สวัสดีค่ะ พี่ๆ น้องๆ เพื่อนๆ ที่น่ารักทุกๆ ท่าน
จากคราวก่อนมี่ได้รีวิว Essence ของแบรนด์ T’else ซึ่งเป็นแบรนด์น้องใหม่ในเครือ Neopharm ของเกาหลี ที่มุ่งเน้นการใช้สารสกัดจากธรรมชาติในการบำรุงผิวนะคะ
ถ้าหากท่านใดพลาดไปสามารถไปติดตามรับชมได้ที่ลิงค์นี้ค่ะ >>Click<<
สำหรับวันนี้มี่ได้หยิบยกเอามาสก์ 2 สูตร มารีวิวกันต่อนะคะ
T’else ทำมาสก์ออกมา 2 สูตร คือ สูตร Kombucha teatox essence mask และ สูตร Lavender relief hydrogel mask
มี่ขอเริ่มรีวิวจากตัว Kombucha teatox essence mask ค่ะ นางจะมาในหน้าตาแบบคลีนๆค่ะ ในรูปแบบกล่อง 1 กล่อง จะมีอยู่ 5 ชิ้น
ดีไซน์ซองมาสก์ด้านในจะคล้ายกับตัวกล่อง
ตัวแผ่นมาสก์ค่อนข้างแนบสนิทกับผิว โดยจุดที่น่าสนใจที่ทางแบรนด์เคลมไว้คือ แผ่นมาสก์นี้ได้รับการรับรองว่าเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Eco-friendly) และไม่ระคายเคืองผิว จากองค์กร OEKO-TEX ซึ่งเป็นองค์กรที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่สวิตเซอร์แลนด์ ทำหน้าที่รับรองมาตรฐานรูปแบบต่างๆของอุตสาหกรรมสิ่งทอ (Textile) ค่ะ
ซึ่งมีเกณฑ์ในการรับรองคุณภาพอยู่หลายแบบ หลายด้านนะคะ เช่น การตรวจสอบสารปนเปื้อนในเส้นใย ความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ความรับผิดชอบต่อสังคม ตลอดจนไปถึงวัตถุดิบต่างๆ ต้องมีแหล่งที่มาระบุไว้อย่างชัดเจนค่ะ
และนอกจากนี้ ตัววัสดุที่ใช้ในการผลิตกล่อง ยังได้รับการรับรองจาก FSC ว่าเป็นกระดาษที่ได้จากไม้ปลูก ไม่ทำลายป่า
แผ่นมาสก์ของสูตร Teatox นี้แนบสนิทและกระชับไปกับผิวดีค่ะ
น้ำมาสก์เป็นลักษณะแบบน้ำใส หนืดเล็กน้อย สีน้ำตาลอ่อน คล้ายกับตัว Kombucha teatox essence ที่ได้รีวิวไปค่ะ
อีกจุดหนึ่งที่ทางแบรนด์เคลมคือเรื่องของ Low-pH formula
แต่มี่ลองวัดค่า pH ได้ราวๆ 5 นะคะ ซึ่งกระดาษวัด pH แบบนี้จริงๆ ก็คงแม่นยำสู้เครื่องวัด pH ไม่ได้ และสีของผลิตภัณฑ์เองก็อาจรบกวนการอ่านค่า pH อีก
สำหรับส่วนผสมเป็นดังนี้ค่ะ
สำหรับส่วนผสมจะออกมาคล้ายๆกับตัวเอสเซนส์ที่เคยได้รีวิวไว้ก่อนหน้านี้นะคะ
ในภาพรวมเป็นมาสก์รูปแบบเบสน้ำ ไม่มีส่วนผสมของ Alcohol และ Silicone แต่งกลิ่นด้วยน้ำมันหอมระเหยจากธรรมชาติค่ะ
โดยสูตรมาสก์กับเอสเซนส์จะมีส่วนผสมที่แตกต่างกันเล็กน้อยค่ะ มาดูไปทีละสีเลยนะคะ
- สีเขียว คู่ผสมของ Camellia sinensis leaf extract (14.25%), Saccharomyces ferment filtrate (14.25%) ชุดนี้จะเป็นการหมักชาดำด้วยยีสต์ เพื่อให้ได้ Kombucha โดยตามที่มี่ได้เกริ่นในครั้งก่อนว่า การหมัก Kombucha ของทางแบรนด์จะทำโดยวิธีดั้งเดิม ก่อนจะสกัดด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ค่ะ
(Image from T’else Korea Official Website)
ทีนี้เราลองมาดูงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับ Kombucha โดยสรุปกันอีกรอบนะคะ
- สำหรับทางเครื่องสำอาง ความงามและผิวพรรณ งานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการใช้ Kombucha ตรงๆ ยังมีอยู่จำกัดค่ะ โดยหลักๆ จะเป็นการใช้เพื่อสมานแผล (Wound healing) เช่น การศึกษาประสิทธิภาพของสารสกัด Kombucha ด้วยตัวทำละลาย Ethyl acetate ในการสมานแผลในหนูทดลอง โดยวิธีการฉีดเข้าชั้นหนังแท้ (Intradermal) พบว่า การสมานแผลเกิดได้ไวขึ้นค่ะ (Pakravan et al. J Cosmet Dermatol. 2018;17(6):1216-1224.)
- ส่วนงานวิจัยในด้านของการใช้ Kombucha เพื่อสุขภาพนั้นมีค่อนข้างเยอะค่ะ ส่วนที่นำมาประยุกต์ได้สำหรับผิวพรรณ คือ คุณสมบัติในการต่อต้านอนุมูลอิสระ และการลดการอักเสบระคายเคือง (Villarreal-Soto, et al. J Food Sci. 2018;83(3):580-588.)
- สีชมพู เป็นกลุ่มของ Hyaluron 3 ชนิด ได้แก่ Sodium hyaluronate แบบปกติ Hydrolyzed hyaluronic acid แบบที่ย่อยให้มีขนาดเล็กลง และ Sodium acetylated hyaluronate ที่เด่นด้านการเคลือบปกป้องผิว
- สีฟ้า เป็นสารบำรุงต่างๆ เช่น
- สารสกัดจากคาโมมายล์ ชะเอม สาร Allantoin และ Dipotassium glycyrrhizate ที่มีประโยชน์ในเชิงด้านของการลดการระคายเคือง ให้ความรู้สึกสบายผิว
- สารสกัดจากชาเขียว และ เปลือกส้ม เป็น Antioxidant
- สารสกัดจากโกโก้ ข้อมูลจากผู้ผลิตวัตถุดิบ บริษัท Dermalab Korea ระบุว่า สารสกัดจากโกโก้นี้มีประโยชน์ในเชิงด้านของการเพิ่มความชุ่มชื้น และมีคุณสมบัติในการฟื้นฟูเสริมสร้างผิว (Regenerating agent)
แต่จุดที่น่าเสียดายคือ การใช้น้ำมันหอมระเหยจากผิวของพืชตระกูลส้ม ซึ่งอาจมีโอกาสทำให้ผิวไวต่อแสงได้มากขึ้น แต่ส่วนมากเราใช้มาสก์กันตอนกลางคืน เลยไม่น่าจะห่วงอะไรค่ะ
ต่อมาอีกสูตรจะเป็นสูตรแผ่นมาสก์ Hydrogel สูตร Lavender นะคะ
มีเชื่อเรียกเต็มๆว่า Lavender relief hydrogel mask น้องจะมาในแนวคลีนๆ เช่นกัน แต่สูตรนี้จะคาดสีม่วงค่ะ
ตัวซองด้านในก็ดีไซน์มาคล้ายๆกัน
สำหรับสูตรนี้ความโดดเด่นคงหนีไม่พ้นแผ่นมาสก์อีกแล้วค่ะ แผ่นมาสก์เป็นรูปแบบของ Hydrogel ที่มีความพิเศษตรงผลิตมาให้มี 3 ชั้น และมีการกระจายเองผงดอกลาเวนเดอร์ลงไปในแผ่นเจลด้วยค่ะ
(Image from T’esle Korea Official Website)
ชั้นนอกสุดจะเป็นชั้นของไฮโดรเจล ส่วนชั้นกลางจะเป็นตาข่ายหกเหลี่ยมที่ทางแบรนด์เรียกว่า Mesh net ทำหน้าที่ช่วยพยุงแผ่นไฮโดรเจลเอาไว้ให้คงรูป และชั้นในสุดก็จะเป็นไฮโดรเจลอีกชั้นค่ะ
สิ่งที่ Touch ความรู้สึกมี่มากตอนใช้งานคือความแนบสนิท และความดูดผิว คือ พอเราวางมาสก์บนหน้าปุ๊บ มันจะเกาะผิวปั๊บ ดังนั้นตอนวางคือต้องกะดีๆ ถ้าวางไปแล้วมันจะเลื่อนค่อนข้างยากค่ะ พูดตรงๆ แบบไม่อวย ขอยกให้มาสก์นี้เป็นมาสก์ที่ชอบที่สุดตั้งแต่ได้มาสก์หน้ามาในปี 2020 เลยค่ะ
ในซองจะแยกเป็น 2 ชิ้นมานะคะ คือชิ้นบน สำหรับช่วงหน้าผาก-จมูก และชิ้นล่าง สำหรับช่วงเหนือริมฝีปากลงมาค่ะ ตรงส่วนนี้เป็นภาพหลังใช้เสร็จแล้วเลยอาจจะดูแห้งๆหน่อยนะคะ
ตรงส่วนของจุดๆ สีน้ำตาล นั้นคือ ดอกลาเวนเดอร์จริงๆที่เขาใส่ไปด้วยตอนขึ้นรูปแผ่นไฮโดรเจล ถือเป็นกิมมิคหนึ่งที่มีความน่ารักดีค่ะ ลองซูมให้ดูกันชัดๆนะคะ
ส่วนของน้ำมาสก์ เป็นรูปแบบน้ำใส สีม่วงอมแดง มีกลิ่นหอมในแนวธรรมชาติ
ถ้าดูจากส่วนผสม สีที่เกิดน่าจะเป็นสีธรรมชาติจากผงดอกลาเวนเดอร์ที่เขาใส่ค่ะ เพราะไม่มีส่วนผสมของสีสังเคราะห์
ค่า pH อยู่ที่ราวๆ 5 – 6 นะคะ
มาดูส่วนผสมกันดีกว่านะคะ
ในภาพรวมมาสก์ตัวนี้มาในรูปแบบน้ำใส ไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน แอลกอฮอล์ และซิลิโคนค่ะ
มาดูสารสำคัญในมาสก์นี้กันนะคะ
- สีน้ำตาลเป็นกลุ่มของสารก่อเจลที่ใช้ในการขึ้นรูปมาสก์
- สีฟ้า เป็นกลุ่มของสารที่มีประโยชน์ในการเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว ได้แก่ Hyaluronate, Hydrolyzed collagen และ Panthenol (หรือโปรวิตามินบี 5) โดยตัว Panthenol เองก็มีคุณสมบัติลดการอักเสบระคายเคืองได้ด้วยค่ะ
- สีน้ำเงิน คือ ผงจากดอกลาเวนเดอร์ ที่ใส่ลงไปตอนขึ้นรูปไฮโดรเจล
- สีชมพู เป็นกลุ่มของสารบำรุงอื่นๆ สารสกัดจากผัก ผลไม้ สมุนไพร 11 ชนิด ได้แก่ คาโมมายล์ ตะไคร้ โรสแมรี่ โรสฮิบ บลูเบอร์รี่ Wild thyme, Acai berry, Bilberry, Cranberry, Raspberry และ ผลของดอกที่มีชื่อภาษาจีนว่า Zhi zi (ผลของ Gardenia florida หรือ Cape jasmine)
(Image from T’else Official Website)
จุดนี้ขอเลือกกล่าวเฉพาะตัวที่น่าสนใจนะคะ สารสกัดจากเบอร์รี่รวม 7 ชนิด คือ Acai berry, Blackberry, Black Currant, Blueberry, Cranberry, Raspberry, Strawberry ซึ่งมีคุณสมบัติเด่นในเชิง Antioxidant
- สารสกัดจากผล Gardinia florida หรือ Zhi zi ตัวนี้มีรายงานถึงคุณสมบัติในการต่อต้านอนุมูลอิสระ และการลดการอักเสบระคายเคือง ข้อมูลจากผู้ผลิตวัตถุดิบ บริษัท MoreChem ได้เคลมว่าสารสกัดนี้มีประโยชน์เป็น Antioxidant, ลดการอักเสบระคายเคือง ลดบวม และต่อต้านแบคทีเรียบางชนิด
- สารสกัดจาก Wild thyme ตัวนี้ไม่แน่ใจว่าใช่วัตถุดิบ Cinderella care หรือเปล่า โดยตัวสารนี้ทางผู้ผลิตวัตถุดิบเคลมว่า สารสกัดนี้มีฤทธิ์เป็น Whitening โดยไปยับยั้งโปรตีน Kinesin ที่เกี่ยวข้องกับขั้นตอนการส่งผ่าน Melanosome ที่สร้างเสร็จแล้วไม่ให้ออกมายังผิวชั้นนอก มีข้อมูลทดสอบประสิทธิภาพในอาสาสมัครโดยผู้ผลิตเป็นเวลา 2 สัปดาห์ พบว่า อาสาสมัครที่ได้รับครีมผสมสารสกัดจากไทม์ป่ามีจุดด่างดำที่จางลง
โดยสรุป ในด้านของสารบำรุงในมาสก์สูตรนี้ประกอบด้วยส่วนผสมที่ให้ประโยชน์ต่อผิวหลายด้านไม่ว่าจะเป็นด้านการเป็น Antioxidant คุณสมบัติในการลดการอักเสบระคายเคือง ให้ความรู้สึกสบายผิว ต่อต้านอนุมูลอิสระ และเพิ่มความชุ่มชื้น อาจจะได้ประโยชน์ด้าน Whitening เสริมเข้ามา
มาให้คะแนนกันดีกว่านะคะ
สำหรับตัวแทนในการให้คะแนนในส่วนของมาสก์นี้ มี่ขอเลือกสูตรมาสก์ Lavender มาเป็นตัวแทนนะคะ
- สารบำรุง ประกอบด้วยสารบำรุงหลายชนิด เน้นไปที่ ด้านการเป็น Antioxidant ชะลอวัย ป้องกันริ้วรอย คุณสมบัติในการลดการอักเสบระคายเคือง ให้ความรู้สึกสบายผิว ต่อต้านอนุมูลอิสระ และเพิ่มความชุ่มชื้น รองๆ จะเป็นกลุ่มของพวก Whitening จาก B3 และไทม์ป่า แต่ว่าพูดถึงชื่อมาสก์ คือ Relief เลยคิดว่าด้านของการลดการอักเสบระคายเคือง กับการให้ความรู้สึกผ่อนคลาย และสบายผิว น่าจะเด่นกว่านี้อีกนิดหน่อย จุดนี้ขอให้ 4 ฟลาสก์
- ส่วนผสมอื่นๆ ไม่มีสารที่ไม่เป็นมิตรกับผิว เลยไม่มีที่ให้หักคะแนน รับไป 5 ฟลาสก์
- การใช้งาน เริ่มจากน้ำมาสก์ แม้จะมาในรูปแบบน้ำใส แต่มีความหนืดพอเหมาะ ไม่ไหลเยิ้มเฉอะแฉะ แปะแล้วยั่งมานั่งดูละครชิลล์ๆ ได้ แผ่นมาสก์มีความแนบสนิท และดูดผิวดี ให้ความรู้สึกเย็นและสบายผิว หลังลอกออกผิวยังคงนุ่ม รู้สึกได้ถึงสัมผัสที่ยืดหยุ่นและกระชับ จุดนี้ให้ไป 5 ฟลาสก์
สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณทางแบรนด์ T’else สาขาประเทศไทยด้วยนะคะ ที่ส่งสินค้าใหม่ล่าสุดมาให้มี่ได้ทดลองใช้ และขอบคุณทุกท่านด้วยค่ะที่ติดตามรับชมมาจนจบ สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถสอบถามได้ที่ทางแบรนด์ T’else หรือ เพจ DermArtlogy Thailand ได้โดยตรงเลยนะคะ
https://www.facebook.com/dermArtlogyThailand
สำหรับวันนี้คงต้องลากันไปก่อน พบกันใหม่โอกาสถัดไป สวัสดีค่ะ
Disclaimer/conflict of interests: ผลิตภัณฑ์นี้ได้รับการสนับสนุนจากทางแบรนด์ T’else การรีวิวครั้งนี้เป็นการวิเคราะห์ส่วนผสมตามหลักการทางวิทยาศาสตร์เครื่องสำอางและอาศัยความเห็นส่วนบุคคล และผู้เขียนไม่ได้มีผลประโยชน์ใดๆในการขายสินค้า โปรดใช้วิจารณญาณ