Image

รีวิว/วิเคราะห์ส่วนผสมกันแดดถั่วเขียวเย็นผิว beplain Mung Bean Cooling Moisture Sunscreen SPF50+ PA++++

Blog นี้เราจะมีรีวิวกันแดดถั่วเขียวที่ลดอุณหภูมิผิวได้ 10.5 องศาภายหลังการใช้งาน มาในคอนเซปท์ว่า ถ้าลดอุณหภูมิภายในผิวได้ รูขุมขนก็จะเปลี่ยนแปลงไป เออ อันนี้น่าสน ที่สำคัญเขาว่าฮิตในหมู่พส.เกาหลีด้วย

ตัวผลิตภัณฑ์เป็นของแบรนด์ beplain มีชื่อว่า Mung bean cooling moisture sunscreen มีค่า SPF50+ PA++++

รางวัลฉ่ำหลากหลายหมวด

(Image from beplain Korea Official Website)

คำแปลค่าต่างๆ จากภาพนะคะ เป็นความเห็นจากผู้ใช้จริง

  • 100% บอกว่าซึมไว
  • 98% รู้สึกว่าไม่อุดตัน
  • 97% รู้สึกเย็น
  • 95% บอกว่าหลังใช้แล้วเมคอัพติดทนมากขึ้น
  • 94% บอกว่าไม่แสบตา

อีกการทดสอบ อาสาสมัคร 24 คน โดยสถาบัน Human Skin Clinical Trial Center ทุกคนบอกว่า ทาแล้วรู้สึกผิวเย็น และ รู้สึกว่า soothing ทันที

มีเคลมเรื่องกันฝุ่นละออง

และในการทดสอบก็คือมีผลในการลดรอยแดง กับ ลดอุณหภูมิผิวได้ถึง 10.5 องศา

ส่วนนี้เป็นหน้าตาของน้องค่ะ

ตัวกล่อง

จุดเด่นคือเนื้อสัมผัสที่ชุ่มชื้นเหมือนมอยส์เจอร์ไรเซอร์ ทาแล้วกลืนไปกับผิวแต่ก็ไม่ทำให้เหนอะหนะ

หลังเกลี่ย

เชคฟินิชอีกทีด้วยแสงแฟลช ก็คือจะมีความวาวนิดๆ ภายใต้แสงแฟลช

ด้านส่วนผสมก็คืออัดแน่นมาเช่นเคยตามสไตล์ beplain เขาล่ะ

ในภาพรวมน้องเป็นกันแดดเคมี ที่ผสมสารกรองรังสี UVA UVB มาครบเครื่อง เสริมด้วยสารสกัดจากพืชอีกหลายชนิดที่มีประโยชน์ในการ Soothing/Calming ให้ความรู้สึกสบายผิว แต่งสีเขียวนวลๆ ด้วย pigment Chromium oxide greens ซึ่งเขียวกับแดงเป็นสีคู่ตรงข้ามกันใน Artist color wheel เมื่อมาเจอกันก็จะช่วยกลืนสีแดงไป ช่วยกลบรอยแดงได้แบบนิดๆ

มาเริ่มกันที่สารกันแดดในสูตร

  • Ethylhexyl triazone ว่ากันว่าเป็นตัวกรองรังสี UVB ที่มีความคงตัวสูง
  • Drometrizole trisiloxane น้องสารกันแดดที่กรองรังสีได้ในช่วงกว้างทั้ง UVB และ UVA มีจุด Peak 2 จุดในช่วง UVB (303 nm) และ UVA (344 nm)
  • Terephthalylidene dicamphor sulfonic acid เก่งกรอง UVA-1 (320–400 nm) ความคงตัวสูง ละลายน้ำได้ดี เลยให้ฟีลไม่เหนอะหนะ ใช้คู่กับ Drometizole trisiloxane ยืนหนึ่งกวาดเก็บ UVA แบบฉ่ำ
  • Diethylamino hydroxybenzoyl hexyl benzoate หรือรู้จักกันในนาม Uvinul A+ ตัวกรอง UVA ที่เด่นเรื่องการปกป้องการเกิดอนุมูลอิสระจากรังสี UV ในผิว มีความคงตัวดี
  • bis-Ethylhexyloxyphenol methoxyphenyl triazine หรือ Tinosorb S กรองรังสีได้ในช่วงกว้างทั้ง UVA-UVB มีค่า Peak 310 และ 345 nm และมีฤทธิ์เสริมและบูสต์ค่า SPF เมื่อใช้คู่กับสารกันแดดอื่น เช่น Ethylhexyl triazone
  • บูสท์ค่า SPF ด้วย Butyloctyl salicylate ที่มาในสัมผัสบางเบา

ภาพรวมการกรองรังสีจะประมาณนี้นะคะ

สูตรนี้ไม่มี Avobenzone แต่ยังตึงด้าน UVA อยู่

ในด้านสารบำรุงที่ใส่เสริมเข้ามาจะเน้นไปในเชิง Soothing ด้วยสารสกัดจากถั่วเขียว ร่วมกันสารสกัดพืชอีกหลายชนิด เสริม Adenosine ที่ดูแลเรื่องริ้วรอย

คอมบิเนชั่น Iced mung beanTM Complex ของทางแบรนด์ ได้แก่ Vigna radiata seed extract, Laminaria japonica extract, Ulmus davidiana root extract, Aloe barbadensis leaf extract, Viola mandshurica flower extract, Dioscorea japonica root extract เคลมว่าลดอุณหภูมิผิวได้

ใช้ Methyl diisopropyl propionamide เป็นตัวให้ความรู้สึกเย็นแบบละมุนนี เย็นนาน

มาให้คะแนนกัน

  1. สารกันแดด ทำมาได้ค่อนข้างดี ครบจบทั้ง UVA-UVB และมีความคงตัวดี ให้ไป 5 ฟลาสก์
  2. ส่วนผสมอื่นๆ ในด้านสารบำรุง มีกลุ่มของสารที่เน้น Soothing อยู่ และตัวเบสทำมาได้ค่อนข้างดี ไม่มีสารที่ไม่เป็นมิตรกับผิว เลยไม่มีที่ให้หักคะแนน ให้ไป 5 ฟลาสก์
  3. ความชอบ ส่วนตัวค่อนข้างชอบเนื้อที่ไม่หนักเกินไป นุ่มนวลดี แต่ก็ไม่แห้งจนเกินไป มีฟิล์มเคลือบอยู่นิดๆ เป็นฟิล์มที่แห้งสบายผิว แต่ก็ไม่แห้งจนตึงเกินไป วันที่ต้องอยู่กลางแจ้งนานๆ เติมทับเมคอัพได้ ด้วยเราไม่ได้แต่งหน้าเยอะมาก จะมีหนักก็แค่รองพื้น ตอนเติมกันแดดก็ไม่ได้ละลายรองพื้นออกมา ในภาพรวมให้ไป 5 ฟลาสก์

สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามรับชมมาจนจบนะคะ

แนบทางไปช้อปปิ้ง

https://s.shopee.co.th/1BC9MCRnK3

Disclaimer/conflict of interests: ผลิตภัณฑ์นี้ได้รับมาจากทางแบรนด์ การรีวิวครั้งนี้เป็นการวิเคราะห์ส่วนผสม/วัตถุดิบตามหลักการทางวิทยาศาสตร์เครื่องสำอางและอาศัยความเห็นส่วนบุคคล ผู้เขียนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทเครื่องสำอางใดๆ และไม่ได้รับค่าตอบแทนในการรีวิว โปรดใช้วิจารณญาณ

Image

รีวิว/วิเคราะห์ส่วนผสมกันแดดสูตรใหม่จาก Bioderma รุ่น Photoderm XDefense Ultra-Fluid เนื้อจึ้งมาก มาพร้อมคุณสมบัติปกป้อง+ดีท็อกซ์ผิว

Bioderma ออกกันแดดสูตรใหม่ ดีงามมาก ทั้งเนื้อสัมผัสที่บางเบา ทั้งส่วนผสม

มาในชื่อว่า Photoderm XDefense Ultra-Fluid

มีหน้าตาแบบนี้

ตรงส่วนนี้จะเป็นกล่อง ซึ่งอยากโฟกัสที่บริษัท NAOS Ecobiology ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของแบรนด์ Bioderma และแบรนด์ชั้นนำอย่าง Institut Esthederm และ Etat Pur โดยบริษัทมีความเชี่ยวชาญด้าน Ecobiology หรือ ชีวนิเวศวิทยา คือ ระบบนิเวศน์ของผิว หรือ ไมโครไบโอม มุ่งเน้นสร้างนวัตกรรมที่ส่งเสริมการทำงานของผิวโดยไม่ทำลายสมดุลชีวนิเวศวิทยา คือ ศิลปะแห่งการดูแลการดำรงอยู่ของระบบนิเวศของผิวหนัง โดยการดูแลให้ผิวทำงานได้อย่างถูกต้องเหมาะสม ซึ่งเราจะเห็นว่ากลไกของผลิตภัณฑ์ Bioderma จะมีส่วนที่ช่วยดูแลและปรับสมดุลของไมโครไบโอม ซึ่งเป็นระบบชีวนิเวศวิทยาของผิว

ก่อนใช้งานให้เขย่าขวดก่อนใช้ จะได้เนื้อแบบลิควิด ประมาณนี้

เกลี่ยได้ค่อนข้างง่าย มีกลิ่นหอมจางๆ ให้สัมผัสไม่เหนอะหนะ นุ่มแบบ Dry touch คล้ายแป้ง ซึมไวแห้งไวไม่ทิ้งคราบขาว ใช้งานง่ายไม่เป็นขุย

เก็บภาพด้วยแสงแฟลชอีกภาพ จะเห็นว่าเนื้อค่อนข้างเบา ไม่วาว ไม่ขาว

มาดูส่วนผสมกัน

ส่วนผสมเป็นดังนี้

ในภาพรวมมาในเบสแบบน้ำนม ไม่มีส่วนผสมของซิลิโคน แอลกอฮอล์

สารกันแดดกันได้ครบทั้ง UVA UVB และเสริมสารที่เป็น SPF booster กับตัวที่ช่วยเพิ่มความเสถียรให้ระบบกันแดดในสูตร 

ในด้านของเทคโนโลยีที่แบรนด์เคลม จะมี

  • ANTI-OX ACTIVE ซึ่งเป็น mycosporine like amino acids (MAA) ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากแบคทีเรียในทะเล มีคุณสมบัติ antioxidant ที่ดี ดูดซับรังสี UVA, UVB (Antioxidants (Basel). 2015 Sep 7;4(3):603–646.) และ ปกป้ององค์ประกอบของผิวไม่ให้ถูกทำลายเพราะรังสี UV และน่าจะให้ประโยชน์ยาวไปถึง Infrared, Visible light ไปพร้อมๆ กัน ผ่านการเสริมความสามารถในการเป็น Antioxidant ตามธรรมชาติของผิว
  • Detox Science นวัตกรรมที่ไปเปิดระบบ NRF2 (ชื่อเต็ม Nuclear factor erythroid 2-related factor 2) ซึ่งเป็นระบบ antioxidant ตามธรรมชาติในผิว ที่ทำหน้าที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการ Detox และการเป็น Antioxidant ตามธรรมชาติ โดยระบบนี้ถ้าโดนเปิด จะทำให้มีความสามารถในการเป็น Antioxidant ที่เพิ่มขึ้น โดยไปเพิ่มการสังเคราะห์เอนไซม์ที่เป็น antioxidant ต่างๆ รวมไปถึงให้ผลในการปรับสมดุล และลดกระบวนการอักเสบ ตอบสนองและปกป้องตัวเองจากอันตรายต่างๆ (Stress) (Int J Mol Sci. 2020;21(13):4777.)

ดังนั้นกันแดดนี้จึงให้ประโยชน์ทั้งในการปกป้องและดีท็อกซ์ไปพร้อมๆ กัน

วิเคราะห์ส่วนผสมกัน

กลุ่มสารกันแดด

  • bis-Ethylhexyloxyphenol methoxyphenyl triazine หรือ Tinosorb S เป็นสารกันแดดที่มีความคงตัวดี กรองรังสีได้ในช่วงกว้างทั้ง UVA-UVB
  • Butyl Methoxydibenzoylmethane เด่นกรองรังสี UVA เป็นหลัก
  • Diethylamino hydroxybenzoyl hexyl benzoate หรือ Uvinul A+ เป็นตัวกรอง UVA ที่เด่นเรื่องการปกป้องการเกิดอนุมูลอิสระจากรังสี UV ในผิว มีความคงตัวดี

ส่วนตัวเสริมกันแดดจะมี

  • Ethylhexyl methoxycrylene ตัวนี้จะช่วยกำจัดอนุมูลอิสระ (Singlet oxygen quencher) และตัวมันยังดูดซับรังสี UVA ได้ด้วย
  • Methoxyphenylimino dimethylcyclohexenyl ethyl glycinate ตัวนี้เป็นโมเลกุลจากธรรมชาติพบได้ในสาหร่าย ปกป้องผิวได้จากทั้งรังสี UVA, UVB และบูสท์ค่า SPF ให้ตำรับ

สารบำรุงที่น่าสนใจอีกตัว คือ Trimethoxybenzyl acetylsinapate ตัวนี้เด่นในแง่ของการเป็น Whitening ปรับสมดุลสีผิวให้สม่ำเสมอ โดยมีกลไกการออกฤทธิ์ที่เป็นเอกลักษณ์คือ ไปปรับสมดุลการสังเคราะห์ Dickkopf-1 (DKK1) ซึ่งเป็นโปรตีนที่สร้างจาก Fibroblast สร้างมาแล้วนำส่งสัญญาณไปชั้นหนังกำพร้า ทำให้ลดการเก็บถุงเมลาโนโซมเข้าเซลล์หนังกำพร้า (Keratinocytes), ลดการแบ่งตัวเพิ่มจำนวนและการเจริญของเซลล์สร้างเม็ดสี (Melanocyte) และลดจำนวนของ Melanocyte ทำให้การสร้างเม็ดสีน้อยลง (FASEB J. 2008;22(4):1009-20.)

มีสิทธิบัตรฝรั่งเศส กล่าวถึงการใช้ Trimethoxybenzyl acetylsinapate คู่กับสารกันแดด พบว่าสามารถปกป้องผิวโดยไปเปิดระบบ NRF2 ดังได้กล่าวไปด้านบน ส่งผลให้ผิวมีความสามารถในการป้องกันตัวเองจากอนุมูลอิสระเพิ่มขึ้น (Ref: French patent FR3072023A1)

กลุ่มสารบำรุงอื่นๆ

  • น้ำตาล Rhamnose เป็นน้ำตาลชนิดพิเศษ ที่มีคุณสมบัติในการดูแลการระคายเคืองและให้ความรู้สึกสบายผิว
  • Ectoine เป็นกรดอะมิโนชนิดพิเศษ มีโครงสร้างเป็นวง (Cyclic amino acid) สร้างโดยจุลินทรีย์ที่อาศัยในสภาพแวดล้อมแบบ Extreme เรียก Extremophile เพื่อปกป้องตัวเองจากสภาพแวดล้อมนั้น โดย Ectoine จะดึงน้ำเข้าหาตัวและปกป้องโปรตีนที่เป็นโครงสร้างไม่ให้เสื่อมสภาพและถูกทำลายจากสิ่งแวดล้อม ในทางสกินแคร์ มีข้อมูลว่าการใช้ Ectoine มีประโยชน์ที่ดีต่อผิวหลายอย่าง เช่น เพิ่มความชุ่มชื้น และเสริมความแข็งแรงให้แก่ Barrier ผิว ลดการอักเสบระคายเคือง
    • Combination ของ Ectoine + Mannitol เสริมระบบปกป้องผิวตามธรรมชาติ ซึ่งมีงานวิจัยรองรับอยู่ โดยพบว่า ถ้าฉายรังสี UV ลงไปในเซลล์ ที่มีการใช้คอมบิเนชั่นของ Ectoine + Mannitol ร่วมกับสารกันแดด จะสามารถ 1. ปกป้อง Glutathione ในผิวไม่ให้สลายตัว 2. ปกป้อง DNA ไม่ให้ถูกทำลาย 3. ปกป้องเซลล์ภูมิคุ้มกันชนิด Langerhans ให้ทำงานได้ตามปกติ (Fontbonne et al., J Cosmet Dermatol. 2024;23:308-315)
  • Biosaccharide gum-4 หรือ Glycofilm เรียงตัวเป็นฟิล์มบนผิว ดักจับ และปกป้องผิวจากมลภาวะ
  • o-Cymen-5-ol สารจากธรรมชาติที่พบในใบ Thyme เดิมที่เด่นเรื่องคุณสมบัติในการระงับเชื้อจุลินทรีย์ แต่มีข้อมูลว่าสามารถดูดซับรังสี UV ได้ในบางช่วง และเป็น antioxidant ได้
  • Tocopherol หรือ วิตามินอี เป็น antioxidant ที่ละลายได้ในน้ำมัน

ในภาพรวมก็คือ กันแดดขวดนี้ได้ทั้งปกป้องผิวจากรังสี UV และเสริมคุณสมบัติในการบำรุงผิวหลายๆ ด้าน และปกป้องผิวจากมลภาวะ

มาให้คะแนนกัน

  1. สารบำรุง ตัวสารกันแดด ทำมาได้ค่อนข้างดี กันได้ครบจบทั้ง UVA UVB และเสริม antioxidant รวมไปถึงสารบำรุงอื่นๆ ที่เด่นในด้านกระบวนการ detox และความแข็งแรงทนทานของผิวต่อสภาพแวดล้อม พร้อมทั้งดูแลปัญหาอักเสบระคายเคืองไปพร้อมๆ กัน ให้ไป 5 ฟลาสก์
  2. ส่วนผสมอื่นๆ ไม่มีสารที่ไม่เป็นมิตรกับผิว ได้ไป 5 ฟลาสก์
  3. ความชอบ ปกติพอเราพูดถึงกันแดดที่กัน UV ฉ่ำๆ เรามักจะต้องแลกด้วยความเหนอะหนะของเบส แต่ตัวนี้ทำมาได้ดี โดยไม่ต้องใช้ซิลิโคนและแอลกอฮอล์ รวมทั้งผ่านการทดสอบความเป็นมิตรต่อสิ่งมีชีวิตในท้องทะเล ในด้านเนื้อสัมผัสคือดีเลิศ น่าจะเหมาะกับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะ คนผิวมัน ผิวเป็นสิวง่าย แต่คนผิวแห้งก็ยังสามารถใช้ได้ โดยให้ทาสกินแคร์ให้เรียบร้อยก่อน ส่วนตัวมีผิวผสม-แห้ง ก็ไม่ได้รู้สึกว่าจะแห้งมากขึ้นในช่วงบ่าย ตอนทาก็จะมีกลิ่นหอมอ่อนๆ โดยรวมก็คือชอบมาก ให้ไป 5 ฟลาสก์

สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณทางแบรนด์ Bioderma ประเทศไทย ที่ส่งผลิตภัณฑ์ดีๆ มาให้ได้เปิดหูเปิดตาและทดลองใช้ และขอบคุณทุกท่านที่ติดตามรับชมมาจนจบ

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ทางแบรนด์เลยนะคะ

https://www.facebook.com/BIODERMAInternational/?brand_redir=1583092508403141

ทางไปช้อปปิ้ง

Lazada https://s.lazada.co.th/s.uvi8N

Shopee https://th.shp.ee/CQNyLxg

Disclaimer/conflict of interests: ผลิตภัณฑ์นี้ได้รับการสนับสนุนจากทางแบรนด์ การรีวิวครั้งนี้เป็นการวิเคราะห์ส่วนผสม/วัตถุดิบตามหลักการทางวิทยาศาสตร์เครื่องสำอางและอาศัยความเห็นส่วนบุคคล และผู้เขียนไม่ได้ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทเครื่องสำอางใดๆ โปรดใช้วิจารณญาณ

#Biodermathailand #Photoderm #PhotodermXDefense #กันแดดดีท็อกซ #กันแดดคุมมัน

Image

Beauty update: วิเคราะห์ส่วนผสม La Roche-Posay Anthelios UVMUNE 400 Fluide anti-dark spot fluid SPF 50+

นาทีนี้คงไม่มีอะไรปังเท่า UVMUNE 400 สูตรใหม่ จากบ้านลาโรชที่พึ่งเปิดตัวที่ฝรั่งเศส ใส่ Melasyl ไปด้วยแบบจบๆ 400 nm สุด

ดิฉันจะไม่วิเคราะห์ส่วนผสมก็คงจะไม่ได้แล้วล่ะ มาค่ะ เริ่ม

ในด้านสารกันแดด คือ น้องทำมาครบกันจบยัน 400 nm ด้วยตัว Mexoryl 400 สิทธิบัตรของเขา

มีปรับลำดับสารนิดหน่อยจากน้องป้ายส้ม (รุ่น Invisible fluid)

🧡สารกันแดด (เรียงตามลำดับ)

– Ethylhexyl triazone หรือ Uvinul T 150 เด่นในการกรอง UVB และเสริมประสิทธิภาพให้สารกันแดดอื่นๆ ในสูตร

– Avobenzone เด่น UVA

– BEMT หรือ Tinosorb S กรองได้ทั้ง UVA และ UVB โดยมีจุดที่ดูดกลืนแสงสูงสุด (Peak absorption) อยู่ 2 จุด ที่ 310 nm (UVB) และ 345 nm (UVA) เมื่อใช้ร่วมกับการแดดตัวอื่น เสริมประสิทธิภาพกันและกันไปกับ Uvinul T 150

– Uvinul A+ (DHHB) กรองรังสีในช่วง UVA

– Methoxypropylamino Cyclohexenylidene Ethoxyethylcyanoacetate; MCE ยาวๆ ยากๆ นี้คือ Mexoryl 400 พระเอกของเราในวันนี้ น้องเป็น Ultralong UVA filter (380 – 400 nm) peak อยู่ที่ 385 nm มีข้อมูลความปลอดภัยค่อนข้างดี และมีความเป็นมิตรกับปะการัง มีงานวิจัยที่ศึกษาในอาสาสมัครรองรับถึงประสิทธิภาพในการปกป้องผิว (Marionnet, et al. JID Innovation. 2022;2(1):100070)

– Drometrizole trisiloxane หรือ Mexoryl XL สารกันแดดที่กรองรังสีได้ในช่วงกว้างทั้ง UVB และ UVA มีจุด Peak 2 จุดในช่วง UVB (303 nm) และ UVA (344 nm) จูงมือมากับ Mexoryl SX (TDSA) ช่วยเสริมประสิทธิภาพในการกรองรังสี UV ได้มากขึ้น

💜สารบำรุงแน่นอนว่า Melasyl (2-Mercaptonicotinoyl glycine) เข้าค่ะ

อินโทร Melasyl อีกรอบ เป็นสารนวัตกรรมที่ออกฤทธิ์เป็น whitening ด้วยกลไกแบบใหม่ แบบสับ โดยไปจับสารตั้งต้นในการสังเคราะห์เม็ดสีเมลานิน ทำให้การสังเคราะห์เมลานินหยุดลง โดยไม่ไปรบกวนเอนไซม์สร้างเม็ดสี มีทั้งสิทธิบัตร และล่าสุด ปี 2024 งานตีพิมพ์ก็ออกแล้ว

เบส มี Alcohol เอามาลดความเหนอะหนะ มาคู่กับ Silica คุมมันฉ่ำ และ Perlite คุมมันแต่ให้ฟีลแบบสดชื่นฉ่ำน้ำ (เขาเคลมว่างั้น)

รอเข้าไทยกันอีกที แอบไปส่องที่เว็บ Official ฝรั่งเศสก็ขาดตลาดอยู่

ตอนนี้ก็ลอรีอัลขวดชมพูไปก่อน มี Melasyl เหมือนกัน 😘

Image

รีวิว/วิเคราะห์ส่วนผสมกันแดดในตำนาน ISDIN สูตรปรับปรุงใหม่ Fotoultra 100 จัดเต็ม 2 สูตร Spot prevent และ Active Unify

Blog นี้ขอหยิบเอาผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดดของ ISDIN รุ่น Fotoultra 100 มารีวิว/วิเคราะห์ส่วนผสมกัน

โดยสูตรที่หยิบมาจะเป็นสูตรที่พึ่งปรับใหม่ปี 2024 นี้ค่ะ

จัดเต็มทั้ง 2 สูตร คือ Active Unify และ Spot prevent

เริ่มต้นที่ Spot prevent

เนื้อเป็นแบบน้ำนม มีความหนืดปานกลาง

เกลี่ยได้ง่าย ไม่หนักผิว ด้วยความที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอมเลยจะได้กลิ่นของวัตถุดิบจางๆ และด้วยความมี non-nano Titanium dioxide เนื้อเลยจะติดสีออกขาวนิดหน่อย

เก็บภาพฟินิชให้ดูด้วยแสงแฟลช

สูตร Spot prevent มี Claim ว่าปกป้องผิว 4 ระดับ

  • กัน UV ได้ 99%
  • กัน HEV light ได้ 66%
  • กัน Pollution (PM2.5) ได้ 90%
  • ป้องกันการสร้างเม็ดสีใหม่ได้ 74% (ทดสอบผ่านผิวหนังจำลอง)

สำหรับสูตร Spot prevent นี้ ได้ผ่านการทดสอบประสิทธิภาพและความปลอดภัยในอาสาสมัครมาแล้ว โดยพบว่า

  • อาสาสมัครทุกคน (100%) ไม่พบฝ้า กระขึ้นใหม่
  • 90% รู้สึกว่าผิวขาวกระจ่างใสขึ้น
  • 94% รู้สึกว่าภาพรวมสุขภาพผิวดีขึ้น
  • กันน้ำ กันเหงื่อ
  • ไม่อุดตันรูขุมขน
  • สูตรอ่อนโยน และ Hypoallergenic (ก่อการแพ้ได้ต่ำ)

สูตรนี้เหมาะกับใคร

  • สตรีมีครรภ์ ซึ่งอิทธิฤทธิ์ของฮอร์โมนเอสโตรเจนจะทำให้จุดด่างดำ ฝ้า ขึ้นง่ายขึ้น (ทั้งนี้ควรปรึกษาสูตินรีแพทย์อีกครั้ง)
  • ผิวที่มีแนวโน้มเกิดจุดด่างดำ/สีผิวผิดปกติได้ง่ายเมื่อโดนแดด
  • คนที่ใช้ยาที่ไวต่อแสง หรืออยู่ระหว่างการรักษาด้วย Treatment ที่ไวต่อแสง
  • ก่อน-หลังหัตถการ โดยให้รอแผลแห้งและตกสะเก็ดก่อน

สูตร spot prevent มีส่วนผสมดังนี้

ส่วนผสมของสารกันแดดเป็นสีน้ำเงิน ได้แก่

  • Diethylamino hydroxybenzoyl hexyl benzoate หรือ Uvinul A+ เด่นเรื่องกรองช่วง UVA 320 – 400 nm มีช่วง peak อยู่ 354 nm มีข้อมูลสนับสนุนถึงประโยชน์ในการลดการเกิดอนุมูลอิสระภายในผิว และมีความคงตัวที่ดี
  • Bis-Ethylhexyloxyphenol Methoxyphenyl Triazine หรือ Tinosorb S กรองรังสีได้ในช่วงกว้างทั้ง UVA-UVB มีค่า Peak 310 และ 345 nm และมีฤทธิ์เสริมและบูสต์ค่า SPF เมื่อใช้คู่กับสารกันแดดอื่น เช่น Ethylhexyl triazone
  • Ethylhexyl salicylate เด่นกรอง UVB ข้อมูลความปลอดภัยค่อนข้างดี ดูดซึมเข้าผิวน้อย
  • Ethylhexyl triazone หรือ Uvinul T150 เด่นกรอง UVB มีความคงตัวสูง
  • Titanium dioxide [nano] สารกันแดดชนิดกายภาพ สะท้อนรังสี UV ออกไป แต่ข้อมูลบางแหล่งกล่าวว่าในช่วงท้ายๆ ของ UVA ประสิทธิภาพน้องจะดรอปลง
  • Titanium dioxide ในรูปแบบ non-nano อันนี้สามารถสะท้อนรังสีได้กว้างขึ้น ข้ามผ่านทั้ง UVB UVA จนมาถึงช่วง HEV light

ในภาพรวมสารกันแดดเป็นชนิดกายภาพผสมเคมี กรองได้ครบทั้ง UVA-UVB และการเลือกใช้ non-nano Titanium dioxide ช่วยลากยาวสเปกตรัมจนมาถึง HEV light

ส่วนของสารบำรุงที่เด่นๆ ในสูตรนี้จะเป็น

  • Sclareolide เป็นสารพฤกษเคมีในกลุ่ม sesquiterpene lactone ที่พบในพืชหลายชนิด ข้อมูลจากผู้ผลิตวัตถุดิบกล่าวว่าสารนี้สามารถป้องกันไม่ให้เกิดจุดด่างดำจากมลภาวะ รังสี UV และ HEV light และเพิ่มความสว่างกระจ่างใสให้แก่ผิว (Ref: TDS SymBright® 2036) เมื่อใช้ร่วมกับ Niacinamide จะทำให้ประสิทธิภาพในการเป็น Whitening ดีขึ้น
  • Niacinamide ที่นอกจากจะเป็น Whitening ผ่านการยับยั้งการส่งผ่านเม็ดสีไม่ให้ออกมาภายนอกแล้ว ยังมีประโยชน์ในการดูแลการระคายเคือง ควบคุมความมัน และดูแลปัญหาสิว

สาร Antioxidant

  • วิตามินอี ในรูปแบบ Tocopheryl acetate ซึ่งเป็น Antioxidant ที่ละลายได้ในไขมัน
  • Diethylhexyl Syringylidenemalonate หรือ Oxynex® ST ซึ่งมีประโยชน์หลายอย่างในสูตร โดยไปเสริมความคงตัวให้สารกันแดดในตำรับ ในด้านของการเป็นสารบำรุง นางจะช่วยเสริมความสามารถของผิวในการปกป้องผิวจากมลภาวะ

Silica นอกจากจะใส่มาในแง่ของการขึ้นเนื้อ ยังมีประโยชน์ในด้านการควบคุมความมัน

อีกสูตรที่มาคู่กันวันนี้คือ Active Unify สูตรปรับใหม่

เนื้อเหมือนจะเหลวกว่าสูตร Spot prevent นิดหน่อย

เรื่องการเกลี่ย กลิ่น และความขาวนิดหน่อยนั้นไม่แตกต่างกัน

เก็บฟินิชลุตด้วยแสงแฟลช

สูตรนี้ผ่านการทดสอบประสิทธิภาพและความปลอดภัยในอาสาสมัครที่เป็นฝ้า โดยพบว่า

  • 90% รู้สึกว่ารอยฝ้าดูจางลง
  • 90% รู้สึกว่าผิวหน้าสว่างขึ้น
  • 86.7% รู้สึกว่าสีผิวดูสม่ำเสมอขึ้น
  • ไม่อุดตันรูขุมขน
  • สูตรอ่อนโยน และ Hypoallergenic (ก่อการแพ้ได้ต่ำ)

สูตร Active Unify มี Claim ว่าปกป้องผิว 4 ระดับ

  • กัน UV ได้ 99%
  • กัน HEV light ได้ 66%
  • กัน Pollution (PM2.5) ได้ 73%
  • ป้องกันการสร้างเม็ดสีใหม่ได้ 99% (ทดสอบผ่านผิวหนังจำลอง)

สูตรนี้เหมาะกับใคร

  • ผู้ที่มีปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำ

เปรียบเทียบ Finish ของทั้ง 2 สูตร

ส่วนผสมของสูตร Active Unify เป็นดังนี้

สำหรับสารกันแดดจะเป็นคอมบิเนชั่นเดียวกันกับสูตร Spot prevent คือ เป็นชนิดกายภาพผสมเคมี กรองได้ครบทั้ง UVA-UVB และการเลือกใช้ non-nano Titanium dioxide ช่วยลากยาวสเปกตรัมจนมาถึง HEV light

ในด้านของสารบำรุง เรียกได้ว่าจัดเต็มมาในส่วนของ Whitening เพื่อเอาอกเอาใจคนเป็นฝ้าโดยเฉพาะ

  • Sclareolide ที่คุยกันไปก่อนหน้า ว่าป้องกันการสร้างเม็ดสี ไม่ให้เกิดจุดด่างดำจากมลภาวะ รังสี UV และ HEV light และเพิ่มความสว่างกระจ่างใสให้แก่ผิว
  • Niacinamide ยับยั้งการส่งผ่านถุงเม็ดสีที่สร้างเสร็จแล้วไม่ให้ออกไปด้านนอก
  • สารสกัดจากถั่วลันเตา ที่ดูจาก Breakdown แล้วคิดว่าน่าจะใช่ Actiwhite™ PW ของ BASF ออกฤทธิ์เป็น Whitening ผ่าน 2 กลไก คือ ยับยั้งเอนไซม์ Tyrosinase ที่สร้างเม็ดสี และยับยั้งระบบยีน PMEL-17 ที่เกี่ยวข้องกับการสร้างเม็ดสีชนิดสีเข้ม (Eumelanin) มำให้สีผิวสว่างขึ้น (Ref: TDS Actiwhite™ PW)

Antioxidant มาครบ ทั้ง Vitamin E และ Oxynex® ST

แถมโบนัส ดูแลริ้วรอยและเสริมกระบวนการฟื้นฟูผิว ด้วย Combination ของ Palmitoyl Tripeptide-1 และ Palmitoyl Tetrapeptide-7 ร่วมกับสารอื่นบางตัวในสูตร คือ Matrixyl® 3000 เป็นการใช้ Matrikine peptide 2 ตัวรวมกัน เพื่อปรับสมดุล Metabolism ของผิว ดูแลการฟื้นฟูและเสริมสร้างพวกเส้นในต่างๆ ที่เสียหายไปเพราะรังสี UV มีประโยชน์ให้ริ้วรอยตื้นขึ้น และเสริมความยืดหยุ่นของผิว (Ref: TDS Matrixyl® 3000)

ทีนี้มาดูคะแนนกันนะคะ

ขอหยิบเอาลูกรัก(กว่า) อย่าง Active Unify มาเป็นตัวแทนในการให้คะแนนค่ะ

  1. สารกันแดด ในด้านของสารกันแดดเป็นชนิดกายภาพผสมเคมี ที่นอกจากจะป้องกัน UVA-UVB ได้ครบถ้วนสมบูรณ์ มีความคงตัว มีข้อมูลความปลอดภัยที่ดีแล้ว ยังเสริมการป้องกันผิวจาก Blue light ได้ด้วยการใช้ non-nano Titanium dioxide ให้ไป 5 ฟลาสก์
  2. สารบำรุงและส่วนผสมอื่นๆ ในด้านของการดูแลเรื่องเม็ดสี คือ ปังปุ มาครบ มาเต็ม ทุกสเต็ป ตั้งแต่เม็ดสียังไม่เกิด ไปจนถึงเม็ดสีเกิดมาแล้วก็เก็บเรียบไม่ให้ออกมาลืมตาดูโลกภายนอก และเสริมโบนัสเรื่องการดูแลริ้วรอยเข้ามาอีก 1 กรุบ มาในเบสที่เป็นอิมัลชั่นชนิดเบสน้ำ (o/w) ที่เบาบางสบายผิว ไม่เหนอะหนะ เสริม Silica เข้ามาคุมมัน ไม่มีสารที่ไม่เป็นมิตรกับผิว ให้ไป 5 ฟลาสก์
  3. ความชอบ ชอบแรก คือ น้องผ่านการทดสอบประสิทธิภาพในกลุ่มอาสาสมัครที่เป็นฝ้าจริง ผ่านการทดสอบประสิทธิภาพกันน้ำ ก็คือ กันน้ำได้ในระดับหนึ่ง (แช่น้ำได้ 40 นาที) ไม่อุดตัน และ Hypoallergenic ก่อการแพ้น้อย เนื้อค่อนข้างเบา เพื่อแลกมาซึ่งความสามารถในการกัน HEV light เราอาจจะได้ความขาวจาก Titanium dioxide มา แต่ตัวเองใช้กับรองพื้นก็คือไม่ได้ต่างอะไรกับแบบไม่มี Titanium dioxide ให้ไป 5 ฟลาสก์

สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณทางแบรนด์ ISDIN สาขาประเทศไทยด้วยค่ะ ที่ส่งผลิตภัณฑ์ใหม่มาให้ได้เรียนรู้ เปิดหูเปิดตา และรู้จักกับเทคโนโลยีใหม่ๆ และขอบคุณทุกท่านที่ติดตามมาจนจบบทความ

สําหรับรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ทางแบรนด์ได้โดยตรงเลยนะคะ

Facebook https://www.facebook.com/ISDINTHAILAND/

ทางไปตำ

Spot prevent

แอพฟ้า https://s.lazada.co.th/s.p2LMv?cc

แอพส้ม https://s.shopee.co.th/20bZ4yEMRO

Active Unify

แอพฟ้า https://s.lazada.co.th/s.qYykQ?cc

แอพส้ม https://s.shopee.co.th/6pgoptGwg1

Disclaimer/conflict of interests: ผลิตภัณฑ์นี้ได้รับการสนับสนุนจากทางแบรนด์ ISDIN ประเทศไทย การรีวิวครั้งนี้เป็นการวิเคราะห์ส่วนผสม/วัตถุดิบตามหลักการทางวิทยาศาสตร์เครื่องสำอางและอาศัยความเห็นส่วนบุคคล และผู้เขียนไม่ได้มีผลประโยชน์ใดๆในการขายสินค้า โปรดใช้วิจารณญาณ

Image

รีวิว/วิเคราะห์ส่วนผสมกันแดดเนื้อบางเบา Fresh Hydrolotion จาก the Labatorian สูตร Broad spectrum SPF50+ PA++++

สำหรับ Blog นี้ เราจะมาวิเคราะห์ส่วนผสม ผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดดน้องใหม่ล่าสุดจากครอบครัว the Labatorian กัน

โดยน้องคนสุดท้องนี้มีชื่อว่า Fresh ซึ่งเป็นกันแดดที่ออกแบบมาสำหรับคนที่มีผิวเป็นสิวง่าย รวมถึงผิวบอบบางและคนผิวมัน ในธีม กันแดดรีเฟรชผิว

มาในหน้าตาแบบนี้ค่ะ

ตัวหลอดเป็นหลอดบีบ ฝาหลอดออกแบบมาให้สามารถตั้งวางบนโต๊ะเครื่องแป้งได้พอดี

เนื้อของน้อง Fresh จะออกมาเป็นกันแดดสีขาว ด้วยส่วนผสมของ Physical sunscreen ในสูตร และทางแบรนด์ไม่ได้ใส่น้ำหอมเลยจะได้กลิ่นตามธรรมชาติของส่วนผสมอยู่จางๆ

ฟีลตอนเกลี่ยจะไม่ได้ลื่นปรี๊ด แต่จะให้ความรู้สึกมีน้ำมีเนื้อมากขึ้น และพอทิ้งไว้สักครู่จะแห้งไป ไม่เหลือความเหนอะหนะใดๆ

ถ่ายเนื้อกันแดดด้วยแสงแฟลช ดูเหมือนจะเงาวาว แต่ก็ไม่ได้เหนอะหนะ

บางคนอาจจะกังวลว่าน้องมีส่วนผสมของ Titanium dioxide จะทิ้งคราบขาว หน้าเป็นปื้น หน้าเทาไหม สูตรนี้หลังจากที่ได้ลองแล้วไม่เทา ไม่มีคราบขาวค่ะ

พร้อมกันนี้ทางแบรนด์ได้พัฒนาสูตรมาด้วยความเอาใจใส่ด้วยค่ะ

  • มั่นใจ 1 ด้วยผลการทดสอบแบบ in vitro SPF 50+ PA++++
  • มั่นใจ 2 เพราะผ่านการทดสอบจากแพทย์ผิวหนังว่าไม่ก่อการระคายเคือง
  • มั่นใจ 3 เป็นมิตรกับผิวบอบบางแพ้ง่าย และผิวที่เป็นสิวง่าย ไม่รบกวนผิวที่เป็นสิว
  • มั่นใจ 4 ผลิตโดยโรงงานที่ได้รับมาตรฐาน ASEAN GMP, ISO 9001:2005 และ ISO 22716:2007

ก่อนไปดูส่วนผสม ขอเล่าถึงเรื่องของรังสี UV สักเล็กน้อย

ว่าด้วยรังสี UV นั้นก็เป็นรังสีหนึ่งจากแสงแดดที่มีความสำคัญในการทำร้ายทำลายผิว และก่อผลเสียหลายๆ อย่าง ตั้งแต่แค่ผิวคล้ำไปจนถึงมะเร็งผิวหนัง

รังสี UV อยู่ในช่วงความยาวคลื่น 200 – 400 nm แบ่งออกได้เป็น 3 คลื่นความถี่หลักๆ ได้แก่

  • UVC ช่วง 200 – 290 nm
  • UVB ช่วง 290 – 320 nm
  • UVA ช่วง 320 – 400 nm

โดย UVC นั้นถูกกรองด้วยชั้นโอโซนไป เลยไม่ได้มีการพูดถึงในวงการความงามเท่าไหร่ ส่วนที่ลงมาบนผิวโลกและกระทบกับเราก็จะเป็น UVA และ UVB

     UVB จะกระทบกับบริเวณหนังกำพร้า และบริเวณที่สร้างเม็ดสี หลักๆ ก็จะทำให้ผิวคล้ำขึ้น แต่ก็สามารถปลดปล่อยอนุมูลอิสระออกมาทำลายผิว และอาจก่อมะเร็งผิวหนังได้ด้วย

     ส่วน UVA นั้นจะลงไปที่ชั้นหนังแท้ ไปทำลายพวกคอลลาเจน และเส้นใยและสารอื่นในกลุ่ม  Extracellular matrix (ECM) ทำให้เกิดพวกริ้วรอยต่างๆ ตามมา

แต่ที่น่ากลัว คือ ทั้ง UVA และ UVB นั้นสามารถก่อให้เกิดมะเร็งผ่านการกลายพันธ์ที่ระดับของ DNA ได้ และกดภูมิคุ้มกัน (Immunosuppression) ได้เหมือนๆ กัน (Kappes et al., J Invest Dermatol. 2006;126(3):667-675) สุดท้ายนี้ ไม่ว่าจะ A จะ B ก็น่ากลัวทั้งคู่แหละ กันไว้เป็นดีที่สุด

มาดูส่วนผสมกันดีกว่าค่ะ

เนื่องจากน้องเป็นกันแดด เลยจะขอเริ่มที่สารกันแดดก่อนเลยนะคะ

สารกันแดดแทนด้วยสีเขียวอ่อน

  • Ethylhexyl methoxycinnamate หรือ รู้จักกันในชื่อย่อ OMC น้องเด่นเรื่องกรอง UVB
  • Bis-Ethylhexyloxyphenol Methoxyphenyl Triazine หรือ BEMT รู้จักกันในชื่อทางการค้าว่า Tinosorb S กรองได้ทั้ง UVA และ UVB โดยมีจุดที่ดูดกลืนแสงสูงสุด (Peak absorption) อยู่ 2 จุด ที่ 310 nm (UVB) และ 345 nm (UVA) เมื่อใช้ร่วมกับการแดดตัวอื่น เช่น Ethylhexyl triazone จะเสริมประสิทธิภาพกันให้ดียิ่งขึ้น
  • Ethylhexyl triazone หรือ Uvinul T 150 เด่นในการกรอง UVB และเสริมประสิทธิภาพให้สารกันแดดอื่นๆ ในสูตร
  • Physical sunscreen 2 ตัว ได้แก่ Titanium dioxide และ Zinc oxide ซึ่งออกฤทธิ์สะท้อน กระเจิงรังสี UV ออกไปหมดทั้ง UVB UVA แม้จะมีข้อมูลออกมาหลังๆ บ้าง ว่า Titanium dioxide และ Zinc oxide นางก็ออกฤทธิ์ผ่านการดูดซับรังสีนะ และมีข้อมูลว่า Titanium dioxide จะเด่นในช่วง UVB และ Zinc oxide จะเด่นในช่วง UVA

สรุปได้ว่า น้องเป็นกันแดดที่ Broad spectrum กันได้หมดจดทั้ง UVB UVA

ถัดมาจะเป็นส่วนของสารบำรุง และสารอื่นที่มีประโยชน์ในการดูแลผิว

เริ่มที่สารกรองรังสี High-energy visible (HEV) blue light ในสูตรนี้ คือ Melanin มาภายใต้ชื่อทางการค้าว่า Liposheild® HEV melanin น้องเป็นนวัตกรรมสิทธิบัตรที่ปรับโครงสร้างของ Melanin ซึ่งเป็นสารปกป้องผิว กรอง HEV blue light ตามธรรมชาติของเรา ให้อยู่ในรูปแบบ Fractionated แล้วกรองแสงสีน้ำเงินได้ดีขึ้น โดยช่วงการดูดกลืนรังสีอยู่ที่ 400 – 500 nm

ทางผู้ผลิตวัตถุดิบเคลมว่า วัตถุดิบ Liposheild® HEV melanin นี้สามารถกรอง HEV light ได้ดีกว่า Melanin แบบธรรมชาติ โดยอาศัยการจัดเรียงโครงสร้างแบบพิเศษตามสิทธิบัตรของเขา

(Image from Vantage group)

ซึ่งแสงสีน้ำเงินนั้นสามารถกระตุ้น/เหนี่ยวนำให้เกิดอนุมูลอิสระในผิว แล้วนำไปสู่ริ้วรอย สีผิวผิดปกติได้คล้ายๆ กับ UV

  • สารที่ให้ประโยชน์ในการควบคุมความมันของผิว ได้แก่ Polymethyl Methacrylate และ Silica ซึ่งสามารถดูดซับน้ำมันจากผิวได้
  • สารที่ดูแลสิว ในที่นี้คือ Chamaecyparis Obtusa Leaf Extract คือ สารสกัดจากใบสน Hinoki ซึ่งเด่นในแง่ของการควบคุมความมัน กระชับรูขุมขน และยังพอมีงานวิจัยกล่าวว่า สารสกัดจากใบนี้ประกอบด้วยสารพฤกษเคมีในกลุ่ม Flavonoid, polyphenol ช่วยปกป้องผิวจากรังสี UV และ ยับยั้งการสร้างเอนไซม์ MMP เมื่อสัมผัสรังสี UV ในระดับเซลล์เพาะเลี้ยง พร้อมให้คุณสมบัติเสริมการสร้างคอลลาเจน และเอนไซม์ Superoxide dismutase ที่เป็น Antioxidant enzyme ตามธรรมชาติของผิว (Jang et al., Medicina (Kaunas). 2023;59(4):755.)
  • กลุ่มที่ให้คุณสมบัติดูแลเรื่องการระคายเคือง และให้ความรู้สึกสบายผิว (Soothing) แทนด้วยสีชมพู
    • วิตามินบี 3 จริงๆ น้องก็ให้ประโยชน์หลายอย่าง ไม่ใช่แค่เรื่อง Soothing แต่ยังได้ประโยชน์ในด้านของ Whitening, ควบคุมความมัน พร้อมดูแลปัญหาสิวไปได้อีก 1 กรุบ
    • สารสกัดจากคาโมมายล์ และ Dipotassium glycyrrhizate ก็เด่นในแง่ของการดูแลเรื่องของการระคายเคืองผิว
  • เสริม Barrier ผิว ด้วย Ceramide NP ที่เป็นเซราไมด์ที่พบได้มากที่สุดในผิว
  • เติมน้ำด้วย Arginine ที่เป็นกรดอะมิโน และ Sodium hyaluronate
  • ตัดจบด้วย Tocopheryl acetate ที่เป็นอนุพันธ์ของวิตามินอีที่เป็น Antioxidant ที่ละลายได้ในไขมัน ปกป้องชั้นไขมันของผิวจากอนุมูลอิสระ

ส่วนของเบสทำมาในรูปแบบของอิมัลชั่นที่ไม่ได้หนักมาก รวมถึงสารที่ใช้ก็ค่อนข้างเป็นมิตร และไม่อุดตันผิว

ให้คะแนน

  1. สารกันแดด/สารบำรุง โดยสรุป กันแดดหลอดนี้เป็นแบบ Physical + Chemical ที่กันได้ครบทั้ง UVA UVB (Broad spectrum) ด้วยการเบลนด์กันของสารกันแดดหลายชนิดที่มีความเสถียร เสริมมาด้วย Liposheild® HEV melanin ที่ปกป้องผิวจาก HEV blue light อีก 1 ขั้นตอน ในด้านของสารบำรุงอื่นๆ ทางแบรนด์พยายามพัฒนาสูตรมาให้เป็นมิตรกับคนที่มีปัญหาผิวมัน เป็นสิวง่าย มีทั้งตัวคุมมัน ดูแลสิว และให้ความรู้สึกสบายผิว ให้ไป 5 ฟลาสก์
  2. ส่วนผสมอื่นๆ ในส่วนของเบสนั้น เรียกได้ว่าพัฒนามาให้ตอบโจทย์ และเอาใจคนผิวมันที่มี pain point กับกันแดดกันน้ำที่ล้างออกยาก แล้วอาจจะล้างไม่สะอาดหรืออย่างใด จนนำไปสู่สิวอุดตัน สิวซ้ำซาก โดยพัฒนาสูตรไม่กันน้ำออกมา ให้เหมาะกับ Everyday use และส่วนผสมอื่นๆ นั้น ไม่มีสารที่ไม่เป็นมิตรกับผิว ไม่มีจุดให้หักคะแนน รับไป 5 ฟลาสก์
  3. ความชอบ เอาจริง คือ ตัวเองเป็นคนผิวผสม/แห้ง ยอมรับเลยว่าน้องเป็นกันแดดที่แห้ง แต่ก็ไม่ได้แห้งจนแบบตึง หรือทรมาณ ถ้าเราปูมอยส์ไว้ดี ตัวกันแดดให้อารมณ์เป็นความแห้ง แบบยังให้ฟีลลิ่งที่ยังดีกับผิว ระหว่างวันฟีลลิ่งก็ยังดี สบายผิวไม่เปลี่ยนแปลง ส่วนเรื่องการคุมมันส่วนตัวยังตอบไม่ได้ เพราะว่าไม่ค่อยเจอปัญหาหน้ามันระหว่างวัน อันนี้คิดว่าตอบโจทย์กันแดดรีเฟรชผิวเพื่อคนผิวมัน แต่คนผิวแห้งก็ใช้ได้อยู่ (ที่แปลว่าใช้ได้) รับไป 5 ฟลาสก์

สุดท้ายนี้ขอขอบคุณทางแบรนด์ the Labatorian ด้วยนะคะที่ส่งผลิตภัณฑ์ดีๆ เพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาให้ได้เปิดหูเปิดตา และขอบคุณทุกท่านด้วยค่ะที่ติดตามรับชมมาจนจบ

รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ทางแบรนด์โดยตรงเลยนะคะ

IG : the_labatorian

Line official : @labatorian

Facebook : https://www.facebook.com/thelabatorian

ทางไปช้อปปิ้ง

แอพส้ม https://shope.ee/9exmZojVdy

แอพฟ้า https://s.lazada.co.th/s.LogPH?cc

Disclaimer/conflict of interests: ผลิตภัณฑ์นี้ได้รับการสนับสนุนจากทางแบรนด์ the Labatorian การรีวิวครั้งนี้เป็นการวิเคราะห์ส่วนผสม/วัตถุดิบตามหลักการทางวิทยาศาสตร์เครื่องสำอางและอาศัยความเห็นส่วนบุคคล และผู้เขียนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเกี่ยวกับบริษัทเครื่องสำอางใดๆ โปรดใช้วิจารณญาณ

Image

รีวิว/วิเคราะห์ส่วนผสมครีมกันแดดเนื้อฟลูอิด ด้วยเทคโนโลยี UVMUNE 400 จาก La Roche-Posay Anthelios รุ่น Invisible fluid

คราวก่อนทางเพจเคยนำเสนอพรีวิว La Roche-Posay Anthelios UVMUNE400 สูตร Oil control fluid (ตั้งชื่อเล่นว่า น้องป้ายเขียว) ที่ทำมาเอาใจคนผิวมันโดยเฉพาะ

วันนี้เลยขอหยิบเอาน้องสูตร Invisible fluid มารีวิวกันแบบละเอียดเจาะลึก พร้อมเล่าเรื่องรังสี UV และการป้องกันรังสี UV เสริมด้วยนิดหน่อย

สำหรับสูตร Invisible fluid (ขอตั้งชื่อเล่นว่า น้องป้ายส้ม) มีหน้าตาประมาณนี้ค่ะ

ขอพาน้องออกมาเที่ยวเอาท์ดอร์ท้าแดดซักหน่อย

สำหรับแพคเกจก็จะคล้ายคลึงกับสูตร Oil control fluid นะคะ มีบรรจุภัณฑ์ที่เป็นเอกลักษณ์

สังเกตชื่อน้องใช้ป้ายส้ม เลยเรียกว่าน้องป้ายส้ม

เนื้อเป็นแบบ Fluid/Liquid ค่อนข้างเหลว ก่อนใช้งานก็แนะนำให้เขย่าก่อนค่ะ

เกลี่ยได้ค่อนข้างง่าย ใช้เวลาไม่ถึง 1 นาที น้องก็จะเซ็ตตัวแล้วเกือบจะมลายหายไปจากผิว ไม่ทิ้งคราบใดๆ

สัมผัสบางเบา รู้สึกถึงความชุ่มชื้นเคลือบอยู่ แต่ไม่ถึงกับเหนอะหนะ ยังให้ความรู้สึกสบายผิว

ก่อนไปดูส่วนผสม ขอเล่าถึงเรื่องของรังสี UV สักเล็กน้อย

ว่าด้วยรังสี UV นั้นก็เป็นรังสีหนึ่งจากแสงแดดที่มีความสำคัญในการทำร้ายทำลายผิว และก่อผลเสียหลายๆ อย่าง ตั้งแต่แค่ผิวคล้ำไปจนถึงมะเร็งผิวหนัง

รังสี UV อยู่ในช่วงความยาวคลื่น 200 – 400 nm แบ่งออกได้เป็น 3 คลื่นความถี่หลักๆ ได้แก่

  • UVC ช่วง 200 – 290 nm
  • UVB ช่วง 290 – 320 nm
  • UVA ช่วง 320 – 400 nm

โดย UVC นั้นถูกกรองด้วยชั้นโอโซนไป เลยไม่ได้มีการพูดถึงในวงการความงามเท่าไหร่ ส่วนที่ลงมาบนผิวโลกและกระทบกับเราก็จะเป็น UVA และ UVB

          UVB จะกระทบกับบริเวณหนังกำพร้า และบริเวณที่สร้างเม็ดสี หลักๆ ก็จะทำให้ผิวคล้ำขึ้น แต่ก็สามารถปลดปล่อยอนุมูลอิสระออกมาทำลายผิว และอาจก่อมะเร็งผิวหนังได้ด้วย

          ส่วน UVA นั้นจะลงไปที่ชั้นหนังแท้ ไปทำลายพวกคอลลาเจน และเส้นใยและสารอื่นในกลุ่ม  Extracellular matrix (ECM) ทำให้เกิดพวกริ้วรอยต่างๆ ตามมา

แต่ที่น่ากลัว คือ ทั้ง UVA และ UVB นั้นสามารถก่อให้เกิดมะเร็งผ่านการกลายพันธ์ที่ระดับของ DNA ได้ และกดภูมิคุ้มกัน (Immunosuppression) ได้เหมือนๆ กัน (Kappes et al., J Invest Dermatol. 2006;126(3):667-675) ไม่ว่าจะ A จะ B ก็น่ากลัวทั้งคู่แหละ กันไว้เป็นดีที่สุด

ในสมัยก่อน เราแบ่ง UVA เป็น 2 ช่วงย่อยๆ คือ UVA1 (340 – 400 nm) และ UVA2 (320 – 340 nm) แต่เดี๋ยวนี้เรามีชื่อเรียกให้กับน้องๆ ใหม่อีก คือ UVA2 เรียกเป็น Short UVA และ UVA1 แบ่งเป็น 2 ช่วง คือ Long UVA (340 – 380 nm) และ Ultra-long UVA (380 – 400 nm)

          สำหรับสารกันแดดนั้นเราแบ่งเป็น 2 กลุ่มหลักๆ คือ

  • Physical หรือ Mineral sunscreen ได้แก่ Zinc oxide และ Titanium dioxide อาศัยการสะท้อนและกระเจิงรังสี UV กลับออกไป แม้ว่าหลังๆ มา จะมีรายงานมาบอกว่าเจ้าพวกนี้มันก็ดูดซับรังสีไว้เหมือนกัน เราก็ยังใช้เรื่องของการสะท้อนและกระเจิงแสงอยู่
  • Chemical sunscreen จะดูดซับรังสีเอาไว้ และสารแต่ละชนิดจะดูดซับรังสีได้แตกต่างกันไป บางตัวไปซับ UVB บางตัวไปซับ UVA แต่น้อยตัวนักที่จะซับได้ยาวถึง 400 nm

โดยเครือ L’Oréal ได้ให้ความสนใจกับเรื่องการปกป้องผิวจากอันตรายของแสงแดด และพยายามศึกษาเกี่ยวกับเรื่องของการป้องกันอันตรายจากรังสี UV และตีพิมพ์ผลงานวิจัยมาพักใหญ่ๆ เกี่ยวกับเรื่องผลเสียของ UVA1 อย่างงานหนึ่งที่น่าสนใจคือ งานของ Marionnet และคณะ ตีพิมพ์ในวารสาร Journal of Dermatological Science เมื่อปี 2018 เป็นการทดสอบผลของ UVA1 ทั้งในระดับผิวหนังจำลอง และในอาสาสมัคร เพื่อที่จะบอกว่ายิ่งเราสามารถปกป้องผิวจาก UVA1 ได้กว้างมากเท่าไหร่ (คือเข้าใกล้ 400 nm มากเท่าไหร่) ก็จะสามารถปกป้องชั้นผิวหนัง ทั้งชั้นหนังกำพร้า และหนังแท้ ไม่ให้ถูกทำลายเพราะรังสี UV ได้ดีมากขึ้นไปด้วย (Marionnet et al., J Dermatol Sci. 2018;91(3):337-340) ดังนั้นการใช้ผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดดที่เรียกว่าเป็น ‘board spectrum’ คือ กันได้กว้างๆ ครบทั้ง UVA/UVB ก็จะดี

และเมื่อปี 2022 ทาง L’Oréal ก็เจอสารกันแดดที่สามารถดูดซับรังสีได้ยาวถึง 400 nm หรือ กัน Ultra-long UVA ได้ นั่นก็คือเจ้า Mexoryl 400 (Methoxypropylamino Cyclohexenylidene Ethoxyethylcyanoacetate) นั่นเอง และได้จดสิทธิบัตรไว้ (Behrens M. (2022). https://www.cosmeticsandtoiletries.com/formulas-products/sun-care/news/22249181/loreal-loral-breaks-the-ultralong-uva-code-with-uvmune-400)

โดยว่ากันว่า Ultra-long UVA นั้นมีปริมาณสูงถึง 30% เมื่อเทียบกับรังสี UV ทั้งหมดทั้งมวลที่สาดส่องลงมาเจอกับผิวเรา ดังนั้นหลายๆ คน เลยเจอปัญหาว่า เอ๊ะ เราก็ทากันแดดแล้วนะ ทำไมยังมีปัญหาผิวต่างๆ อีก นั่นก็เพราะว่า สารกันแดดเคมีอาจจะยังไม่ครอบคลุมทั้ง Spectrum ของรังสี UV นั่นเอง

และผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดดตัวแรกทางเครือ L’Oréal เดบิวต์ออกมาสู่ท้องตลาดก็คือ ….. น้อง La Roche-Posay Anthelios UVMune 400 น้องป้ายส้มของเราที่ทางเพจหยิบเอามาวิเคราะห์ส่วนผสมในวันนี้นี่เองค่ะ และด้วยความที่ Mexoryl 400 นั้นยังติดสิทธิบัตรก็เลยกล่าวได้ว่า ในเครือ L’Oréal เท่านั้นที่สามารถใช้ได้ คงจะไม่เกินจริงถ้าจะพูดตามแบรนด์เคลมว่า “น้องเป็นกันแดดหนึ่งเดียวที่ปกป้องผิวได้ถึง Ultra-long UVA”

ผลิตภัณฑ์ตัวนี้ผ่านการทดสอบประสิทธิภาพทั้งในระดับหลอดทดลอง และในอาสาสมัครว่ามีประโยชน์หลายประการ นอกเหนือไปจากคุณสมบัติป้องกันแสงแดดทั่วไป เช่น

  • ลดการเกิดรอยดำจากรังสี UV
  • ลดการสร้างเอนไซม์ MMP1 และ MMP3 ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่ไปย่อยสลายคอลลาเจน และ Matrix ต่างๆ ในหนังแท้ เมื่อฉายแสง UVA1
  • ปกป้องผิวหนังทั้งชั้นหนังกำพร้า และหนังแท้ โดยป้องกันการเกิด Sunburn cell (เซลล์ที่เสียหายเพราะรังสี UV) และปกป้องไฟโบรบลาสต์
  • ลดความเสียหายของเบสในสาย DNA (ปกป้องสาย DNA ไม่ให้ถูกทำลายเพราะรังสี UV)
  • ด้วยส่วนผสมของ Antioxidant ในสูตร เมื่อทดสอบด้วยการฉายรังสีอินฟราเรด (ชนิด IRA) ลงไป มีความสามารถลดการสร้างเอนไซม์ MMP ลงได้
  • ลดการเกาะติดของฝุ่นละอองและ Pollution ต่างๆ บนผิว

พัฒนามาในเบสที่กันน้ำ กันเหงื่อ ไม่ใส่น้ำหอม และผ่านการทดสอบแล้วว่าไม่ทำให้แสบตา ทาแล้วซึมไวไม่เหนอะหนะ ไม่ทิ้งปื้นขาว พร้อมเสริมทัพมาด้วย Net-lock technology ที่ช่วยให้สารกันแดดเกาะติดผิวได้ยาวนานยิ่งขึ้น พร้อมเสริมประสิทธิภาพในการป้องกันผิวจากรังสี UV

ส่วนผสมเป็นดังนี้

ในส่วนของส่วนผสมนั้นเรียกได้ว่าพัฒนามาได้ค่อนข้างเรียบง่าย มีสารกันแดดชนิดเคมีอยู่ด้วยกันหลายชนิดที่ช่วยเสริมกันในการกรองแสง UV ได้ครบทั้ง Spectrum

ส่วนของสารกันแดดแทนด้วยอักษรสีน้ำเงิน

  • Ethylhexyl Salicylate (EHS) น้องเด่นในการกรอง UVB ที่มีข้อมูลความปลอดภัยค่อนข้างดี
  • Bis-Ethylhexyloxyphenol Methoxyphenyl Triazine หรือ BEMT รู้จักกันในชื่อทางการค้าว่า Tinosorb S กรองได้ทั้ง UVA และ UVB โดยมีจุดที่ดูดกลืนแสงสูงสุด (Peak absorption) อยู่ 2 จุด ที่ 310 nm (UVB) และ 345 nm (UVA) เมื่อใช้ร่วมกับการแดดตัวอื่น เช่น Ethylhexyl triazone จะเสริมประสิทธิภาพกันให้ดียิ่งขึ้น
  • Ethylhexyl triazone หรือ Uvinul T 150 เด่นในการกรอง UVB และเสริมประสิทธิภาพให้สารกันแดดอื่นๆ ในสูตร
  • Butyl Methoxydibenzoylmethane หรือ Avobenzone เด่นในเรื่องการกรอง UVA เป็นหลัก แต่ไม่ค่อยคงตัว ซึ่งในสูตรก็มีกันแดดตัวอื่นมาเสริมให้คงตัวยิ่งขึ้น
  • Methoxypropylamino Cyclohexenylidene Ethoxyethylcyanoacetate; MCE คือ Mexoryl 400 พระเอกของเราในวันนี้ น้องเป็น Ultralong UVA filter (380 – 400 nm) peak อยู่ที่ 385 nm มีข้อมูลความปลอดภัยค่อนข้างดี และมีความเป็นมิตรกับปะการัง มีงานวิจัยที่ศึกษาในอาสาสมัครรองรับถึงประสิทธิภาพในการปกป้องผิว (Marionnet, et al. JID Innovation. 2022;2(1):100070)
  • Diethylamino hydroxybenzoyl hexyl benzoate หรือ Uvinul A+ กรองรังสีในช่วง UVA
  • Drometrizole trisiloxane รู้จักกันในนาม Mexoryl XL สารกันแดดที่กรองรังสีได้ในช่วงกว้างทั้ง UVB และ UVA มีจุด Peak 2 จุดในช่วง UVB (303 nm) และ UVA (344 nm) ใช้ร่วมกับ Mexoryl SX จะช่วยเสริมประสิทธิภาพในการกรองรังสี UV ได้มากขึ้น
  • Terephthalylidene dicamphor sulfonic acid หรือ Mexoryl SX เด่นที่การกรองรังสี UVA มีข้อมูลความปลอดภัยค่อนข้างดี และเมื่อใช้คู่กับ Mexoryl XL จะได้ประสิทธิภาพในการกรองรังสีที่ดีขึ้น

สรุปได้ประมาณภาพนี้ค่ะ

จะเห็นว่าส่วนผสมของสารกันแดดที่ใช้นั้นกันได้ค่อนข้างครบแบบ broad spectrum

ในส่วนของ Antioxidant นั้นมีวิตามินอี ในรูปแบบธรรมชาติ หรือ Tocopherol เข้ามา และมีสารควบคุมความมันให้ผิว 2 ตัว คือ Silica และ Perlite สำหรับ Perlite นั้นมีความน่าสนใจตรงที่น้องจะเด่นเรื่องของการซับน้ำและน้ำมัน พร้อมให้ความรู้สึกสดชื่นไม่แห้งตึงจนระคายเคือง

ในภาพรวมก็คือเป็นผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดดที่ทำมาได้ค่อนข้างดี ส่วนผสมดีเลิศ ไม่เหนอะหนะหนักผิว การมี Alcohol ในสูตรก็จะช่วยลดความเหนอะหนะให้กับเนื้อได้และช่วยให้ผลิตภัณฑ์แห้งไว ไม่เหนอะหนะ

มาให้คะแนนกันดีกว่า

  1. สารกันแดด ในด้านของสารกันแดด นอกเหนือไปจากพระเอก Mexoryl 400 ที่เด่นเรื่องการกรอง Ultralong UVA ได้ถึง 400 nm จนสุด Spectrum แล้ว สารกันแดดอื่นๆ ที่เลือกใส่มาก็เสริมกันได้อย่างลงตัว ทั้งในแง่ของการเสริมความคงตัวหรือเสถียรภาพให้แก่สูตร และเสริมประสิทธิภาพในการปกป้องจากรังสี UV ไปพร้อมๆ กัน ให้ไป 5 ฟลาสก์
  2. ส่วนผสมอื่นๆ มีการเลือกใช้สารควบคุมความมัน และ Polymer ที่เข้ามาสร้าง Net-lock technology ที่ช่วยให้สารกันแดดเกาะอยู่บนผิวได้ยาวนานขึ้น เสริมการปกป้องผิวไปอีก 1 ขั้นตอน แม้ว่าสารบำรุงอาจจะน้อยไปนิด แต่เราก็สามารถบำรุงผิวด้วยผลิตภัณฑ์บำรุงให้เรียบร้อยก่อนแล้วค่อยมาทากันแดด และในสูตรมี Alcohol แต่ส่วนตัวแม้จะมีผิวผสม/แห้ง ก็สามารถใช้ได้ ไม่ได้เกิดการระคายเคือง หรือไม่สบายผิวในระหว่างวันแต่อย่างใด ขอหักคะแนนเรื่อง Alcohol เพื่อให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน ขอให้ 4 ฟลาสก์
  3. การใช้งาน ส่วนตัวมีผิวผสมค่อนข้างแห้ง ถ้าเทียบกับสูตร Oil control fluid (ป้ายเขียว) ที่เคยนำเสนอไปก่อนหน้า ตัวเองชอบรุ่นนี้มากกว่านะ ในแง่ของการเกลี่ย ความรู้สึกขณะเกลี่ย ความรู้สึกหลังใช้ และในระหว่างวัน น้องจะสบายผิวมากกว่า มีบางวันที่ต้องเดินกลางแดดจัดๆ นานๆ หลังออกแดดวันนั้นก็ไม่ได้มีอาการแดง หรือเคืองแต่อย่างใด เรื่องของกลิ่นก็เป็นกลิ่นตามธรรมชาติของสารกันแดด ซึ่งไม่ได้ติดใจอะไร โดยรวมก็คือส่วนตัวค่อนข้างชอบ ให้ไป 5 ฟลาสก์

สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณทางแบรนด์ La Roche-Posay สาขาประเทศไทยที่ส่งผลิตภัณฑ์ดีๆ ที่พัฒนาสูตรมาได้อย่างลงตัว พร้อมการศึกษาทางคลินิกรองรับมาให้ได้เปิดหูเปิดตา และขอบคุณทุกท่านที่ติดตามรับชมมาจนจบ

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ทางแบรนด์โดยตรงเลยนะคะ

Official facebook: @LaRochePosayThailand (https://www.facebook.com/LaRochePosayThailand)

ทางไปช้อปปิ้ง

แอพส้ม https://s.shopee.co.th/7KgyIsKOD6

แอพฟ้า https://s.lazada.co.th/s.HzGg7?cc

Disclaimer/Conflict of interest: ผลิตภัณฑ์นี้ได้รับการสนับสนุนจากทางแบรนด์ La Roche-Posay ประเทศไทย การรีวิวครั้งนี้เป็นการวิเคราะห์ส่วนผสม/วัตถุดิบตามหลักการทางวิทยาศาสตร์เครื่องสำอางและอาศัยความเห็นส่วนบุคคล และผู้เขียนไม่ได้ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทเครื่องสำอางใดๆ โปรดใช้วิจารณญาณ

Image

รีวิว/วิเคราะห์ส่วนผสมครีมกันแดดตัวปังตัวใหม่จาก ISDIN Fotoprotector Fusion Water Magic ออกแบบมาได้บางเบาสะใจ ตอบโจทย์คนผิวมัน

Pain point อย่างหนึ่งของผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดดที่กัน UV ได้ดีๆ และเสถียร นั้นจะต้องอาศัยสารกันแดดหลากหลายชนิด ซึ่งสารกันแดดเหล่านี้มักจะละลายในน้ำมัน ทำให้พัฒนาสูตรออกมาแล้วเหนอะหนะ รำคาญใจคนผิวมันไปเสียหมด

แต่เดี๋ยวนี้ก็เริ่มมีกันแดดดีๆ ที่ไม่เหนอะหนะออกมาบ้างแล้วค่ะ

อย่างคอนเทนท์นี้ก็จะหยิบเอาผลิตภัณฑ์กันแดดที่น่าสนใจ พัฒนามาได้ในเนื้อบางเบา ด้วยเทคโนโลยี Fusion water จากแบรนด์ ISDIN รุ่นใหม่ ที่มีชื่อว่า ISDIN Fotoprotector Fusion Water Magic (ย่อว่า FWM) ที่มาในขวดสีฟ้าแบบนี้ค่ะ

ถ้าพูดถึงความนวัตกรรมในด้านของเนื้อสัมผัสแล้ว เรียกได้ว่าเทคโนโลยี Fusion Water ของ ISDIN ก็คือดีงามใช่เล่น

โดยเทคโนโลยีนี้จะทำให้ได้เนื้อสัมผัสที่ค่อนข้างบางเบา โดยการพัฒนาสูตรและผลิตตำรับให้มีลักษณะการไหลแบบพิเศษที่ในทางเภสัชกรรมเรียกว่า Thixotropy หมายความว่า ความหนืดของตำรับจะเปลี่ยนไปตามแรงที่ให้ คือ ถ้าเราไปเกลี่ยไปทา ตัวตำรับจะมีความหนืดลดลงทำให้เราเกลี่ยได้ง่าย แต่พอตั้งทิ้งไว้เฉยๆ ตัวความหนืดจะกลับขึ้นมาคืนค่าเดิมไม่ให้ไหลหกเลอะเทอะ

โดยสูตร Fusion water จะมีน้ำเป็นองค์ประกอบหลักในปริมาณที่สูงกว่า และจะมีความหนืดมากกว่า ถ้าเทียบกับตัวสูตรที่พัฒนามาในรูปแบบของ Fusion fluid เช่น รุ่น Active Unify

เนื้อกันแดดทำออกมาในรูปแบบน้ำนม เกลี่ยได้ง่าย มีความวาวๆ ผิวนิดหน่อยเมื่อทาครั้งแรก แต่พอทิ้งไว้ประมาณ 1 นาที ก็จะซึม/แห้งไป ไม่วาว ไม่เหนียวเหนอะหนะ และมีคุณสมบัติเสริมความชุ่มชื้น พร้อมกับการควบคุมความมันให้ผิวไปพร้อมๆ กัน

หลังเกลี่ยแล้วทิ้งไว้ 1 นาทีก็แทบจะไม่เหลือความมันตกค้างบนผิว

ถ้าขึ้นชื่อว่า ISDIN ทางแบรนด์จะค่อนข้างเด่นเรื่องการทดสอบประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ในอาสาสมัคร ตัวกันแดดชิ้นนี้ก็มีข้อมูลด้านของประสิทธิภาพในการเพิ่มความชุ่มชื้นผิวให้แก่อาสาสมัครอยู่ด้วย

ซึ่งเป็นการวัดความชุ่มชื้นของผิวอาสาสมัครที่ทาสูตร FWM โดยทดสอบในอาสาสมัครที่มีผิวแห้ง จำนวน 24 คน เทียบกับบริเวณที่ไม่ได้ทา ให้อาสาสมัครทาไปก่อน 4 วัน และลองวัดผิวหลังทา พบว่าสามารถเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวได้ถึง 12 ชั่วโมง

(Image from ISDIN official website)

ในเรื่องของความรู้สึกของกลุ่มอาสาสมัครที่ใช้ก็พบว่า อาสาสมัครที่ใช้ไป 4 สัปดาห์ รู้สึกดังนี้

  • ทุกคน (100%) บอกว่ากันแดดเนื้อบางเบา ดูดซึมง่าย ไม่เหนอะหนะ
  • 97% บอกว่าไม่ระคายเคืองดวงตา
  • 93% บอกว่าไม่ทำให้ผิวมันเยิ้ม
  • 90% รู้สึกว่าผิวสดชื่น

(Image from ISDIN official website)

ผลิตภัณฑ์สูตรนี้ได้ผ่านการทดสอบเรื่องการอุดตัน ว่าไม่ทำให้อุดตันผิว และสามารถใช้ได้กับผิวบอบบางแพ้ง่าย

นอกจากนี้ในการพัฒนาสูตรยังมีความเอาใจใส่ในเรื่องของความเป็นมิตรกับท้องทะเลด้วย

มาดูส่วนผสมดีกว่าค่ะ

ในด้านของส่วนผสม ขอเริ่มที่สารกันแดดที่แทนด้วยสีม่วง

  • Ethylhexyl Salicylate เป็น Chemical sunscreen ที่กรอง UVB เป็นหลัก และทำหน้าที่ช่วยละลายสารกันแดดเคมีชนิดอื่นเข้ามาในเนื้อเบส ตัวสารกันแดดในกลุ่ม Salicylate นี้ค่อนข้างปลอดภัย และคงตัว
  • Ethylhexyl triazone (EHT) เป็น Chemical sunscreen ที่กรอง UVB ว่ากันว่าเป็น UVB absorber ที่มีความคงตัวสูงติดอันดับต้นๆ รู้จักกันในชื่อทางการค้าว่า Uvinul T 150
  • Bis-Ethylhexyloxyphenol Methoxyphenyl Triazine หรือ BEMT รู้จักกันในชื่อทางการค้าว่า Tinosorb S โดดเด่นด้วยช่วงกว้างที่กรองได้ทั้ง UVB UVA มีจุดที่ดูดกลืนแสงสูงสุด (Peak absorption) อยู่ 2 จุด ที่ 310 (ปลายๆ UVB) และ 345 nm (UVA) ตัวนี้ก็ค่อนข้างคงตัวดี และเมื่อใช้คู่กับ EHT จะช่วยบูสท์เพิ่มค่าความสามารถในการป้องกันแสงไปได้อีก
  • Butyl Methoxydibenzoylmethane รู้จักกันในนาม Avobenzone เด่นในเรื่องการกรอง UVA เป็นหลัก มี Peak อยู่ที่ 360 nm แต่ว่าไม่ค่อยคงตัว ต้องอาศัย Chemical sunscreen อื่นๆ มาเสริม
  • Phenylbenzimidazole Sulfonic Acid ตัวนี้เป็นกันแดดเคมีที่ละลายในน้ำ เลยมีฟีลลิ่งที่ค่อนข้างเบา เมื่อเทียบกับกันแดดเคมีอื่นๆ ที่ละลายในน้ำมัน น้องกัน UVB เป็นหลัก กัน UVA ได้นิดหน่อย แต่มีประโยชน์คือไปเพิ่ม ความคงตัว ให้ Avobenzone ได้ดี

สรุปก็คือ เป็นกันแดดเคมี ที่กันได้ครบทั้ง UVB UVA และมีการใส่สารกันแดดเสริมกันและกันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปกป้องผิวจากรังสี UV และ เสริมความคงตัวให้แก่ตัวสารกันแดดเอง

สีเขียว เป็น Antioxidant มีด้วยกัน 2 ตัว ได้แก่

  • วิตามินอี ซึ่งเด่นในแง่ของการปกป้องไขมันในผิวไม่ให้ถูกออกซิไดส์
  • Porphyridium cruentum extract คือ สารสกัดจากสาหร่ายชนิดหนึ่งที่พบได้ในทะเลแถบเมดิเตอเรเนียน มีคุณสมบัติเป็น Antioxidant ที่ดี (IOP Conf. Series: Materials Science and Engineering 980 (2020) 012042) ประกอบด้วยสารในกลุ่ม phycoerythrin และ exopolysaccharides ที่สามารถปกป้องผิวจากอันตรายต่างๆ ใน สิ่งแวดล้อม ที่ในวงการเครื่องสำอางเรียกเหมารวมว่า ‘Exposome’ เช่นพวกมลภาวะ ความเครียด รังสี UV และเสริมความสามารถของผิวในการป้องกันตนเองจาก Exposome เพื่อให้ผิวแลดูอ่อนเยาว์ ซึ่งทางแบรนด์ได้มีการทดสอบเพิ่มสารตัวนี้เข้าในกันแดดเปรียบเทียบกับไม่ได้ใส่พบว่าสามารถปกป้องผิวได้มากขึ้นจากรังสี UVA, แสงสีฟ้า และ มลภาวะ ได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

สีชมพูอ่อน Hydroxyacetophenone มีชื่อทางการค้าว่า Symsave H เป็นสาร Muti-functional ให้ประโยชน์เป็นสารเพิ่มประสิทธิภาพของสารกันเสีย ให้คุณสมบัติเสริมในด้านการลดการระคายเคือง และเป็น Antioxidant

สีฟ้า ได้แก่ กรดอะมิโน Arginine และ Sodium hyaluronate ที่เติมน้ำให้ผิว

สีน้ำเงิน ได้แก่ Silica ซึ่งเป็นตัวที่เด่นในแง่ของการดูดซับน้ำมันส่วนเกิน ควบคุมความมัน และมี Hydrated silica ที่สามารถทำหน้าที่เป็นตัวดูดซับได้เหมือนกัน หรืออาจจะแค่ใส่มาปรับ Texture เพิ่มความหนืดให้แก่ผลิตภัณฑ์

ในส่วนของสารอื่นๆ ก็พัฒนามาได้ค่อนข้างดี ไม่มีสารที่ไม่เป็นมิตรกับผิว

อีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจ คือ ตัว Polymer/สารก่อฟิล์มตัวหนึ่งที่น่าสนใจ คือ VP/Eicosene Copolymer ซึ่งให้ฟิล์มที่กันน้ำ เคลือบปกป้องผิว พร้อมให้ฟีลลิ่งนุ่ม คล้ายไหม (Silky) ปรับเนื้อกันแดดให้เกลี่ยง่าย และเรียงตัวสม่ำเสมอบนผิว บูสท์ค่า SPF ได้นิดหน่อย (TDS Unimer U-15, Givaudan)

ในภาพรวมจึงกล่าวได้ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดดที่พัฒนามาได้ค่อนข้างดี เลือกใช้สารกันแดดเคมีที่เสริมกันแล้วมีประสิทธิภาพในการป้องกัน UVA UVB ได้ครบ และมีความคงตัว พร้อมทั้งมี Antioxidant และสารก่อฟิล์มที่ช่วยบูสท์ค่า SPF ได้อีก 1 ขั้น

ให้คะแนน

  1. สารกันแดดและสารบำรุง ทำมาได้ค่อนข้างดี ปกป้องผิวจากแสงแดดได้ค่อนข้างครบ แต่อาจจะต้องไปหาทา Antioxidant และกลุ่ม Anti-inflammation จากสกินแคร์ชิ้นอื่นก่อนอีกนิดหน่อย แต่ถ้ารีบ ก็ใช้ตัวนี้ตัวเดียวจบได้แบบสวยๆ ให้ไป 4 ฟลาสก์
  2. ส่วนผสมอื่นๆ ไม่มีสารที่ไม่เป็นมิตรกับผิว และสาร Polymer ที่ใส่มาก็มีประโยชน์ในการเสริมด้านการป้องกันแสงแดด ให้ไป 5 ฟลาสก์
  3. การใช้งาน ส่วนตัวมีผิวผสม/แห้ง ลองใช้ผลิตภัณฑ์นี้มาเกือบ 1 สัปดาห์ รู้สึกว่าไม่ได้แห้งมาก แม้จะมีเคลมเรื่องของการควบคุมความมัน กำลังดี ไม่แห้งไป ไม่น้อยไป ระหว่างวันส่วนตัวไม่ค่อยได้ออกแดดมากนัก แต่ก็มีวันที่เดินไปเดินมากลางแดด ก็ไม่ได้รู้สึกระคายผิวแต่อย่างใด โดยรวมก็คือค่อนข้างชอบ แต่จะตินิดเดียวก็คือเรื่องของกลิ่น ซึ่งมันก็เป็นธรรมชาติของสารกันแดด อันนี้เข้าใจได้ ให้ไป 5 ฟลาสก์

สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณทางแบรนด์ ISDIN สาขาประเทศไทยด้วยค่ะ ที่ส่งผลิตภัณฑ์ใหม่มาให้ได้ทดลองใช้ และขอบคุณทุกท่านที่ติดตามมาจนจบบทความ

สําหรับรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ทางแบรนด์ได้โดยตรงเลยนะคะ

Facebook https://www.facebook.com/ISDINTHAILAND/

“Flagship Store” ShopeeMall: https://shope.ee/A9qIHtLHN4

“Flagship Store” LazMall : https://s.lazada.co.th/s.PFd2O?cc

Disclaimer/conflict of interests: ผลิตภัณฑ์นี้ได้รับการสนับสนุนจากทางแบรนด์ ISDIN ประเทศไทย การรีวิวครั้งนี้เป็นการวิเคราะห์ส่วนผสม/วัตถุดิบตามหลักการทางวิทยาศาสตร์เครื่องสำอางและอาศัยความเห็นส่วนบุคคล และผู้เขียนไม่ได้มีผลประโยชน์ใดๆในการขายสินค้า โปรดใช้วิจารณญาณ

Image

[รีวิว/วิเคราะห์ส่วนผสม] ครีมกันแดดผสมสารสกัดจากถั่วเกาหลี KA UV Superbloc Fluid protector SPF50+ PA+++

สวัสดีค่ะ วันนี้มีรีวิว/วิเคราะห์ส่วนผสมครีมกันแดดรูปแบบซองที่น่าสนใจมาฝากกันค่ะ

เป็นกันแดดน้องใหม่จาก KA แบรนด์ไทยที่อยู่คู่กับสังคมไทยมานาน มีชื่อว่า KA UV Superbloc Fluid Protector มีค่า SPF 50+ และค่า PA+++

มีหน้าตาเป็นดังนี้นะคะ

สำหรับกันแดดชิ้นนี้จุดเด่นคงหนีไม่พ้นความบางเบาของเนื้อ คุณสมบัติในการกันน้ำ กันเหงื่อ คุมมัน และส่วนผสมของสารบำรุงที่น่าสนใจ ซึ่งจะได้กล่าวอีกทีในช่วงวิเคราะห์ส่วนผสมค่ะ

เนื้อของตัวกันแดดจะเป็นเนื้อคล้ายโลชั่น มีความหนืดปานกลาง มีกลิ่นเฟรช ออกแนวส้มอ่อนๆ

เกลี่ยได้ค่อนข้างง่าย แห้งไว เมื่อทิ้งไว้ประมาณ 2 นาที ให้ความรู้สึกที่ไม่เหนียวเหนอะหนะ ไม่เงาวาว ไม่เทา ไม่เป็นปื้น

เมื่อฉายแสงแฟลชส่องดูจะเห็นว่าไม่ได้วาวมากนัก และแทบจะไม่ติด undertone เทาเลย แม้ว่าจะมีส่วนผสมของ Physical sunscreen ซึ่งบางคนอาจจะกังวลว่าทาแล้วจะติด undertone เทา

สำหรับส่วนผสมเป็นดังนี้ค่ะ

วันนี้แบ่งส่วนผสมไว้เป็น 4 สีนะคะ

ขอเริ่มที่สีฟ้า ซึ่งเป็นสารกันแดด เป็นชนิดผสม มีทั้ง Chemical และ Physical sunscreen ที่กันแดดได้ครอบคลุม และดูมีความคงตัวดี

  • Ethylhexyl methoxycinnamate เป็น Chemical sunscreen ที่เด่นไปในทางการป้องกันรังสี UVB
  • Ethylhexyl salicylate เป็น Chemical sunscreen ที่เด่นไปในทางการป้องกันรังสี UVB
  • 4-methylbenzylidene camphor เป็น Chemical sunscreen ที่เด่นไปในทางการป้องกันรังสี UVB
  • Zinc oxide และ Titanium dioxide เป็น Physical sunscreen ที่ปกติจะป้องกันรังสี UV ได้ครอบคลุม

ถัดมาจะเป็นกลุ่มของสารบำรุงที่แทนด้วยสีม่วง ซึ่งประกอบด้วยสารสกัดจากพืช 3 ชนิด ภายใต้ Combination ระหว่าง Butylene Glycol (and) Water (and) Phaseolus radiatus Seed Extract (and) Betula platyphylla Japonica Bark Extract (and) Rumex crispus Root Extract ชุดนี้เป็นวัตถุดิบนำเข้าจากประเทศเกาหลี หรือที่ทางแบรนด์ชูในส่วนของมังบีน พืชสมุนไพรเกาหลี เป็นเกราะผิวจากธรรมชาติ ที่ช่วยต้านผิวเครียดจากยูวี

Combination นี้เด่นไปที่การดูแลปัญหาด้านการอักเสบระคายเคือง อาการไม่สบายผิวที่เกิดจากมลภาวะ และสารก่อการระคายเคืองต่างๆ ที่พบได้ทั่วไป

พืชทั้ง 3 ตัวนี้จริงๆ แต่ละตัวก็มีประโยชน์ และมีจุดเด่นของมันเองอยู่แล้ว แต่พอเอามาใช้ร่วมกันพบว่าให้ประโยชน์ในการเสริมฤทธิ์การลดการอักเสบระคายเคืองที่ดีขึ้น และทางผู้ผลิตวัตถุดิบมีการทดสอบในอาสาสมัคร พบว่าเมื่อให้อาสาสมัครใช้ตำรับที่มีสารดังกล่าว ก่อนไปสัมผัสสารก่อระคายเคือง พบว่าอาการต่างๆ ของการระคายเคืองนั้นลดลง

ขอแยกกล่าวประโยชน์ของสารสกัดพืชทีละตัวนะคะ

  • Phaseolus radiatus seed extract สารสกัดจากถั่ว Mung bean สายพันธุ์ของทางเกาหลี มีประโยชน์ในเชิงของการดูแลเรื่องการลดการอักเสบระคายเคือง ผ่านกระบวนการต่อต้านสารก่อการแพ้ตัวแม่อย่าง Histamine (ข้อมูลจากผู้ผลิตวัตถุดิบ)
  • Betula platyphylla var. Japonica เป็นสารสกัดจากพืชในกลุ่ม Birch ที่ใช้กันทั่วไปในวงการเครื่องสำอาง สายพันธุ์นี้มีชื่อเรียกว่า Asian White Birch เป็นพืชที่มีการใช้ในตำรับยาโบราณเกี่ยวกับอาการอักเสบหลายรูปแบบ รวมทั้งอาการอักเสบทางผิวหนังชนิด Atopic (J Ethnopharmacol. 2008; 116(2):270-8.) ซึ่งลำพังตัวน้องเองก็เด่นในด้านของการดูแลเรื่องการลดการอักเสบระคายเคือง และให้ความรู้สึกสบายผิว (Soothing effect) โดยมีกลไกที่น่าสนใจคือ น้องสามารถไปป้องกันไม่ให้สารก่อระคายเคืองกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันแล้วปลดปล่อยเอาสารก่อการแพ้ การอักเสบต่างๆ ออกมา รวมถึงไปยับยั้งไม่ให้เอนไซม์ Caspase-1 ทำงาน เอนไซม์นี้ทำหน้าที่ไปเปลี่ยน pro-IL-1b ที่อยู่ในรูปแบบตั้งต้น ให้กลายเป็น IL-1b ที่ไปทำให้เกิดกระบวนการอักเสบต่างๆ ต่อ

ประมาณภาพนี้

พอน้องไปยับยั้ง Caspase-1 ก็จะไม่เกิด IL-1b อาการระคายเคืองต่างๆ ก็ไม่เกิด

ความพิเศษอีกอย่าง คือ น้องยังมีคุณสมบัติปกป้องผิวเราจากรังสี UV (Photoprotective) โดยไปช่วยปกป้อง Fibroblast และ Keratinocyte ไม่ให้ถูกทำลายจากรังสี UV ซึ่งเรียกได้ว่าเหมาะกับการใช้ในผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดด (ข้อมูลจากผู้ผลิตวัตถุดิบ)

  • Rumex crispus root extract ตัวนี้นอกจากประโยชน์ในด้านของการดูแลการระคายเคืองแล้ว น้องยังช่วยปกป้องพวกอิลาสติน กับ ไฮยาลูรอนของเราไม่ให้ถูกทำลายจากเอนไซม์ Elastase และ Hyaluronidase (ข้อมูลจากผู้ผลิตวัตถุดิบ)

สีเขียวมะกอก เป็นน้ำมันธรรมชาติจากทานตะวัน และ สีเขียวเป็นวิตามินอี ซึ่งเป็น Antioxidant ที่ละลายได้ในน้ำมัน

จุดเด่นอีกอย่างของตำรับนี้ คือ ค่อนข้างเหมาะกับผู้ที่มีเหงื่อมาก เพราะว่าในตำรับมีการใช้ส่วนผสมของสารก่อฟิล์มที่เคลือบปกป้องผิวในกลุ่มของ Fluorosilicone ซึ่งกันน้ำ กันเหงื่อ และกันน้ำมันได้ดี ทั้งยังให้ความรู้สึกไม่เหนียวเหนอะหนะ สำหรับส่วนผสมอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าเลือกมาอย่างดี และไม่มีสารที่ไม่เป็นมิตรกับผิว

มาให้คะแนนกันนะคะ

  1. สารกันแดดและสารบำรุง ในแง่ของสารกันแดด เป็นรูปแบบผสมกายภาพ-เคมี กันแดดได้ครอบคลุมทั้ง UVA และ UVB สำหรับสารบำรุงที่เสริมมานั้น เน้นไปที่การปกป้องผิวจากการอักเสบระคายเคือง และดูแลผิวจากรังสี UV จึงขอให้ไป 5 ฟลาสก์
  2. ส่วนผสมอื่นๆ ไม่มีจุดที่ให้หักคะแนน ขอให้ไป 5 ฟลาสก์
  3. การใช้งาน ถึงแม้ว่าส่วนตัวจะมีสภาพผิวผสมค่อนไปทางแห้ง แต่ก็สามารถใช้ครีมกันแดดนี้ได้โดยไม่แห้งเกินไป และไม่เยิ้มเกินไป จะมีก็ในบางวันถ้าทาบำรุงที่ชุ่มชื้นไม่พอ อาจจะรู้สึกแห้งตึงบริเวณแก้มได้ ซึ่งก็แก้ปัญหาได้ด้วยการใช้สเปรย์ Mist ในด้านของการปกป้องจากแดด ส่วนตัวได้ทดลองใช้แล้วได้ออกแดดบ้างในช่วงเวลาเที่ยง ก็พบว่าไม่ได้เจอปัญหาผิวแดงง่าย หรือระคายเคืองอะไร ขอให้ไป 4 ฟลาสก์

สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณทางแบรนด์ KA ด้วยนะคะ ที่ส่งผลิตภัณฑ์ดีๆ มาให้ได้ทดลองใช้ และขอบคุณทุกท่านด้วยค่ะที่ติดตามรับชมมาจนจบ

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ทางแบรนด์ KA โดยตรงเลยนะคะ

Facebook: https://www.facebook.com/KAThailandOfficial

ราคา ซองละ 39 บาท/10 มล.

สถานที่จำหน่าย ร้านเครื่องสำอางทั่วไป, CJ และ ร้านค้า Official บน Shopee และ Lazada

Disclaimer/conflict of interests: ผลิตภัณฑ์นี้ได้รับการสนับสนุนจากทางแบรนด์ KA การรีวิวครั้งนี้เป็นการวิเคราะห์ส่วนผสม/วัตถุดิบตามหลักการทางวิทยาศาสตร์เครื่องสำอางและอาศัยความเห็นส่วนบุคคล และผู้เขียนไม่ได้มีผลประโยชน์ใดๆในการขายสินค้า โปรดใช้วิจารณญาณ

Image

รีวิว/วิเคราะห์ส่วนผสมครีมกันแดดนวัตกรรมสุดล้ำ กับ Foto Ultra Age Repair Fusion Water SPF 50 จากแบรนด์ ISDIN

สวัสดีค่ะ สำหรับคอนเทนท์นี้ขอหยิบเอาผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดด (ใน Content จะขอย่อว่ากันแดดนะคะ) อีกชิ้นหนึ่งจากแบรนด์ ISDIN แบรนด์เวชสำอางจากสเปนมาวิเคราะห์ส่วนผสมให้ได้ติดตามกันต่อนะคะ

ก่อนหน้านี้ส่วนตัวได้วิเคราะห์ส่วนผสมตัวกันแดดในรุ่น Active Unify fusion fluid ไป วันนี้จะหยิบเอาอีกรุ่นหนึ่งคือ Age repair fusion water มาวิเคราะห์ส่วนผสมต่อ

โดยมีชื่อเต็มๆ ว่า Foto Ultra Age Repair Fusion Water SPF 50

(สำหรับท่านที่พลาดไปสามารถติดตามรับชมได้ที่ https://miyeonthereviewer.com/2022/02/15/isdin-activeunify/)

ตัวนี้มาในขวดแบบปั๊ม

สูตรนี้ ถ้าอิงตามที่แบรนด์เคลมจะมีจุดเด่นอยู่ 5 ด้าน ได้แก่

  • ปกป้องผิวจากรังสี UV ได้ดี
  • ไม่ระคายเคืองต่อดวงตา
  • เหมาะกับทุกสภาพผิว เพราะมีเนื้อสัมผัสที่บางเบา ซึมซาบไว และให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว
  • ทาได้บนผิวที่เปียก
  • เป็นมิตรกับท้องทะเล

ว่าแล้วก็ต้องเอาไปใช้ที่ริมทะเล (ไม่ได้ลงไปเล่นน้ำให้เปียกถึงใบหน้า) ส่วนตัวค่อนข้างประทับใจกับสิ่งที่ได้ คือ ผิวไม่แสบร้อน ไม่ระคายเคือง ไม่แดง (สัมผัสแดดบริเวณชายหาดช่วงประมาณ 11 โมง อยู่กลางแดดประมาณ 1 – 2 ชั่วโมง)

เนื้อสัมผัสจะบางเบากว่าตัว Active unify ซึ่งในจุดนี้อธิบายได้ด้วยเทคโนโลยี Fusion water ซึ่งเป็น เทคโนโลยีเนื้อสัมผัสที่ผลิตตำรับให้มีลักษณะการไหลแบบพิเศษที่ในทางเภสัชกรรมเรียกว่า Thixotropy หมายความว่า ความหนืดของตำรับจะเปลี่ยนไปตามแรงที่ให้ คือ ถ้าเราไปเกลี่ยไปทา ตัวตำรับจะมีความหนืดลดลงทำให้เราเกลี่ยได้ง่าย แต่พอตั้งทิ้งไว้เฉยๆ ตัวความหนืดจะกลับขึ้นมาคืนค่าเดิมไม่ให้ไหลหกเลอะเทอะ

โดยสูตร Fusion water จะมีน้ำเป็นองค์ประกอบหลักในปริมาณที่สูงกว่า และจะมีความหนืดมากกว่า Fusion fluid

เกลี่ยได้ง่ายเหมือนเดิม แต่สัมผัสตัวนี้จะแห้งไวกว่าตัว Active unify และรู้สึกเบาผิวกว่า

ลักษณะปรากฏที่ได้จะค่อนไปในทาง Matte มากกว่า

ส่วนผสมเป็นดังนี้

จากส่วนผสม ในภาพรวม ผลิตภัณฑ์นี้เป็นกันแดดเคมี ที่มาในเบสของอิมัลชั่นที่มีส่วนผสมของน้ำ และซิลิโคน ไม่มีส่วนผสมของน้ำมันและแอลกอฮอล์

ในด้านของสารบำรุง และสารที่มีประโยชน์ในการบำรุงผิวทำไว้ในหลายสีเช่นเคย และด้วยความที่เป็นผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดด จึงขอเริ่มกล่าวถึงกลุ่มของสารกันแดด ซึ่งแทนด้วยสีฟ้า

  • Butyl methoxydibenzoyl methane (BMDBM, Avobenzone) เป็น Chemical sunscreen ที่เด่นในการกรองรังสี UVA เป็นหลัก เสริมความคงตัวมาด้วยคู่หูของนางคือ Octocrylene
  • Ethylhexyl salicylate หรืออีกชื่อคือ Octisalate ตัวนี้เด่นในการกรองรังสี UVB
  • Phenylbenzimidazole sulfonic acid (PBSA) จุดเด่นของน้องคือเป็นกันแดดเคมีที่ละลายน้ำได้ เน้นกรองรังสี UVB เป็นหลัก กรองรังสี UVA ได้ในช่วงน้อยๆ ข้อมูลความคงตัวและความปลอดภัยค่อนข้างดี เวลาใช้ร่วมกันกับกันแดดเคมีตัวอื่นๆ จะช่วยเสริมประสิทธิภาพในการป้องกันรังสี UV ได้ดี รวมถึงช่วยเสริมความคงตัวให้แก่ Avobenzone และกันแดดเคมีตัวอื่นๆ ในตำรับ ให้สลายตัวได้ช้าลง
  • Bis-Ethylhexyloxyphenol methoxyphenyl triazine (Bemotrizinol, BEMT, Tinosorb S) เป็น Chemical sunscreen ที่เด่นในการกรองรังสี UVA เป็นหลัก แต่ครอบคลุม Spectrum UVA ตัวน้องละลายในไขมันได้ดีกว่าสารกันแดดเคมีกลุ่มเก่าๆ เวลาเราทานางจะพร้อมออกฤทธิ์ปกป้องแสงแดดได้เร็วกว่าตัวปกติ มีความคงตัวต่อแสงแดดดีขึ้นเมื่อเทียบกับตัวเก่าๆ
  • สำหรับ Polysilicone-15 นั้นให้อารมณ์เหมือนเป็นกันแดดอ้อมๆ มาช่วยเสริมความคงตัวให้กับกันแดดเคมีตัวอื่นๆ อีกทีหนึ่ง

เสร็จจากสารกันแดดขอกล่าวถึงพระเอกของเรา ถึงแม้ว่าจะชื่อ Plankton extract แต่จริงๆ แล้ว นางเป็นสารนวัตกรรมสิทธิบัตรของทาง ISDIN โดยมีการเตรียม Plankton extract ด้วยกรรมวิธีพิเศษ ภายใต้ชื่อ DNA Repairsomes® จะมีเอนไซม์ที่ชื่อ Photolyase เอนไซม์นี้มีหน้าที่คอยสอดส่องหาองค์ประกอบของเบสบนสาย DNA ในตำแหน่ง cyclobutane pyrimidine dimer (CPD) และ pyrimidine-pyrimidone (6–4) photoproduct (6–4PP) ที่เกิดขึ้นมาเพราะรังสี UV ไปทำลายองค์ประกอบในสาย DNA (Liu, et al. Phys Chem Chem Phys. 2015; 17(18): 11933–11949.)

เอนไซม์ตัวนี้จะเข้ามาฟื้นฟู โดยอาศัยพลังงานจากแสงในช่วง Visible light เป็นตัวกระตุ้น (Kavakli, et al., in Advances in Protein Chemistry and Structural Biology, 2019) มีผู้เสนอชื่อให้กระบวนการนี้ว่า Photorepair หรือ Photoreactivation

โดยการเกิด Photorepair นั้นจะเกิดที่ ซึ่งถือว่าเป็นประเด็นที่น่าสนใจสำหรับวงการเครื่องสำอาง โดยมีการกล่าวถึงในบทความว่า การฟื้นฟูความเสียหายดังกล่าวจะช่วยชะลอการเกิดริ้วรอย (Aging) รวมไปถึงมะเร็งผิวหนัง (Dermatol Ther (Heidelb) 9, 103–115 (2019))

ถัดมาเป็นสารบำรุงในกลุ่มของเปปไทด์ที่แทนด้วยสีม่วง ซึ่งมีด้วยกัน 3 ตัวหลักๆ

Combination ของ Palmitoyl Tripeptide-1, Palmitoyl Tetrapeptide-7 คือ Matrixyl 3000 ซึ่งเลือกใช้เปปไทด์ในกลุ่ม Matrikines 2 ชนิด ซึ่งเสริมกระบวนการสังเคราะห์เส้นใยต่างๆ (Extracellular matrix; ECM) รวมถึงฟื้นฟู และจัดเรียงโครงสร้าง ECM เพื่อให้ผิวกระชับ ลดเลือนริ้วรอย

Pentapeptide-34 Trifluoroacetate ซึ่งมีชื่อทางการค้าว่า peptide q10™ biofunctional ของบริษัท Ashland chemicals โดยนางมีคุณสมบัติพิเศษ คือ ไปเสริมกระบวนการสังเคราะห์ Coenzyme Q10 ตามธรรมชาติของผิว ซึ่งปกติแล้ว Q10 เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูงมาก การมี Q10 อยู่ ก็หมายความว่าผิวเราจะมีความสามารถในการกำจัดอนุมูลอิสระที่ดีขึ้นนั่นเอง นอกจากนี้ตัวเปปไทด์นี้ยังเสริมการสังเคราะห์สารพลังงานสูง ATP และลดเลือนริ้วรอยให้แลดูจางลงไปพร้อมๆ กัน

สีชมพูเป็น Antioxidant vitamin อย่างวิตามินซี และ อี

มี Hyaluron ช่วยดูแลเรื่องความชุ่มชื้น

สีเขียว Silica ให้ประโยชน์ในการควบคุมและดูดซับความมันส่วนเกินบนผิว อาจจะทำงานร่วมกับ Polymethyl Methacrylate เพื่อให้สัมผัสที่นวลเนียน แห้งสบายเมื่อทา

และสีส้ม Tropolone เป็น Antioxidant สังเคราะห์ที่ช่วยปกป้องเนื้อสารในตำรับไม่ให้เสื่อมสภาพ

แน่นอนว่าพอเป็นแบรนด์ ISDIN ทางแบรนด์มีการทดสอบประสิทธิภาพและความปลอดภัยของตำรับอยู่หลายชิ้นมากๆ 

โดยขอยกตัวอย่างการทดสอบประสิทธิภาพในการฟื้นฟูผิวของตำรับนี้ ที่ได้ตีพิมพ์ลงวารสาร โดยเป็นการศึกษาประสิทธิภาพในการปกป้องผิวจากรังสี UV ของตำรับกันแดดเบสน้ำที่มีส่วนผสมของ เอนไซม์ Photolyase encapsulated in liposome, Active biopeptides, Antioxidants, และ hyaluronic acid ทั้งในระดับเซลล์เพาะเลี้ยง ผิวหนังเลี้ยง จนไปถึงในอาสาสมัคร พบว่าให้ผลในการปกป้องและฟื้นฟูผิวได้ดี ทั้งจากแสงแดดและมลภาวะต่างๆ (Narda, et al. Clin Cosmet Investig Dermatol. 2019; 12: 533–544.)

อีกจุดที่ส่วนตัวค่อนข้างประทับใจ คือไม่ใช่แค่สารบำรุงเท่านั้นที่มีประโยชน์ที่ดีกับผิว สารก่อฟิล์มในตำรับยังสามารถเคลือบปกป้องผิว และลดการเกาะติดของมลภาวะต่างๆ บนผิว โดยทางแบรนด์ได้ทำการทดสอบด้วยการเอาผง Carbon มาทาทับบริเวณที่ทาตำรับ เทียบกับบริเวณที่ไม่ได้ทาแล้วล้างออก พบว่าบริเวณที่ทาตำรับ มีปริมาณของผง Carbon เหลืออยู่น้อยมากๆ เมื่อเทียบกับไม่ได้ทา

(Image from ISDIN)

มาให้คะแนนกันดีกว่าค่ะ

สำหรับผลิตภัณฑ์นี้ส่วนตัวให้คะแนนดังนี้ค่ะ

  1. สารกันแดดและสารบำรุงอื่นๆ เรียกได้ว่าทำมาได้ไม่มีที่ติตามที่ได้กล่าวไปในด้านบน และตรงตามคอนเซปท์ ป้องกัน ฟื้นฟู และ ดูแลไปพร้อมๆ กัน ให้ไป 5 ฟลาสก์
  2. ส่วนผสมอื่นๆ ไม่มีสารที่ไม่เป็นมิตรกับผิว ได้รับไป 5 ฟลาสก์
  3. การใช้งาน อันนี้ต้องบอกเลยว่าขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ เพราะตอนเอาไปใช้ที่กทม. นั้นคือ ฟีลแบบดีงามมาก ทาแล้วค่อนข้างเบาสบายผิว แต่ไม่ถึงกับเรียบเนียนผ่องเหมือนรุ่น Active Unify จะให้ความรู้สึกที่ค่อนไปทาง Matte มากกว่า แต่ถ้าเอามาใช้ที่ทางเชียงใหม่เชียงราย ตัวนี้จะรู้สึกมีอาการผิวแห้งระหว่างวันได้ในบางวัน แต่เรื่องของรอยแดง หรือการระคายเคืองหลังจากออกแดด ทั้งรุ่นนี้และรุ่น Active Unify คือทำมาได้ดีไม่แพ้กัน รับไป 5 ฟลาสก์

สําหรับรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ทางแบรนด์ ISDIN สาขาประเทศไทย ได้โดยตรงเลยนะคะ

Facebook https://www.facebook.com/ISDINTHAILAND/

“Flagship Store” ShopeeMall https://invol.co/clb1zun

“Flagship Store” LazMall : https://invol.co/clb1ztm

Disclaimer/conflict of interests: ผลิตภัณฑ์นี้ได้รับการสนับสนุนจากทางแบรนด์ ISDIN ประเทศไทย การรีวิวครั้งนี้เป็นการวิเคราะห์ส่วนผสม/วัตถุดิบตามหลักการทางวิทยาศาสตร์เครื่องสำอางและอาศัยความเห็นส่วนบุคคล และผู้เขียนไม่ได้มีผลประโยชน์ใดๆในการขายสินค้า โปรดใช้วิจารณญาณ

Image

รีวิว/วิเคราะห์ส่วนผสมผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดดสุดล้ำค่าจาก ISDIN รุ่น FOTO ULTRA100 สูตร Active Unify fusion fluid

สวัสดีค่ะ สำหรับคอนเทนท์นี้ขอหยิบเอาผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดด (ใน Content จะขอย่อว่ากันแดดนะคะ) จากแบรนด์ ISDIN แบรนด์เวชสำอางจากสเปนมาวิเคราะห์ส่วนผสมให้ได้ติดตามกันนะคะ

ถ้ากล่าวถึงกันแดดตอนนี้ที่ดังมากๆ และโดดเด่นด้วยเทคโนโลยีของ Texture คงหนีไม่พ้นกันแดดจากแบรนด์ ISDIN  

กันแดดของทางแบรนด์ที่ส่วนตัวได้รับมามีด้วยกันหลายสูตร แต่จะขอหยิบเอา 2 สูตรมารีวิว คือ Active unify fusion fluid และ Age repair fusion water นะคะ

โดย content แรกนี้จะขอเน้นวิเคราะห์ส่วนผสมของสูตร Active unify ซึ่งเป็นครีมกันแดดที่พัฒนามาเป็นพิเศษสำหรับผิวพรรณที่มีปัญหาฝ้า หมองคล้ำ และจุดด่างดำก่อนค่ะ

น้องมาในหน้าตาประมาณนี้นะคะ

สำหรับแพคเกจจะเป็นรูปแบบขวดที่มีปากด้านในเป็นปลายแหลมไว้หยดเนื้อผลิตภัณฑ์ออกมา

เนื้อมาในเนื้อโลชั่นที่มีความหนืดปานกลาง ซึ่งส่วนหนึ่งน่าจะเป็นเพราะตัวผลิตภัณฑ์มีค่า SPF ค่อนข้างสูง (จากข้อมูลที่ได้รับและค้นคว้าเพิ่มเติม คือ ตัวผลิตภัณฑ์นี้มีค่า SPF มากกว่า 100)

สัมผัสค่อนข้างชุ่มชื้นแต่ไม่ถึงกับเหนอะหนะ เกลี่ยได้ง่าย ไม่ทิ้งคราบขาว ซึ่งต่างจากที่ตัวเองคิดไว้ลิบลับเลย ตอนแรกพอดูจากส่วนผสมแล้วคิดว่าจะออกมาแห้งหน่อย แต่พอได้ใช้จริงคือดีงาม ไม่แห้งและไม่เยิ้มในระหว่างวัน

ถ้าดูใต้แสงแฟลช จะสังเกตเห็นว่ามีความมันวาวอยู่บ้างเล็กน้อย

จากที่ได้ลองเนื้อสัมผัส จุดที่ติดใจ คือ น้องช่วยปรับผิวให้แลดูเรียบเนียนขึ้น อารมณ์คล้ายๆ การทา Primer ก่อนการแต่งหน้าเลยทีเดียว

ถ้าพูดถึงปัญหา Sensitive skin บ้านเรามักจะเรียกแบบเหมารวมว่าเป็นผิวบอบบางแพ้ง่าย แต่จริงๆ แล้วคำว่า Sensitive skin นั้นมีความหมายค่อนข้างกว้าง และใช้รวมถึงสภาพผิวที่มีแนวโน้มเกิดปัญหาต่างๆ ได้ง่ายกว่าผิวปกติ ปัญหาเหล่านี้เช่น

  • การระคายเคือง
  • การเกิดสิวอุดตัน
  • การเกิดรอยแดง
  • การเกิดจุดด่างดำ รวมทั้งจุดด่างดำหลังกระบวนการอักเสบที่เรียกว่า Post-inflammatory hyperpigmentation (PIH)

โดยตัว Active unify นี้ทางแบรนด์ออกแบบมาเพื่อใช้สำหรับผิวบอบบางชนิดที่มีปัญหาฝ้า และผิวไวต่อแดด โดยเมื่อออกแดด หรือสัมผัสแสงแดดเป็นเวลานานแล้วอาจจะเกิดการระคายเคือง จุดด่างดำต่างๆ ได้ง่ายกว่าผิวปกติ โดยในส่วนผสมจะมีสารที่ให้คุณสมบัติดูแลด้านการอักเสบและระคายเคือง รวมถึงดูแลเรื่องปัญหาจุดด่างดำจากแดดที่เรียกว่า Sun spot

สำหรับกลไกในการเกิดจุดด่างดำจากรังสี UV นั้นมี 2 แบบ ได้แก่ แบบแรก รังสี UV ไป Oxidize เมลานินที่มีอยู่เดิมให้มีสีเข้มข้น ผลนี้จะเกิดขึ้นได้รวดเร็ว ทำให้เราพบว่าสีผิวมักจะคล้ำขึ้นหลังจากออกแดดไปไม่นาน

อีกแบบ รังสี UV จะไปเสริมการสร้างยีนที่มีชื่อว่า POMC ซึ่งจะไปทำให้ปริมาณของฮอร์โมน alpha-MSH ซึ่งเป็นเหมือนคุณแม่แห่งการสร้างเมลานิน ที่จะลงไปสั่งงานให้ Melanocyte สร้างเมลานินออกมา ทำให้สีผิวเข้มข้น ผลนี้จะใช้เวลานานกว่า ภาพด้านล่างนี้ส่วนตัวลองทำมาเพื่ออธิบายผลของรังสี UV ที่เกิดผ่านระบบ POMC ค่ะ

จริงๆ เรื่องของรังสี UV และการสร้างเม็ดสียังมีรายละเอียดอีกเยอะนะคะ แต่ขอละเว้นไว้ก่อนนะคะ

ก่อนไปดูส่วนผสม อยากเล่าถึงเทคโนโลยีของ Fusion fluid และ Fusion water อีกนิดหน่อย ว่าเทคโนโลยีเนื้อสัมผัส หรือ Texture เหล่านี้ของทาง ISDIN มันเป็นอย่างไร จากที่ได้ลองค้นข้อมูลเพิ่มเติมพอจะสรุปความได้ว่า ทั้งตำรับที่เป็น Fusion fluid และ Fusion water เป็นเทคโนโลยีหนึ่งของแบรนด์ที่ผลิตตำรับให้มีลักษณะการไหลแบบพิเศษที่ในทางเภสัชกรรมเรียกว่า Thixotropy หมายความว่า ความหนืดของตำรับจะเปลี่ยนไปตามแรงที่ให้ คือ ถ้าเราไปเกลี่ยไปทา น้องจะมีความเหลวมากขึ้นทำให้เราเกลี่ยได้ง่าย แต่พอตั้งทิ้งไว้เฉยๆ น้องจะมีความหนืดที่สูงในระดับหนึ่ง

ซึ่งตัวที่เป็น Fusion fluid จะมีความหนืดกว่าตัวที่เป็น Fusion water เล็กน้อย

และแน่นอนว่าพอเป็น ISDIN จะมาแบบธรรมดาๆ ไม่ได้ และใช่ค่ะ น้องผ่านการทดสอบประสิทธิภาพและความปลอดภัยทั้งในระดับหลอดทดลองและในอาสาสมัครมาเรียบร้อย โดยขอหยิบยกเอางานหนึ่งมาเล่าให้ฟังค่ะ

เป็นการทดสอบประสิทธิภาพในการป้องกันแสงแดดและความปลอดภัยของตำรับ Unify ในอาสาสมัครที่มีปัญหาฝ้าในความรุนแรงระดับเล็กน้อยและปานกลาง เป็นเวลา 84 วัน ความน่าสนใจอยู่ที่ หลังการใช้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าว อาสาสมัครมีคะแนนความรุนแรงของฝ้าลดลง เมื่อประเมินด้วย MASI score (Melasma area and severity index) ซึ่งการประเมินด้วย MASI จะมีวิธีคำนวณให้ออกมาเป็นตัวเลข

(Image from ISDIN)

มาดูกันที่ส่วนผสมดีกว่าค่ะ

สำหรับส่วนผสมเป็นดังนี้

สำหรับส่วนผสมวันนี้ทำไว้อยู่หลายหมวดสีนะคะ

เนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดดเลยขอโฟกัสที่สีฟ้า กลุ่มของสารกันแดดก่อน

  • Butyl methoxydibenzoyl methane (BMDBM, Avobenzone) เป็น Chemical sunscreen ที่เด่นในการกรองรังสี UVA เป็นหลัก เสริมความคงตัวมาด้วยคู่หูของนางคือ Octocrylene
  • Bis-Ethylhexyloxyphenol methoxyphenyl triazine (Bemotrizinol, BEMT, Tinosorb S) เป็น Chemical sunscreen ที่เด่นในการกรองรังสี UVA เป็นหลัก แต่ครอบคลุม Spectrum UVA ตัวน้องละลายในไขมันได้ดีกว่าสารกันแดดเคมีกลุ่มเก่าๆ เวลาเราทานางจะพร้อมออกฤทธิ์ปกป้องแสงแดดได้เร็วกว่าตัวปกติ มีความคงตัวต่อแสงแดดดีขึ้นเมื่อเทียบกับตัวเก่าๆ
  • Titanium dioxide ตัวนี้เป็นกันแดดแบบกายภาพ ที่กันได้ค่อนข้างกว้างทั้ง UVA, UVB และมีความคงตัวที่ดีกว่ากันแดดกลุ่มเคมี

สูตรกันแดด Active Unify นี้ทางแบรนด์เคลมที่การเลือกใช้ส่วนผสมของสารบำรุง 3 ชนิด ภายใต้ชื่อ DP3 Unify complex ซึ่งประกอบด้วย Tetrapeptide-30, Phenylethyl resorcinol และ Niacinamide มาดูรายละเอียดทีละตัวเลยนะคะ

  • Tetrapeptide-30 ตัวนี้รู้จักกันในหลายชื่อ เช่น PKEK หรือ TEGO® Pep 4-Even ซึ่งเป็นเปปไทด์สิทธิบัตรที่มีประโยชน์ที่ดีกับผิวหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของปัญหาจุดด่างดำ สีผิวที่ผิดปกติ เรื่องของการอักเสบระคายเคือง และปัญหาสิว โดยหลักๆ น้องจะเด่นในเรื่องของการปรับโทน และ Complexion ของผิวให้มีสีสม่ำเสมอ ดูมีสุขภาพดี ทางผู้ผลิตวัตถุดิบได้ทดสอบประสิทธิภาพของเปปไทด์ดังกล่าวหลายอย่างทั้งในระดับหลอดทดลองและในอาสาสมัคร

ขอหยิบการทดสอบชิ้นหนึ่งมาเล่าให้ฟังนะคะ การทดสอบนี้ให้อาสาสมัครทาตำรับที่มี Tetrapeptide-30 แล้วสัมผัส UVB ก่อนจะไปทำ Biopsy เอาชิ้นเนื้อมาตรวจวัดหายีนบางชนิดหลังจากโดน UVB ไป 24 ชั่วโมง ได้ผลตามรูปค่ะ

(Image from Evonik Nutrition & Care GmbH, 2011)

จากภาพเราจะเห็นว่า

  1. ปริมาณของ POMC gene ลดลง จากที่ได้เกริ่นไปก่อนหน้าว่า POMC ที่เพิ่มขึ้นจากรังสี UVB จะทำให้เกิดการสร้างเม็ดสี และทำให้ผิวคล้ำ กรณีนี้พบว่า POMC ที่เพิ่มมาน้อยกว่าครีมเปล่า ก็แปลว่า เวลาโดนแดดสีผิวก็จะไม่คล้ำขึ้นมากเหมือนไม่ได้ทาอะไร
  2. ปริมาณของ Tyrosinase gene ที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าครีมเปล่า นั่นคือ ผิวก็จะไม่คล้ำขึ้นมากเหมือนไม่ได้ทาอะไร
  3. ส่วนของ COX-2 เป็นยีนที่สร้างเอนไซม์ COX-2 ที่เกี่ยวกับการอักเสบ และ TNF-a เองก็เป็นยีนที่สร้างสาร Cytokine ที่ทำให้เกิดการอักเสบต่อไป

ผลชุดนี้พอจะสรุปได้คร่าวๆ ว่า Tetrapeptide-30 มีประโยชน์ปกป้องผิวไม่ให้สีผิวคล้ำขึ้น และป้องกันการอักเสบ (เมื่อเทียบกับไม่ได้ทา)

  • Phenylethyl resorcinol เรารู้จักน้องในชื่อของ Symwhite® 377 น้องเป็น Whitening ที่มีประโยชน์ในการยับยั้งเอนไซม์สร้างเม็ดสีอย่าง Tyrosinse โดยตรง มีการศึกษาในอาสาสมัคร โดยให้ใช้ครีมที่มีส่วนผสมของสารนี้กับสาร Whitening อื่นๆ เป็นเวลา 12 สัปดาห์ พบว่าผิวขาวขึ้น (J Cosmet Dermatol. 2013;12(1):12-7.) อีกการทดสอบพบว่าอาสาสมัครที่ใช้ครีมที่มีส่วนผสมของสารนี้พบว่ามีรอยฝ้าจางลง (J Cosmet Dermatol. 2011;10(3):189-96.)
  • Niacinamide น้องคือเจ้าหญิงแห่งวงการความงามที่แท้จริง ไม่ต้องพูดเยอะ น้องมีประโยชน์โดดเด่นกับผิวหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการลดการอักเสบระคายเคือง ความเป็น Whitening โดยไปลดการส่งผ่าน Melanin ที่สร้างเสร็จแล้วไม่ให้ออกไปสู่ด้านนอก รวมไปถึงเรื่องการดูแลและฟื้นฟู Barrier ผิว

ซึ่งสารทั้ง 3 ในสูตร DP3 นี้ทำงานร่วมกันได้อย่างลงตัว เสมือนเป็นผลิตภัณฑ์ Whitening ขนาดย่อม ตามภาพที่ทางแบรนด์เสนอไว้ค่ะ

(Image from ISDIN)

  1. ก่อนการสร้างเมลานิน: Tetrapeptide-30 ไปชะลอไม่ให้ Melanocyte ถูกกระตุ้นให้ทำงาน
  2. Symwhite 337 ไปป้องกันไม่ให้เกิดการสร้างเมลานิน ผ่านการยับยั้งเอนไซม์ Tyrosinase
  3. หลังการสร้างเมลานิน: Niacinamide ป้องกันการส่งผ่านของเม็ดสีที่สร้างเสร็จแล้วไม่ให้ออกไปด้านนอก

ที่รู้สึกว่าหลังทาแล้วให้ความเรียบเนียนเหมือนเป็น Primer น่าจะมาจาก Nylon-12 ที่ตัวเขาเองเป็นอนุภาคทรงกลมที่มีคุณสมบัติอำพรางรูขุมขนและริ้วรอยตื้นๆ ให้สัมผัสนุ่มนวล ร่วมกับความสามารถในการดูดซับน้ำมันจาก Silica

ส่วนผสมอื่นๆ เรียกได้ว่าเลือกมาได้อย่างดิบดี แต่จะติก็ตรงแอบมี Alcohol ติดมาหน่อย ซึ่งจุดนี้ส่วนตัวยอมรับว่าค่อนข้าง Surprise เพราะเนื้อไม่ได้แห้งตามที่คิดไว้เลย ชุ่มชื้นมากเสียด้วยซ้ำ

มาให้คะแนนดีกว่าค่ะ

  1. สารกันแดดและสารบำรุง ให้น้องไปเถอะค่ะ ทั้งในแง่ของสารกันแดดที่เพียบพร้อมในการดูแลปกป้องผิวจาก UVB, UVA และสารบำรุงที่มาดูเรื่องของการอักเสบระคายเคือง และดูแลเรื่องของเม็ดสีไปพร้อมๆ กัน จัดไป 5 ฟลาสก์
  2. ส่วนผสมอื่นๆ มีความจำเป็นจะต้องตัดคะแนนเพราะมี Alcohol ไป 1 คะแนน แต่เอาจริงๆ คือ แทบไม่รู้สึกว่ามี Alcohol เลย ออกจะชุ่มชื้นเสียด้วยซ้ำ ให้ไป 4 ฟลาสก์
  3. การใช้งาน ตามที่ได้เล่าให้ฟังว่าส่วนตัวค่อนข้างชอบเนื้อกันแดดสูตร Unify นี้มากๆ เพราะนางค่อนข้างชุ่มผิว และให้ความรู้สึกที่แบบว่าทาแล้วดู Rich เอาไปใช้จริงที่ทะเลมาก็รู้สึกว่าทางแบรนด์ทำมาได้ค่อนข้างดี แม้จะอยู่กลางแดดนานในระดับหนึ่งแต่ก็ไม่รู้สึกแสบ ร้อน หรือระคายเคืองผิวเพราะโดนแดดแต่อย่างใด ให้ไป 5 ฟลาสก์

สําหรับรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ทางแบรนด์ ISDIN สาขาประเทศไทย ได้โดยตรงเลยนะคะ ตอนนี้ทางแบรนด์มีแคมเปญเดือนแห่งความรักด้วยค่ะ

Facebook https://www.facebook.com/ISDINTHAILAND/

“Flagship Store” ShopeeMall https://invol.co/clb1zun

“Flagship Store” LazMall : https://invol.co/clb1ztm

Disclaimer/conflict of interests: ผลิตภัณฑ์นี้ได้รับการสนับสนุนจากทางแบรนด์ ISDIN ประเทศไทย การรีวิวครั้งนี้เป็นการวิเคราะห์ส่วนผสม/วัตถุดิบตามหลักการทางวิทยาศาสตร์เครื่องสำอางและอาศัยความเห็นส่วนบุคคล และผู้เขียนไม่ได้มีผลประโยชน์ใดๆในการขายสินค้า โปรดใช้วิจารณญาณ