Image

Preview/Beauty update: เวชสำอางสุดเนี้ยบจากเกาหลี แบรนด์ Dr.Different ความแตกต่างที่เลอค่า

วันนี้มาอัพเดทสกินแคร์/เวชสำอางจากเกาหลีแบรนด์ใหม่ที่กำลังจะเข้าไทยเร็วๆ นี้ดีด้วยกันนะคะ

แบรนด์ที่มี่จะเอามาอัพเดทในวันนี้มีชื่อว่า Dr.Different ที่ก่อตั้งโดยอาจารย์หมอผิวหนัง Lee Dong-won ซึ่งเป็นผู้ที่มีความสำคัญในวงการเครื่องสำอางและวงการ Dermatology ท่านหนึ่งเลยหละ ท่านเป็นวิทยากรในงานประชุมวิชาการทาง Dermatology อยู่หลายครั้ง รวมถึงเป็นผู้แต่ง Book chapter ในตำรา Dermatology ที่ใช้ในทางการแพทย์ด้วย และนอกจากนี้ท่านเป็นคนพัฒนาตำรับผลัดผิว AHA ที่มีเอกลักษณ์ และใช้ตำรับนี้ถ่ายทอดวิทยาการให้แก่แพทย์ผิวหนังทั่วเกาหลี

(Image from Dr.Different official website)

ผลิตภัณฑ์ของแบรนด์นอกจากคุณหมอ Lee แล้ว ก็ยังมีผู้เชี่ยวชาญด้านอื่นๆ มาร่วมพัฒนาถึง 15 คนเลยทีเดียว

ชื่อแบรนด์เองก็มีความหมายนะคะ Dr.Different มีจุดที่แตกต่างอยู่ 4 จุด

(Image from Dr.Different official website)

  • Different origin ผลิตภัณฑ์ของแบรนด์พัฒนาโดยผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง 15 คน
  • Different ingredients ใช้ส่วนผสมสำคัญ หรือ Active ที่มีรายงานว่าดูแลผิวได้จริง เป็นมิตรกับผิว และมีความ Bio-identical คือ เป็นสารที่สามารถพบได้ในผิวหนังตามธรรมชาติ
  • Different formula พัฒนาสูตรในความเข้มข้น ค่า pH เนื้อผลิตภัณฑ์ต่างๆ ให้ Active ที่ใส่มาออกฤทธิ์ได้จริง
  • Different results จากทั้ง 3 ข้อที่ผ่านมา ทำให้ Dr.Different มีประโยชน์ในการดูแลผิวได้แตกต่าง และให้ผลลัพธ์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว

(Image from Dr.Different official website)

สำหรับผลิตภัณฑ์ของทางแบรนด์ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ออกมาหลายกลุ่มนะคะ โดยกลุ่มแรกที่มี่ได้ลองใช้จะเป็นกลุ่มของวิตามินเอ (Retinoids) ซึ่งทางแบรนด์เลือกใช้ Retinaldehyde หรือ Retinal ที่เก็บกักไว้ในเทคโนโลยีนีโอโซม ซึ่งมีด้วยกัน 3 สูตรนะคะ

จากการทดสอบประสิทธิภาพในอาสาสมัครพบว่า Retinaldehyde หรือ Retinal มีประสิทธิภาพสูงสุด จึงเป็นเหตุให้ทางแบรนด์เลือกใช้ Retinal

และนอกจากนี้ทางแบรนด์มีทั้งการประเมินความคงตัวของวิตามินเอ (Retinal) ในตำรับ มีสิทธิบัตรรองรับ และมีการประเมินประสิทธิภาสพของผลิตภัณฑ์ในอาสาสมัครด้วยค่ะ

แล้วมี่จะมารีวิว/วิเคราะห์ส่วนผสมในโอกาสถัดไปนะคะ

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม และอัพเดทข่าวคราวต่างๆ สามารถติดต่อได้ที่ทางเพจของแบรนด์ Dr.Different Thailand ได้โดยตรงเลยนะคะ

https://www.facebook.com/DrdifferentTH

Disclaimer: Sponsored items

Image

รีวิว/วิเคราะห์ส่วนผสมมาสก์ชีทเพื่อสาวๆผิวบอบบางแพ้ง่าย จาก MEDIHEAL ตอนที่ 1: สูตร Upgrade EX.3

สวัสดีค่ะ

วันนี้มี่มารีวิว/วิเคราะห์ส่วนผสม พร้อมทั้งอัพเดทเทคโนโลยีใหม่ๆของมาสก์หน้าจากเกาหลีให้ได้ชมกันนะคะ

เชื่อว่าหลายๆคนคงจะเคยเห็นมาสก์แบรนด์ Mediheal เนาะ มี่เองก็เคยเห็นมาสักพักแล้วค่ะ เมื่อสมัยที่ไปเกาหลี นางก็มีช็อปของนางอยู่ที่มยองดง

เชื่อไหมว่ามาสก์หน้าของ Mediheal นี้ติดอันดับ 1 ของเกาหลี จากการสำรวจของบริษัท Kantar world panel ระหว่างปี 2016 – 2018 ด้วยนะคะ ไม่แปลกใจเลย เพราะเวลาเดินผ่านร้านทีไร จะเห็นคนหิ้วกันมากมาย

Mediheal เป็นแบรนด์เวชสำอางเกาหลี ผลิตโดย L& P Cosmetic ที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2009 ต่อจากนั้นไม่กี่ปี ก็เริ่มส่งออกมาสก์ไปจำหน่ายที่หลายประเทศทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทยเราด้วยค่ะ

ทางบริษัท L&P cosmetics เองก็ได้รับรางวัลมากมาย เป็นการการันตีถึงความดีงามของมาสก์นางค่ะ

จนปี 2017 นางก็ลงทุนสร้าง Mediheal R&D center และก็มีการ Collab กับ นักร้องเกาหลีชื่อดังอย่าง BTS

story-visual2019

(Image from Mediheal US website)

 

Love me Love Mediheal เน่อเจ้าาาา

เข้าเรื่องของเรากันค่ะ วันนี้มี่จะมารีวิว/วิเคราะห์ส่วนผสมมาสก์สูตรใหม่ ที่มีผู้นำเข้ามาในบ้านเราค่ะ เป็นมาสก์สูตร Upgrade EX.3 กับตัว Pharmask ค่ะ

 

แกะกล่องกันเลยค่า

medi 1

medi 2

มาเริ่มกันที่มาสก์สูตร Upgrade EX.3 นะคะ

 

นางมาด้วยกัน 3 สูตร 3 สีค่ะ เขียว เหลือง ส้ม

medi 3

  • สีเขียว เป็นสูตร Tea tree care solution เหมาะกับการดูแลปัญหาสิว การระคายเคือง และรูขุมขน ตัวนี้มี Tea tree oil, สารสกัดจากคาโมมายล์และบัวบก เป็นพระเอกค่ะ
  • สีเหลือง เป็นสูตร Collagen impact เหมาะกับการดูแลปัญหาความย่อนคล้อย ไม่กระชับ ช่วยให้ผิว Firm ตัวนี้มี Hydrolyzed collagen, elastin และ Acetyl hexapeptide-8 หรือ Argireline เป็นพระเอกค่ะ
  • สีส้ม เป็นสูตร Lightbeam เหมาะกับการดูแลปัญหาจุดด่างดำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ ผิวหมองคล้ำ ไม่กระจ่างใส มีส่วนผสมของวิตามินหลายชนิด อย่าง C, E, B3, B5, B6

 

ถึงแม้ตัวมี่จะไม่ค่อยมีสิว แต่กลับชอบส่วนผสมของสูตรสีเขียวมากๆ เพราะเหมาะกับผิวระคายเคืองง่าย ผิวบอบบาง และฟิลลิ่งหลังใช้ก็คือเลิศเลอสบายผิวมากๆค่ะ สีเขียวนี้เดี๋ยวมี่จะวิเคราะห์ส่วนผสมอย่างละเอียดอีกครั้งในช่วงท้ายนะคะ

medi 5

แผ่นมาสก์ เป็นแผ่นมาสก์ที่ใช้เส้นใยจากธรรมชาติ ซึ่งปกติแล้วจะแนบสนิทไปกับผิว ทางแบรนด์เคลมว่าเป็นเส้นใยชนิด Cupra long fiber หรือใยฝ้ายชนิดเส้นใยยาว ซึ่งสามารถอุ้มเอาเนื้อเซรั่มไว้ได้เยอะ แนบสนิทไปกับผิวหน้า บางเบา และไม่รู้สึกสากหรือหยาบกระด้าง

medi 7

อีกจุดเด่นที่ถือว่าเป็นนวัตกรรมมาก

มี่เชื่อว่าหลายๆคนมีข้อสงสัยว่า มาสก์หน้านี่ต้องแปะนานแค่ไหนถึงจะพอ Mediheal มีคำตอบมาให้ค่ะ ด้วยนวัตกรรม Pressed logo เมื่อมาสก์หน้าทำงานเสร็จแล้ว โลโก้ของ Mediheal จะปรากฏออกมาบนแผ่นมาสก์ ซึ่งจุดนี้มี่ถือว่าโดดเด่นมากๆค่ะ

medi 10

เนื้อมาสก์ของสูตรสีเขียว มาในรูปแบบของเซรั่มใสๆ หนืดเล็กน้อย

medi 8

มีค่า pH อยู่ที่ราวๆ 5 ค่ะ ซึ่งถือว่าใกล้เคียงกับผิวดี

medi 9

สำหรับส่วนผสมของสูตรสีเขียวเป็นดังนี้นะคะ

สผส mediheal

จากส่วนผสมวันนี้นะคะ มี่ทำสารบำรุงไว้เป็นสีต่างๆจำนวน 5 สีนะคะ

ในภาพรวม น้ำมาสก์เป็นในรูปแบบของ Solution ที่ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ น้ำมัน และซิลิโคน ไม่มีน้ำหอม แต่ใช้น้ำมันหอมระเหยจากทีทรีเพื่อประโยชน์ในการดูแลสิว จะทำให้เราได้กลิ่นเขียวสดชื่นของทีทรีอยู่จางๆ

สำหรับสารบำรุงมี่ขอเริ่มจาก

  • สีชมพู คือ พระเอกของเรา สารสกัดจากทีทรี และ น้ำมันหอมระเหยจากทีทรี ซึ่งมีประโยชน์ในด้านของการดูแลปัญหาสิวนะคะ
  • สีม่วง เป็นกลุ่มที่ดูแลรูขุมขน
    • Salix alba extract คือ สารสกัดจากต้น Willow ที่มี BHA จากธรรมชาติ มีประโยชน์ในเชิงการลดการอุดตัน ลดการอักเสบระคายเคือง
    • Pisum sativum extract ตัวนี้เป็นสารสกัดจากถั่วลันเตา ซึ่งในวงการเครื่องสำอางมีหลายยี่ห้อมากๆ แต่ละยี่ห้อก็มีประโยชน์แตกต่างกันไป โดยรวมคือ มีคุณสมบัติในเรื่องของการเพิ่มความชุ่มชื้น และเสริมความแข็งแรงให้กับชั้นผิว จึงมีประโยชน์ในการดูแลและกระชับรูขุมขน
  • สีน้ำตาล เป็นสารเพิ่มความชุ่มชื้น ได้แก่ Trehalose และ กรดอะมิโน Arginine
  • สีฟ้า เป็นกลุ่มของสารลดการอักเสบระคายเคือง ซึ่งมีด้วยกันหลายตัว มี่ขอเลือกกล่าว 2 ตัวนะคะ
    • สารสกัดจาก Boswellia ตัวนี้มีสารที่มีชื่อว่า Boswellic acid ซึ่งมีคุณสมบัติในการลดการอักเสบและระคายเคือง จึงมีประโยชน์ในด้านของการลดรอยแดงจากสิว และดูแลการอักเสบของสิว
    • สารสกัดจาก Houttuynia อันนี้บ้านเรารู้จักกันในชื่อพลูคาว ตัวผู้ผลิตวัตถุดิบของเกาหลีเคลมว่าประกอบด้วยสารกลุ่มฟลาโวนอยด์หลายชนิด เช่น Quercetin กับ Hyperin ผู้ผลิตเคลมว่าสารสกัดจากพลูคาวนี้มีประโยชน์เป็นสารลดการอักเสบระคายเคือง ให้ความรู้สึกสบายผิว (Soothing effect) เสริมการสมานแผล (Wound healing) เป็น Antioxidant และมีคุณสมบัติในการ Detoxification ให้ผิว (ข้อมูลจากบริษัท The garden of natural solution)
  • สีเขียว เป็นสารบำรุงอื่นๆ มี่ขอเล่าถึงน้องบัวบกนะคะ
    • สารสกัดจากบัวบก บัวบกก็ถือเป็นพืช Top hit ตัวหนึ่งในทางเครื่องสำอาง นางมีประโยชน์ที่ดีกับผิวหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นด้านของการเสริมการสังเคราะห์คอลลาเจนให้ผิว Firm เสริมการสมานแผล ลดการเกิดแผลเป็น
    • สารบำรุงที่เหลือ ก็เรียกได้ว่า ทำงานร่วมกันเป็นอย่างดีในการดูแลผิวของเราเลยค่ะ

 

สำหรับส่วนผสมอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าทำมาได้ค่อนข้างดี ไม่มีสารที่ไม่เป็นมิตรกับผิวเลย

มาให้คะแนนกันดีกว่าค่ะ เป็นคะแนนสำหรับสูตรสีเขียวนะคะ

  1. สารบำรุง มาสก์ตัวนี้ถึงแม้จะเป็นสูตรที่เขาแนะนำสำหรับผิวที่มีปัญหาสิว ถ้าเราพูดเรื่องสิวอย่างเดียว คือ ตัวนี้ก็ตอบโจทย์ เพราะดูแลตั้งแต่การลดการอุดตัน ลดการระคายเคือง รอยแดง และมีส่วนผสมของ Teatree ที่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้ออยู่ รวมถึงดูแลเรื่องการลดการเกิดรอยแผลเป็น และกระชับรูขุมขนไปอีก ก็ถือว่า เกือบครบจบสำหรับสิวละ แต่ส่วนตัวมองว่า ถ้าดูจากส่วนผสม คือ บำรุงผิวได้ในหลายจุด รวมถึงที่เด่นๆ คือ การลดการอักเสบระคายเคือง ให้ความรู้สึกสบายผิว (Soothing effect) พร้อมทั้งเติมน้ำให้ผิวไปพร้อมๆกัน นอกจากนี้ยังมีสารบำรุงอีกหลายชนิด ก็ทำให้คนปกติที่มีผิวบอบบางสามารถเอามาใช้เป็น Soothing ให้เราสบายผิวได้ ให้ไป 5 ฟลาสก์
  2. ส่วนผสมอื่นๆ ไม่มีสารที่ไม่เป็นมิตรกับผิว เลยไม่มีจุดที่หักคะแนน ให้ไป 5 ฟลาสก์
  3. การใช้งาน จุดแรกต้องบอกก่อนเลยว่า ประทับใจเจ้าเรื่องของการทำเทคนิค Pressed logo เมื่อมาสก์หน้าทำงานเสร็จแล้ว โลโก้ Mediheal ก็จะโผล่ออกมา ให้เราไปแกะแผ่นมาสก์ได้ จุดที่สองคือ เนื้อของแผ่นมาสก์ที่บางเบา แนบสนิทไปกับผิว และความรู้สึกนุ่ม ไม่สาก ไม่กระด้าง แม้ตอนใกล้แห้ง และจุดสุดท้ายคือความรู้สึกหลังใช้ คือ ผิวค่อนข้างนุ่ม ชุ่มชื้น และรู้สึกเย็นสบายผิว จุดนี้ถือว่าไม่มีที่ติเลยสำหรับมาสก์แผ่นนี้ ให้ไป 5 ฟลาสก์

คะแนน medi

สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณทางแบรนด์ Mediheal ด้วยนะคะที่ส่งผลิตภัณฑ์ดีๆมาให้มี่ได้ทดลองใช้ และขอบคุณทุกท่านด้วยค่ะที่ติดตามรับชมมาจนจบ

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ทางแบรนด์โดยตรงเลยนะคะ

Facebook: MedihealThailand

Twitter: @Mediheal_TH

Instagram: Medihealthofficial

Youtube: MedihealThailand

 

สำหรับมาสก์ของ Mediheal ตอนนี้มีวางจำหน่ายที่ Watsons และ Watsons Online ค่ะ

 

รีวิวนี้ยังไม่จบนะคะ มี่จะรีวิวมาสก์ A-Zero Shot Pharmask ต่อค่ะ แต่จะแยกไปต่ออีก Blog อดใจรอกันซักนิดนะคะ 🙂

 

Disclaimer/conflict of interests: ผลิตภัณฑ์นี้ได้รับมาจากทางแบรนด์ Mediheal การรีวิวครั้งนี้เป็นการวิเคราะห์ส่วนผสมตามหลักการทางวิทยาศาสตร์เครื่องสำอางและอาศัยความเห็นส่วนบุคคล ผู้เขียนไม่ได้มีผลประโยชน์ใดๆในการขายสินค้า โปรดใช้วิจารณญาณ

Image

รีวิว/วิเคราะห์ส่วนผสม BHA music toner จากแบรนด์ SkinTalk แพคเกจใหม่ไฉไลกว่าเดิม

สวัสดีค่ะพี่ๆน้องๆเพื่อนๆทุกท่าน

ส่วนตัวมี่จะชอบพูดเสมอว่า BHA Toner นั้นเหมาะมากสำหรับการทำความสะอาดผิวหลังล้างหน้า เตรียมผิวให้พร้อมรับสารอาหารจากการบำรุง และดูแลปัญหาการอุดตัน

สำหรับวันนี้มี่ขอหยิบยกเอาผลิตภัณฑ์เจ้าเก่า ส่วนตัวมี่ค่อนข้างชอบนะคะ และก็เคยมอบมง #ลูกรักบ้านมียอน ให้อยู่หลายปีเช่นกัน

นั่นก็คือ BHA music toner ของแบรนด์ skin Talk จากเกาหลีนั่นเอง หลายๆท่านอาจจะคุ้นๆกับตัวขวดสีฟ้าๆ แต่ตอนนี้นางเปลี่ยนแพคเกจใหม่แล้วค่ะเป็นขวดสีน้ำตาล ฉลากขาวคาดเขียวนั่นเองค่ะ

หน้าตาเป็นแบบนี้นะคะ

music 3

เมื่อวางเทียบกับรุ่นเก่าจะเห็นได้ว่า ดูเรียบหรู ดูคลีนขึ้นเยอะเลย

music 4

ในซีรี่ส์ Green tea นี้มีผลิตภัณฑ์สำหรับผิวหน้าอยู่ 4 อย่างค่ะ

music 2

(Image from SkinTalk official website)

 

สำหรับตัวที่มี่ได้มาจะเป็น BHA music toner กับตัวที่เป็น AC spot solution ค่ะ ซึ่งจะมารีวิวตัวนี้ต่อในโอกาสหน้านะคะ

สำหรับจุดเด่นของ BHA music toner จุดแรกคือ นางใช้ชาเขียวจากเกาะเชจู ซึ่งว่ากันว่าเป็น 1 ในชาเขียวคุณภาพดีของเกาหลี จุดที่สองก็คือ นางใช้น้ำชาเขียวเป็นเบสหลักแทนน้ำค่ะ ไม่ใช่แค่นั้น จุดที่สามก็คือ นางยังเสริมสารบำรุงอื่นๆเข้ามาอีกหลายชนิดได้อย่างลงตัวค่ะ เดี๋ยวเราค่อยมาดูกันอีกรอบในส่วนของการวิเคราะห์ส่วนผสมนะคะ

ชาเขียวเจจู

(Image from Visitjeju.net)

jeju-e1534227472164-345x222

(Image from Coindesk)

 

เนื้อของโทนเนอร์มาในรูปแบบของน้ำใส สีเหลืองอมเขียวอ่อนๆ ไม่มีกลิ่น

 

music 5

ใช้คู่กับสำลี หลังเช็ดให้ความรู้สึกอุ่นเล็กน้อย เมื่อทิ้งไว้ประมาณ 1 – 3 นาที จะได้สัมผัสที่ค่อนข้างนุ่ม

music 6

สำหรับส่วนผสมเป็นดังนี้นะคะ

สผส music

สำหรับส่วนผสมวันนี้มี่ทำไว้ 4 สีนะคะ ขอเริ่มทีละสีเลยนะคะ

  • สีเขียว น้ำชาเขียว และ ผงชาเขียว ที่ทางแบรนด์เคลมว่าได้มาจากเกาะเชจู ในชาเขียวมีสารในกลุ่มของ Cathechins ซึ่งมีประโยชน์เป็น Antioxidant และประโยชน์อื่นๆ มีงานวิจัยหลายชิ้นที่สนับสนุนถึงการใช้ชาเขียวในทางเครื่องสำอาง สำหรับตัวชาเขียวของแบรนด์นี้ทางผู้ผลิตวัตถุดิบเคลมว่าประกอบด้วยสาร Saponin ที่มีฤทธิ์ในการลดการอักเสบเป็นองค์ประกอบอยู่ด้วย และมีคุณสมบัติในการต่อต้านจุลินทรีย์

green tea

(Image from SkinTalk official website)

  • สีชมพู ถ้าชาเขียวเป็นพระเอกของ Toner นี้ นางเอกในโทนเนอร์คงมีอยู่ 2 คนที่แข่งกัน คือ AHA กับ BHA โดย AHA เป็น Citric acid ที่ได้จากพืชตระกูลส้ม ในความเข้มข้น 0.5% และ BHA เป็นตัว Salicylic acid ในความเข้มข้น 0.2%
    *Note: ปกติในหลายๆรายงานกล่าวว่า BHA จะทำงานผลัดผิวได้ดีและมีประสิทธิภาพในการลดการอุดตันได้มีความเข้มข้นอยู่ที่ราวๆ 0.5-2.0% แต่ผลิตภัณฑ์นี้ทางแบรนด์เคลมว่าผ่านการทดสอบประสิทธิภาพและความปลอดภัยในอาสาสมัครแล้ว และจุดนี้ทางแบรนด์แจ้งว่า เนื่องด้วยมีส่วนผสมทั้ง AHA และBHA รวมกัน จึงเพิ่มคุณสมบัติช่วยในเรื่องของการดูแลปัญหาการอักเสบและการอุดตันของผิว และ มีการระคายเคืองที่ต่ำกว่า โดยสำหรับวิธีใช้ที่ทางแบรนด์แนะนำคือ

    • กรณีผิวปกติหรือผิวมัน สามารถใช้อาทิตย์ละ 3-4 วัน 1 ครั้งในตอนเย็น
    • กรณีผิวแพ้ง่าย สามารถใช้อาทิตย์ละ 2-3 วัน 1 ครั้งในตอนเย็น

 

  • สีฟ้า เป็นกลุ่มของสารเติมน้ำให้ผิว อย่าง Hydrolyzed collagen กับ Betaine ซึ่งตัว Betaine นี้เป็นกรดอะมิโนที่ดัดแปลงมาจาก Glycine ยังมีประโยชน์ในการลดการระคายเคือง และให้สัมผัสที่นุ่มเนียนหลังใช้งาน
  • สีม่วง เป็นสารบำรุงอื่นๆ ซึ่งมีอยู่หลายตัว ทุกตัวทำงานร่วมกันอย่างลงตัวเพื่อดูแลปัญหาด้านความชุ่มชื้น ความมัน การระคายเคือง การสมานแผล และด้านของการต่อต้านจุลินทรีย์

music 1

(Image from SkinTalk official website)

 

ในภาพรวมคือเป็นโทนเนอร์ BHA/AHA ที่เสริมสารบำรุงอื่นๆมารวมกันเพื่อดูแลปัญหาสิว ผิวแห้ง แดง ลอก และระคายเคืองได้อย่างลงตัว

ส่วนผสมอื่นๆที่ทางแบรนด์ใช้ก็เลือกมาเป็นอย่างดี ไม่มีแอลกอฮอล์ น้ำมัน และก็ซิลิโคน

มาให้คะแนนกันดีกว่าค่ะ

  1. สารบำรุง จากที่ได้กล่าวไปด้านบนสารบำรุงหลักคงหนีไม่พ้นชาเขียว ซึ่งมีประโยชน์ที่ดีกับผิวหลายประการ ไม่ว่าจะเป็น Antioxidant, ลดการอักเสบระคายเคือง กระชับรูขุมขนควบคุมความมัน เสริมมาด้วย AHA/BHA ที่ให้ประโยชน์ในเชิงของการเติมน้ำให้ผิว พร้อมลดอุดตันไปพร้อมๆกัน และมีสารบำรุงอีกมากมายที่พร้อมจะดูแลปัญหาผิวได้หลายประการไปพร้อมๆกัน จุดนี้ขอให้ไป 4 ฟลาสก์
  2. ส่วนผสมอื่นๆ ไม่มีส่วนผสมของสารที่ไม่เป็นมิตรกับผิว เลยไม่มีที่ให้หักคะแนน ให้ไป 5 ฟลาสก์
  3. การใช้งาน สำหรับท่านที่ตามเพจมียอนมาสักพักแล้วจะเห็นว่าตัวนี้เคยได้รับมง #ลูกรักบ้านมียอนมาหลายปีซ้อน แต่ในที่สุดนางก็หลุดโผไป เนื่องจากค่อนข้างหาซื้อลำบาก แต่ตอนนี้หาซื้อได้ง่ายขึ้น เพราะมีบริษัทนำเข้ามาจำหน่ายในไทยแล้วแบบถูกต้อง ในด้านของการใช้งาน คือส่วนตัวรู้สึกชอบ Feeling อุ่นๆหลังเช็ด และเมื่อ Feeling อุ่นๆหายไป เหลือไว้แต่ความนุ่ม และนวลเนียนของผิว จุดนี้ให้ไป 5 ฟลาสก์

คะแนน music

สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณทางบริษัท เจ.เอ. เอลลิแก็นซ์ (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทผู้นำเข้าผลิตภัณฑ์เสริมความ เกรดพรีเมี่ยมทั่วโลก ด้วยนะคะ ที่ส่งสินค้าดีๆมาให้มี่ และขอบคุณทุกท่านด้วยค่ะที่ติดตามรับชมมาจนจบ

 

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อสอบถามได้ที่

 

Line : https://lin.ee/mzbiXGL

Line@ : @jaelegantthailand

 

FB: J.A Elegant Thailand – ผู้นำเข้าผลิตภัณฑ์เสริมความงาม เกรดพรีเมี่ยมทั่วโลก

FB : Skintalk Thailand By J.A.Elegant – ผลิตภัณฑ์สำหรับผู้มีปัญหาสิวและผิวหน้า

Shopee : Eelegant Beauty Shop โค้ดส่วนลด 50 บาท สำหรับการสั่งซื้อครั้งแรก

JAELNC000

IG : jaelegant_official

YouTube : J.A.Elegant Official https://www.youtube.com/channel/UCOPLQvKHZo6LJzUnPE-Uubw

WEB: http://www.jaelegantthailand.com

 

 

Disclaimer/conflict of interests: ผลิตภัณฑ์นี้ได้รับมาจากทางบริษัท บริษัท เจ.เอ. เอลลิแก็นซ์ (ประเทศไทย) จำกัด การรีวิวครั้งนี้เป็นการวิเคราะห์ส่วนผสมตามหลักการทางวิทยาศาสตร์เครื่องสำอางและอาศัยความเห็นส่วนบุคคล ผู้เขียนไม่ได้มีผลประโยชน์ใดๆในการขายสินค้าและไม่ได้รับค่าตอบแทนในการรีวิว โปรดใช้วิจารณญาณ

Image

รีวิว/วิเคราะห์ส่วนผสม ครีมหอยทาก Bomul สูตรปรับปรุงใหม่ ผสานพลัง EGF กับ Bomul Snail + EGF repairing natural skin cream

ถ้าย้อนกลับไปเมื่อราวๆ 5 ปีก่อน เมือกหอยทากนี่เรียกได้ว่าเป็นส่วนผสมตัวหนึ่งที่ป๊อบปูลาร์มากๆ ดังเป็นพลุแตก ไม่ว่าจะงานเกา งานไทย ก็มีพี่หอยของเราเป็นตัวชูโรงค่ะ

สำหรับจุดกำเนิดของการใช้เมือกหอยทากในการบำรุงผิวในทางเครื่องสำอางก็มีการศึกษามาหลายปีแล้วเหมือนกัน กว่าจะออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ได้ โดยคุณสมบัติหลักๆของเขาก็คือเน้นไปในเชิงด้านการลดเลือนริ้วรอย ชะลอวัย และช่วยให้ความรู้สึกสบายผิว (Soothing effect)

วันนี้มี่ก็เลยขอหยิบเอาครีมหอยทากแบรนด์ดั้งเดิมแบรนด์หนึ่งจากเกาหลี แบรนด์ Bomul ซึ่งมี่เคยได้รีวิวไว้เมื่อ 5 ปีที่ผ่านมา (ลิงค์ของสูตรเก่าค่ะ >>>Click<<<)

แต่วันนี้ขอหยิบมารีวิวอีกรอบเพราะว่า ทางแบรนด์ปรับสูตรใหม่ให้ดีกว่าเดิม และเพิ่มส่วนผสมของ EGF (หรือ Epidermal growth factor) ลงมาด้วย

น้องมีหน้าตาเป็นแบบนี้ค่ะ

bo 1

ถ้าเทียบกับกระปุกของสูตรเดิม จะเห็นได้ว่าต่างกันอยู่เล็กน้อยนะคะ

bo 2

เนื้อครีมถ้าเทียบกับสูตรเก่าในความทรงจำ รู้สึกว่าจะเบาขึ้น มีกลิ่นหอมอ่อนๆ

bo 3

เกลี่ยได้ง่าย ซึมไว ให้ความรู้สึกเย็น สบายผิว ไม่เหนียวเหนอะหนะ

bo 4

สำหรับส่วนผสมเป็นดังนี้นะคะ

สผส bomul

ในภาพรวมเป็นครีมที่มาในเบสแบบอิมัลชั่นเจล ด้วยส่วนผสมของน้ำ และน้ำมัน ไม่มีส่วนผสมของซิลิโคน และ แอลกอฮอล์ เสริมสารบำรุงมาหลายชนิด ซึ่งวันนี้มี่ทำไว้ 4 สี ที่จะเล่าให้ฟังต่อไปนะคะ

  • เริ่มที่คู่พระเอก/นางเอกของเรา สีชมพู คือ สารสกัดจากเมือกหอยทาก และ sh-oligopeptide-1
    • สารสกัดจากเมือกหอยทาก ในทางเครื่องสำอางผู้ผลิตได้ Claim ไว้หลายๆด้าน เช่น กระตุ้นการสมานแผล ลดรอยแผลเป็น ลดริ้วรอย เพิ่มความชุ่มชื้น ในส่วนของงานวิจัย มีการทดสอบเชิงคลินิกยืนยันอยู่ 2 ชิ้น เกี่ยวกับเรื่องการลดริ้วรอย และการดูแลผิวที่เป็นริ้วรอยก่อนวัยอันควร (เรียกว่า Photoaging) (Cosmetic Dermatology. 2009; 22(5):250 กับ J Drugs Dermatol. 2013;12(4):453-7.)
    • sh-oligopeptide-1 ตัวนี้คือ EGF มีประโยชน์ในการเสริมกระบวนการเจริญของผิวหนัง ลดเลือนริ้วรอย และกระชับรูขุมขน กล่าวถึง EGF มีรายงานการวิจัยสนับสนุนว่า EGF มีคุณสมบัติเพิ่มความหนาแน่นของชั้นผิวในผู้สูงอายุ (J Drugs Dermatol. 2015;14(10):1147-50.) ลดการเกิดสิวและสิวอักเสบ รวมไปถึงเพิ่มความชุ่มชื้นและควบคุมความมันของอาสาสมัคร (Int J Dermatol. 2014;53(8):1031-6.) ลดริ้วรอย กระชับรูขุมขนและปรับ Texture ของผิวให้เรียบเนียนขึ้น (J Drugs Dermatol. 2012;11(5):613-20.)
  • สีเขียว สารสกัดจากเห็ดหูหนูขาว ทางผู้ผลิตวัตถุดิบเคลมว่าเป็น Hyaluron จากพืช มีคุณสมบัติในการเพิ่มความชุ่มชื้นโดยการดูดจับน้ำให้ผิว
  • สีฟ้า เป็นสารบำรุงอื่นๆ ได้แก่
    • Zanthoxylum piperitum fruit extract สารสกัดจาก Anise pepper ข้อมูลจากผู้ผลิตวัตถุดิบกล่าวว่า ประกอบด้วยสารในกลุ่ม triterpenoid, flavonoid และ tannin ให้ความรู้สึกสบายผิว (Soothing effect) และยังมีรายงานว่ามีคุณสมบัติในการระงับเชื้อแบคทีเรียบางชนิด (Biosci Biotechnol Biochem. 2006; 70(6):1423-31.)
    • Pulsatilla koreana extract สารสกัดจากพืชดอกชนิดหนึ่ง มีรายงานเกี่ยวกับฤทธิ์ในการลดการอักเสบ (BMB Rep. 2012; 45(6):371-6.) สารประกอบกลุ่ม Pulsaquinone ที่พบในพืชนี้มีรายงานว่ามีคุณสมบัติในการยับยั้งเชื้อก่อสิวได้ (Arch Pharm Res. 2009; 32(4):489-94.)
    • Usnea barbata extract สารสกัดจาก Lichen ชนิดหนึ่ง มีรายงานว่าสามารถยับยั้งกระบวนการอักเสบที่เกิดขึ้นจากรังสี UV ในเซลล์ผิวหนัง (J Photochem Photobiol B. 2007; 89(1):9-14.) มีสารพฤกษเคมี Usnic acid ที่ให้ผลดีในการต่อต้านเชื้อจุลินทรีย์ ข้อมูลจากผู้ผลิตวัตถุดิบมีระบุทั้งลดการอักเสบ ลดการเกิดสิว และลดกลิ่นกาย

ส่วนที่เหลือจะเป็น Hydrolyzed placental protein ที่มีประโยชน์ในการเติมน้ำ เพิ่มความชุ่มชื้น และ สารสกัดจากข้าว ซึ่งบางสายพันธ์ก็เป็น Antioxidant ที่ดี

สำหรับสีแดง Lanolin เป็นไขมันที่ได้จากขนแกะ เป็นไขมันทีดี มีฤทธิ์ในการปกป้องผิวรักษาความชุ่มชื้น แต่ข้อเสีย คือ ทำให้อุดตันได้ค่อนข้างง่ายในบางราย แต่ส่วนตัวมี่ใช้ได้ไม่ได้มีปัญหาอะไรค่ะ

มาให้คะแนนกันดีกว่า

  1. สารบำรุง ในครีมมีส่วนผสมของสารบำรุงอยู่หลายชนิด ซึ่งมีประโยชน์ต่อผิวหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านความชุ่มชื้น ฟื้นฟูและปรับสภาพผิว ชะลอวัย ริ้วรอย และด้านรูขุมขน อาจจะได้ประโยชน์ในแง่ของการดูแลปัญหาสิวอยู่ด้วย เพราะมีสารบำรุงที่มีประโยชน์ในด้านนี้อยู่ โดยรวมขอให้ไป 5 ฟลาสก์
  2. ส่วนผสมอื่นๆ ตัวเนื้อครีมเป็นเบสแบบอิมัลชั่นเจล มีส่วนผสมของน้ำ สารที่ละลายได้ในน้ำ และ น้ำมัน ไม่มีแอลกอฮอล์ และซิลิโคน รวมถึงสารอื่นที่ไม่เป็นมิตรกับผิว แต่มีส่วนผสมของ Lanolin อาจจะอุดตันได้ในบางคน ซึ่งในสูตรก็มีการแก้มาด้วยสารสกัดที่ดูแลปัญหาสิว ป้องกันมาแล้ว 1 Step และส่วนตัวมี่เองก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร ให้ไป 4 ฟลาสก์
  3. การใช้งาน ส่วนตัวค่อนข้างชอบเนื้อครีม และ Feeling ตอนใช้ครีมตัวนี้ ในช่วงนี้ทางเชียงรายอากาศค่อนข้างแห้งและเย็น ก็มีบ้างที่ครีมตัวนี้ยังชุ่มไม่พอ ต้องหาครีมอื่นมาทับอีกชั้นก่อนนอน แต่คิดว่าในฤดูอื่น น่าจะกำลังเหมาะ สำหรับด้านริ้วรอย ส่วนตัวมี่ช่วงนี้ไม่ได้มีปัญหาในจุดไหนเป็นพิเศษ และระยะเวลาที่ใช้ลองประมาณ 1 เดือน ยังไม่ชัดเจน แต่รู้สึกได้ว่าผิวนุ่มฟู และเรียบเนียนขึ้น จุดนี้ขอให้ 5 ฟลาสก์

คะแนน bo

สำหรับวันนี้ต้องขอขอบคุณทางแบรนด์ Bomul ด้วยนะคะ ที่ยังนึกถึงเพจมียอน และส่งสินค้าดีๆมาให้มี่มีโอกาสได้ทดลองใช้อีกครั้ง และขอบคุณทุกท่านด้วยค่ะที่ติดตามรับชมมาจนจบ

 

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อสอบถามได้กับทางแบรนด์ Bomul ได้เลยค่ะ

https://www.bomulofficial.com/

https://www.facebook.com/bomulofficial/

 

พบกันใหม่โอกาสถัดไป สวัสดีค่ะ

 

Disclaimer/conflict of interests: ผลิตภัณฑ์นี้ได้รับมาจากทางแบรนด์ Bomul การรีวิวครั้งนี้เป็นการวิเคราะห์ส่วนผสมตามหลักการทางวิทยาศาสตร์เครื่องสำอางและอาศัยความเห็นส่วนบุคคล ผู้เขียนไม่ได้มีผลประโยชน์ใดๆในการขายสินค้าและไม่ได้รับค่าตอบแทนในการรีวิว โปรดใช้วิจารณญาณ

Image

รีวิว/วิเคราะห์ส่วนผสม เซรั่ม Whitening ที่มาพร้อมกับการฟื้นฟู Barrier ผิว และดูแลปัญหาด้านริ้วรอย จากเกาหลี กับ GluCA whitening serum

สวัสดีค่ะ

มี่ติดรีวิวเซรั่ม Whitening ตัวหนึ่งไว้ วันนี้ในที่สุดก็ถึงฤกษ์งามยามดีที่จะมารีวิวและวิเคราะห์ส่วนผสมให้ได้ชมกันแล้วค่ะ

เป็นผลิตภัณฑ์จากแบรนด์ GluCA ที่มีชื่อเรียบง่ายว่า Whitening serum ค่ะ

จากความเดิมตอนที่แล้วที่มี่ได้มาเล่าถึงแบรนด์ GluCA ไปว่า นางเป็นเวชสำอางประสิทธิภาพสูงจากเกาหลี ที่มีวางจำหน่ายในคลินิกและโรงพยาบาลผิวหนังชั้นนำของประเทศเกาหลีค่ะ

ซึ่งมี่เองก็มีโอกาสได้รู้จักจากการไปเดินชมงาน K-beauty expo 2019 เมื่อต้นเดือน ก.ค. ที่ผ่านมาค่ะ

ผลิตภัณฑ์จากแบรนด์ GluCA ที่เข้ามาในไทยจะมีด้วยกัน 2 Line นะคะ คือ Line Clinic รุ่นสีฟ้า กับ Line whitening จะเป็นสีเทาค่ะ

โดยวันก่อนมี่ได้รีวิวตัว Essence จากกลุ่ม Clinic ไปแล้วนะคะ ซึ่งถ้าพลาด เพื่อนๆสามารถไปติดตามได้ตามลิงค์นี้เลยค่ะ (>>>Click<<<)

 

สำหรับวันนี้จะมารีวิวตัวเซรั่มจากกลุ่ม Whitening ทั้งกลุ่มจะมีผลิตภัณฑ์อยู่ 5 ชิ้น ได้แก่ โฟมล้างหน้า โทนเนอร์ ครีม อายครีม และ เซรั่มค่ะ

white line.jpg

 

สำหรับตัวเซรั่มจะมีหน้าตาเป็นแบบนี้ค่ะ

Glu 1

ซึ่งจุดเด่นของภาชนะบรรจุคือ นางมีปุ่มล็อคอยู่ด้านหลัง ถ้าปุ่มนี้ล็อคอยู่ (เลื่อนไปทางซ้าย) จะกดเซรั่มออกมาไม่ได้ค่ะ ส่วนตัวมี่ชอบในจุดนี้มากๆ เพราะเวลาเราเดินทาง โหลดไปในกระเป๋า นางก็จะไม่โดนกระแทกจนเลอะเทอะออกมาค่ะ

Glu 3

เนื้อเซรั่มมาในรูปแบบของน้ำนม มีกลิ่นหอมของน้ำมันหอมระเหยตามธรรมชาติ

Glu 4

เกลี่ยได้ค่อนข้างง่าย ซึมซาบไว แห้งไว ยังชุ่มชื้นอยู่แต่ไม่ถึงกับเหนอะหนะ

Glu 5

สำหรับส่วนผสมเป็นดังนี้นะคะ

ส่วนผสม white ใหม่

ในภาพรวมเป็นเซรั่มที่มาในเบสแบบอิมัลชั่น (เบสแบบน้ำนม) มีส่วนผสมของน้ำ และน้ำมัน ร่วมกับซิลิโคนบางชนิด ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์

จากส่วนผสมวันนี้มี่ทำไว้หลายสีเหมือนเช่นเคยนะคะ ขอเปิดประเดิมที่

  • ขอเปิดด้วยสีม่วง อิออน Calcium และ Magnesium ในรูปแบบที่ละลายน้ำได้ ซึ่งสองตัวนี้ทางแบรนด์เคลมเรื่องของเทคโนโลยี Ion balance เพื่อควบคุมสมดุลของ Calcium และ Magnesium ของผิว ซึ่งประโยชน์ของ Calcium ที่มีต่อผิวนั้นมีมากมาย แต่หลักๆคือช่วยให้เซลล์ผิวเจริญเติบโตเปลี่ยนแปลงโครงสร้างและหน้าที่ (Differentiation) เป็นผิวที่โตเต็มวัย

โดย Calcium จะทำงานร่วมกับ Magnesium ในการควบคุมกระบวนการต่างๆ ซึ่งจากข้อมูลพบว่า ในเซลล์ที่มีสุขภาพดี อิออนของ Calcium และ Magnesium จะอยู่ในสภาวะที่สมดุล แต่ถ้าไม่สมดุล เซลล์ก็จะสุขภาพไม่ดี

glu ca mg

สำหรับประโยชน์ของ Calcium ที่ชัดเจนสำหรับผิวหนังก็คือเรื่องการ Differentiation ให้ผิวเราแข็งแรงและสมบูรณ์ ซึ่งรูปนี้อธิบายได้ชัดมากๆค่ะ

glu ca mg 2

  • สีฟ้า เป็นกลุ่มของสารเพิ่มความชุ่มชื้น ผ่านกระบวนการเติมน้ำให้ผิว ซึ่งประกอบด้วย Hyaluron 3 ชนิด ร่วมกับสารสกัดจากน้ำผึ้ง โปรวิตามินบี 5 และ Hydrolyzed collagen
  • สีเขียว คู่ผสมของ Palmitoyl tripeptide-1, Palmitoyl tetrapeptide-7 รู้จักกันในนามของ Matrixyl 3000 (จริงๆใน Matrixyl 3000 มีสารตัวอื่นประกอบด้วย แต่ขอละไว้นะคะ) ซึ่งมีประโยชน์ในการลดเลือนริ้วรอย และมีงานวิจัยรองรับถึงประสิทธิภาพ
  • สีส้ม เป็นไขมันที่ทดแทนให้ผิว โดยตัวสำคัญคือ Ceramide NP หรือ Ceramide 3 ซึ่งตัวเซราไมด์เองมีความสำคัญมากกับความสามารถในการเป็นปราการเพื่อปกป้องผิว เสริมมาด้วย Phytosphingosine ซึ่งเป็นสารตั้งต้นให้ผิวเรานำไปสังเคราะห์ ceramide ได้ และกรดไขมัน Palmitic
  • สีชมพู เป็นกลุ่มของสารบำรุงต่างๆ ได้แก่
    • Niacinamide ซึ่งเป็นรูปแบบหนึ่งของวิตามินบี 3 มีรายงานว่า สารตัวนี้สามารถเป็น Whitening ช่วยปรับสภาพสีผิวให้สม่ำเสมอ โดยไปรบกวนการส่งผ่านของเมลานินที่สร้างเสร็จแล้ว ลดการอักเสบในผิว เพิ่มการไหลเวียนเลือด ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้ผิวโดยไปกระตุ้นการสร้าง Ceramides กรดไขมัน และไขมันชนิดต่างๆในหนังกำพร้า และยังเป็น Antioxidant ด้วย (Int J Cosmet Sci 2005; 27:255–261)
    • สารสกัดพืชมากมายถึง 19 ชนิด โดยมีสารสกัดหลัก 7 ชนิด ซึ่งผ่านการคัดเลือกมาจากฐานข้อมูลของทางแบรนด์ ว่าเป็น Combination ที่ให้ประโยชน์ในเชิง Whitening ได้ดี ได้แก่ สารสกัดจากชาเขียว Centella, Sea buckthorn, Mallow, เจียวกู้หลาน, Alchemilla vulgaris และ Primula veris ซึ่งผ่านการทดสอบแล้วทั้งในระดับหลอดทดลองและในอาสาสมัครว่า มีคุณสมบัติในการลดการสังเคราะห์เมลานินได้

gluca inviro

(Image from GluCA)

 

เราลองมาดูประโยชน์ของสารสกัดและสารบำรุงบางตัวกันดีกว่านะคะ

    • สารสกัดจากชาเขียว มีรายงานวิจัยอยู่ค่อนข้างมาก เช่น เป็น antioxidant เป็น Moisturizer ลดริ้วรอย เพิ่มความยืดหยุ่นให้แก่ผิว (Dermatol Ther. 2013;26(3):267-71.) สารประกอบกลุ่ม Polysaccharide ที่พบในชาช่วยปกป้องผิวจากรังสี UV ได้ และสารประกอบกลุ่ม Polyphenol ยังช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสีได้ (J Agric Food Chem. 2009;57(17):7757-62.)
    • สารสกัดจากเจียวกู้หลาน (Gymnostema pentaphyllum extract) ซึ่งปกติเรามักพบในสูตรชา แต่ในทางเครื่องสำอาง เจียวกู้หลานเป็นพืชที่มีความน่าสนใจเหมือนกัน เพราะมีคุณสมบัติเป็น antioxidant เสริมการทำงานของ Fibroblast และปกป้องผิวจากรังสี UV (ISRN Dermatology Volume 2014, Article ID 202876)
    • Primula veris extract หรือ Cowslip ข้อมูลจากผู้ผลิตวัตถุดิบระบุว่ามีคุณสมบัติในการลดการอักเสบระคายเคือง และเป็น Antioxidant
    • สารสกัดจากคาโมมายล์ ลดการอักเสบระคายเคือง และให้ความรู้สึกสบายผิว
    • Adenosine มีประโยชน์ต่อผิวในด้านของการชะลอวัยและลดเลือนริ้วรอย

 

สำหรับสีแดงที่มีให้ไว้ คือกลุ่มของน้ำมันหอมระเหยจากเปลือกของพืชในตระกูล Citrus อาจจะทำให้เกิดอาการผิวไวต่อแสงได้ในบางคน จึงควรทากันแดดเสมอ หรือ นำผลิตภัณฑ์ไปใช้ในตอนกลางคืน ซึ่งในจุดนี้ส่วนตัวมี่ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรหลังจากใช้ทั้งเช้าและเย็นมาเกือบเดือน และด้วยแพคเกจที่พกพาสะดวก มีตัวล็อคฝา ป้องกันการหกเลอะเทอะในกระเป๋าเดินทางก็เลยชอบที่จะพกพาไปด้วยเวลาเดินทาง

ในภาพรวมถือว่าเป็นเซรั่มที่ทำมาได้น่าสนใจทั้งในด้านของ Package ทั้งส่วนผสม ที่คัดเลือกมาเสริมกันอย่างลงตัว และการเลือกใช้เทคโนโลยี Ion balance ที่เลือกใช้ทั้ง Calcium และ Magnesium มาเสริมกันได้อย่างลงตัว และให้ประโยชน์กับผิวได้หลายอย่าง เพราะไม่ใช่แค่เป็นเซรั่ม Whitening ธรรมดาแต่มีส่วนผสมของสารบำรุงที่ให้ประโยชน์ทั้งด้านผิวแข็งแรง ชุ่มชื้น ชะลอวัย ลดการอักเสบระคายเคือง และดูแลปัญหาด้านริ้วรอยไปพร้อมๆกัน

ให้คะแนน

  1. สารบำรุง ในด้านของสารบำรุง ตามที่กล่าวไปด้านบน ทางแบรนด์เลือกใช้สารบำรุงหลายชนิด มาเสริมกันได้อย่างลงตัว และให้ประโยชน์กับผิวได้หลายอย่าง เพราะไม่ใช่แค่เป็นเซรั่ม Whitening ธรรมดาแต่มีส่วนผสมของสารบำรุงที่ให้ประโยชน์ทั้งด้านผิวแข็งแรง ชุ่มชื้น ชะลอวัย ลดการอักเสบระคายเคือง และดูแลปัญหาด้านริ้วรอยไปพร้อมๆกัน จึงขอให้ 5 ฟลาสก์
  2. ส่วนผสมอื่นๆ มีการใช้น้ำมันหอมระเหยจากพืชในสกุล Citrus ซึ่งอาจจะทำให้เกิดการแพ้แสงได้ในบางราย แต่ส่วนตัวมี่ใช้ทั้งเช้าเย็น ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร จุดนี้ขอให้ 4 ฟลาสก์
  3. การใช้งาน ถึงแม้จะไม่ได้เกี่ยวกับการใช้งานตรงๆ แต่ส่วนตัวชอบแพคเกจมาก ที่มีตัวล็อคฝากด และเนื้อสัมผัสของตัวเซรั่มก็ทำมาได้ค่อนข้างดี ชุ่มชื้น แต่ไม่ถึงกับเหนอะหนะมาก และเรื่องของประสิทธิภาพส่วนตัวมองว่าในด้านของการลดการอักเสบระคายเคือง และช่วยฟื้นฟูให้ผิวมีสุขภาพดีขึ้น ตรงนี้ทำมาได้ประทับใจมากๆ ส่วนเรื่อง Whitening กับ ริ้วรอย ช่วงนี้ยอมรับว่าไม่ได้มีปัญหาในจุดนี้ เลยยังไม่ทราบชัดเจนค่ะ แต่ขอให้คะแนนความพึงพอใจไว้ที่ 5 ฟลาสก์

คะแนน glu

สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณทุกท่านด้วยนะคะที่ติดตามรับชมมาจนจบ แล้วพบกันใหม่โอกาสถัดไป สวัสดีค่ะ

 

Disclaimer/conflict of interests: ผลิตภัณฑ์นี้ซื้อด้วยตนเอง การรีวิวครั้งนี้เป็นการวิเคราะห์ส่วนผสมตามหลักการทางวิทยาศาสตร์เครื่องสำอางและอาศัยความเห็นส่วนบุคคล และผู้เขียนไม่ได้มีผลประโยชน์ใดๆในการขายสินค้า โปรดใช้วิจารณญาณ

Image

รีวิว/วิเคราะห์ส่วนผสมมาส์กหน้าสูตรเฉพาะทางจากโรงพยาบาลศัลยกรรมชั้นนำในเกาหลี Banobagi vita genic jelly mask

สวัสดีค่ะ

วันนี้มี่หยิบเอามาสค์หน้าที่น่าสนใจจากแบรนด์ Banobagi (บาโนบากิ) มารีวิวให้ได้ชมกันค่ะ

เชื่อว่าหลายๆท่านน่าจะเคยได้ยินเกี่ยวกับชื่อ Banobagi มาแล้วนะคะ Banobagi เป็นโรงพยาบาลศัลยกรรมที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งในเกาหลีใต้ค่ะ และทางรพ.เองก็มีเครื่องสำอางออกมากมายหลายชิ้น ซึ่งก็ผ่านการพัฒนาสูตรต่างๆมาโดยทีมแพทย์ผิวหนังของรพ.นั่นเอง

เมื่อตอนมี่ไปชมงาน Cosmaprof ที่ฮ่องกงเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ก็เจอทางรพ.มาออกบูธ โชว์สินค้าด้วยค่ะ

cosma 27

ลองเดินๆเข้าไปชมในบูธ ก็มีสกินแคร์น่าสนใจมากมายหลายรายการเหมือนกันค่ะ

ตอนนี้มีบริษัทในบ้านเรานำเอาสินค้าของแบรนด์ Banobagi มาจำหน่ายใน Watsons แบบถูกต้องตามกฎหมายแล้วนะคะ เรียกได้ว่าไม่ต้องหิ้วไม่ต้องพรี ไม่ต้องเสี่ยงของก๊อป ของเลียนแบบกันอีกต่อไป

ผลิตภัณฑ์ที่มี่จะนำมารีวิวในวันนี้มีชื่อว่า Banobagi Vita Genic Jelly Mask นั่นเองค่ะ ซึ่งเป็นมาสค์ชีทที่มีจุดเด่นอยู่ที่การใช้วิตามินรวมเก็บกักให้อยู่ในรูปแบบของ “ถุงไลโปโซม” เพื่อเสริมความคงตัวและการดูดซึมเข้าสู่ผิวนั่นเองค่ะ และมีเนื้อเซรั่มในรูปแบบของ Jelly จึงทำให้แตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ นอกจากนี้ยังไม่มีสารที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองผิว 11 ชนิดและไม่มีน้ำหอม ตามมาตรฐานของ EWG Green Class จาก USA (ซึ่ง EWG จัดตั้งขึ้นเพื่อปกป้องสุขภาพของมนุษย์และสิ่งแวดล้อม โดยได้จัดทำเว็บไซต์ Skindeep เพื่อเก็บข้อมูลเกี่ยวกับสารเคมีที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพหรือสารเคมีที่ควรเฝ้าระวังว่าอาจจะก่อให้เกิดอันตราย) เหมาะกับทุกสภาพผิว แม้ผิวบอบบางแพ้ง่าย

ตัวมาสค์ Vita genic jelly mask มีด้วยกันทั้งหมด 4 สูตร นะคะ

ba 1.jpg

  • สูตรสีเขียว Relaxing เพื่อความชุ่มชื้นและความสบายผิว ด้วยสารสกัดจาก Aloe vera และสารบำรุงผิวอื่นๆ
  • สูตรสีน้ำเงิน Hydrating เพื่อความชุ่มชื้นและความมีชีวิตชีวา ด้วยน้ำแร่จากเกาะเจจู และสารบำรุงผิวอื่นๆ
  • สูตรสีแดง Lifting เพื่อความกระชับและยืดหยุ่นของผิว ด้วยสารสกัดแคคตัสจากเกาะเจจู และสารบำรุงผิวอื่นๆ
  • สูตรสีเหลือง Whitening เพื่อความกระจ่างใส ด้วยส่วนผสมของสารสกัดจากส้มฮัลลาบองจากเกาะเจจู และสารบำรุงผิวอื่นๆ

 

เนื่องจากส่วนผสมของตัวเนื้อมาสค์ และสารบำรุงจะคล้ายๆกัน แต่จะแตกต่างกันไปตามสารบำรุงหลักของแต่ละสูตร

วันนี้มี่เลยขอหยิบเอาสูตรสีเหลืองที่ชอบที่สุดมาวิเคราะห์ส่วนผสมให้ได้ชมกันนะคะ

ขอแปะรูปแบบชัดๆอีกรูปหนึ่งค่ะ

ba 2

ตัวซองมาสค์ทำมาแบบเก๋ไก๋ในทรงมากกว่าครึ่งวงกลมนิดหน่อย เกือบเต็มวงกลมละอีกนิดนึง

หน้าซองเป็นรูปแคปซูลสีต่างๆ อย่างสูตรนี้ นางก็เป็นแคปซูลสีเหลือง แสดงถึงวิตามินซีจากส้มฮัลลาบองนั่นเองค่ะ

 

ตามชื่อของผลิตภัณฑ์ Jelly mask น้ำมาสค์เป็นแบบเจล ซึ่งค่อนข้างข้นนะคะ สมชื่อ Jelly

ba 3

ข้นเหมือนเจลบำรุงผิวเลย ถ้าเอาเนื้อเจลแบบนี้มาให้ดูแล้วบอกว่าเป็น Sleeping Mask ก็เชื่อเลยล่ะค่ะ

 

ค่า pH ของน้ำมาสค์อยู่ที่ ราวๆ 5 – 6 นะคะ ถือว่าใกล้เคียงกับผิวดี

ba 4

แผ่นมาสค์ไม่หนาไม่บางจนเกินไป กำลังดีเลยค่ะ

นุ่ม เรียบ ละเอียด และแนบสนิทไปกับผิว

ba 5

ซึ่งทางแบรนด์เคลมว่าเป็น Cotton ธรรมชาติ 100% จึงอ่อนโยนและปราศจากสารตกค้างจากการผลิตค่ะ

 

มาดูส่วนผสมกันบ้างนะคะ

สผส bano

จากส่วนผสมวันนี้มี่ทำสีไว้ 2 สีนะคะ

  • สีชมพู เป็นกลุ่มของวิตามินทั้ง 9 ชนิด ได้แก่ วิตามินเอ บี 1 2 3 5 7 9 ซี และ อี เรียกได้ว่าขนกันมาเยอะมาก เรียกได้ว่า บำรุงผิวได้ครบจบทุกปัญหาเลยทีเดียว ทางแบรนด์เคลมว่าวิตามินเหล่านี้เก็บไว้ในระบบนำส่งแบบไลโปโซม เพื่อเพิ่มความคงตัวและการนำส่งวิตามินให้ผิว
  • สีฟ้า เป็นกลุ่มของสารบำรุงอื่นๆ ได้แก่
    • สารสกัดจากส้มฮัลลาบอง ซึ่งเป็นส้มสายพันธุ์พิเศษของเกาะเจจู มีส่วนผสมของสารพฤกษเคมีจากธรรมชาติหลายชนิด และวิตามินมากมาย ทางแบรนด์ได้เคลมว่า มีคุณสมบัติในเชิงด้าน Whitening และเป็น antioxidant ชะลอวัย
    • น้ำตาล Trehalose เป็นน้ำตาลชนิดพิเศษ มีประโยชน์ในเชิงความชุ่มชื้น
    • Adenosine มีประโยชน์ในเชิงด้านของการชะลอวัย ลดเลือนริ้วรอย
    • Carnitine HCl เป็นกรดอะมิโนชนิดพิเศษ เกี่ยวข้องกับการสร้างพลังงานของผิว มีคุณสมบัติเป็น Moisturizer โดยการดึงน้ำเข้าหาตัว มีงานวิจัยกล่าวว่าการทา L-carnitine จะมีผลไปกระตุ้นให้เกิดกระบวนการ เผาผลาญไขมันในเซลล์ Sebocyte ที่ต่อมน้ำมัน มีประโยชน์ในเชิงด้านการควบคุมความมันของผิวหนัง (J Cosmet Dermatol. 2012; 11(1):30-6.)
    • Sodium hyaluronate มีประโยชน์ในการเพิ่มความชุ่มชื้น
    • Dipotassium glycyrrhizate กับ Allantoin มีคุณสมบัติในการลดการระคายเคืองและให้ความรู้สึกสบายผิว

 

ตัวเบสมาในเบสแบบน้ำ ไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน และซิลิโคน

ที่สำคัญยังปราศจากสารที่ไม่เป็นมิตรกับผิว รวมถึงไม่มีน้ำหอมด้วย ดังนั้นผิวแพ้ง่ายก็น่าจะสามารถใช้ได้

 

มาให้คะแนนกันดีกว่านะคะ

  1. สารบำรุง ถ้ามองตามทฤษฎีการใส่วิตามินเหล่านี้ลงไปในเครื่องสำอางก็ให้คุณสมบัติในการบำรุงผิวได้ค่อนข้างครบแล้ว แต่นอกจากวิตามิน ในตัวมาสค์ก็ยังเสริมสารบำรุงอื่นๆลงมาอีก ตัวมาสค์สูตรนี้จึงเด่นไปในเชิง Whitening กับการชะลอวัย นอกจากนี้ก็ยังได้ประโยชน์เรื่องของความมัน การอักเสบ และสิวได้จากกลุ่มของวิตามิน ตัวสารบำรุงถ้ามองจากลำดับ อาจจะดูเหมือนใส่มาน้อยไปหน่อย แต่จริงๆ ความเข้มข้นที่ให้ประโยชน์ (Effective concentration) ของวิตามินมันไม่ได้เยอะมากอยู่แล้ว และส่วนตัวก็ไม่เคยหักคะแนนเรื่องลำดับส่วนผสมใครมาก่อน เพื่อความแฟร์ๆ ก็จัดไป 5 ฟลาสก์
  2. เนื้อหลัก และ ส่วนผสมอื่นๆ เป็นมาสค์ในเบสแบบน้ำ ไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน แอลกอฮอล์ และซิลิโคน และสารอื่นที่ใช้ก็ล้วนแต่เป็นมิตรกับผิว จุดนี้เลยไม่มี่ที่ให้หักคะแนน รับไป 5 ฟลาสก์
  3. การใช้งาน ส่วนตัวมี่ค่อนข้างชอบเนื้อมาสค์นะคะ นางมีความชุ่มชื้นแบบ Intense มากเว่อร์ ด้วยความที่นางมาในเนื้อแบบเจล มาสค์เสร็จเราอาจจะรู้สึกหนักๆผิวหน่อย คนที่มีผิวมันอาจจะไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ แต่คนที่มีผิวแห้งน่าจะชอบฟิลลิ่งหลังมาสค์อยู่ค่ะ จุดนี้ขอให้ 4 ฟลาสก์

 

คะแนน bano

สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณทางแบรนด์ Banobagi ด้วยนะคะ ที่ส่งผลิตภัณฑ์ดีๆมาให้มี่ได้ทดลองใช้ และขอบคุณทุกๆท่านด้วยค่ะที่ติดตามรับชมมาจนจบ

มีจำหน่ายที่ Watsons ทุกสาขาค่ะ สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ทางแบรนด์เลยนะคะ ล่าสุดตอนนี้เห็นจัดโปรลด 50% อยู่ด้วยหล่ะ

FB Fanpage:  Banobagi Thailand – Cosmetic

พบกันใหม่โอกาสถัดไป สวัสดีค่ะ

Disclaimer/conflict of interests: ผลิตภัณฑ์นี้ได้รับมาจากทางแบรนด์ Banobagi การรีวิวครั้งนี้เป็นการวิเคราะห์ส่วนผสมตามหลักการทางวิทยาศาสตร์เครื่องสำอางและอาศัยความเห็นส่วนบุคคล ผู้เขียนไม่ได้มีผลประโยชน์ใดๆในการขายสินค้าและไม่ได้รับค่าตอบแทนในการรีวิว โปรดใช้วิจารณญาณ

Image

รีวิว/วิเคราะห์ส่วนผสมส่วนผสม มาสค์หน้าสูตรเข้มข้นด้วย Super serum ซองสีทอง กับ Skindom super serum mask ภาคสอง สูตร 06 – 09

สวัสดีค่ะ

วันนี้มี่มาอัพเดทมาสค์สูตรใหม่ล่าสุด ในไลน์ Super serum mask ในรุ่นซองสีทอง จาก Skindom ให้ได้ชมกันนะคะ

จากตอนที่แล้วมี่ได้มาเล่าให้ฟังว่า Skindom ได้ออกมาสค์ Super serum mask ซองสีทองออกมา 5 สูตร คือ สูตร 01 – 05 ตามลิงค์นี้นะคะ (>>>Click<<<)

ตอนนี้ทางแบรนด์ปล่อยสูตร 06 – 09 ออกมาอีก 4 สูตรค่ะ เรียกได้ว่า 4 สูตรใหม่นี้มีความน่าสนใจไม่แพ้พี่ๆน้องๆเลยทีเดียว

หน้าตา 4 สูตรใหม่เป็นดังนี้ค่ะ

mask 2

แต่ละสูตรมีจุดเด่นดังนี้นะคะ

  • สูตร 06 Lifting + Whitening กระชับหน้าผิวดีมีออร่า ด้วยส่วนผสมของ Q10 และ Mulberry
  • สูตร 07 ขาวใสดับเบิ้ลคูณสอง ด้วยส่วนผสมของวิตามินบี 3 และ Gold beer
  • สูตร 08 Lifting + Whitening ผิวดูเด็กเปล่งประกาย ด้วยส่วนผสมของสารสกัดจากเซลล์เพาะเลี้ยงขององุ่นและข้าว
  • สูตร 09 Whitening + Lifting ฟื้นฟูผิวเสีย เต่งตึงกระจ่างใสด้วยส่วนผสมของ Red love apple และ น้ำผึ้งป่า

 

ซึ่งมาสค์หน้าในสูตรใหม่นี้ แผ่นมาสค์ยังคงมาในแผ่นบางที่แนบสนิทกับผิวเหมือน 5 สูตรแรกค่ะ

mask

ทางแบรนด์เคลมว่าใช้แผ่น Cotton 100% ที่มีความบางเบาเป็นตัวซับเนื้อมาสค์เอาไว้ค่ะ

 

น้ำมาสค์ข้นคล้ายเจล

tex

pH อยู่ที่ราวๆ 5 ค่ะ ซึ่งถือว่าใกล้เคียงกับผิวดีค่ะ

pH

มี่ขอเลือกสูตรที่ชอบที่สุด คือ สูตร 08 Rice cell + Grape cell มาวิเคราะห์ส่วนผสมในวันนี้นะคะ

ส่วนผสมเป็นดังนี้ค่ะ

สผส 08

มี่ทำสีของส่วนผสมสารบำรุงไว้เป็นสีฟ้านะคะ

จากส่วนผสมจะมีสารบำรุงหลักๆ เป็น สารสกัดจากเซลล์เพาะเลี้ยงของข้าว และ องุ่น ร่วมกับสารที่มีประโยชน์ในการลดการอักเสบระคายเคืองและให้ความรู้สึกสบายผิว อย่าง Betaine, Biosaccharide gum-1 และ Dipotassium glycyrrhizate ค่ะ

กล่าวถึงสารบำรุงหลักซักนิดนะคะ

  1. สารสกัดจากเซลล์เพาะเลี้ยงของข้าว (Oryza sativa callus culture extract) ข้อมูลจากผู้ผลิตวัตถุดิบระบุว่า สารสกัดจากเซลล์เพาะเลี้ยงของข้าวนี้มีประโยชน์ในการเป็น Antioxidant มีคุณสมบัติในการเป็น Whitening ผ่านการยับยั้งเอนไซม์ Tyrosinase และ มีสารกลุ่ม Ceramide ซึ่งช่วยเสริมสร้าง Barrier ช่วยให้ผิวแข็งแรง
  2. สารสกัดจากเซลล์เพาะเลี้ยงขององุ่น (Vitis vinifera callus culture extract) ข้อมูลจากผู้ผลิตวัตถุดิบระบุว่า สารสกัดจากเซลล์เพาะเลี้ยงของข้าวนี้มีประโยชน์ในการเป็น Antioxidant ชะลอวัยป้องกันริ้วรอย และเสริมการสังเคราะห์คอลลาเจนของผิว

 

มาในตัวเบสที่เป็นเบสแบบน้ำ ไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน แอลกอฮอล์ ซิลิโคน น้ำหอม และ สารที่ไม่เป็นมิตรกับผิว

ในภาพรวมจึงถือว่าทำมาได้น่าสนใจค่ะ

มาให้คะแนนกันดีกว่านะคะ วันนี้ส่วนผสมมีไม่มาก เลยขอให้คะแนนเป็น 2 หัวข้อนะคะ

  1. ส่วนผสม ในด้านของสารบำรุงเน้นไปในเชิงการชะลอวัยด้วยสารสกัดจากเซลล์เพาะเลี้ยงของข้าวและองุ่น ร่วมกับสารที่ให้ประโยชน์ในเชิงลดการอักเสบระคายเคือง มีวิตามินบี 3 เสริมมา มาในเบสที่เป็นเบสแบบน้ำ เหมาะกับทุกสภาพผิว และไม่มีส่วนผสมของสารที่ไม่เป็นมิตรกับผิว เลยขอให้ 3.5 ฟลาสก์
  2. การใช้งาน สูตรนี้เรื่องของการใช้งานจะคล้ายๆกับสูตรอื่นๆในไลน์ Super serum mask นะคะ ส่วนตัวมี่ค่อนข้างชอบน้ำมาสค์ของทั้งสองสูตรที่ว่านะคะ ตอนลงผิวจะรู้สึกเย็น สดชื่น ผ่อนคลาย และหลังแกะมาสค์ออกก็จะรู้สึกนุ่มนวล เด้งๆ ไม่แห้ง ไม่ระคายเคือง ให้ไป 5 ฟลาสก์

 

คะแนน

สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณทางแบรนด์ Skindom ด้วยนะคะ ที่ส่งผลิตภัณฑ์ดีๆมามี่ให้ได้ลองใช้นะคะ และขอบคุณทุกท่านด้วยค่ะที่ติดตามรับชมมาจนจบ

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ทางแบรนด์โดยตรงเลยนะคะ

https://www.facebook.com/SkindomThailand/

 

พบกันใหม่โอกาสถัดไป สวัสดีค่ะ

Disclaimer/conflict of interests: ผลิตภัณฑ์นี้ได้รับการสนับสนุนจากทางแบรนด์ Skindom การรีวิวครั้งนี้เป็นการวิเคราะห์ส่วนผสมตามหลักการทางวิทยาศาสตร์เครื่องสำอางและอาศัยความเห็นส่วนบุคคล ผู้เขียนไม่ได้มีผลประโยชน์ใดๆในการขายสินค้าและไม่ได้รับค่าตอบแทนในการรีวิว โปรดใช้วิจารณญาณ

Image

Mini Review>>> Metal cushion รุ่น Cherry blossom collection II

สวัสดีค่ะ

ตอนไปเกาหลีเมื่อช่วง Spring ปีที่แล้ว มี่บังเอิญไปเห็น Metal cushion ของแบรนด์ Isa Knox เขาทำตลับลายดอกซากุระออกมา แล้วที่สำคัญคือเป็นสีม่วง/ชมพู ด้วยความที่มันโดนจริต เลยซื้อมาไว้อันนึง เก็บไว้ในกรุ

สมัยนั้นใช้เบอร์ 23 แต่เบอร์ 23 เป็นตลับเขียว ไม่สวย เลยยอมซื้อเบอร์ 21 ที่เป็นสีม่วงมา กะจะเอามาสะสมเป็นคอลเลคชั่น

Isa Knox นี่เป็นแบรนด์ในเครือ LG คู่แข่งของ Amore Pacific นั่นเองค่ะ

(ปล. นอกเรื่องนิดนึงค่ะ หลังๆได้ยินมาว่าเครื่องสำอางเกาหลีไม่ได้ดีทุกแบรนด์นะ แบรนด์ที่เกรดต่ำและอาจปนเปื้อนสารเคมี ก็มีอยู่ด้วย เลยไม่ค่อยซื้อของไปเรื่อย แต่ไว้ใจเครือ LG เลยจัดมาค่ะ)

 

Isa Knox นางออกสินค้าในตลับน่ารักๆมาหลายชิ้นเหมือนกันนะคะ เห็นแล้วก็อยากได้ (อยากได้ตลับ 55)

อย่างรูปนี้เอามาจากหน้าเว็บค่ะ เป็น Collection ปี 2018 เป็น Cherry blossom collection III (แต่ที่เรามีเป็นรุ่น II)

isa 2018.jpg

(Image from Isa Knox)

 

Collection II ที่มี่ได้มา จงใจเลือกตลับสีม่วงค่ะ

หน้าตาเป็นแบบนี้ค่ะ

isa 1

ตอนแรกกะว่าจะสะสมไปๆมาๆ ก็อยากลองแกะใช้

 

ด้านในก็เหมือน Metal cushion ทั่วไป คือ บรรจุรองพื้นเนื้อครีมในตลับเหล็ก ที่มีรูๆ

isa 2

(พยายามเช็ดแล้วนะ แต่มันยังมีรอยรองพื้นอยู่นิดหน่อย ไม่เป็นไรเนอะ ดูไปเพลินๆ)

 

เวลาเรากดออกมา เนื้อครีมรองพื้นก็จะไหลออกมาตามรูค่ะ

isa 3

ใช้คู่กับ Air Puff ขออภัยในความสกปรกของ Air Puff อิชั้นด้วยนะคะ

 

ตอนแรกก็คิดว่าจะขาววอกเกินไปหรือเปล่า แต่ไม่เลย ผิวมี่ตอนนี้ใช้เบอร์ 21 ได้สบายๆ อาจจะเพราะด้วยหลายสาเหตุ เช่น กางร่มตลอดเวลาออกนอกอาคาร ใช้กันแดดทุกวัน อายุที่เพิ่มขึ้นทำให้เซลล์สร้างเม็ดสีทำงานน้อยลง สกินแคร์ที่เป็น Whitening หลายๆชิ้นที่ได้ทดลองตามที่เคยรีวิวกันไป ฯลฯ

 

เนื้อรองพื้นทำมาได้ดีมาก เหมาะกับอากาศร้อนบ้านเราพอดีเลย ให้ลุคที่ดูแมทท์ ไม่เยิ้ม ไม่แห้งเกินไป ไม่ดรอป สีสวยงาม เข้ากับผิวพอดี แต่จำราคาไม่ได้แล้วหละ ซื้อที่ร้านป้าปากแดงใต้ดินมยองดงค่ะ

 

ลงผิวแขนให้ดูก่อนค่ะ

isa 4

 

ลองลงหน้าให้ดู ถ่ายด้วยแสงธรรมชาติ และแสงแฟลช ค่ะ

isa skin

 

ในภาพรวมคือค่อนข้างเหมาะกับผิวมี่จริงๆค่ะ

พอดีมี่หาส่วนผสมไม่ได้ เลยขอข้ามการวิเคราะห์ส่วนผสมไปนะคะ

 

สำหรับวันนี้คงต้องขอตัวลากันไปเท่านี้ก่อน พบกันใหม่โอกาสถัดไป สวัสดีค่ะ

Disclaimer/conflict of interests: ผลิตภัณฑ์นี้ซื้อด้วยตนเอง การรีวิวครั้งนี้อาศัยความเห็นส่วนบุคคล และผู้เขียนไม่ได้มีผลประโยชน์ใดๆในการขายสินค้า โปรดใช้วิจารณญาณ

Image

รีวิว/วิเคราะห์ส่วนผสมมาสก์หน้าน้องใหม่สุดน่ารักจากเกาหลี กับแบรนด์ Ponybrown Plus Skin Hue Face Mask ภาค 2 แผ่นมาสก์จากถ่านไม้ไผ่สีดำ

สวัสดีค่ะ เมื่อวันก่อนมี่ได้หยิบเอามาสก์หน้าสุดน่ารักจากแบรนด์เกาหลีจากแบรนด์ Ponybrown มารีวิวให้ได้ชมกันไปแล้ว วันนี้เลยขอเอามาสก์ในกลุ่ม Black mask มารีวิวให้ได้ชมกันต่อค่ะ

 

สำหรับใครที่พลาดตอนแรกไป สามารถคลิกลิงค์ด้านล่างนี้  เพื่อกลับไปรับชมภาคแรกได้นะคะ

>>Click เพื่ออ่าน Ponybrown ตอนแรก<<

กล่าวถึงแบรนด์ Ponybrown อีกซักรอบนะคะ

Ponybrown เป็นแบรนด์มาสก์สัญชาติเกาหลี ที่พัฒนาขึ้นมาโดยเน้นส่วนผสมที่เป็นธรรมชาติ และมีประสิทธิภาพ ภายใต้สโลแกน Happy skin, Happy life โดยทางแบรนด์ก็มีความใส่ใจในตัวสินค้า และมีการตรวจสอบความปลอดภัยต่อผิวหนัง หรือ Dermatologically tested จากเยอรมัน และ SGS จากยุโรปค่ะ ซึ่งในกลุ่มทดสอบมีทั้งอาสาสมัครที่มีผิวธรรมดา รวมไปถึงผิวแบบ sensitive และ eczema

 

สำหรับสูตร Black mask มาด้วยกัน 2 สูตร ดังนี้ค่ะ

po 1

สูตรแรก คือ Skin Hue clearing black mask ทางแบรนด์เคลมว่าเป็นมาสก์หน้าจากเส้นใยถ่านไม้ไผ่ธรรมชาติ เสริมด้วยสารสกัดจากพืช 7 ชนิด เพื่อดูแลผิว 7 ประการ ได้แก่ ให้ผิวชุ่มชื้น ลดการระคายเคือง แลดูกระจ่างใส ขจัดสิ่งสกปรกและน้ำมันส่วนเกิน ต่อต้านอนุมูลอิสระ ริ้วรอย และการระคายเคือง

หน้าตาเป็นซองสีดำลายสีเขียวมินท์ค่ะ

po 2

ส่วนอีกสูตรเป็นสูตร Sebum control ซึ่งทางแบรนด์เคลมว่าเป็นมาสก์หน้าจากเส้นใยถ่านไม้ไผ่ธรรมชาติเหมือนกัน มีส่วนผสมของสารบำรุงที่มีประโยชน์ในเรื่องการควบคุมความมันส่วนเกินและให้รูขุมขนแลดูกระชับ

มาในซองสีดำลายสีชมพูโอรสค่ะ

po 3

ตัวแผ่นมาสก์มาในรูปแบบสีดำ แปะแนบสนิทไปกับผิว

po 4

น้ำมาสก์ของสูตรมาสก์ Clearing จะดูข้นกว่าสูตรสีขาวนิดหน่อยค่ะ

po 5

ค่า pH อยู่ที่ราวๆ 6 ซึ่งใกล้เคียงกับผิวดีค่ะ

po 6

ในด้านของส่วนผสม มาสก์ดำนี้เป็นมาสก์ที่มาในเบสน้ำ มีสารบำรุงตัวหลักอยู่คล้ายกัน คือ มีสารสกัดพืชอยู่ 3 ชนิด ร่วมกับน้ำผึ้ง Manuka ที่ทางแบรนด์เรียกว่า Skin rest complex ค่ะ

ประกอบด้วย สารสกัดจาก Rheum undulatum (Rhubarb), Phaseolus radiatus (ถั่วเขียว) และ parsley ค่ะ ซึ่งดูแลเสริมกันและกัน

 

นอกจาก Skin rest complex แล้วก็จะเสริมสารบำรุงอื่นๆตามสูตร

วันนี้ขอยกเอา Skin hue clearing black mask มาเป็นตัวแทนในการวิเคราะห์ส่วนผสมนะคะ

ส่วนผสมเป็นดังนี้

สผส po black

จากส่วนผสมมี่ทำสีของสารบำรุงไว้ด้วยสีฟ้า และ ชมพู นะคะ

  • สารบำรุงสีฟ้า จะเป็น Hyaluron ที่ทางแบรนด์เลือกมาสองขนาด มีประโยชน์ในการเติมน้ำให้กับผิว ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น
  • สารบำรุงสีชมพู ได้แก่
    • สูตรผสม Skin rest complex ของทางแบรนด์ ซึ่งมีประโยชน์ในภาพรวมเชิง Soothing effect ให้ความรู้สึกสบายผิว เพิ่มความชุ่มชื้น และลดความรู้สึกระคายเคือง
    • สารสกัดจากพืชอื่นๆอีก 7 ชนิด ซึ่งทางแบรนด์เคลมเรื่องดูแลผิว 7 ประการ เราลองมาดูกันนะคะ
  1. สารสกัดจาก Scutellaria ตัวนี้มีรายงานว่าประกอบด้วยสารฟลาโวนอยด์ Baicalin กับ wogonin ที่ให้ผลลดการอักเสบในผิว ปกป้องไม่ให้รังสี UV ทำลายคอลลาเจนในผิว โดยไปมีผลยับยั้งไม่ให้เอนไซม์ MMP เพิ่มจำนวนขึ้น (Eur J Pharmacol. 2011; 661(1-3):124-32.)
  2. สารสกัดจาก Polygonum (Japanese knotweed) มีรายงานว่าสารสกัดจากรากต้นนี้มีคุณสมบัติในเชิงการลดการอักเสบระคายเคือง (Evid Based Complement Alternat Med. 2013;2013:208349.)
  3. สารสกัดจากคาโมมายล์ ลดการอักเสบระคายเคือง ให้ความรู้สึกสบายผิว หรือ Soothing
  4. สารสกัดจากบัวบก มีประโยชน์กับผิวหลายอย่าง หลักๆจะไปในเชิงด้านของริ้วรอย
  5. สารสกัดจากชาเขียว เป็น antioxidant ชั้นดี และยังมีประโยชน์ในเชิงการกระชับรูขุมขน
  6. สารสกัดจากโรสแมรี่ เป็น antioxidant และมีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อบางชนิด
  7. สารสกัดจากชะเอม มีประโยชน์ในเชิงการลดการอักเสบระคายเคือง และ Whitening

 

ในส่วนของเบสมาในเบสแบบน้ำ ที่ไม่มีส่วนผสมของสารที่ไม่เป็นมิตรกับผิว

ในภาพรวมถือเป็นมาสก์ที่มีความน่าสนใจ ด้วยส่วนผสมของสารสกัดจากพืชทั้ง 7 ชนิด ร่วมกับ Skin rest complex ของทางแบรนด์ และ Hyaluron 2 ขนาด ที่ให้ประโยชน์ไปในเชิงด้าน Moisturizing, Soothing รวมไปถึงการชะลอวัย ป้องกันริ้วรอย กระชับรูขุมขน ลดการอักเสบระคายเคือง และอาจจะได้ประโยชน์ไปถึงด้าน Whitening เลยทีเดียว

ให้คะแนน

  1. สารบำรุง จากที่ได้กล่าวไปว่ามีส่วนผสมของสารบำรุงหลายชนิด ที่ทำงานเสริมกันในการให้ประโยชน์ไปในเชิง Moisturizing, Soothing ชะลอวัย ป้องกันริ้วรอย กระชับรูขุมขน ลดการอักเสบระคายเคือง และอาจจะได้ประโยชน์ไปถึงด้าน Whitening จุดนี้ถือว่าทำมาได้ค่อนข้างดี ให้ไป 5 ฟลาสก์
  2. ส่วนผสมอื่นๆ เลือกมาได้อย่างดี ไม่มีสารที่ไม่เป็นมิตรกับผิวอยู่เลย ให้ไป 5 ฟลาสก์
  3. การใช้งาน ตัวมาสก์มาในเบสแบบน้ำ เวลาแปะจะรู้สึกเย็น ชุ่มชื้น เมื่อดึงมาสก์ออกจะไม่เหนอะหนะ ไม่เหนียว ด้วยความที่แผ่นมาสก์เป็นแผ่นมาสก์ธรรมชาติจากถ่านไม้ไผ่ ตอนใช้ก็แอบคิดว่ามาสก์จะดูดซับความมันไปจากผิว แล้วทำให้ผิวแห้งไหม แต่หลังจากลองใช้มาทั้ง 2 สูตร ทำมาได้ค่อนข้างดีนะคะ แต่ด้วยความที่นางเป็นเบสน้ำ และมี่มีผิวแห้ง หลังลอกมาสก์ซัก 2 – 3 ชั่วโมง อาจจะต้องเสริม Moisturizer ทับอีกชั้นหนึ่งก่อนไปนอนค่ะ แต่ถ้ามาสก์ตอนเช้าจะดีงามมาก นางจะไม่หนักหน้าและยังทำให้หน้านุ่มฟู แต่งหน้าได้เรียบเนียนขึ้น จุดนี้ขอให้ 4 ฟลาสก์

คะแนน po

สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณทางแบรนด์ Ponybrown ด้วยนะคะที่ส่งผลิตภัณฑ์ดีๆมาให้มี่ได้ทดลองใช้ และขอบคุณทุกท่านด้วยค่ะที่ติดตามรับชมมาจนจบ

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อสอบถามที่ทางแบรนด์ได้โดยตรงเลยนะคะ

Facebook: PonybrownThailand

https://www.facebook.com/PonyBrownTH/

Instagram: PonybrownTH

 

พบกันใหม่โอกาสถัดไป สวัสดีค่ะ

Disclaimer/conflict of interests: ผลิตภัณฑ์นี้ได้รับการสนับสนุนจากทางแบรนด์ การรีวิวครั้งนี้เป็นการวิเคราะห์ส่วนผสมตามหลักการทางวิทยาศาสตร์เครื่องสำอางและอาศัยความเห็นส่วนบุคคล และผู้เขียนไม่ได้มีผลประโยชน์ใดๆในการขายสินค้า โปรดใช้วิจารณญาณ

Image

รีวิว/วิเคราะห์ส่วนผสมมาสก์หน้าน้องใหม่สุดน่ารักจากเกาหลี กับแบรนด์ Ponybrown Plus Skin Hue Face Mask ตอนที่ 1

สวัสดีค่ะ

วันนี้มี่มีรีวิวมาสก์หน้าสุดน่ารักจากแบรนด์เกาหลีจากแบรนด์ Ponybrown มาฝากกันค่ะ

Ponybrown เป็นแบรนด์มาสก์สัญชาติเกาหลี ที่พัฒนาขึ้นมาโดยเน้นส่วนผสมที่เป็นธรรมชาติ และมีประสิทธิภาพ ภายใต้สโลแกน Happy skin, Happy life โดยทางแบรนด์ก็มีความใส่ใจในตัวสินค้า และมีการตรวจสอบความปลอดภัยต่อผิวหนัง หรือ Dermatologically tested จากเยอรมัน และ SGS จากยุโรปค่ะ ซึ่งในกลุ่มทดสอบมีทั้งอาสาสมัครที่มีผิวธรรมดา รวมไปถึงผิวแบบ sensitive และ eczema

มาสก์หน้าในไลน์ Skin Hue ของ Ponybrown มีด้วยกัน 2 กลุ่ม คือ มาสก์หน้าแบบแผ่นขาว และ มาสก์หน้าแบบแผ่นดำ หรือ Black mask ค่ะ

ซึ่งมี่ขอเริ่มรีวิวจากสูตรแผ่นขาว นะคะ

po 1

ในสูตรแผ่นขาว ทางแบรนด์ทำมาด้วยกัน 4 สูตร ค่ะ ได้แก่

รุ่นซองสีฟ้า สูตร Hydrating ทางแบรนด์เคลมว่าเป็นมาสก์หน้าจากเส้นใยไม้ไผ่ มีประโยชน์ในการเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว ด้วยนวัตกรรมที่ชื่อว่า HydromanilTM ค่ะ

po 4

รุ่นซองสีขาวเขียว สูตร Soothing ทางแบรนด์เคลมว่าเป็นมาสก์หน้าจากเส้นใยไม้ไผ่ มีประโยชน์ในการ Soothing หรือให้ความรู้สึกสบายผิว ด้วยสารสกัดจากพืชหลายชนิด

po 3

รุ่นซองสีเขียวมินท์ สูตร Aquaring ทางแบรนด์เคลมว่าเป็นมาสก์หน้าจากเส้นใยผลไม้ มีประโยชน์ในการเสริมความชุ่มชื้น ตัวนี้มี Ceramide อยู่ด้วยค่ะ

po 5

รุ่นซองสีขาวชมพู สูตร Radiance ทางแบรนด์เคลมว่าเป็นมาสก์หน้าจากเส้นใยผลไม้ มีประโยชน์ในเชิงผิวขาวกระจ่างใสค่ะ

po 2

ที่บนซองจะเห็น Mascot ของแบรนด์ คือ น้อง Mariffe นะคะ น่ารักก็ตรงน้องนี่แหละ

แผ่นมาสก์จะมีความบางเบา และแนบสนิทไปกับผิวค่ะ

po 7

น้ำมาสก์เป็นแบบน้ำใส บางเบา ไม่เหนอะหนะ ไม่เหนียว ไม่ลื่น

po 6

ค่า pH ของสูตร Aquaring อยู่ที่ราวๆ  5 – 6 ซึ่งถือว่าใกล้เคียงกับผิวดี

pH po

ในด้านของส่วนผสมในภาพรวมของทั้ง 4 สูตร เป็นมาสก์ที่มาในเบสน้ำ มีสารบำรุงตัวหลักอยู่คล้ายกัน คือ มีสารสกัดพืชอยู่ 3 ชนิด ร่วมกับน้ำผึ้ง Manuka ที่ทางแบรนด์เรียกว่า Skin rest complex ค่ะ

ประกอบด้วย สารสกัดจาก Rheum undulatum (Rhubarb), Phaseolus radiatus (ถั่วเขียว) และ parsley ค่ะ ซึ่งดูแลเสริมกันและกัน

กล่าวถึงสารสกัดจากถั่วเขียว ถั่วเขียวเป็นพืชหนึ่งที่ทางเกาหลีชอบนำมาใช้เป็นส่วนประกอบในเครื่องสำอาง เพราะมีโปรตีน กรดอะมิโน ฟลาโวนอยด์หลายๆชนิด ข้อมูลจากผู้ผลิตวัตถุดิบบอกว่า สารสกัดจากถั่วเขียวสามารถปรับสภาพผิวให้ผิวนุ่มนวลเนียนและกระจ่างใสค่ะ

 

นอกจาก Skin rest complex แล้วก็จะเสริมสารบำรุงอื่นๆตามสูตรค่ะ

 

วันนี้มี่ขอยกส่วนผสมสูตรที่มี่ชอบที่สุดมาเป็นตัวแทนในการวิเคราะห์ส่วนผสมนะคะ

เป็นสูตร Aquaring ค่ะ

ส่วนผสมเป็นดังนี้

สผส po aqua

จากส่วนผสมมี่ทำสีของสารบำรุงไว้ด้วยสีฟ้า เขียว และ ชมพู นะคะ

  • สารบำรุงสีฟ้า คือ Ceramide NP หรือ Ceramide 3 ที่เป็นส่วนหนึ่งของ Barrier ผิว มีประโยชน์ในการทดแทนไขมันคืนให้ผิว
  • สารบำรุงสีเขียว จะเป็น Hyaluron ที่ทางแบรนด์เลือกมาสองขนาด มีประโยชน์ในการเติมน้ำให้กับผิว ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น
  • สารบำรุงสีชมพู ได้แก่
    • สูตรผสม Skin rest complex ของทางแบรนด์ ซึ่งมีประโยชน์ในภาพรวมเชิง Soothing effect ให้ความรู้สึกสบายผิว เพิ่มความชุ่มชื้น และลดความรู้สึกระคายเคือง
    • Coconut water และ Corn flower water ประกอบด้วยวิตามินและสารอาหารหลายชนิด นอกจากคุณสมบัติในด้านความชุ่มชื้นแล้ว ก็อาจจะมีประโยชน์บำรุงผิวจากวิตามินและสารอาหารอื่นๆ รวมไปถึงด้าน Soothing และ การลดการอักเสบระคายเคือง

 

สารส่วนผสมอื่นๆที่ใส่มาก็เลือกมาได้อย่างดี แม้แต่เจ้า Triethanolamine ที่หลังๆไม่ค่อยดี ทางแบรนด์ก็ไม่ใส่ หันไปใส่ Tromethamine ที่มีราคาแพงกว่าแทน

 

ในภาพรวมถือเป็นมาสก์ที่มีความน่าสนใจ ด้วยส่วนผสมของ Hyaluron 2 ขนาด ร่วมกับ Ceramide และสารบำรุงอื่นๆ ที่เด่นไปในเชิงด้าน Moisturizing และ Soothing

 

ถึงเวลาของคะแนนค่ะ

  1. สารบำรุง ถือว่าเป็นมาสค์ที่ทำมาได้ค่อนข้างดีสำหรับคุณสมบัติในด้าน Moisturizing + Soothing แต่ถ้าลองพิจารณาแล้ว สารบำรุงอาจจะยังน้อยชนิดไปหน่อย อาจจะต้องมีสารบำรุงอื่นๆมาประกอบอยู่ จุดนี้ขอให้ 4 ฟลาสก์
  2. ส่วนผสมอื่นๆ ก็ถือว่าเลือกมาได้อย่างดี ไม่มีส่วนผสมของสารที่ไม่เป็นมิตรกับผิว ให้ไป 5 ฟลาสก์
  3. การใช้งาน ตัวมาสก์มาในเบสแบบน้ำ เวลาแปะจะรู้สึกเย็น ชุ่มชื้น เมื่อดึงมาสก์ออกจะไม่เหนอะหนะ ไม่เหนียว แต่ถ้าคนผิวแห้งแบบมี่ หลังลอกมาสก์ซัก 2 – 3 ชั่วโมง อาจจะต้องเสริม Moisturizer ทับอีกชั้นหนึ่ง เพื่อกักเก็บความชื้นจากมาสก์ให้ผิวเรานุ่มฟู จุดนี้ขอให้ 4 ฟลาสก์

 

คะแนน

สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณทางแบรนด์ Ponybrown ด้วยนะคะที่ส่งผลิตภัณฑ์ดีๆมาให้มี่ได้ทดลองใช้ และขอบคุณทุกท่านด้วยค่ะที่ติดตามรับชมมาจนจบ

แล้วเรามาต่อกันกับ Black mask ในภาค 2 นะคะ

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อสอบถามที่ทางแบรนด์ได้โดยตรงเลยนะคะ

Facebook: PonybrownThailand

https://www.facebook.com/PonyBrownTH/

Instagram: PonybrownTH

 

พบกันใหม่โอกาสถัดไป สวัสดีค่ะ

Disclaimer/conflict of interests: ผลิตภัณฑ์นี้ได้รับการสนับสนุนจากทางแบรนด์ การรีวิวครั้งนี้เป็นการวิเคราะห์ส่วนผสมตามหลักการทางวิทยาศาสตร์เครื่องสำอางและอาศัยความเห็นส่วนบุคคล และผู้เขียนไม่ได้มีผลประโยชน์ใดๆในการขายสินค้า โปรดใช้วิจารณญาณ