Image

[Beauty Talks]==สาระน่ารู้ ทานคอลลาเจน ดีจริง หรือแค่มโน ??

วันนี้เอาสาระดีๆเรื่อง Collagen แบบรับประทานมาฝากกันค่ะ ส่วนตัวมี่เคยเข้าใจว่าเวลาเรากินคอลลาเจนนั้นร่างกายก็จะย่อยแล้วดูดซึมในรูปกรดอะมิโน ก็ไม่ต่างอะไรกับการกินเนื้อสัตว์หรือนมหรือโปรตีนอื่นๆ แต่จริงๆหลังจากค้นคว้าข้อมูลดูแล้วก็ได้พบว่า คือ การกินคอลลาเจนนั้นมีผลดีต่อผิวหนังอยู่หลายด้านเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นด้านความชุ่มชื้นของผิว Barrier ผิว ความยืดหยุ่นของผิว และยังมีเกี่ยวกับเรื่องช่วยลดเซลลูไลท์ ได้อีกค่ะ

มาเกริ่นกันซักเล็กน้อยนะคะ

 

Collagen เป็นเนื้อเยื่อเกี่ยวพันชนิดหนึ่ง โครงสร้างประกอบด้วยสายโปรตีนสายหลัก และมีน้ำตาลมาเกาะอยู่บนสายหลัก ในคอลลาเจนมีกรดอะมิโนที่เป็นเอกลักษณ์ อยู่ 2 ชนิด คือ Hydroxyproline กับ Hydroxylysine ซึ่ง ร่างกายสร้างได้ จากกรดอะมิโน Proline และ Lysine โดยอาศัยวิตามินซีเป็นตัวช่วย

 

Collagen ในสัตว์ได้จากหลายแหล่งค่ะ และในตลาดมีจำหน่ายในหลายรูปแบบ ทั้งแบบผงชง แบบเม็ด แบบดื่มเป็น Shot รวมถึงเอาไปผสมในนม อาหาร ขนม อีกหลายอย่าง

 

ลองดูงานวิจัยที่ศึกษาเกี่ยวกับการรับประทานคอลลาเจนดูนะคะ

ซึ่งในฐานข้อมูลก็งานวิจัยที่ศึกษาไว้ค่อนข้างมากเลยค่ะ ยกตัวอย่างเช่น

  1. การศึกษาของ Asserin และคณะ ที่ตีพิมพ์ลงในวารสาร Journal of cosmetic dermatology เมื่อธันวาคม 2015 ที่ผ่านมานี้เอง พบว่าการกิน Collagen peptide เป็นเวลา 8 สัปดาห์จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นของผิว และช่วยเพิ่มความหนาแน่นของเส้นใยคอลลาเจนในหนังแท้ได้ (J Cosmet Dermatol. 2015 Dec;14(4):291-301.)
  2. การศึกษาของ Shunck และคณะ ที่ตีพิมพ์ลงในวารสาร Journal of medicinal food เมื่อเดือนธันวาคม 2015 ที่ผ่านมา พบว่าการกินคอลลาเจนยังมีส่วนช่วยเพิ่มความหนาแน่นของผิวหนังชั้นหนังแท้ และช่วยลดลักษณะปรากฎของเซลลูไลท์ได้ (J Med Food. 2015 Dec;18(12):1340-8.)
  3. การศึกษาของ Pyun และคณะ ทดสอบผลของ Collagen tripeptide ในหนู พบว่าหนูทดลองที่กิน Collagen tripeptide มีริ้วรอยที่น้อยลง มีผิวที่หนาแน่นกว่า และมี Barrier ผิวที่แข็งแรงกว่า (วัดจากค่าปริมาณน้ำที่ระเหยออกจากผิว หรือ TEWL ถ้าน้ำระเหยน้อย แปลว่า Barrier ผิวแข็งแรง) (Prev Nutr Food Sci. 2012 Dec;17(4):245-53.)
  4. การศึกษาของ Proksch และคณะ ทดสอบคอลลาเจนที่ชื่อว่า VERISOL® ซึ่งเป็น Collagen peptide ในอาสาสมัครหญิง พบว่ากลุ่มที่กิน Verisol 8 สัปดาห์ มีริ้วรอยลดลง และมีปริมาณคอลลาเจนในผิวมากกว่ากลุ่มที่ไม่ได้กิน (Skin Pharmacol Physiol. 2014;27(3):113-9.)

 

ถ้ากิน Collagen ร่วมกับสารสกัดพืชที่เป็น Antioxidant ยังให้ผลดีกับผิวเพิ่มเติมด้วยค่ะ เช่น งานวิจัยของ De Luca และคณะ ที่ตีพิมพ์ปีนี้ (2016) ศึกษาผลของ marine collagen peptides กับ coenzyme Q10 + grape-skin extract + luteolin + selenium ซึ่งเป็นกลุ่ม Antioxidant peptide ในอาสาสมัคร พบว่า อาสาสมัครที่กินเป็นเวลา 2 เดือน มีความยืดหยุ่นของผิวเพิ่มขึ้น มีความชุ่มชื้นเพิ่มขึ้น และมีความหนาแน่นของชั้น Dermis เพิ่มขึ้น (Oxid Med Cell Longev. 2016;2016:4389410.)

 

นอกจากนี้ยังมีอีกเยอะมากที่กล่าวถึงคุณสมบัติในการเพิ่มความหนาแน่นของเนื้อเยื่อเกี่ยวพันหรือ Fiber ในชั้นหนังแท้ รวมไปถึงความสามารถในการปกป้องผิวจากรังสี UV แต่ส่วนใหญ่คอลลาเจนที่เอามาใช้ในงานวิจัยแต่ละฉบับนั้นจะเป็นคนละชนิดกัน บางอันก็เขียนเป็น Specific peptide, specific fragment, tripeptide, hydrolysate ซึ่งแต่ละรูปแบบก็จะมีโครงสร้างที่แตกต่างกันไป บางยี่ห้อเขาอาจจะบอกแบรนด์ของ Collgen ที่ใช้มาเลย แต่บางยี่ห้ออาจจะไม่ได้บอกอะไรให้เราก็ได้ และที่สำคัญคือ งานวิจัยส่วนใหญ่ ทดสอบที่ 2 เดือนขึ้นไปค่ะ ถ้าจะเริ่มทานจริง คงต้องทานกันยาวหน่อย

 

ถ้าจะทานคอลลาเจน ควรเลือกชนิดที่เป็น Hydrolyzed หรือ เป็นแบบ Peptides หรือ Tripeptide น่าจะได้ประโยชน์ที่ดีกว่าค่ะ และควรเลือกผู้ผลิตที่น่าเชื่อถือนะคะ เพราะคอลลาเจนส่วนใหญ่ถ้าเอามาจากปลา อาจจะปนเปื้อนโลหะหนักได้ ความเห็นส่วนตัวมี่คิดว่าผู้ที่มีประวัติแพ้อาหารทะเล ไม่น่าจะทานคอลลาเจนที่ได้จากทะเลนะคะ และคอลลาเจนบางแหล่งที่มีราคาถูกอาจจะได้จากวัสดุเหลือใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร  หรือในบางครั้ง จากหางหนู หูหมู หงอนไก่ กระดูกอ่อนไก่ ฯลฯ ซึ่งอาจจะดูไม่ดีเท่าไหร่ในสายตาเรา

 

ส่วนตัวมี่แนะนำว่า อาจจะทานคอลลาเจนร่วมกับสารที่เป็น Antioxidant นะคะ เช่น Vitamin C, E, Coenzyme Q10 หรือสารสกัดจากชาเขียว หรือ เมล็ดองุ่น หรือ เปลือกสน เพื่อประโยชน์ในการบำรุงผิวค่ะ และงานวิจัยส่วนใหญ่ทดสอบที่ระยะเวลา 2 เดือนขึ้นไป ควรใจเย็น และมีทุนทรัพย์เพียงพอก่อนค่ะ

 

ส่วนตอนนี้นั้น ขอตัวไปทานคอลลาเจนก่อนนะคะ เอ้า ชนแก้ว !!

 

collagen 6.jpg

(รูปประกอบทำให้ดูเหมือนชงคอลลาเจนค่ะ)

 

สงวนลิขสิทธิ์ ห้ามนำบทความไปใช้ในเชิงพาณิชย์

 

Reference:

http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/26362110

http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/26561784

http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/24401291

http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/24471092

http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/26904164

รีวิววิเคราะห์ส่วนผสม Skindom 24K gold collagen serum

รีวิววิเคราะห์ส่วนผสม Skindom 24K gold collagen serum

วันนี้มี่แวะเอารีวิววิเคราะห์ส่วนผสมของ Skindom 24K gold collagen serum มาฝากกันค่ะ

ในส่วนของ Skindom นั้นเป็นเครื่องสำอางสัญชาติเกาหลีแบรนด์หนึ่งเลยค่ะ ที่มีจุดเด่นเรื่อง Ampoule และคอนเซปท์เรื่องผิวฉ่ำวาวสไตล์เกาหลี

ซึ่งมี่ได้เคยรีวิวไว้อยู่ 3 อย่างด้วยกันค่ะ

มาสค์:

http://www.jeban.com/viewtopic.php?t=204734

Luxury cell collagen peptide ampoule:

http://www.jeban.com/viewtopic.php?t=204911

 

วันนี้มี่จะเอาตัว 24K gold collagen serum ที่ได้รับเป็นของขวัญปีใหม่มารีวิวให้ชมหลังจากใช้ได้ไปซักพักค่ะ

 

ดูหน้าตาก่อนเนอะ

 

gold 1

 

มาในขวดแก้วสีชา มีหลอดหยด ซึ่งทางเกาหลีจะเรียกขวดในลักษณะแบบนี้ว่า Ampoule นะคะ

 

ตัวเนื้อเซรัมจะเป็นสีทอง และมีแผ่นทองคำ 24K อยู่ด้วยค่ะ

 

gold 2

 

เนื้อจะค่อนข้างหนืด ให้ความรู้สึกชุ่มชื้นผิวได้ดีค่ะ

 

gold 3

 

มีกลิ่นหอมอ่อนๆ เกลี่ยง่าย ให้สัมผัสที่ดี เคลือบปกป้องผิวได้ดี ไม่เหนอะหนะมาก

 

gold 4

 

เนื่องจากเนื้อมีสีเหลือง และมีแผ่นทองคำ มันรบกวนการอ่านค่า pH เลยไม่ได้วัดให้นะคะ

 

มาดูส่วนผสมกันดีกว่า

 

สผส skindom

 

จากส่วนผสมเราจะเห็นว่านอกจาก Hydrolyzed collagen ซึ่งเป็นคอลลาเจนที่ถูกย่อยให้มีขนาดเล็กลง ถ้ามีขนาดเหมาะสมก็จะสามารถซึมเข้าผิวได้ ให้ผลเรื่องความชุ่มชื้นและริ้วรอย กับ Gold ตามชื่อผลิตภัณฑ์แล้ว เรายังจะได้คุณสมบัติเรื่อง Antioxidant ช่วยชะลอวัย และเรื่อง Whitening เข้ามาด้วย

 

ส่วนผสมอื่นๆที่น่าสนใจก็คือ

สารสกัดจากชาเขียว ที่มาเป็นลำดับที่ 3 เลย สารสกัดชาเขียวมีประโยชน์มากมาย มีงานวิจัยมากมาย โดยรวมคือให้ผลเรื่อง Antioxidant ช่วยชะลอวัย มี Tannin ช่วยกระชับรูขุมขน ควบคุมความมันได้ด้วย

 

เสริมมาด้วย Actives ที่ให้ผลด้าน whitening หลายตัวเลย เช่น

  1. สารสกัดจากเปลือกต้น Mulberry เป็น Antioxidant และ Whitening ผ่านการยับยั้งเอนไซม์สร้างเม็ดสีผิว
  2. สารสกัดจาก Sophora ซึ่งเป็นสารสกัดจากพืชชนิดหนึ่งในตำรับยาจีน มีรายงานเกี่ยวกับคุณสมบัติในการลดการสร้าง Melanin ในผิว (Exp Dermatol. 2013;22(1):67-9.)
  3. Niacinamide ที่ให้ผลลดการส่งผ่าน Melanin ที่สร้างเสร็จแล้วไม่ให้ออกมาเห็นเป็นสีผิว และยังมีประโยชน์เรื่องลดการอักเสบ กับเพิ่มความแข็งแรงของผิว
  4. สารสกัดจากผล Acerola กับ Strawberry ที่ให้ผลด้าน Whitening และเป็น Antioxidant เช่นกัน

 

ส่วนของเนื้อหลักก็จะเป็นแบบน้ำ (Water-based) ไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน แต่มีส่วนผสมของ Ethanol หรือ Alcohol อยู่ ซึ่งอาจจะทำให้บางคนรู้สึกไม่สบายผิวได้ แต่ส่วนตัวมี่ใช้ได้ก็ไม่มีปัญหาอะไร

 

สารอื่นๆที่ใส่มาก็ไม่ได้มีพิษมีภัยอะไร

 

ให้คะแนนกันดีกว่า

  1. Actives ส่วนของสารออกฤทธิ์ดังที่ได้กล่าวเอาไว้ในด้านบน ถือว่ามีตัวบำรุงผิวอยู่รอบด้าน เน้นไปที่ Whitening กับ Moisturizer เป็นหลัก จุดนี้ขอให้ 5 ฟลาสก์
  2. Base ส่วนของเนื้อหลักมาในรูปแบบ Hydrogel ไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน แต่มีส่วนผสมของ Alcohol จุดนี้ขอให้ 4 ฟลาสก์
  3. Additives สารอื่นๆที่ใช้ไม่ได้มีพิษมีภัยอะไร จึงขอให้ 5 ฟลาสก์
  4. คะแนนการใช้งาน ส่วนตัวมี่ค่อนข้างชอบค่ะ เพราะเนื้อเจลให้ความรู้สึกชุ่มชื้น ช่วยให้ผิวนุ่มฟูและเรียบเนียน จุดนี้เลยขอให้ 5 ฟลาสก์

 

คะแนน

 

สุดท้ายนี้ขอขอบคุณทางแบรนด์ Skindom ด้วยนะคะที่ส่งผลิตภัณฑ์ดีๆมาให้มี่ได้ทดลองใช้ พบกันใหม่โอกาสถัดไป ขอบคุณที่ติดตามมาจนจบค่ะ สวัสดีค่ะ

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อสอบถามได้จากทางแบรนด์ Skindom นะคะ

https://www.facebook.com/SkindomThailand

 

Disclaimer/Conflict of interests: ผลิตภัณฑ์นี้ได้รับเป็นของขวัญจากแบรนด์ Skindom