หลังจากได้ลองใช้กันแดด Bioderma Photoderm XDefense Ultra-Fluid มาพักใหญ่ๆ ตั้งแต่ช่วงเดือนมีนาคม มาตอนนี้ก็ 6 เดือนกว่าๆ วันนี้ก็เลยอยากมาอัพเดทจุดแข็งของกันแดดตัวนี้อีกรอบค่ะ
เริ่มจากความสามารถในการปกป้องแบบ Global protection ที่ได้ทั้ง UVA-UVB + Visible light + Infrared + Pollution และ ความสามารถในการทำให้ผิวแข็งแกร่งขึ้น ผ่านการเสริมความสามารถในการดีท็อกซ์ตัวเองของผิว ซึ่งส่วนผสมไหนทำอะไร เดี๋ยวมีเล่าต่อด้านล่างค่ะ
ก่อนไปดูรายละเอียด เรามาดูหน้าตาของกันแดดสูตรนี้อีกครั้ง

ส่วนนี้จะเป็นกล่องบรรจุภัณฑ์ค่ะ

สำหรับส่วนนี้จะเป็นภาพเนื้อสัมผัสของกันแดดรุ่นนี้นะคะ

มารีแคปส่วนผสมกันอีกซักรอบพร้อมอัพเดทข้อมูลใหม่ๆ ที่น่าสนใจกันนะคะ
ในด้านของสารกันแดด น้องก็คือทำมาได้ครบสยบทั้ง UVA-UVB และเสริมสารที่เป็น SPF booster กับตัวที่ช่วยเพิ่มความเสถียรให้ระบบกันแดดในสูตร
กลุ่มสารกันแดด
- bis-Ethylhexyloxyphenol methoxyphenyl triazine หรือ Tinosorb S เป็นสารกันแดดที่มีความคงตัวดี กรองรังสีได้ในช่วงกว้างทั้ง UVA-UVB
- Butyl Methoxydibenzoylmethane เด่นกรองรังสี UVA เป็นหลัก
- Diethylamino hydroxybenzoyl hexyl benzoate หรือ Uvinul A+ เป็นตัวกรอง UVA ที่เด่นเรื่องการปกป้องการเกิดอนุมูลอิสระจากรังสี UV ในผิว มีความคงตัวดี
จะเห็นว่าเป็นการเลือกใช้สารกรองรังสี UV 3 ชนิด ที่มีความปลอดภัย เบลนด์กันในสัดส่วนที่เหมาะสมเพื่อลดการสัมผัสสารที่ไม่จำเป็น แล้วได้ค่า SPF (กัน UVB) และ PPD (กัน UVA) ที่สูง ครอบคลุม ภายใต้คอนเซปท์ “Balance of filter coverage and stability”
สารที่ใช้เป็นมิตรกับผิว รวมถึงผ่านการทดสอบแล้วว่าเป็นมิตรกับท้องทะเล และเป็นตัวที่ได้รับการยอมรับจาก USFDA
ส่วนตัวเสริมกันแดดจะมี
- Ethylhexyl methoxycrylene ตัวนี้จะช่วยกำจัดอนุมูลอิสระ (Singlet oxygen quencher) และตัวมันยังดูดซับรังสี UVA ได้ด้วย
- Methoxyphenylimino dimethylcyclohexenyl ethyl glycinate ตัวนี้เป็นโมเลกุลจากธรรมชาติพบได้ในสาหร่าย ปกป้องผิวได้จากทั้งรังสี UVA, UVB และบูสท์ค่า SPF ให้ตำรับ
ในสูตรเสริม antioxidants ที่ช่วยปกป้องผิวจาก IR, Visible light และ มลภาวะ ซึ่งก็มีข้อมูลอยู่ว่าการใช้สารกรองรังสีเสริม antioxidants จะสามารถปกป้องผิวจากความเสียหายได้มากขึ้นกว่าการใช้สารกรองรังสีเพียงอย่างเดียว โดยตัวที่เป็นนางเอกในหมวดนี้คือ MAA-like (Methoxyphenylimino Dimethylcyclohexenyl Ethyl Glycinate) น้องมีชื่อเล่นในวงการว่า “natural photoprotector” ซึ่งมีข้อมูลว่ามีฤทธิ์ antioxidant สูงกว่าวิตามินอี 10 เท่า และ มีคุณสมบัติในการยับยั้ง MMP-2 ที่จะไปย่อยคอลลาเจน IV ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของชั้นเชื่อมต่อระหว่าง epidermis-dermis ที่เรียกว่า Dermal-epidermal junction หรือ DEJ ซึ่งถ้าชั้นนี้แข็งแรง โอกาสเกิดริ้วรอยลึกจะมีน้อย
เสริมการปกป้องมลภาวะด้วยชั้นฟิล์มของ Glycofilm (Biosaccharide gum-4)
การเอาคู่นี้มาอยู่ด้วยกันจึงเป็นเสมือนการปกป้องผิวทั้งจากภายในและภายนอก พร้อมทั้งให้ประโยชน์ในเชิง anti-aging จากการปกป้อง Collagen IV

จากผลการทดสอบพบว่า สามารถปกป้องเซลล์ผิวไม่ให้เสียหายจากแสงแดดได้ Full spectrum (UV+IR+VIS) รวมทั้งมลภาวะ ได้สูงมากถึง 99%
นวัตกรรมดีท็อกซ์ด้วย TMBA (Trimethoxybenzyl acetylsinapate) คู่กับสารกันแดด มีผลทดสอบว่าสามารถเสริมการสังเคราะหยีน MT1G (Metallothionein 1G) ซึ่งเป็นหนึ่งในยีนที่ใช้สร้างโปรตีนในกลุ่ม Metallothionein (MTs) ซึ่งเป็นโปรตีนขนาดเล็กที่มีปริมาณกรดอะมิโนซีสเทอีน (cysteine) สูง ใน cysteine นี้จะมีโครงสร้างของหมู่ Sulfhydryl (-SH) อยู่ จึงทำให้โมเลกุลของ MTs มี -SH อยู่อย่างหนาแน่น ส่งผลให้ MTs มีความสามารถพิเศษหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นด้านการเป็น Antioxidant รวมไปถึงการจับอิออนโลหะที่จะนำไปสู่การสร้างอนุมูลอิสระใหม่ๆ ผ่าน Fenton reaction
โดยปกติแล้วการทำงานร่วมกันระหว่างระบบ Nrf2 ซึ่งเป็นระบบ natural antioxidant system จะเหมือนการทำงานแบบต้นน้ำ-ปลายน้ำ
ที่เมื่อระบบ Nrf2 เปิดแล้วมีผลดีหลายอย่างในด้านการดีท็อกซ์ ปกป้องตัวเองของผิว และทำให้มีการสร้าง MTs (รวมถึงโมเลกุลที่มีประโยชน์ต่อผิวต่างๆ) ออกมามาก ทำให้ผิวเราแกร่งขึ้น ปกป้องตัวเองและทำลายอนุมูลอิสระได้มากขึ้น
และนอกจากนี้ยังให้ผลในเชิงด้านของกระบวนการลดการอักเสบผ่านการลดการปลดปล่อยพวกสารก่อการอักเสบบางชนิด เช่น IL-6 และ IL-1 รวมถึงลดการทำลายของคอลลาเจนจากรังสี UV
แต่อย่างไรก็ดีการทำงานของ Nrf2 ยังมีความขัดแย้งกันบ้างในบางจุด แต่ในภาพรวมส่วนตัวมองว่าค่อนข้างเด่นไปในเชิงการป้องกันตัวเอง-หรือการดีท็อกซ์
ซึ่งจากข้อมูลการทดสอบของทางแบรนด์พบว่าคอมบิเนชั่นนี้สามารถเสริมประสิทธิภาพในการดีท็อกซ์ผิวได้สูงถึง 164% เมื่อเทียบกับตัวทำละลาย หรือ control

นอกจากนี้ยังมีผลเทสต์ในอาสาสมัครว่าเพิ่มความกระจ่างใส (Radiance) ของผิวได้ถึง 43%
ซึ่งจากที่ตัวเองได้ใช้มาร่วม 6 เดือนเศษๆ ก็คือค่อนข้างชอบทั้งในด้านของเนื้อสัมผัส ด้านของความสบายผิว แมทท์ แต่ยังคงความชุ่มชื้นเอาไว้ คือ ทา 8 โมงเช้า เลิกงาน 5 โมงเย็นยังดีอยู่ (แบรนด์เคลมชุ่มชื้น 8 ชั่วโมง) และระหว่างวันไม่ดรอป ตกค่ำมาหน้าไม่แดง ไม่หมองคล้ำ
ด้วยความที่เราแต่งหน้าไม่เยอะ ทาแค่รองพื้น ก็สามารถเติมระหว่างวันได้ โดยไม่ทำให้รองพื้นเลอะเลือนไป
สำหรับท่านที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามทางแบรนด์ได้โดยตรงที่ https://bit.ly/BiodermaBA
และสามารถไปทดลองผลิตภัณฑ์ได้ที่ร้านค้าชั้นนำ เช่น Boots Beautrium EVEANDBOY Konvy Watsons
และสามารถช้อปปิ้งได้ผ่านระบบ Shopee, Lazada
Shopee https://s.shopee.co.th/6fYN0Un1nC
Lazada https://s.lazada.co.th/s.ZabdnH?cc
Disclaimer/conflict of interests: ผลิตภัณฑ์นี้ได้รับการสนับสนุนจากทางแบรนด์ Bioderma ประเทศไทย การรีวิวครั้งนี้เป็นการวิเคราะห์ส่วนผสม/วัตถุดิบตามหลักการทางวิทยาศาสตร์เครื่องสำอางและอาศัยความเห็นส่วนบุคคล และผู้เขียนไม่ได้ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทเครื่องสำอางใดๆ โปรดใช้วิจารณญาณ
#BIODERMA #PhotodermXdefense #กันแดดดีท็อกซ์ #เพิ่มอานุภาพดีท็อกซ์164%































































