Image

[Beauty talks] All about mask ภาค 1: มาสค์หน้าไปทำไม บ่อยแค่ไหนดี และเลือกแบบไหนดี

สวัสดีค่ะ

 

วันนี้มาแชร์สาระเรื่อง Mask ค่ะ ตอนแรกนี้จะว่าด้วยประโยชน์ของ Mask และ Mask ประเภทแรก คือ Mask sheet ก่อนนะคะ

mask 1
ถ้าพูดถึงมาสค์ในท้องตลาดมีด้วยกันหลายรูปแบบ เช่น มาสค์โคลน มาสค์แบบล้างออก มาสค์แบบลอกออก มาสค์ชีท และมาสค์แบบที่ทาทิ้งไว้ข้ามคืน หรือ Overnight mask หรือ Sleeping mask ค่ะ

เดี๋ยวจะค่อยๆคุยกันทีละแบบนะคะ วันนี้ขอเริ่มด้วยมาสค์ชีทก่อนค่ะ

การ Mask หน้าด้วย Mask sheet เป็นการสร้างสิ่งที่เรียกว่า Occlusive effect ให้กับผิว คำนี้ไม่อยากแปลเป็นไทยเท่าไหร่ค่ะ แปลแล้วไม่ได้สื่อความหมายอะไรเท่าไหร่

ในการเอาแผ่นมาสค์มาแปะลงบนผิว ผลของ Occlusive effect จะทำให้ระบบและกลไกในผิวหนังเปลี่ยนไป อย่างแรกเลยคือ ความชื้นในผิวหนังจะเพิ่มขึ้น เพราะน้ำจากแผ่นมาสค์เข้ามาในผิว และน้ำในผิวไม่สามารถระเหยออกไปข้างนอกได้ เมื่อความชื่้นเพิ่มขึ้น ผิวจะมีการทำงานบางอย่างดีขึ้น เช่น การสมานแผลต่างๆในผิวดีขึ้น การสร้างโปรตีนและไขมันในผิวบางชนิดทำได้มากขึ้น และการผลัดเซลล์ผิวเกิดได้สมบูรณ์ขึ้น

 

ถึงแม้การแปะแผ่นมาสค์จะไม่ได้สร้างภาวะ Occlusive ที่สมบูรณ์เหมือนการทับด้วย Silicone sheet หรือ Plastic แต่ก็สามารถทำให้เกิดภาวะกึ่งๆ Occlusive ได้อยู่ค่ะ มี่เองก็ไม่แน่ใจข้อมูลเหมือนกันนะคะ ว่าแผ่นมาสค์จะทำให้เกิดภาวะ Occlusive ได้แค่ไหน และที่แน่ๆ วัสดุที่ใช้ทำแผ่นมาสค์ มีผลกับความสามารถในการ Occlusive แน่นอนค่ะ คหสต. มี่คิดว่า Mask sheet แบบที่เป็นแผ่นเจล หรือ Hydrogel patch น่าจะให้ผลในการ Occlusive ที่สูงกว่า และมีผลช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นได้ดีกว่าค่ะ


ความชื้นที่เพิ่มขึ้นในผิวยังมีผลต่อการดูดซึมสารบางชนิดเข้าสู่ผิวด้วย เพราะสารบางอย่างสามารถดูดซึมเข้าสู่ผิวได้มากขึ้นค่ะ

มาดูงานวิจัยที่เกี่ยวข้องบ้างนะคะ

Maibach และ Zhai ได้สรุปไว้ว่าผลของการ Occlusive ที่ผิวหนัง เป็นปรากฏการณ์ที่ส่งผลต่างๆต่อผิวหนังมากมาย และบางอย่างก็สลับซับซ้อน โดยรวมๆสรุปได้ว่า ภาวะ Occlusive มีผลต่อความชุ่มชื้นในผิว มีผลต่อการซึมผ่านของสารต่างๆเข้าสู่ผิว การฟื้นฟูและสังเคราะห์ไขมัน DNA การสมานแผลต่างๆในผิว รวมไปถึงมีผลต่อเชื้อจุลินทรีย์ดีๆ ที่เป็นเชื้อเจ้าบ้านด้วยค่ะ (Maibach and Zhai, Skin Pharmacol Appl Skin Physiol 2001;14:1-10)

การ Occlusive ทำได้หลายแบบไม่ว่าจะเป็นการทาผลิตภัณฑ์ที่มีไขมัน แล้วไขมันนั้นดูดซึมไม่ได้ กลายเป็นฟิล์มบางๆเคลือบผิวไว้กันน้ำระเหยออกไป หรือการใช้ Mask sheet นั่นเองค่ะ

ผิวหนังชั้นนอกปกติจะมีความชื้นอยู่ราวๆ 10 – 20% แต่เมื่อ Occlusive ไป 30 นาที พบว่าระดับความชื้นในผิวเพิ่มขึ้นจนถึงเกือบๆ 50% เลยทีเดียว ระดับความชื้นขนาดนี้ทำให้เซลล์ผิวบวม และโครงสร้างของไขมันใน Barrier ผิวก็มีการเปลี่ยนแปลงไป ทำให้สารบางชนิดซึมผ่านเข้าสู่ผิวได้มากขึ้น

สารที่จะซึมเข้าผิวได้ดีมากในช่วงที่เรา Mask มักจะเป็นพวกสารไขมันค่ะ

ในเอกสาร Review article ของ Maibach และ Zhai ยังกล่าวอีกว่า เมื่อเกิดการ Occlusive สาร Ethanol (Alcohol) สามารถซึมเข้าสู่ผิวได้มากขึ้นเช่นกัน ดังนั้นแผ่นมาสค์ที่มีแอลกอฮอล์ ก็อาจจะไม่ค่อยเหมาะกับคนที่มีผิวแห้ง

สรุปก็คือ ข้อดีของ การ Mask หน้า เราก็จะได้เรื่องความชุ่มชื้น แล้วสารวิตามินต่างๆในแผ่นมาสค์ก็จะเข้าสู่ผิวได้ง่ายขึ้น แต่!!!! เมื่อสารต่างๆซึมเข้าผิวได้มากขึ้น ก็ไม่ได้แปลว่า จะดีเสียหมด เพราะสารที่ไม่เป็นมิตรก็อาจจะซึมเข้าสู่ผิวได้มากขึ้นด้วย ทำให้เกิดการแพ้ และการระคายเคืองได้ง่ายกว่าปกติ จึงไม่ควรทิ้งมาสค์ไว้นานๆ ซัก 15-20 นาทีก็พอค่ะ แล้วอาทิตย์หนึ่งควรใช้ซัก 1 – 2 ครั้งพอ

ถ้าพูดถึง Mask sheet ในตลาด

Mask sheet ก็คือ แผ่นมาสค์ที่แช่อยู่ใน Vehicle (ขอเรียกว่า น้ำยา แม้ว่าจะดูแปลกๆไปหน่อย เพราะจะเรียกว่า Solution ก็คงไม่ถูก เพราะมาสค์บางอย่างเป็นน้ำนม หรือ Emulsion)

Mask sheet มีกี่แบบ???

เท่าที่ดูๆมา มี่ขอแบ่งแผ่นมาสค์ในท้องตลาด เป็น 2 แบบหลักๆ คือ แบบที่เป็น Vehicle น้ำ กับ แบบที่เป็น Vehicle น้ำนม

1. แบบน้ำ ผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้มากกว่า 90% มักจะใส่แอลกอฮอล์ลงมา เพื่อให้แห้งไว ไม่เหนอะหนะ แต่ก็อาจจะไม่ค่อยเหมาะกับคนผิวแห้ง มาสค์น้ำบางแบบจะเหนียวๆ ยืดๆ เป็นเมือกๆ เพราะสารก่อเจล เวลาเอาออกเสร็จควรไปล้าง แต่ถ้าเป็นมาสค์ที่ไม่เหนียว ไม่ยืด ไม่จำเป็นต้องล้างออก หรือจะล้างก็ไม่เป็นไร เพราะวิตามินบางส่วนก็ซึมเข้าผิวไปแล้ว

2. แบบน้ำนม ก็มีทั้งแบบน้ำนมเหลวๆ และแบบน้ำนมหนักๆ สังเกตได้จากสารน้ำมัน ตัวที่พบบ่อยที่สุดจะเป็น Capric/caprylic triglycerides กับพวก Fatty ester ต่างๆ (สังเกตจากชื่อสาร มี 2 วรรค วรรคแรกลงท้ายด้วย –yl วรรคสองลงท้ายด้วย –ate เช่น Ethyl hexylpalmitate, Cetyl ethylhexanoate ฯลฯ หรือไม่ก็ไม่วรรค แล้วลงท้ายด้วย –ate ไปเลย)

การเลือกมาสค์ให้เหมาะกับสภาพผิว
***คนผิวมัน ควรเลือกมาสค์น้ำที่มี Alcohol หรือเป็นมาสค์น้ำธรรมดาที่ไม่มี Alcohol

การใช้มาสค์ที่มี Alcohol ในคนที่มีผิวมัน Alcohol จะช่วยละลายไขมันบางส่วนบนผิวได้ด้วย น่าจะให้ผลดีเกี่ยวกับการคุมมันและเรื่องสิวด้วย (คหสต.)

***คนผิวผสม ควรเลือกมาสค์น้ำที่ไม่มี Alcohol

***คนผิวแห้ง ควรเลือกมาสค์น้ำนม

 

 

1432390518-o

 

ส่วนตัวมี่ลองมาสค์ชีทมาหลายแบรนด์ ซึ่งส่วนมากจะเป็นของเกาหลีค่ะ

 

1432390466-maskre-o

 

ถ้าสนใจลองตามไปอ่านกระทู้บนพันทิปได้เพิ่มเติมนะคะ 🙂

 

http://pantip.com/topic/33692147

 

พบกันใหม่ใน Part 2 กับ Mask เนื้อครีม/เนื้อเจล ค่ะ

[Full review] My beauty diary mask sheet

[Full review] My beauty diary mask sheet

วันนี้มี่แวะมารีวิวมาสค์จาก My beauty diary ที่ได้มาทั้งหมด 9 สูตรให้ชมกันค่ะ

IMG_3334-re

มาดูจุดเด่นของมาสค์แบรนด์นี้กันก่อนนะคะ

1. มาสค์แบรนด์นี้จะเป็นมาสค์ที่ผลิตมาด้วยเทคโนโลยีแบบ Multi-layer คือ ประกอบด้วยเยื่อบางๆหลายๆชั้น โดยชั้นบน กับชั้นล่างสุดจะเป็นชั้นเส้นใยที่นุ่มๆ และชั้นกลางจะเป็นชั้นที่เก็บเอา Mask solution (ขออนุญาตเรียกเป็นไทยว่า น้ำยา แล้วกันนะคะ)

2. น้ำยาของแผ่นมาสค์ ไม่มีแอลกอฮอล์ และไม่มี Paraben เป็นองค์ประกอบ (ทางแบรนด์ Claim เพิ่มมาอีกสองตัวว่า ไม่มี MIneral oil และสารเรืองแสงค่ะ)

ทำไมต้องไม่มีแอลกอฮอล์ เพราะแอลกอฮอล์อาจจะทำให้บางคนไม่สบายผิวได้

ทำไมต้องไม่มีพาราเบน เพราะพาราเบนบางตัวก่อให้เกิดการแพ้ และถ้าดูดซึมเข้าไปในร่างกายอาจจะไปรบกวนการทำงานของระบบฮอร์โมนได้ค่ะ

3. แผ่นมาสค์มีเอกลักษณ์พิเศษ คือ สามารถฉีกได้ เพื่อให้กระชับเข้ากับรูปหน้าของแต่ละคนค่ะ

เมื่อเราแกะซอง แผ่นมาสค์จะถูกพับมาอย่างเรียบร้อย พร้อมกับแผ่นพลาสติคที่ทำหน้าที่เป็นโครงรักษารูปร่างของแผ่นมาสค์เอาไว้ค่ะ

mask 2

แผ่นมาสค์สามารถฉีกได้ 3 จุด ค่ะ เพื่อให้เข้ากับรูปหน้าของแต่ละคน

mask 3-re

mask 4

สูตรที่มี่ได้มามี 9 สูตร ค่ะ ได้แก่

1. Red wine mask Claim เรื่อง กระชับผิว ลดริ้วรอย และช่วยเรื่องผิวขาว

2. Apple polyphenol mask Claim เรื่อง กระชับรูขุมขน ผิวขาวและกระจ่างใส

3. Arbutin white mask Claim เรื่อง ผิวขาวและนุ่มนวล

4. Collagen firming mask Claim เรื่อง กระชับริ้วรอย ฟื้นฟูและปรับสภาพผิว

5. Caviar mask Claim เรื่องเพิ่มความชุ่มชื้นอย่างล้ำลึก และฟื้นฟูผิว

6. Aloe mask Claim เรื่อง เพิ่มความชุ่มชื้นและให้ความรู้สึกสบายผิว

7. Royal jelly mask Claim เรื่อง ปรับสภาพผิว ลดริ้วรอย เพิ่มความชุ่มชื้น และช่วยให้ผิวขาว

8. Black pearl mask Claim เรื่อง ผิวขาวกระจ่างใสและชุ่มชื้น

9. Bulgarian white rose mask Claim เรื่อง เพิ่มความชุ่มชื้น ให้ผิวนุ่มนวลและกระจ่างใสค่ะ

ไหนๆก็มาทั้งทีก็ต้องวิเคราะห์ส่วนผสมค่ะ

แต่จะให้วิเคราะห์ทั้ง 9 สูตรคงตามอ่านกันเหนื่อยแน่ๆ

อย่างแรกเลย ขอยกส่วนผสมที่คล้ายๆกัน และเจอในมาสค์หลายๆสูตรก่อนนะคะ

ตัวแรก Glycosphingolipids เป็นไขมันชนิดพิเศษ ที่เป็นองค์ประกอบของเยื่อหุ้มเซลล์ผิว และเป็นไขมันที่ผิวสามารถเอาไปเปลี่ยนเป็น Ceramide ในผิวได้ ทำให้ผิวแข็งแรงขึ้นค่ะ

ตัวต่อมา กลุ่มสารเติมน้ำตัวเล็กๆ ที่เราเรียกว่า Natural moisturizing factor (NMF) พวกนี้จะเป็นองค์ประกอบที่พบในผิวค่ะ ที่เจอในสูตร Mask ก็จะมี Sodium lactate กับ Sodium PCA

Tocopheryl acetate เป็นรูปแบบหนึ่งของวิตามินอี ให้ผลเป็น Antioxidant ในส่วนผสมมีน้ำมันไม่กี่ชนิดและบรรจุมาในซองปิดสนิท จึงอาจจะมีวิตามินอีเหลือมาให้ประโยชน์กับผิวได้ด้วย

อีกตัว Polyglutamic acid ตัวนี้เป็นโพลิเมอร์ที่เกิดจากกรดอะมิโน Glutamic acid หลายๆตัวพบได้จากการหมักถั่วหมักญี่ปุ่น หรือ Natto ซึ่งเป็นสิ่งที่จุลินทรีย์บางชนิดสร้างระหว่างกระบวนการหมัก ในทางเภสัชกรรมมีประโยชน์ในการเป็นระบบนำส่งสารเข้าสู่ร่างกาย ส่วนในทางเครื่องสำอางผู้ผลิตวัตถุดิบ Claim ว่าสามารถดูดและจับน้ำได้มากถึง 5000 เท่าของน้ำหนักตัวมัน และมีรายงานการวิจัยอีกฉบับกล่าวว่า Polyglutamic acid ที่มีขนาดโมเลกุลใหญ่สามารถกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันได้ (Chem Biodivers. 2010; 7(6):1555-62.) น่าจะมีส่วนช่วยให้ระบบผิวหนังแข็งแรงขึ้น

และมี สารสกัดจากพืชหลายๆตัวที่เจอในแทบทุกสูตร

ตัวอย่างเช่น Aloe barbadensis leaf juice หรือ น้ำจากใบว่านหางจรเข้ มีคุณสมบัติเพิ่มความชุ่มชื้น ลดการระคายเคือง และช่วยให้รู้สึกสบายผิว

ลองวิเคราะห์แบบละเอียดซักส่วนผสมนะคะ

ขอเลือกสูตร Arbutin whitening mask ค่ะ (ถ้าอยากให้วิเคราะห์ส่วนผสมสูตรไหนอีกแนะนำเข้ามาได้นะคะ) มาดูส่วนผสมกันก่อนดีกว่าค่ะ

mask 1
ส่วนผสมชุดนี้ประกอบด้วยสารสกัดจากพืชหลายๆชนิดที่ให้ผลเป็น Whitening ได้ และยังมีผลหลายๆด้าน เช่น Moisturizing, Antioxidant, ลดการอักเสบ และการระคายเคือง รวมไปถึงมีสารที่ช่วยผลัดผิวจากธรรมชาติ คือ สารสกัดจากผลเกรฟฟุต สารสกัดจากสับประรด แอปเปิ้ล ส้ม และ Sugar maple พวกนี้มีกรดอินทรีย์และเอนไซม์ที่ช่วยผลัดผิวได้ และจะมีความอ่อนโยนกว่าการใช้ AHA แบบเพียวๆ

โดยรวมถือว่าค่อนข้างมาครบเลยทีเดียวค่ะ

ตัวน้ำยามีกลิ่นค่อนข้างหอม ไม่เหนียวและเหนอะหนะจนเกินไป พอมาสค์เสร็จผิวหน้าก็นุ่มและอิ่มน้ำพอดี โดยรวมถือว่าดีเลยค่ะ

ให้คะแนนส่วนผสม 5/5
การใช้งาน 5/5

สำหรับวันนี้ก็มีแค่นี้ค่ะ พบกันใหม่โอกาสหน้า ขอบคุณที่ติดตามอ่านมาจนจบค่ะ

Love you,
xoxo

Disclaimer/Conflict of interests: ผลิตภัณฑ์นี้ได้รับการสนับสนุนจากบริษัท ยูนิ-เพรสซิเดนท์ (ประเทศไทย) ผู้นำเข้ามาสค์ My beauty diary ในไทยค่ะ

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้ที่ทางเวบไซต์ http://www.mybeautydiary.co.th/ เลยนะคะ