Image

รีวิว/วิเคราะห์ส่วนผสม Eye cream สุดเลอค่าในราคาที่จับต้องได้ กับ Brightening eye cream จาก Biobalance

สวัสดีค่ะ

หลายวันก่อนส่วนตัวได้อัพเดทรายละเอียดเกี่ยวกับแบรนด์ที่น่าสนใจอย่าง Biobalance ไป วันนี้เลยขอมาอัพเดท รีวิว และวิเคราะห์ส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ครีมบำรุงรอบดวงตา สูตร Brightening eye cream ต่อค่ะ

Eye cream สูตรนี้มาในหน้าตาประมาณนี้ค่ะ

ด้านในเป็นหลอดแบบเรียว

ด้านหลังกล่องจะมีแนะนำคุณ Alpay เภสัชกรผู้ก่อตั้งแบรนด์ และกล่าวถึง Active ในหลอดนี้ค่ะ

ท่านที่พลาดบทแนะนำแบรนด์ Biobalance แล้วสนใจสามารถตามไปอ่านได้ที่ลิงค์นี้นะคะ >>Click แนะนำ Biobalance<<

เนื้อครีมมีสีขาว มีกลิ่นหอมนวลๆ

เกลี่ยได้ง่าย ซึมไวแห้งไวไม่เหนอะหนะ แต่ยังคงความชุ่มชื้น

ส่วนผสมเป็นดังนี้ค่ะ

สำหรับส่วนผสมของอายครีมนี้มีสารบำรุงอยู่ด้วยกันหลายชนิด หลักๆ จะเป็นกลุ่มวิตามินรวม เปปไทด์ที่ดูแลเรื่องริ้วรอย กลุ่มสารที่ดูแลเรื่องการไหลเวียนเลือด และสารบำรุงอื่นๆ ซึ่งแทนด้วยสีแต่ละสี

  • ขอเริ่มที่สีม่วง เป็นคู่ผสมของ N-hydroxysuccinimide และ Chrysin เป็นคู่ผสมที่เหมือนพี่น้อง ช่วยกันดูแลเรื่องของรอยคล้ำใต้ตา ซึ่งอาจมีสาเหตุมาจากการสะสมของของเหลวบริเวณรอบดวงตาจากการไหลเวียนเลือดที่ไม่ดี โดย

Chrysin เป็นสารพฤกษเคมีในกลุ่ม Polyphenol ที่พบได้ในหลายแหล่ง เช่น น้ำผึ้ง Propolis และในพืช รวมถึงผลไม้หลายชนิด ตัว Chrysin เองมีรายงานถึงคุณสมบัติในการต่อต้านการอักเสบระคายเคือง ข้อมูลจากผู้ผลิต Claim ว่ามีส่วนช่วยในการกำจัดพวกเม็ดสี (Pigment) ที่สะสมในเส้นเลือดฝอยใต้ตา จึงช่วยลดเลือนรอยคล้ำรอบดวงตาให้แลดูจางลง มีรายงานหนึ่งกล่าวว่า Chrysin มีคุณสมบัติเสริมการทำงานของเอนไซม์ UGT1A1 ซึ่งมีผลต่อเนื่องในการกำจัด Bilirubin ที่อาจจะสะสมค้างในหลอดเลือดฝอยบริเวณใต้ดวงตา มีรายงานการวิจัยกล่าวถึงคุณสมบัติในการยับยั้งการสร้างเมลานิน (Biochem Biophys Res Commun. 2011; 411(1):121-5.) และมีคุณสมบัติปกป้องผิวและองค์ประกอบของผิวจากรังสี UV (J Agric Food Chem. 2011; 59(15):8391-400., Pharm Biol. 2016;54(11):2692-2700)

N-hydroxysuccinimide เป็นสารที่ทำงานร่วมกับ Chrysin ในการกำจัดเอาพวก Hemoglobin และ pigment อื่นๆในตาคล้ำ ออกไปทิ้งยังบริเวณอื่นๆของร่างกาย โดยไปช่วยให้ธาตุเหล็กที่เป็นองค์ประกอบ ใน Heme ละลายน้ำได้ดีขึ้น จึงถูกขับออกไปจากบริเวณใต้ตาได้

  • สีน้ำตาล คู่เปปไทด์ Palmitoyl Oligopeptide, Palmitoy Tetrapeptide-7 โดย Palmitoyl oligopeptide บางแหล่งก็กล่าวว่าหมายถึง Palmitoyl tripeptide-1 โดยสองตัวนี้ทำงานเสริมกันในการเสริมสร้างคอลลาเจน และสารเส้นใยในกลุ่ม Glycosaminoglycans (GAGs) เพื่อให้ผิวมีความกระชับ แข็งแรง แน่น (Firm) ลดเลือนริ้วรอย และปกป้องเส้นใยเหล่านี้ไม่ให้ถูกทำลายจากสภาวะต่างๆ เช่น ความเครียด รังสี UV
  • สีน้ำเงิน เป็นกลุ่มของวิตามินรวม ได้แก่
    • Niacinamide ขวัญใจสายสกินแคร์ นางเป็นรูปแบบหนึ่งของวิตามินบี 3 มีประโยชน์ที่ดีกับผิวหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นด้าน Whitening, ด้านการชะลอวัย ดูแลปัญหาการอักเสบระคายเคืองSodium ascorbyl phosphate นางเป็นรูปแบบหนึ่งของวิตามินซี ซึ่งมีคุณสมบัติบำรุงผิวหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นด้าน Antioxidant ต่อต้านอนุมูลอิสระ และวิตามินซีเอง ตามธรรมชาติยังมีคุณสมบัติในการเป็น Whitening ผ่านการยับยั้งเอนไซม์ Tyrosinase ที่เป็นตัวการสร้างเม็ดสี วิตามินซีเองยังมีประโยชน์ในการลดการอักเสบระคายเคือง และเป็นส่วนหนึ่งในการสังเคราะห์คอลลาเจนTocopheryl acetate เป็นรูปแบบหนึ่งของวิตามินอี เป็น Antioxidant เช่นกัน
    • Panthenol หรือ โปรวิตามินบี 5 ที่เด่นในด้านของความชุ่มชื้นและลดการอักเสบระคายเคือง รวมถึงเสริมความแข็งแรงให้แก่ผิว
  • สีฟ้า เป็นสารสกัดจากพืชและสารบำรุงอื่นๆ ได้แก่
    • สารสกัดจากโรสแมรี่ เป็น Antioxidantสารสกัดจากชะเอม ที่เป็น Whitening และดูแลเรื่องการอักเสบระคายเคืองAllantoin ที่ดูแลเรื่องการระคายเคือง
    • สารสกัดจากใบบัวบกที่มีประโยชน์กับผิวหลายประการ โดยจะเด่นไปที่ด้านการดูแลเรื่องริ้วรอย
  • สีชมพู Titanium dioxide ตอนแรกเข้าใจว่าใส่มาเพื่อให้ความขาว บดบังปกปิดสีผิวเดิมเหมือน Alumina แต่ด้วยความวงเล็บคำว่า nano จึงมีประโยชน์ในการปกป้องผิวจากรังสี UV ไป แต่ตัว product ไม่ได้ Claim ด้านการป้องกันแสงแดด
  • สีเขียว Alumina เป็นเม็ดสี (Pigment) สีขาว ที่อำพรางสีผิว ปกปิดให้ผิวแลดูขาวขึ้นกระจ่างขึ้น

ในส่วนของเนื้อหลักนั้น มาในรูปแบบของอิมัลชั่น ที่มีน้ำ น้ำมันและซิลิโคนตามปกติ ไม่มีส่วนผสมของ Alcohol และสารอื่นที่ไม่เป็นมิตรกับผิว

มีสารปรุงแต่งอยู่ 2 ตัวที่อาจจะมีปัญหากับผู้ที่ไวต่อการระคายเคืองได้ อย่าง Sodium cetearyl sulfate ซึ่งเป็นสารกลุ่ม surfactant ประจุลบ ที่อาจจะระคายเคืองผิว กับ Chlorhexidine digluconate ที่ใส่มาเป็นสารระงับเชื้อ เข้าใจได้ว่าเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับรอบดวงตาจึงมีความใส่ใจด้านการปนเปื้อนเชื้อ แต่สารนี้อาจจะก่อระคายเคืองได้ แต่ทั้งนี้การระคายเคืองนั้นขึ้นกับความเข้มข้นของสาร โดยสองตัวนี้มาในลำดับท้ายๆ และการตอบสนองก็ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล อีกทั้งในสูตรยังมีสารที่ดูแลเรื่องการระคายเคืองอยู่หลายตัว จึงไม่น่าเป็นกังวลอะไร ซึ่งส่วนตัวนั้นได้ทดลองใช้มาประมาณ 2 อาทิตย์ ก็ใช้ได้ไม่พบอาการผิดปกติอะไร

ให้คะแนนกันดีกว่าค่ะ

  1. สารบำรุง หรือ Active ดังที่ได้กล่าวไปว่าเป็น Eye cream ที่ดูเหมือนจะเป็น Eye cream พื้นๆ สูตรคลาสสิค ไม่หวือหวา แต่ส่วนผสมของคุณเขาจัดมาได้ครบมาก จบทุกปัญหาความต้องการของครีมบำรุงผิวรอบดวงตา ไม่ว่าจะเป็นด้านของริ้วรอย รอยคล้ำรอบดวงตา น้องตอบโจทย์ได้อย่างลงตัว รวมทั้งยังเสริมวิตามินและเปปไทด์ที่ดูแลเรื่องการชะลอวัยมาพร้อม สำรวจราคาใน LazMall official ของทางแบรนด์อยู่ที่ 499 บาท (ณ 23 ก.ย. 65) ราคานี้ ทำมาได้ครบขนาดนี้ เอาไปเลยค่ะ 5 ฟลาสก์
  2. ส่วนผสมอื่นๆ ตามที่ได้กล่าวไปเรื่องของสารก่อการระคายเคืองนั้น ถึงแม้ว่าจะพัฒนาสูตรมาได้ค่อนข้างดี เลือกใช้สารที่ดูแลและป้องกันปัญหาระคายเคืองเข้ามา และส่วนตัวเองก็สามารถใช้ได้ไม่มีปัญหาอะไร แต่เพื่อความแฟร์เลยจำเป็นต้องหักคะแนน เหลือ 4 ฟลาสก์
  3. การใช้งาน ส่วนตัวค่อนข้างชอบความบางเบาของครีมชิ้นนี้ แต่ถึงแม้จะบางเบาก็ไม่ถึงกับทำให้ผิวรอบดวงตาแห้ง ในด้านของประสิทธิภาพในการลดเลือนริ้วรอยและรอยคล้ำนั้น ส่วนตัวพึ่งทดลองได้ประมาณ 2 อาทิตย์ อาจจะยังตอบโจทย์ได้ไม่ชัด แต่ก็รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ให้ไป 5 ฟลาสก์

สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณทางแบรนด์ Biobalance สาขาประเทศไทยที่ส่งผลิตภัณฑ์ดีๆ มาให้ได้ทดลองใช้ และขอบคุณทุกท่านด้วยค่ะที่ติดตามรับชมมาจนจบ

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ทางแบรนด์โดยตรงเลยนะคะ

Facebook: https://www.facebook.com/BiobalanceOfficialThailand

Official LazMall: https://invol.co/cle62s0

Official Shopee Mall: https://invle.co/cle62tp

Disclaimer/conflict of interests: ผลิตภัณฑ์นี้ได้รับการสนับสนุนจากทางแบรนด์ Biobalance สาขาประเทศไทย การรีวิวครั้งนี้เป็นการวิเคราะห์ส่วนผสม/วัตถุดิบตามหลักการทางวิทยาศาสตร์เครื่องสำอางและอาศัยความเห็นส่วนบุคคล และผู้เขียนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทเครื่องสำอางใดๆ โปรดใช้วิจารณญาณ

Image

รีวิว/วิเคราะห์ส่วนผสมครีมบำรุงรอบดวงตาและลำคอ Dr.Different Vitalift-A Eye & Neck ความเก๋ไก๋ที่มีมากกว่าครีม Vita-A สูตรปกติ

ทีเด็ดของ Dr.Different ยังไม่หมดนะคะ วันนี้เรามาดูรีวิวผลิตภัณฑ์บำรุงผิวรอบดวงตาและลำคอในกลุ่ม Vita-A อีกชิ้นกันดีกว่าค่ะ

สำหรับครีมตัวนี้ก็เรียกได้ว่าทำมาได้ดีไม่แพ้กับพี่น้องชิ้นอื่นๆ ในไลน์เลยหละ หน้าตาของน้องเป็นประมาณนี้นะคะ

มาถึงจุดนี้เชื่อว่าหลายคนคงเกิดคำถามในใจ เอ๊ะ ฉันมี Vita-A แล้ว ฉันยังต้องมีอันนี้ด้วยหรอ

คำตอบคือ สูตรของ Eye & neck มีการปรับส่วนผสมให้เหมาะสมกับการลดเลือนริ้วรอยให้แลดูจางลงมากกว่าสูตรเดิมค่ะ เดี๋ยวเราค่อยไปดูกันในช่วงวิเคราะห์ส่วนผสมนะคะ

กลับมาที่ตัวผลิตภัณฑ์ค่ะ

ด้านในจะยังคงคอนเซปท์ดีไซน์ไว้ในรูปแบบเดิม เพียงแต่ใช้คำว่า Eye and Neck เพิ่มเข้ามา

สำหรับเนื้อครีมจะคล้ายกับสูตรอื่นๆ ในกลุ่มที่ได้รีวิวไปนะคะ

ก่อนเกลี่ย

หลังเกลี่ย

มาดูส่วนผสมกันดีกว่าค่ะ

จากส่วนผสมจะเห็นว่าออกมาคล้ายกับ Vita-A สูตรเดิมเพียงแต่จุดที่แตกต่างมีดังนี้ค่ะ

  • เพิ่มส่วนผสมของวิตามินบี 3 (Niacinamide) เข้ามา
  • เพิ่ม Peptide เข้ามา 11 ชนิดตามแบรนด์เคลม + Palmitoyl tetrapeptide-7 โดยรวมมีประโยชน์ในด้านของการกระชับผิวที่หย่อนคล้อย ชะลอวัย ป้องกันริ้วรอยใหม่ มีประโยชน์ให้ริ้วรอยเก่าแลดูจางลง

โดยจะขอหยิบเอาเปปไทด์บางตัวที่น่าสนใจมาเล่าให้ฟังค่ะ

  • Hexapeptide-9 ประกอบด้วยกรดอะมิโนจำนวน 6 ตัว (NH2Gly-Pro-GlnGly-Pro-Gln-OH) ที่มีหน่วยซ้ำของ Glycine-Proline-Glutamine 2 หน่วย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเส้นใยคอลลาเจน ทางผู้ผลิตเจ้าหนึ่งเคลมว่า หน่วย Glycine-Proline-Glutamine เป็นส่วนสำคัญของคอลลาเจน จึงมีประโยชน์ในการเสริมการสร้างคอลลาเจนของผิว โดยเฉพาะ Collagen IV และ VII ซึ่งเป็นองค์ประกอบของชั้น Dermal-Epidermal Junction หรือ DEJ ที่ทำหน้าที่พยุงเอาชั้นผิวหนังภายนอกไว้ ไม่ให้ยุบตัวลงมาเกิดเป็นริ้วรอยลึก และเสริมกระบวนการ Wound healing  (A&PEP, Inc.)
  • Palmitoyl tripeptide-1 เป็นเปปไทด์ที่เกิดจากกรดอะมิโน 3 ตัว มาจับอยู่กับสายของกรดไขมัน Palmitic acid ซึ่งจุดนี้ผู้ผลิตเคลมว่า มีประโยชน์ในการเสริมการดูดซึมสาร และลดการเกิดการระคายเคือง สารนี้มีประโยชน์โดยเสริมการสังเคราะห์ Collagen, hyaluronic acid, และ glucosaminoglycan จึงมีส่วนในด้านของการเก็บน้ำรักษาความชุ่มชื้นของผิว และยังกล่าวว่ามีประโยชน์ในการฟื้นฟูไขมันต่างๆ ที่อยู่ระหว่างผิว ซึ่งเป็นองค์ประกอบของ Barrier ผิว ผิวจึงแข็งแรงขึ้น (A&PEP, Inc.)
  • Tripeptide-29 เป็นเปปไทด์ที่เกิดจากกรดอะมิโน 3 ตัว มีโครงสร้างคล้ายกับหน่วยย่อยของ Collagen จึงมีชื่อเล่นๆ ว่า Collagen tripeptide มีประโยชน์ในด้านของความชุ่มชื้น ความยืดหยุ่น และเสริมการสังเคราะห์คอลลาเจน

เปปไทด์เหล่านี้ไม่ได้มีดีแค่เรื่องลดริ้วรอย แต่เปปไทด์หลายชนิดมีประโยชน์ต่อผิวหลายประการ จึงเรียกได้ว่า เซรั่มหลอดน้อยๆ หลอดนี้พร้อมดูแลปัญหาผิวหลายอย่าง โดยเฉพาะปัญหาเรื่องริ้วรอยและผิวหย่อนคล้อย

สำหรับในด้านของเทคโนโลยี สูตรนี้ยังคงใช้เทคโนโลยีนำส่งแบบ Multilamellar vesicle เหมือนสูตรอื่นๆ ในกลุ่ม Vita-A เช่นกัน

(สามารถตามไปอ่านรีวิวของ Vita-A ได้ที่ลิงค์นี้นะคะ

https://miyeonthereviewer.com/2021/01/08/dr-diff-va-1mo/)

โดยการใช้ Retinal เพื่อการลดเลือดและดูแลปัญหาริ้วรอยนั้นมีการศึกษาทางคลินิกรับรองอยู่หลายชิ้นเลยทีเดียวค่ะ

สำหรับการใช้ Retinal คู่กับ Multi-peptide นี้ทางแบรนด์เรียกว่าเป็น Double effect เพื่อดูแลปัญหาได้อย่างตรงจุด ทั้งจากต้นเหตุ คือ ป้องกันการสลายตัวของคอลลาเจนเพราะความเครียดหรือรังสี UV รวมไปถึงเสริมการสร้างคอลลาเจนใหม่ ผิวจึงมีความแข็งแรงเพิ่มขึ้น

ซึ่งอันที่จริง Retinal ตัวเดียวก็มีประโยชน์ในเรื่องของการเสริมการสร้างคอลลาเจนใหม่แล้ว เมื่อมาใช้ร่วมกันจึงให้ประโยชน์เสริมกันได้อย่างลงตัว

สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณทางแบรนด์ Dr.Different (สาขาประเทศไทย) ที่ส่งผลิตภัณฑ์ดีๆ มาให้มี่ได้เปิดหูเปิดตา ได้ทดลองใช้ และทุกๆ ท่านที่ติดตามรับชมมาจนจบด้วยนะคะ

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ทางแบรนด์โดยตรงเลยนะคะ

https://www.facebook.com/DrdifferentTH

Disclaimer/conflict of interests: ผลิตภัณฑ์นี้ได้รับการสนับสนุนจากทางแบรนด์ Dr.Different การรีวิวครั้งนี้เป็นการวิเคราะห์ส่วนผสม/วัตถุดิบตามหลักการทางวิทยาศาสตร์เครื่องสำอางและอาศัยความเห็นส่วนบุคคล และผู้เขียนไม่ได้มีผลประโยชน์ใดๆในการขายสินค้า โปรดใช้วิจารณญาณ