Image

รีวิว/วิเคราะห์ส่วนผสม Dr.Ceuracle Vegan Kombucha tea trial set มาครบทั้ง Essence และ Gel cream

ช่วงก่อนแอบวอแวอยู่กับ สกินแคร์ไลน์ Kombucha ของ Dr.Ceuracle อยู่ซักพักใหญ่ๆ

แบรนด์นี้ได้รับการรับรอง VEGAN CERTIFICATE จาก Korea Agency of Vegan Certification and Services และใช้ส่วนผสมที่ค่อนข้างคลีน

และในที่สุดดิฉันก็ได้มาค่ะ

น้องคือ Beginning set เอามาครบเลยจบๆ ทั้งเอสเซนส์ และเจลครีม

ด้านในจะเป็นเอสเซนส์ขนาด 50 ml และครีมขนาด 30 กรัมค่ะ

เริ่มกันที่ตัวเอสเซนส์เลย

ตัวเอสเซนส์นี่เขาจงใจทำมาให้เป็นแบบ 2 ชั้น (Biphasic) แบบนี้นะคะ

เวลาเขย่าแล้วก็จะเป็นเนื้อเดียวกัน ซึ่งเป็นเนื้อเอสเซนส์แบบน้ำนม

ตัวเอสเซนส์จะฟีลแบบน้ำนม ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม

ดูภายนอกนึกว่าเนื้อจะหนัก แต่เบาสบายผิวมาก เกลี่ยง่าย ให้ความชุ่มชื้นผิวดี

ค่า pH อยู่ที่ 5 – 6 ถือว่าใกล้เคียงกับผิวดี

ส่วนผสมเป็นดังนี้

ตัวเอสเซนส์จะเป็นแบบผสมระหว่างน้ำมัน-น้ำ โดยออกแบบสูตรให้น้ำมันกับน้ำรวมตัวกันบางส่วนที่ผิวบน กลายเป็นน้ำนมลอยอยู่ด้านบน ส่วนล่างจะเป็นเบสน้ำ

ก่อนใช้งานก็เขย่าให้เข้ากัน

ตัวส่วนผสมในภาพรวมก็จะเน้นไปที่ด้านชุ่มชื้นเป็นหลัก เสริมด้วยคุณสมบัติ Antioxidant ธรรมชาติจาก Kombucha และสารสกัดจากพืชต่างๆ

  • Kombucha จะเป็นคู่การหมัก ของ Camellia Sinensis Leaf Extract และ Saccharomyces Ferment Filtrate แบรนด์เคลมว่ามี 78% Vegan tea complex ซึ่ง Kombucha ก็จะมีสารที่เป็น Antioxidant ที่ดี
  • เสริม Antioxidant อีกชั้นจากน้ำชาเขียว

สารสกัดจากพืชอีกหลายชนิด ก็จะเด่นๆ ไปในเชิง Antioxidant เช่น

  • Ulmus davidiana root extract เป็น Antioxidant พร้อมเสริมความชุ่มชื้น และดูแลเรื่องการระคายเคือง
  • ผล Fig เพิ่มความชุ่มชื้น เป็น Antioxidant
  • เมล็ดโกโก้ เป็น Antioxidant
  • Cica (Centella asiatica extract) เป็น Antioxidant + Soothing
  • Schisandra Chinensis Fruit Extract มีเคลมเรื่องผลัดผิว

ดูแลการระคายเคืองด้วย Sunflower oil unsaponifiables ซึ่งจะมีกลุ่มของพวก Phytosterols ที่มีคุณสมบัติในการลดการอักเสบ และเสริม Barrier ผิว ด้วย Ceramide NP หรือ Ceramide 3

เติมน้ำด้วย Hya และมี Polyquaternium-51 เคลือบผิวให้ความชุ่มชื้นอีกชั้น

ถัดมาจะเป็นตัวเจลครีม

เนื้อจะเป็นแบบ กึ่งๆ ครีมๆ เจลๆ ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม

เกลี่ยได้ง่าย ให้สัมผัสลื่นๆ ฟีลเย็นๆ สบายผิว และให้ความชุ่มชื้นดี

ส่วนผสมเป็นดังนี้นะคะ

ในส่วนของส่วนผสมก็จะคล้ายๆ กับตัวเอสเซนส์ แต่มีความแตกต่างตรงสารสกัดจากพืช ที่มีการปรับนิดหน่อย

  • เพิ่มวิตามินบี 3 ที่ดูแลผิวได้หลายด้าน รวมทั้ง Whitening, ดูแลการระคายเคือง เสริมการสังเคราะห์ Barrier ผิว
  • เสริมวิตามินอี ที่เป็น Antioxidant
  • เสริมสารสกัดจากเห็ด Phellinus linteus extract ที่เป็น antioxidant มีข้อมูลงานวิจัยเกาหลีกล่าวถึงคุณสมบัติในด้าน Whitening
  • ใช้ Hydrolyzed hyaluronic acid ที่มีขนาดเล็กลง
  • เพิ่ม Prebiotics เสริมเข้ามา 2 ตัว คือ Fructooligosaccharide + Beta-glucan เอามาจอยๆ กับ Postbiotics จาก Kombucha

ในภาพรวมก็คือทั้งเอสเซนส์ ทั้งเซรั่ม ก็คือดูแลไมโครไบโอมด้วยส่วนผสมจากคอมบูชา ซึ่งเป็นชาดำหมัก ที่มีคุณสมบัติ Antioxidant เสริมมาด้วยสารบำรุงต่างๆ ถ้าเป็นตัวเอสเซนส์ เหมือนจะเด่นที่ soothing + ceramide ส่วนเจลครีมก็เหมือนจะเด่นที่ Whitening และ การมี prebiotics เสริมในสูตร

แนบทางไปช้อปปิ้ง

Beginning set

Lazada https://s.lazada.co.th/s.FebWJ?cc

Shopee https://s.shopee.co.th/5KxZdvwmkD

Essence

Lazada https://s.lazada.co.th/s.Feb9A?cc

Shopee https://s.shopee.co.th/10oaU03KZF

Gel Cream

Lazada https://s.lazada.co.th/s.FebMm?cc

Shopee https://s.shopee.co.th/1g4HHFMWdF

Disclaimer/conflict of interests: ผลิตภัณฑ์นี้ได้รับเป็นของขวัญมาจากตัวแทนจำหน่ายของแบรนด์ Dr.Ceuracle ในไทย การรีวิวครั้งนี้เป็นการวิเคราะห์ส่วนผสม/วัตถุดิบตามหลักการทางวิทยาศาสตร์เครื่องสำอางและอาศัยความเห็นส่วนบุคคล ผู้เขียนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทเครื่องสำอางใดๆ โปรดใช้วิจารณญาณ

Image

รีวิว/วิเคราะห์ส่วนผสมมอยส์บำรุงผิวสูตรปรับใหม่ dermArtlogy Brighten Rejubarrier gel ปรับใหม่ ปรับฉ่ำ นวัตกรรมใหม่ รับ 2025

คุณๆ ยังจำ Radiance gel moisturizer ของ dermArtlogy ได้อยู่ไหมคะ

ทางแบรนด์ปรับสูตรอีกแล้ว คราวนี้ปรับใหญ่ ใช้สารใหม่ล่าสุด นวัตกรรมลึกล้ำเป็นเอกลัษณ์มาก มาดูกัน

ตัวนี้จะเป็นหน้าตาของผลิตภัณฑ์นะคะ ยังคงคุมโทนเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือเปลี่ยนชื่อเป็น Brighten rejubarrier gel

ภายใต้คอนเซปท์ Triple Skin Barrier Booster ด้วย LipomoideTM, AMPamideTM และ MLE® มันคืออะไร เดี๋ยวมีคำอธิบาย

ส่วนนี้เป็นภาพกล่องนะคะ ยังคงคุมโทนอยู่

เนื้อมาในแบบเจลครีม ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม เลยจะได้กลิ่นของวัตถุดิบอยู่

เกลี่ยได้ค่อนข้างง่าย ให้ความรู้สึกเย็น สบายผิว คงความชุ่มชื้นและไม่เหนียวเหนอะหนะ

มาดูส่วนผสมกันนะคะ

ส่วนผสมในภาพรวมมาในเบสแบบครีมเจล ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ ซิลิโคน และไม่มีสารที่ไม่เป็นมิตรกับผิว มีสารบำรุงอยู่หลายชนิดให้ประโยชน์ต่อผิวได้ค่อนข้างกว้าง

เริ่มที่เทคโนโลยี MLE และสารไขมันต่างๆ แทนด้วยอักษรสีน้ำตาล

ส่วนผสมของ MLE จะเป็นคอมบิเนชั่นของสารหลายๆ ชนิด ในสัดส่วนที่เหมาะสม

  • ปกติแล้วในผิวเราจะมีไขมันที่ทำหน้าที่เป็น Barrier ผิว ซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 3 กลุ่ม คือ Ceramide + Cholesterol และ กรดไขมัน ไขมันเหล่านี้มันจะเรียงตัวกันอย่างเป็นระเบียบซึ่งมีด้วยกันหลายรูปผลึก ส่วนหนึ่งเป็นรูปแบบ Liquid crystal
  • เจ้า MLETM นี่เป็นสูตรผสมของ Pseudoceramide (Myristoyl/palmitoyl oxostearamide/arachamide MEA หรือ Ceramide-9S) ร่วมกับ Phytosterol และกรดไขมัน Stearic acid เรียงตัวในรูปแบบที่คล้ายกับ Liquid crystal ของผิว เมื่อดูด้วยกล้องจุลทรรศน์ชนิด Polarized light จะเห็นเป็นเครื่องหมายกากบาท เรียก Maltese cross

(Image from Neopharm)

ด้วยความที่การเรียงตัวเหมือนกันกับ Barrier ผิวเรา เลยมีแนวโน้มว่าทำหน้าที่ปกป้องผิวทดแทน Barrier ของผิว

  • Phytosterols ที่เสริมเข้ามายังมีประโยชน์เพิ่มเติมในด้านการดูแลปัญหาการอักเสบและระคายเคืองของผิวได้อีกทาง
  • นอกจาก MLE ยังมีน้ำมันจากทานตะวัน ที่มีองค์ประกอบของกรดไขมัน Linoleic acid อยู่สูง โดย Linoleic acid มีความสำคัญคือเป็นกรดไขมันจำเป็นที่เราสร้างไม่ได้ ต้องได้รับจากอาหาร หรือการทาภายนอก ตัวมันจะเป็นส่วนประกอบของ Ceramide EOS (Ceramide 1) ที่ทำให้ Barrier ผิวแข็งแรง
  • ถัดมา เป็นไขมัน Glycolipids ชนิดพิเศษ กลุ่ม Sophorolipids ที่ได้จากการหมักยีสต์ Candida bombicola (ชุดส่วนผสม Candida bombicola/glucose/methyl rapeseedate ferment) ตัวนี้ทำงานได้หลายหน้าที่ ทั้งเป็น Glycolipids ที่เป็น moisturizer เป็น surfactant และมีคุณสมบัติในการต่อต้านเชื้อแบคทีเรียบางประเภท

สารบำรุงตัวถัดมาคือ AquatideTM มีบทบาทและประโยชน์ในการเสริมกระบวนการ Autophagy ที่เกิดขึ้นภายในผิว ซึ่งเป็นเสมือนกระบวนการที่ผิวเรารีไซเคิลเอาองค์ประกอบที่มันเสื่อมสภาพมาสร้างและฟื้นฟูเป็นองค์ประกอบใหม่ ให้ผิวเราทำงานได้ดีเหมือนเดิม

สำหรับท่านที่สนใจเรื่อง Aquatide สามารถตามไปอ่านเรื่องของ Aquatide แบบละเอียดได้ที่ลิงค์นี้นะคะ (https://miyeonthereviewer.com/2019/06/11/spotlight-aquatide/)

สารสิทธิบัตรใหม่ที่ dermArtlogy เอามาใช้ในสูตรนี้

ตัวแรก LipomoideTM พัฒนามาเพื่อฟื้นฟู Barrier ผิว ด้วยการกระตุ้นการสังเคราะห์ไขมันที่เป็นองค์ประกอบของ Barrier ผิว ผ่านเอนไซม์ Fatty acid synthase (FAS) สร้าง palmitic acid, Ceramide synthase 1 (CerS1) ที่ช่วยสร้าง Ceramide NP และ NS และ Serine palmitoyltransferase (SPT) ที่เติมกรดไขมัน palmitic ใส่หัวเบสของเซราไมด์ ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญในการสร้างเซราไมด์

พร้อมทั้งเสริมกระบวนการเจริญ (Differentiation) ผ่านการเพิ่ม Loricrin และ Keratin 10 เป็น marker บอกว่าผิวเจริญเต็มวัยแล้ว พร้อมๆ กับเสริมการสร้าง Filaggrin ที่จะกลายเป็น NMF ต่อไป ในขณะเดียวกันก็กระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ด้วย

เรียกได้ตามแบรนด์เคลมว่าเป็นการกระตุ้น 3 ใหม่ คือ ไขมันเกราะผิวใหม่ โปรตีนใหม่ เซลล์ผิวใหม่

นอกจากนี้ยังไปออกฤทธิ์ยับยั้ง Thymic stromal lymphopoietin (TSLP) ซึ่งเป็น Cytokine ชนิดหนึ่ง ออกฤทธิ์คล้าย IL-7 เกี่ยวข้องกับอาการคันในโรคผิวหนังบางประเภท

TSLP สร้างจากเซลล์เยื่อบุ และเซลล์ผิวหนัง (Keratinocyte) ในคนสุขภาพดี TLSP จะไปกระตุ้นให้ Dendritic cells ทำงาน ไปทำให้ T cells เจริญกลายเป็น T-Helper cells (หรือ CD4+ cells) แล้วสร้าง Cytokines ที่เกี่ยวข้องกับการแพ้ เช่น IL-4, IL-5, IL-13 ทำให้เกิดกระบวนการอักเสบและการแพ้จากระบบภูมิคุ้มกัน (Leyva-Castillo, et al. Nat Commun. 2013;4:2847.) 

โดยสาเหตุที่ KC จะสร้าง TSLP ออกมานั้นยังไม่ชัดเจน 1 ในนั้นก็คือเวลา Barrier เสียสมดุล KC จะปล่อยตัวนี้ออกมา (Kumar et al. J Allergy Clin Immunol. 2016;138(5):1461-1464.e6) พอออกมาแล้วก็อักเสบแบบวนลูป ในระยะยาวส่งผลให้เกิดโรคผิวหนังอักเสบ เช่น Atopic dermatitis 

โดยส่วนผสม LipomoideTM นี้ไปยับยั้งการสร้าง TLSP ได้ ทำให้อาการแพ้ การคัน ลดลง

อีกตัวคือ AMPamideTM ที่พัฒนามาจาก Defensamide ให้กล้าแกร่งขึ้นอีกขั้นโดย dermArtlogy เอามาใช้เป็นเจ้าแรกในเครือ Neopharm

เล่าถึง Toll-like receptors (TLRs) นิดหนึ่งค่ะ บนผิวเซลล์ของเราจะมี TLR อยู่ ซึ่ง receptor เหล่านี้เรียกว่าเป็นกลุ่ม pattern recognition receptor ซึ่งคล้ายๆ แบบเซนเซอร์ที่ตรวจจับอะไรบางอย่าง ในที่นี้มันจะตรวจจับสารที่ชื่อสร้าง หรือ สารที่เกิดมาเวลาเซลล์เรามีความเสียหาย พอมันจับกันแล้วระบบ TLR โดนเปิด จะส่งสัญญาณต่อไปให้มีการสร้างพวก Cytokines ที่เกี่ยวข้องกับการอักเสบต่อมา โดยพบว่าในคนที่เป็นสิว นี่เชื้อ C. acnes มันไปกระตุ้น TLR ได้เลยทำให้เกิดกระบวนการอักเสบ หรือ ในกรณีคนไข้ผิวอักเสบ atopic, สะเก็ดเงิน Barrier ผิวจะอ่อนแอ ส่งผลให้พวกสารก่อการแพ้ระคายเคืองลงไปกระตุ้น TLR ได้ เลยเกิดกระบวนการอักเสบต่างๆ (Lai and Gallo, Infect Disord Drug Targets. 2008;8(3):144–155.)

AMPamideTM นี้สามารถลดการทำงานของ TLR ที่ไวเกินไปได้ จึงให้ผลลดการอักเสบ ทั้งการอักเสบที่เกิดอยู่ก่อนหน้า และป้องกันการอักเสบใหม่

ต่อมาจะเป็นคอมบิเนชั่นของ Kappaphycus alvarezii Extract และ Caesalpinia spinosa Fruit Extract ที่เรียกว่า Biopolymers Film มีข้อมูลว่าเป็นการเบลนด์กันระหว่าง Polysaccharide 2 ฟอร์ม คือ galactomannans กับ sulfated galactans ที่จะสามารถก่อฟิล์มและเคลือบบนผิว ฟิล์มนี้ออกแบบด้วยเทคโนโลยีพิเศษ อากาศผ่านเข้าออกได้ (ไม่ occlusive) จึงบางเบาสบายผิว และมีคุณสมบัติให้ความรู้สึกกระชับผิว

แนบท้ายด้วยส่วนผสมเด่นอีกตัวหนึ่งอ่ะ

Epigallocatechin gallatyl glucoside (EGCGG) เป็นอนุพันธ์ของ EGCG จากชาเขียว ที่มีความคงตัวที่ดีขึ้น โดยเติมน้ำตาลลงไป 1 ตัว มีคุณสมบัติหลายๆ อย่างไม่ว่าจะเป็น Antioxidant ปกป้องผิวจากรังสี UV ดูแลการอักเสบระคายเคือง ลดรอยแดง ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ

มีงานวิจัยชิ้นหนึ่งกล่าวถึงการใช้ EGCG glucoside พบว่ามีความคงตัวที่ดี ปกป้องผิวจากรังสี UV สามารถเปลี่ยนกลับเป็น EGCG ได้ โดยอาศัยจุลินทรีย์ในผิว และให้ประโยชน์เป็น Whitening (Boira et al. Molecules 2024, 29(22), 5391)

สารบำรุงอื่นๆ ที่มีความโดดเด่นไม่แพ้กัน

  • Panthenol (โปรวิตามินบี 5) + Niacinamide (วิตามินบี 3) เด่นเรื่องคุณสมบัติในการลดการอักเสบระคายเคืองผิว
  • Symsitive (4-t-butylcyclohexanol) Block ความรู้สึกระคายเคืองผิว ผ่านการลดความไวในการตอบสนองที่ระบบประสาท TRPV-1 ที่รับความรู้สึกร้อน ทำให้เรารู้สึกสบายผิว มีข้อมูลว่าให้ผลลดอาการระคายเคือง แสบ แดง ร้อน ได้ค่อนข้างไว
  • สารสกัดจากรากของ Lithospermum erythrorhizon มีสารที่ชื่อว่า Shikonin ซึ่งมีรายงานการวิจัยกล่าวถึงความสามารถในการต่อต้านอนุมูลอิสระ เสริมความสามารถในการต่อต้านอนุมูลอิสระของผิว ลดการอักเสบระคายเคือง และยังมีคุณสมบัติต่อต้านการเกิด Glycation หรือ การจับกันของน้ำตาลกับโปรตีน ที่จะนำไปสู่ความเสื่อมของผิว (Glynn et al. Exp Dermatol. 2018;27(9):1043-1047.) ข้อมูลจากแบรนด์บอกว่า สามารถลดรอยแดงที่เกิดจากการระคายเคืองได้ใน 1 สัปดาห์
  • Resveratrol เป็น antioxidant (AOX) ตัวหนึ่งที่วงการผิวหนังให้การยอมรับ พบได้ในพืชหลายชนิด รวมถึงในไวน์แดง มีประโยชน์กับผิวหลายประการ และมีงานวิจัยรองรับอยู่หลายฉบับ เช่น มีการทดสอบในคน ด้วย Tape stripping technique พบว่าเมื่อทา Resveratrol ลงบนผิวหนังจะสามารถดูดซึมลงไปยังชั้นล่างๆของ Stratum corneum และให้ผลต่อต้านอนุมูลอิสระยังบริเวณนั้นๆ ได้อยู่ (Arch Dermatol Res. 2017;309(6):423-431.) มีการทดสอบในหนูทดลองพบว่า Resveratrol สามารถลดการสร้างโปรตีนที่เกี่ยวกับการสร้างเม็ดสี Melanin ได้หลายชนิด รวมทั้งยับยั้งการสังเคราะห์ Tyrosinase ได้ด้วย และยังให้ผลลดการสร้างสีผิวหลังจากถูกกระตุ้นด้วยรังสี UVB ได้ (Biomol Ther (Seoul). 2014; 22(1):35-40.)
  • Glutathione ก็เป็น AOX อีกตัวที่วงการผิวหนังให้การยอมรับ นอกจากความสามารถในการต่อต้านอนุมูลอิสระแล้ว น้องยังมีส่วนช่วยให้ผิวเราสร้างเมลานินชนิด Pheomelanin ที่มีสีอ่อนกว่า Eumelanin ซึ่งในภาพรวมจะให้สีผิวที่อ่อนลง
  • Superoxide Dismutase เป็นเอนไซม์ที่ใช้ในการกำจัดอนุมูลอิสระของร่างกายตามธรรมชาติ
  • Beta-glucan จัดเป็นคาร์โบไฮเดรต ที่มีการทดสอบในเซลล์เพาะเลี้ยงพบว่า Beta-glucan ที่สกัดจากข้าวบาร์เลย์มีความสามารถในการเสริมการสมานแผล (Carbohydr Polym. 2019;210:389-398.) การทดสอบในเซลล์เพาะเลี้ยงพบว่า Beta-glucan ที่สกัดจากข้าวโอ๊ตมีประโยชน์ในการเสริมกระบวนการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างและหน้าที่ของเซลล์ผิว ให้โตเต็มวัย ทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์ และฟื้นฟู Barrier ผิว (Int J Biol Macromol. 2021;185:876-889.) ตัว Beta-glucan จัดเป็นสารในกลุ่ม Prebiotic ที่สนับสนุนการเจริญของจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ Probiotic ส่งผลต่อเนื่องไปยังการปรับสมดุลของไมโครไบโอม ซึ่งจะช่วยให้ผิวมีความแข็งแรง
  • Zinc PCA ให้ประโยชน์ในการควบคุมความมัน กระชับรูขุมขน

ให้คะแนน

  1. สารบำรุง คือ ต้องบอกเลยว่าเจลนี้ไม่ธรรมดา โดยสารบำรุงที่ใส่มามีคีย์เด่นๆ 3 ประการ คือ เสริม Barrier แบบแข็งแกร่งมากผ่านหลายกลไก ให้คุณสมบัติลดการระคายเคือง ให้ความรู้สึกสบายผิว Soothing ฉ่ำมาก และ เป็น Whitening ได้ด้วย นอกจากนี้ยังมีประโยชน์ในด้าน Antioxidant ดูแลปัญหาสิว การอุดตัน คุมมัน ดูแลปัญหาริ้วรอยไปอีก คือค่อนข้างครบ รับไป 5 ฟลาสก์
  2. ส่วนผสมอื่นๆ ไม่มีสารที่ไม่เป็นมิตรกับผิว รับไป 5 ฟลาสก์
  3. ความชอบ ในด้านเนื้อสัมผัส เขาทำมาได้ค่อนข้างดี เกลี่ยง่าย ไม่เหนอะหนะ แต่ก็ยังคงความชุ่มชื้น จะมีติก็เรื่องของกลิ่นที่แบบตัวเองรู้สึกว่ากลิ่นของส่วนผสม/วัตถุดิบมันชัดไปหน่อย แต่ก็ไม่เคยหักคะแนนเรื่องกลิ่นอ่ะ ฉันทนได้ เพราะด้านความสบายผิว soothing ถือว่าทำมาได้ดีเลิศ เอาไป 5 ฟลาสก์

สุดท้ายนี้ขอขอบคุณทางแบรนด์ DermArtlogy ด้วยนะคะ ที่ส่งสินค้าดีๆมาให้ได้เปิดหูเปิดตาเห็นนวัตกรรมใหม่ๆ และขอบคุณทุกๆ ท่านที่ติดตามรับชมมาจนจบ

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ทางแบรนด์ DermArtlogy โดยตรงเลยนะคะ

https://www.facebook.com/DermArtlogyThailand/

ส่วนท่านที่สนใจสามารถติดตามไปชอปปิ้งได้ที่ลิงค์ตามนี้เลยนะคะ

Lazada https://s.lazada.co.th/s.uDj0U?cc

Shopee https://s.shopee.co.th/1B7sgkxVRu

Disclaimer/conflict of interests: ผลิตภัณฑ์นี้ได้รับการสนับสนุนจากทางแบรนด์ DermArtlogy การรีวิวครั้งนี้เป็นการวิเคราะห์ส่วนผสมตามหลักการทางวิทยาศาสตร์เครื่องสำอางและอาศัยความเห็นส่วนบุคคล ผู้เขียนไม่ได้มีผลประโยชน์ใดๆในการขายสินค้า โปรดใช้วิจารณญาณ

#dermArtlogy #NEW #Moisturizer #3in1 #สำหรับ #ผิวแพ้ง่าย #ผิวหมองคล้ำ #ผิวขาดความชุ่มชื้น #Lipimoide #AMPamide #Neopharm

Image

วิเคราะห์ส่วนผสมเซรั่ม AcneVit Forte ดูแลสิวแบบเสริม AOX มาพร้อมสารบำรุงฉ่ำ

วันนี้ขอเอาเซรั่มดูแลสิวแบบไม่ต้องมี BHA มาวิเคราะห์ส่วนผสมกันค่ะ

น้องก็คือ Acnevit เจ้าเก่าที่ปรับสูตรใหญ่ มาใหม่ฉ่ำมาก 

กลับมาคราวนี้ มาในสูตร Forte จัดเต็มแบบสับแบบฉ่ำ 

ตัวนี้เป็นหน้าตาสูตรใหม่นะคะ 

ทบทวนความจำกับสูตรเดิมซักหน่อย

พอได้เห็นแล้วบางคนถึงกับร้องอ๋อเลยทีเดียว ตัวนี้ฉันเคยใช้

สูตรใหม่นี้ปรับออกมาได้ค่อนข้างดี ครบ และเหมาะมากในการดูแลปัญหาผิวมันค่ะ ซึ่งเดี๋ยวเราจะมาวิเคราะห์ส่วนผสมกันต่อไปนะคะ

ส่วนนี้จะเป็นตัวกล่องของผลิตภัณฑ์ บนหน้ากล่องก็คือชัดเจน โปร่งใส ใส่อะไรบ้าง กี่%

เปิดกล่องมาน้องจะอยู่ในช่องแบบนี้นะคะ

ปล. อันนี้แอบแกะใช้ไปแล้ว ถ้าเป็นขวดใหม่ ตัววงแหวนสีฟ้าจะติดสนิทค่ะ ก็เหมือนเป็นการการันตีสินค้าอย่างหนึ่ง ว่าสินค้าชิ้นนี้โดนแกะมาก่อนถึงมือเราหรือเปล่า

เนื้อเป็นเซรั่มสีน้ำนม มีกลิ่นเฉพาะตัว ซึ่งเป็นกลิ่นของสารบำรุง/ส่วนผสมในสูตรนะคะ น้องไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม

เกลี่ยได้ง่าย จะมีความเคลือบๆ นิดๆ แต่ไม่ถึงกับเหนอะหนะ

มาดูส่วนผสมกันนะคะ

ในภาพรวมเป็นเซรั่มที่มาในเบสน้ำนม ไม่มีซิลิโคน แอลกอฮอล์ และสารที่ไม่เป็นมิตรกับผิว

ในด้านสารบำรุง เรียกได้ว่าจัดมาค่อนข้างเยอะ

เริ่มด้วย กลุ่มที่ให้ประโยชน์กับสิวก่อนเลย

คอมบิเนชั่นของ Nordihydroguaiaretic Acid และ Oleanolic Acid ร่วมกับสารอื่น มีชื่อว่า AC.NETTM มีเคลมจากผู้ผลิตว่าสามารถยับยั้งการเจริญของจุลินทรีย์ที่เกี่ยวข้องกับสิว ทั้ง C. acnes และ ยีสต์ M. Furfur ที่อาจทำให้รูขุมขนอักเสบ มีผลทดสอบว่าสามารถควบคุมการสร้างน้ำมัน ลดจำนวนสิวในอาสาสมัคร หรือ Sebum ผ่านการยับยั้งเอนไซม์ 5α-reductase ลดการอักเสบระคายเคือง ปรับสมดุลการแบ่งตัวของเซลล์ Keratinocyte ในหนังกำพร้า

คอมบิเนชั่นของ Caprylic/Capric triglycerides กับ Ethyl Linoleate และ Hexylresorcinol คือ Synactin® AC ใส่มาแบบสับที่ 3% ออกฤทธิ์ผ่านหลายๆ กลไก ในการดูแลสิว ไม่ว่าจะเป็น

  1. ควบคุม/ปรับสมดุลการทำงานของต่อมไขมัน
  2. ลดจำนวนแบคทีเรียในต่อมไขมัน
  3. ปรับสมดุลการสร้าง-เจริญ ของ Keratinocyte ในรูขุมขน และ เสริม Barrier ให้แข็งแรง
  4. ลดการอักเสบระคายเคือง
  5. ลดโอกาสเกิดจุดด่างดำหลังสิวหาย ผ่านการลด Post-inflammatory hyperpigmentation

เสริมวิตามินบี 3 เข้ามา 2% ซึ่งมีประโยชน์ต่อผิวหลายประการ

กลุ่มถัดมาเป็นด้าน Whitening ใส่เข้ามาเพื่อดูแลปัญหารอยสิว

ได้แก่ Tranexamic acid (TXA) ใช้ 3% เต็ม max ของการเป็นเครื่องสำอาง มีรายงานว่า TXA สามารถยับยั้ง Plasmin ปกติ Plasmin เป็นตัวตั้งต้นก่อนจะไปกระตุ้นฮอร์โมน α-MSH (Melanocyte stimulating hormone) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ไปกระตุ้นให้ Melanocyte ทำงานเพิ่มขึ้น (J Am Acad Dermatol 2011;October:699-714.) การทดสอบในเซลล์เพาะเลี้ยงพบว่า TXA ไปลดการสร้าง tyrosinase enzyme และโปรตีนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการสร้างเม็ดสี และเสริมกระบวนการ Autophagy ของถุงเก็บเม็ดสี Melanosome ทำให้สีผิวจางลง (J Dermatol Sci. 2017;88(1):96-102.)

ใช้ร่วมกับ Bakuchiol (Sythenol® A) ใส่มา 1% Bakuchiol นี้นอกจากจะให้ประโยชน์แบบวิตามินเอแล้ว แล้วยังมีจุดเด่นอื่นๆ เช่น สามารถต่อต้านเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดสิว (C. acnes) รวมไปถึงเชื้อ Staphylococcus aureus ที่ทำให้เกิดหนอง ยับยั้งเอนไซม์ 5α-reductase ยับยั้งกระบวนการอักเสบผ่านการยับยั้งเอนไซม์ Cyclooxygenase (COX) และ Lipoxygenase ซึ่งถือว่าโดดเด่นไม่เบา

ในด้านสิว มีงานวิจัยเมื่อปี 2021 ทดสอบประสิทธิภาพครีมที่มี Bakuchiol 0.5% ในอาสาสมัครที่เป็นสิว และเป็นรอยดำจากสิว (PIH) โดยให้ทาวันละ 2 ครั้ง เป็นเวลา 12 สัปดาห์ พบว่า จำนวนสิวลดลง รอยดำลดลง (J Drugs Dermatol. 2021;20(3):307-310.)

กลุ่มถัดมาเป็นพวก Antioxidant สารที่ดูแลไมโครไบโอม และส่วนผสมอื่นๆ

ขอเริ่มที่

Acetyl Zingerone (Synoxyl® AZ) จัดมา 1% เป็น Antioxidant ที่น่าสนใจ จัดอยู่ในกลุ่ม Physical quencher ที่สามารถรีไซเคิล ฟื้นฟูตัวเองกลับมาได้เมื่อเจออนุมูลอิสระ ทำให้ได้คุณสมบัติต่อต้านอนุมูลอิสระได้ยาวนาน มีคุณสมบัติในการจับอิออนโลหะ (Ion chelator) ซึ่งเวลามีอิออนโลหะ จะสามารถเหนี่ยวนำให้เกิดอนุมูลอิสระได้ผ่านปฏิกิริยาชื่อ Fenton reaction ปกป้องผิวจากรังสี UV โดยวัดจากจำนวน DNA ที่เสื่อมสภาพกลายเป็น CPD ลดลง ตัวมันเองทนต่อแสง UV ด้วยอีก 1 กรุบ (Photostable)

มีงานวิจัยตีพิมพ์รองรับในวารสาร Antioxidants (Meyer et al., Antioxidants 2023, 12(6), 1168) และส่วนผสมนี้ยังมีข้อมูลจากผู้ผลิตวัตถุดิบว่าเป็นมิตรกับ Microbiome ด้วย

Symsitive (4-butyl resorcinol) ลดความรู้สึกระคายเคืองผิว ผ่านการลดความไวในการตอบสนองที่ระบบประสาทรับความรู้สึกร้อน TRPV-1 ทำให้เรารู้สึกสบายผิว มีการทดสอบประสิทธิภาพของครีมที่มี 4-t-Butylcyclohexanol ในการลดการระคายเคืองของผู้ป่วยที่มีอาการผิวอักเสบบริเวณรอบปาก โดยให้ทาครีมดังกล่าวเป็นเวลา 8 สัปดาห์ พบว่าผู้ป่วยมีอาการดีขึ้น รวมถึงมีค่าความชุ่มชื้น และมีการระเหยของน้ำออกจากผิว (TEWL) ลดลง แสดงให้เห็นว่า Barrier ผิวกลับมามีสุขภาพที่ดีขึ้น (J Cosmet Dermatol. 2020;19(6):1409-1414)

Silymarin (สารสกัดจาก Milk thistle หรือ Silybum marianum extract) ซึ่งมีประโยชน์หลายอย่าง มีหลายรายงานที่พูดถึงคุณสมบัติในการดูแลปัญหาฝ้า

PrebiulinTM FOS เป็นตัวเบลนด์ของ Inulin และ Fructose มีประโยชน์เป็น Prebiotic ที่สนับสนุนการเจริญของจุลินทรีย์เจ้าบ้าน รวมถึงให้ประโยชน์ในด้านความชุ่มชื้น

เสริมมาด้วยสารสกัดจากบัวบก (Centella asiatica extract) ที่ให้ประโยชน์หลายประการ ทั้งด้าน antioxidant สมานแผล ดูแลเรื่องรอยแผลเป็นจากสิว

ในภาพรวมก็คือดูแลสิวได้ครบ ทั้งปรับสมดุลไมโครไบโอม ควบคุมความมัน ดูแลรอยดำ รอยแดง รอยแผลเป็นจากสิว โดยไม่ต้องใช้ BHA ซึ่งอันนี้เป็นจุดเด่นมาก

ให้คะแนน

  1. สารบำรุง ส่วนผสมของสารบำรุงที่ทางแบรนด์เลือกมาเสริมกันได้อย่างลงตัว และดูแลปัญหาสิวได้ครบ จบทั้งหมด ทั้งปรับสมดุลไมโครไบโอม ควบคุมความมัน ดูแลรอยดำ รอยแดง รอยแผลเป็นจากสิว โดยไม่ต้องใช้ BHA คนผิวบอบบางแพ้ง่ายก็น่าจะใช้ได้ ให้ไป 5 ฟลาสก์
  2. ส่วนผสมอื่นๆ ไม่มีส่วนผสมที่ไม่เป็นมิตรกับผิว ให้ไป 5 ฟลาสก์
  3. ความชอบ ส่วนตัวไม่ได้มีปัญหาสิว แต่ก็ใช้หวังผลเรื่อง Antioxidant โดยตัวเองชอบ Synoxyl® AZ อยู่พอควร เลยเอามาใช้ทั้งเช้า-เย็น เนื้อค่อนข้างเบา แทรกลงรูทีนได้ง่าย เรื่องของการคุมมันคิดว่าทำมาได้ดีอยู่ แต่ไม่ถึงกับแห้งจนแห้งเกินไป ให้ไป 5 ฟลาสก์

สุดท้ายนี้ขอขอบคุณทางแบรนด์ Acnevit/Biobalance ประเทศไทย นะคะ ที่ส่งผลิตภัณฑ์ดีๆ มาให้ได้ทดลองใช้ และขอบคุณทุกท่านที่ติดตามรับชมมาจนจบค่ะ

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ทางแบรนด์โดยตรงเลยนะคะ

https://www.facebook.com/BiobalanceOfficialThailand

ทางไปช้อปปิ้ง

แอพส้ม https://s.shopee.co.th/2fvumyvIHZ

แอพฟ้า https://s.lazada.co.th/s.GsqAl?cc

Disclaimer/conflict of interests: ผลิตภัณฑ์นี้ได้รับการสนับสนุนจากทางแบรนด์ การรีวิวครั้งนี้เป็นการวิเคราะห์ส่วนผสม/วัตถุดิบตามหลักการทางวิทยาศาสตร์เครื่องสำอางและอาศัยความเห็นส่วนบุคคล และผู้เขียนไม่ได้ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทเครื่องสำอางใดๆ โปรดใช้วิจารณญาณ

#AcnevitForte

#เซรั่มAoxของคนผิวมันเป็นสิวง่าย

#เซรั่มลดสิวเพื่อผิวบอบบางไม่ง้อAHABHA

#เซรั่มลดสิวไม่ทิ้งรอยAllInOneAcneClear

Image

รีวิว/วิเคราะห์ส่วนผสมกันแดดสูตรใหม่จาก Bioderma รุ่น Photoderm XDefense Ultra-Fluid เนื้อจึ้งมาก มาพร้อมคุณสมบัติปกป้อง+ดีท็อกซ์ผิว

Bioderma ออกกันแดดสูตรใหม่ ดีงามมาก ทั้งเนื้อสัมผัสที่บางเบา ทั้งส่วนผสม

มาในชื่อว่า Photoderm XDefense Ultra-Fluid

มีหน้าตาแบบนี้

ตรงส่วนนี้จะเป็นกล่อง ซึ่งอยากโฟกัสที่บริษัท NAOS Ecobiology ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของแบรนด์ Bioderma และแบรนด์ชั้นนำอย่าง Institut Esthederm และ Etat Pur โดยบริษัทมีความเชี่ยวชาญด้าน Ecobiology หรือ ชีวนิเวศวิทยา คือ ระบบนิเวศน์ของผิว หรือ ไมโครไบโอม มุ่งเน้นสร้างนวัตกรรมที่ส่งเสริมการทำงานของผิวโดยไม่ทำลายสมดุลชีวนิเวศวิทยา คือ ศิลปะแห่งการดูแลการดำรงอยู่ของระบบนิเวศของผิวหนัง โดยการดูแลให้ผิวทำงานได้อย่างถูกต้องเหมาะสม ซึ่งเราจะเห็นว่ากลไกของผลิตภัณฑ์ Bioderma จะมีส่วนที่ช่วยดูแลและปรับสมดุลของไมโครไบโอม ซึ่งเป็นระบบชีวนิเวศวิทยาของผิว

ก่อนใช้งานให้เขย่าขวดก่อนใช้ จะได้เนื้อแบบลิควิด ประมาณนี้

เกลี่ยได้ค่อนข้างง่าย มีกลิ่นหอมจางๆ ให้สัมผัสไม่เหนอะหนะ นุ่มแบบ Dry touch คล้ายแป้ง ซึมไวแห้งไวไม่ทิ้งคราบขาว ใช้งานง่ายไม่เป็นขุย

เก็บภาพด้วยแสงแฟลชอีกภาพ จะเห็นว่าเนื้อค่อนข้างเบา ไม่วาว ไม่ขาว

มาดูส่วนผสมกัน

ส่วนผสมเป็นดังนี้

ในภาพรวมมาในเบสแบบน้ำนม ไม่มีส่วนผสมของซิลิโคน แอลกอฮอล์

สารกันแดดกันได้ครบทั้ง UVA UVB และเสริมสารที่เป็น SPF booster กับตัวที่ช่วยเพิ่มความเสถียรให้ระบบกันแดดในสูตร 

ในด้านของเทคโนโลยีที่แบรนด์เคลม จะมี

  • ANTI-OX ACTIVE ซึ่งเป็น mycosporine like amino acids (MAA) ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากแบคทีเรียในทะเล มีคุณสมบัติ antioxidant ที่ดี ดูดซับรังสี UVA, UVB (Antioxidants (Basel). 2015 Sep 7;4(3):603–646.) และ ปกป้ององค์ประกอบของผิวไม่ให้ถูกทำลายเพราะรังสี UV และน่าจะให้ประโยชน์ยาวไปถึง Infrared, Visible light ไปพร้อมๆ กัน ผ่านการเสริมความสามารถในการเป็น Antioxidant ตามธรรมชาติของผิว
  • Detox Science นวัตกรรมที่ไปเปิดระบบ NRF2 (ชื่อเต็ม Nuclear factor erythroid 2-related factor 2) ซึ่งเป็นระบบ antioxidant ตามธรรมชาติในผิว ที่ทำหน้าที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการ Detox และการเป็น Antioxidant ตามธรรมชาติ โดยระบบนี้ถ้าโดนเปิด จะทำให้มีความสามารถในการเป็น Antioxidant ที่เพิ่มขึ้น โดยไปเพิ่มการสังเคราะห์เอนไซม์ที่เป็น antioxidant ต่างๆ รวมไปถึงให้ผลในการปรับสมดุล และลดกระบวนการอักเสบ ตอบสนองและปกป้องตัวเองจากอันตรายต่างๆ (Stress) (Int J Mol Sci. 2020;21(13):4777.)

ดังนั้นกันแดดนี้จึงให้ประโยชน์ทั้งในการปกป้องและดีท็อกซ์ไปพร้อมๆ กัน

วิเคราะห์ส่วนผสมกัน

กลุ่มสารกันแดด

  • bis-Ethylhexyloxyphenol methoxyphenyl triazine หรือ Tinosorb S เป็นสารกันแดดที่มีความคงตัวดี กรองรังสีได้ในช่วงกว้างทั้ง UVA-UVB
  • Butyl Methoxydibenzoylmethane เด่นกรองรังสี UVA เป็นหลัก
  • Diethylamino hydroxybenzoyl hexyl benzoate หรือ Uvinul A+ เป็นตัวกรอง UVA ที่เด่นเรื่องการปกป้องการเกิดอนุมูลอิสระจากรังสี UV ในผิว มีความคงตัวดี

ส่วนตัวเสริมกันแดดจะมี

  • Ethylhexyl methoxycrylene ตัวนี้จะช่วยกำจัดอนุมูลอิสระ (Singlet oxygen quencher) และตัวมันยังดูดซับรังสี UVA ได้ด้วย
  • Methoxyphenylimino dimethylcyclohexenyl ethyl glycinate ตัวนี้เป็นโมเลกุลจากธรรมชาติพบได้ในสาหร่าย ปกป้องผิวได้จากทั้งรังสี UVA, UVB และบูสท์ค่า SPF ให้ตำรับ

สารบำรุงที่น่าสนใจอีกตัว คือ Trimethoxybenzyl acetylsinapate ตัวนี้เด่นในแง่ของการเป็น Whitening ปรับสมดุลสีผิวให้สม่ำเสมอ โดยมีกลไกการออกฤทธิ์ที่เป็นเอกลักษณ์คือ ไปปรับสมดุลการสังเคราะห์ Dickkopf-1 (DKK1) ซึ่งเป็นโปรตีนที่สร้างจาก Fibroblast สร้างมาแล้วนำส่งสัญญาณไปชั้นหนังกำพร้า ทำให้ลดการเก็บถุงเมลาโนโซมเข้าเซลล์หนังกำพร้า (Keratinocytes), ลดการแบ่งตัวเพิ่มจำนวนและการเจริญของเซลล์สร้างเม็ดสี (Melanocyte) และลดจำนวนของ Melanocyte ทำให้การสร้างเม็ดสีน้อยลง (FASEB J. 2008;22(4):1009-20.)

มีสิทธิบัตรฝรั่งเศส กล่าวถึงการใช้ Trimethoxybenzyl acetylsinapate คู่กับสารกันแดด พบว่าสามารถปกป้องผิวโดยไปเปิดระบบ NRF2 ดังได้กล่าวไปด้านบน ส่งผลให้ผิวมีความสามารถในการป้องกันตัวเองจากอนุมูลอิสระเพิ่มขึ้น (Ref: French patent FR3072023A1)

กลุ่มสารบำรุงอื่นๆ

  • น้ำตาล Rhamnose เป็นน้ำตาลชนิดพิเศษ ที่มีคุณสมบัติในการดูแลการระคายเคืองและให้ความรู้สึกสบายผิว
  • Ectoine เป็นกรดอะมิโนชนิดพิเศษ มีโครงสร้างเป็นวง (Cyclic amino acid) สร้างโดยจุลินทรีย์ที่อาศัยในสภาพแวดล้อมแบบ Extreme เรียก Extremophile เพื่อปกป้องตัวเองจากสภาพแวดล้อมนั้น โดย Ectoine จะดึงน้ำเข้าหาตัวและปกป้องโปรตีนที่เป็นโครงสร้างไม่ให้เสื่อมสภาพและถูกทำลายจากสิ่งแวดล้อม ในทางสกินแคร์ มีข้อมูลว่าการใช้ Ectoine มีประโยชน์ที่ดีต่อผิวหลายอย่าง เช่น เพิ่มความชุ่มชื้น และเสริมความแข็งแรงให้แก่ Barrier ผิว ลดการอักเสบระคายเคือง
    • Combination ของ Ectoine + Mannitol เสริมระบบปกป้องผิวตามธรรมชาติ ซึ่งมีงานวิจัยรองรับอยู่ โดยพบว่า ถ้าฉายรังสี UV ลงไปในเซลล์ ที่มีการใช้คอมบิเนชั่นของ Ectoine + Mannitol ร่วมกับสารกันแดด จะสามารถ 1. ปกป้อง Glutathione ในผิวไม่ให้สลายตัว 2. ปกป้อง DNA ไม่ให้ถูกทำลาย 3. ปกป้องเซลล์ภูมิคุ้มกันชนิด Langerhans ให้ทำงานได้ตามปกติ (Fontbonne et al., J Cosmet Dermatol. 2024;23:308-315)
  • Biosaccharide gum-4 หรือ Glycofilm เรียงตัวเป็นฟิล์มบนผิว ดักจับ และปกป้องผิวจากมลภาวะ
  • o-Cymen-5-ol สารจากธรรมชาติที่พบในใบ Thyme เดิมที่เด่นเรื่องคุณสมบัติในการระงับเชื้อจุลินทรีย์ แต่มีข้อมูลว่าสามารถดูดซับรังสี UV ได้ในบางช่วง และเป็น antioxidant ได้
  • Tocopherol หรือ วิตามินอี เป็น antioxidant ที่ละลายได้ในน้ำมัน

ในภาพรวมก็คือ กันแดดขวดนี้ได้ทั้งปกป้องผิวจากรังสี UV และเสริมคุณสมบัติในการบำรุงผิวหลายๆ ด้าน และปกป้องผิวจากมลภาวะ

มาให้คะแนนกัน

  1. สารบำรุง ตัวสารกันแดด ทำมาได้ค่อนข้างดี กันได้ครบจบทั้ง UVA UVB และเสริม antioxidant รวมไปถึงสารบำรุงอื่นๆ ที่เด่นในด้านกระบวนการ detox และความแข็งแรงทนทานของผิวต่อสภาพแวดล้อม พร้อมทั้งดูแลปัญหาอักเสบระคายเคืองไปพร้อมๆ กัน ให้ไป 5 ฟลาสก์
  2. ส่วนผสมอื่นๆ ไม่มีสารที่ไม่เป็นมิตรกับผิว ได้ไป 5 ฟลาสก์
  3. ความชอบ ปกติพอเราพูดถึงกันแดดที่กัน UV ฉ่ำๆ เรามักจะต้องแลกด้วยความเหนอะหนะของเบส แต่ตัวนี้ทำมาได้ดี โดยไม่ต้องใช้ซิลิโคนและแอลกอฮอล์ รวมทั้งผ่านการทดสอบความเป็นมิตรต่อสิ่งมีชีวิตในท้องทะเล ในด้านเนื้อสัมผัสคือดีเลิศ น่าจะเหมาะกับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะ คนผิวมัน ผิวเป็นสิวง่าย แต่คนผิวแห้งก็ยังสามารถใช้ได้ โดยให้ทาสกินแคร์ให้เรียบร้อยก่อน ส่วนตัวมีผิวผสม-แห้ง ก็ไม่ได้รู้สึกว่าจะแห้งมากขึ้นในช่วงบ่าย ตอนทาก็จะมีกลิ่นหอมอ่อนๆ โดยรวมก็คือชอบมาก ให้ไป 5 ฟลาสก์

สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณทางแบรนด์ Bioderma ประเทศไทย ที่ส่งผลิตภัณฑ์ดีๆ มาให้ได้เปิดหูเปิดตาและทดลองใช้ และขอบคุณทุกท่านที่ติดตามรับชมมาจนจบ

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ทางแบรนด์เลยนะคะ

https://www.facebook.com/BIODERMAInternational/?brand_redir=1583092508403141

ทางไปช้อปปิ้ง

Lazada https://s.lazada.co.th/s.uvi8N

Shopee https://th.shp.ee/CQNyLxg

Disclaimer/conflict of interests: ผลิตภัณฑ์นี้ได้รับการสนับสนุนจากทางแบรนด์ การรีวิวครั้งนี้เป็นการวิเคราะห์ส่วนผสม/วัตถุดิบตามหลักการทางวิทยาศาสตร์เครื่องสำอางและอาศัยความเห็นส่วนบุคคล และผู้เขียนไม่ได้ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทเครื่องสำอางใดๆ โปรดใช้วิจารณญาณ

#Biodermathailand #Photoderm #PhotodermXDefense #กันแดดดีท็อกซ #กันแดดคุมมัน

Image

รีวิว/วิเคราะห์ส่วนผสม Zeroid Pimprove Moisturizer มอยส์เริ่ดๆ soothing ฉ่ำๆ เพื่อคนผิวมัน

สำหรับ Blog นี้ จะหยิบเอามอยส์ที่น่าสนใจสำหรับคนผิวมัน มีแนวโน้มเป็นสิวง่าย มารีวิว/วิเคราะห์ส่วนผสมให้ได้ชมกันนะคะ

ผลิตภัณฑ์วันนี้ก็คือ Zeroid Pimprove moisturizer นั่นเองค่ะ

เนื้อเป็นเนื้อครีม ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม เลยจะได้กลิ่นของวัตถุดิบอยู่จางๆ

เกลี่ยได้ค่อนข้างง่าย ให้สัมผัสเบา เย็น สบายผิว ซึมไวแห้งไวไม่เหนอะหนะ

สำหรับส่วนผสมเป็นดังนี้

ถ้าพูดถึงแบรนด์ในเครือ Neopharm ตัวเทคโนโลยีหลักเลยที่ทุกคนรู้จักและนึกถึงเป็นตัวแรกๆ คือ MLE

ส่วนผสมของ MLE จะเป็นคอมบิเนชั่นของสารหลายๆ ชนิด ในสัดส่วนที่เหมาะสม

  • ปกติแล้วในผิวเราจะมีไขมันที่ทำหน้าที่เป็น Barrier ผิว ซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 3 กลุ่ม คือ Ceramide + Cholesterol และ กรดไขมัน ไขมันเหล่านี้มันจะเรียงตัวกันอย่างเป็นระเบียบซึ่งมีด้วยกันหลายรูปผลึก ส่วนหนึ่งเป็นรูปแบบ Liquid crystal
  • เจ้า MLETM นี่เป็นสูตรผสมของ Pseudoceramide (Myristoyl/palmitoyl oxostearamide/arachamide MEA หรือ Ceramide-9S) ร่วมกับ Phytosterol และกรดไขมัน Stearic acid เรียงตัวในรูปแบบที่คล้ายกับ Liquid crystal ของผิว เมื่อดูด้วยกล้องจุลทรรศน์ชนิด Polarized light จะเห็นเป็นเครื่องหมายกากบาท เรียก Maltese cross

(Image from Zeroid global official website)

ด้วยความที่การเรียงตัวเหมือนกันกับ Barrier ผิวเรา เลยมีแนวโน้มว่าทำหน้าที่ปกป้องผิวทดแทน Barrier ของผิว

ถัดมาจะเป็นตัว RestomideTM

RestomideTM หรือ Oleamide MEA ลดการอักเสบและระคายเคือง ผ่าน Cannabinoid receptor Type 1 (CB1) บนผิว เมื่อจับแล้วส่งผลดังนี้

  1. ลดการปลดปล่อยสารที่ทำให้เกิดกระบวนการอักเสบจาก Keratinocyte (เซลล์ในชั้นหนังกำพร้า)
  2. ลดการแบ่งตัวเพิ่มจำนวนที่ผิดปกติของเซลล์ Ketatinocyte แล้วไปเสริมกระบวนการเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง (Differentiation) กระบวนการนี้ให้ประโยชน์ในการลดการอุดตันของผิวได้ส่วนหนึ่ง
  3. ลดการอักเสบระคายเคือง ผ่านระบบภูมิคุ้มกัน
  4. เมื่อจับกับ CB1 Receptor ที่เส้นประสาท จะให้ประโยชน์ในการลดการนำส่งสัญญาณความเจ็บปวด และความรู้สึกคัน

ส่วนผสมของสารบำรุงอื่นๆ ที่เติมมาได้แก่

  • Beta-glucan ซึ่งเป็น prebiotic มีประโยชน์ในการสนับสนุนการเจริญของจุลินทรีย์ดีๆ หรือ probiotic บนผิว การทดสอบในเซลล์เพาะเลี้ยงพบว่า Beta-glucan ที่สกัดจากข้าวโอ๊ตมีประโยชน์ในการเสริมกระบวนการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างและหน้าที่ของเซลล์ผิว ให้โตเต็มวัย ทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์ และฟื้นฟู Barrier ผิว (Int J Biol Macromol. 2021;185:876-889.)
  • Sodium hyaluronate เติมน้ำ เพิ่มความชุ่มชื้น
  • Allantoin ดูแลการระคายเคือง

มาในเบสครีมที่บางเบา ไม่มีส่วนผสมที่ไม่เป็นมิตรกับผิว

มาให้คะแนนกันดีกว่าค่ะ

  1. สารบำรุง ในภาพรวม จะเป็นมอยส์เจอไรเซอร์ฟื้นฟูความแข็งแรงของ Barrier ผิวด้วยเทคโนโลยี MLE ดูแลการระคายเคือง ด้วย RestomideTM พร้อมทั้งปรับสมดุลการสร้าง-เจริญ-ผลัดทิ้งของเซลล์ในชั้นหนังกำพร้า ซึ่งน่าจะให้ประโยชน์ในการปรับสมดุลลดการอุดตันผิว เนื้อมาแบบบางเบา ไม่เหนอะหนะ จึงเหมาะกับคนผิวมันและมีแนวโน้มเป็นสิวง่าย ถ้ามองเรื่องเสริมชั้นผิวสำหรับคนผิวมัน นี่ว่าโอเคนะ ให้ไป 5 ฟลาสก์
  2. ส่วนผสมอื่นๆ ไม่มีสารที่ไม่เป็นมิตรกับผิว รับไป 5 ฟลาสก์
  3. ความชอบ ส่วนตัวมีผิวผสม-แห้ง มอยส์ตัวนี้ทำมาได้เบาๆ สบายผิว เวลาเกลี่ยจะให้ความรู้สึกเย็น สดชื่น ถ้าวันเบาๆ หรือ หลังอาบน้ำแล้วยังขี้เกียจจัดรูทีนชุดใหญ่ไฟกระพริบ ทาอันนี้ไปพลางๆ สบายผิวดี ให้ไป 5 ฟลาสก์

สุดท้ายนี้ขอขอบคุณทางแบรนด์ Zeroid สาขาประเทศไทยด้วยนะคะ ที่ส่งผลิตภัณฑ์ดีๆ มาให้ได้ทดลองใช้ และขอบคุณทุกท่านค่ะที่ติดตามรับชมมาจนจบ

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ทางแบรนด์ Zeroid โดยตรงเลยนะคะ

Facebook https://www.facebook.com/ZeroidThailand

ทางไปช้อปปิ้ง

ช้อปปี้ https://s.shopee.co.th/3LCFLiL6Rk

ลาซาด้า https://s.lazada.co.th/s.uJrDP?cc

Disclaimer/Conflict of interest: ผลิตภัณฑ์นี้ได้รับการสนับสนุนจากทางแบรนด์ Zeroid การรีวิวครั้งนี้เป็นการวิเคราะห์ส่วนผสมตามหลักการทางวิทยาศาสตร์เครื่องสำอางและอาศัยความเห็นส่วนบุคคล ผู้เขียนไม่ได้มีผลประโยชน์ใดๆในการขายสินค้า โปรดใช้วิจารณญาณ

Image

รีวิว/วิเคราะห์ส่วนผสมเซรั่มเรตินอลสุดปัง Y.O.U Advanced retinol serum ด้วยนวัตกรรมส่วนผสม 2.0% Retinoid complex

รีวิว/วิเคราะห์ส่วนผสมเซรั่มเรตินอลที่น่าสนใจ จาก Y.O.U Advanced retinol serum

โดยในซีรี่ส์นี้ทางดิฉันได้รับเกียรติจากแบรนด์ให้เป็น Product ambassador เอง และมีอีเวนท์เปิดตัวผลิตภัณฑ์ไปเมื่อ 11 มกราคม 2568 ที่ผ่านมานะคะ

ใน Blog นี้ เราจะมาดูความดีงามของเซรั่มตัวนี้กัน

น้องมาในหน้าตาแบบนี้

ซึ่งขวดเป็นขวดปั๊มแบบ Airless ที่จะปกป้องเนื้อสูตรจากอากาศและเพิ่มความคงตัวให้แก่เนื้อสารได้ส่วนหนึ่ง และในการใช้งาน ตัวขวดจะกำหนดปริมาณที่เหมาะสมในการทา คือ 1 ปั๊ม ก็เพียงพอแล้ว

เนื้อเป็นกึ่งๆ เจลครีม

(หมายเหตุ ปริมาณในภาพเป็นเพียงการแสดงให้เห็นเนื้อสัมผัส กดออกมาไม่ถึง 1 ปั๊ม)

เกลี่ยได้ง่าย ซึมไวแห้งไวไม่เหนอะหนะ มีกลิ่นหอมอ่อนๆ

ในด้านของเทคโนโลยีในซีรี่ส์ Advanced retinol นี้ ทางแบรนด์ Y.O.U ทำมาได้ค่อนข้างดี เรามาดูไปทีละประเด็นค่ะ

3X Retinoid complex เป็นการเลือกใช้ Retinoids 3 ฟอร์มมาเบลนด์กัน เพื่อให้ได้ประโยชน์ในการบำรุงได้ยาวนาน ได้แก่ Retinyl palmitate, Retinol และ Hydroxypinacolone retinoate (HPR) 

ภาพด้านล่างทำมาคร่าวๆ นะคะ

ประเด็นถัดมาที่น่าสนใจ คือ ตัว Retinol ที่ทางแบรนด์ใช้เก็บกักในแคปซูลชนิด Multi-layer เพื่อให้ปลดปล่อยเอาเรตินอลออกมาช้าๆ และเพื่อเสริมความคงตัวให้เรตินอล

หน้าตาแคปซูลประมาณนี้

การเก็บกักด้วยแคปซูลนี้ยังมีประโยชน์ในการเสริมการดูดซึม โดยทางแบรนด์ได้ทดสอบในผิวหนังมนุษย์ที่ตัดออกมาเลี้ยงในห้องทดลอง

อาสาสมัครหญิง อายุ 37 ปี

ทาตำรับ 3 ชนิด คือ ตำรับที่มีเรตินอล เซรั่ม Y.O.U และ ครีมเบส (Negative control) เป็นเวลา 8 ชั่วโมงตรวจหา Retinol ด้วยเทคนิค Raman spectroscopy 

สีน้ำเงิน คือ มี Retinol น้อย สีเข้าใกล้แดง คือ มี Retinol อยู่สูง

ก็เจอว่าเซรั่ม Y.O.U ดูดซึมได้ค่อนข้างดี

ส่วนผสมทั้งหมดเป็นดังนี้

ในภาพรวมเรียกได้ว่าสารบำรุงจัดมาค่อนข้างเต็ม และค่อนข้างครบสำหรับการเป็นเซรั่มสำหรับชะลอวัยที่ดีสักชิ้น

รายละเอียดสารบำรุงแต่ละตัวเป็นดังนี้

เริ่มที่กลุ่มของเรตินอล มีด้วยกัน 3 ฟอร์ม ดังเคลม 3X Retinoid complex ตามที่ได้นำเสนอไปด้านบน

  • Retinyl palmitate เป็นเรตินอลเอสเทอร์ ที่จับกับกรดไขมัน palmitic เวลาลงผิว ผิวเราจะย่อย ได้เป็น Retinol หรือ อาจจะเก็บไว้ก่อนก็ได้
  • Retinol ตัวนี้ทางแบรนด์เคลมว่ามาในรูปแบบของไมโครแคปซูล เพื่อปกป้องไม่ให้น้องสลายตัว เรตินอลนี้เวลาจะออกฤทธิ์ต้องแปรสภาพ อารมณ์แบบ กลายร่าง 2 ขั้นตอนก่อน ก็จะใช้เวลานิดหน่อย ตั้งแต่ค่อยๆ ปล่อยออกมาจากแคปซูล จนค่อยๆ เปลี่ยนรูปไปก่อนออกฤทธิ์
  • Hydroxypinacolone retinoate หรือ HPR อันนี้พอจะมีข้อมูลอยู่ว่าออกฤทธิ์ได้เลย และประสิทธิภาพก็ไม่เบา พร้อมทั้งมีการระคายเคืองต่ำ

ประโยชน์ของเรตินอลในด้านเครื่องสำอาง ค่อนข้างกว้าง ทั้งในด้านของสิว ริ้วรอย ปรับสมดุลการสร้าง-เจริญ-ผลัดผิว เป็นที่ยอมรับในวงการ และมีงานวิจัยสนับสนุนค่อนข้างมากว่ามีประโยชน์

ขอยกมา 1 งานวิจัยที่ตัวเองรู้สึกชอบ และค่อนข้างชัดเจน ครอบคลุม คือ งานวิจัยของ Shao และคณะ เมื่อปี 2017 (Shao et al., Int J Cosmet Sci. 2017;39(1):56-65.) ตีพิมพ์ลงในวารสาร International Journal of Cosmetic Science ใช้อาสาสมัครที่มีอายุเฉลี่ย 76 ปี จำนวน 12 คน ให้ทาเรตินอล 0.4% ลงบริเวณก้น ซึ่งเป็นบริเวณที่ไม่โดนแสงเลย เป็นเวลา 7 วัน เทียบกับผลิตภัณฑ์เบส เพื่อตัดผลรบกวนจาก UV ในการศึกษาประสิทธิภาพด้าน Anti-aging ของเรตินอล

พบว่า

  • ผิวหนังชั้น Epidermis (หนังกำพร้า) มีความหนาตัวเพิ่มขึ้น โดยมีการแบ่งตัวของเซลล์ Keratinocyte เพิ่มขึ้น
  • ปริมาณเส้นใย Extracelular matrix (ECM) ในชั้นหนังแท้เพิ่มขึ้น โดยไปกระตุ้นไฟโบรบลาสต์ให้สร้าง collagen, fibronectin และ elastin ออกมา
  • การไหลเวียนของเลือดมาเลี้ยงผิวดีขึ้น ผ่านการกระตุ้นการสร้างเซลล์เยื่อบุหลอดเลือด (Endothelial cells)

ก็คือครบเลยทั้งผิว ได้หมด

ถัดมา มี Retinol แล้ว มาดู Anti-aging อื่นในสูตรบ้าง

  • Carnosine เป็น Dipeptide ที่มีฤทธิ์ Antioxidant และต่อต้านกระบวนการ Glycation ซึ่งหมายถึง ปฏิกิริยาที่น้ำตาล เช่น กลูโคส ไปจับกับโปรตีน เช่น คอลลาเจน แล้วเกิดการเรียงโครงสร้างจนได้ผลิตภัณฑ์สุดท้าย เรียกว่า Advanced glycation end products; AGEs ตัวนี้ทำให้การทำงานของโปรตีนเดิมเสื่อมไป เช่น ถ้าเป็นคอลลาเจน ก็ขาดความกระชับเหมือนคอลลาเจนฟอร์มธรรมชาติ และยังไปกระตุ้นตัวรับจำเพาะ เรียก Receptors for AGEs หรือ RAGEs ส่งผลให้เกิดการปลดปล่อยอนุมูลอิสระ และไปเหนี่ยวนำให้เกิดการอักเสบผ่านระบบ NF-kB (Cell Mol Biol (Noisy-le-grand). 1998 Nov;44(7):1013-23.)
  • Bakuchiol เป็น Phytoretinol ที่ได้จากธรรมชาติ มีการออกฤทธิ์คล้ายเรตินอล คือ เด่นในแง่ของการชะลอวัย ลดเลือนริ้วรอย รวมถึงดูแลปัญหาสิว

Peptides ต่างๆ และคอลลาเจน

  • Oligopeptide-1 หรือ Epidermal growth factor (EGF) ตัวนี้เด่นในด้านของการเสริมการแบ่งตัวของผิวในชั้นหนังกำพร้า
  • Acetyl hexapeptide-8 คลายริ้วรอยให้จางลง
  • Palmitoyl Pentapeptide-4 หรือ Pal-KTTKS มีประโยชน์ในการเสริมสังเคราะห์คอลลาเจน อิลาสติน และ Glycosaminoglycan ในผิว และมีโครงสร้างที่คล้ายกับ Precursor ของ Collagen type I ตัวนี้มีงานวิจัยตีพิมพ์ในวารสารทางวิชาการรองรับ (Int J Cosmet Sci. 2005;27(3):155-60)
  • Hexapeptide-9 เป็นสารในกลุ่ม signaling peptide ที่ทำหน้าที่ส่งสัญญาณให้ผิวเพิ่มการสังเคราะห์คอลลาเจนชนิดต่างๆ รวมถึงโปรตีนต่างๆในชั้น Dermis และเพิ่มการยึดเกาะของเซลล์ผิวในชั้นหนังกำพร้า ให้แข็งแรงมากขึ้น
  • Acetyl Tetrapeptide-9 เสริมกระบวนการสร้าง Lumican ซึ่งเป็นเส้นใยบริเวณรอยต่อของชั้นหนังกำพร้ากับหนังแท้ และเสริมการสร้างคอลลาเจน
  • Acetyl Tetrapeptide-11 เสริมกระตุ้นการสังเคราะห์ Syndecan-1 ซึ่งเป็นสารที่มีผลเกี่ยวกับการทำงาน การสื่อสารระหว่างเซลล์ และการเกาะติดกันของเซลล์ นอกจากเรื่องผิวกระชับ ยืดหยุ่น ยังได้ประโยชน์ในเรื่องของผิวโกลว์ขึ้น และสีผิวสม่ำเสมอขึ้น
  • Nonapeptide-1 ตัวนี้เป็น Whitening โดยไปต่อต้านฮอร์โมน alpha-MSH (Melanocyte stimulating hormone) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ไปกระตุ้นเซลล์สร้างเม็ดสีให้สร้างเมลานินออกมา เมื่อ่ฮอร์โมนโดนยับยั้ง เม็ดสีก็จะโดนสร้างน้อยลง
  • คอลลาเจน 3 แบบ ได้แก่ Soluble collagen, Collagen, Collagen amino acids

พอพูดถึงเรตินอล แล้วก็กังวลเรื่องระคายเคืองใช่ไหม นี่เลยค่ะ เขาจัดมาเรียบร้อย กลุ่มที่ดูแลการระคายเคือง

  • 4-t-Butylcyclohexanol หรือที่รู้จักกันในวงการว่า Symsitive® มีประโยชน์ในการลดความรู้สึกระคายเคืองผิว ผ่านการลดความไวในการตอบสนองที่ระบบประสาทรับความรู้สึกร้อน TRPV-1 ทำให้เรารู้สึกสบายผิว มีการทดสอบประสิทธิภาพของครีมที่มี 4-t-Butylcyclohexanol ในการลดการระคายเคืองของผู้ป่วยที่มีอาการผิวอักเสบบริเวณรอบปาก โดยให้ทาครีมดังกล่าวเป็นเวลา 8 สัปดาห์ พบว่าผู้ป่วยมีอาการดีขึ้น รวมถึงมีค่าความชุ่มชื้น และมีการระเหยของน้ำออกจากผิว (TEWL) ลดลง แสดงให้เห็นว่า Barrier ผิวกลับมามีสุขภาพที่ดีขึ้น (J Cosmet Dermatol. 2020;19(6):1409-1414)
  • Dipotassium glycyrrhizate ตัวนี้ได้จากรากชะเอม มีความเด่นในการดูแลการอักเสบ และการระคายเคืองเช่นกัน
  • Palmitoyl Tripeptide-8 มีข้อมูลจากผู้ผลิตวัตถุดิบกล่าวว่า มีคุณสมบัติในการต่อต้านกระบวนการอักเสบที่เกิดจากระบบเส้นประสาท ดูแลอาการระคายเคือง คันยุบยิบ ทั้งจากรังสี UV และระบบภูมิคุ้มกันของผิว
  • Althaea officinalis root extract หรือ สารสกัดจากราก Marshmallow เด่นในด้านให้ความรู้สึกสบายผิว (Soothing)
  • สารสกัดจากถั่วเขียว Phaseolus Radiatus Seed Extract มีประโยชน์หลายอย่าง หนึ่งในนั้นคือด้าน Soothing

เสริมตัววิตามินบี 3 ก็ให้ประโยชน์กับผิวในหลายๆ ด้านพร้อมๆ กัน ทั้งชะลอวัย whitening และ ผิวแข็งแรง

เติมน้ำด้วย Hya + Sodium polyglutamate + arginine และ Glyceryl glucoside ที่ทำงานร่วมกับ Glycerin ในการเพิ่มความชุ่มชื้นและเสริมการสังเคราะห์ตัว Aquaporin ที่ช่วยผิวเก็บน้ำ

คืนไขมันด้วยน้ำมัน Buriti (Mauritia flexuosa fruit oil) ที่พบในบราซิล อุดมไปด้วยแคโรทีนอยด์ที่เป็น Antioxidant และมีกรดไขมันที่มีประโยชน์กับผิว มาพร้อม Ceramide อีกหลายชนิดให้ผิวแข็งแรง

ส่วนผสมอื่นๆ ก็คือ ทำมาได้ดีหมด ไม่มีสารที่ไม่เป็นมิตรกับผิว

ให้คะแนน

  1. สารบำรุง เป็นเซรั่มเรตินอยด์ที่ใช้เรตินอยด์ทั้งหมด 3 ฟอร์ม มีการเก็บกักไว้ในแคปซูล และมีการทดสอบประเมินการดูดซึมเรตินอลเข้าผิว เสริมสารบำรุงที่ให้ประโยชน์ต่อผิวครบทุกด้านจบทุกปัญหาผิว มาพร้อมสารที่ดูแลการระคายเคือง และเสริม Barrier ผิวให้แข็งแรง ให้ไป 5 ฟลาสก์
  2. ส่วนผสมอื่นๆ ไม่มีสารที่ไม่เป็นมิตรกับผิว ให้ไป 5 ฟลาสก์
  3. ความชอบ ส่วนตัวก็คือใช้เรตินอลมานาน อารมณ์แบบ Expert user แล้ว ก็ไม่ได้เจอปัญหาการระคายเคืองจากผลิตภัณฑ์ ตัวเนื้อเซรั่มทำมาได้ค่อนข้างดี ฟีลดีไม่หนักมากไป ไม่เบาไป แทรกเข้ารูทีนได้ง่าย เลเยอร์คู่กับตัวอื่นๆ ได้ง่ายไม่เจอปัญหา เอามาทำเทคนิค Retinol sandwich ลงมอยส์ก่อน แล้วทาเรตินอล แล้วลงมอยส์ทับก็ดี ในภาพรวมก็ค่อนข้างชอบ ให้ไป 5 ฟลาสก์

สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณทางแบรนด์ Y.O.U สาขาประเทศไทยที่ส่งผลิตภัณฑ์ดีๆ มาให้ได้ลองใช้ และขอบคุณทุกท่านที่ติดตามรับชมมาจนจบ

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อสอบถามทางแบรนด์ได้โดยตรงเลยนะคะ

ทางไปช้อปปิ้ง

Shopee https://s.shopee.co.th/50KJkLqmaC

Lazada https://s.lazada.co.th/s.uk8qX?cc

Disclaimer/conflict of interests: ผลิตภัณฑ์นี้ได้รับการสนับสนุนจากทางแบรนด์ การรีวิวครั้งนี้เป็นการวิเคราะห์ส่วนผสม/วัตถุดิบตามหลักการทางวิทยาศาสตร์เครื่องสำอางและอาศัยความเห็นส่วนบุคคล และผู้เขียนไม่ได้ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทเครื่องสำอางใดๆ โปรดใช้วิจารณญาณ

Image

รีวิว/วิเคราะห์ส่วนผสมครีม Firming radiance rosy cream ในไลน์ Précieux Argan Mature Skin ของแบรนด์ So’Bio Etic แบรนด์ออร์แกนิกจากฝรั่งเศส

สำหรับ Blog นี้จะมารีวิว/วิเคราะห์ส่วนผสมครีมที่มีผลทดสอบที่น่าสนใจ น่าสนใจอย่างไร เดี๋ยวตามไปดูกัน

ครีมที่จะวิเคราะห์ส่วนผสมวันนี้มีชื่อว่า Firming radiance rosy cream ในไลน์ Précieux Argan Mature Skin ของแบรนด์ So’Bio Etic แบรนด์ออร์แกนิกจากฝรั่งเศส

มาในหน้าตาแบบนี้ค่ะ

ความน่าสนใจแรกของผลิตภัณฑ์นี้อยู่ที่

  1. ได้รับการรับรอง Organic cosmetic จากองค์กร CosmeBio ซึ่งมีเกณฑ์การตรวจประเมินที่ค่อนข้างเข้ม ไม่ได้ได้มาง่ายๆ
  2. ได้รับตรา Ecocert จาก Cosmos ซึ่งแสดงถึงความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมตั้งแต่กระบวนการผลิต และเป็นมิตรกับสุขภาพเราด้วย ซึ่งก็ไม่ได้ได้มาง่ายๆ เช่นกัน

ครีมเป็นเนื้อสีชมพู หอมกลิ่นกุหลาบแบบลักชู ซึ่งการทาครีมแบบหอมๆ นี่ทำให้เรามีความสุขได้ อันนี้ไม่ได้กล่าวแบบลอยๆ แต่มีการศึกษาเทียบกันโดยให้อาสาสมัครทาครีมที่แต่งกลิ่น (ในงานวิจัยเป็นกลิ่น Immortelle) เทียบกับครีมเบสที่ไม่มีกลิ่น พบว่า อาสาสมัครที่ทาครีมมีกลิ่น มีความผ่อนคลายมากขึ้น โดยวัดจากคลื่นสมอง (Ref: Springer et al. Cosmetics. 2022;9(5):97)

การเกลี่ยอาจจะยากนิดนึง แต่ก็เข้าใจได้เพราะเป็นสูตรออร์แกนิก 99% natural origin ไม่มีพวกสารช่วยเกลี่ยสังเคราะห์หนักๆ แต่เรื่องความชุ่มชื้นใดๆ คือ ดีงาม ฟีลลิ่งหลังใช้ก็ดี ค่อนข้างชุ่มผิวนาน โดยไม่เหนอะหนะจนเกินไป

ก่อนไปดูส่วนผสม อยากโชว์ผลทดสอบประสิทธิภาพในอาสาสมัครก่อน

การทดสอบประสิทธิภาพในอาสาสมัครจำนวน 22 คน เป็นเวลา 28 วัน พบว่า

  • ผิวมีความอมชมพู (Rosy complexion) เพิ่มขึ้น 25%
  • ผิวชุ่มชื้นเพิ่มขึ้น 88%
  • ผิวกระชับขึ้น 25%

ซึ่งการเคลมเรื่อง Rosy complexion ถือว่ามีความน่าสนใจไม่เบาเลยทีเดียว

ส่วนผสมเป็นดังนี้

ในด้านของส่วนผสมในภาพรวม มาในเบสแบบครีม ที่มีส่วนผสมของน้ำมันจากธรรมชาติ ไม่มีซิลิโคน ไม่มีแอลกอฮอล์ (หมายถึง Ethyl alcohol ซึ่งอาจก่อการระคายเคืองได้ในผู้ใช้บางราย) และสารอื่นที่ไม่เป็นมิตรกับผิว

จะว่าไป ขอแทรกเรื่อง Alcohol ในเครื่องสำอางนิดหน่อย เพราะว่าจะแตกต่างกับความหมายของ Alcohol ทางเคมีนิดนึง

ถ้าเป็นเครื่องสำอาง คำว่า “Alcohol” สั้นๆ บนฉลาก จะสื่อความหมายถึง Ethyl alcohol หรือ Ethanol ซึ่งเป็นแอลกอฮอล์ชนิดเดียวกับที่อยู่ในเครื่องดื่ม

ในวงการเครื่องสำอาง เราอาจแบ่ง Alcohol เป็น 3 กลุ่ม คือ Alcohol สายสั้นๆ Alcohol สายยาว หรือ Fatty alcohol และ Alcohol อื่นๆ

โดยถ้าเป็น Alcohol สายสั้นๆ อาจจะทำให้ผิวแห้งได้ เช่น Ethyl alcohol

แต่ถ้าเป็น Alcohol สายยาว หรือ Fatty alcohol มักเอามาใช้เพิ่มเนื้อ เพิ่มความคงตัวให้กับเนื้อครีม และเป็นสารกลุ่มไขมันไปแล้ว ไม่ทำให้ผิวแห้ง แถมยังได้ประโยชน์ให้ผิวนุ่มอีก

มา วิเคราะห์ส่วนผสมกัน

สำหรับสารบำรุงใน Rosy cream ตัวนี้ขอเริ่มจาก

  • น้ำตาล Ribose มีเคลมเกี่ยวกับประสิทธิภาพในด้านของการชะลอวัย ผ่านการเสริมกระบวนการสร้างพลังงานของผิว

กลุ่มสารสกัดจากธรรมชาติ ก่อนอื่นต้องกล่าวก่อนว่า อาจจะวิเคราะห์ได้ไม่ตรง 100% เพราะว่า มีหลายๆ Supplier ที่ขายวัตถุดิบโดยใช้ชื่อกลางทางเครื่องสำอาง (INCI name) เดียวกัน

  • สารสกัดจาก Mallow (Malva sylvestris extract) ตัวนี้จะเด่นเรื่องของ Soothing ให้ความรู้สึกสบายผิว
  • คอมบิเนชั่นของสาหร่าย Fucus กับ Laminaria ทาง Official website ของแบรนด์เคลมเป็น Plant-based collagen ซึ่งพอจะมีข้อมูลจากผู้ผลิตวัตถุดิบอยู่ว่าสารสกัดจากสาหร่ายสองชนิดนี้มีประโยชน์ในการชะลอวัย
  • สารสกัดจากใบพีช (Prunus persica (peach) leaf extract) ทางแบรนด์เคลมเรื่อง กระจ่างใส บังเอิญไปเจอวัตถุดิบใบพีชจาก Supplier ที่ฝรั่งเศส มีเคลมน่าสนใจเกี่ยวกับการเปิดระบบ Vitagenes ซึ่งเป็นยีนที่สร้างโปรตีนที่เกี่ยวข้องกับการรักษาสมดุลของเซลล์ ช่วยในเรื่องการตอบสนองต่อสิ่งเร้าต่างๆ จากสิ่งแวดล้อม เช่น มลภาวะ รวมถึงความเครียด และมีเคลมเรื่องผิวกระจ่างใส ผลัดผิวบางๆ เพราะมีพวก Glucan อยู่ (Ref: TDS VITAGENYL® by Silab)
  • สารสกัดจากผลแอปเปิ้ล และ ราสเบอรี่ มีประโยชน์เรื่องความชุ่มชื้น แบรนด์เคลมเรื่องกระจ่างใส

มีวิตามินอี เป็น Antioxidant ที่ละลายในน้ำมัน และเสริมไขมันทดแทนจากธรรมชาติ ด้วยน้ำมันอาร์แกน ซึ่งมีส่วนผสมของสารในกลุ่ม Phytosterol อยู่สูง สารกลุ่มนี้เด่นในแง่ของการดูแลปัญหาการอักเสบระคายเคือง ร่วมกับน้ำมันจากพืชหลายชนิด เช่น เมล็ดชา และ ทานตะวัน (แทนกลุ่มสารไขมันธรรมชาติด้วยอักษรสีน้ำตาลในภาพส่วนผสม)

ที่น่าสนใจอีกตัว คือ คอมบิเนชั่นของ Levulinic acid, Sodium levulinate เป็นกรดอินทรีย์ที่ได้จากอ้อย มีประโยชน์หลายอย่างในการทำสูตร เสริมความคงตัว และช่วยเสริมฤทธิ์ในการระงับเชื้อของสารกันเสีย

มาให้คะแนนกัน

  1. สารบำรุง ค่อนข้างเน้นไปที่การเสริมกระบวนการสร้างพลังงานตามธรรมชาติของผิว ดูแลเรื่องผิวกระจ่างใส ชะลอวัย โดยใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติ แต่รู้สึกว่ายังจัดฉ่ำกว่านี้ได้อีกหน่อย เลยขอหักคะแนนนิดนึง ให้ไป 4.5 ฟลาสก์
  2. ส่วนผสมอื่นๆ ไม่มีสารที่ไม่เป็นมิตรกับผิว ให้ไป 5 ฟลาสก์
  3. ความชอบ ด้วยความที่ตัวเราเป็นคนชอบกลิ่นกุหลาบ ครีมนี้เบลนด์กลิ่นมาได้ค่อนข้างดี หอมมาก เป็นกุหลาบแบบลักชู ทาแล้วมีความสุข อาจจะมีขุยได้นิดหน่อยถ้าเจอพวกเจล หรือเซรั่มบางตัว แต่ก็เข้าใจได้ด้วยความออร์แกนิก ในด้านความชุ่มชื้น คิดว่าทำมาได้ดี ผิวผสม-แห้งชอบมาก ทากลางคืนเช้ามาก็ยังชุ่มอยู่ ให้ไป 5 ฟลาสก์

สุดท้ายนี้ขอขอบคุณทุกท่านนะคะ ที่ติดตามรับชมมาจนจบ และขอบคุณทางบริษัท Chapter 35 ผู้นำเข้าผลิตภัณฑ์ และทางแบรนด์ So’Bio สาขาประเทศไทยที่ส่งผลิตภัณฑ์ดีๆ มาให้เป็นของขวัญปีใหม่ค่ะ

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อสอบถามที่ทางแบรนด์ได้โดยตรงเลยนะคะ

https://www.facebook.com/tipchapter35

ทางไปช้อปปิ้ง

แอพส้ม https://s.shopee.co.th/40ReWLFiKW

แอพฟ้า https://s.lazada.co.th/s.ugtRe?cc

Disclaimer/conflict of interests: ผลิตภัณฑ์นี้ได้รับเป็นของขวัญมาจากทางแบรนด์ การรีวิวครั้งนี้เป็นการวิเคราะห์ส่วนผสม/วัตถุดิบตามหลักการทางวิทยาศาสตร์เครื่องสำอางและอาศัยความเห็นส่วนบุคคล ผู้เขียนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทเครื่องสำอางใดๆ โปรดใช้วิจารณญาณ

Image

Beauty update: วิเคราะห์ส่วนผสม La Roche-Posay Anthelios UVMUNE 400 Fluide anti-dark spot fluid SPF 50+

นาทีนี้คงไม่มีอะไรปังเท่า UVMUNE 400 สูตรใหม่ จากบ้านลาโรชที่พึ่งเปิดตัวที่ฝรั่งเศส ใส่ Melasyl ไปด้วยแบบจบๆ 400 nm สุด

ดิฉันจะไม่วิเคราะห์ส่วนผสมก็คงจะไม่ได้แล้วล่ะ มาค่ะ เริ่ม

ในด้านสารกันแดด คือ น้องทำมาครบกันจบยัน 400 nm ด้วยตัว Mexoryl 400 สิทธิบัตรของเขา

มีปรับลำดับสารนิดหน่อยจากน้องป้ายส้ม (รุ่น Invisible fluid)

🧡สารกันแดด (เรียงตามลำดับ)

– Ethylhexyl triazone หรือ Uvinul T 150 เด่นในการกรอง UVB และเสริมประสิทธิภาพให้สารกันแดดอื่นๆ ในสูตร

– Avobenzone เด่น UVA

– BEMT หรือ Tinosorb S กรองได้ทั้ง UVA และ UVB โดยมีจุดที่ดูดกลืนแสงสูงสุด (Peak absorption) อยู่ 2 จุด ที่ 310 nm (UVB) และ 345 nm (UVA) เมื่อใช้ร่วมกับการแดดตัวอื่น เสริมประสิทธิภาพกันและกันไปกับ Uvinul T 150

– Uvinul A+ (DHHB) กรองรังสีในช่วง UVA

– Methoxypropylamino Cyclohexenylidene Ethoxyethylcyanoacetate; MCE ยาวๆ ยากๆ นี้คือ Mexoryl 400 พระเอกของเราในวันนี้ น้องเป็น Ultralong UVA filter (380 – 400 nm) peak อยู่ที่ 385 nm มีข้อมูลความปลอดภัยค่อนข้างดี และมีความเป็นมิตรกับปะการัง มีงานวิจัยที่ศึกษาในอาสาสมัครรองรับถึงประสิทธิภาพในการปกป้องผิว (Marionnet, et al. JID Innovation. 2022;2(1):100070)

– Drometrizole trisiloxane หรือ Mexoryl XL สารกันแดดที่กรองรังสีได้ในช่วงกว้างทั้ง UVB และ UVA มีจุด Peak 2 จุดในช่วง UVB (303 nm) และ UVA (344 nm) จูงมือมากับ Mexoryl SX (TDSA) ช่วยเสริมประสิทธิภาพในการกรองรังสี UV ได้มากขึ้น

💜สารบำรุงแน่นอนว่า Melasyl (2-Mercaptonicotinoyl glycine) เข้าค่ะ

อินโทร Melasyl อีกรอบ เป็นสารนวัตกรรมที่ออกฤทธิ์เป็น whitening ด้วยกลไกแบบใหม่ แบบสับ โดยไปจับสารตั้งต้นในการสังเคราะห์เม็ดสีเมลานิน ทำให้การสังเคราะห์เมลานินหยุดลง โดยไม่ไปรบกวนเอนไซม์สร้างเม็ดสี มีทั้งสิทธิบัตร และล่าสุด ปี 2024 งานตีพิมพ์ก็ออกแล้ว

เบส มี Alcohol เอามาลดความเหนอะหนะ มาคู่กับ Silica คุมมันฉ่ำ และ Perlite คุมมันแต่ให้ฟีลแบบสดชื่นฉ่ำน้ำ (เขาเคลมว่างั้น)

รอเข้าไทยกันอีกที แอบไปส่องที่เว็บ Official ฝรั่งเศสก็ขาดตลาดอยู่

ตอนนี้ก็ลอรีอัลขวดชมพูไปก่อน มี Melasyl เหมือนกัน 😘

Image

รีวิว/วิเคราะห์ส่วนผสม สเปรย์โทนเนอร์ผลัดผิว CosRX AHA/BHA Clarifying treatment toner

ส่วนตัวมองว่ากลุ่ม Exfoliating หรือ Peeling (ผลัดผิว) นี่ก็สำคัญอยู่นะคะ โดยเฉพาะเวลาเราอายุเพิ่มขึ้น การผลัดผิวเกิดได้ช้าลง เราเลยอาจอาศัยพวกกลุ่มนี้เข้ามาช่วยเสริมการดูแลผิว

สำหรับ Blog นี้ขอหยิบเอาโทนเนอร์ผลัดผิว ที่ทำมาได้น่าสนใจ ทำมาแบบคลีนๆ และเป็นชอยส์ที่แลดูอ่อนโยนมาวิเคราะห์ส่วนผสมกันค่ะ

ผลิตภัณฑ์วันนี้คือ AHA/BHA Clarifying treatment toner จาก CosRX ที่มาในหน้าตาแบบนี้

เอาจริงแบรนด์ CosRX นี่ทำไลน์ Peeling (BHA-AHA) มาหลายสูตร สูตรคาดม่วงนี่ก็น่าสนใจค่ะ

ตรงนี้จะเป็นกล่องของผลิตภัณฑ์

ตัวนี้มาในขวดสเปรย์ แต่ส่วนตัวจะสเปรย์ลงสำลีจนพอชุ่ม แล้วค่อยเช็ด เว้นบริเวณรอบดวงตา

หลังเช็ดก็จะแห้งไว ซึมไว ไม่เหนอะหนะ พร้อมลงสกินแคร์ต่อไปได้เลย

ในส่วนของค่า pH จะอยู่ที่ราวๆ 4 ซึ่งเป็นค่า pH ที่ทำให้ AHA อยู่ในรูปที่ไม่แตกตัว และมีคุณสมบัติในการผลัดผิว

ส่วนผสมแบบเต็มเป็นดังนี้

มองว่าทำมาได้ค่อนข้างคลีน และเลือกใช้สารได้อ่อนโยนดีค่ะ

กลุ่ม AHA

  • ใช้น้ำแอปเปิ้ล (Pyrus malus fruit water) เป็นองค์ประกอบหลัก ซึ่งในน้ำแอปเปิ้ลจะมีกรด Malic (เป็น AHA ชนิดหนึ่ง) เป็นองค์ประกอบหลัก (Ref: Metabolites. 2018;8(4):74.)
  • ผสมผสานมากับ Glycolic acid
  • Sodium lactate ซึ่งถ้าอยู่ในระบบที่ค่า pH ประมาณ 3.6-3.8 บางส่วนของน้องจะกลายร่างอยู่ในรูป Lactic acid ซึ่งเป็น AHA ได้

ถัดมาเป็น BHA

  • ใช้สารสกัดจากเปลือกต้น Willow (Salix alba bark water) ซึ่งประกอบด้วย BHA ธรรมชาติ ร่วมกับ
  • Betaine salicylate ซึ่งเป็นอนุพันธ์ของ BHA ที่มีความอ่อนโยนขึ้น

ดูแลการระคายเคืองด้วย Panthenol และ Allantoin

ส่วนผสมทำมาได้ค่อนข้างคลีน ไม่มีสารที่ไม่เป็นมิตรกับผิว

ให้คะแนนแบบคลีนๆ

  1. สารบำรุง ตัว AHA เบลนด์ทั้งที่ได้จากธรรมชาติ และฟอร์มเกลือของ Lactate มาเบลนด์เข้ากับ Glycolic acid และส่วนของ BHA ใช้ฟอร์ม Betaine salicylate มาผสมกับ BHA ธรรมชาติ และดูแลการระคายเคืองด้วย B5 + Allantoin ถือว่าทำมาได้ค่อนข้างดี ให้ไป 5 ฟลาสก์
  2. ส่วนผสมอื่นๆ ไม่มีสารที่ไม่เป็นมิตรกับผิว รับไป 5 ฟลาสก์
  3. ความชอบ เนื้อของโทนเนอร์ค่อนข้างเบา ถึงเบามาก ส่วนตัวจะสเปรย์ลงบนสำลีจนชุ่ม แล้วใช้เช็ด เว้นบริเวณรอบดวงตา ทิ้งไว้แปบเดียว ไม่ถึง 1 นาทีก็พร้อมลงสกินแคร์ได้เลย ถ้าจะมีที่ให้ติ จะขอติ ว่า อยากให้มาในขวดแบบเทมากกว่า เพราะเราชอบใช้กับสำลี คหสต ล้วนๆ เลย ไม่หักคะแนนแล้วกัน ให้ไป 5 ฟลาสก์

เป็นบทวิเคราะห์ส่วนผสมแบบสั้นๆ แต่ก็ฉ่ำไม่เบา ขอบคุณที่ติดตามอ่านมาจนจบค่ะ

สำหรับท่านที่สนใจก็ขอแนบทางไปช้อปปิ้งด้านล่างค่ะ

แอพฟ้า https://s.lazada.co.th/s.u4azK?cc

แอพส้ม https://s.shopee.co.th/4fhHwXm4iu

Disclaimer/conflict of interests: ผลิตภัณฑ์นี้ซื้อด้วยตนเอง การรีวิวครั้งนี้เป็นการวิเคราะห์ส่วนผสม/วัตถุดิบตามหลักการทางวิทยาศาสตร์เครื่องสำอางและอาศัยความเห็นส่วนบุคคล และผู้เขียนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทเครื่องสำอางใดๆ โปรดใช้วิจารณญาณ

Image

รีวิว/วิเคราะห์ส่วนผสม เซรั่มวิตามินซี Avène Vitamin Activ Cg เซรั่มน้ำแร่อาเวน ผสมวิตามินซีฟอร์ม Glucoside

สำหรับคอนเทน์นี้ขอหยิบเอาเซรั่มวิตามินซีจากแบรนด์อาเวน Avène Vitamin Activ Cg มาวิเคราะห์ส่วนผสมให้ได้ชมกัน

น้องมาในหน้าตาแบบนี้ค่ะ

ส่วนนี้จะเป็นกล่อง

เนื้อสัมผัสเป็นแบบน้ำนม มีกลิ่นหอม

เกลี่ยได้ง่าย ให้ความชุ่มชื้นดี ไม่เหนอะหนะ

ค่า pH อยู่ที่ประมาณ 6 ซึ่งเป็นช่วงที่ใกล้กับผิว และวิตซีฟอร์ม Ascorbyl glucoside คงตัวอยู่เช่นกัน

ตัวผลิตภัณฑ์มีเคลมเรื่องการทดสอบประสิทธิภาพในอาสาสมัครจำนวน 44 คน ทาวันละ 2 ครั้ง เป็นเวลา 1 เดือน พบว่า

  • อาสาสมัครรู้สึกว่าหลังทา ผิวแลดูกระจ่างใสขึ้น
  • ที่ 15 วัน อาสาสมัครรู้สึกว่าผิวนุ่มขึ้น และ 95% รู้สึกว่า ฟูขึ้น (plump)
  • ที่ 1 เดือน จุดด่างดำดูจากลง จากการประเมินด้วย Clinical score3

ส่วนผสมเป็นดังนี้

ในภาพรวม น้องมาในเบสแบบน้ำนม ไม่มีส่วนผสมของสารที่ไม่เป็นมิตรกับผิว เรียกได้ว่า ทำมาได้น่าสนใจเลยทีเดียว

เริ่มเปิดมาด้วย น้ำแร่ Avene ซึ่งมีเคลมเกี่ยวกับคุณสมบัติในการ Soothing ให้ความรู้สึกสบายผิว ใช้เป็นเบสหลักเลย

ในด้านของสารบำรุงหลัก คือ วิตามินซี ที่ใช้ในฟอร์ม Ascorbyl glucoside หรือ AA2G ชื่อเต็มๆ Ascorbic acid 2-glucoside ซึ่งเป็นฟอร์มที่ละลายน้ำได้ดี ความคงตัวดี ทน pH ได้ในช่วงกว้าง (ถึงประมาณ 7 ยังไหว) ดูดซึมผ่านผิวได้ เมื่อลงผิวจะกลายร่างเป็น Ascorbic acid ได้ บางการศึกษาว่าการว่า AA2G มีฤทธิ์ยาวนานกว่า AA เพราะมาจากผิวเราค่อยๆ ตัด Glucose ออก ได้ AA มาทีละน้อยๆ

สารนี้แรกเริ่มเหมือนพัฒนามาเป็นอาหารเสริม โดยบริษัทญี่ปุ่น งานวิจัยในยุคแรกๆ จะเป็นไปในรูปแบบรับประทาน

ในญี่ปุ่น AA2G จัดเป็นสาร Active ที่อยู่ในกลุ่มของ Quasi-drug ที่ผ่านการขึ้นทะเบียนโดย Ministry of health, Labor and Welfare ของญี่ปุ่น เพื่อใช้เป็น Whitening

มีการศึกษาพบว่า AA2G นั้นมีความคงตัวที่ดีต่ออุณหภูมิ และ pH และมีการทดสอบพบว่า ที่อุณหภูมิ 55.3 องศา pH 6.4 น้องยังคงตัวอยู่ (Huang et al., Bioorg Med Chem Lett 2013;23(6):1583-1587.)

ในเรื่องของการประเมินการดูดซึมผ่านผิวมีการทดสอบในมนุษย์อยู่ค่ะ แต่ใช้อาสาสมัครจำนวนไม่มาก และทำในสภาวะที่ Full occlusive (เคลือบปิด อารมณ์เหมือนมาสก์ ด้วย Plastic wrap) เพื่อผลักสารเข้าแบบสุด

การทดลองชุดแรก ให้อาสาสมัครผู้ชาย 5 คน ทาครีม AA2G เข้มข้น 2% ปริมาณ 7.5 กรัม แล้วห่อ wrap ไว้ 14 ชั่วโมง วิเคราะห์ปริมาณของ Ascorbic acid ในปัสสาวะทุกๆ 2 ชั่วโมง เป็นเวลา 26 ชั่วโมง พบว่า ตรวจเจอ Ascorbic acid ในปัสสาวะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนถึงจุดพีคที่ 14 ชั่วโมง และยังตรวจเจอต่อเนื่องแม้แกะครีมออกไปแล้วจนถึง 26 ชั่วโมง

แสดงว่ามันดูดซึมลงไปถึงหนังแท้ แล้วเข้าสู่เส้นเลือดที่หนังแท้ ไปขับออกมากับปัสสาวะ

ชุดถัดมา ให้อาสาสมัครทาครีม 2% AA2G บริเวณแขน แล้วห่อ wrap กับพันผ้าพันแผลทับอีกชั้นเป็นเวลา 12 ชั่วโมง แล้วเก็บชิ้นเนื้อมาตรวจหลังจากแกะ wrap 12 ชั่วโมงกับ 3 วัน พบว่า AA2G สามารถดูดซึมเข้าไปในผิว และแปรสภาพกลายเป็น Ascorbic acid ได้ (Kumano, et al., J Nutr Sci Vitaminol (Tokyo) 1998;44(3):345-359.)

ในด้านของประสิทธิภาพ นั้นส่วนใหญ่จะเป็นการทดสอบในเซลล์เพาะเลี้ยงชนิดต่างๆ พบว่า AA2G มีคุณสมบัติเป็น Whitening โดยไปลดการสร้างเม็ดสี กระตุ้นการสังเคราะห์คอลลาเจน ประสิทธิภาพเหมือน LAA แต่ออกฤทธิ์ได้นานกว่า ปกป้องเซลล์ผิวจากรังสี UVB ได้ดีตามความเข้มข้นที่เพิ่มขึ้น (Dose dependent) และลดการอักเสบที่เกิดต่อเนื่องมาจากรังสี UV และ เป็น Antioxidant ที่ดี ทำงานร่วมกันกับ Vitamin E และให้ผลเสริมฤทธิ์กันเหมือน LAA (แต่ฤทธิ์เบากว่า LAA)

Key References
1. Enescu et al., J Cosmet Dermatol. 2022;21:2349–2359
2. Kumano, et al., J Nutr Sci Vitaminol (Tokyo) 1998;44(3):345-359.

สารบำรุงอื่นๆ ในตำรับ ได้แก่

  • Niacinamide ซึ่งมีประโยชน์ต่อผิวหลายประการ ไม่ว่าจะเป็น Whitening ผ่านการยับยั้งการส่งผ่านเมลานินที่สร้างเสร็จแล้วไม่ให้ออกไปด้านนอก ดูแลเรื่องการอักเสบระคายเคือง ควบคุมความมัน แบรนด์เคลมว่าใส่มาที่ 3%
  • Bakuchiol เป็นสารในกลุ่มของ Meroterpene ที่พบได้ในพืชสมุนไพร มีการออกฤทธิ์คล้ายกับ Vitamin A ซึ่งมีการศึกษาในผิวหนังจำลอง พบว่าให้คุณสมบัติในการสังเคราะห์คอลลาเจน โปรตีนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับความกระชับผิว รวมไปถึง Aquaporin-3 ที่เกี่ยวข้องกับการเก็บกักน้ำและสารโมเลกุลเล็กเช่น Glycerol ก่อนนำไปทดสอบในอาสาสมัคร โดยให้ทาที่บริเวณตีนกาวันละ 2 ครั้ง เป็นเวลา 12 อาทิตย์ พบว่า เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของ Bakuchiol มีประโยชน์ในการลดริ้วรอย เพิ่มความกระชับและความยืดหยุ่น รวมถึงปรับสภาพสีผิวให้สม่ำเสมอมากขึ้น (Chaudhuri and Bojanowski. Int J Cosmet Sci. 2014;36(3):221-30.) ต่อมามีการทดสอบในอาสาสมัครอีกครั้งในปี 2018 เทียบกับ Retinol พบว่าให้ผลในด้านของการลดเลือนริ้วรอย และปรับสภาพสีผิวให้สม่ำเสมอ เช่นเดียวกัน แต่อาสาสมัครกลุ่มที่ใช้ Bakuchiol มีอาการข้างเคียงน้อยกว่า (Dhaliwal, et al. Br J Dermatol. 2019;180(2):289-296.)
  • Sodium diluaramidoglutamide lysine ตัวนี้เป็นสารที่ทำหน้าที่ได้หลายอย่าง เป็นได้ทั้งตัวทำครีม (Emulsifier) มีโครงสร้างคล้ายเซราไมด์ ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น เป็น emollient ให้ผิวนุ่ม
  • Sodium hyaluronate เติมน้ำ เพิ่มความชุ่มชื้น
  • Tocopherol glucoside เป็นวิตามินอีที่ดัดแปลงโดยเอาน้ำตาลกลูโคสมาจับ เจอข้อมูลอยู่ว่า มีชื่อทางการค้าว่า Pretocopheryl® [จาก บ. Pierre Fabre ประเทศฝรั่งเศส] เป็น Antioxidant มีความคงตัวดี ดูดซึมผ่านผิว และค่อยๆ ปลดปล่อยวิตามินอีออกมาทีละน้อย (J Control Release. 2004 Nov 24;100(2):221-31.) มีข้อมูลเสริมๆ ว่า น้องละลายได้ในน้ำ และมีคุณสมบัติปกป้องผิวจากรังสี UV ได้

ให้คะแนน

  1. สารบำรุง ทำมาได้ค่อนข้างดี เลือกเอา C + E ที่เป็นฟอร์ม Glucoside ทั้งคู่ ทำให้ค่อยๆ ปลดปล่อยเอา C + E ออกมาช้าๆ ในผิว เสริมฤทธิ์กันและกันได้อย่างลงตัว จูงมือมากับ Bakuchiol และสารอื่นๆ ให้ประโยชน์ในด้าน Antioxidant, Whitening, ดูแลปัญหาด้านริ้วรอย พร้อม Soothing ให้ความรู้สึกสบายผิว จัดไป 5 ฟลาสก์
  2. ส่วนผสมอื่นๆ ไม่มีสารที่ไม่เป็นมิตรกับผิว รับไป 5 ฟลาสก์
  3. ความชอบ ส่วนตัวค่อนข้างชอบเนื้อสัมผัส อาจจะด้วยเราผิวผสม-แห้ง เลยค่อยข้างชอบเนื้อชุ่มๆ ประมาณนี้ ในด้านจุดด่างดำ และริ้วรอย ตัวเองยังไม่มีปัญหาด้านนี้ เลยใช้เพื่อชะลอมากกว่า ซึ่งก็ประทับใจ จะติ ก็แค่ตัวแพคเกจ มันดูปิดแล้วแบบลอยๆ กลัวจะหกเวลาเดินทาง แต่ก็พกไปนะ ยังไม่เคยเจอหก และเรื่องกลิ่นหอม ที่อาจจะแรงไปนิดนึงสำหรับเรา แต่ก็ไม่ถึงขั้นจะต้องหักคะแนน เอาไป 5 ฟลาสก์เต็มๆ

สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณทุกท่านด้วยค่ะ ที่ติดตามรับชมมาจนจบ พบกันใหม่ Blog ถัดไป สวัสดีค่ะ

สำหรับท่านที่สนใจไปช้อปปิ้ง เรียนเชิญได้ค่ะ

แอพฟ้า https://s.lazada.co.th/s.tMj9f?cc

แอพส้ม https://s.shopee.co.th/50JKzy7WbY

Disclaimer/conflict of interests: ผลิตภัณฑ์นี้ซื้อด้วยตนเอง การรีวิวครั้งนี้เป็นการวิเคราะห์ส่วนผสม/วัตถุดิบตามหลักการทางวิทยาศาสตร์เครื่องสำอางและอาศัยความเห็นส่วนบุคคล และผู้เขียนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทเครื่องสำอางใดๆ โปรดใช้วิจารณญาณ