[Full Review] Etude House Play therapy Soft clay pack

[Full Review] Etude House Play therapy Soft clay pack

วันนี้แวะเอามาสค์โคลนของ Etude house มารีวิวให้ชมกันค่ะ

ทบทวนเรื่องมาสค์โคลนอีกรอบนะคะ

มาสค์โคลน หรือ Clay mask เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีสารกลุ่ม Clay กระจายและพองตัวอยู่ในเนื้อของผลิตภัณฑ์ ทำให้ดูหนืดข้นเหมือนโคลนจริงๆ

ตัวอย่างสารกลุ่ม Clay เช่น อะไรก็ตามที่มีคำว่า Clay, และสารอื่นๆ เช่น Kaolin, Bentonite, Magnesium Aluminium Silicate

สารกลุ่ม Clay มีคุณสมบัติพิเศษ ด้วยความที่ตัวมันมีรูพรุน ทำให้มันสามารถดูดซับเอาสารต่างๆไว้กับตัวมันได้ เวลาเอา Clay มาพอกหน้าจึงให้ผลดูดซับความมัน สิ่งสกปรกต่างๆออกมาจากผิว รวมไปถึงพวกสารพิษ และมลภาวะต่างๆที่ตกค้างบนผิวได้ด้วย

สารกลุ่ม Clay มีคุณสมบัติดูดซับความมันได้ดีจึงเหมาะกับคนที่มีผิวมันมากกว่าผิวแห้ง

คนที่แต่งหน้าด้วย Shimmer หรือ Glitter เป็นประจำ ควรมาสค์โคลนอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เพื่อ Detox และดูดซับเอาผงของพวก Mica ซึ่งมักล้างไม่ออก ออกไปจากใบหน้า

ส่วนมาสค์โคลนลูกรักที่แอดมินใช้ (จริงๆเคยใช้แค่อันเดียว ก็เลยรัก คือแบบว่าใช้นานๆที แล้วใช้แค่ตรงทีโซน เลยไม่ยอมหมดซักที แกะมาเกือบปีแล้วค่ะ) คือเจ้า Etude House Play therapy Soft clay pack ค่ะ

etude 1

อันนี้ไปหิ้วเองมาจากกรุงโซลเมื่อเดือนมิ.ย.ปีที่แล้ว เริ่มแกะใช้ประมาณช่วง ตค.ค่ะ นี่ก็เกือบปีแล้ว ยังไม่ยุบเลย

ตัวนี้ทางแบรนด์เคลมเรื่อง Pore and Sebum care ค่ะ

เป็นมาสค์ที่ค่อนข้างแห้งจริงๆ ถ้าเอาลงตรงแก้มนี่คือพังเลยค่ะ ลงได้แค่ทีโซน

นางเคลมว่านางเอา Clay มาจากป่าอเมซอนในบราซิล (Brazil forest clay) ค่ะ นางเคลมว่า Clay ตรงนี้มีความบริสุทธิ์สูง และมีแร่ธาตุมากมาย

ตรงนี้มี่ไม่มีข้อมูลมารองรับนะคะ ก็ฟังๆกันไปเนาะ

กลิ่นนางเป็นแนวๆเย็นๆ นางว่านางใช้ Eucalyptus ค่ะ แต่อิชั้นว่า ยูคาลิปตัสมันระคายผิวได้นะคะ

มาดูเนื้อสัมผัสก่อนนะคะ จะเป็นเนื้อหนืดๆหนักๆข้นๆสีเขียวอ่อนๆค่ะ

etude 2

(พอดีถ่ายกลางคืนใต้แสงไฟนีออนเลยไม่ค่อยชัดนะคะ)

เกลี่ยง่ายค่ะ กลิ่นก็ไม่เชิงหอมมาก แต่เป็นแนวเย็นๆ

เวลาใช้มาสค์โคลนควรเกลี่ยให้กลบสีผิวเราได้มิดพอดี และรอจนโคลนแห้ง (สังเกตโดยการมองใต้แสง ว่าไม่มีความเงาแล้ว) เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดค่ะ

etude 3

(อันนี้พึ่งลง จะเห็นว่าเงาๆอยู่ค่ะ)

มาดูส่วนผสมกันซักหน่อยเป็นพิธี

etude สผส

ส่วนผสมตัวนี้จะต่างจากมาสค์โคลนทั่วไปในตลาดค่ะ เพราะว่าตัวเนื้อ (หรือ Base) ของนางทำมาจาก Emulsion เพราะมีน้ำมันอยู่ด้วย แต่ไม่ต้องห่วงค่ะ น้ำมันที่นางใช้ไม่ได้อุดตันอะไรรูขุมขน

ส่วนจุดเด่นอีกอย่างคือการใช้ทั้ง Kaolin และ Bentonite มาเสริมกัน

เจ้า Kaolin นี่เป็น Clay สีขาว ที่ประกอบด้วย Magnesium, Aluminium และ Silica เป็นหลัก คิดว่าน่าจะหมายถึงที่โคลนอะเมซอนที่แบรนด์ใช้

เจ้า Bentonite นี่เป็น Clay สีเทา มีคุณสมบัติพองตัวในน้ำ ดูดซับความมันได้ดีเช่นกันค่ะ

และก็จุดเด่นอีกจุดน่าจะเป็นการที่ใส่ Silica มาดูดน้ำมันอีก

และลำดับของสารกลุ่ม Clay นี่มาต้นๆเลย ผิดกับบางแบรนด์ที่ใส่มาแค่กรุบกริบแล้ว Claim ซะอลังการ

นอกจากนั้นยังเสริมมาด้วยสารอย่าง Trehalose ที่เป็นน้ำตาลชนิดพิเศษ ช่วยดูดน้ำและช่วยปกป้องเซลล์ผิวไม่ให้แห้งเกินไปค่ะ

โดยรวมถือว่าทำมาได้ค่อนข้างโอเคเลย เพราะมีการเสริมตัวดูดน้ำให้ผิวด้วย จะได้ไม่แห้งมาก

ส่วนสารอื่นๆก็ไม่มีข้อติ เพราะไม่ได้มีพาราเบน กับซิลิโคน  ส่วนน้ำหอม นางว่านางใช้ Eucalyptus ค่ะ ก็อาจจะระคายเคืองได้ค่ะ ในบางคน ควรทดสอบก่อนใช้นะคะ

ส่วนราคา จำไม่ได้แล้วค่ะ

พบกันใหม่รีวิวต่อไป สวัสดีค่ะ

Disclaimer: ผลิตภัณฑ์นี้ซื้อด้วยตัวเอง (Consumer reviewed)

MiYeon’s Shopping in Jeju, April 2015

MiYeon’s Shopping in Jeju, April 2015

Hi guys, this is my first English topic, please feel free to have comments or chats or etc.

On last April, I went to Jeju, South Korea with Thai tour company with very low cost (around 12900 THB for plane, hotels and some foods)

I am Korean Cosmetics-addicted, and always find the way to purchase them into Thailand.

I like to try everything that is Korean, so my daily routine is almost done bt Korean cosmetics.

Well, its time to see my shopping bags!!!

But before shopping bags, before going to Korea I have to check the price and products that will include in my wishlists, and here is my wishlists.

shopping list

Then, we have arrived !!, at Jeju airport

jeju

Tah dah!! here is my shoppings

IMG_2543-re

Wah Quite a lot, right??

In Jeju, the most frequent shop I found is Nature republic, which can be found in almost every place that tour guide to.

IMG_2361-re

Lucky!!, they are on sale !!!!

And these are my purchased.

IMG_2532-re

All of Nature Republic’s products are great and skin friendly.

I love the cactus gel and bamboo mist very much (which will be further reviewed in the next occasion).

The next brand is It’s Skin, It’s Skin is one of my fav’ and the product that I do love most is GF effector. This time I purchased four bottles, for one year.

IMG_2528-re

Woohoo!! See you again next year, Korea.

And the next brand is Innisfree, lucky I have some times and went to Innisfree Jeju House, which is the perfect place that I enjoyed most.

11173325_10204071639651462_5295637980083187181_n IMG_1853-re

These are my purchased,

IMG_2535-re

Sparkling mineral is the new line that launched in April, I think.

But I did not tried it yet, so when I tried it I will make a review.

For Etude House, I purchased Magic any cushion, which is my fav’ and some mask sheets for trying

IMG_2530-re

About magic any cushion, I used peach color.

And the next brand is Beyond. Beyond is one of my interesting since I went to Korea on June, 2014.

Their products are quite great, however there are few line that used alcohol, which may not suits some individuals, and this are my purchased.

IMG_2531-re

On that time I went, their mask sheet is on promotion, 10+10 (Buy 10 get 10 free).

And the next brand is Tony Moly, I used their Galactomyces water before. This time I went for their Goat milk toner, which is newly launched.

IMG_2537-re

Their mascara is also great!!!!!

The next brand is Hanyul, this time I go for their rice skin softener

IMG_2538-re

And the next brand is Mamonde, I love their concepts, I love flower, esp. roses.

This is my purchased,

IMG_2539-re

And the last one is the saem, another eco-friendly brand.

IMG_2540-re

their wrapping tints are great, look like natural lips.

Well That’s all

See you again in my next blog post

love you

xoxo

[MiiYeon’s NewBies]~My new items for 2015

[MiiYeon’s NewBies]~My new items for 2015

ปีใหม่ เราก็ต้องซื้อของใหม่เข้าบ้าน

ก็เลยได้ฤกษ์ลองของใหม่ๆ หลายๆอย่างเลยค่ะ

new 1

เริ่มด้วย

1. Cleansing water จาก Nature republic อันนี้เห็นสาวเกาหลีรีวิวความอลังของนางไว้ เลยจัดมาลองบ้างค่ะ แต่ ณ วันนี้ยังไม่ได้ลองเลย รอลูกรักอันเก่าหมดก่อน

2. Holika Holika wine therapy sleeping pack สูคร Red wine จริงๆอันนี้ซื้อมาผิด เคยลองเทสเตอร์ไป แต่ไม่รู้ว่ามัน red หรือ White เลยลองสั่ง Red มา แทบกรี๊ดค่ะ ผิดอันกับเทสเตอร์ที่เคยใช้

3. Etude house my castle
ครีมทามือรูปบ้านน่ารักๆ เคยเห็นคุณส้มรีวิวไว้เลยอยากได้บ้าง มี่เลือกมาสองกลิ่นค่ะ เป็นกลิ่นกุหลาบ กับ คุกกี้ เพราะชอบกลิ่นแนวๆประเภทนี้อยู่

new 2

ซื้อมาเพราะแพคเกจน่ารัก เท่านั้นเลยจริงๆ – -*

แต่ยังไม่ได้ลองใช้นะคะ รอ It’s Skin Cookie and Hand cream หมดก่อน

4. มาสก์ลอกเท้าจาก Nature republic

อันนี้เห็นรีวิวในพันทิป เลยอยากลองมั่ง แต่จนวันนี้ยังไม่กล้าลองเลยค่ะ กลัว

5. มาสก์บำรุงเท้าจาก Innisfree

กะว่าหลังจากเท้าลอก จะเอาอันนี้มาบำรุงต่อ

6. ลิปมัน I want chu จาก Holika Holika

อันนี้ซื้อมาด้วยความน่ารักกุ๊บกิ๊บ คือ คอนเซปท์ของนางจะประมาณว่า ให้ผู้ชายทากลิ่นหนึ่ง ผู้หญิงทาอีกกลิ่นนึง ละเวลาจุ๊บกัน จะได้เป็นรสชาดใหม่ๆ ค่ะ

ซื้อมาไปอย่างนั้นหละ ด้วยความน่ารัก ไอเดียบรรเจิดของมัน จริงๆมี่ยังไม่มีคู่ค่าา 55555

7. แผ่นลอกสิวเสี้ยน Pig nose ของ Holika Holika

ตัวนี้เคยไปหิ้วมาเองจากเกาหลี อันนี้ด้วยความชอบกลิ่นล้วนๆเลยค่ะ ประสิทธิภาพยังสู้บีโอเร สูตรสีดำไม่ได้ แต่ก็น่าจะดีที่สุดในบรรดาพอร์แพคของเกาหลีละค่ะ

จบกลุ่มพรีออร์เดอร์ ต่อไปเป็นสินค้าลดราคาในร้าน Karmarts บ้างค่ะ

new 3

เห็นนางติดป้ายหน้าร้านใหญ่โตว่าลดราคาปีใหม่ ทำไงได้ อำนาจต้านทานการลดราคาของหญิงต่ำมากกกกกกกกกกกกกกก

สุดท้ายก็เข้าไปค่ะ

ได้เจ้า No.1 Frink มาสองตัว ตัวแรกเป็น Essence คล้ายๆน้ำป้าเจี๊ยบกับ Tony moly เลยค่ะ ลดแล้วเหลือ 270 นิดๆมั้งคะ ไม่ได้เก็บใบเสร็จไว้

อีกตัวเป็น All day ampoule เหลืออยู่ 220 นิดๆมั้งคะ ตัวนี้ใช้ได้เกือบอาทิตย์ละค่ะ รู้สึกอะไรมั้ย ยังไม่รู้สึกนะ – -*

คงเพราะช่วงนี้หน้าหนาว หน้าฉันแห้งแตกลอกแดงมากมาย

แต่ก็ยังใช้กันต่อไปค่ะ

สุดท้ายก็ไปซื้อของ It’s Skin ค่ะ ตอนนาง Sale ยกร้าน 50%

ละนางแถมเซตหอยทากชื่อดังระดับโลกให้มาลอง

new 10

ตอนนี้กำลังเริ่มใช้ค่ะ แล้วจะเขียนรีวิวมาอีกทีนึงค่ะ

[Mini Review]~Battles of eleven sleeping packs

[Mini Review]~Battles of eleven sleeping packs

promote sleeping pack

ส่วนตัวมี่พึ่งรู้จัก Sleeping pack มาได้ไม่นาน โดยตัวเเรกที่ใช้เป็นเจ้า Panda dream whitening sleeping pack จาก Tony Moly ค่ะ ซื้อมาเพราะกระปุกรูปแพนด้า เท่านั้นเลย จริงๆ

อีกตัวที่ใช้เป็น Holika Holika Pig nose ค่ะ แต่ตัวนี้มี่ใช้แล้วมันร้อนวูบวาบ เลยส่งต่อให้น้องสาวไปเรียบร้อย นางใช้แล้วไม่แพ้ไม่วูบวาบ เห็นนางว่าดีอยู่ค่ะ

ตัวสุดท้ายที่ได้ลองเป็น Wine therapy ได้มาเป็น Tester ตอนไปซื้อของที่ชอป ใช้แล้วรู้สึก “Fulfill” ฟูฟิน” มาก สุดท้ายสั่งซื้อมา เอ๊า สั่งผิด ดันสั่งรุ่นไวน์แดงมา เป็นเจลๆค่ะ ตัวที่ได้ลองเป็นเนื้อครีม (แอบไปร้องไห้)

พวกนี้หาส่วนผสมไม่ได้เลยไม่ได้เอามาจัดค่ะ

ถ้าเราพูดถึง Sleeping pack จริงๆมันก็ไม่มีอะไรมาก มันก็เป็นแค่เจล หรือครีม ธรรมดาๆ ที่ไม่ค่อยจะดูดซึมเข้าผิว แต่มันจะสร้างฟิล์มบางๆเคลือบผิวเพื่อปกคลุม (เรียกว่า Occlusive effect) ผิวหนังไว้ค่ะ

สารที่ก่อฟิล์มนี้ ก็ได้แก่ พวก Polymer ต่างๆ หรือ น้ำมันบางชนิดค่ะ

Occlusive แล้วดีไหม???

ทั้งดี และ ไม่ดีค่ะ

ส่วนที่ดี ก็คือ การ Occlusive จะช่วยปกป้องไม่ให้น้ำระเหยออกจากผิว และเป็นการเพิ่มการดูดซึมสารต่างๆเข้าสู่ผิว

ส่วนที่ไม่ดี ก็คือ การ Occlusive จะทำให้
1. สารที่ดูดซึมลงไปได้มากขึ้น อาจจะไปกระตุ้นให้เกิดการแพ้หรือการระคายเคืองได้
2. เชื้อจุลินทรีย์ต่างๆเจริญเติบโตได้ดีขึ้น
3. แผลจะหายได้ช้าลง

จากเหตุผลนี้ มี่คิดว่า Sleeping pack ไม่ควรใช้ทุกวัน ไม่ควรใช้ในคนที่ผิวหน้ามีแผล ไม่ควรใช้ในคนที่มีสิวอักเสบเป็นหนองอยู่ค่ะ

สรุปคะแนนค่ะ

point 1point 2

รายละเอียดเพิ่มเติมอ่านได้ที่เวบพันทิปเลยค่ะ

http://pantip.com/topic/33057224

First time Beauty shopping in Korea~ June, 2014

First time Beauty shopping in Korea~ June, 2014

จะว่าก็ว่าเถอะ เกาหลีเป็นสวรรค์แห่งเครื่องสำอางเลยก็ว่าได้ค่ะ ด้วยนวัตกรรมใหม่ๆ รูปแบบผลิตภัณฑ์แปลกๆ สารใหม่ๆ นี่ต้องมาจากเกาหลีเป็นส่วนใหญ่

เมื่อเดือน มิย ที่ผ่านมา มี่ก็ได้ไปเที่ยวเกาหลีมาค่ะ กลับมากระเป๋าเบาเชียวค่ะ เห็นอะไรๆก็อยากได้หมด นี่เสียดายว่าไม่มีแรงขนมา ไม่งั้นคงได้มามากกว่านี้เยอะค่ะ

ประเดิมเลยดีกว่าค่ะ เดี๋ยวตอนท้ายๆจะบอกทริคเล็กๆน้อยๆให้นะคะ 😉

ย่านแรก มยองดง (Myeong-dong)

มีสารพัดร้านเครื่องสำอาง เรียกได้ว่า มีครบทุกแบรนด์เลยมั้ง แต่ราคาอาจจะสูงกว่าบางตลาดนะคะ

Innisfree นี่เป็นแบรนด์ในดวงใจเลยค่ะ
IMG_1485-re

Primera นี่เป็น High brand ค่ะ แต่มี่ไม่ได้ซื้ออะไรมานะคะ
IMG_1486-re

Skin foods ค่ะ ไม่ได้ซื้ออะไรมาเหมือนกัน
IMG_1490-re

ร้านโซนนี้นี่ใช้เวลากับมันนานมากๆค่ะ
IMG_1492-edit

ลาเนจ ก็ไม่ได้ซื้ออะไรมาเหมือนกัน -*-
IMG_1499-re

espoir นี่เค้าว่ากันว่าเป็นผู้นำเทรนด์เมคอัพ แต่มี่ก็ไม่ได้ซื้ออะไรมาเช่นกันค่ะ
IMG_1503-re

Mamonde นี่หมดเงินไปกับ Rose water เลยค่ะ คือเป็นคนบ้ากุหลาบมากๆ
IMG_1504-re

ส่วนอีกย่านเป็นย่านอินซาดงค่ะ ย่านนี้ลดราคากระหน่ำกว่าย่านมยองดงมากๆ ลดแหลกแจกแถมแบบฟินมาก ค่ะ

จุดเด่นของที่นี่คือ ป้ายร้านจะเป็นตัวฮันกึล ค่ะ

insadong

ส่วนย่านที่ไปอีกก็จะมี ทงแดมุน กับ นัมแดมุน ซึ่งของที่นี่ก็ถูกกว่าย่านมยองดงค่ะ

ถ้าไม่รีบ แนะนำว่าให้ไปดูย่านอื่นๆก่อนค่อยกลับมาหาของที่ไม่ได้จากมยองดงนะคะ

อันนี้เป็นความเสียหายค่ะ ใช้ได้ยาวจนแก่ 555

IMG_2370-re

จริงๆบางส่วนก็ส่งต่อให้เด็กๆกับญาติๆกับเพื่อนๆแล้วนะคะ ทุกวันนี้ก็ยังพรีออร์เดอร์อยู่ จะใช้กันทันไหม !!!

[Beauty Talks] My Special skincare

[Beauty Talks] My Special skincare

ปกติเราน่าจะแบ่งการดูแลผิวออกเป็น 2 แบบ (มั้งคะ ตามคหสต.)

คือ 1. Routine care คือ การดูแลทุกๆวัน เช้า-เย็น กับ 2. Special care คือ การดูแลพิเศษ นานๆที แบบเข้มข้น (ว่างั้น)

วันนี้เอา Special care ของมี่มาแชร์ให้ชมกันค่ะ

10592817_10202726347900009_5645098694820530694_n

เรียกจากซ้ายไปขวาเลยนะคะ

1. Hair Removal Cream จาก Miniso

เป็นครีมสำหรับกำจัดขน (ตัวต้นแบบในบ้านเราน่าจะ Opilca ค่ะ) ซื้อมาใช้แทนของบูทส์ ที่ขาดตลาดไปนานมาก จริงๆติดของบูทส์มากกว่าค่ะ

ช่วงแรกๆเราใช้ ขนก็จะขึ้นถี่เหมือนเราโกนค่ะ แต่พอใช้ไปๆ ขนก็จะนุ่มขึ้น และขึ้นช้าลงค่ะ ตอนนี้ใช้เดือนละครั้ง เผลอๆก็ 6 อาทิตย์ครั้งค่ะ

แต่เนื่องจากส่วนผสมเป็นด่างกับ Thioglycolate จึงควรทดสอบการแพ้และการระคายเคืองก่อนใช้นะคะ

2. Play therapy soft clay pack จาก Etude

เป็นมาสค์โคลน ที่เหมาะกับคนผิวมันค่ะ จริงๆมี่ผิวแห้ง แต่เอามาใช้นานๆที เดือนละครั้งถึงสองครั้ง โดยมีความเชื่อว่า Clay จะช่วยดูดซับสารพิษที่ตกค้างในผิวได้

ตัวนี้จะเย็นๆ หอมมินท์ ให้ความรู้สึกสดชื่นดีค่ะ

แต่คนผิวแห้ง ใช้แล้วยิ่งแห้งขึ้นไปอีก แต่รู้สึกว่าสะอาดผิวดี

3. Black head clear oil gel จาก It’s Skin

เป็น Lipogel (ตามคหสต.) ที่มาพร้อมกับหัวแปรงเป็นขนๆเล็กๆ เป็นยางนุ่มๆ เอามาถูวนๆตรงจมูกและคางเพื่อกำจัดสิวเสี้ยน ส่วนตัวมี่ใช้อาทิตย์ละ 1-2 ครั้งค่ะ

เข้าใจว่าผลิตภัณฑ์ลักษณะนี้แบรนด์ที่ทำมาแบรนด์แรกคือของ Laneige นะคะ แต่ยังไม่เคยใช้ของ Laneige มาใช้ของอันนี้ก่อน ไปเกาหลีเจอโปรขายคู่ PO effector ราคาพิเศษพอดีค่ะ

4. Soothing & Moisture Aloe vera 92% จาก Nature republic

ตัวนี้พึ่งเขียนรีวิวแบบละเอียดใน Cosme-Diagnosis ค่ะ

เป็นเจลใสๆ กลิ่นหอมๆคล้ายแตงกวา เอาสำลีมาจุ่ม ละเอามาแปะบนหน้าแทนมาสค์ เย็นชุ่มฉ่ำ ฟินเว่อร์ค่ะ

ติดตามได้ที่ลิงค์นี้เลยค่ะ