Image

ไม่ใช่แค่ 1 แต่มาเป็นคู่ รีวิว/วิเคราะห์ส่วนผสมเซรั่มคู่หูดูแลปัญหาริ้วรอย Matrix serum PE และ Retinol serum จากแบรนด์ Kisocare ประเทศญี่ปุ่น

เมื่อช่วงปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา มีโอกาสได้รู้จักกับแบรนด์ Kisocare เป็นแบรนด์จากญี่ปุ่น มาในสายสกินแคร์เรียบง่ายแต่พัฒนาสูตรมาด้วยความเอาใจใส่ ทุกอย่างอิงตามหลักการทางวิทยาศาสตร์ และมีการเลือกใช้ส่วนผสมใหม่ๆ ที่น่าสนใจ

โดยส่วนตัวเองก็มีโอกาสได้ลองสินค้าของทางแบรนด์หลายๆ ชิ้น ใน Blog นี้จะเป็นการหยิบเอา 2 ชิ้นที่คิดว่า ใช้คู่กันแล้วเสริมกันแบบลงตัวมาก มารีวิว/วิเคราะห์ส่วนผสมกัน

โดยเป็นคู่ของ Matrix serum PE + Retinol serum ที่เหมือนเกิดมาเพื่อกันและกัน

ซึ่งเราจะเริ่มกันที่ตัว Matrix serum ซึ่งเป็น peptides เบลนด์ ใช้ได้ทั้งเช้าและเย็น

มาในหน้าตาแบบนี้นะคะ

เซรั่มเป็นเบสแบบน้ำใส ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม

เกลี่ยง่าย ซึมไวแห้งไว ไม่เหนอะหนะ ให้สัมผัสที่ชุ่มชื้น และเย็นสบายผิว

ในด้านส่วนผสมเป็นดังนี้ค่ะ

ในภาพรวมเป็นเซรั่มเปปไทด์ที่เสริม antioxidant จากวิตามินซี มาในเบสแบบน้ำ

ส่วนผสมของสารบำรุงขอเริ่มที่หมวดเปปไทด์ก่อน

  • คอมบิเนชั่นของ Palmitoyl tetrapeptide-7 + Palmitoyl tripeptide-1 รู้จักกันในนาม Matrixyl 3000 ซึ่งมีข้อมูลเด่นๆ ในด้านของการเสริมการสังเคราะห์คอลลาเจนหลายๆ ชนิดในผิว เช่น Collagen I ที่เป็นตัวหลักในด้านกระชับ เฟิร์ม แข็งแรง ร่วมกับ Collagen IV + VII และ Nidogen I ที่ฟอร์มคอมเพล็กส์ร่วมกัน อุ้มเอารอยต่อชั้นหนังกำพร้า-หนังแท้ (DEJ) เอาไว้ เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดริ้วรอยลึก และช่วยซัพพอร์ตการจัดเรียงตัวของเส้นใย matrix ให้ผิวกระชับแน่น (Ref: TDS Matrixyl 3000)
  • Acetyl hexapeptide-8 เป็น neuropeptide ที่ช่วยคลายริ้วรอยให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น มีวิจัยรองรับอยู่ (Am J Clin Dermatol 2013;14:147–153.)
  • Pentapeptide-18 ตัวนี้เป็น neuropeptide อีกตัว ที่เสริมกันกับ Acetyl hexapeptide-8 ในการดูแลริ้วรอยต่างๆ และพวกริ้วรอยจากการแสดงสีหน้า (expression line) ได้อย่างลงตัว พร้อมทั้งได้ประโยชน์ในด้านผิวชุ่มชื้น ตัวนี้มีวิจัยรองรับอยู่ถึงประสิทธิภาพในการดูแลปัญหาริ้วรอย (Cosmetics. 2014;1(2): 75-81.)

คอมบิเนชั่นของ Acetyl hexapeptide-8 + Pentapeptide-18 มีชื่อเรียกในวงการว่า Argirelox

ถัดมาเป็น Sodium ascorbyl phosphate ที่เป็นอนุพันธ์ของวิตามินซีที่ละลายน้ำได้ เป็น antioxidant ที่ดี มีประโยชน์ในเชิง whitening และมีประโยชน์เสริมในการดูแลปัญหาสิว

เสริม Hya ที่ช่วยดูแลเรื่องความชุ่มชื้นผิว

ตัวถัดมาเป็นเซรั่มเรตินอล ซึ่งทำมาได้ดีไม่แพ้กันค่ะ

น้องมาในหน้าตาแบบนี้

รุ่นนี้มีเคลมว่าใช้เรตินอล 0.1% มาในสูตรอ่อนโยน แต่ด้วยความเป็นเรตินอล เราจะใช้แค่ตอนกลางคืน

เนื้อเซรั่มมาในเบสแบบน้ำ สีเหลืองตามธรรมชาติของเรตินอล ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม

เกลี่ยได้ง่าย ซึมไวแห้งไวไม่เหนอะหนะ เนื้อค่อนข้างเบาสบายผิว

ส่วนผสมเป็นดังนี้

ในภาพรวมน้องมาในเบสแบบน้ำ มีส่วนผสมของน้ำมันบำรุงผิวอยู่นิดหน่อย

ในกลุ่มของวิตามินเอ มีด้วยกัน 6 อนุพันธ์ บางตัวเป็นฟอร์มที่หาพบในสกินแคร์ได้ยาก และมีราคาสูง

  • Retinol ฟอร์มธรรมชาติ มีประโยชน์ในการดูแลผิวหลายประการ ตั้งแต่เรื่องปรับสมดุลการสร้าง-ผลัดออก ให้ผิวแข็งแรง กระชับ ดูแลปัญหาผิว ริ้วรอย ชะลอวัย แต่ตอนจะออกฤทธิ์ต้องแปรสภาพในผิวก่อน
  • Hydroxypinacolone retinoate หรือ HPR ตัวนี้มีข้อมูลจากผู้ผลิตว่าอ่อนโยนกว่า Retinol ให้ประโยชน์เหมือนกัน บางแหล่งข้อมูลกล่าวว่าสามารถออกฤทธ์ได้เลยโดยไม่ต้องผ่านการแปรสภาพ
  • Retinyl palmitate เป็นเอสเทอร์ของเรตินอล ต้องถูกแปรสภาพเป็น Retinol ก่อน แต่ข้อดีคือ เป็นเหมือนสต็อคให้เรตินอล ผิวจะค่อยๆ เปลี่ยนมา และมีโอกาสระคายเคืองน้อยกว่า Retinol
  • Hydrogenated retinol เป็นเรตินอลที่ดัดแปลงโครงสร้างให้เป็นสารอิ่มตัว มีข้อมูลว่า มีความคงตัวมากขึ้น การระคายเคืองผิวน้อยลง มีสิทธิบัตรญี่ปุ่นพูดถึง Hydrogenated retinol ว่าสามารถเสริมการสร้าง Hyaluronic acid ตามธรรมชาติในผิว ให้ผิวชุ่มชื้น นุ่มนวล และดูแลปัญหาริ้วรอย (Ref: JP2006193427A)
  • Tocopheryl retinoate เป็นลูกผสมระหว่างวิตามินเอ-อี มีคุณสมบัติเป็น antioxidant เสริมการสังเคราะห์คอลลาเจน และมีการระคายเคืองน้อยลง
  • Sodium retinoyl hyaluronate เป็นลูกผสมของวิตามินเอ-ไฮยา มีเคลมว่าดูดซึมได้ดีขึ้น ลดการระคายเคือง และช่วยให้ผิวชุ่มชื้น

เสริมไฮยาเข้ามาหลายฟอร์มเพื่อดูแลเรื่องความชุ่มชื้นให้แก่ผิว ตัวที่น่าสนใจคือ Sodium hyaluronate crosspolymer-2 ซึ่งเป็นไฮยาตัวใหญ่มาก สร้างตัวเป็นฟิล์มที่แข็งแรงบนผิว ให้ผิวนุ่มนวล และชุ่มชื้น ช่วยเก็บน้ำให้ผิว (moisture retention)

ในส่วนของ antioxidant มีการเสริมวิตามินอี ร่วมกับสารสกัดจากชาเขียว โรสแมรี่ และดูแลการระคายเคืองด้วยสารสกัดจาก cica, scutellaria, polygonum และชะเอม

มาให้คะแนนกัน

Blog นี้ขอให้คะแนนของ Retinol serum นะคะ

  1. สารบำรุง มีวิตามินเอและอนุพันธ์ รวมๆ กัน 6 ฟอร์ม ซึ่งบางฟอร์มหาได้ยากและมีราคาสูง ถือเป็นโอกาสอันดีที่ได้ลองวิตามินเอฟอร์มใหม่ๆ เสริมไฮยาหลากหลายชนิด ที่ดูแลเรื่องความชุ่มชื้น พร้อมไฮยาที่ก่อฟิล์มช่วยให้ผิวกักเก็บน้ำได้มากขึ้น มี Antioxidant และมีสารที่ดูแลการระคายเคือง โดยจะเน้นเป็นพวกสารสกัดจากพืช ซึ่งมีวิจัยซัพพอร์ตอยู่ ถ้านับแค่ความเป็น Retinol serum ก็คือสมบูรณ์แบบ ให้ไป 5 ฟลาสก์
  2. ส่วนผสมอื่นๆ ไม่มีสารที่ไม่เป็นมิตรกับผิว และมาในเบสแบบน้ำ ให้ไป 5 ฟลาสก์
  3. ความชอบ ส่วนตัวค่อนข้างชอบความเป็นเบสน้ำของผลิตภัณฑ์ ใช้งานง่าย เลเยอร์ลงสกินแคร์รูทีนได้ง่าย จะเสริมน้ำตบเซราไมด์ของแบรนด์ก็คือจอยอยู่นะฟินไม่แพ้กัน หรือเอามาทำ retinol sandwich คู่กับมอยส์ที่มีอยู่ก็จอยไม่แพ้กัน ให้ไป 5 ฟลาสก์

สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณทางแบรนด์ Kisocare สาขาประเทศไทย ที่ส่งผลิตภัณฑ์ดีๆ มาให้ได้เปิดหูเปิดตา ได้ลองวิตามินเอฟอร์มที่หาตัวจับยาก และขอบคุณทุกท่านที่ติดตามรับชมมาจนจบค่ะ

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ทางแบรนด์โดยตรงเลยนะคะ

Facebook: https://www.facebook.com/kisocare.thailand

IG: https://www.instagram.com/kisocare.thailand/

แนบลิงค์ช้อปปิ้ง

Matrix serum PE

Shopee https://s.shopee.co.th/40YA0Fiu9F

Lazada https://s.lazada.co.th/s.ZaExmP?cc

Retinol serum

Shopee https://s.shopee.co.th/7KobyIuImD

Lazada https://s.lazada.co.th/s.ZaEx9U?cc

Disclaimer/conflict of interests: ผลิตภัณฑ์นี้ได้รับการสนับสนุนจากทางแบรนด์ Kisocare การรีวิวครั้งนี้เป็นการวิเคราะห์ส่วนผสม/วัตถุดิบตามหลักการทางวิทยาศาสตร์เครื่องสำอางและอาศัยความเห็นส่วนบุคคล และผู้เขียนไม่ได้ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทเครื่องสำอางใดๆ โปรดใช้วิจารณญาณ