ไม่เป็นมิตรกับผิว

มาให้คะแนนกันค่ะ

  1. Actives กลุ่มของสารกันแดดเป็นชนิดเคมีล้วน กันได้ครบทั้ง UVA/UVB สารบำรุงอัดมาเต็ม โดดเด่นในแง่ชุ่มชื้น Soothing effect และลดการอักเสบที่เกิดจากรังสี UV จึงถือว่าค่อนข้างครบถ้วน แต่ด้วยความที่เป็นกันแดดชนิดเคมี ถ้าโดนแดดจัดมากๆ ต่อให้เสถียร หรือ Stable แค่ไหน ก็ย่อมมีวันเสื่อมสภาพ ไม่เหมือนพวกกายภาพ ที่จะติดฉาบผิวไปจนล้างออก หรือเหงื่อออก แต่ถ้าใครไม่ได้ออกแดดจัดๆนานๆตัวนี้น่าจะดีงามค่ะ และการมีอยู่ของพวกสารAntioxidant และสารลดการอักเสบปกป้องผิวจาก UV ก็น่าจะชดเชยส่วนนี้ได้ไป จุดนี้ขอให้ 4 ฟลาสก์
  2. Base เนื้อครีมมีส่วนประกอบด้วยน้ำ ซิลิโคน และน้ำมันสังเคราะห์ ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ ส่วนผสมที่ใช้มีโอกาสเสี่ยงอุดตันได้ต่ำมาก และซิลิโคนที่ใช้เป็นชนิดพื้นฐาน ที่ล้างออกง่าย จึงไม่น่าห่วง จุดนี้ขอให้ 5 ฟลาสก์
  3. Additives ส่วนของสารปรุงแต่งก็ทำมาได้ดี ไม่มีส่วนผสมที่ไม่เป็นมิตรกับผิว เลยไม่มีที่ให้หักคะแนน รับไป 5 ฟลาสก์
  4. การใช้งาน ตัวกันแดดเกลี่ยค่อนข้างง่าย ไม่เหนอะหนะ ไม่มัน น่าจะใช้ได้ทุกสภาพผิว ส่วนตัวมี่ช่วงนี้เป็นผิวผสม/แห้ง ก็สามารถใช้ได้ทั้งหน้าโดยไม่ทำให้จมูกมัน ถือว่าค่อนข้างประทับใจ ระหว่างวันก็ไม่ได้เยิ้มเหลว เหมือนกันแดดเนื้อครีมที่ใช้อยู่ ถ้าให้ติ คงติแค่แพคเกจเล็กไปหน่อยใช้หมดไวไปนิด แต่จุดนี้ขอให้ 5 ฟลาสก์

 

คะแนน sun new.jpg

 

รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ทางเฟสบุคของแบรนด์ DNAh ได้โดยตรงเลยนะคะ

https://www.facebook.com/deenahthailand

ช่องทางการจำหน่าย

เพจ DNAh

Line @ : DNAhThailand

qr.jpg

Shop store :ร้านยา ฟาร์มาคาเฟ่ จ.เชียงใหม่, ร้านยาธัญลักษณ์เภสัช กรุงเทพ, ร้านยาเยอะแยะ จ.เชียงใหม่ และ จ.ลำพูน

 

สำหรับวันนี้มีแค่นี้ค่ะ พบกันใหม่โอกาสถัดไป สวัสดีค่ะ

Disclaimer/conflict of interest: ผลิตภัณฑ์นี้ได้รับการสนับสนุนจากทางแบรนด์ DNAh การรีวิวครั้งนี้เป็นการวิเคราะห์ส่วนผสมตามหลักการทางวิทยาศาสตร์เครื่องสำอางและอาศัยความเห็นส่วนบุคคล ผู้เขียนไม่ได้รับค่าตอบแทนในการรีวิว และไม่ได้มีผลประโยชน์ใดๆในการขายสินค้า โปรดใช้วิจารณญาณ

Image

รีวิว/วิเคราะห์ส่วนผสม กันแดดสูตรกันครบหมดจด UV IR VIS จาก Medica viva กับ Viva Total sunscreen SPF50+ PA++++

สวัสดีค่ะ วันนี้มี่แวะเอารีวิวกันแดดมาฝากกันค่ะ

 

เป็นกันแดดสูตรปรับปรุงใหม่ จากแบรนด์ Medica viva กับ Viva Total sunscreen SPF50+ PA++++ นะคะ ปรับค่า SPF และ PA จากสูตรเดิม รวมทั้งมีการปรับเบส และเพิ่มส่วนผสมบำรุงบางตัวเข้ามาด้วยค่ะ

 

ก่อนไปดูส่วนผสม มาดูหน้าตาของกันแดดตัวนี้กันดีกว่า

 

sun 1.JPG

 

แพคเกจมาในหลอดสีขาวเงา เป็นจุกแบบกดนะคะ

 

sun-2

 

กันแดดตัวนี้เป็นเนื้อแบบลิควิด สีโทนเหลือง/ส้มค่ะ ใช้เป็นเมคอัพเบส ลงปรับสีผิวให้สว่างขึ้นก่อนทารองพื้นได้ด้วย

 

sun-3

 

ถ่ายออกมาแล้วสีไม่ค่อยชัดเท่าไหร่ค่ะ

 

เกลี่ยง่าย แห้งไว ให้ลุคที่ค่อนข้างแมทท์ ไม่มันเยิ้ม และไม่เป็นปื้นขาววอก

 

sun-4

 

เนื่องจากกันแดดมีสี เลยไม่ได้วัดค่า pH ให้นะคะ

 

แต่มาทั้งทีไม่วิเคราะห์ส่วนผสมคงไม่ได้

 

ส่วนผสมนางเป็นดังนี้นะคะ

 

%e0%b8%aa%e0%b8%9c%e0%b8%aa-sun

 

กันแดดชนิดนี้เป็นกันแดดกายภาพผสมเคมี ซึ่งกันแดดได้ครอบคลุมทั้ง UVA/UVB

 

อีกจุดที่น่าสนใจคือ ทางแบรนด์ได้เลือกใช้วัตถุดิบที่มี Claim ว่าปกป้องผิวจากรังสี Infrared (IR) และ แสงสีน้ำเงิน (Visible blue light) เข้ามาเป็นส่วนประกอบด้วย

 

มี่ทำสีให้ส่วนผสมที่น่าสนใจแล้วนะคะ

ส่วนของสารกันแดดเป็นสีเขียว และ สีน้ำเงินค่ะ

สีน้ำเงิน เป็นกันแดดกายภาพ คือเจ้า Zinc oxide และ Titanium dioxide ค่ะ พวกนี้ถ้าทาแล้ว ไม่ไปเช็ดไปล้าง เหงื่อไม่ออก มันก็จะติดอยู่บนผิวนั่นแหล่ะ ไม่หายไปไหน ไม่เสื่อมสภาพ ไม่สลายตัว ไม่ดูดซึม ทาทีเดียวกันได้เรื่อยๆ ไม่เหมือนพวกเคมี ต่อให้เสถียรแค่ไหน มันก็ต้องสลายตัวเมื่อโดนแสงอยู่ดี

สีเขียวเข้ม เป็น กันแดดชนิดเคมี มีดังนี้นะคะ

  • Ethylhexyl methoxycinnamate เรียกกันย่อๆว่า OMC ดูดกลืนรังสีในช่วงเด่นที่ UVB
  • Ethylhexyl salicylate ตัวนี้ก็เด่นในช่วง UVB
  • Octocrylene ตัวนี้ปกติมักจะใช้คู่กับ Avobenzone เพื่อช่วยเพิ่มความคงตัว แต่ตัวมันเองก็สามารถดูดซับรังสีได้ในช่วง 280-320 nm อยู่ระหว่าง UVB และ UVA
  • Phenylbenzimidazole sulfonic acid มีอีกชื่อว่า Ensulizole ดูดกลืนรังสี UVB และ UVA บางช่วง

 

กันแดดสูตรใหม่นี้มีการปรับลำดับ และชนิดของสารกันแดดให้ดูมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นจากสูตรเก่าด้วยค่ะ

 

สีม่วงเป็นส่วนผสมของสารบำรุง ดังนี้นะคะ

  • Polygonum aviculare extract เป็นวัตถุดิบ Elix-IRTM ของบริษัท Lucas meyer cosmetics สารสกัดนี้มีความสามารถในการปกป้องเส้นใยในชั้นผิวไม่ให้เสื่อมสลายเพราะรังสี Infrared ได้ และช่วยลดริ้วรอย ชะลอวัยได้
  • Plankton extract สารสกัดจากแพลงค์ตอน มีหลายสายพันธุ์ แต่ละสายพันธุ์ก็แตกต่างกันไป คุณสมบัติรวมๆของสารสกัดแพลงค์ตอน คือเพิ่มความชุ่มชื้นให้คุณสมบัติสบายผิว (Soothing) มีส่วนช่วยเรื่องริ้วรอย Plankton บางสายพันธ์มีคุณสมบัติลดการอักเสบ เป็น Antioxidant และช่วยปกป้องเซลล์ผิวจากแสงแดดได้
  • Aloe ช่วยเรื่องความชุ่มชื้น
  • Niacinamide คือ รูปแบบหนึ่งของวิตามินบี 3 มีประโยชน์หลายๆด้าน ไม่ว่าจะเป็น Whitening, การเพิ่มการสังเคราะห์ไขมันที่เป็น Barrier ผิว การลดการอักเสบ
  • Ferulic acid เป็น Antioxidant ที่ดี
  • Melanin เป็นตัววัตถุดิบ Liposhield® HEV Melanin ของบริษัท Lipo Chemicals, Inc. ผู้ผลิตวัตถุดิบ Claim ว่าให้คุณสมบัติในการปกป้องผิวจากแสงสีน้ำเงิน (Blue light) ที่มาพร้อมกับแสงอาทิตย์ และจากแหล่งอื่นๆ เช่น จอคอมพิวเตอร์ จอโทรศัพท์ สามารถป้องกันไม่ให้เส้นใยเกี่ยวพันในชั้นผิวถูกทำลายได้
  • สารสกัดจากผลทับทิม และ วิตามินอี เป็น Antioxidant

ส่วนของเนื้อหลัก หรือ Base นั้น มาในรูปแบบอิมัลชั่นของน้ำและซิลิโคน ประกอบด้วยสารดูดน้ำ และ Silicone ดีๆหลายตัว ที่ให้สัมผัสที่บางเบา ไม่เหนอะหนะ และแห้งสนิท

 

ถึงเวลาให้คะแนน

  1. Actives ในส่วนของสารกันแดดนั้นเป็นชนิดกายภาพ/เคมี ให้ผลกันแดดได้กว้างและครอบคลุมทั้ง UVA, UVB และยังมีสารที่ให้ผลกัน Infrared และ แสงสีน้ำเงินได้อีก นานๆทีเราจะเห็นกันแดดที่มาแบบเต็มรูปแบบแบบนี้ สารองค์ประกอบอื่นๆก็มีพวก Antioxidant และสารลดการอักเสบในผิวเสริมมา ช่วยปกป้องจากรังสีที่เหลือรอดลงไปในผิวได้อีก โดยรวมถือว่าทำมาได้ครบถ้วนสมบูรณ์ จุดนี้ขอให้ 5 ฟลาสก์
  2. Base มาในรูปแบบของ Silicone emulsion หลายๆคนอาจจะกลัว Silicone แต่จริงๆแล้ว Silicone ในตัวมันเองปลอดภัย เพราะไม่แพ้ ไม่อุดตัน แต่ถ้าใช้แล้วล้างไม่สะอาด มันจะเคลือบผิว ทำให้สารสกปรกในผิวออกมาไม่ได้ เพราะฉะนั้นถ้าเราล้างสะอาด ก็ไม่น่าจะเกิดปัญหาอะไร ส่วนตัวมี่เองใช้มาราวๆ 2 อาทิตย์ ก็ไม่ได้มีสิวหรืออะไรออกมาให้เห็น ที่สำคัญคือไม่มีส่วนผสมของ Alcohol จุดนี้ขอให้ 5 ฟลาสก์
  3. Additives ส่วนของสารปรุงแต่งไม่มีสารที่ไม่เป็นมิตรกับผิว มีการเลือกใช้ Talc และ Silica เพื่อคุมมันและให้ได้ลุคที่ Matte มีการใช้เม็ดสี Iron oxides เพื่อให้เป็นเนื้อ CC และช่วยกลบสีขาววอกจากกันแดดกายภาพ ถือว่าทำมาได้ค่อนข้างดี จุดนี้ขอให้ 5 ฟลาสก์
  4. การใช้งาน กันแดดตัวนี้ไม่เหนอะหนะเลย ทาแล้วแห้งไวมากกกกกกก แห้งไวไปด้วยซ้ำ ต้องค่อยๆลงรีบๆเกลี่ย ไม่งั้นจะเกลี่ยได้ไม่ทั่ว ใช้เป็นเบสปรับสภาพผิวก่อนลงรองพื้นได้เลยในตัว ใช้เป็น Makeup Base เพื่อปรับสีผิวก่อนลงรองพื้นก็ได้ และที่สำคัญคือ กันแดดได้ครอบคลุมหมดจริง อะไรจริง จุดนี้ขอให้ 5 ฟลาสก์

 

%e0%b8%84%e0%b8%b0%e0%b9%81%e0%b8%99%e0%b8%99

 

สุดท้ายนี้ขอขอบคุณทางแบรนด์ Medica Viva ด้วยนะคะที่ส่งผลิตภัณฑ์ดีๆมาให้มี่ได้ทดลองใช้

 

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ทางเฟสบุคของแบรนด์ Medica viva

https://www.facebook.com/medicaviva

ได้เลยค่ะ

 

Disclaimer/Conflict of interests: ผลิตภัณฑ์นี้ได้รับการสนับสนุนจากทางแบรนด์ Medica viva การรีวิวครั้งนี้เป็นการวิเคราะห์ส่วนผสมตามหลักการทางวิทยาศาสตร์เครื่องสำอางและอาศัยความเห็นส่วนบุคคล ผู้เขียนไม่ได้รับค่าตอบแทนในการรีวิว และไม่ได้มีผลประโยชน์ใดๆในการขายสินค้า โปรดใช้วิจารณญาณ

รีวิว/วิเคราะห์ส่วนผสม Facial Whitening cream ครีมเพื่อผิวขาวกระจ่างใส จาก Bio balance แบรนด์ดังฝั่งยุโรป

รีวิว/วิเคราะห์ส่วนผสม Facial Whitening cream ครีมเพื่อผิวขาวกระจ่างใส จาก Bio balance แบรนด์ดังฝั่งยุโรป

สวัสดีค่ะ วันนี้มี่นำเอาครีมบำรุงเพื่อผิวขาวจากแบรนด์ Bio Balance มาฝากค่ะ แบรนด์ Bio Balance เป็นเครื่องสำอางชื่อดังจากฝั่งยุโรปค่ะ ซึ่งทางแบรนด์ Claim เรื่องส่วนผสมจากธรรมชาติ และส่วนผสมออร์แกนิก ที่ผ่านการเลือกสรรมาเป็นอย่างดี มี่ลองเข้าไปดูเวบไซต์ของแบรนด์ (http://www.biobalance.com.tr/) เห็นว่ามีผลิตภัณฑ์อยู่หลายกลุ่มเหมือนกันค่ะ

 

มาเข้าเรื่องดีกว่าค่ะ ตัวที่มี่ได้มามี 2 ตัว เป็นกลุ่ม Whitening ทั้งคู่ เป็นทาตัวหลอดนึง และทาหน้าอีกหลอดนึง วันนี้เอาครีมสำหรับผิวหน้า มารีวิว/วิเคราะห์ส่วนผสมให้ชมกันบ้างค่ะ มาดูหน้าตากันก่อนเลยเนอะ

bio 1

 

ตัวครีมจะมาในหลอดปิดสนิท หลอดค่อนข้างใหญ่เหมือนกันค่ะ 60 ml เนื้อครีมเป็นครีมสีขาว มีกลิ่นหอม

bio 2

ตัวครีมจะดูเหมือนมี Pigment เคลือบผิวอยู่ด้วยค่ะ ทาแล้วช่วยปรับสีผิวให้ขาวขึ้นมาอีก 1 Step อารมณ์คล้ายๆ Tone Up cream ที่กำลังอินเทรนด์จากฝั่งเกาหลีเลยค่ะ เนื้อเกลี่ยค่อนข้างง่าย จะออกหนึบๆนิดหน่อย ถ้าทิ้งไว้ซักพัก ความรู้สึกหนึบๆก็จะหายไป ชุ่มชื้นดีค่ะ

bio 3

 

มาดูส่วนผสมกันบ้างนะคะ

 

สผส facial

 

จากส่วนผสมมี่ได้ทำแถบสีไว้ให้แล้วนะคะ ส่วนของสารบำรุง แบ่งเป็น 3 กลุ่มหลักๆค่ะ

 

สีม่วง: กลุ่ม Whitening ได้แก่

  • Niaciamide คือ รูปแบบหนึ่งของวิตามินบี 3 ถ้าเป็นด้านไวท์เทนนิ่ง สารนี้ให้ผลยับยั้งการส่งผ่านเมลานินที่สร้างเสร็จแล้วไม่ให้ออกมาข้างนอกมองเห็นเป็นสีผิว ยังมีประโยชน์ในด้านของการเพิ่มการสร้างไขมันที่เป็น Barrier ผิว และลดการอักเสบ (Int J Cosmet Sci 2005; 27:255–261)
  • Glycyrrhiza glabra extract คือ สารสกัดจากชะเอม มีรายงานเกี่ยวกับคุณสมบัติในการยับยั้งเอนไซม์ Tyrosinase ลดการสร้างเมลานินช่วยให้สีผิวจางลง มีฤทธิ์เป็น Antioxidant ( 2014; 19(7):9101-13.) และมีคุณสมบัติลดการอักเสบ (J Dermatolog Treat. 2003; 14(3):153-7.)
  • Sodium ascorbyl phosphate เป็นรูปแบบหนึ่งของวิตามินซี ที่มีการละลายน้ำดี มีความคงตัวเพิ่มขึ้น วิตามินซีมีประโยชน์เป็น Antioxidant, ช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสีผิว และ เป็นส่วนหนึ่งในขั้นตอนการสังเคราะห์คอลลาเจนในผิว

 

สีฟ้า: กลุ่มสารกันแดด

ถึงแม้ผลิตภัณฑ์จะไม่ได้ Claim เรื่อง SPF กล่าวแค่ว่า UVA UVB protection พอเรามาดูส่วนผสมก็จะเห็นมีส่วนผสมของสารกันแดดอยู่ค่ะ แต่ไม่แน่ใจเรื่องความเข้มข้นที่ใส่มา ว่าจะกันแดดได้แค่ไหนนะคะ กันแดดที่เขาใส่มา มีทั้งกลุ่มเคมี และกลุ่มกายภาพ คือ

  • Ethylhexyl methoxycinnamate เป็นกันแดดเคมี ช่วยกรองรังสี UVB เป็นหลัก
  • Ethylhexyl salicylate เป็นกันแดดเคมีเช่นกัน ช่วยกรองรังสี UVB
  • Titanium dioxide เป็นกันแดดกายภาพ สะท้อนรังสี UV ออกไป
  • Butyl Methoxydibenzoylmethane เป็นชื่อทางเคมีของ Avobenzone ที่กรองรังสี UVA แต่สารนี้โดยลำพังจะสลายตัวง่ายเมื่อโดนแสง ดูแล้วในส่วนผสมยังไม่มีสารที่ช่วยเพิ่มความคงตัว แต่อย่างไรก็ดีผลิตภัณฑ์นี้ไม่ได้เคลมเรื่องกันแดดนะคะ เลยไม่ขอกล่าวถึงประเด็นนี้นะคะ

 

สีเขียว: กลุ่มสารบำรุงอื่นๆ จะคล้ายกับตัว Body cream มีต่างกันเล็กน้อยค่ะ

  • Allantoin มีคุณสมบัติที่ดีเกี่ยวกับเรื่องลดการอักเสบในผิว
  • Centella asiatica extract คือ สารสกัดจากบัวบก ให้ผลดีด้านริ้วรอย
  • Rosmarinus officinalis extract คือ สารสกัดจากโรสแมรี่ เป็น Antioxidant และ มีรายงานเกี่ยวกับคุณสมบัติในการลดการอักเสบ (J Agric Food Chem. 2011; 59(8):3674-85.)
  • ใช้วิตามินอีร่วมกัน 2 ชนิด คือ Tocopherol และ Tocopheryl acetate อาศัย BHT มาช่วยเพิ่มความคงตัว คิดว่าผิวน่าจะยังได้รับวิตามินอีที่มีประโยชน์ด้วย
  • Panthenol คือ โปรวิตามินบี 5 มีคุณสมบัติเป็นสารเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว โดยตัวมันเองสามารถซึมเข้าสู่ผิวและดูดน้ำเข้ามาเก็บไว้กับตัวเอง นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติอื่นๆ เช่น ลดการอักเสบ เพิ่มการแบ่งตัวของเซลล์ผิว ช่วยเรื่องการสมานแผล และลดริ้วรอย ซึ่งคุณสมบัติในการเป็น Moisturizer ของ Panthenol มีรายงานตีพิมพ์รองรับ คือ สามารถช่วยเพิ่มความสมบูรณ์ของผิวหนัง ช่วยลดการระเหยของน้ำออกจากผิว รักษาความชุ่มชื้นให้ผิวได้ (J Cosmet Sci. 2011; 62(4):361-70.)

 

โดยรวมจะเห็นว่ากลุ่มของสารออกฤทธิ์ที่เป็น Whitening จะออกฤทธิ์ที่สองขั้นตอน คือ ขั้นตอนการสร้างเม็ดสี และ ขั้นตอนการส่งผ่านเม็ดสีที่สร้างเสร็จแล้ว เสริมมาด้วยสารกันแดด Antioxidant และสารที่ให้ผลด้านริ้วรอย/ชะลอวัย

 

มาให้คะแนนกันดีกว่าค่ะ

  1. สารบำรุง อย่างที่เล่าไว้ด้านบน คือ มีคุณสมบัติด้าน Whitening อยู่ 2 ขั้นตอน เสริมมาด้วยสารกันแดด Antioxidant และสารที่ให้ผลด้านริ้วรอย มีส่วนของสารเพิ่มความชุ่มชื้นและลดการอักเสบเพิ่มเข้ามาจากตัว Body cream ในส่วนนี้มี่มองว่า ในส่วนของ Whitening นั้นยังเหมือนไม่ค่อยสุด ยังขอให้ 4 ฟลาสก์ เช่นเดียวกับตัว Body cream
  2. เนื้อหลัก หรือ ส่วน Base มาในรูปแบบครีม ประกอบด้วยสารดูดน้ำให้ผิว สารไขมันทดแทน และสารเคลือบผิว อยู่อย่างครบถ้วน ไม่มีส่วนผสมของ Alcohol เลยขอให้ไป 5 ฟลาสก์
  3. สารปรุงแต่ง หรือ Additives ไม่ได้มีสารไหนมีพิษมีภัยอะไรกับผิว เลยไม่มีที่ให้หักคะแนน รับไป 5 ฟลาสก์
  4. การใช้งาน ตัวเนื้อครีมค่อนข้างชุ่มชื้น ไม่เหนอะหนะหนักผิวมากจนเกินไป เนื่องจากมีส่วนผสมของสารกรองรังสี UV และเม็ดสี หรือ Pigment ที่ช่วยอำพรางสีผิว ส่วนตัวมี่คิดว่าเอามาใช้กลางวัน ใช้เป็น Makeup base ก่อนลงรองพื้นตอนเช้าๆ น่าจะเหมาะกว่าการใช้กลางคืน เพราะสารกรองรังสีพวกนี้ดูไม่ค่อยจำเป็นเท่าไหร่ตอนเรานอนหลับ ส่วนผลการใช้งาน ตัวนี้มี่คิดว่าช่วยเรื่องรอยแดงและรอยดำจากสิว รวมถึงหน้าไหม้แดดได้ด้วยค่ะ ในจุดนี้ขอให้คะแนน 4 ฟลาสก์ค่ะ

 

คะแนน facial

 

สุดท้ายนี้ขอขอบคุณทางแบรนด์ Bio Balance ด้วยนะคะที่ส่งผลิตภัณฑ์ดีๆมาให้มี่ได้ทดลองใช้ และขอบคุณทุกๆท่านด้วยค่ะ ที่ติดตามรับชมมาจนจบ

 

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถสอบถามได้ที่ทางเฟสบุคของแบรนด์ได้เลยนะคะ

 

Disclaimer: ผลิตภัณฑ์นี้ได้รับการสนับสนุนจากทางแบรนด์ Bio Balance การรีวิวครั้งนี้เป็นการวิเคราะห์ส่วนผสมตามหลักการทางวิทยาศาสตร์เครื่องสำอางและอาศัยความเห็นส่วนบุคคล และผู้เขียนไม่ได้มีผลประโยชน์ใดๆในการขายสินค้า โปรดใช้วิจารณญาณ

รีวิววิเคราะห์ส่วนผสมแบบจัดเต็ม กันแดดเนื้อมูสและกันแดด Cushion จากแบรนด์ Jewels

รีวิววิเคราะห์ส่วนผสมแบบจัดเต็ม กันแดดเนื้อมูสและกันแดด Cushion จากแบรนด์ Jewels

สวัสดีค่ะพี่ๆน้องๆเพื่อนๆห้องแป้งที่น่ารักทุกๆท่าน

วันนี้มี่นำเอากันแดดเจ๋งๆสวยๆฝีมือคนไทยมารีวิวให้ชมกันอีกแล้วค่ะ

กับกันแดดแบบมูส และ Cushion จากแบรนด์ Jewels ซึ่งเป็นแบรนด์ของเภสัชกร ควบคุมและดูแลโดยเภสัชกรค่ะ

เห็นกล่องแล้วก็แบบว่า ดูหรูหราสมชื่อแบรนด์จริงๆค่ะ

jewels 1

มาเริ่มดูที่ตัวเนื้อมูสก่อนเลยนะคะ

นางจะมาในหลอดมุ้งมิ้งฝาหลอดทำมาเป็นอัญมณีดูหรูหราเลอค่าค่ะ

jewels 2

ในส่วนของเนื้อนั้น มาเป็นเนื้อมูส สีเนื้อ เพราะไม่ได้ใส่น้ำหอมเลยมีกลิ่นวัตถุดิบอยู่จางๆค่ะ ก็ดูธรรมชาติดี ดมไปดมมาก็แอบคล้ายชอคโกแลต ผสมกาแฟ (หรือฉันหิว)

เวลาเกลี่ยตัวนี้จะเกลี่ยได้ค่อนข้างง่าย ให้สัมผัสแห้งๆคล้ายมาร์ชแมลโลว์ แห้งไวนะคะ อย่ารีบลงทั้งหน้า ค่อยๆแต้ม ค่อยๆเกลี่ยไปค่ะจะได้ความเนียนที่มากกว่า ทาแล้วไม่ปื้น ไม่วอก ค่ะ ทากับไม่ทา มีความขาวต่างกันเล็กน้อยเองค่ะ

 

ตรงนี้ก็เป็นคำเคลมที่ด้านหลังกล่องค่ะ

jewels 3

อีกตัวจะมาในแบบ Cushion ค่ะ จะว่าไปเราไม่ค่อยได้เห็นกันแดดแบบ Cushion กันมากเท่าไหร่นักเนอะ เท่าที่มี่ตามตลาดมา มี่เห็นของแบรนด์นี้ กับ แบรนด์เกาหลีอย่าง A’PIEU และ The Face Shop ค่ะ

มาในกล่องสีขาวดูหรูหรา เลอค่าเช่นกันค่ะ

jewels 10

ตัว Cushion ทำมาได้ค่อนข้างแน่นหนา ดูคงทน ไม่เปราะหักง่าย นี่ทำหล่นมา 2 ที ยังภาพดีอยู่ค่ะ มีความหรูหราแต่เรียบง่าย

เนื้อครีมมีความละเอียด และบางเบามาก

jewels 6

มีคุณสมบัติปกปิดได้ด้วย เอามาใช้เป็นเบส หรือ BB เลยก็ว่าได้ค่ะ

แสงสด

jewels 7

แสงแฟลช

jewels 8

จะได้ความโกลวอยู่เล็กๆค่ะ ตัว Cushion นี่จะเด่นกว่าตัวมูสอยู่ตรงที่ เวลาทาเราจะได้สัมผัสที่เย็น และสบายผิว กับเราสามารถเอามาเติมระหว่างวันได้เมื่อไหร่ก็ได้ที่ต้องการ เช่น อยู่กลางแดดนานๆ เหงื่อออกมาก ขับรถแล้วร้อน หน้าเยิน หน้าไหล รองพื้นเยิ้ม ฯลฯ โบกเลยค่ะ เมคอัพจะเฟรชขึ้นมาทันที

ไม่ค่อยเจอกันแดดที่เติมระหว่างวันได้ง่ายๆแบบนี้เนอะ

แต่ส่วนตัวมี่ว่า ตัวกันแดดเป็นชนิดกายภาพ ถ้าเราเหงื่อออกไม่มาก ไม่ไปล้างไปเช็ด มันก็ไม่เสื่อมหรอกค่ะ ติดอยู่ตรงหน้านั่นหล่ะ ไม่ต้องเติมยังได้
ทั้งสองตัวส่วนผสมหลักจะคล้ายกัน มี่เลยขอเลือกตัวกันแดดมูส มาวิเคราะห์นะคะ

ส่วนผสมเป็นดังนี้ค่ะ

สผส jewels

 

มี่ได้ทำ Highlight ด้วยสีไว้แล้วค่ะ

 

ปกติเราแบ่งส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางเป็น 3 หมวดหลักๆ คือ

  1. Actives หรือ สารออกฤทธิ์ เป็นสารที่ทำให้เครื่องสำอางมีคุณสมบัติพิเศษต่างๆ
  2. Base หรือ ส่วนเนื้อของผลิตภัณฑ์ เป็นตัวพยุงสารออกฤทธิ์ และนำพาไปสู่ผิวหนัง
  3. Additives หรือ ส่วนของสารเติมแต่ง เป็นตัวเติมแต่งให้ผลิตภัณฑ์มีความน่าใช้ มีความปลอดภัย เช่น พวกสารกันเสีย พวกน้ำหอม พวกซิลิโคน ตัวเพิ่มความหนืด ฯลฯ

 

เรามาดูไปทีละส่วนกันเลยนะคะ

  1. Actives ขอแบ่งเป็นสารกันแดด กับ สารบำรุงอื่นๆนะคะ ได้แก่
    • สารกันแดด ใช้ Titanium dioxide และ Zinc oxide ซึ่งเป็นกันแดดชนิดกายภาพ พวกนี้อาศัยการสะท้อนและกระเจิงแสงออกไปโดยที่ตัวมันเองจะมีความคงตัวสูงมาก ไม่เสื่อมสลายไปตามเวลา เว้นแต่เหงื่อออกมาก หรือไปล้างไปเช็ดมันออกมา
    • สารบำรุงอื่นๆ มีอยู่หลายตัวเหมือนกันค่ะ ได้แก่
    • Arbutin เป็นสารที่ออกฤทธิ์ลดการสร้างเม็ดสีผิว ป้องกันไม่ให้สีผิวเข้มขึ้นหลังจากโดนแดด
    • Ascorbyl glucoside อนุพันธ์น้ำตาลของวิตามินซี มีความเป็นกรดน้อย ระคายเคืองน้อย ซึมเข้าผิวได้ดี มีความคงตัวสูง ให้ประโยชน์เป็น Antioxidant ช่วยดักจับอนุมูลอิสระที่เกิดจากรังสี UV ที่หลุดรอดเข้ามา และความเครียดในแต่ละวัน นอกจากนี้ยังช่วยลดการสร้างเม็ดสีผิว และเป็นส่วนหนึ่งในขั้นตอนการสังเคราะห์คอลลาเจน
    • Centella asiatica leaf extract คือ สารสกัดจากบัวบก สารสกัดจากบัวบก บัวบกเป็นพืชที่มีรายงานถึงฤทธิ์ทางชีวภาพไว้ค่อนข้างเยอะ ฤทธิ์ทางชีวภาพของบัวบกได้แก่ ฤทธิ์กระตุ้นการสมานแผล กระตุ้นการทำงานของเซลล์ Fibroblast กระตุ้นการสังเคราะห์ Collagen และ Fibronectin ในผิว ลดริ้วรอยที่เกิดก่อนวัย (เรียกริ้วรอยก่อนวัยว่า Photoaging) (Postepy Dermatol Alergol. 2013; 30(1):46-9.) และ ปกป้องผิวไม่ให้ถูกทำลายโดยรังสี UV (Int J Mol Med. 2012; 30(5):1194-202.)
    • Niacinamide ที่เป็นรูปแบบหนึ่งของวิตามินบี 3 3 มีรายงานว่า สารตัวนี้สามารถเป็น Whitening ช่วยปรับสภาพสีผิวให้สม่ำเสมอ โดยไปรบกวนการส่งผ่านของเมลานินที่สร้างเสร็จแล้ว ลดการอักเสบในผิว เพิ่มการไหลเวียนเลือด ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้ผิวโดยไปกระตุ้นการสร้าง Ceramides กรดไขมัน และไขมันชนิดต่างๆในหนังกำพร้า และยังเป็น Antioxidant ด้วย (Int J Cosmet Sci 2005; 27:255–261)
    • Camellia sinensis leaf extract สารสกัดจากใบชาเขียว มีคุณสมบัติเป็น Antioxidant ที่ดี มีรายงานวิจัยอยู่ค่อนข้างมาก เช่น ช่วยลดริ้วรอย เพิ่มความยืดหยุ่นให้แก่ผิว (Dermatol Ther. 2013;26(3):267-71.) และยังมีรายงานถึงคุณสมบัติในการสมานแผล (Evid Based Complement Alternat Med. 2013;2013:386734.) สารประกอบกลุ่ม Polysaccharide ที่พบในชาช่วยปกป้องผิวจากรังสี UV ได้ และสารประกอบกลุ่ม Polyphenol ยังช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสีได้ (J Agric Food Chem. 2009;57(17):7757-62.)
    • Sodium hyaluronate ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว
    • Tocopherol คือ วิตามินอี มีคุณสมบัติเป็น Antioxidant แต่ส่วนมากจะให้ผลแค่ปกป้องสารในผลิตภัณฑ์ไม่ให้เสื่อมสภาพ
    • Glycyrrhiza glabra root extract สารสกัดจากชะเอมเทศ มีรายงานเกี่ยวกับคุณสมบัติในการยับยั้งเอนไซม์ Tyrosinase ลดการสร้างเมลานินช่วยให้สีผิวจางลง มีฤทธิ์เป็น Antioxidant และช่วยปกป้องเซลล์ผิวจากอันตรายจากเปอร์ออกไซด์ในร่างกาย ( 2014; 19(7):9101-13.) มีคุณสมบัติเป็น Anti-inflammatory เมื่อใช้ในโรคผิวอักเสบแบบ Atopic จะช่วยลดอาการคัน บวม และแดงได้ (J Dermatolog Treat. 2003; 14(3):153-7.)
    • Tourmaline หินอัญมณีชนิดหนึ่งมีสีชมพู มีรายงานการวิจัยกล่าวว่าหินนี้สามารถปลดปล่อยรังสี Far-Infrared (FIR) ที่มีคุณสมบัติกระตุ้นการไหลเวียนเลือด และเพิ่มการแบ่งตัวเพิ่มจำนวนของเซลล์ผิวได้ (J Cosmet Sci. 2002;53(3):175-84.)
    • Lepidum sativum sprout extract สารสกัดจาก Garden cress ไม่มีข้อมูลงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับผิวหนัง ข้อมูลจากผู้ผลิตวัตถุดิบบอกว่า มีประโยชน์ในการเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว ต่อต้านอนุมูลอิสระ และลดเลือนริ้วรอยได้ สามารถยับยั้งการทำงานของฮอร์โมน Melanocyte stimulating hormone (MSH) ที่ทำหน้าที่กระตุ้นให้เซลล์เมลาโนไซต์ที่มีหน้าที่สร้างเมลานินทำงานได้ดีขึ้น เมื่อไปยับยั้ง MSH ก็จะทำให้เซลล์เมลาโนไซต์ทำงานได้ลดลง ผิวจึงขาวขึ้น
    • Dimethoxy chromanyl palmitate มีชื่อทางการค้าว่า Chromabright ข้อมูลจากผู้ผลิตระบุว่าสารนี้ให้ผลเป็น Whitening และช่วยต่อต้านการแก่ก่อนวัย (Photoaging)
  2. Base มาในรูปแบบของอิมิลชั่นเนื้อมูส ประกอบด้วยน้ำ น้ำมัน และซิลิโคน ดังนี้

2.1 ส่วนของน้ำ ได้แก่ น้ำ, Propylene glycol, Glycerin

2.2 ส่วนของน้ำมัน ได้แก่ Isopropyl myristate, Glyceryl monostearate, Cetyl alcohol, Stearyl alcohol, Diethylhexyl carbonate, Lecithin ที่มีหลายหน้าที่ ทั้งเพิ่มความชุ่มชื้น ทดแทนไขมันในผิวหนัง และอาจจะทำหน้าที่สร้าง Liposome

2.3 Silicones ได้แก่ Cyclomethicone ที่เป็นซิลิโคนบางเบาระเหยได้ ไม่เหนอะหนะ, Cethyl dimethicone ที่เป็นซิลิโคนจับกับสายไขมัน เข้ากับน้ำมันได้ดีจึงไม่ขัดขวางการหลั่งน้ำมันตามธรรมชาติ

  1. Additives ได้แก่
    • สารกันเสีย คือ Phenoxyethanol
    • Magnesium stearate เพิ่มการเกาะติดผิวของสารกลุ่ม Pigment
    • Sodium chloride มีหลายหน้าที่
    • สารแต่งสี ได้แก่ CI19140 คือ Yellow number 5 เป็นสีละลายน้ำ มีสีเหลือง และ CI14720 คือ เป็นสีละลายน้ำ มีสีแดง

ถึงเวลาให้คะแนน
1. กลุ่มสารออกฤทธิ์ เรียกได้ว่ามาค่อนข้างครบ เพราะไม่ใช่แค่ใช้กันแดดกายภาพที่เน้นสะท้อนรังสี UV ทิ้งไป ยังมีสารในกลุ่ม Antioxidant สารลดการอักเสบ ยังมีสารที่ให้ความชุ่มชื้น และช่วยเรื่องไวท์เทนนิ่งได้ ในส่วนของ Tourmaline ที่ใส่มา ใครจะไปคิดว่ามีงานวิจัยรองรับว่าสามารถเพิ่มการไหลเวียนของเลือด และกระตุ้นทำงานของเซลล์ผิวได้จริง โดยรวมถือว่าค่อนข้างครบสำหรับการเป็นกันแดดดีๆตัวนึง ให้ 5 ฟลาสก์

2. กลุ่มเนื้อผลิตภัณฑ์ สารที่ใช้หลายตัวให้สัมผัสที่ค่อนข้างบางเบา สารไขมันบางตัวให้คุณสมบัติบำรุงผิวได้ บางตัวให้สมบัติเคลือบปกป้องผิวกันน้ำระเหย และมีส่วนผสมของสารดูดน้ำให้ผิว โดยรวมถือว่ามีอยู่ ไม่มี Alcohol แต่ส่วนผสมของ Isopropyl myristate นั้นอาจจะอุดตันรูขุมขนได้ในบางราย แต่ทางแบรนด์เองก็ได้ทดสอบแล้วว่าไม่เกิดการอุดตันในอาสาสมัคร แต่เพื่อความยุติธรรม เลยต้องขอหักคะแนน ได้ไป 4 ฟลาสก์

3. กลุ่มสารอื่นๆ ใส่มาเท่าที่จำเป็นจริงๆ มาแบบ The less is the more น้อยๆสิดี อัตราเสี่ยงต่อการเกิดการไม่พึงประสงค์ก็น้อยกว่าอันที่มาเยอะๆ สารไม่ได้มีพิษมีภัยอะไรก็เลยไม่มีอะไรให้หักคะแนน ได้ไป 5 ฟลาสก์

4. การใช้งาน ตัวกันแดดมาในเนื้อแบบมูส ที่เกลี่ยง่าย แห้งไว ไม่เป็นปื้นขาว ไม่วอก ให้ลุคที่ matte สามารถแต่งหน้าทับได้เลย ถ้าใครที่ใช้ Primer ด้วย มี่แนะนำให้ลง Primer ก่อน ค่อยลงกันแดดตัวนี้ จะทำให้เกลี่ยกันแดดได้สมูทขึ้นเยอะค่ะ ส่วนเรื่องการกันแดด จากที่ลองมาได้เกือบๆ 2 อาทิตย์ ก็ถือว่าทำมาได้ดีนะคะ ในส่วนของแพคเพจเองก็หรูหรา โดยเฉพาะตัว Cushion ที่ทาแล้วจะให้สัมผัสเย็นๆ เติมทับกี่ครั้งก็ได้ในระหว่างวัน แถมยังให้เมคอัพดูเฟรชตลอด คือ ค่อนข้างประทับใจค่ะ Cushion นี่มีต่อตลับที่สองแน่ๆ เอาไปเลยค่ะ 5 ฟลาสก์

คะแนน

สำหรับวันนี้ต้องขอขอบคุณทางแบรนด์ Jewels ด้วยนะคะที่ส่งสินค้าดีๆมาให้มี่ได้ทดลองใช้ และขอบคุณทุกๆท่านที่ติดตามรับชมมาจนจบค่ะ

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ทางเฟสบุคของแบรนด์โดยตรงเลยนะคะ

Facebook Page : jewelsaesthetic

https://www.facebook.com/jewelsaesthetic

 

อ้อ และ ผลิตภัณฑ์มีจำหน่ายที่ร้าน eveandboy สยามสแคว์,Z-pell รังสิต, Beautrium สยามสแควร์, Lashes ทุกสาขา, Stardust ทุกสาขา, เจ้เล้ง ดอนเมือง, ร้านขายยาบางร้าน ไปลองเล่นก่อนตัดสินใจได้ค่ะ

Disclaimer/Conflict of interest: ผลิตภัณฑ์นี้ได้รับการสนับสนุนจากทางแบรนด์ Jewels

รีวิววิเคราะห์ส่วนผสมแบบละเอียด กันแดด Medica Viva กันครบจบหมดทั้ง UV IR VIS

รีวิววิเคราะห์ส่วนผสมแบบละเอียด กันแดด Medica Viva กันครบจบหมดทั้ง UV IR VIS

สวัสดีค่ะ วันนี้มี่แวะเอารีวิวกันแดดมาฝากกันค่ะ

เป็นกันแดดที่น่าสนใจตัวหนึ่งเลย จากแบรนด์ Medica Viva ค่ะ

มาดูโฉมหน้าผลิตภัณฑ์กันหน่อยนะคะ

ตัวนี้มีค่า SPF อยู่ที่ 50 และมีค่า PA+++ ค่ะ

IMG_0329-re

ทำไมมี่ถึงบอกว่ามันน่าสนใจหน่ะหรือ เดี๋ยวมาอ่านไปด้วยกันเลยดีกว่าค่ะ

สำหรับเนื้อ กันแดดตัวนี้มีสีออกไปโทนเหลือง/ส้มค่ะ ใช้เป็นเมคอัพเบส ลงปรับสีผิวให้สว่างขึ้นได้ด้วย

IMG_0330-re

เกลี่ยง่าย แห้งไว ให้ลุคที่ค่อนข้างแมทท์ ไม่มันเยิ้ม และไม่ขาววอกเลย

IMG_0332-re

เนื่องจากตัวเนื้อครีมมีสี และมี Pigment เลยไม่ได้วัดค่า pH ให้นะคะ

สำหรับส่วนผสมเป็นดังนี้เลยค่ะ

สผส

 

ปกติเราแบ่งส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางเป็น 3 หมวดหลักๆ คือ

  1. Actives หรือ สารออกฤทธิ์ เป็นสารที่ทำให้เครื่องสำอางมีคุณสมบัติพิเศษต่างๆ
  2. Base หรือ ส่วนเนื้อของผลิตภัณฑ์ เป็นตัวพยุงสารออกฤทธิ์ และนำพาไปสู่ผิวหนัง
  3. Additives หรือ ส่วนของสารเติมแต่ง เป็นตัวเติมแต่งให้ผลิตภัณฑ์มีความน่าใช้ มีความปลอดภัย เช่น พวกสารกันเสีย พวกน้ำหอม พวกซิลิโคน ตัวเพิ่มความหนืด ฯลฯ

 

เรามาดูไปทีละส่วนกันเลยนะคะ

1. Actives ขอแบ่งเป็นสารกันแดด กับ สารบำรุงอื่นๆนะคะ ได้แก่

1.1 สารกันแดด เป็นกันแดดชนิดกายภาพผสมเคมี

  • สารกันแดดทางกายภาพ ได้แก่ Titanium dioxide และ Zinc oxide
  • สารกันแดดเคมี ได้แก่ Ethylhexyl methoxycinnamate ตัวนี้เด่นที่ UVB และ Octocrylene ตัวนี้ถ้าใช้เดี่ยวๆ จะสามารถดูดซับรังสีได้ในช่วง 280-320 nm อยู่ระหว่าง UVB และ UVA

1.2 สารบำรุงอื่นๆ ได้แก่

  • Nicotinamide เป็นอีกชื่อหนึ่งของ Niacinamide ที่เป็นรูปแบบหนึ่งของวิตามินบี 3 3 มีรายงานว่า สารตัวนี้สามารถเป็น Whitening ช่วยปรับสภาพสีผิวให้สม่ำเสมอ โดยไปรบกวนการส่งผ่านของเมลานินที่สร้างเสร็จแล้ว ลดการอักเสบในผิว เพิ่มการไหลเวียนเลือด ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้ผิวโดยไปกระตุ้นการสร้าง Ceramides กรดไขมัน และไขมันชนิดต่างๆในหนังกำพร้า และยังเป็น Antioxidant ด้วย (Int J Cosmet Sci 2005; 27:255–261)
  • Plankton extract สารสกัดจากแพลงค์ตอน มีหลายสายพันธุ์ แต่ละสายพันธ์ก็แตกต่างกันไป คุณสมบัติรวมๆของสารสกัดแพลงค์ตอน คือเพิ่มความชุ่มชื้นให้คุณสมบัติสบายผิว (Soothing) มีส่วนช่วยเรื่องริ้วรอย Plankton บางสายพันธ์มีคุณสมบัติลดการอักเสบ เป็น Antioxidant และช่วยปกป้องเซลล์ผิวจากแสงแดดได้
  • Aloe barbadensis leaf extract สารสกัดจากว่านหางจรเข้ มีผลเพิ่มความชุ่มชื้น และลดการระคายเคืองในผิว มีรายงานการวิจัยกล่าวว่าสามารถออกฤทธิ์เป็นสารช่วยให้ผิวขาวได้ โดยตัวที่เป็นตัวออกฤทธิ์คือ Aloin ที่พบในใบ (Planta Med. 2012; 78(8):767-71.)
  • Punica granatum fruit extract สารสกัดจากผลทับทิม มีคุณสมบัติเป็น Antioxidant ที่ดี ช่วยกระชับรูขุมขน และ มีน้ำตาลที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นได้
  • Polygonum aviculare extract สารสกัดจาก Knotgrass มีรายงานเกี่ยวกับคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ (Saudi J Biol Sci. 2010; 17(1): 57–63.) ข้อมูลจากผู้ผลิตวัตถุดิบระบุว่าสารนี้มีความสามารถในการปกป้องเส้นใยในชั้นผิวไม่ให้เสื่อมสลายเพราะรังสี Infrared ได้ (Elix-IRTM, Lucas meyer cosmetics SAS)
  • Melanin สารกลุ่มเดียวกับเม็ดสีในผิว มีรายงานการวิจัยกล่าวว่า Melanin มีคุณสมบัติเป็น Antioxidant ที่ดี ช่วยยับยั้งปฏิกิริยา Lipid peroxidation (Skin Pharmacol Appl Skin Physiol. 2000;13(3-4):143-9.) ที่ไปทำลายโครงสร้างไขมัน ทำลายเยื่อหุ้มเซลล์ ข้อมูลจากผู้ผลิตวัตถุดิบระบุว่าสารนี้ให้คุณสมบัติในการปกป้องผิวจากแสงสีน้ำเงิน (Blue light) ที่มาพร้อมกับแสงอาทิตย์ และจากแหล่งอื่นๆ เช่น จอคอมพิวเตอร์ จอโทรศัพท์ สามารถป้องกันไม่ให้เส้นใยเกี่ยวพันในชั้นผิวถูกทำลายได้ (Liposhield® HEV Melanin, Lipo Chemicals, Inc.)
  • Ferulic acid สารพฤกษเคมีบริสุทธิ์ที่พบในพืชหลายชนิด เป็น Anti-oxidant ที่มีฤทธิ์แรงและยังมีฤทธิ์ลดการอักเสบในผิวได้ดี
  • Tocopheryl acetate เป็นรูปแบบหนึ่งของวิตามินอี มีคุณสมบัติเป็น Antioxidant ที่ดี แต่ส่วนมากมักจะให้ผลแค่ปกป้องสารอื่นๆในผลิตภัณฑ์ไม่ให้เสื่อมสภาพเพราะอากาศ
  • Allantoin สารที่แยกได้จากพืชหลายชนิด มีคุณสมบัติลดอักเสบ ลดระคายเคืองได้

2. Base มาในรูปแบบของอิมัลชั้นชนิดน้ำและซิลิโคน ดังนี้

2.1 ส่วนของน้ำ ประกอบด้วยน้ำ และสารดูดน้ำให้ผิวอย่าง Propylene glycol, Glycerin

2.2 Silicones ได้แก่ Cyclopentasiloxane กับ Cyclotetrasiloxane ที่บางเบา ระเหยได้ ให้สัมผัสคล้ายไหม ร่วมกับ Dimethicone/Vinyl dimethicone crosspolymer ที่เป็นซิลิโคนชนิดพิเศษ มีสัมผัสนุ่ม แห้ง (Matte) เหมือนไหม ช่วยปกคลุมและเคลือบอำพรางริ้วรอย รูขุมขนบนผิวได้ และ PEG/PPG-20/15 dimethicone ที่มีคุณสมบัติช่วยประสาน Silicone ให้เข้ากันได้ และให้สัมผัสที่ดีตอนทา

3. Additives ได้แก่

  • Solubilizer ทำหน้าที่ช่วยละลาย มี C12-15 alkyl benzoate ที่เป็นไขมันพิเศษที่ช่วยละลายสารกันแดด กับกระจายเม็ดสีให้สม่ำเสมอ
  • สารดูดซับ มี Talc กับ Silica ที่ช่วยดูดซับน้ำมัน ให้ผลควบคุมความมันและให้ได้ลุคที่ Matte บนผิว
  • Preservatives ได้แก่ สารกันเสีย คือ Phenoxyethanol กับ Chlorphenesin และสารจับโลหะ EDTA
  • เม็ดสี มี CI77492 และ CI77493 เป็นกลุ่ม Iron oxides ให้สีเหลือง/แดง
  • สารหลายหน้าที่ คือ Sodium chloride มีคุณสมบัติหลายอย่าง เช่น ปรับค่าความเข้มข้นของสารให้เท่ากับเกลือในผิว (Isotonic) ปรับความหนืด

 

ถึงเวลาให้คะแนน

  1. Actives ในส่วนของสารกันแดดนั้นเป็นชนิดกายภาพ/เคมี ให้ผลกันแดดได้กว้างและครอบคลุมทั้ง UVA, UVB และยังมีสารที่ให้ผลกัน Infrared และ แสงสีน้ำเงินได้อีก นานๆทีเราจะเห็นกันแดดที่กันแสงจากดวงอาทิตย์ได้อย่างกว้างขวางแบบนี้ สารองค์ประกอบอื่นๆก็มีพวก Antioxidant และสารลดการอักเสบในผิวเสริมมา ช่วยปกป้องจากรังสีที่เหลือรอดลงไปในผิวได้อีก และช่วยฟื้นฟูสภาพผิวที่เสียหาย โดยรวมถือว่าทำมาได้ครบถ้วนสมบูรณ์ จุดนี้ขอให้ 5 ฟลาสก์
  2. Base มาในรูปแบบของ Silicone emulsion ไม่มีส่วนผสมของน้ำมันใดๆ (Oil-free) จึงไม่ต้องกังวลเรื่องอุดตัน คือ Silicone ในตัวมันเองปลอดภัย เพราะไม่แพ้ ไม่อุดตัน แต่ถ้าใช้แล้วล้างไม่สะอาด มันจะเคลือบผิว ทำให้สารสกปรกในผิวออกมาไม่ได้ เพราะฉะนั้นถ้าอุดตันควรโทษการล้างหน้า ไม่ใช่โทษ Silicone ในส่วนของสารน้ำ มีสารดูดน้ำให้ผิวแล้ว จุดนี้ขอให้ 5 ฟลาสก์
  3. Additives ส่วนของสารปรุงแต่งไม่ได้มีสารไหนที่มีพิษมีภัยอะไรกับผิวเลย มีการเลือกใช้ Talc และ Silica เพื่อคุมมันและให้ได้ลุคที่ Matte มีการใช้เม็ดสี Iron oxides เพื่อให้เป็นเนื้อ CC และช่วยกลบสีขาววอกจากกันแดดกายภาพ ถือว่าทำมาได้ค่อนข้างดี จุดนี้ขอให้ 5 ฟลาสก์
  4. การใช้งาน กันแดดตัวนี้ไม่เหนอะหนะเลย ทาแล้วแห้งไวมากกกกกกก แห้งไวไปด้วยซ้ำ ต้องค่อยๆลงรีบๆเกลี่ย ไม่งั้นจะเกลี่ยได้ไม่ทั่ว ใช้เป็นเบสปรับสภาพผิวก่อนลงรองพื้นได้เลยในตัว ใช้เป็น Makeup Primer ก่อนลงรองพื้นก็ได้ และที่สำคัญคือ กันแดดได้ครอบคลุมหมดจริง อะไรจริง จุดนี้ขอให้ 5 ฟลาสก์

 

คะแนน

 

สุดท้ายนี้ขอขอบคุณทางแบรนด์ Medica Viva ด้วยนะคะที่ส่งผลิตภัณฑ์ดีๆมาให้มี่ได้ทดลองใช้

 

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ทางเฟสบุคของแบรนด์ Medica viva ได้เลยค่ะ

https://www.facebook.com/medicaviva

 

 

 

Disclaimer/Conflict of interests: ผลิตภัณฑ์นี้ได้รับการสนับสนุนจากทางแบรนด์ Medica viva

[Beauty Talks]~My Sunscreen evolution diary

[Beauty Talks]~My Sunscreen evolution diary

วันนี้เอา Diary sunscreen มาแชร์ให้ฟังค่ะ

evol-re

ถ้าพูดถึงกันแดดแล้ว ก็มีอยู่ตัวนึง ที่มีติดมาก รักมาก และใช้ไปเยอะมาก (น่าจะเกิน 10 ขวด)

นั่นก็คือ DHC Suncut Q10 light touch ของประเทศญี่ปุ่นค่ะ

ย้อนอดีตไปเมื่อราวๆ 10 ปีก่อน DHC มาตั้งเคาน์เตอร์ในไทย ด้วยเบอร์โทรที่จำง่าย 02-3536-333 (ทุกวันนี้ยังจำได้อยู่เลย)

ก็ได้ไปลองใช้กันแดด Suncut ของเค้า และก็ติดงอมแงมค่ะ แม้ว่าสมัยนั้นจะยังดูส่วนผสมไม่ค่อยเป็นก็เถอะนะ (ยังเรียนปี 3-4 อยู่เลยมั้งคะ)

แล้วทีนี้นางก็เลิกจำหน่ายในไทย

แต่ก่อนนางจะอำลาไทยแลนด์ นางทิ้ง Sayonara sale ไว้ให้ แบบชนิดที่ว่า ลดถล่มทลาย คนลู่กันซื้อ มี่เองก็ตุนไว้เยอะมาก ชนิดที่ว่าพอใช้กันอีก เกือบ 3 ปีเลยทีเดียว

หลังจากนั้นก็ได้ไปโอซาก้า ก็ไปถอยมากับมือตัวเองคะ เป็น Limited edition รุ่นมินนี่เมาส์

ถอยมา 3 ขวด

แล้วหลังจากนั้นก็ฝากเพื่อน ฝากพี่ ฝากน้องที่ไปญี่ปุ่นหิ้วมาให้อยู่หลายครั้ง

และก็เริ่มลองตัวเบสทินท์ ก็โอเคนะ แต่หนักหน้าไปหน่อย ดีค่ะที่มีแค่ขวดเดียว

ตอนนี้ที่ญี่ปุ่นนางเปลี่ยนแพคเกจแล้วค่ะ คาดว่าคงปรับสูตรด้วย

จนกระทั่งได้มาพบกับ Solanoveil ค่ะ

ติดหนึบเลย สีเนื้อ แห้งๆ แมทท์ๆ เหมือนทาเบสไปในตัว

ต่อมาก็ไปเที่ยวเกาหลี เลยไปถอย Tony moly กับ Nature republic มาอีกอย่างละชิ้นสองชิ้น (เพราะมันมีโปร 1+1 กับ โปรลด 50% พอดี คือถ้ามันไม่โปรก็คง Solanoveil ต่อไปค่ะ)

แต่ยังไม่ได้ลองใช้นะคะ รอ Solanoveil หมด จะใช้เป็น Next item ค่ะ

ถ้ามีโอกาสจะเอาส่วนผสมมาวิเคราะห์ให้ชมนะคะ

สำหรับ Solanoveil เคยเขียนแล้ว ติดตามที่ได้ที่ลิงค์ข้างล่างนี้เลยค่ะ