สวัสดีค่ะ
เมื่อวันก่อนมี่ได้เอาเซรั่มวิตามินซีของแบรนด์ Novexpert มารีวิวแล้วนะคะ วันนี้เลยขอเอาเซรั่มไฮยา เป็น Booster serum with hyaluronic acid มารีวิวให้ได้ชมกันค่ะ
เริ่มจากขอแนะนำแบรนด์ Novexpert อีกซักรอบนะคะ
ชื่อแบรนด์ Novexpert มาจาก New + Expert ทางแบรนด์ก่อตั้งขึ้นมาจากผู้เชี่ยวชาญในวงการสมุนไพร ชีววิทยา แพทย์ผิวหนัง และนักเคมีที่มีชื่อเสียงหลายคน
ผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้ก็ได้คิดค้นวัตถุดิบ และสูตรส่วนผสมสกินแคร์ของแบรนด์ มาเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหลายๆสูตรค่ะ
ตัวที่มี่ได้มาเป็นผลิตภัณฑ์กลุ่มของ Hyaluronic acid กับ Vitamin C ที่คิดค้นสูตรโดย Dr. Daniel Colletta อาจารย์มหาวิทยาลัย นักเคมีอินทรีย์ที่มีชื่อเสียงค่ะ
ตรงนี้จะเป็นลิงค์รีวิวของ Vitamin C ที่เคยรีวิวไว้นะคะ
หน้าตาของเซรั่มไฮยา หรือ ชื่อเต็ม Booster serum with hyaluronic acid นี้เป็นแบบนี้ค่ะ
นางจะมาในกล่องสีดำ คาดแดง มีข้อความว่า 100% Natural origin และ 480 mg ultra-concentrate อยู่บนกล่องค่ะ
เปิดฝากล่องมาจะเจอ Dr.Colletta ผู้วิจัยสูตรนี้อยู่ค่ะ
ด้านในเป็นขวดแก้วแบบมีหลอดหยด ขวดสีดำ คาดแดง
เนื้อเซรั่มค่อนข้างข้น มีกลิ่นหอมหวานๆ ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย
เกลี่ยได้ค่อนข้างง่าย ลื่นผิว แต่ไม่ถึงกับเหนอะหนะ
ตอนช่วงแรกมี่ใช้หลังเซรั่มตัวหนึ่ง มันจะเหลวๆเมือกๆหน่อย เลยเอามาใช้เป็นสเตปแรกหลังเช็ดโทนเนอร์ จะดีกว่าค่ะ ไม่มีเหลวๆเมือกๆเกิดขึ้น เลยคิดว่าลงเป็นตัวแรกก่อนลงสกินแคร์อื่นๆน่าจะดีกว่า
บนข้างกล่องบอกว่า เราจะใช้เดี่ยวๆ หรือ ให้ผสมกับครีมที่ใช้เป็นประจำก็ได้ค่ะ
ใช้วันละ 2 ครั้ง เช้า กับ กลางคืน
ค่า pH อยู่ที่ราวๆ 6 – 7 ค่ะ
ที่ข้างกล่องจะเคลมเรื่องส่วนผสมไว้บางส่วนนะคะ
- ใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติ 100%
- ไม่มีสารกันเสีย
- ไม่มี PEG
- ไม่มี Mineral oil
- ไม่มีส่วนผสมที่ได้จากสัตว์
เรื่องไม่มีสารกันเสียนี้เดี๋ยวเราไปดูความใส่ใจของทางแบรนด์กันในช่วงวิเคราะห์ส่วนผสมนะคะ
มาดูส่วนผสมกันบ้างนะคะ
มาวิเคราะห์ส่วนผสมกันดีกว่านะคะ วันนี้ขอมาแบบจัดเต็มเลยค่ะ
ถ้าเราพิจารณากันจะพบว่าผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางแทบทุกชนิดจะประกอบด้วยส่วนหลักๆ 3 ส่วน คือ
- Actives คือ สารบำรุง เป็นส่วนที่ทำให้เครื่องสำอางมีคุณสมบัติที่ดี รวมไปถึงมีประโยชน์ทางชีวภาพ
- Base คือ เนื้อหลักของผลิตภัณฑ์ บางทีอาจเรียกว่า Vehicle
- Additive คือ สารที่ช่วยเสริมให้ผลิตภัณฑ์มีคุณสมบัติที่ดี มีความน่าใช้ และมีความปลอดภัย
จากส่วนผสมที่มี่ทำสีไว้จะเป็นกลุ่มของสารบำรุงนะคะ สังเกตว่าส่วนใหญ่จะเป็นสารบำรุงทั้งนั้นเลย
ขอเล่าให้ฟังทีละสีเลยนะคะ
- กลุ่มสารบำรุง วันนี้มี่ขอแบ่งเป็น 4 สีนะคะ
- สีฟ้า เป็นกลุ่มของสารเติมน้ำให้ผิว แน่นอนว่า พระเอกของเรา Hyaluronic acid ก็อยู่ในกลุ่มนี้ด้วยค่ะ สูตรนี้มีสารเติมน้ำอยู่ด้วยกันหลายตัว จริงๆสารสีเขียวก็เป็นสารเติมน้ำด้วย แต่นางมีคุณสมบัติพิเศษเลยแยกออกไป
- Sodium hyaluronate เรียกได้ว่าเป็นสาร Top hit นางเป็นสารในกลุ่มคาร์โบไฮเดรตที่มีในผิวเราค่ะ ในผิวเรามี Hya เป็นส่วนประกอบทั้งในชั้นหนังกำพร้าและหนังแท้ ทำหน้าที่หลายๆอย่าง แต่หลักๆคือช่วยดูดซับความชุ่มชื้นให้ผิวเรานุ่มชุ่มชื้น ฟู และเด้งค่ะ ปกติ Hyaluron ที่มีขนาดใหญ่จะซึมลงไปไม่ได้ เราต้องพึ่งคุณหมอให้ฉีด Hya ลงไปเพื่อความยืดหยุ่นของผิว แต่ใครกลัวเข็มกลัวเจ็บ ตอนนี้วงการเครื่องสำอางก็พัฒนา Hya ออกมาหลายๆขนาดให้มีขนาดเล็กลง และซึมผิวได้ดีขึ้น
- ในจุดนี้ทางแบรนด์เคลมมาว่าใช้ Hya ถึง 4 ขนาดเลยทีเดียว เพื่อเติมน้ำให้ผิวหลายๆระดับความลึกของชั้นผิว
(Image from Novexpert)
(Image from Novexpert)
- กลุ่มของสารที่เป็น Natural moisturizing factor หรือ NMF ทำหน้าที่ช่วยในการดูดจับน้ำ รักษาความชุ่มชื้นของชั้นผิว ได้แก่ Sodium PCA, Sodium Lactate, และ กรดอะมิโน Arginine
- สีเขียว สูตรผสมของ Xylitylglucoside, Anhydroxylitol และ Xylitol มีชื่อทางการค้าว่า Aquaxyl ของฝรั่งเศสเช่นกัน วัตถุดิบนี้ผู้ผลิตวัตถุดิบเคลมว่ามีประโยชน์ในการเสริมกลไกการเก็บกักน้ำของผิวตามธรรมชาติ และช่วยรักษาสมดุลของน้ำในผิว โดยออกฤทธิ์เสริมการสังเคราะห์โปรตีน Aquaporin ซึ่งเป็นช่องทางที่ปล่อยให้น้ำและกลีเซอรีนเข้าสู่ผิว เพื่อเก็บรักษาเอาน้ำและกลีเซอรีนไม่ให้หลุดรอดออกไปข้างนอก เสริมการสังเคราะห์โปรตีนในกลุ่ม Tight junction เพื่อช่วยปกป้องไม่ให้น้ำและสารโมเลกุลเล็กๆที่มีประโยชน์หลุดรอดไปด้านนอกผิว เสริมการสังเคราะห์ Hyaluronic acid ตามธรรมชาติของผิว และเสริมการสังเคราะห์ไขมัน Cholesterol และ Ceramides ซึ่งเป็นองค์ประกอบของ Barrier ผิวด้วย
การทดสอบในอาสาสมัครของผู้ผลิต โดยให้อาสาสมัครเอาไปทาขาเป็นเวลา 28 วัน พบว่าผิวอาสาสมัครมีความแข็งแรงขึ้น สังเกตจากค่าการระเหยของน้ำ (TEWL) ที่ลดลง (Barrier ผิวแข็งแรง สามารถลดการระเหยของน้ำออกจากผิวได้มากกว่า)
(Image from Seppic, Inc.)
- สีชมพู น้ำจากว่านหางจระเข้ มีประโยชน์ในการเพิ่มความชุ่มชื้น และลดการอักเสบระคายเคืองของผิว
- สีน้ำเงิน เป็นกลุ่มของกรดอินทรีย์ที่เสริมการผลัดเซลล์ผิว ได้แก่
- Lactobacillus ferment การหมักด้วยจุลินทรีย์ Lactobacillus จะได้กรดอินทรีย์ต่างๆ และ Lactic acid ซึ่งออกฤทธิ์เป็น AHA หรือ สารเพิ่มความชุ่มชื้น (แล้วแต่ความเข้มข้น) บางที่บอกว่า Lactobacillus เป็น Probiotic จะช่วยปรับสมดุลภูมิคุ้มกันของผิว ถึงแม้เชื้อจะตายแล้ว ก็ยังมีประโยชน์กับผิวอยู่ มีการทดสอบประสิทธิภาพของตำรับโลชั่นที่มี Lactobacillus ที่ผ่านการฆ่าด้วยความร้อน (Heat-killed) ในอาสาสมัครที่เป็นโรคผิวหนังอักเสบ Atopic dermatitis พบว่าให้ผลลดจำนวนเชื้อจุลินทรีย์ Staphylococcus aureus บนผิวได้ และมีอาการอักเสบของผิวที่ลดลง (Clin Cosmet Investig Dermatol. 2017 Jul 3;10:249-257.) ซึ่งตรงนี้ก็ไม่แน่ใจว่าจะเหมือนกันไหม เพราะผู้ผลิตวัตถุดิบค่อนข้างเก็บข้อมูลเกี่ยวกับการสกัดไว้เป็นความลับ
- Phytic acid ตัวนี้เป็นกรดอินทรีย์ชนิดหนึ่ง พบได้ในพืชหลายชนิด ข้อมูลจากผู้ผลิตวัตถุดิบระบุว่าสกัดออกมาจากข้าว ให้คุณสมบัติเป็นสารผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน ตัวผู้ผลิตทดสอบแล้วกล่าวว่าให้ผลในการผลัดผิวได้เทียบเท่า Glycolic acid แต่อ่อนโยนกว่า และระคายเคืองผิวน้อย
(Image from Biosil Technologies Inc.)
- Galactaric acid กรดอินทรีย์ มีอีกชื่อว่า Mucic acid พบในพืชหลายชนิด ข้อมูลจากผู้ผลิตวัตถุดิบระบุว่ามีประโยชน์เป็นสารผลัดเซลล์ผิว เพิ่มความชุ่มชื้น และยังมีคุณสมบัติเป็นสารกันเสีย และสารจับโลหะในสูตรเครื่องสำอางได้
- Base หรือ เนื้อหลัก มาในเบสแบบน้ำ ประกอบด้วยน้ำ และสารเพิ่มความชุ่มชื้นในกลุ่มที่เรียกว่า Humectant อย่าง Glycerin และ Propanediol ซึ่งได้จากธรรมชาติทั้งคู่
- ไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน และ แอลกอฮอล์
- Additives หรือ สารปรุงแต่งอื่นๆ มีอยู่เท่าที่จำเป็นจริงๆ
- PCA ethyl cocoyl arginate ตัวนี้จริงๆเป็นสารลดแรงตึงผิวกลุ่มประจุบวก (Cationic surfactant) ที่ได้จากธรรมชาติ มีข้อมูลความปลอดภัยค่อนข้างดี มีความอ่อนโยนกับผิว ไม่เป็นพิษกับสิ่งแวดล้อมและมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อจุลินทรีย์บางชนิด อาจใช้เป็นสารกันเสียในสูตรได้
- น้ำหอม ทางแบรนด์เคลมว่าใช้กลิ่นหอมจากธรรมชาติ และไม่ใช่สารหอมในสูตรผสม Fragrance Mix 1 และ 2 ที่คนมักจะแพ้กันบ่อย จะเห็นว่ามีความใส่ใจแม้กระทั่งในรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ
สรุป เป็นเซรั่มที่มาในเบสน้ำ โดดเด่นด้วยส่วนผสมของไฮยา 4 ชนิด ร่วมกับสารบำรุงที่มีประโยชน์เสริมกันในการเติมน้ำ และผลัดผิว จึงมีประโยชน์ในการช่วยให้ผิวนุ่มนวล เรียบเนียน น่าสัมผัส ในตัวของส่วนผสมเลือกมาได้แบบดิบดี ใส่ใจกับทั้งผิวคนและสิ่งแวดล้อม
ให้คะแนนกันดีกว่าค่ะ วันนี้ส่วนผสมไม่ค่อยเยอะ เลยขอให้คะแนนเป็น 2 หัวข้อนะคะ
- ส่วนผสม ในด้านของสารบำรุง ทางแบรนด์เลือกใช้ส่วนผสมของไฮยา 4 ชนิด เพื่อเน้นเติมน้ำให้ผิวที่หลายระดับ ร่วมกับสารที่เสริมความชุ่มชื้น เติมน้ำ ช่วยการเก็บกักน้ำของผิว และเสริมการผลัดผิว ซึ่งจะมีประโยชน์ช่วยดูแลผิวให้นุ่มนวล เรียบเนียน และฟู รวมไปถึงอาจจะได้ผลเรื่องการกระชับ และริ้วรอยตื้นๆด้วย และไม่มีส่วนผสมของสารที่ไม่เป็นมิตรกับผิว ให้ไป 5 ฟลาสก์
- การใช้งาน ตัวเซรั่มจะออกลื่นๆผิวนิดหน่อย ส่วนตัวมี่เคยลงหลังจากเซรั่มอีกตัว แล้วกลายเป็นว่านางเยิ้มไหลเหลวๆ เลยลองสลับดู ลงอันนี้ก่อน นับ 1 – 10 แล้วลงตัวอื่นได้เลย ไม่เป็นเยิ้มๆแล้ว ในด้านของความชุ่มชื้น และนุ่มฟูถือว่าทำมาได้ดีประทับใจเลยทีเดียว เรียกได้ว่าเก็บไฮยาตัวเก่าเข้ากรุแล้วหันมาใช้ตัวนี้เลย ส่วนตัวคิดว่าคนผิวแห้งแบบมี่น่าจะชอบค่ะ แต่ผิวมันอาจจะรู้สึกว่ามันฉ่ำไปนิดหน่อย คงต้องลองค่ะ ถ้าชอบแบบฉ่ำๆ ก็จัดเลย ให้ไป 5 ฟลาสก์
สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณทางแบรนด์ Novexpert ด้วยนะคะที่ส่งผลิตภัณฑ์ดีๆมาให้มี่ได้ทดลองใช้ และขอบคุณทุกท่านด้วยค่ะที่ติดตามรับชมมาจนจบ
สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อสอบถามได้ที่
Facebook: Novexpert Thailand (https://www.facebook.com/NovexpertThailand/)
line@ : @novexpertthailand
instagram: novexpertofficialthailand
Disclaimer/conflict of interests: ผลิตภัณฑ์นี้ได้รับการสนับสนุนจากทางแบรนด์ Novexpert การรีวิวครั้งนี้เป็นการวิเคราะห์ส่วนผสมตามหลักการทางวิทยาศาสตร์เครื่องสำอางและอาศัยความเห็นส่วนบุคคล และผู้เขียนไม่ได้มีผลประโยชน์ใดๆในการขายสินค้า โปรดใช้วิจารณญาณ