สวัสดีค่ะ
วันนี้มี่มีรีวิวผลิตภัณฑ์ดีๆจากแบรนด์ Scitifique เจ้าเก่ามาฝากกันนะคะ
แบรนด์ Scitifique นี้เป็นเวชสำอางแบรนด์ไทยที่คิดค้นและพัฒนาสูตรโดยเภสัชกรผู้เชี่ยวชาญและนักวิจัยระดับปริญญาเอกตามกระบวนการคิดและหลักการทางวิทยาศาสตร์ (scientific) ซึ่งเป็นที่มาของชื่อแบรนด์ ส่วนผสมที่ใช้ต้องมีงานวิจัยรองรับและมีความปลอดภัยสูง
มี่เคยอัพรีวิวเซรั่ม Whitening ของเขาไว้ ตามลิงค์นี้เลยค่ะ
https://cosmeknowledge.wordpress.com/2017/07/09/scitifiquewhite/
ขอดึงรูปเก่ามาย้อนอดีตนิดนึง
ช่วงนี้มี่ไปได้สินค้าใหม่ของเขา คือ Acne clarifying Hydrolotion ซึ่งเป็นโทนเนอร์สูตรน้ำสำหรับบำรุงผิวหน้า ที่มีส่วนช่วยลดปัญหาผิวมัน และลดการเกิดสิว ด้วยทฤษฎีการเสริม Probiotic ซึ่งเป็นจุลินทรีย์ที่ดีเข้าเพื่อบำรุงผิว พร้อมเสริมสารที่มีคุณสมบัติลดการอักเสบและให้ความรู้สึกสบายผิว และมีน้ำมัน Tea tree ที่มีประโยชน์ในการลดเชื้อสิว
หน้าตาของนางเป็นแบบนี้ค่ะ
ในไลน์นี้ทางแบรนด์ทำมาด้วยกัน 2 ขนาด คือ ขนาดทดลอง 20 ml และขนาดปกติ 60 ml ค่ะ
ตัวนี้จะเป็นขนาด 60 ml นะคะ
ด้านในเป็นจุกรูแบบหยดๆ สามารถหยดใส่สำลีได้สะดวก
ส่วนตัวนี้จะเป็นขนาดทดลอง 20 ml ค่ะ
ตัวโทนเนอร์เป็นแบบน้ำใส สมชื่อ Hydrolotion มีกลิ่นจางๆของ Tea tree oil
เช็ดแล้วแห้งสนิท สบายผิว ไม่เหนอะหนะหนักผิว
ค่า pH อยู่ที่ประมาณ 4 – 5 ค่ะ
ซึ่งถือว่าใกล้เคียงกับผิวดีค่ะ
สำหรับส่วนผสมเป็นดังนี้นะคะ
ก่อนไปดูส่วนผสม อยากเล่าให้ฟังถึงสาเหตุของสิวก่อนนะคะ
ปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์เครื่องสำอางเชื่อว่า สิวเป็นภาวะที่เกิดได้จากหลายสาเหตุ และมีหลายปัจจัยเข้าร่วมค่ะ ดังนั้นการดูแลสิว จึงควรดูแลให้ครบทุกปัจจัย กำจัดทุกสาเหตุค่ะ
สาเหตุการเกิดสิว มีทั้งหมด 4 ประการ ได้แก่
- สภาวะที่ต่อมไขมันแบ่งตัวเพิ่มจำนวนมากเกินไป และสร้างไขมัน Sebum ออกมามากเกินไป
- เซลล์ผิวหนังในรูขุมขนแบ่งตัวออกมามากเกินไปจนผลัดทิ้งไปไม่ทัน หรือ มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างไปแบบผิดรูปแบบ ทำให้การผลัดผิวเกิดได้ยาก จนทำให้เกิดการอุดตันขึ้นมาในรูขุมขน
- เชื้อจุลินทรีย์ Propionibacterium acnes หรือ P. acnes นางเป็นตัวหลักในการเกิดสิว และการอักเสบต่างๆ ส่วนตัวรองๆอย่าง Staphylococcus aureus นั้นสามารถทำให้เกิดหนองได้
- การอักเสบและปฏิกิริยาทางภูมิคุ้มกันภายในรูขุมขน
ดังนั้นการดูแลปัญหาสิว ควรดูแลด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีประโยชน์ครอบคลุมทั้ง 4 กลไก ได้แก่
- ควบคุมความมัน
- เสริมการผลัดผิว
- ลดเชื้อจุลินทรีย์
- ลดการอักเสบ
ในด้านการลดเชื้อจุลินทรีย์ ตอนนี้เทรนด์ใหม่ของตลาดเครื่องสำอางคือการเสริมพวก Normal flora คือจุลินทรีย์เจ้าบ้านที่อาศัยอยู่บนผิว พวกนี้เป็นจุลินทรีย์ที่ดี ไม่ก่อโรคในคนที่มีสุขภาพดี นางจะช่วยให้ภูมิคุ้มกันของเราแข็งแรง และช่วยควบคุมประชากรของจุลินทรีย์ที่ไม่ดีไม่ให้มากเกินไปจนก่อโรคได้
มาวิเคราะห์ส่วนผสมกันดีกว่านะคะ วันนี้ขอมาแบบจัดเต็มเลยค่ะ
ถ้าเราพิจารณากันจะพบว่าผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางแทบทุกชนิดจะประกอบด้วยส่วนหลักๆ 3 ส่วน คือ
- Actives คือ สารบำรุง เป็นส่วนที่ทำให้เครื่องสำอางมีคุณสมบัติที่ดี รวมไปถึงมีประโยชน์ทางชีวภาพ
- Base คือ เนื้อหลักของผลิตภัณฑ์ บางทีอาจเรียกว่า Vehicle
- Additive คือ สารที่ช่วยเสริมให้ผลิตภัณฑ์มีคุณสมบัติที่ดี มีความน่าใช้ และมีความปลอดภัย
รายละเอียดส่วนผสมแต่ละตัว
- Actives หรือสารบำรุง วันนี้มี่ทำไว้ 3 เฉดสีค่ะ
- สีฟ้า Lactobacillus ferment เป็นสารที่ได้จากเพาะเลี้ยงจุลินทรีย์ Lactobacillus ซึ่งเป็นจุลินทรีย์ Probiotic ที่มีประโยชน์กับร่างกาย ข้อมูลจากผู้ผลิตวัตถุดิบระบุว่า ระหว่างการหมักจุลินทรีย์จะมีการเปลี่ยนโครงสร้าง (Biotransformation) กรดไขมันสายชั้นๆที่มีชื่อว่า Undecylenic acid เป็นอนุพันธ์ของ Undecylenates ที่ละลายน้ำได้ เจ้าสารตัวนี้เองที่มีประโยชน์ในการฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ที่ไม่ดีอื่นๆ รวมไปถึงเชื้อรา ยีสต์บางชนิดได้ นอกจากนี้อนุพันธ์ที่ละลายน้ำได้ของ Undecylenates ยังมีประโยชน์ในการเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวได้ไปพร้อมๆกัน
นอกจากนี้การหมักด้วย Lactobacillus จะได้กรด Lactic acid ออกมาด้วย ซึ่งจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวได้อีกทาง
ซึ่งการหมักพวกนี้ขึ้นอยู่กับแหล่งอาหารของเชื้อด้วย เช่น การเปลี่ยนอาหารที่เอามาหมัก หรือการเปลี่ยนสายพันธ์ของเชื้อที่เอามาหมัก ก็จะได้สารที่มีคุณสมบัติแตกต่างกันออกไปและส่วนมากก็จะเป็นความลับของผู้ผลิตวัตถุดิบที่เขาปิดบังตรงนี้ กันคนมาก๊อปสูตร
การทดสอบในระดับหลอดทดลองพบว่า ส่วนของน้ำ หรือ Medium ที่แยกออกมาจากการหมัก Lactobacillus helveticus NF8 ที่ใช้นมเป็นอาหารเลี้ยงเชื้อ สามารถปกป้องเซลล์ผิวไม่ให้ถูกทำลายด้วยรังสี UVB และป้องกันไม่ให้เซลล์สร้างเม็ดสีสร้างเม็ดสีออกมามากเกินไปเมื่อสัมผัสรังสี UVB Z(J Appl Microbiol. 2017 Aug;123(2):511-523.)
มีบทความทางวิชาการกล่าวว่า การเสริมจุลินทรีย์ Lactobacillus ซึ่งเป็น probiotic ให้ผลดีในการลดการเกิดสิว และโรคผิวหนัง Atopic dermatitis ได้ (Int J Dermatol. 2018 Apr 20. doi: 10.1111/ijd.13972.) แต่อาจจะไม่ได้ตรงกับวัตถุดิบตัวนี้ร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะว่าน่าจะต้องผ่านกรรมวิธีการสกัดออกมา ก็จะเหลือแค่โครงสร้างและสารอาหารที่เชื้อสร้างไว้ ซึ่งมีประโยชน์กับผิวเหมือนกัน แต่อาจจะคนละแบบ ซึ่งจุดนี้ก็พอจะมีรายงานอยู่ว่า เมื่อให้ Lactobacillus ที่ผ่านกรรมวิธีทำลายเชื้อด้วยความร้อน (Heat-killed lactobacillus) ลงไปในผิวหนังสังเคราะห์ พบว่ามีผลทำให้เชื้อจุลินทรีย์ที่ไม่ดี Staphylococcus aureus ซึ่งเป็นตัวการหนึ่งในการทำให้เกิดหนอง เกาะผิวได้น้อยลง จึงมีโอกาสเกิดสิวหนองได้ลดลง และยังมีผลกระตุ้นให้ผิวสร้างเปปไทด์ที่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อตามธรรมชาติออกมามากขึ้น จึงเป็นกลไกหนึ่งที่ช่วยปกป้องผิวไม่ให้เกิดสิวได้ง่าย (Exp Dermatol. 2018 Jan 30. doi: 10.1111/exd.13504.) ซึ่งให้ผลในทำนองเดียวกับการทดสอบประสิทธิภาพของตำรับโลชั่นที่มี Lactobacillus ที่ผ่านการฆ่าด้วยความร้อน (Heat-killed) ในอาสาสมัครที่เป็นโรคผิวหนังอักเสบ Atopic dermatitis พบว่าให้ผลลดจำนวนเชื้อจุลินทรีย์ Staphylococcus aureus บนผิวได้ และมีอาการอักเสบของผิวที่ลดลง (Clin Cosmet Investig Dermatol. 2017 Jul 3;10:249-257.) การทดสอบในเซลล์เพาะเลี้ยง พบว่า
- สีเขียว น้ำมันหอมระเหยจาก Tea tree เป็นน้ำมันหอมระเหยที่มีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อก่อสิว มีการศึกษาทางคลินิกรองรับถึงประสิทธิภาพ แต่ใช้ในความเข้มข้น 5% พบว่าให้ผลดีในการลดจำนวนและความรุนแรงของสิวในอาสาสมัคร (Indian J Dermatol Venereol Leprol. 2007;73(1):22-5.)
- สีชมพู เป็นกลุ่มของสารบำรุงที่มีประโยชน์ในการลดการอักเสบระคายเคือง และให้ความรู้สึกสบายผิว (Soothing effect) ได้แก่
- Rose water เป็นน้ำที่เหลือจากการกลั่นน้ำมันกุหลาบ ทางแบรนด์เคลมว่าเป็นน้ำกลั่นจากกุหลาบออร์แกนิก มีประโยชน์ในการลดการอักเสบ ระคายเคือง ให้ความรู้สึกสบายผิว และเพิ่มความชุ่มชื้น ตัวข้อมูลจากผู้ผลิตวัตถุดิบกล่าวว่าสามารถเสริมการผลัดเซลล์ผิว จึงมีประโยชน์เสริมในการลดการอุดตันของรูขุมขน
- สารสกัดจากว่านหางจระเข้ มีประโยชน์ในการเพิ่มความชุ่มชื้น ลดการอักเสบและระคายเคือง รวมไปถึงมีรายงานการวิจัยกล่าวว่าสาร Aloin ที่พบในใบสามารถออกฤทธิ์เป็นสารช่วยให้ผิวขาวได้โดยไปกระตุ้นให้เกิดกระบวนการ Melanin aggregation ทำให้สีผิวจางลง (Planta Med. 2012; 78(8):767-71.) การทดสอบในระดับหลอดทดลองพบว่าสารสกัดจากใบว่านหางจระเข้สามารถลดการอักเสบในผิวผ่านการยับยั้งเอนไซม์ Phospholipase A2 เช่นเดียวกับสารในกลุ่ม Corticosteroid (Lipids Health Dis. 2011;10:30.)
- Allantoin มีคุณสมบัติในการลดการอักเสบระคายเคืองเช่นกัน
- Base หรือ เนื้อหลัก มาในเบสแบบน้ำ ประกอบด้วยน้ำ
- Additives หรือ สารปรุงแต่ง มีอยู่เท่าที่จำเป็น คือ
- สารกันเสีย คือ Phenoxyethanol
ในภาพรวมถือว่าเป็นโทนเนอร์เบสน้ำที่ทำมาได้ดี ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ น้ำมัน และซิลิโคน เสริมสารบำรุงที่มีประโยชน์ในการลดเชื้อก่อสิว และลดการอักเสบระคายเคือง รวมไปถึงการลดรอยดำ จากคุณสมบัติ Whitening ของ สารสกัดว่านหางจระเข้ ลดรอยแดงจากสารบำรุงที่มีคุณสมบัติลดการอักเสบ
ให้คะแนนกันดีกว่าค่ะ
- ส่วนผสม ถ้าพิจารณาตามกลไกในการเกิดสิว ตัวนี้ยัง Target เรื่องสิวได้ไม่ครบถ้วนสมบูรณ์แบบปาเป้าร้อยเปอร์เซ็นต์นัก แต่ก็ถือว่าทำมาได้ดี ด้วยคอนเซปท์ การเสริม Probitoic เข้ามาเพื่อช่วยให้ผิวแข็งแรง สารบำรุงที่ช่วยลดการอักเสบระคายเคืองจะช่วยปลอบประโลมผิว (Soothing effect) ให้เรารู้สึกสบายผิว คนมีสิวไม่ควรจะเจออะไรที่รุนแรงไปอีก เพราะลำพังแค่ยารักษาสิวที่เอามาใช้ก็ทำร้ายผิวในระดับหนึ่งแล้ว คนที่มีผิวแห้งก็สามารถใช้ได้ ไม่ได้หนักหรือแห้งตึงอะไร คนที่ไม่ได้เป็นสิวก็สามารถใช้ได้เพราะมีประโยชน์ด้าน Soothing effect ตัวโทนเนอร์ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ น้ำมัน และซิลิโคน และมีสารส่วนผสมอยู่เท่าที่จำเป็นตามคอนเซปท์ ‘Simple is the best’ จุดนี้ขอให้ 4 ฟลาสก์
- การใช้งาน ย่างเข้าหน้าร้อนแล้วส่วนตัวมี่มีผิวผสมค่อนข้างแห้ง จะมันก็แค่จมูกในช่วงบ่ายๆ สามารถใช้โทนเนอร์ตัวนี้ได้เลยในขั้นตอนแรกหลังการล้างหน้า และบำรุงด้วยผลิตภัณฑ์อื่นๆต่อไป สิ่งที่ได้คือเรื่องความรู้สึกสบายผิว เรื่องการควบคุมความมันบริเวณ T-zone ทำมาได้ดีค่ะ ส่วนบริเวณแก้มซึ่งปกติแห้งอยู่แล้วก็ไม่ได้แห้งมากเว่อร์เกินไปเหมือนโดนพวก Witch hazel ส่วนเรื่องสิวช่วงนี้ไม่ได้มีปัญหาสิวเลยยังบอกไม่ได้ เอาขวดเล็กไปให้หลานลอง หลานก็บอกว่าดี นางบอกว่าตอนนางใช้ไปราวๆ อาทิตย์หนึ่งก็รู้สึกว่ามีสิวอักเสบใหม่เกิดขึ้นน้อยลง จุดนี้ขอให้ 5 ฟลาสก์
สำหรับสนนราคาก็ตกอยู่ที่ ขวดเล็ก 20 ml 250 บาท ส่วนขวดใหญ่ 60 ml 680 บาท คิดเป็นราคา 11.33 บาท/ml
สุดท้ายนี้ขอขอบคุณทางแบรนด์ Scitifique ด้วยนะคะที่ส่งผลิตภัณฑ์ดีๆมาให้มี่ได้ทดลองใช้ และขอบคุณทุกท่านด้วยค่ะที่ติดตามรับชมมาจนจบ
สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ทางแบรนด์ Scitifique โดยตรงเลยนะคะ
https://www.facebook.com/scitifique/
Disclaimer/conflict of interests: ผลิตภัณฑ์นี้ได้รับการสนับสนุนจากทางแบรนด์ Scitifique การรีวิวครั้งนี้เป็นการวิเคราะห์ส่วนผสมตามหลักการทางวิทยาศาสตร์เครื่องสำอางและอาศัยความเห็นส่วนบุคคล และผู้เขียนไม่ได้มีผลประโยชน์ใดๆในการขายสินค้า โปรดใช้วิจารณญาณ