เปิดกรุรีวิว/วิเคราะห์ส่วนผสม แป้งเกาหลี 5 แบรนด์ 5 สไตล์

เปิดกรุรีวิว/วิเคราะห์ส่วนผสม แป้งเกาหลี 5 แบรนด์ 5 สไตล์

วันนี้มี่จะมาเปิดกรุแป้งพัฟเกาหลี รีวิว วิเคราะห์ส่วนผสม แป้งอัดแข็งแบบผสมรองพื้นจากเกาหลีทั้งหมดที่มีในครอบครองให้ชมกันนะคะ

มีอะไรบ้างมาดูกันดีกว่า

pow 1

เริ่มกันที่ตัวแรก Skinfood Royal Honey density pact แป้งน้ำผึ้งชื่อดังนั่นเองค่ะ

SKF.jpg

มี่ใช้สีเบอร์ 2 ค่ะ ตัวแป้งมีกลิ่นหอมคล้ายน้ำผึ้ง อัดมาได้ค่อนข้างแน่นค่ะเวลาใช้ ทั้งแปรง ทั้งพัฟกด จะไม่ลุ่ย ไม่ร่วน ไม่หลุดล่อนออกมาเยอะค่ะ ในทางกลับกันก็จะจิกแป้งออกมาใช้ได้ยากนิดนึง

เนื้อเป็นประมาณนี้นะคะ

SKF-1

ตัวนี้จะค่อนข้าง Matte ค่ะ

ส่วนของ Feeling นั้น จะรู้สึกหยาบๆอยู่เล็กน้อย และก็ตกร่องได้เล็กน้อยค่ะ ตรงริ้วรอยตื้นๆ หรือตรงหลุมสิวเสี้ยนที่จมูก และรูขุมขน จะเห็นชัดเลย

เรื่องการคุมมัน มี่ให้ระดับ 3 ค่ะ ยังเอา T-zone ไม่อยู่

สำหรับส่วนผสมมี่คิดว่าเขาให้มาไม่ครบนะคะ
ถ้าลอกฉลากที่ก้นตลับออกมา จะเห็นว่า มีแค่ น้ำผึ้ง, Royal jelly, Titanium dioxide, Ethylhexyl methoxycinnamate, Methylparaben และ Propylparaben มีเพียงแค่นี้ไม่มีทางขึ้นรูปเป็นแป้งพัฟได้แน่นอน ส่วนตัวมี่เองก็พยายามไปตามหาตามเวบ ก็ไม่เจอส่วนผสมแบบเต็มเหมือนกันค่ะ
แต่มีแค่นี้ก็หักคะแนน Paraben ได้แล้วค่ะ ซึ่งเจ้า paraben นี่เป็นสารกันเสียที่อาจจะทำให้เกิดการแพ้ และอาจจะมีผลรบกวนระบบฮอร์โมนในร่างกายจนเพิ่มความเสี่ยงมะเร็งบางชนิดได้ คนปกติที่ไม่แพ้ ไม่มีประวัติมะเร็ง ก็ใช้ได้ไม่มีปัญหาอะไร แต่คนที่เสี่ยง ก็เลี่ยงไปจะดีกว่า

สผส skf

ตัวที่สองเป็นแป้ง แจยอน แป้งไวท์เทนนิ่ง แป้งรักษ์โลกที่ได้รับตรา Ecocert คือเป็นตรารับรองว่าผลิตภัณฑ์นั้นมีส่วนผสมของสารธรรมชาติ/สารออร์แกนิกที่ออกโดยสถาบัน ECOCERT ประเทศฝรั่งเศส เทียบเท่ากับ USDA ของ อเมริกาค่ะ

ja 1

มี่ใช้สีเบอร์ 2 เช่นกันค่ะโดยเนื้อแป้งในตลับจะมีสีเข้มเล็กน้อย แต่ปัดออกมา จะไม่ได้ออกสีเข้มขนาดนั้น ตัวแป้งมีกลิ่นหอมแนวดอกไม้ ผสมกับขนมๆ ตัวนี้จิกแป้งออกมาได้ง่าย เกลี่ยง่าย เซ็ตตัวไว ใช้เซ็ตรองพื้นได้ค่ะ

ในส่วนของเนื้อนั้นเป็นประมาณนี้ค่ะ

ja 2.jpg

จะค่อนข้างโปร่งแสงอยู่เหมือนกัน แป้งตัวนี้จะมีสัมผัสที่บางเบา คล้ายผ้าไหมค่ะ (แอบโชว์ภาษาอังกฤษสวยๆนิดนึง ว่า เป็นแบบ Silky Feel) มีความเนียนและกลืนกินไปกับผิว ไม่ตกร่อง ฉาบปิด โบกทับหมดทุกร่องรอยอารยธรรม

เรื่องการคุมมัน มี่ให้ที่ระดับ 5 ค่ะ คุมได้กริบมาก คุม T-zone ได้นานเกิน 6 ชม.

ในส่วนของส่วนผสมนั้น

สผส jayoun

จากส่วนผสมจะเห็นว่ามีส่วนผสมของสารบำรุงผิวด้วย คือ
1. Squalane เป็นไขมันที่คล้ายกับไขมันในผิว นอกจากผลเพิ่มความชุ่มชื้นแล้ว ผิวเราเอามาใช้ประโยชน์ไปสร้าง Cholesterol ที่เป็น Barrier ผิวได้
2. Leontopodium alpinum extract เป็นสารสกัดจากดอก Edelweiss จากสวิตเซอร์แลนด์ รู้จักกันในชื่อทางการค้าว่า Alpaflor® Edelweiss มีคุณสมบัติเป็น Antioxidant และมีคุณสมบัติปกป้องผิวจากรังสี UV ช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้นโดยไปมีส่วนช่วยการทำงานของเอนไซม์ Transglutaminase ที่เป็นตัวเชื่อมผิวให้แข็งแรง และยังให้ผลเรื่อง Whitening ได้ด้วย
3. Collagen ช่วยเรื่องความชุ่มชื้น
4. Hydrolyzed adansonia digitata extract มีชื่อทางการค้าว่า Dansonyl เป็นสารที่ได้จากการย่อยสลายสารสกัด Baobab พืชชื่อดังจากแอฟริกา ประกอบด้วยสารกลุ่ม Mucilage ที่มีความสามารถในการก่อฟิล์มบนผิวหนัง ช่วยดูดน้ำเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว ปกป้องกันน้ำระเหยออกจากผิว ให้ผิวนุ่มและเงางาม เมื่อฟิล์ม Set ตัวได้ จะให้ความรู้สึกตึง (Tightening effect)

ในส่วนผสมยังมีส่วนผสมของสารไขมันที่ช่วยเคลือบปกป้องผิวได้ด้วย แต่มี paraben

โดยรวมคือ แป้งนี้ให้ผลได้ทั้งด้านชุ่มชื้น เคลือบปกป้องผิว และเป็น Whitening
ตัวที่ 3 เป็นแป้งที่มีตลับมุ้งมิ้ง จาก Bisous Bisous Brightening foundation powder

bis 1

มี่ใช้เบอร์ 2 นะคะ ตัวแป้งจะมีกลิ่นหอมจางๆ มี่บรรยายไม่ถูกอะ ว่ากลิ่นอะไร แต่หอมอยู่ค่ะ จางๆ

อัดมาได้ค่อนข้างแน่น สัมผัสจะค่อนข้างลื่นและเบา คล้ายผ้ากำมะหยี่ (ภาษาอังกฤษมาค่ะ Velvety feel)

เนื้อเป็นประมาณนี้นะคะ

bis 2

ตัวนี้จะดูหนักนิดนึง แต่ไม่มากถึงขั้นหนาเตอะ และก็อาจจะมีตกร่องได้ตามรูสิวเสี้ยนบนจมูก ต้องอาศัยเอาพัฟสะอาดมากดไล่อีกครั้งหนึ่ง

เนื้อแป้งจะค่อนข้างขาวค่ะ

เรื่องการคุมมัน มี่ให้ที่ระดับ 4 ค่ะ คุม T-zone ได้ประมาณ 4 ชม

ในส่วนของส่วนผสมนั้น

สผส bisous

จะมีส่วนของสารบำรุงอยู่ 3 ตัว คือ วิตามินอี วิตามินซี และ Hydrolzyed collagen ค่ะ

แต่ก็มี paraben เช่นกัน

ส่วนของสารอื่นๆนั้น ยังไม่ได้เด่นมากค่ะ ไม่มีอะไรมีพิษมีภัยอะไรกับผิว
ตัวถัดมาเป็นของ The face shop กับตัว TheFaceShop Jelly pact

TF 1

ตัวแป้งจะเป็นแป้งดินน้ำมันนะคะ แต่ค่อนข้างแข็งนิดนึง ตัวแป้งไม่ได้นุ่มนิ่มแบบดินน้ำมันที่เราเห็นกันบ่อยๆ

ลากมาแล้วจะมีความ Glow จะมี Shimmer นิดๆ ไม่ได้ matte สนิทค่ะ กลิ่นหอมค่ะ

TF 2.jpg

ตัวพัฟดูเหมือนจะเอาแป้งออกมาได้ยาก เพราะตัวแป้งมันมาในรูปแบบกึ่งๆครีมกึ่งๆขี้ผึ้งและค่อนข้างโปร่งแสง เลยทำให้เราดูยากว่า ตอนนี้ แป้งบนพัฟเพียงพอกับการกดบนหน้าหรือยัง

เรื่องการคุมมันมี่ให้อยู่ที่ระดับ 3 นะคะ ตัวแป้งจะเน้นความโกลว เป็นหลัก

ในส่วนของส่วนผสมนั้น เป็นดังนี้นะคะ

สผส TFS

ตัวแป้งจะมีส่วนประกอบของน้ำมันจากพืชอยู่หลายตัว ตั้งแต่ Caprylic/capric triglyceride ที่เป็นน้ำมันที่มีสายไม่ยาวมาก บางเบา ไม่เหนอะหนะ ซึมไว และน้ำมันจาก Argan oil, Avocado oil และ Olive oil ซึ่งช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นได้ ถึงจะดีแต่น้ำมันจากพืชบางคนก็อาจจะอุดตันได้ค่ะ

สำหรับส่ารออกฤทธิ์ มีอยู่ 2 ตัว คือ
1. สารสกัดจากชะเอม ให้ผลเรื่องผิวขาว และลดการอักเสบ ระคายเคือง
2. สารสกัดจาก Lily (Lilium candidum bulb extract) ให้ผลเป็น Whitening

แป้งนี้จึงให้ผลเรื่อง Whitening ได้อยู่

ตัวนี้ไม่มี paraben นะคะ

 

สุดท้ายแป้งกุหลาบจาก Mille ค่ะ

mil 1

ตัวนี้เนื้อแป้งจะมีสีค่อนข้างเข้มนะคะ ให้ลุคที่ไปในทาง Matte ค่ะ

แป้งมีกลิ่นหอม อัดมาได้ค่อนข้างแน่นเช่นกัน ส่วนของสัมผัสนั้น นุ่มอยู่ค่ะ แต่ยังไม่ถึงขั้น Silky หรือ Velvety มีตกร่องได้เล็กน้อยค่ะ

mil 2.jpg

ด้านการคุมมันมี่ให้ระดับ 5 ค่ะ คุม T-zone ได้นานเกิน 6 ชม.

ในส่วนของส่วนผสม
สผส Mille

จะไม่ได้มีอะไรมากนะคะ มี น้ำมันจากพืช คือ น้ำมันรำข้าว น้ำมันเมล็ดมะรุม ซึ่งช่วยเรื่องทดแทนไขมันจำเป็นให้กับผิว ให้ผิวเอาไปสร้าง Barrier ให้ผลเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวได้ และ น้ำกุหลาบมอญ ที่ช่วยเรื่องการเพิ่มความชุ่มชื้น และให้ความรู้สึกสบายผิว (ภาษาอังกฤษ มาอีกค่ะ Soothing effect)

และตัวนี้ไม่มี Paraben นะคะ

เทียบกันนะคะ

ที่แสงธรรมดา และแสงแฟลช

เทียบเนื้อแป้ง

ตัวที่เนียนเข้ากับผิวที่สุดจะเป็นตัว Jayoun กับ TheFaceShop นะคะ โดยตัว Jayoun จะให้ความ Matte และ ตัว TheFaceShop จะให้ความ Glow เบาๆ ใครชอบแบบไหนก็จัดแบบนั้นค่ะ

งานการปกปิดต้องมาค่ะ ซึ่งมี่ทดสอบกับ สี 3 สี คือ ดำ น้ำตาล และ ชมพู เพื่อใช้ประเมินการกลบรอยดำ เม็ดสี และ รอยแดงนะคะ

การปกปิด

ตัวที่ปกปิดได้ดีสุดจะเป็นตัว Jayoun กับ Mille นะคะ ส่วน Skinfood กับ Bisous จะอยู่ในเกณฑ์กลางๆค่ะ

ถึงเวลาของคะแนนแล้วค่ะ

คะแนน

สุดท้ายนี้ขอบคุณทุกท่านด้วยนะคะ ที่ติดตามรับชมมาจนจบ พบกันใหม่โอกาสถัดไป สวัสดีค่ะ

รีวิววิเคราะห์ส่วนผสมแป้งโบท็อกซ์ ของแบรนด์ Physicians formula

รีวิววิเคราะห์ส่วนผสมแป้งโบท็อกซ์ ของแบรนด์ Physicians formula

สวัสดีค่ะพี่ๆน้องๆเพื่อนๆห้องแป้งที่น่ารักทุกท่าน ช่วงนี้มาบ่อย อย่าพึ่งเบื่อกันนะคะ

วันนี้มี่แวะเอารีวิวแป้งโบท็อกซ์ ชื่อดังจากแบรนด์ Physicians formula มาฝากกันค่ะ

ชื่อเต็มๆของเขาก็คือ

Physicans formula CoverTox Ten 50 Wrinkle therapy face powder ค่ะ

แป้ง 1

ทางแบรนด์ทำมาด้วยกัน 2 เฉดนะคะ

เป็นแป้งโปร่งแสงทั้งคู่ สี Light กับ Medium ค่ะ

ตัวแป้งนั้นมาในตลับสีดำ ค่อนข้างหนา ทนทาน พร้อมแปรงเล็กๆ 1 อันค่ะ

ตลับแป้ง

Swatch ทั้งสองสีให้ดู จะเห็นว่าต่างกันไม่มากค่ะ

แป้ง บนแขน

แป้งตัวนี้ ถ้าเราเร่งรีบ เราโบกลงบนหน้าสดได้เลย การปกปิดนั้นไม่เยอะมาก ดูบางเบา และเป็นธรรมชาติดีค่ะ
มี่ใช้สี Medium นะคะ

หน้าสด
หรือจะเอามาใช้เป็นแป้ง Set รองพื้นแทนแป้งฝุ่นก็ได้เช่นกัน ไม่เลอะเทอะ ไม่ต้องมานั่งดมแป้ง

หน้ารองพื้น

ถ้าเอามา Set รองพื้น จะได้เนื้อค่อนข้าง Matte ติดทนนานทั้งวันค่ะ สีไม่ดรอปไม่หมอง (มี่เหงื่อไม่ค่อยออกนะคะ Lifestyle: ไม่ได้ทำงานออฟฟิสตลอด ออกไปวิ่งเล่นข้างนอกบ้าง)

เอามาเติมระหว่างวัน เวลาหน้ามันก็ได้ค่ะ

ด้านหลังกล่องก็เป็นคำเคลมที่ทางแบรนด์เคลมไว้ค่ะ

แป้ง 2

มาทั้งทีไม่วิเคราะห์ส่วนผสมคงไม่ได้

ส่วนผสมเป็นดังนี้เลยค่ะ

ส่วนผสม

จากส่วนผสมจะเห็นว่า มีส่วนของสารออกฤทธิ์อยู่ 3 ตัว คือ
1. Aminobutyric acid เป็นกรดอะมิโนที่สำคัญชนิดหนึ่ง มีรายงานการวิจัยรองรับถึงผลการทาภายนอก สามารถฟื้นฟู Barrier ผิวที่เสียหายไปได้ (J Invest Dermatol. 2002;119(5):1041-7.) ลดการอักเสบ และช่วยเร่งการสมานแผล (J Microbiol Biotechnol. 2007;17(10):1661-9.) ผู้ผลิตวัตถุดิบ Claim ว่าการใช้ GABA ในเครื่องสำอางสำหรับทาภายนอก จะช่วยคลายกล้ามเนื้อ ให้ผลคล้าย Botox ได้ และสารนี้สามารถกดการสร้างเมลานินได้โดยไปยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ Tyrosinase ได้ทั้งขาวและริ้วรอยเลยทีเดียวเชียว

2. Tetrahexyldecyl ascorbate อนุพันธ์ชนิดละลายในไขมันของวิตามินซี มีความคงตัวสูง มีความเป็นกรดต่ำ ให้ผลเป็น Antioxidant ช่วยลดการสร้างเม็ดสี และ เป็นส่วนหนึ่งในการสังเคราะห์คอลลาเจน

3. Tocopheryl acetate เป็นรูปแบบหนึ่งของวิตามินอี มีคุณสมบัติเป็น Antioxidant ที่ดี แต่ส่วนมากมักจะให้ผลแค่ปกป้องสารอื่นๆในผลิตภัณฑ์ไม่ให้เสื่อมสภาพเพราะอากาศ

ส่วนของเนื้อแป้ง เป็นส่วนผสมของ Talcum ที่ช่วยเรื่องการดูดซับความมันได้, Mica ที่มีความโปร่งแสง ให้ความเงาวาว ดูสว่าง, Nylon-12 ที่เคลือบฟิล์มบนผิว ให้สัมผัสที่ดี และช่วยเรื่องการปกปิดได้เล็กน้อย

มีสารกลุ่มไขมัน/น้ำมัน และซิลิโคน เสริมเข้ามา ซึ่งจำเป็นในการตอกอัดลงพิมพ์ สารพวกนี้เป็นสารที่ค่อนข้างปลอดภัย และมีสัมผัสที่ดี ตัวที่น่าสนใจคือ Octyldodecyl stearoyl stearate ที่ให้ผลเรื่องการปกคลุมผิว ปกป้องผิว และกันน้ำระเหยออกจากผิว แต่ไม่เหนอะหนะและหนักผิว

สารอื่นๆทำมาได้ค่อนข้างดี จะมีจุดติก็แค่ตรงสารกันเสียกลุ่ม Paraben แค่นั้นเอง

มาให้คะแนนกันดีกว่าค่ะ
1. Actives ถึงจะเป็นแค่แป้งแต่งหน้า แต่ก็ไม่ได้มาเล่นๆ เพราะนางยังแฝงมาด้วย Aminobutyric acid และ วิตซี/วิตอี ตามคำเคลมของแบรนด์ คือ เคลมเรื่องของริ้วรอย ซึ่งสารออกฤทธิ์อย่าง Aminobutyric acid นั้นก็ดูมีศักยภาพเพียงพอ และมาในลำดับที่ค่อนข้างต้นๆ จึงถือว่าดูแพง สำหรับแป้งแต่งหน้าชิ้นหนึ่ง ขอให้ 5 ฟลาสก์

2. Base เนื้อเป็นส่วนผสมของ Talcum กับผงแร่ Mica และสารก่อฟิล์ม Nylon-12 กับพวกเม็ดสี Iron oxides ไม่มีอะไรให้หักคะแนน จึงเป็น 5 ฟลาสก์

3. Additives อาศัยพวก Fatty ester เป็นตัวยึดเกาะตอนตอกอัดแป้ง สารพวกนี้มีสัมผัสที่ดี และไม่อุดตันรูขุมขน แต่ในส่วนของสารกันเสียนั้น มีการใช้สารในกลุ่ม paraben จึงขอหักคะแนนไปนิดนึง เหลือ 4 ฟลาสก์

4. การใช้งาน แป้งมีสัมผัสค่อนข้างดี บางเบา ไม่หนาเตอะ ควบคุมความมันได้ดี สีไม่ดรอปไม่หมอง เอามาเติมระหว่างวันได้ เวลาทาก็ทาแล้วเรียบเนียนตามคำเคลมของแบรนด์ ช่วยกลบและอำพรางรูขุมขนได้ในตัว โดยรวมคือค่อนข้างชอบเลยค่ะ แต่ติดตรงตลับนั้นหนาไปนิด พกใส่กระเป๋าแล้วแอบกินที่ไปนิดนึง แต่ก็ไม่ได้เป็นประเด็นที่ร้ายแรงอะไร เลยขอให้ 5 ฟลาสก์

คะแนน

สุดท้ายนี้ขอขอบคุณทางแบรนด์ด้วยนะคะที่ส่งผลิตภัณฑ์ดีๆมาให้มี่ได้ทดลองใช้

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ทางเฟสบุคของแบรนด์ Physicians formula Thailand ได้โดยตรงเลยค่ะ

https://www.facebook.com/PhysiciansFormulaThailand

Disclaimer/Conflict of interest: ผลิตภัณฑ์นี้ได้รับการสนับสนุนจากทางแบรนด์