Image

รีวิว/วิเคราะห์ส่วนผสมเซรั่มเพื่อผิวกระจ่างใส LumiLYS[C] จาก So’Bio Etic แล้วจะอึ้งเหมือนดิฉัน ว่า Certified organic แต่ mechanism เริ่ดมงลง 10 10

สำหรับ Blog นี้จะมาวิเคราะห์ส่วนผสมของเซรั่มที่พึ่งออกใหม่ในไลน์ Lumilys [C] ของ So Bio Etic กัน

โดยน้องมาในหน้าตาแบบนี้

ส่วนนี้เป็นแพคเกจ จะมีความเหลือบรุ้งแวววาว ทำไมต้องเหลือบรุ้งแวววาว เดี๋ยวมาดูกัน

เนื้อเซรั่มมาในเบสแบบน้ำนม มีกลิ่นหอมนวลๆ

เกลี่ยได้ง่าย ให้ความชุ่มชื้นสูง

เซรั่มตัวนี้มีสารบำรุงหลายชนิดที่เสริมกันได้อย่างลงตัว เพื่อดูแลปัญหาสีผิวไม่สม่ำเสมอ เสริมความกระจ่างใสตามธรรมชาติของผิว

ผ่านการทดสอบประสิทธิภาพในอาสาสมัคร หญิง จำนวน 21 คน จากคะแนนความพึงพอใจพบว่า

  • เมื่อใช้ได้ 2 สัปดาห์ ผิวสว่างกระจ่างใสมากขึ้น
  • 4 สัปดาห์ จุดด่างดำดูจางลง
  • 8 สัปดาห์ 90% ของอาสาสมัคร รู้สึกว่าจุดด่างดำจางลงอย่างชัดเจน

จากผลการประเมินในห้องปฏิบัติการ พบว่า

  • 4 สัปดาห์ จุดด่างดำสีจางลง 11.5% และ สีผิวสม่ำเสมอมากขึ้น 24.5%
  • 8 สัปดาห์ จุดด่างดำสีจางลง 29.5% และ สีผิวสม่ำเสมอมากขึ้น 56.6%

ในด้านของส่วนผสมเป็นดังนี้

ในภาพรวมน้องมาในเบสแบบน้ำนม มีส่วนผสมของน้ำมันบำรุงผิวจากธรรมชาติ ส่วนผสมที่เลือกมาค่อนข้างเป็นมิตรทั้งกับผิวและกับสิ่งแวดล้อม สูตรนี้ได้รับการรับรอง Certified Organic จาก Cosme Bio ประเทศฝรั่งเศส

ในด้านสารบำรุงที่เด่นเรื่อง Whitening จะมี Highlight ingredient เป็น สารสกัดจากสาหร่ายสีรุ้ง Cystoseira tamariscifolia extract แบรนด์เคลมว่าเก็บด้วยมือจากพื้นที่ทะเลฝรั่งเศส และได้รับเคลม Organic ในส่วนของการออกฤทธิ์ กลไกการออกฤทธิ์ครบ ตั้งแต่ต้นน้ำ-กลางน้ำ-ปลายน้ำ ของกระบวนการสังเคราะห์เม็ดสี

  • ต้นน้ำ: ลด POMC ซึ่งเป็นโปรตีนตั้งต้นของ MSH ที่เป็นฮอร์โมนตัวแม่ที่จะไปกระตุ้นให้เซลล์สร้างเม็ดสี (melanocyte) ทำงานต่อไป  นอกจากนี้สารสกัดยังไปกระตุ้น AGRP gene ยีนนี้จะสร้าง AGRP ออกมา แล้วไป Block การจับของ MSH กับ Melanocortin ทำให้เม็ดสีไม่สร้าง ผลรวมก็คือ melanocyte ไม่โดนกระตุ้น
  • กลางน้ำ: ยับยั้งเอนไซม์ Tyrosinase และชะลอไม่ให้ถุง melanosome ใน melanocyte เจริญจนเป็นถุงพร้อมส่งออกไปหนังกำพร้า
  • ปลายน้ำ: ลดการส่งผ่าน melanosome ที่มีเม็ดสีไม่ให้ออกมายังหนังกำพร้า พร้อม กระตุ้นการสลายตัวของถุงเม็ดสีในหนังกำพร้า

พอเป็นสาหร่ายสีรุ้งก็เลยมีแพคเกจเหลือบแวววาวสีสวยแบบนี้ค่ะ

สำหรับสารบำรุงอื่นๆ ที่ให้ประโยชน์ในด้านการดูแลสีผิวไม่สม่ำเสมอก็จะมี

  • Ascorbyl glucoside (AA2G) เป็นวิตามินซีฟอร์มที่ละลายน้ำได้ดี ความคงตัวดีทั้งต่ออุณหภูมิ และ ทน pH ได้ในช่วงกว้าง (Huang et al., Bioorg Med Chem Lett 2013;23(6):1583-1587.) ดูดซึมผ่านผิวได้ เมื่อลงผิวจะกลายร่างเป็น Ascorbic acid (AA) ได้ บางการศึกษาว่าการว่า AA2G มีฤทธิ์ยาวนานกว่า AA เพราะมาจากผิวเราค่อยๆ ตัด Glucose ออก ได้ AA มาทีละน้อยๆ ในด้านของประสิทธิภาพ นั้น มีผลการทดสอบในเซลล์เพาะเลี้ยงชนิดต่างๆ พบว่า AA2G มีคุณสมบัติเป็น Whitening โดยไปลดการสร้างเม็ดสี กระตุ้นการสังเคราะห์คอลลาเจน ประสิทธิภาพเหมือน LAA แต่ออกฤทธิ์ได้นานกว่า ปกป้องเซลล์ผิวจากรังสี UVB ได้ดีตามความเข้มข้นที่เพิ่มขึ้น (Dose dependent) และลดการอักเสบที่เกิดต่อเนื่องมาจากรังสี UV และ เป็น Antioxidant ที่ดี (Enescu et al., J Cosmet Dermatol. 2022;21:2349–2359; Kumano, et al., J Nutr Sci Vitaminol (Tokyo) 1998;44(3):345-359.) ซึ่งทางแบรนด์เคลมว่าใช้อยู่ที่ความเข้มข้น 3%
  • สารสกัดจากหัวและดอก Lily (Lilium candidum) ซึ่งมีสารในกลุ่ม Polyphenol สูง เป็น antioxidant และ ยับยั้งเอนไซม์ Tyrosinase ที่สร้างเม็ดสี จึงได้ทั้งประโยชน์ในเชิงการชะลอวัย และดูแลปัญหาสีผิวไม่สม่ำเสมอ

นอกจากนี้ยังเสริม Witch hazel leaf water ที่เด่นเรื่องของการกระชับรูขุมขน (astringent) ว่านหางจระเข้ ดูแลเรื่องความชุ่มชื้น และการระคายเคือง และกรดอะมิโน arginine ที่ช่วยเติมน้ำให้ผิว

ในส่วนของการปรับเนื้อให้มีความไม่มันเยิ้มนั้นใช้ ผงจากแกลบข้าว (Rice hull powder) ซึ่งช่วยดูดซับน้ำมันและความมันส่วนเกิน และปรับ finish ให้ matte พร้อมนุ่มนวลขึ้นอีก 1 เสต็ป ด้วย Lauroyl lysine

สำหรับน้ำหอมนั้นแบรนด์เคลมว่าเป็น 100% natural fragrance ค่ะ

มาให้คะแนนกัน

  1. สารบำรุง ในด้าน Whitening การดูแลสีผิวไม่สม่ำเสมอนั้น ถือว่าจัดมาได้ครบทั้งกระบวนการสร้าง-ส่งออกเม็ดสี ด้วยสารสกัดจากสาหร่ายสีรุ้ง เสริม ascorbyl glucoside และ สารสกัดจาก Lily เสริมคุณสมบัติในการเพิ่มความชุ่มชื้น ดูแลการระคายเคือง และดูแลเรื่องความมันบนผิวได้อีกหน่อย ให้ไป 5 ฟลาสก์
  2. ส่วนผสมอื่นๆ ทำมาได้ดี ไม่มีสารที่ไม่เป็นมิตรกับผิว ให้ไป 5 ฟลาสก์
  3. ความชอบ เอาจริงๆ ทางนี้ว่า น้องเหมาะมากสำหรับการใช้กลางคืน แล้วใช้คู่กับตัวไนท์ครีมของเขาด้วยนะ คือ ฉ่ำมาก ได้แน่เลยคือ ความชุ่มชื้น ส่วนด้านผิวกระจ่างใส มันจะแบบว่าเสริมออร่า เสริมความสว่าง แบบค่อยเป็นค่อยไป ไม่ได้ขาวแบบหวือหวา แต่สวย จนคนทักว่าผิวดูดี ในส่วนของกลางวัน ถ้าอากาศร้อนมากๆ หรือชื้นมากๆ คิดว่าน้องชุ่มชื้นไปหน่อย แต่ถ้าใครผิวแห้งน่าจะชอบ ถ้านับแค่ใช้กลางคืนก็ขอให้ไปเลย 5 ฟลาสก์

ไหนๆ ก็เมนชั่นถึงไนท์ครีมแล้ว

มาค่ะ ซักนิด ตัวไนท์ครีมมีชื่อว่า Gentle peeling cream มาในหน้าตาแบบนี้

เนื้อครีมจะมีความหนักขึ้นมาเล็กน้อย

ตอนเกลี่ยจะขึ้นขาวได้เล็กน้อยซึ่งเป็นลักษณะปกติของการขึ้นเนื้อครีมด้วยสารที่ certified natural/organic นะคะ เมื่อเกลี่ยเสร็จแล้วจะได้ฟินิชที่ชุ่มชื้นดี

สำหรับส่วนผสมของสูตรครีมเป็น

ในภาพรวมก็คือสารบำรุงชุดหลักจะเหมือนตัว Serum แต่จุดที่เพิ่มเติมเข้ามาคือ

  • สารสกัดจาก Sea fennel (Crithmum maritimum extract) อันนี้แบรนด์เคลมเรื่องผลัดผิวอย่างอ่อนโยน ดูแลเรื่องความกระจ่างใส และดูแลริ้วรอย
  • เพิ่มน้ำมันบำรุงผิว โดยมีส่วนผสมของน้ำมันทานตะวัน Castor, Shea butter เข้ามา

สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณทางแบรนด์ So’Bio ด้วยนะคะ ที่ส่งสินค้าดีๆ มาในกลไกใหม่ๆ แปลกตา มาให้ได้รู้จัก และได้เปิดหูเปิดตาว่า สูตร Certified organic สามารถทำอะไรที่มันมีกลไกการออกฤทธิ์แบบซับซ้อนได้จริง และมาพร้อมผลทดสอบในอาสาสมัคร อันนี้ชอบมาก

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ทางแบรนด์ So’Bio เลยนะคะ

https://www.facebook.com/tipchapter35

ทางไปช้อปปิ้ง

https://s.lazada.co.th/s.yOjCS?cc

https://s.shopee.co.th/8AL1X6YQJO

Disclaimer/conflict of interests: ผลิตภัณฑ์นี้ได้รับเป็นของขวัญมาจากทางแบรนด์ การรีวิวครั้งนี้เป็นการวิเคราะห์ส่วนผสม/วัตถุดิบตามหลักการทางวิทยาศาสตร์เครื่องสำอางและอาศัยความเห็นส่วนบุคคล ผู้เขียนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทเครื่องสำอางใดๆ โปรดใช้วิจารณญาณ

Image

รีวิว/วิเคราะห์ส่วนผสม เซรั่มวิตามินซี Avène Vitamin Activ Cg เซรั่มน้ำแร่อาเวน ผสมวิตามินซีฟอร์ม Glucoside

สำหรับคอนเทน์นี้ขอหยิบเอาเซรั่มวิตามินซีจากแบรนด์อาเวน Avène Vitamin Activ Cg มาวิเคราะห์ส่วนผสมให้ได้ชมกัน

น้องมาในหน้าตาแบบนี้ค่ะ

ส่วนนี้จะเป็นกล่อง

เนื้อสัมผัสเป็นแบบน้ำนม มีกลิ่นหอม

เกลี่ยได้ง่าย ให้ความชุ่มชื้นดี ไม่เหนอะหนะ

ค่า pH อยู่ที่ประมาณ 6 ซึ่งเป็นช่วงที่ใกล้กับผิว และวิตซีฟอร์ม Ascorbyl glucoside คงตัวอยู่เช่นกัน

ตัวผลิตภัณฑ์มีเคลมเรื่องการทดสอบประสิทธิภาพในอาสาสมัครจำนวน 44 คน ทาวันละ 2 ครั้ง เป็นเวลา 1 เดือน พบว่า

  • อาสาสมัครรู้สึกว่าหลังทา ผิวแลดูกระจ่างใสขึ้น
  • ที่ 15 วัน อาสาสมัครรู้สึกว่าผิวนุ่มขึ้น และ 95% รู้สึกว่า ฟูขึ้น (plump)
  • ที่ 1 เดือน จุดด่างดำดูจากลง จากการประเมินด้วย Clinical score3

ส่วนผสมเป็นดังนี้

ในภาพรวม น้องมาในเบสแบบน้ำนม ไม่มีส่วนผสมของสารที่ไม่เป็นมิตรกับผิว เรียกได้ว่า ทำมาได้น่าสนใจเลยทีเดียว

เริ่มเปิดมาด้วย น้ำแร่ Avene ซึ่งมีเคลมเกี่ยวกับคุณสมบัติในการ Soothing ให้ความรู้สึกสบายผิว ใช้เป็นเบสหลักเลย

ในด้านของสารบำรุงหลัก คือ วิตามินซี ที่ใช้ในฟอร์ม Ascorbyl glucoside หรือ AA2G ชื่อเต็มๆ Ascorbic acid 2-glucoside ซึ่งเป็นฟอร์มที่ละลายน้ำได้ดี ความคงตัวดี ทน pH ได้ในช่วงกว้าง (ถึงประมาณ 7 ยังไหว) ดูดซึมผ่านผิวได้ เมื่อลงผิวจะกลายร่างเป็น Ascorbic acid ได้ บางการศึกษาว่าการว่า AA2G มีฤทธิ์ยาวนานกว่า AA เพราะมาจากผิวเราค่อยๆ ตัด Glucose ออก ได้ AA มาทีละน้อยๆ

สารนี้แรกเริ่มเหมือนพัฒนามาเป็นอาหารเสริม โดยบริษัทญี่ปุ่น งานวิจัยในยุคแรกๆ จะเป็นไปในรูปแบบรับประทาน

ในญี่ปุ่น AA2G จัดเป็นสาร Active ที่อยู่ในกลุ่มของ Quasi-drug ที่ผ่านการขึ้นทะเบียนโดย Ministry of health, Labor and Welfare ของญี่ปุ่น เพื่อใช้เป็น Whitening

มีการศึกษาพบว่า AA2G นั้นมีความคงตัวที่ดีต่ออุณหภูมิ และ pH และมีการทดสอบพบว่า ที่อุณหภูมิ 55.3 องศา pH 6.4 น้องยังคงตัวอยู่ (Huang et al., Bioorg Med Chem Lett 2013;23(6):1583-1587.)

ในเรื่องของการประเมินการดูดซึมผ่านผิวมีการทดสอบในมนุษย์อยู่ค่ะ แต่ใช้อาสาสมัครจำนวนไม่มาก และทำในสภาวะที่ Full occlusive (เคลือบปิด อารมณ์เหมือนมาสก์ ด้วย Plastic wrap) เพื่อผลักสารเข้าแบบสุด

การทดลองชุดแรก ให้อาสาสมัครผู้ชาย 5 คน ทาครีม AA2G เข้มข้น 2% ปริมาณ 7.5 กรัม แล้วห่อ wrap ไว้ 14 ชั่วโมง วิเคราะห์ปริมาณของ Ascorbic acid ในปัสสาวะทุกๆ 2 ชั่วโมง เป็นเวลา 26 ชั่วโมง พบว่า ตรวจเจอ Ascorbic acid ในปัสสาวะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนถึงจุดพีคที่ 14 ชั่วโมง และยังตรวจเจอต่อเนื่องแม้แกะครีมออกไปแล้วจนถึง 26 ชั่วโมง

แสดงว่ามันดูดซึมลงไปถึงหนังแท้ แล้วเข้าสู่เส้นเลือดที่หนังแท้ ไปขับออกมากับปัสสาวะ

ชุดถัดมา ให้อาสาสมัครทาครีม 2% AA2G บริเวณแขน แล้วห่อ wrap กับพันผ้าพันแผลทับอีกชั้นเป็นเวลา 12 ชั่วโมง แล้วเก็บชิ้นเนื้อมาตรวจหลังจากแกะ wrap 12 ชั่วโมงกับ 3 วัน พบว่า AA2G สามารถดูดซึมเข้าไปในผิว และแปรสภาพกลายเป็น Ascorbic acid ได้ (Kumano, et al., J Nutr Sci Vitaminol (Tokyo) 1998;44(3):345-359.)

ในด้านของประสิทธิภาพ นั้นส่วนใหญ่จะเป็นการทดสอบในเซลล์เพาะเลี้ยงชนิดต่างๆ พบว่า AA2G มีคุณสมบัติเป็น Whitening โดยไปลดการสร้างเม็ดสี กระตุ้นการสังเคราะห์คอลลาเจน ประสิทธิภาพเหมือน LAA แต่ออกฤทธิ์ได้นานกว่า ปกป้องเซลล์ผิวจากรังสี UVB ได้ดีตามความเข้มข้นที่เพิ่มขึ้น (Dose dependent) และลดการอักเสบที่เกิดต่อเนื่องมาจากรังสี UV และ เป็น Antioxidant ที่ดี ทำงานร่วมกันกับ Vitamin E และให้ผลเสริมฤทธิ์กันเหมือน LAA (แต่ฤทธิ์เบากว่า LAA)

Key References
1. Enescu et al., J Cosmet Dermatol. 2022;21:2349–2359
2. Kumano, et al., J Nutr Sci Vitaminol (Tokyo) 1998;44(3):345-359.

สารบำรุงอื่นๆ ในตำรับ ได้แก่

  • Niacinamide ซึ่งมีประโยชน์ต่อผิวหลายประการ ไม่ว่าจะเป็น Whitening ผ่านการยับยั้งการส่งผ่านเมลานินที่สร้างเสร็จแล้วไม่ให้ออกไปด้านนอก ดูแลเรื่องการอักเสบระคายเคือง ควบคุมความมัน แบรนด์เคลมว่าใส่มาที่ 3%
  • Bakuchiol เป็นสารในกลุ่มของ Meroterpene ที่พบได้ในพืชสมุนไพร มีการออกฤทธิ์คล้ายกับ Vitamin A ซึ่งมีการศึกษาในผิวหนังจำลอง พบว่าให้คุณสมบัติในการสังเคราะห์คอลลาเจน โปรตีนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับความกระชับผิว รวมไปถึง Aquaporin-3 ที่เกี่ยวข้องกับการเก็บกักน้ำและสารโมเลกุลเล็กเช่น Glycerol ก่อนนำไปทดสอบในอาสาสมัคร โดยให้ทาที่บริเวณตีนกาวันละ 2 ครั้ง เป็นเวลา 12 อาทิตย์ พบว่า เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของ Bakuchiol มีประโยชน์ในการลดริ้วรอย เพิ่มความกระชับและความยืดหยุ่น รวมถึงปรับสภาพสีผิวให้สม่ำเสมอมากขึ้น (Chaudhuri and Bojanowski. Int J Cosmet Sci. 2014;36(3):221-30.) ต่อมามีการทดสอบในอาสาสมัครอีกครั้งในปี 2018 เทียบกับ Retinol พบว่าให้ผลในด้านของการลดเลือนริ้วรอย และปรับสภาพสีผิวให้สม่ำเสมอ เช่นเดียวกัน แต่อาสาสมัครกลุ่มที่ใช้ Bakuchiol มีอาการข้างเคียงน้อยกว่า (Dhaliwal, et al. Br J Dermatol. 2019;180(2):289-296.)
  • Sodium diluaramidoglutamide lysine ตัวนี้เป็นสารที่ทำหน้าที่ได้หลายอย่าง เป็นได้ทั้งตัวทำครีม (Emulsifier) มีโครงสร้างคล้ายเซราไมด์ ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น เป็น emollient ให้ผิวนุ่ม
  • Sodium hyaluronate เติมน้ำ เพิ่มความชุ่มชื้น
  • Tocopherol glucoside เป็นวิตามินอีที่ดัดแปลงโดยเอาน้ำตาลกลูโคสมาจับ เจอข้อมูลอยู่ว่า มีชื่อทางการค้าว่า Pretocopheryl® [จาก บ. Pierre Fabre ประเทศฝรั่งเศส] เป็น Antioxidant มีความคงตัวดี ดูดซึมผ่านผิว และค่อยๆ ปลดปล่อยวิตามินอีออกมาทีละน้อย (J Control Release. 2004 Nov 24;100(2):221-31.) มีข้อมูลเสริมๆ ว่า น้องละลายได้ในน้ำ และมีคุณสมบัติปกป้องผิวจากรังสี UV ได้

ให้คะแนน

  1. สารบำรุง ทำมาได้ค่อนข้างดี เลือกเอา C + E ที่เป็นฟอร์ม Glucoside ทั้งคู่ ทำให้ค่อยๆ ปลดปล่อยเอา C + E ออกมาช้าๆ ในผิว เสริมฤทธิ์กันและกันได้อย่างลงตัว จูงมือมากับ Bakuchiol และสารอื่นๆ ให้ประโยชน์ในด้าน Antioxidant, Whitening, ดูแลปัญหาด้านริ้วรอย พร้อม Soothing ให้ความรู้สึกสบายผิว จัดไป 5 ฟลาสก์
  2. ส่วนผสมอื่นๆ ไม่มีสารที่ไม่เป็นมิตรกับผิว รับไป 5 ฟลาสก์
  3. ความชอบ ส่วนตัวค่อนข้างชอบเนื้อสัมผัส อาจจะด้วยเราผิวผสม-แห้ง เลยค่อยข้างชอบเนื้อชุ่มๆ ประมาณนี้ ในด้านจุดด่างดำ และริ้วรอย ตัวเองยังไม่มีปัญหาด้านนี้ เลยใช้เพื่อชะลอมากกว่า ซึ่งก็ประทับใจ จะติ ก็แค่ตัวแพคเกจ มันดูปิดแล้วแบบลอยๆ กลัวจะหกเวลาเดินทาง แต่ก็พกไปนะ ยังไม่เคยเจอหก และเรื่องกลิ่นหอม ที่อาจจะแรงไปนิดนึงสำหรับเรา แต่ก็ไม่ถึงขั้นจะต้องหักคะแนน เอาไป 5 ฟลาสก์เต็มๆ

สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณทุกท่านด้วยค่ะ ที่ติดตามรับชมมาจนจบ พบกันใหม่ Blog ถัดไป สวัสดีค่ะ

สำหรับท่านที่สนใจไปช้อปปิ้ง เรียนเชิญได้ค่ะ

แอพฟ้า https://s.lazada.co.th/s.tMj9f?cc

แอพส้ม https://s.shopee.co.th/50JKzy7WbY

Disclaimer/conflict of interests: ผลิตภัณฑ์นี้ซื้อด้วยตนเอง การรีวิวครั้งนี้เป็นการวิเคราะห์ส่วนผสม/วัตถุดิบตามหลักการทางวิทยาศาสตร์เครื่องสำอางและอาศัยความเห็นส่วนบุคคล และผู้เขียนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทเครื่องสำอางใดๆ โปรดใช้วิจารณญาณ

Image

Mini Review: รวบตึง รวมดาววิตามินซีทางเลือก อย่าง Ascorbyl glucoside และ Sodium ascorbyl phosphate

รวบตึง รวมดาว vit c ทางเลือก สำหรับคนผิวบอบบาง ระคายเคืองง่าย ที่ดิฉันได้ลองช่วง Q4 ของปี 2024 และ เดือน มค 2025

**ลำดับในภาพไม่ได้เป็นตัวบอกว่าอันไหนเริ่ดสุดนะคะ แค่เรียงให้สวยเฉยๆ

ชิ้นแรก

Drunk Elephant C-Luma

สูตรนี้เหมือนจะออกมาใหม่ช่วงกลางปี – ปลายปี

ใช้ Sodium ascorbyl phosphate 9% + Ascorbyl glucoside 1% เคลม pH 6

เสริมสารบำรุงอีกหลายชนิด เช่น Diglucosyl gallic acid ที่มีกลไกการออกฤทธิ์ที่น่าสนใจ คือ อาศัยจุลินทรีย์เจ้าบ้าน (ไมโครไบโอต้า) บนผิวแปลงร่างให้ออกฤทธิ์ได้ เป็น whitening ดูแลรอยแดง พร้อม soothing

Glutathione + Phloretin (antioxidant กลุ่มฟีนอลิกที่พบในพืชธรรมชาติหลายชนิด) + Vit E ช่วยปกป้อง VC ในสูตร + เป็น antioxidant

พิกัด เคาน์เตอร์ในห้าง และ Sephora

ชิ้นที่ 2

Avene Vitamin Cg

นี่หญิงหยิบน้องมาอีกแล้วหรอ ใช่ค่ะ อีกรอบ

Ascorbyl glucoside (AA2G) 1.8% เสริม Bakuchiol 1.5% และ Niacinamide 3%

วัด pH ด้วยกระดาษได้ราวๆ 6 เช่นกัน

เดือนนี้มีโปร 1 แถม 1 อย่าลืมเก็บคูปองไปลดอีกตามเทศกาลใดๆ

ทางไปตำ
แอพฟ้า https://s.lazada.co.th/s.tMj9f?cc
แอพส้ม https://s.shopee.co.th/50JKzy7WbY

ชิ้นที่ 3

Herbitage C-Acne brightening serum

น้องใหม่ในตระกูลวิตซีผสมสดจากบ้านเฮอร์บี้

ถึงชื่อสูตรจะบอกว่า Acne แต่เอาจริง ความ Antioxidant งี้ฉ่ำปัง ในราคาไม่แรงมาก

ใช้ Sodium ascorbyl phosphate 5% + oxyresveratrol งานวิจัยจากจุฬา เด่น antioxidant + soothing + whitening

เสริมสารบำรุงมาอีกฉ่ำ ดูแลปัญหาสิวได้ด้วย ด้านไวท์เทนนิ่งก็ดี

เคลม pH 6

ตัวนี้เราจะมารีวิวกันอีกทีค่ะ

อ้อ แบรนด์เฮอร์บี้ออก e-tax ได้นะ เผื่อใครโควต้าเหลือ

ทางไปตำ

แอพฟ้า https://s.lazada.co.th/s.Gd4EN?cc
แอพส้ม https://s.shopee.co.th/50JZQhfTwV

Disclaimer: Drunk Elephant และ Avene ซื้อด้วยตนเอง; Herbitage ได้รับเป็นของขวัญ ข้อความทั้งหมดเป็นความเห็นส่วนตัว และการวิเคราะห์อิงพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์เครื่องสำอาง