Image

รีวิวคุชชั่นสุดเลอค่า DIOR PRESTIGE Cushion foundation – le cushion teint de rose คุชชั่นที่ผสานสารสกัดจากกุหลาบสายพันธุ์พิเศษ Rose de Granville

เมื่อวันก่อนมี่มาเล่าประสบการณ์ที่ทางทีมงานของ Dior มาดูแลประดุจดั่งเป็นเจ้าหญิงไป

ตามลิงค์นี้นะคะ เผื่อท่านใดพลาดไป >>Click<<

ใน Content คราวก่อนได้ทิ้งท้ายไว้ที่ Highlight product คือ DIOR PRESTIGE Cushion foundation – le cushion teint de rose

น้องเป็นคุชชั่นผสมสารสกัดจากกุหลาบสายพันธุ์พิเศษอย่าง Rose de Granville ที่ผ่านการคัดเลือกและผสมข้ามสายพันธุ์กว่า 7 รุ่น จนได้กุหลาบที่มีคุณสมบัติพิเศษในการบำรุงผิว ซึ่งกุหลาบ Rose de Granville ตัวนี้เองก็เป็นนางเอกในกลุ่มสกินแคร์ในไลน์ Dior Prestige หลายๆ ชิ้น ที่เดี๋ยวมี่จะหยิบยกเอาเซรั่ม Rose de Granville มารีวิวให้ได้ชมในโอกาสต่อไปนะคะ

คุชชั่นนี้เป็นคุชชั่นที่เรียกได้ว่าสวยงามหรูหราประดุจดั่งเจ้าหญิงเลย เรียกได้ว่าแค่มีวางประดับบนโต๊ะเครื่องแป้งก็ดูสวยแพงแล้ว

ตัวตลับดีไซน์มาด้วยสีทองดูหรูหราเลอค่า

Puff สำหรับใช้คู่กับคูชั่นก็ยังหรูหราเลยค่ะ

ด้านในมีการ Seal มาอย่างดี

แผ่นฟองน้ำที่ใช้ซับเนื้อของคุชชั่นก็มีการพิมพ์ลาย Dior ของแบรนด์ไว้ด้วย

ตัวคุชชั่นมีด้วยกัน 5 เฉดสีนะคะ ตอนแรกมี่ก็ลังเลอยู่ 2 เฉด ระหว่าง 011 กับ 030 แต่คุณอั๋น (Makeup trainer ของทาง Dior) แนะนำให้ใช้เบอร์ 030 Beige Moyen หรือ Medium beige ค่ะ ซึ่งพอออกมาก็สวยงาม และติดทนนานไม่น้อยเลยทีเดียว

การปกปิดของคุชชั่นตัวนี้จะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยนะคะ

อย่างแรกคือความแรงในการกดพัฟลงบนเนื้อคูชั่น ถ้ากดแรง ก็จะได้เนื้อครีมออกมาเยอะ จะปกปิดดี แต่ถ้าจิ้มเบาๆ ก็จะปิดแบบเบาๆ เน้นงานผิว

อีกอย่างคือการ Layer ถ้าลง 2 ชั้น ระดับการปกปิดก็จะเพิ่มขึ้นกว่าเดิมค่ะ

สำหรับคนผิวแห้ง หรือ คนที่รู้สึกว่ามันแห้งไป เราเอามาผสมกับสกินแคร์ปริมาณน้อยๆบนหลังมือ แล้วค่อยๆ Tap ไปบนหน้าก็เก๋ดีนะคะ

ลองดู Finish look ที่ได้นะคะ

เริ่มจากลงสกินแคร์เรียบร้อย ก่อนทาคุชชั่น

หลังทาคูชั่นอย่างเดียว การปกปิดอยู่ในระดับ Medium-Full coverage ตรงส่วนนี้เป็นการลงแค่ชั้นเดียวนะคะ

หลัง Set ด้วยแป้ง ดิฉันก็รู้สึกว่าแป้งดิฉันเฉดเข้มไป ดิฉันควรไปใช้แป้งฝุ่น Translucent หรือเฉดที่สว่างกว่านี้

ส่วนตัวชอบเลยหละ ระดับการปกปิดประมาณนี้ ยังดูเป็นแนว Makeup-no-Makeup อยู่แบบกรุบๆ

ทาเช้าก่อนออกบ้าน ส่วนตัวรู้สึกได้ชัดเจนเลยว่า 4 ทุ่มเมคอัพยังสวยสดโดยไม่ต้องซับไม่ต้องเติม (ผิวผสม/แห้ง)

องค์ประกอบหลักที่เป็น Key และ Claim หลักของคูชั่นนี้คือ

  • การเรียงตัวเป็น Second skin ขององค์ประกอบในสูตร Cushion ที่สามารถปกป้องผิวเอาไว้ แต่ยังคงรู้สึกเบาสบายผิว ไม่อบอ้าว ไม่เหนียวเหนอะหนะ เพราะ Second skin นี้ยอมให้ความชื้นผ่านเข้าออกได้ตามอิสระ ดังนั้นไม่ว่าจะเหงื่อออก หรือ อากาศชื้น หรือวันไปจอยๆ ริมทะเล ก็ยังสบายผิวอยู่
  • Pigment ชนิดพิเศษของทางแบรนด์ ที่เรียกว่า Rose light pigment ที่ช่วยปรับคุณสมบัติการกระจายแสงจากผิวให้ดู Glow สว่าง และนวลเนียนคล้ายกลีบกุหลาบ
  • ส่วนผสมของสารสกัดจากดอกกุหลาบ Rose de Granville โดยทางแบรนด์กล่าวว่า ใน คุชชั่น 1 ตลับนี้มีกลีบกุหลาบ Rose de Granville ถึง 460 กลีบเลยทีเดียว
  • กลิ่นกุหลาบหอมที่ช่วยผ่อนคลาย ตาม Concept หลักของทาง Dior คือ ผู้หญิงต้องสวยไปพร้อมๆ กับมีความสุข

สำหรับวันนี้คงต้องขอตัวลาจากกันไปเท่านี้ พบกันใหม่โอกาสถัดไป สวัสดีค่ะ

Disclaimer/conflict of interests: ผลิตภัณฑ์นี้ได้รับมาจากทางแบรนด์ Dior การรีวิวครั้งนี้เป็นการวิเคราะห์ส่วนผสม/วัตถุดิบตามหลักการทางวิทยาศาสตร์เครื่องสำอางและอาศัยความเห็นส่วนบุคคล ผู้เขียนไม่ได้มีผลประโยชน์ใดๆในการขายสินค้าและไม่ได้รับค่าตอบแทนในการรีวิว โปรดใช้วิจารณญาณ

Image

[Miyeon on Event] ได้รับการดูแลประดุจดั่งเป็นเจ้าหญิงในนิทาน – Being treated like a princess

เชื่อว่าผู้หญิงหลายๆ คน มีความฝันอยากได้รับการดูแลปรนนิบัติแบบเจ้าหญิง อย่างน้อยก็สักครั้ง ส่วนตัวมี่เองก็มีความฝันแบบนั้นนะคะ

ไปกรุงเทพครั้งนี้มี่มีโอกาสได้พบกับ คุณอั๋น Dior Makeup trainer และ คุณบี Color stylist มาช่วยเติมแต่งความสวย ทั้งแต่งหน้า ทำผม ทาเล็บ ด้วยผลิตภัณฑ์คุณภาพจาก Dior เรียกได้ว่าเพียบพร้อมพร้อมและสวยงามมาก

ทาง Dior มีอะไรที่เป็นเอกลักษณ์ให้เราได้ประทับใจเสมอเลยค่ะ อย่างเรื่องการทาเล็บ Color stylist ก็จะนวดมือให้ก่อนด้วย เพื่อความผ่อนคลาย

ระหว่างแต่งหน้าก็ได้แลกเปลี่ยนพูดคุยกับคุณอั๋นถึงเทคนิคการแต่งหน้าแบบต่างๆ ซึ่งเอาจริงๆ เราก็รู้แค่ทฤษฎี แต่สกิลด้านการปฏิบัตินั้นเรียกได้ว่า แทบไม่มีเลยค่ะ

โจทย์ที่คุณอั๋นถามคือ อยากได้ลุคประมาณไหน เราก็แบบ อยากให้มันเป็นการเบลนด์กันของ K-beauty และ Eu-beautyเป็นการผสมกันอย่างลงตัวระหว่าง K-beauty และ งานสายฝอ คุณอั๋นก็เนรมิตออกมาให้ได้อย่างสวยงาม เข้ากันกับชุด และทรงผมที่คุณบีทำให้อย่างเหมาะเจาะ

โดยผลิตภัณฑ์ที่เป็นหัวใจหลักของการแต่งหน้าครั้งนี้คือ DIOR PRESTIGE Cushion foundation – le cushion teint de rose

นางเป็นคุชชั่นที่โดดเด่นด้วยนวัตกรรม Rose color blend complex ที่ให้ Complexion ผิวที่สวยแบบดอกกุหลาบ และเทคโนโลยี Rose light pigment ที่มีคุณสมบัติกระจายแสงให้ทั่วใบหน้า ให้ผิวแลดูสดชื่น เปล่งปลั่ง อมชมพู อย่างเป็นธรรมชาติ และมีชีวิตชีวา นอกจากนี้นางยังมีคุณสมบัติปกป้องแสงแดดในตัวด้วยค่า SPF50 PA+++

รุ่นใหม่นี้เป็น Cushion รุ่น Slim ที่ค่อนข้างบางกว่าตลับแบบเดิม พกง่าย ไม่กินเนื้อที่ในกระเป๋า ในการแต่งหน้าครั้งนี้ มี่ใช้เบอร์ 030 ค่ะ ราคาตลับจริงอยู่ที่ 3,800 บาท Refill 2,050 บาท Sponge 2 ชิ้น 350 บาท

ส่วนตัวมี่เองผิวค่อนข้างแห้ง ทางคุณอั๋นจึงแนะนำเทคนิคให้เอาเซรั่ม Dior prestige La micro-huile de rose มาวอร์มผสมกับเนื้อ Cushion ก่อนลงผิวจะได้ความชุ่มฉ่ำเพิ่มขึ้น และติดทนผิวมากขึ้น เป็นงานผิวที่ดูแบบสดใสและเป็นธรรมชาติมากๆ

Finished look เป็นประมาณนี้ค่ะ

สำหรับลุคนี้ ระหว่างวันผิวไม่แห้ง ไม่เหี่ยว ไม่ตึง ไม่ลอก และก็ไม่เยิ้ม คือ ปลื้มปริ่มมากจริงๆแต่งตั้งแต่ตอนราวๆ 9 โมง เสร็จงานราวๆ 4 โมงเย็น ออกไปเที่ยวต่อถึง 4 ทุ่มกว่า กลับห้องยังสวยเหมือนเดิม เรียกได้ว่าแทบไม่อยากจะลบเมคอัพเลยทีเดียวหละ

สวยฉ่ำยาวยัน 4 ทุ่ม

Disclaimer: การร่วมแต่งหน้าในครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจากทางแบรนด์ Dior

Image

Mini Review>>> Metal cushion รุ่น Cherry blossom collection II

สวัสดีค่ะ

ตอนไปเกาหลีเมื่อช่วง Spring ปีที่แล้ว มี่บังเอิญไปเห็น Metal cushion ของแบรนด์ Isa Knox เขาทำตลับลายดอกซากุระออกมา แล้วที่สำคัญคือเป็นสีม่วง/ชมพู ด้วยความที่มันโดนจริต เลยซื้อมาไว้อันนึง เก็บไว้ในกรุ

สมัยนั้นใช้เบอร์ 23 แต่เบอร์ 23 เป็นตลับเขียว ไม่สวย เลยยอมซื้อเบอร์ 21 ที่เป็นสีม่วงมา กะจะเอามาสะสมเป็นคอลเลคชั่น

Isa Knox นี่เป็นแบรนด์ในเครือ LG คู่แข่งของ Amore Pacific นั่นเองค่ะ

(ปล. นอกเรื่องนิดนึงค่ะ หลังๆได้ยินมาว่าเครื่องสำอางเกาหลีไม่ได้ดีทุกแบรนด์นะ แบรนด์ที่เกรดต่ำและอาจปนเปื้อนสารเคมี ก็มีอยู่ด้วย เลยไม่ค่อยซื้อของไปเรื่อย แต่ไว้ใจเครือ LG เลยจัดมาค่ะ)

 

Isa Knox นางออกสินค้าในตลับน่ารักๆมาหลายชิ้นเหมือนกันนะคะ เห็นแล้วก็อยากได้ (อยากได้ตลับ 55)

อย่างรูปนี้เอามาจากหน้าเว็บค่ะ เป็น Collection ปี 2018 เป็น Cherry blossom collection III (แต่ที่เรามีเป็นรุ่น II)

isa 2018.jpg

(Image from Isa Knox)

 

Collection II ที่มี่ได้มา จงใจเลือกตลับสีม่วงค่ะ

หน้าตาเป็นแบบนี้ค่ะ

isa 1

ตอนแรกกะว่าจะสะสมไปๆมาๆ ก็อยากลองแกะใช้

 

ด้านในก็เหมือน Metal cushion ทั่วไป คือ บรรจุรองพื้นเนื้อครีมในตลับเหล็ก ที่มีรูๆ

isa 2

(พยายามเช็ดแล้วนะ แต่มันยังมีรอยรองพื้นอยู่นิดหน่อย ไม่เป็นไรเนอะ ดูไปเพลินๆ)

 

เวลาเรากดออกมา เนื้อครีมรองพื้นก็จะไหลออกมาตามรูค่ะ

isa 3

ใช้คู่กับ Air Puff ขออภัยในความสกปรกของ Air Puff อิชั้นด้วยนะคะ

 

ตอนแรกก็คิดว่าจะขาววอกเกินไปหรือเปล่า แต่ไม่เลย ผิวมี่ตอนนี้ใช้เบอร์ 21 ได้สบายๆ อาจจะเพราะด้วยหลายสาเหตุ เช่น กางร่มตลอดเวลาออกนอกอาคาร ใช้กันแดดทุกวัน อายุที่เพิ่มขึ้นทำให้เซลล์สร้างเม็ดสีทำงานน้อยลง สกินแคร์ที่เป็น Whitening หลายๆชิ้นที่ได้ทดลองตามที่เคยรีวิวกันไป ฯลฯ

 

เนื้อรองพื้นทำมาได้ดีมาก เหมาะกับอากาศร้อนบ้านเราพอดีเลย ให้ลุคที่ดูแมทท์ ไม่เยิ้ม ไม่แห้งเกินไป ไม่ดรอป สีสวยงาม เข้ากับผิวพอดี แต่จำราคาไม่ได้แล้วหละ ซื้อที่ร้านป้าปากแดงใต้ดินมยองดงค่ะ

 

ลงผิวแขนให้ดูก่อนค่ะ

isa 4

 

ลองลงหน้าให้ดู ถ่ายด้วยแสงธรรมชาติ และแสงแฟลช ค่ะ

isa skin

 

ในภาพรวมคือค่อนข้างเหมาะกับผิวมี่จริงๆค่ะ

พอดีมี่หาส่วนผสมไม่ได้ เลยขอข้ามการวิเคราะห์ส่วนผสมไปนะคะ

 

สำหรับวันนี้คงต้องขอตัวลากันไปเท่านี้ก่อน พบกันใหม่โอกาสถัดไป สวัสดีค่ะ

Disclaimer/conflict of interests: ผลิตภัณฑ์นี้ซื้อด้วยตนเอง การรีวิวครั้งนี้อาศัยความเห็นส่วนบุคคล และผู้เขียนไม่ได้มีผลประโยชน์ใดๆในการขายสินค้า โปรดใช้วิจารณญาณ

Image

รีวิว/วิเคราะห์ส่วนผสมรองพื้นคูชั่นแนวใหม่จากเกาหลี กับ Immiroir UHD perfect cushion foundation

สวัสดีค่ะ เรียกได้ว่ากระแสของคูชั่นยังแรงไม่ตกเลยนะคะ และก็มีหลายแบรนด์ที่พัฒนารูปแบบ อาจมีนวัตกรรม หรือให้เด่นกว่าแบรนด์ของคนอื่น เพื่อสร้างจุดเด่นให้แก่สินค้าของตนเองค่ะ

วันนี้มี่มีรีวิวรองพื้นแบบคูชั่นของเกาหลี ซึ่งเป็นเบสที่ค่อนข้างเบา แต่อัดแน่นด้วย Solid content คือ พวก เม็ดสี pigment รวมถึงสารที่เป็นของแข็ง จึงได้เนื้อที่ค่อนข้าง Matte แห้งสนิท เหมาะกับสาวไทย รวมถึงคนที่ชอบแบบ Matte นะคะ

เป็นรองพื้นจากแบรนด์ Immiroir กับ UHD perfect cushion foundation นั่นเองค่ะ และแน่นอนว่าไม่ใช่คูชั่นรองพื้นธรรมดา แต่อัดแน่นมาด้วยสารบำรุงอีกหลายชนิด และมีสารกันแดดในตัวเลยหล่ะ เรียกได้ว่าถ้าในวันเร่งรีบ ไม่ต้องลง Skincare ตบอันนี้อันเดียวก็ออกบ้านได้เลย

มาเข้าเรื่องของเรากันดีกว่านะคะ ตัวคูชั่นจะมีหน้าตาเป็นแบบนี้ค่ะ

im 1.jpg

นางจะมาในกล่องสีแนวเมทัลลิคสีม่วง ดูหรูหรา

ตลับคูชั่นเป็นสีดำเงา ดูหรูหราเช่นกัน

im 2

เปิดตลับมาเราจะเจอตัว air puff สีดำ พิมพ์ด้วยคำว่า Immiroir

im 3

พัฟค่อนข้างนุ่มและละเอียดมากค่ะ ชอบๆ

im 4

ตอนแรกงง ว่าจะใช้ยังไง นึกว่าเหมือน Metal cushion เกาหลีทั่วไปที่ต้องกดตรง pan

ไม่จ้ะ นางมีปุ่มกด นี่ไม่เห็นเอง กดๆ แล้วเนื้อรองพื้นจะออกมาตามรูที่เขาปรุไว้ค่ะ

im 5

ตลับแบบนี้มันมีข้อดีเหนือกว่าคูชั่นแบบฟองน้ำก็ตรงที่ นางจะปกป้องไม่ให้แผ่นพัฟไปสัมผัสกับฟองน้ำโดยตรง ซึ่งจะทำให้เกิดการสะสมตัวของเชื้อจุลินทรีย์ได้

 

เนื้อรองพื้น ค่อนข้างบางเบา ให้ความ Matte ค่ะ

im 6

การปกปิดอยู่ในเกณฑ์ปานกลางนะคะ ให้อารมณ์ผิวสุขภาพดีมากกว่าที่จะดูแน่นและหนา

im 7

ถ้าลงหน้าจริง มี่จะลงประมาณ 1 – 2 ชั้น ขึ้นกับความต้องการค่ะ จะได้ลุคแมทท์ที่สวยงาม กลบรอยแดงได้เกือบหมด กลบรอยน้ำตาลได้ในระดับกลางๆ หรือเรียกแบบสวยๆว่า Medium coverage ค่ะ ถ้าจะเอาแน่นกว่านี้ ตบ 3 ชั้นจะได้แบบ Full coverage ค่ะ

im 8

ถือว่าค่อนข้างโอเคเลย ภาพนี้ถ่ายวันเดียวกันต่างเวลากัน 5 นาที ไม่ได้คุมแสง ไม่ได้ผ่านแอพค่ะ

การคุมมันสำหรับผิวมี่ ที่เป็นผิวแห้ง/ผสม มี่ว่าค่อนข้างดีค่ะ โปะเช้าได้ถึงช่วงบ่ายแก่ๆ ตรงจมูกและหน้าผากถึงจะเริ่มมัน

มาทั้งทีไม่วิเคราะห์ส่วนผสมคงไม่ได้ มาดูส่วนผสมกันดีกว่านะคะ

สผส immiroir

มี่ทำสีส่วนผสมไว้ 4 สี นะคะ

เริ่มที่

  • สีฟ้า เป็นกลุ่มของสารกันแดดค่ะ ซึ่งเป็นชนิดกายภาพผสมเคมี กันได้ครบถ้วนสมบูรณ์ดีค่ะ ปกติถ้ามีกันแดดกายภาพ มันจะฉาบอยู่บนผิวอย่างนั้น ถ้าเหงื่อไม่ออก หรือไม่ไปล้างไปเช็ดมันก็ไม่หายไปไหนค่ะ ที่กล่องเขียนว่า มีค่า SPF50+/PA+++
  • สีส้ม หรือ Silica กับ Magnesium aluminium silicate เป็นสารที่ทำหน้าที่ควบคุมความมัน ดูดซับความมันส่วนเกินของผิวหนัง
  • สีม่วง สูตรผสมของ Xylitylglucoside, Anhydroxylitol, Xylitol พวกนี้เป็นน้ำตาลและอนุพันธ์ของน้ำตาล เป็นวัตถุดิบของฝรั่งเศส ที่มีชื่อว่า Aquaxyl ตัวนี้ผู้ผลิตวัตถุดิบ Claim ไว้ว่าเป็นวัตถุดิบที่เพิ่มความชุ่มชื้นแบบ 3 มิติ (3D hydration concept) โดยสามารถเพิ่มการเก็บกักน้ำให้ผิว เพิ่มการสร้าง Hyaluron และไขมันที่เป็น Barrier ตามธรรมชาติของผิว
  • สีเขียว เป็นสารบำรุงที่เหลือค่ะ
    • สูตรผสมของสารสกัดพืช 7 ชนิด ได้แก่ บัวบก คาโมมายล์ ชะเอม ชาเขียว Japanese Knotweed โรสแมรี่ และ Skullcap มีชื่อว่า MultiEX BSASM เป็นวัตถุดิบของเกาหลี ผู้ผลิตวัตถุดิบ Claim ว่าให้ผลลดการอักเสบ ระคายเคือง และให้ความรู้สึกสบายผิว มีเคสที่ผู้ผลิตทดสอบผลในอาสาสมัครที่เป็นโรคผิวหนังอักเสบแบบ Atopic อยู่ด้วย
    • Arbutin ตัวนี้ทางแบรนด์จัดเต็มมาถึง 2% ให้ผลลดการสร้างเม็ดสีผิวโดยไปยับยั้งเอนไซม์ Tyrosinase ที่ใช้สร้างเม็ดสิว
    • Adenosine มีประโยชน์ในการลดริ้วรอย มีรายงานการวิจัยว่าให้ผลดีในการลดริ้วรอยตีนกา และรอยย่นบนหน้าผาก (Int J Cosmet Sci. 2006;28(6):447-51.)
    • สูตรผสมของ สารสกัดพืช 4 ชนิดนี้
      • Limonia acidissima Extract (ทานาคา)
      • Bambusa vulgaris Leaf Extract (ใบไผ่)
      • Oldenlandia diffusa Extract (Snake needle grass)
      • Lonicera caprifolium (Honeysuckle) Extract (ดอกสายน้ำผึ้ง)

พืชทั้ง 4 นี้ เจอด้วยกันในผลิตภัณฑ์กระชับรูขุมขนควบคุมความมันหลายๆยี่ห้อของทางเกาหลี เลยคาดเดาว่าให้ผลกระชับรูขุมขน ถ้าพิจารณาแยกกันเป็นตัวๆ ทานาคาจะให้ผลด้าน Whitening, ใบไผ่ให้ความรู้สึกสบายผิว, Snake needle grass เป็น Antioxidant ช่วยชะลอวัย และ ดอกสายน้ำผึ้งให้ผลฆ่าเชื้อแบคทีเรียบางชนิดได้

 

  • ส่วนผสมของสารสกัดชุดสุดท้าย คือ ลาเวนเดอร์ Thyme, oregano, Rosemary น่าจะใช้เป็นตัวเสริมประสิทธิภาพของสารกันเสีย (สารกันบูด) เพราะมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ และคล้ายกับวัตถุดิบที่เป็นสารกันเสียยี่ห้อหนึ่ง เพียงแต่มีส่วนผสมน้อยกว่า จากที่ดูคือไม่มีสารกันเสียอื่นอีกแล้ว นอกจาก Ethylhexylglycerin ซึ่งเป็นสารเสริมสารกันเสียเช่นเดียวกัน

 

ในส่วนของเบส เป็นเนื้อเบสอิมัลชั่น ชนิด ซิลิโคนในน้ำ มีส่วนผสมของน้ำมันอยู่น้อยมาก จึงเหมาะกับทุกสภาพผิว และซิลิโคนที่เลือกใช้เป็นซิลิโคนชนิดพื้นฐานที่ล้างออกได้ง่ายด้วย Cleanser จึงไม่น่ากังวลเรื่องอุดตันค่ะ และส่วนตัวมี่เองใช้มาร่วม 3 อาทิตย์ ก็ยังไม่เจอว่ามีสิวขึ้นมา

 

มาให้คะแนนกันดีกว่าค่ะ

  1. สารบำรุง ถึงแม้ตัว Product จะมาในรูปแบบของรองพื้น แต่ก็อัดแน่นมาด้วยทั้งสารกันแดด เหมือนผลิตภัณฑ์กันแดดจริงๆ กันได้ครบถ้วนสมบูรณ์ดี และยังมีสารบำรุงอีกหลายชนิด มีประโยชน์โดยรวมมากมาย ไม่ว่าจะเป็น เพิ่มความชุ่มชื้น ช่วยให้ผิวแข็งแรง ลดการอักเสบ ชะลอวัย ลดริ้วรอย ควบคุมความมัน รวมไปถึง Whitening จุดนี้ขอให้ 5 ฟลาสก์
  2. ส่วนผสมอื่นๆ ไม่มีสารที่ไม่เป็นมิตรกับผิว เลยขอให้ 5 ฟลาสก์
  3. การใช้งาน ส่วนตัวมี่ค่อนข้างชอบเนื้อของรองพื้น ที่บางเบา เกลี่ยง่าย ไม่หนักผิว ไม่เยิ้มระหว่างวัน แต่ก็ไม่แห้งจนเกินไป การปกปิดมี่ว่าถ้าตบ 1 – 2 ชั้นจะได้ในระดับ Medium แต่ถ้าตบที่ 3 ชั้นจะได้แบบ Full coverage ขอให้คะแนนตามความชอบไปที่ 5 ฟลาสก์ค่ะ

 

คะแนน im

สุดท้ายนี้ขอขอบคุณทางแบรนด์ Immiroir ด้วยนะคะ ที่ส่งผลิตภัณฑ์ดีๆมาให้มี่ได้ทดลองใช้ และขอบคุณทุกๆท่านด้วยค่ะที่ติดตามรับชมมาจนจบ

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อสอบถามที่ทางแบรนด์ Immiroir ได้โดยตรงเลยนะคะ

https://www.facebook.com/immiroircosmetic/

 

พบกันใหม่โอกาสถัดไป สำหรับวันนี้สวัสดีค่ะ

Disclaimer/conflict of interests: ผลิตภัณฑ์นี้ได้รับการสนับสนุนจากทางแบรนด์ Immiroir การรีวิวครั้งนี้เป็นการวิเคราะห์ส่วนผสมตามหลักการทางวิทยาศาสตร์เครื่องสำอางและอาศัยความเห็นส่วนบุคคล และผู้เขียนไม่ได้มีผลประโยชน์ใดๆในการขายสินค้า โปรดใช้วิจารณญาณ

รีวิววิเคราะห์ส่วนผสมแบบจัดเต็ม กันแดดเนื้อมูสและกันแดด Cushion จากแบรนด์ Jewels

รีวิววิเคราะห์ส่วนผสมแบบจัดเต็ม กันแดดเนื้อมูสและกันแดด Cushion จากแบรนด์ Jewels

สวัสดีค่ะพี่ๆน้องๆเพื่อนๆห้องแป้งที่น่ารักทุกๆท่าน

วันนี้มี่นำเอากันแดดเจ๋งๆสวยๆฝีมือคนไทยมารีวิวให้ชมกันอีกแล้วค่ะ

กับกันแดดแบบมูส และ Cushion จากแบรนด์ Jewels ซึ่งเป็นแบรนด์ของเภสัชกร ควบคุมและดูแลโดยเภสัชกรค่ะ

เห็นกล่องแล้วก็แบบว่า ดูหรูหราสมชื่อแบรนด์จริงๆค่ะ

jewels 1

มาเริ่มดูที่ตัวเนื้อมูสก่อนเลยนะคะ

นางจะมาในหลอดมุ้งมิ้งฝาหลอดทำมาเป็นอัญมณีดูหรูหราเลอค่าค่ะ

jewels 2

ในส่วนของเนื้อนั้น มาเป็นเนื้อมูส สีเนื้อ เพราะไม่ได้ใส่น้ำหอมเลยมีกลิ่นวัตถุดิบอยู่จางๆค่ะ ก็ดูธรรมชาติดี ดมไปดมมาก็แอบคล้ายชอคโกแลต ผสมกาแฟ (หรือฉันหิว)

เวลาเกลี่ยตัวนี้จะเกลี่ยได้ค่อนข้างง่าย ให้สัมผัสแห้งๆคล้ายมาร์ชแมลโลว์ แห้งไวนะคะ อย่ารีบลงทั้งหน้า ค่อยๆแต้ม ค่อยๆเกลี่ยไปค่ะจะได้ความเนียนที่มากกว่า ทาแล้วไม่ปื้น ไม่วอก ค่ะ ทากับไม่ทา มีความขาวต่างกันเล็กน้อยเองค่ะ

 

ตรงนี้ก็เป็นคำเคลมที่ด้านหลังกล่องค่ะ

jewels 3

อีกตัวจะมาในแบบ Cushion ค่ะ จะว่าไปเราไม่ค่อยได้เห็นกันแดดแบบ Cushion กันมากเท่าไหร่นักเนอะ เท่าที่มี่ตามตลาดมา มี่เห็นของแบรนด์นี้ กับ แบรนด์เกาหลีอย่าง A’PIEU และ The Face Shop ค่ะ

มาในกล่องสีขาวดูหรูหรา เลอค่าเช่นกันค่ะ

jewels 10

ตัว Cushion ทำมาได้ค่อนข้างแน่นหนา ดูคงทน ไม่เปราะหักง่าย นี่ทำหล่นมา 2 ที ยังภาพดีอยู่ค่ะ มีความหรูหราแต่เรียบง่าย

เนื้อครีมมีความละเอียด และบางเบามาก

jewels 6

มีคุณสมบัติปกปิดได้ด้วย เอามาใช้เป็นเบส หรือ BB เลยก็ว่าได้ค่ะ

แสงสด

jewels 7

แสงแฟลช

jewels 8

จะได้ความโกลวอยู่เล็กๆค่ะ ตัว Cushion นี่จะเด่นกว่าตัวมูสอยู่ตรงที่ เวลาทาเราจะได้สัมผัสที่เย็น และสบายผิว กับเราสามารถเอามาเติมระหว่างวันได้เมื่อไหร่ก็ได้ที่ต้องการ เช่น อยู่กลางแดดนานๆ เหงื่อออกมาก ขับรถแล้วร้อน หน้าเยิน หน้าไหล รองพื้นเยิ้ม ฯลฯ โบกเลยค่ะ เมคอัพจะเฟรชขึ้นมาทันที

ไม่ค่อยเจอกันแดดที่เติมระหว่างวันได้ง่ายๆแบบนี้เนอะ

แต่ส่วนตัวมี่ว่า ตัวกันแดดเป็นชนิดกายภาพ ถ้าเราเหงื่อออกไม่มาก ไม่ไปล้างไปเช็ด มันก็ไม่เสื่อมหรอกค่ะ ติดอยู่ตรงหน้านั่นหล่ะ ไม่ต้องเติมยังได้
ทั้งสองตัวส่วนผสมหลักจะคล้ายกัน มี่เลยขอเลือกตัวกันแดดมูส มาวิเคราะห์นะคะ

ส่วนผสมเป็นดังนี้ค่ะ

สผส jewels

 

มี่ได้ทำ Highlight ด้วยสีไว้แล้วค่ะ

 

ปกติเราแบ่งส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางเป็น 3 หมวดหลักๆ คือ

  1. Actives หรือ สารออกฤทธิ์ เป็นสารที่ทำให้เครื่องสำอางมีคุณสมบัติพิเศษต่างๆ
  2. Base หรือ ส่วนเนื้อของผลิตภัณฑ์ เป็นตัวพยุงสารออกฤทธิ์ และนำพาไปสู่ผิวหนัง
  3. Additives หรือ ส่วนของสารเติมแต่ง เป็นตัวเติมแต่งให้ผลิตภัณฑ์มีความน่าใช้ มีความปลอดภัย เช่น พวกสารกันเสีย พวกน้ำหอม พวกซิลิโคน ตัวเพิ่มความหนืด ฯลฯ

 

เรามาดูไปทีละส่วนกันเลยนะคะ

  1. Actives ขอแบ่งเป็นสารกันแดด กับ สารบำรุงอื่นๆนะคะ ได้แก่
    • สารกันแดด ใช้ Titanium dioxide และ Zinc oxide ซึ่งเป็นกันแดดชนิดกายภาพ พวกนี้อาศัยการสะท้อนและกระเจิงแสงออกไปโดยที่ตัวมันเองจะมีความคงตัวสูงมาก ไม่เสื่อมสลายไปตามเวลา เว้นแต่เหงื่อออกมาก หรือไปล้างไปเช็ดมันออกมา
    • สารบำรุงอื่นๆ มีอยู่หลายตัวเหมือนกันค่ะ ได้แก่
    • Arbutin เป็นสารที่ออกฤทธิ์ลดการสร้างเม็ดสีผิว ป้องกันไม่ให้สีผิวเข้มขึ้นหลังจากโดนแดด
    • Ascorbyl glucoside อนุพันธ์น้ำตาลของวิตามินซี มีความเป็นกรดน้อย ระคายเคืองน้อย ซึมเข้าผิวได้ดี มีความคงตัวสูง ให้ประโยชน์เป็น Antioxidant ช่วยดักจับอนุมูลอิสระที่เกิดจากรังสี UV ที่หลุดรอดเข้ามา และความเครียดในแต่ละวัน นอกจากนี้ยังช่วยลดการสร้างเม็ดสีผิว และเป็นส่วนหนึ่งในขั้นตอนการสังเคราะห์คอลลาเจน
    • Centella asiatica leaf extract คือ สารสกัดจากบัวบก สารสกัดจากบัวบก บัวบกเป็นพืชที่มีรายงานถึงฤทธิ์ทางชีวภาพไว้ค่อนข้างเยอะ ฤทธิ์ทางชีวภาพของบัวบกได้แก่ ฤทธิ์กระตุ้นการสมานแผล กระตุ้นการทำงานของเซลล์ Fibroblast กระตุ้นการสังเคราะห์ Collagen และ Fibronectin ในผิว ลดริ้วรอยที่เกิดก่อนวัย (เรียกริ้วรอยก่อนวัยว่า Photoaging) (Postepy Dermatol Alergol. 2013; 30(1):46-9.) และ ปกป้องผิวไม่ให้ถูกทำลายโดยรังสี UV (Int J Mol Med. 2012; 30(5):1194-202.)
    • Niacinamide ที่เป็นรูปแบบหนึ่งของวิตามินบี 3 3 มีรายงานว่า สารตัวนี้สามารถเป็น Whitening ช่วยปรับสภาพสีผิวให้สม่ำเสมอ โดยไปรบกวนการส่งผ่านของเมลานินที่สร้างเสร็จแล้ว ลดการอักเสบในผิว เพิ่มการไหลเวียนเลือด ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้ผิวโดยไปกระตุ้นการสร้าง Ceramides กรดไขมัน และไขมันชนิดต่างๆในหนังกำพร้า และยังเป็น Antioxidant ด้วย (Int J Cosmet Sci 2005; 27:255–261)
    • Camellia sinensis leaf extract สารสกัดจากใบชาเขียว มีคุณสมบัติเป็น Antioxidant ที่ดี มีรายงานวิจัยอยู่ค่อนข้างมาก เช่น ช่วยลดริ้วรอย เพิ่มความยืดหยุ่นให้แก่ผิว (Dermatol Ther. 2013;26(3):267-71.) และยังมีรายงานถึงคุณสมบัติในการสมานแผล (Evid Based Complement Alternat Med. 2013;2013:386734.) สารประกอบกลุ่ม Polysaccharide ที่พบในชาช่วยปกป้องผิวจากรังสี UV ได้ และสารประกอบกลุ่ม Polyphenol ยังช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสีได้ (J Agric Food Chem. 2009;57(17):7757-62.)
    • Sodium hyaluronate ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว
    • Tocopherol คือ วิตามินอี มีคุณสมบัติเป็น Antioxidant แต่ส่วนมากจะให้ผลแค่ปกป้องสารในผลิตภัณฑ์ไม่ให้เสื่อมสภาพ
    • Glycyrrhiza glabra root extract สารสกัดจากชะเอมเทศ มีรายงานเกี่ยวกับคุณสมบัติในการยับยั้งเอนไซม์ Tyrosinase ลดการสร้างเมลานินช่วยให้สีผิวจางลง มีฤทธิ์เป็น Antioxidant และช่วยปกป้องเซลล์ผิวจากอันตรายจากเปอร์ออกไซด์ในร่างกาย ( 2014; 19(7):9101-13.) มีคุณสมบัติเป็น Anti-inflammatory เมื่อใช้ในโรคผิวอักเสบแบบ Atopic จะช่วยลดอาการคัน บวม และแดงได้ (J Dermatolog Treat. 2003; 14(3):153-7.)
    • Tourmaline หินอัญมณีชนิดหนึ่งมีสีชมพู มีรายงานการวิจัยกล่าวว่าหินนี้สามารถปลดปล่อยรังสี Far-Infrared (FIR) ที่มีคุณสมบัติกระตุ้นการไหลเวียนเลือด และเพิ่มการแบ่งตัวเพิ่มจำนวนของเซลล์ผิวได้ (J Cosmet Sci. 2002;53(3):175-84.)
    • Lepidum sativum sprout extract สารสกัดจาก Garden cress ไม่มีข้อมูลงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับผิวหนัง ข้อมูลจากผู้ผลิตวัตถุดิบบอกว่า มีประโยชน์ในการเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว ต่อต้านอนุมูลอิสระ และลดเลือนริ้วรอยได้ สามารถยับยั้งการทำงานของฮอร์โมน Melanocyte stimulating hormone (MSH) ที่ทำหน้าที่กระตุ้นให้เซลล์เมลาโนไซต์ที่มีหน้าที่สร้างเมลานินทำงานได้ดีขึ้น เมื่อไปยับยั้ง MSH ก็จะทำให้เซลล์เมลาโนไซต์ทำงานได้ลดลง ผิวจึงขาวขึ้น
    • Dimethoxy chromanyl palmitate มีชื่อทางการค้าว่า Chromabright ข้อมูลจากผู้ผลิตระบุว่าสารนี้ให้ผลเป็น Whitening และช่วยต่อต้านการแก่ก่อนวัย (Photoaging)
  2. Base มาในรูปแบบของอิมิลชั่นเนื้อมูส ประกอบด้วยน้ำ น้ำมัน และซิลิโคน ดังนี้

2.1 ส่วนของน้ำ ได้แก่ น้ำ, Propylene glycol, Glycerin

2.2 ส่วนของน้ำมัน ได้แก่ Isopropyl myristate, Glyceryl monostearate, Cetyl alcohol, Stearyl alcohol, Diethylhexyl carbonate, Lecithin ที่มีหลายหน้าที่ ทั้งเพิ่มความชุ่มชื้น ทดแทนไขมันในผิวหนัง และอาจจะทำหน้าที่สร้าง Liposome

2.3 Silicones ได้แก่ Cyclomethicone ที่เป็นซิลิโคนบางเบาระเหยได้ ไม่เหนอะหนะ, Cethyl dimethicone ที่เป็นซิลิโคนจับกับสายไขมัน เข้ากับน้ำมันได้ดีจึงไม่ขัดขวางการหลั่งน้ำมันตามธรรมชาติ

  1. Additives ได้แก่
    • สารกันเสีย คือ Phenoxyethanol
    • Magnesium stearate เพิ่มการเกาะติดผิวของสารกลุ่ม Pigment
    • Sodium chloride มีหลายหน้าที่
    • สารแต่งสี ได้แก่ CI19140 คือ Yellow number 5 เป็นสีละลายน้ำ มีสีเหลือง และ CI14720 คือ เป็นสีละลายน้ำ มีสีแดง

ถึงเวลาให้คะแนน
1. กลุ่มสารออกฤทธิ์ เรียกได้ว่ามาค่อนข้างครบ เพราะไม่ใช่แค่ใช้กันแดดกายภาพที่เน้นสะท้อนรังสี UV ทิ้งไป ยังมีสารในกลุ่ม Antioxidant สารลดการอักเสบ ยังมีสารที่ให้ความชุ่มชื้น และช่วยเรื่องไวท์เทนนิ่งได้ ในส่วนของ Tourmaline ที่ใส่มา ใครจะไปคิดว่ามีงานวิจัยรองรับว่าสามารถเพิ่มการไหลเวียนของเลือด และกระตุ้นทำงานของเซลล์ผิวได้จริง โดยรวมถือว่าค่อนข้างครบสำหรับการเป็นกันแดดดีๆตัวนึง ให้ 5 ฟลาสก์

2. กลุ่มเนื้อผลิตภัณฑ์ สารที่ใช้หลายตัวให้สัมผัสที่ค่อนข้างบางเบา สารไขมันบางตัวให้คุณสมบัติบำรุงผิวได้ บางตัวให้สมบัติเคลือบปกป้องผิวกันน้ำระเหย และมีส่วนผสมของสารดูดน้ำให้ผิว โดยรวมถือว่ามีอยู่ ไม่มี Alcohol แต่ส่วนผสมของ Isopropyl myristate นั้นอาจจะอุดตันรูขุมขนได้ในบางราย แต่ทางแบรนด์เองก็ได้ทดสอบแล้วว่าไม่เกิดการอุดตันในอาสาสมัคร แต่เพื่อความยุติธรรม เลยต้องขอหักคะแนน ได้ไป 4 ฟลาสก์

3. กลุ่มสารอื่นๆ ใส่มาเท่าที่จำเป็นจริงๆ มาแบบ The less is the more น้อยๆสิดี อัตราเสี่ยงต่อการเกิดการไม่พึงประสงค์ก็น้อยกว่าอันที่มาเยอะๆ สารไม่ได้มีพิษมีภัยอะไรก็เลยไม่มีอะไรให้หักคะแนน ได้ไป 5 ฟลาสก์

4. การใช้งาน ตัวกันแดดมาในเนื้อแบบมูส ที่เกลี่ยง่าย แห้งไว ไม่เป็นปื้นขาว ไม่วอก ให้ลุคที่ matte สามารถแต่งหน้าทับได้เลย ถ้าใครที่ใช้ Primer ด้วย มี่แนะนำให้ลง Primer ก่อน ค่อยลงกันแดดตัวนี้ จะทำให้เกลี่ยกันแดดได้สมูทขึ้นเยอะค่ะ ส่วนเรื่องการกันแดด จากที่ลองมาได้เกือบๆ 2 อาทิตย์ ก็ถือว่าทำมาได้ดีนะคะ ในส่วนของแพคเพจเองก็หรูหรา โดยเฉพาะตัว Cushion ที่ทาแล้วจะให้สัมผัสเย็นๆ เติมทับกี่ครั้งก็ได้ในระหว่างวัน แถมยังให้เมคอัพดูเฟรชตลอด คือ ค่อนข้างประทับใจค่ะ Cushion นี่มีต่อตลับที่สองแน่ๆ เอาไปเลยค่ะ 5 ฟลาสก์

คะแนน

สำหรับวันนี้ต้องขอขอบคุณทางแบรนด์ Jewels ด้วยนะคะที่ส่งสินค้าดีๆมาให้มี่ได้ทดลองใช้ และขอบคุณทุกๆท่านที่ติดตามรับชมมาจนจบค่ะ

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ทางเฟสบุคของแบรนด์โดยตรงเลยนะคะ

Facebook Page : jewelsaesthetic

https://www.facebook.com/jewelsaesthetic

 

อ้อ และ ผลิตภัณฑ์มีจำหน่ายที่ร้าน eveandboy สยามสแคว์,Z-pell รังสิต, Beautrium สยามสแควร์, Lashes ทุกสาขา, Stardust ทุกสาขา, เจ้เล้ง ดอนเมือง, ร้านขายยาบางร้าน ไปลองเล่นก่อนตัดสินใจได้ค่ะ

Disclaimer/Conflict of interest: ผลิตภัณฑ์นี้ได้รับการสนับสนุนจากทางแบรนด์ Jewels

MiYeon’s Shopping in Jeju, April 2015

MiYeon’s Shopping in Jeju, April 2015

Hi guys, this is my first English topic, please feel free to have comments or chats or etc.

On last April, I went to Jeju, South Korea with Thai tour company with very low cost (around 12900 THB for plane, hotels and some foods)

I am Korean Cosmetics-addicted, and always find the way to purchase them into Thailand.

I like to try everything that is Korean, so my daily routine is almost done bt Korean cosmetics.

Well, its time to see my shopping bags!!!

But before shopping bags, before going to Korea I have to check the price and products that will include in my wishlists, and here is my wishlists.

shopping list

Then, we have arrived !!, at Jeju airport

jeju

Tah dah!! here is my shoppings

IMG_2543-re

Wah Quite a lot, right??

In Jeju, the most frequent shop I found is Nature republic, which can be found in almost every place that tour guide to.

IMG_2361-re

Lucky!!, they are on sale !!!!

And these are my purchased.

IMG_2532-re

All of Nature Republic’s products are great and skin friendly.

I love the cactus gel and bamboo mist very much (which will be further reviewed in the next occasion).

The next brand is It’s Skin, It’s Skin is one of my fav’ and the product that I do love most is GF effector. This time I purchased four bottles, for one year.

IMG_2528-re

Woohoo!! See you again next year, Korea.

And the next brand is Innisfree, lucky I have some times and went to Innisfree Jeju House, which is the perfect place that I enjoyed most.

11173325_10204071639651462_5295637980083187181_n IMG_1853-re

These are my purchased,

IMG_2535-re

Sparkling mineral is the new line that launched in April, I think.

But I did not tried it yet, so when I tried it I will make a review.

For Etude House, I purchased Magic any cushion, which is my fav’ and some mask sheets for trying

IMG_2530-re

About magic any cushion, I used peach color.

And the next brand is Beyond. Beyond is one of my interesting since I went to Korea on June, 2014.

Their products are quite great, however there are few line that used alcohol, which may not suits some individuals, and this are my purchased.

IMG_2531-re

On that time I went, their mask sheet is on promotion, 10+10 (Buy 10 get 10 free).

And the next brand is Tony Moly, I used their Galactomyces water before. This time I went for their Goat milk toner, which is newly launched.

IMG_2537-re

Their mascara is also great!!!!!

The next brand is Hanyul, this time I go for their rice skin softener

IMG_2538-re

And the next brand is Mamonde, I love their concepts, I love flower, esp. roses.

This is my purchased,

IMG_2539-re

And the last one is the saem, another eco-friendly brand.

IMG_2540-re

their wrapping tints are great, look like natural lips.

Well That’s all

See you again in my next blog post

love you

xoxo