Image

รีวิว/วิเคราะห์ส่วนผสมเซรั่มบำรุงผิวตัวดังจากเกาหลี แบรนด์ Scinic กับ Peptide 95 Ampoule และ Propolis 95 Ampoule มาแบบเบิ้ลๆ

เรียกได้ว่าตอนนี้กำลังวอแวอยู่กับ 2สูตร Ampoule ของไซน์นิค เลยอยากมารีวิวให้ได้ชมกันค่ะ

แบรนด์ไซน์นิค (Scinic) เป็นเครื่องสำอางของทางเกาหลี มี่เองก็ใช้ของเขามาหลายชิ้นก็รู้สึกว่าเขาทำมาได้ดีนะคะ

อย่าง Ampoule 2 สูตรที่เข้าไทยมา เป็นสูตร Peptide 95 Ampoule และ Propolis 95 Ampoule ค่ะ หน้าตาประมาณนี้นะคะ

 

am 1

เริ่มกันที่ตัว Peptide 95 Ampoule มาในกล่องสีน้ำตาลค่ะ

pep 3

ด้านในเป็นขวดแก้วสวยงามแบบมีหลอดหยด

pep 4

สูตรนี้ เนื้อเซรั่มมาในเนื้อเจลข้นๆ สีน้ำตาลอ่อน มีกลิ่นหอมสะอาดๆ

pep 1

เกลี่ยได้ง่าย ซึมไว แห้งไว ให้ความฉ่ำวาวนิดๆ ไม่เหนอะหนะ

pep 2

ค่า pH อยู่ที่ราวๆ 5 – 6 ค่ะ ซึ่งถือว่าใกล้เคียงกับผิวดี

pH pep

ส่วนผสมเป็นดังนี้นะคะ

pep ing

ตัวส่วนผสมเปิดมาด้วย Peptide solution (สารละลายของเปปไทด์) ที่ข้างกล่องเขียนว่าเป็นสารละลายเข้มข้น 1 ppm ใส่มาจัดเต็มที่ 95% อันนี้ลองคำนวณดู ก็จะได้เนื้อแท้ของ Acetyl hexapeptide หรือ argireline อยู่ที่ ราวๆ 0.095% ก็ถือว่าอยู่ในช่วงที่ไม่น่าเกลียดนะคะ

ถัดมาก็จะเป็นกลุ่มของวิตามินและสารสกัดจากพืชอีกหลายชนิดที่เสริมทัพกันเพื่อบำรุงผิวได้อย่างลงตัว ดูแลผิวที่มีปัญหา Aging ได้อย่างลงตัว ให้ประโยชน์กับผิวในด้านความชุ่มชื้น ลดการอักเสบระคายเคือง Antioxidant ลดการระคายเคืองให้ความรู้สึกสบายผิว และ Whitening

นอกจากสารสกัดจากพืชและวิตามินแล้ว ก็ยังมีส่วนผสมของน้ำมันจากพืชหลายชนิด เช่น น้ำมันจาก Borage, Almond, Macadamia, ทานตะวัน และ Rapeseed ซึ่งน้ำมันจากพืชเหล่านี้ก็มีประโยชน์ในการคืนไขมันทดแทนให้แก่ผิวเรานั่นเอง

 

 

อีกตัวเป็น Propolis Ampoule นะคะ มาในกล่องสีเหลือง หน้าตาประมาณนี้ค่ะ

prop 3

ด้านในเป็นขวดแก้วสวยหรูแบบมีหลอดหยด

prop 4

เนื้อเป็นเนื้อเจล ออกขุ่นเล็กน้อย มีกลิ่นหอมจางๆออกไปทางเฟรชๆสดชื่น

prop 1

เกลี่ยได้ง่าย รู้สึกหนึบกว่าสูตรสีน้ำตาล แต่ก็ยังแห้งไว ซึมไว ไม่เหนอะหนะ แต่ยังมีความผิวฉ่ำๆสไตล์เกาหลีอย่างที่เห็น

prop 2

ค่า pH อยู่ที่ประมาณ 5 – 6 เช่นกันค่ะ

pH prop

ส่วนผสมเป็นดังนี้นะคะ

prop ing

เปิดส่วนผสมมาด้วย Propolis extract และส่วนผสมอื่นจากผึ้งแบบครบเซ็ต ไม่ว่าจะเป็น Royal jelly และน้ำผึ้ง เติมมาด้วยสารสกัดจากพืชอีกมากมาย ที่ให้ประโยชน์ในการบำรุงผิวได้อย่างรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็น เพิ่มความชุ่มชื้น ลดการอักเสบระคายเคือง Antioxidant กระชับรูขุมขน ลดการระคายเคืองให้ความรู้สึกสบายผิว Whitening ช่วยให้ผิวใสเรียบเนียนรวมไปถึงให้ประโยชน์ในเชิงสิว และที่เนื้อเบสออกขุ่นหน่อยก็เพราะมีน้ำมันจากพืชอยู่อีก 5 ชนิด คือ น้ำมันจาก Borage, Almond, Macadamia, ทานตะวัน และ Rapeseed ซึ่งน้ำมันจากพืชเหล่านี้ก็มีประโยชน์ในการคืนไขมันทดแทนให้แก่ผิวเรานั่นเอง

มี Silicone อยู่บ้างประปรายเพื่อให้สัมผัสนุ่มนวล ลื่นผิว

 

 

 

มาให้คะแนนกันดีกว่านะคะ

ขอหยิบยกเอา Peptide 95 Ampoule มาเป็นตัวแทนในการให้คะแนนนะคะ

  1. สารบำรุง อย่างที่ได้เล่าให้ฟังในช่วงวิเคราะห์ส่วนผสม ว่า ใน ampoule นี้นอกจาก Argireline ที่เป็น peptide ตัวเอกของสินค้าแล้ว ยังมีส่วนผสมของสารบำรุงอีกหลายชนิด ดูแลผิวที่มีปัญหา Aging ได้อย่างลงตัว ให้ประโยชน์กับผิวในด้านความชุ่มชื้น ลดการอักเสบระคายเคือง Antioxidant ลดการระคายเคืองให้ความรู้สึกสบายผิว และช่วยเรื่องผิวกระจ่างใส ให้ไป 5 ฟลาสก์
  2. ส่วนผสมอื่นๆ ไม่มีส่วนผสมของสารที่ไม่เป็นมิตรกับผิว เลยไม่มีที่ให้หักคะแนน ให้ไป 5 ฟลาสก์
  3. การใช้งาน ส่วนตัวมี่ค่อนข้างชอบเนื้อของเซรั่มตัวนี้นะคะ ในด้านของสัมผัสระหว่างใช้ การเกลี่ย สัมผัสหลังใช้ ถือว่าทำมาได้ดี คิดว่าน่าจะเหมาะกับทุกสภาพผิว แต่คนที่มีผิวแห้งมากๆแบบมี่ อาจจะต้องเสริม moisturizer ตัวอื่นเข้ามาอีก ทาทับอีกซักชั้น ส่วนเรื่องกลิ่นมี่ค่อนข้างรู้สึกเฉยๆ แต่เอาให้แม่ใช้ แม่กลับชอบ ก็นานาจิตตังนะคะ ส่วนเรื่องประสิทธิภาพในการลดริ้วรอย ตอนนี้มี่ยังไม่ค่อยมีริ้วรอยเลยขอข้ามประเด็นนี้ไป แต่ในด้านของผิวนุ่ม เรียบเนียน และให้สัมผัสเด้งๆ ตัวนี้ถือว่าตอบโจทย์ค่ะ ให้ไป 5 ฟลาสก์

 

คะแนน pep

สุดท้ายนี้ต้องขอบคุณทางแบรนด์ Scinic Thailand ด้วยนะคะที่ส่งสินค้าดีๆมาให้มี่ได้ทดลองใช้ และขอบคุณทุกท่านด้วยค่ะที่ติดตามรับชมมาจนจบ

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ทางแบรนด์ Scinic โดยตรงเลยนะคะ

https://www.facebook.com/SCINICThailand/

 

พบกันใหม่โอกาสถัดไป สวัสดีค่ะ

 

Disclaimer/conflict of interests: ผลิตภัณฑ์นี้ได้รับการสนับสนุนจากทางแบรนด์ Scinic การรีวิวครั้งนี้เป็นการวิเคราะห์ส่วนผสมตามหลักการทางวิทยาศาสตร์เครื่องสำอางและอาศัยความเห็นส่วนบุคคล ผู้เขียนไม่ได้มีผลประโยชน์ใดๆในการขายสินค้าและไม่ได้รับค่าตอบแทนในการรีวิว โปรดใช้วิจารณญาณ

รีวิววิเคราะห์ส่วนผสมเซรัมไฮยาเข้มข้น 5 ชนิด จากแบรนด์ Hylamide รุ่น SubQ Anti-age

รีวิววิเคราะห์ส่วนผสมเซรัมไฮยาเข้มข้น 5 ชนิด จากแบรนด์ Hylamide รุ่น SubQ Anti-age

วันนี้มี่แวะเอาเวชสำอางจากประเทศแคนาดา แบรนด์ Hylamide มารีวิวให้ชมกันค่ะ

 

ตัวนี้ถ้าหลายๆท่านจำได้ มี่เอามาแชร์ไว้ครั้งหนึ่งในกระทู้ Routine skin care regimen ไว้ (ลิงค์สำหรับชม Skincare regimen ของมี่) แล้วบอกว่าจะรีวิวละเอียดให้ เพราะของเขาคือดีงาม

 

นี่ค่ะ Regimen ช่วงนี้

bedtime1

วันนี้ได้ฤกษ์ละค่ะ มาทำความรู้จักกับแบรนด์ Hylamide กันซักเล็กน้อยก่อนดีกว่านะคะ แบรนด์นี้เป็นแบรนด์ในเครือของ Deciem ซึ่งเป็นบริษัทที่ทำเวชสำอางและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารมากมายค่ะ โดยคอนเซปท์ของแบรนด์ Hylamide มีชื่อสวยๆว่า “Multi-depth skincare” เน้นที่การฟื้นฟูผิวที่ 3 ชั้น คือ ชั้น Stratum corneum (ผิวหนังชั้นนอกสุด) ชั้น Epidermis (หนังกำพร้า) และชั้น Dermis โดยอาศัยโมเลกุลที่มีขนาดต่างๆกันในการบำรุง/ฟื้นฟูค่ะ

 

IMG_0192-re

 

โดยตัว Hylamide SubQ นี้ Claim ไว้ดังนี้ค่ะ

 

claim

 

เพิ่มความชุ่มชื้นที่ผิวชั้นนอก และชั้นใน ริ้วรอยตื้น ริ้วรอยลึก ผิวไม่สม่ำเสมอ และพวกริ้วรอยที่เกิดขึ้นตอนเราแสดงสีหน้า (เช่นตีนกา ร่องแก้ม)

 

มาดูลักษณะของผลิตภัณฑ์กันค่ะ

นางจะมาในกล่องแบบนี้ค่ะ

IMG_0715-re

พอแกะออกมาจะมีหน้าตาแบบนี้ (อันนี้ตัวล็อคมันแอบขาดนะคะ จริงๆขวดเขาจะลอคให้ในช่องที่มีลูกศร)

 

IMG_0716-re

 

ฝั่งซ้ายมือจะเป็นรายละเอียดของส่วนผสมที่มีอยู่ในขวดค่ะ

 

IMG_0194-re

 

อันนี้เผื่อใครสนใจนะคะ เดี๋ยววิเคราะห์ละเอียดให้อีกทีค่ะ

 

 

ขวดจริงๆจะเป็นลักษณะขวดแบบมีหลอดหยด หรือที่สาวกเกาหลีแบบเราๆเรียกว่า Ampoule

 

IMG_0720-re

 

 

เนื้อเป็นของเหลวใส ไม่มีสี ไม่ได้ใส่น้ำหอม เลยมีกลิ่นของส่วนผสมอยู่จางๆ

 

IMG_0721-re

 

 

เนื่องจากเป็นของเหลวใส เลยเกลี่ยง่ายมาก ซึมไว แห้งไวมาก ไม่เหนียวเหนอะหนะ ไม่ทิ้งคราบ

 

IMG_0722-re

 

 

วัด pH เหมือนเช่นเคยค่ะ

 

IMG_1927-re

 

pH อยู่ที่ประมาณ 5 นะคะ ใกล้เคียงกับผิวดีค่ะ

 

 

ก่อนจะไปดูส่วนผสมอยากชี้แจงจุดเด่นอีกนิดหน่อยค่ะ

ประเด็นแรกคือ ผลิตภัณฑ์นี้เป็นผลิตภัณฑ์ที่ใส่สารออกฤทธิ์มาเยอะมาก คือ มี Active ingredients ถึง 44.32% ซึ่งมี่ไม่เคยเจอเครื่องสำอางไหนที่ใช้สารออกฤทธิ์แบบสารบริสุทธิ์มากกว่านี้มาก่อน (ไม่นับพวกที่ใส่สารสกัดพืช 90+% นะคะ อันนั้นเป็นสารสกัด มีพืชจริงๆเท่าไหร่เราไม่รู้ แต่อันนี้คือสารออกฤทธิ์เพียวๆ)

พอเป็นแบบเข้มข้น ใส่มาเต็มมาก เพื่อโฟกัสเรื่องริ้วรอย ล้วนๆ แต่ถึงแม้ยังไม่เหี่ยวไม่มีริ้วรอย ก็ใช้ได้เพื่อชะลอวัยค่ะ

ตรงนี้เขาชูโรงไว้ข้างกล่องด้วยหล่ะ

 

IMG_0194-re

 

แต่ละตัวคืออะไร เป็นอย่างไร เดี๋ยวลองดูในช่วงวิเคราะห์ส่วนผสมนะคะ

 

จุดเด่นอีกจุดคือ การใช้ อนุพันธ์ Hya สูงสุดถึง 5 ชนิด ซึ่งมากสุดในประวัติการณ์ในวงการเครื่องสำอาง (หมายเลข 7 – 12 นะคะ)

 

5 ชนิดที่ว่าได้แก่

1.VERY LOW-MOLECULAR HA เป็นไฮยาโมเลกุลเล็กมากซึมลงไปได้ลึก เพิ่มความชุ่มชื้น

2.Hyaluronic Acid Ferment เป็นไฮยาจากเทคโนโลยีชีวภาพ ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นดึงน้ำให้บริเวณผิว

3.Hydrolyzed HA เป็นไฮยาโมเลกุลเล็ก ซึมลงผิวได้ลึกปานกลาง เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวระดับกลาง

4.HA Pre-Cursor สารตั้งต้นให้ผิวเอาไปสร้างไฮยา ทำให้ผิวนุ่มชุ่มน้ำฟูขึ้น

  1. Plant HA ไฮยาจากมะขาม ที่ช่วยให้ผิวยืดหยุ่นมากขึ้น

 

 

ในที่สุดก็มาถึงเวลาของการวิเคราะห์ส่วนผสมแล้วค่ะ

 

ส่วนผสม

 

ปกติเราแบ่งส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางเป็น 3 หมวดหลักๆ คือ

  1. Actives หรือ สารออกฤทธิ์ เป็นสารที่ทำให้เครื่องสำอางมีคุณสมบัติพิเศษต่างๆ
  2. Base หรือ ส่วนเนื้อของผลิตภัณฑ์ เป็นตัวอุ้มและเก็บสารออกฤทธิ์ไว้
  3. Additives หรือ ส่วนของสารเติมแต่ง เป็นตัวเติมแต่งให้ผลิตภัณฑ์มีความน่าใช้ มีความปลอดภัย เช่น พวกสารกันเสีย พวกน้ำหอม พวกซิลิโคน ตัวเพิ่มความหนืด ฯลฯ

 

เรามาดูไปทีละส่วนกันเลยนะคะ

  1. Actives ขอเรียงตามกลุ่มสารนะคะ
    • กลุ่มคาร์โบไฮเดรต และ Hyaluronic acid ได้แก่
  • Sodium hyaluronate crosspolymer เป็นอนุพันธ์ใหม่ของ Hyaluronic acid เกิดจากการเอา Hyaluronic หลายๆตัวมาเชื่อมกันโดยใช้ปฏิกิริยาเคมี ทำให้ได้สารที่มีคุณสมบัติเพิ่มความชุ่มชื้นได้สูงขึ้น และมีคุณสมบัติ Antioxidant เพิ่มเติมเข้ามา ข้อมูลจากผู้ผลิตวัตถุดิบระบุว่าสารนี้เพิ่มความชุ่มชื้นได้มากกว่า Hyaluronic acid ถึง 5 เท่า และยังเก็บกักความชุ่มชื้นให้ผิวได้ถึง 24 ชั่วโมง (Hylasome EG10, Lipo Chemicals Inc.)
  • Tamarindus indica seed gum เป็น Polysaccharide กลุ่ม Gum ที่ได้จากเมล็ดของมะขาม มีรายงานการวิจัยระบุว่า Carbohydrate ที่พบในเปลือกเมล็ดสามารถกระตุ้นให้เซลล์ผิวหนังแบ่งตัวเพิ่มจำนวนได้ดีขึ้น (Dermatol Res Pract. 2013; 2013: 359756.) และมีรายงานว่าสารสกัดจากเปลือกหุ้มเมล็ดมะขามมีผลปกป้องผิวหนังจากรังสี UVA และเป็น Antioxidant ที่ดี (J Cosmet Sci. 2014; 65(1):11-24.) ข้อมูลจากผู้ผลิตวัตถุดิบ Claim ว่าเป็น Vegetal hyaluronic acid (Hyaluronic acid จากพืช) มีคุณสมบัติเป็น Moisturizer โดยไปเคลือบที่ผิวไว้ ทำให้ผิวชุ่มชื้น ริ้วรอยลดลง ผิวเรียบเนียนขึ้น (Unitamuron-H22, Induchem)
  • Hydrolyzed hyaluronic acid เป็น Hyaluronic acid ที่ผ่านกรรมวิธีการย่อยให้มีขนาดเล็กลงจึงดูดซึมผิวได้มากขึ้น ให้ผิวนุ่มฟูขึ้น และริ้วรอยลดลง
  • Sodium hyaluronate คือ Hyaluronic acid ตัวดั้งเดิมให้ผลเพิ่มความชุ่มชื้นกับผิว
  • Saccharide isomerate สารประเภทคาร์โบไฮเดรต มีชื่อทางการค้าว่า Pentavitin ผู้ผลิต Claim ว่าสามารถไปจับกับกรดอะมิโน Lysine ของ Keratin ในผิว แล้วให้คุณสมบัติเป็นสารดูดน้ำ อุ้มน้ำ รักษาความชุ่มชื้นไว้ได้ยาวนาน ไม่ถูกล้างออกไปได้ง่ายๆเหมือน moisturizer อื่นๆ
  • Polyglucuronic acid สารกลุ่ม Polysaccharide ที่เกิดขึ้นจาก Glucuronic acid หลายๆตัวมาต่อกัน มีคุณสมบัติก่อฟิล์ม เพิ่มความหนืด และยังมีคุณสมบัติ Antioxidant (Carbohydrates Polymer 2015;116:34-41.) ในวัตถุดิบผสมระหว่าง Hydrolyzed Yeast Extract, Cetyl Hydroxyethylcellulose, Polyglucuronic Acid และ Lecithin ที่ผลิตโดยบริษัท Sederma ระบุว่าสารนี้ได้จากกระบวนการทางไบโอเทคโนโลยี จะได้สารที่มีโครงสร้างคล้ายกับสาย Hyaluronic acid ในผิวของเรา จึงมีผลช่วยทำให้ริ้วรอยตื้นขึ้น ผิวเรียบเนียนและสม่ำเสมอมากขึ้น นุ่มฟู และมีความแข็งแรงมากขึ้น (Optim HyalTM, Sederma Inc.)
    • กลุ่มสารที่เป็น Fermentation product ได้แก่
  • Pseudoalteromonas ferment extract รู้จักกันในชื่อทางการค้าว่า Antarcticine ของบ. Lipotec ได้จากการแบคทีเรียชนิดหนึ่งที่พบในธารน้ำแข็ง ประกอบด้วยสารกลุ่ม Tripeptide ซึ่งมีคุณสมบัติในการกระตุ้นการสังเคราะห์คอลลาเจนและอิลาสติน จึงช่วยให้ผิวเรียบเนียนขึ้น ริ้วรอยลดลง นอกจากนี้มีคุณสมบัติในการเพิ่มความชุ่มชื้น และช่วยในกระบวนการสมานแผล (Promote Wound-healing) เวลาผิวหนังเกิดความเสียหาย ก็จะช่วยให้ซ่อมแซมตัวเองได้ไวขึ้น
  • สารประกอบของ Lactobacillus/Eriodictyon californicum ferment extract กับ Phospholipids และ Leuconostoc/Radish root ferment มีชื่อทางการค้าว่า ACB Cationic glycoproteins ให้ผลชะลอวัย ลดริ้วรอย เป็น Antioxidant เพิ่มความชุ่มชื้น และให้ความรู้สึกสบายผิว เพราะมีประจุบวกเลยจับกับผิวได้ดี
    • กลุ่มกรดอะมิโนและเปปไทด์ ได้แก่
  • Copper lysinate/prolinate สารตัวนี้เป็นสารเชิงซ้อนของแร่ธาตุทองแดงกับกรดอะมิโน Lysine และ Proline ผู้ผลิตวัตถุดิบ Claim ว่าสารนี้สามารถเป็นแหล่งพลังงานให้เซลล์ Fibroblast ที่แก่แล้วเกิดการปรับตัวและสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน ชนิดที่ดีออกมา จึงมีผลทำให้ริ้วรอยลดลง ในตลาดเครื่องสำอางวัตถุดิบนี้มีชื่อทางการค้าว่า Neodermyl โดยจำหน่ายในรูปแบบของผสมระหว่าง Glycerin, Water, Methylglucoside Phosphate และ Copper Lysinate/Prolinate (Neodermyl, Induchem Inc.)
  • Palmitoyl tripeptide-38 เปปไทด์สายสั้นๆจากกรดอะมิโน 3 ตัวที่จับกับกรดไขมัน Palmitic acid ทำให้ดูดซึมเข้าผิวได้ง่ายขึ้น เปปไทด์ตัวนี้มีผลกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ไฮยาลูรอน และสารโปรตีนอื่นๆอีกหลายชนิดในผิวที่ทำหน้าที่เพิ่มความแข็งแรงของชั้นหนังแท้ และช่วยเสริมความแข็งแรงของ Dermal-Epidermal junction ให้แข็งแรงมากขึ้น จึงสามารถพยุงเอาชั้นผิวหนังไม่ให้เกิดริ้วรอยได้ง่ายๆ สารตัวนี้จำหน่ายในชื่อทางการค้าว่า Matrixyl Synthe’6 ซึ่งเป็นของผสมระหว่าง Glycerin, Water, Hydroxypropyl Cyclodextrin และ Palmitoyl Tripeptide-38 (Matrixyl Synthe’6, Sederma Inc.)
  • Myristoyl nonapeptide-3 เปปไทด์ที่เกิดจากกรดอะมิโน 9 ตัว จับกับกรดไขมัน Myristic acid ออกฤทธิ์คล้ายกับวิตามินเอ ให้ผลกระตุ้นการผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิว และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิว มีความปลอดภัยสูงกว่า และไม่ระคายเคืองผิว
    • กลุ่มสารสกัดพืชอื่นๆ ได้แก่
  • Hydrolyzed yeast extract ประกอบด้วยโปรตีนและวิตามินต่างๆ ให้คุณสมบัติบำรุงผิว และเป็นองค์ประกอบในส่วนผสมของวัตถุดิบ Optim HyalTM
  • Ahnfeltia concinna extract สารสกัดจากสาหร่ายสีแดงชนิดหนึ่ง ไม่พบข้อมูลงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง ข้อมูลจากผู้ผลิตระบุว่ามีคุณสมบัติส่งเสริมการผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิว เพิ่มความยืดหยุ่น ความนุ่ม ลดริ้วรอยให้ผิวเรียบเนียน ลดการระคายเคืองในผิว และเป็น Moisturizer
    • สารอื่นๆ ได้แก่
  • Phospholipids และ Lecithin นอกจากสมบัติการบำรุงผิวก็อาจจะเป็นตัวนำส่งสารให้ผิว
  • Salicylic acid จัดเป็น BHA ให้ผลผลัดผิว ลดการอุดตัน
  1. Base เป็นชนิดน้ำใส หรือ Solution ไม่มีสารกลุ่มน้ำมันสังเคราะห์ ไม่มีซิลิโคน ไม่มีแอลกอฮอล์ ประกอบด้วย น้ำ Glycerin, Pentylene glycol, Ethoxydiglycol, Ethylhexylglycerin, Hexylene glycol, Caprylyl glycol 3 ตัวหลังมีคุณสมบัติระงับเชื้อจุลินทรีย์ได้ด้วย
  2. Additives ได้แก่
    • สารเพิ่มการดูดซึม (Percutaneous absorption enhancer) คือ Ethoxydiglycol ช่วยเพิ่มการดูดซึมให้สารออกฤทธิ์เข้าผิวได้ดีขึ้น
    • สารเพิ่มความหนืด ได้แก่ Polyacrylate crosspolymer-6, Cetyl hydroxyethylcellulose, Hydroxypropylcyclodextrin น่าจะเป็นองค์ประกอบที่ติดมากับกลุ่มสารออกฤทธิ์
    • Surfactant/Emulsifier มี Methylglucoside Phosphate ซึ่งติดมากับสารออกฤทธิ์
    • สารปรับ pH และ Buffer รักษา/ควบคุมค่า pH ได้แก่ Citric acid, Sodium citrate, Sodium hydroxide
    • สารจับโลหะ เป็นตัว Trisodium ethylenediamine disuccinate ให้ผลเพิ่มความคงตัวแก่ผลิตภัณฑ์ สารตัวนี้ผู้ผลิตวัตถุดิบอ้างว่าได้จากธรรมชาติ
    • สารกันเสีย ได้แก่ potassium sorbate, sodium benzoate, sodium citrate, chlorphenesin, phenoxyethanol นับรวมกับกลุ่มสารเติมน้ำอย่าง Ethylhexylglycerin, Hexylene glycol, Caprylyl glycol ที่ช่วยเสริมฤทธิ์ให้สารกันเสียด้วย และ Leuconostoc/Radish root ferment เองก็สามารถเป็นกันเสียได้

 

ถึงเวลาให้คะแนน

  1. Actives ในกลุ่มของสารออกฤทธิ์ตามที่ได้บรรยายไว้ ส่วนมากจะเป็นสารที่ค่อนข้างใหม่ และมีนวัตกรรมพิเศษๆ โดยรวมจะเน้นไปที่การเติมน้ำ ลดริ้วรอยเก่า ป้องกันริ้วรอยใหม่ และเสริมสร้างให้ริ้วรอยที่มีอยู่ดูตื้นขึ้น โดยรวมถือว่าทำได้ค่อนข้างครบตามคำ Claim จุดนี้จึงขอให้ 5 ฟลาสก์
  2. Base ไม่มีสารกลุ่มน้ำมันสังเคราะห์ ไม่มีซิลิโคน ไม่มีแอลกอฮอล์ และมีตัวเติมน้ำให้ผิวดีๆหลายตัว จุดนี้จึงขอให้ 5 ฟลาสก์
  3. Additives สารที่ใช้ไม่ได้มีพิษมีภัยอะไรกับผิว และออกแบบมาได้อย่างดี เพราะหลายๆชนิดค่อนข้างหายาก และเป็นนวัตกรรม รวมถึงมีการใช้เทคนิคหลายๆอย่างเพื่อเพิ่มการดูดซึมของสารอื่นๆ ที่สำคัญคือไม่มีน้ำหอม ไม่มีพาราเบน จุดนี้จึงขอให้ 5 ฟลาสก์
  4. คะแนนการใช้งาน ตัวนี้มี่ใช้มาเดือนกว่าๆแล้ว ถือว่าใช้ทนมากเลยนะคะ เนื่องจากผิวมี่ยังไม่ค่อยมีริ้วรอย จึงเห็นผลเรื่องริ้วรอยไม่ชัด แต่เรื่องความชุ่มชื้น และความเรียบเนียน จุดนี้ต้องขอให้ 10 เต็ม เพราะว่าผิวค่อนข้างนุ่ม ชุ่มชื้น เรียบขึ้น แต่งหน้าได้ง่ายและติดทนนานมากขึ้น จึงขอให้ 5 ฟลาสก์

 

คะแนน

 

สุดท้ายนี้อีกครั้งอยากขอบคุณทางบริษัท Advance Aesthetic Company ที่ส่งสินค้าดีๆเพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยีมาให้ได้ทดลองใช้ค่ะ

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อสอบถามได้ที่

เฟสบุคของบริษัท http://www.facebook.com/advanceaestheticthailand ได้เลยค่ะ

 

ขอบคุณที่ติดตามรับชมมาจนจบค่ะ

 

Disclaimer/Conflict of interest: ผลิตภัณฑ์ได้รับการสนับสนุนจากทางแบรนด์ Hylamide ค่ะ

[Full Review] Skindom Luxury cell collagen peptide ampoule และ Angels Bifida 100% ampoule

[Full Review] Skindom Luxury cell collagen peptide ampoule และ Angels Bifida 100% ampoule

วันนี้มี่แวะเอา Ampole จากแบรนด์ Skindom ของประเทศเกาหลีมารีวิวให้ชมกันค่ะ

ในกลุ่ม Ampoule ที่มี่ได้มา มี 2 ตัว เป็นตัว Skindom Luxury cell collagen peptide ampoule และ Angels Bifida 100% ampoule ค่ะ มาดูรายละเอียดกันไปทีละตัวดีกว่านะคะ

อ้อ แอบกระซิบไว้ว่า สองตัวนี้ใช้คู่กันได้นะคะ แล้วใช้ได้ทั้งเช้าทั้งเย็นค่ะ มี่แนะนำว่าเอา Bifida ลงก่อน ตามด้วย Luxury cell ampoule ค่ะ

IMG_0249-re

ตัวแรกที่จะเจาะส่วนผสมเป็น Skindom Luxury cell collagen peptide ampoule ค่ะ

แค่ชื่อก็แบบว่า Luxury จ้าาา หรูหรา

IMG_0259-re

สรรพคุณที่ แบรนด์ Claim จะเป็น 7 in 1 ampoule ขวดเดียวบำรุงได้ 7 ด้าน คือ ริ้วรอย รูขุมขน ความชุ่มชื้น ชะลอวัย ความยืดหยุ่นผิว คุมมัน และให้ผิวเงาฉ่ำวาวสไตล์เกาหลีค่ะ

ส่วนเนื้อเป็นเนื้อเจลใส มีความหนืดปานกลาง มีกลิ่นหอมอ่อนๆค่ะ

IMG_0260-re IMG_0261-re

เกลี่ยง่าย ให้ความรู้สึกเย็นและสบายผิว ดูดซึมผิวได้ปานกลาง เมื่อเวลาผ่านไปก็จะไม่ทิ้งคราบอะไรไว้บนผิวค่ะ

IMG_0262-re

วัดค่า pH กันซักหน่อยค่ะ

IMG_0264-re

ตัวนี้ค่า pH อยู่ที่ประมาณ 5-6 ค่ะ เท่ากับผิวพอดีเลย

มาดูส่วนผสมกันดีกว่านะคะ

สผส colla

มี่ขอแบ่งวิเคราะห์ส่วนผสมเป็นกลุ่มๆดังนี้นะคะ

***Fermented soybean (ถั่วเหลืองหมัก) ในส่วนผสมมีอยู่ถึง 2 ตัว คือ Bacillus/soybean fermented extract กับ Lactobacillus/soybean fermented extract

ในการหมักด้วยจุลินทรีย์ ปกติจุลินทรีย์จะไปเปลี่ยนสารในพืชให้มีขนาดเล็กลง ทำให้ออกฤทธิ์ได้ดีขึ้น และสามารถซึมผ่านผิวได้มากขึ้น

มีการศึกษาเกี่ยวกับคุณสมบัติของถั่วเหลืองที่หมักด้วยจุลินทรีย์สายพันธ์ Bacillus พบว่า ถั่วเหลืองหมักมีคุณสมบัติ Antioxidant ที่ดีขึ้น และเป็น Whitening ได้ดีขึ้น เพราะถั่วเหลืองหมักออกฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์ Tyrosinase (เอนไซม์ที่สร้างเม็ดสีผิว) ได้มากกว่าเดิม (Toxicol Res. 2011;27(4):205–209.)

ส่วนการหมักด้วย Lactobacillus ก็จะได้ Lactic acid ที่เป็นประโยชน์กับผิว และยังช่วยเปลี่ยน Isoflavone ที่อยู่ในรูปแบบ Glycoside (มีน้ำตาลเกาะอยู่) ให้กลายเป็นรูปแบบ Aglycone (ไม่มีน้ำตาล) (Int J Food Sci Nutr. 2012;63(5):566-79.) ทำให้ออกฤทธิ์ได้ดีขึ้น สารกลุ่มนี้มีคุณสมบัติเป็น Antioxidant ที่ดีและเป็น Phytoestrogen ช่วยให้ผิวนุ่มนวล และริ้วรอยลดลง

***กลุ่มสารที่เป็น Antioxidants มีอยู่ 4 ตัว คือ สารสกัดจากชา (Camellia oleifera extract), สารสกัดจาก Elm (Ulmus davidiana extract), สารสกัดจากทับทิม (Punica granatum extract) และวิตามินอี

ขอกล่าวถึงสารสกัดจาก Elm นิดหน่อยนะคะ เพราะว่าดูโดดเด่นเป็นพิเศษเพราะช่วยชะลอการแก่ได้ระดับเซลล์เลยทีดียว เพราะมีรายงานว่าสารสกัดนี้สามารถชะลอการแก่ (Senescence) ของเซลล์ Fibroblast ในผิว (Planta Med. 2011; 77(5):441-9.) เซลล์ Fibroblast เป็นเซลล์ที่สร้างคอลลาเจนและอิลาสตินในผิว

***กลุ่มสารเพิ่มความชุ่มชื้น มี 3 ตัว คือ Sodium hyaluronate, Panthenol, และ Beta-glucan ช่วยอุ้มน้ำให้ผิว ผิวจะนุ่มและแลดูอวบอิ่ม

***กลุ่มสารลดริ้วรอย ได้แก่ Adenosine, Tripeptide-29, Acetyl hexapeptide-8 และ Copper tripeptide-1 ขอกล่าวถึงตัว peptide 3 ตัวหลังนะคะ

Tripeptide-39 เป็น Peptide ที่เกิดจากกรดอะมิโน 3 ตัว มีโครงสร้างคล้ายกับหน่วยย่อยของ Collagen จึงมีชื่อว่า Collagen tripeptide มีคุณสมบัติเพิ่มความชุ่มชื้น ความยืดหยุ่น และเพิ่มการสังเคราะห์คอลลาเจนในผิว

Acetyl hexapeptide-8 เป็น Neuropeptide ที่รู้จักกันในชื่อทางการค้าว่า Argireline ออกฤทธิ์ผ่านระบบประสาท ทำให้กล้ามเนื้อที่หดตัวเกิดเป็นริ้วรอยคลายตัว คล้ายๆกับ Botulinum toxin (หรือ Botox) เมื่อทาจะทำให้รู้สึกว่าผิวเรียบตึงขึ้นทันที แต่ผลที่เกิดขึ้นอยู่ได้ไม่นาน

Copper tripeptide-1 เป็น peptide ที่เกิดจากกรดอะมิโน 3 ตัว มาจับกับแร่ Copper มีฤทธิ์กระตุ้นการสมานแผล ลดริ้วรอย เพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิว มีรายงานการวิจัยทดสอบถึงการซึมผ่านผิว พบว่าสารนี้ซึมผ่านผิวได้ในระดับที่ดีพอที่จะออกฤทธิ์เป็นสารต่อต้านกระบวนการอักเสบได้ (inflamm Res. 2011;60(1):79–86.)

***กลุ่มสารลดการอักเสบ ระคายเคืองและช่วยสมานผิว ได้แก่ Allantoin, Dipotassium glycyrrhizate และ สารสกัดจาก Portulaca oleraceae

โดยรวมจึงเห็นว่ามากันครบถ้วนเลยทีเดียว

วิเคราะห์คะแนนดีกว่าค่ะ

1.Actives ส่วนของสารออกฤทธิ์ตามที่ได้สาธยายและบรรยายไว้ในข้างบนก็ถือว่ามาเต็มและครบถ้วนสมบูรณ์ จึงขอให้ 5 ฟลาสก์

2.Base หลักๆเป็นรูปแบบของ Solution ที่ไม่มีน้ำมันเป็นองค์ประกอบ ไม่มี Alcohol มี Glycerin กับ Butylene glycol เป็นตัวดึงน้ำให้ผิว ก็ไม่รู้จะหักคะแนนอะไร จุดนี้ขอให้ 5 ฟลาสก์

3.Additives สารอื่นๆที่ใช้ไม่ได้มีพิษมีภัยอะไรกับผิว สารบางตัวยังช่วยเคลือบเป็นฟิล์มบางๆบนผิวและรักษาความชุ่มชื้นให้กับผิวได้ ส่วนผสมชุดนี้ ไม่มีพาราเบน และไม่มีซิลิโคน แม้จะมีน้ำหอมแต่ก็ไม่เคยหักคะแนนน้ำหอมในผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่พวกดูแลรอบดวงตามาก่อน จึงขอให้ 5 ฟลาสก์

4.การใช้งาน มาในรูปแบบเจลใส เกลี่ยง่าย ให้ความรู้สึกเย็นและสบายผิว ดูดซึมผิวได้ปานกลาง แต่เมื่อซึมหมดแล้วไม่ทิ้งคราบอะไรไว้บนผิว ไม่เหนียวเหนอะหนะ แต่แอบหนึบๆเล็กๆ ทำให้ผิวนุ่มลื่นขึ้นมาก เช้าตื่นมาจะเกลี่ยรองพื้นได้ง่าย และแต่งหน้าได้เรียบเนียนแนบสนิทมากขึ้น แต่คหสต.มี่คิดว่ากลิ่นมันฉุนไปนิดสำหรับมี่ จึงขอให้ 4 ฟลาสก์

คะแนน cell

ต่อไปเป็นอีกตัวที่ใช้คู่กัน คือ Skindom Angels Bifida 100% ampoule

IMG_0251-re

เนื้อเป็นของเหลวใส ไม่มีสี ไม่มีกลิ่นค่ะ พยายามจะหยดให้สวยๆบนมือ แต่มันเหลวก็เลยกลิ้งไปกลิ้งมาถ่ายยากมาเลยได้มาแค่นี้ค่ะ

IMG_0252-re

IMG_0255-re

เกลี่ยค่อนข้างง่าย ซึมผิวไวมาก ไม่มีกลิ่น และไม่ทิ้งร่องรอยอะไรไว้เลยค่ะ

IMG_0262-re

วัด pH กันซักนิดนะคะ

IMG_0263-re

pH อยู่ที่ 5 ค่ะ ก็ถือว่าใกล้เคียงกับผิวดีค่ะ

ตัวนี้ส่วนผสมเรียกได้เลยว่าเรียบง่ายมาก คือ ใส่ Bifida ferment filtrate (ขอย่อว่า BFF นะคะ) มา 100% เต็มๆ

สำหรับ Bifida ferment filtrate นี่ได้จากการเลี้ยงจุลินทรีย์ Bifidobacterium ที่เป็นจุลินทรีย์สายพันธ์ดีที่มีประโยชน์ ที่เรียกว่า Probiotic ผู้ผลิตวัตถุดิบรายงานว่าสารที่ Bifidobacterium สร้างให้ผลเพิ่มความชุ่มชื้น ผลัดเซลล์ผิว ช่วยให้ผิวขาวโดยไปยับยั้งเอนไซม์ Tyrosinase และยังช่วยปกป้องและฟื้นฟูผิวที่เสียหายจากรังสี UV และยังช่วยปรับสมดุลภูมิคุ้มกันให้ผิวแข็งแรงขึ้นได้

เนื่องจากส่วนผสมมีแค่ Bifida ferment filtrate เพียงตัวเดียวจึงขอให้คะแนนเฉพาะส่วนของการใช้งาน

คะแนนการใช้งาน ตัวนี้เป็นสารละลายใสๆ ไม่หนืด ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ไม่มีรส (เดี๋ยวๆ) เวลาใช้จะใช้แค่เพียง 2-3 หยด วอร์มๆบนมือแล้วลากบนหน้าได้เลย แต่ถ้ากลัวลากไม่มันส์ก็ผสมกับ Skincare ที่ใช้อยู่เป็นประจำก่อนลงหน้าก็ได้ค่ะ เกลี่ยง่าย ซึมผิวไวไม่เหนอะหนะค่ะ และก็อย่าลืมเก็บไว้ในตู้เย็นนะคะ เพราะบ้านเราอากาศร้อนมากกกกก จุดนี้ขอให้ 5 ฟลาสก์ค่ะ

สุดท้ายนี้ขอขอบคุณทางแบรนด์ Skindom ด้วยนะคะที่ส่งผลิตภัณฑ์ดีๆมาให้มี่ได้ทดลองใช้

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถสอบถามได้ที่ทางเฟสบุคของ Skindom Thailand

https://www.facebook.com/SkindomThailand

และเวบไซต์ http://www.skindom.co.th กับ http://www.skindomthailand.com เลยนะคะ

 

กระซิบกระซาบว่า ผลิตภัณฑ์ของแบรนด์มีวางจำหน่ายที่ Watsons ทั่วประเทศ, EVEANDBOY(สยาม), มีเคาน์เตอร์แบรนด์ อยู่ที่ The Mall งามวงศ์วาน, และในเร็วๆ นี้เห็นทางแบรนด์ว่าจะเข้าเซ็นทรัลอีกหลายๆสาขาด้วยหละ ก็ติดตามกันต่อไปเนาะ
Disclaimer/Conflict of interests: ผลิตภัณฑ์นี้ได้รับการสนับสนุนจากทางแบรนด์ SKindom Thailand ค่ะ

ขอบคุณที่ติดตามรับชมมาจนจบค่ะ

พบกันใหม่โอกาสถัดไป

รีวิววิเคราะห์ส่วนผสม Ampoule sheet mask ของแบรนด์ Skindom

รีวิววิเคราะห์ส่วนผสม Ampoule sheet mask ของแบรนด์ Skindom


วันนี้มี่แวะเอา Ampoule sheet mask เกาหลี จากแบรนด์ Skindom มารีวิวให้ชมกันค่ะ

ก่อนอื่นอยากเกริ่นแนะนำแบรนด์ Skindom ซักนิดค่ะ ขนาดมี่เป็นสายเกาหลี ก็ยอมรับเลยว่ายังไม่เคยได้ยินชื่อแบรนด์นี้มาก่อน เลยไปทำการบ้านนิดหน่อย ได้ความว่า แบรนด์นี้เป็นแบรนด์สกินแคร์ที่ใช้กันในคลินิคความงามและสถานเสริมความงามมากมายด้วยประสิทธิภาพที่แพทย์ผิวหนังเกาหลีส่วนใหญ่เชื่อว่าเห็นผลได้ และมีอยู่ในตลาดมาสิบกว่าปีแล้วค่ะ

คอนเซปท์ของแบรนด์คือ การใช้นวัตกรรมแอมเพิล ที่เรียกว่า Super serum ใช้สารโมเลกุลเล็ก ทำงานและดูดซึมได้ลึก ให้ผิวเต็มอิ่มด้วยคุณค่าสารอาหาร เพื่อผิวสวยไร้ที่ติ เปล่งปลั่งฉ่ำวาวสไตล์สาวเกาหลีค่ะ

สำหรับ Ampoule sheet mask ที่มี่ได้มามีทั้งหมด 6 สูตรค่ะ

IMG_0283-re

แผ่นมาสค์เป็นวัสดุที่นุ่มมาก และเนื้อบางเบามาก ตัวเนื้อ Soaking solution (ขอเรียกว่าน้ำยา นะคะ) เป็นแบบเข้มข้นเหมือนกับเจลและซีรัม ที่เรียกว่า แอมเพิล (Ampoule) มีกลิ่นหอมอ่อนๆค่ะ ใจจริงชั้นอยากอ่านว่าแอมพูลนะ แต่ด้วยความอินเทรนด์ตามกระแสบ้านเราต้องเรียกแอมเพิล ค่ะ

แอมเพิลนี้คืออะไร???

แอมเพิลนี้ คือ เซรั่มเข้มข้นพิเศษ (Super Serum) ประกอบด้วยคุณค่าจากสารอาหารผิวและสารสกัดที่มีความเข้มข้นสูงกว่าซีรัมมีส่วนช่วยกระตุ้น (Booster) กระบวนการดูดซึมสารอาหารให้เข้าสู่โมเลกุลของเซลล์ผิวอย่างล้าลึกและตรงจุดยิ่งขึ้นจึงให้ประสิทธิภาพและผลลัพธ์ที่ดีกว่าค่ะ

มาดูมาสค์ดีกว่าค่ะ

ในส่วนของแผ่นมาสค์เป็นแผ่นที่เนื้อนุ่ม ละเอียด และบางเบามากค่ะ

IMG_0290-re

ในซองให้น้ำยามาเยอะมาก ขนาดเอาน้ำยาที่เหลือในซองมาทาแขน ทาขา ยังไม่หมดเลยค่ะ

ส่วนของตัวน้ำยาจะเป็นเนื้อเจลใสๆ มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ชุ่มผิวค่อนข้างมากค่ะ

IMG_0291-re

ส่วนตัวมี่มาสค์ตอนกลางคืน ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที หรือรอจนแผ่นมาสค์แห้งก็ไปดึงออก แล้วนอนเลย เช้าตื่นมาหน้านุ่มมาก เกลี่ยรองพื้นได้ดีมาก แต่งหน้าได้เรียบสุดๆ

ถ้าพูดถึงส่วนผสม แต่ละสูตรจะมีส่วนผสมหลักๆที่คล้ายๆกันนะคะ ลองดูจากรูปนี้นะคะ เป็นตัวแทนส่วนผสมจาก 3 สูตร คือ Mulberry, Acerola และ Grapefruit ค่ะ

แอบกระซิบว่าบางสูตรไม่มีน้ำหอมนะคะ

สผส มาสค์

ในส่วนของน้ำยา ถ้าไม่นับน้ำจะมีส่วนประกอบของ Glycerin, Butylene glycol, Propylene glycol, betaine เป็นหลัก พวกนี้ให้ผลดูดน้ำเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวได้ ไม่มี Alcohol ค่ะ

ในส่วนของสารออกฤทธิ์ แทบทุกสูตรจะมีส่วนผสมของ Biosaccharide gum-1 กับ Cereus grandiflorus extract และ Dipotassium glycyrrhizate เป็นหลักค่ะ และก็เสริมด้วยสารอื่นๆตามสูตรของแต่ละมาสค์ กล่าวรายละเอียดแต่ละตัวซักเล็กน้อยนะคะ

Biosaccharide gum-1 ตัวนี้เป็นคาร์โบไฮเดรตที่ได้จากการหมักจุลินทรีย์ ประกอบด้วยน้ำตาล 3 โมเลกุล คือ Galacturonic acid, L-Fucose และ D-Galactose มีคุณสมบัติเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวได้ค่อนข้างนาน ซึ่งผู้ผลิตทดสอบความชุ่มชื้นหลังจากที่ผ่านไป 4 ชั่วโมง ตรงตามที่ Official US website Claim ไว้ สารนี้มีคุณสมบัติก่อฟิล์มให้ความรู้สึกชุ่มชื้นนุ่มนวล ไม่เหนอะหนะ ไม่มัน ถ้าใช้กับผมจะช่วยเคลือบเกล็ดผมที่แตกออก ทำให้ผมเรียบเนียนขึ้น ผมก็จะดูสวยงาม และมีรายงานว่าช่วยลดการอักเสบ ป้องกันการแพ้ได้ (Fucogel, Solabia Inc.)

Cereus grandiflorus flower extract สารสกัดจากดอกกระบองเพชร ไม่มีงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับผิวหนังตีพิมพ์ในฐาน Pubmed ข้อมูลจากผู้ผลิตวัตถุดิบระบุว่าให้ผลเป็น Antioxidant ที่ดี มีคุณสมบัติ Astringent (แปลเป็นไทยว่าฝาดสมาน แปลแล้วก็ไม่รู้เรื่อง สารกลุ่ม Astringent ให้ผลกระชับรูขุมขนและฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้บางชนิด) พร้อมให้ผลส่งเสริมการผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิวแบบอ่อนๆ

Dipotassium glycyrrhizate เป็นสารที่แยกได้จากรากชะเอม ให้ผลลดการอักเสบ ลดการระคายเคืองได้ดี และให้ความรู้สึกสบายผิว

ทีนี้แต่ละสูตรก็มีส่วนที่เป็น Key ingredient เพิ่มเข้ามา คือ

1. สูตร Acacia collagen มีการเสริม Acacia concinna fruit extract เพิ่มเข้ามา ให้ผลเป็นตัวเพิ่มความชุ่มชื้น และช่วยกระชับผิวค่ะ

2. สูตร Grape fruit มีการเสริมสารสกัดจากผลเกรฟฟรุต (Citrus paradise fruit extract) เพิ่มเข้ามา ปกติสารสกัดจากผลส้มจะมีวิตามิน และมีกรดอินทรีย์ธรรมชาติช่วยเติมน้ำให้ผิว และช่วยให้ผิวขาวขึ้นได้

3. สูตร Hyaluronic acid เสริม Hyaluronic acid เพิ่มเข้ามา ให้ผลเติมน้ำให้ผิวยืดหยุ่นและนุ่มนวล

4. สูตร Mulberry root extract เสริม Morus alba bark extract เข้ามา สารสกัดจาก Mulberry นี้สามารถยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ Tyrosinase ที่เป็นเอนไซม์สร้างเม็ดสีผิว จึงช่วยให้สีผิวค่อยๆอ่อนลง

5. สูตร Snail เสริม Snail secretion filtrate เพิ่มเข้ามา ตัวเมือกหอยทากนี้มีรายงานการวิจัยรองรับว่าสามารถช่วยลดการเกิดริ้วรอยก่อนวัย ช่วยสมานผิว และลดการอักเสบได้

6. สูตร Acerola เสริมสารสกัด Malphigia emarginata fruit extract เข้ามา สารสกัดจากผลอะเซโรล่านี้นอกจากมีวิตามินซีสูงให้ผลเป็น Whitening ได้ดีแล้วยัง มีสารประกอบ Polyphenol หลายชนิด ช่วยลดการสร้างเม็ดสีผิวเมื่อโดนแสงแดด เป็น Antioxidant ที่ดีและลดการอักเสบในผิว ทางแบรนด์ Claim ว่าสามารถกระชับรูขุมขนได้

ให้คะแนนส่วนผสมอยู่ที่ 5/5 และ คะแนนการใช้งานอยู่ที่ 4/5 ค่ะ จริงๆกลิ่นหอมอ่อนๆของมาสค์มันก็ให้ความรู้สึกผ่อนคลายดีนะคะ แต่ส่วนตัวมี่คิดว่ากลิ่นบางสูตรฉุนไปนิดนึงค่ะ

สุดท้ายนี้ขอขอบคุณทางแบรนด์ Skindom ด้วยนะคะที่ส่งผลิตภัณฑ์ดีๆมาให้มี่ได้ทดลองใช้

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถสอบถามได้ที่ทางเฟสบุคของ Skindom Thailand

https://www.facebook.com/SkindomThailand

และเวบไซต์ http://www.skindom.co.th กับ http://www.skindomthailand.com เลยนะคะ

 

กระซิบกระซาบว่า ผลิตภัณฑ์ของแบรนด์มีวางจำหน่ายที่ Watsons ทั่วประเทศ, EVEANDBOY(สยาม), มีเคาน์เตอร์แบรนด์ อยู่ที่ The Mall งามวงศ์วาน, และในเร็วๆ นี้เห็นทางแบรนด์ว่าจะเข้าเซ็นทรัลอีกหลายๆสาขาด้วยหละ ก็ติดตามกันต่อไปเนาะ
Disclaimer/Conflict of interests: ผลิตภัณฑ์นี้ได้รับการสนับสนุนจากทางแบรนด์ SKindom Thailand ค่ะ

แล้วพบกันใหม่โอกาสถัดไปค่ะ

Love you,
xoxo