Image

รีวิว/วิเคราะห์ส่วนผสมผลิตภัณฑ์สกินแคร์จาก Meaze’ เมสเซ่แบรนด์ออร์แกนิกไทย ที่มาใน Concept “ของขวัญจากธรรมชาติ”

สวัสดีค่ะ วันนี้มี่มีรีวิวสกินแคร์ที่น่าสนใจมาฝากกันค่ะ

เป็นผลิตภัณฑ์จากแบรนด์ Meaze’ (อ่านว่า เมสเซ่) เป็นแบรนด์ออร์แกนิกไทย ที่มาใน Concept “ของขวัญจากธรรมชาติ” ด้วยแนวคิดที่ว่า สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับผิวคือสารสกัดแท้จากธรรมชาติ โดยผลิตภัณฑ์จาก Meaze’ ได้รับการรับรองด้านสารสกัด จากหน่วยงานที่เชี่ยวชาญด้านสินค้าออร์แกนิก อาทิ Australia Organic Certification, USDA และ Vegan  กับ 2 ผลิตภัณฑ์อย่าง “Meaze‘ Dark Spot Corrector and eye lift up concentrate” และ “Meaze’ Contouring Facial Lift Hydro Gel”

ที่มี่ได้มาจะเป็นตัวไฮโดรเจล สูตรยกกระชับ V contouring facial lift hydrogel organic และ เซรั่มสูตร Whitening ที่มีชื่อว่า Organic dark spot corrector and eye lift up concentrate ค่ะ ตัวนี้ใช้ทาได้ทั้งหน้า และลงใต้ตาเป็นอายครีมไปในตัวแบบ 2 in 1

นางมาในกล่องสีขาวดูสะอาดตา โดยกล่องชมพู เป็น Hydrogel และ กล่องเขียวเป็นเซรั่มค่ะ

me1.JPG

ด้านในมาด้วยขวดอะคริลิก สีขาวมุก

me4

ตัวไฮโดรเจล มาในเนื้อแบบเจล มีกลิ่นหอมอ่อนๆ

me hy 1

เกลี่ยได้ค่อนข้างง่าย ไม่เหนอะหนะ ไม่หนักผิว ซึมไว แห้งไวค่ะ

me hy 2

มีค่า pH อยู่ที่ราวๆ 6 – 7 นะคะ

me hy 3

ตัวเซรั่มดูคล้ายครีมเจล มีกลิ่นหอมอ่อนๆละมุนๆ

dark 1

เกลี่ยได้ง่าย ชุ่มชื้นดี ไม่เหนอะหนะ

dark 2

ตัวนี้ไม่ได้วัดค่า pH ให้นะคะ เนื้อเซรั่มไม่เปียกกระดาษเลยไม่เปลี่ยนสีค่ะ

มาดูส่วนผสมกันทีละตัวเลยนะคะ เริ่มจากตัวกล่องชมพู Hydrogel สูตร Contouring

ส่วนผสม hydro

เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารบำรุงอยู่หลายชนิด แทนมาด้วยสีฟ้า สีเขียว และสีม่วงค่ะ ตัวที่น่าสนใจและเป็นเสมือนพระเอกของผลิตภัณฑ์คือ ‘Trifluoroacetyl tripeptide-2’ ขอย่อว่า TT2 นะคะ เจ้า TT2 ตัวนี้เป็นเปปไทด์ที่มีชื่อทางการค้าว่า Progeline ของประเทศฝรั่งเศส

การศึกษาระดับหลอดทดลองพบว่า TT2 สามารถกดการสร้างเอนไซม์ MMP ที่เป็นเอนไซม์ย่อยสลายคอลลาเจนในผิว เมื่อโดนยับยั้ง ผลคือ คอลลาเจนไม่โดนสลายตัว

การศึกษาในผิวหนังมนุษย์ที่เอามาเพาะเลี้ยง พบว่าเอนไซม์นี้สามารถปกป้อง collagen และ elastin จากเอนไซม์ collagenase และ elastase ได้ ผลคือ คอลลาเจนและอิลาสตินในผิวไม่สลายตัว

สารนี้ยังเสริมการสังเคราะห์สาร Proteoglycan ที่มีชื่อว่า Syndecan-1 ในผิว ซึ่งสารนี้ปกติทำงานในการรักษาสมดุลของผิว และเป็นแหล่งให้ growth factor ต่างๆมาจับ

เมื่อเราแก่ตัว ในผิวเราจะมีการสร้างสาร Progerin ออกมามากขึ้น (Prz Menopauzalny. 2015 Mar; 14(1): 53–58.) TT2 สามารถลดการสร้าง Progerin ของเซลล์ผิวได้ในระดับหลอดทดลอง จึงมีผลในการชะลอวัยหรือ Antiaging ซึ่งกลไกนี้เป็นกลไกที่ค่อนข้างใหม่และเป็นเอกลักษณ์ ทางผู้ผลิตเลยเอามาตั้งชื่อเปปไทด์ TT2 ว่า Progeline นั่นเอง

การทดสอบในอาสาสมัครสุขภาพดีจำนวน 10 คน พบว่า อาสาสมัครที่ทา TT2 มีสันกราม (Jawline) ที่ยกกระชับขึ้น

progeline 3

(Image from Lucas Meyer Cosmetics)

และอีกการศึกษาหนึ่ง ศึกษาในอาสาสมัครสุขภาพดีจำนวน 13 คน พบว่า ผิวหนังของอาสาสมัครที่ทา TT2 มีค่าความยืดหยุ่นและความกระชับเพิ่มขึ้น

progeline 4

(Image from Lucas Meyer Cosmetics)

(เอกสารอ้างอิง: E Loing, T Suere and E Lamarque, Trifluoroacetyl-tripeptide-2 to target senescence for anti-aging benefits, Cosm & Toil 127(4) 274-280 (Apr 2012). และ TDS ProgelineTM)

นอกจากนี้ส่วนผสมอื่นก็ออกแบบมาให้เสริมกันได้อย่างลงตัว จึงให้ประโยชน์ทั้งในด้าน ยกกระชับ ชะลอวัย ลดริ้วรอยเก่า ป้องกันริ้วรอยใหม่ เพิ่มความชุ่มชื้น และ ลดการอักเสบระคายเคืองไปพร้อมๆกัน

 

ส่วนอีกตัวเป็นกล่องเขียว สูตรเน้นไปที่ด้าน Whitening และดูแลผิวที่มีปัญหาฝ้ากระค่ะ

ส่วนผสมเป็นดังนี้นะคะ

ส่วนผสม dark

ในภาพรวมเป็นเซรั่มที่มาในเบสแบบน้ำนม ประกอบด้วย น้ำ และน้ำมันจากธรรมชาติ ไม่มีส่วนผสมของซิลิโคน และแอลกอฮอล์ มีส่วนผสมของสารบำรุงอยู่หลายชนิด ตัวที่สนใจได้แก่

  1. กลุ่มของน้ำมันจากพืช มีสองชนิด คือ น้ำมันจากกาแฟ และ เมล็ดเชีย
  • Coffee oil (Coffee arabica seed oil) เป็นวัตถุดิบที่วงการเครื่องสำอางเริ่มให้ความสนใจ เป็นน้ำมันที่แยกมาจากเมล็ดกาแฟดิบ จัดเป็นน้ำมันแบบ Fixed oil มีการศึกษากับผิวหนังที่เพาะเลี้ยงในระดับหลอดทดลอง พบว่า น้ำมันจากเมล็ดกาแฟมีคุณสมบัติเพิ่มการสังเคราะห์คอลลาเจน elastin และ Glycosaminoglycan ของผิวได้ และยังช่วยเสริมการสังเคราะห์โปรตีนที่มีชื่อว่า Aquaporin-3 ซึ่งเป็นโปรตีนที่ทำหน้าที่เป็นเหมือนประตูคอยปกป้องไม่ให้น้ำและสารโมเลกุลเล็กๆอย่าง Glycerin ออกจากผิวได้ (J Cosmet Dermatol. 2009 Mar;8(1):56-62.) จึงมีประโยชน์ด้านริ้วรอย และความชุ่มชื้น
  • Chia seed oil (Salvia hispanica seed oil) ประกอบด้วยกรดไขมัน Alpha-linolenic acid ในปริมาณสูงถึงราวๆ 60% และ linoleic acid ประมาณ 25% มีคุณสมบัติในการลดการอักเสบระคายเคือง และฟื้นฟู Barrier ของผิว น้ำมันเมล็ดเชีย มีการศึกษาในอาสาสมัครทั้งกลุ่มที่มีอาการผิวแห้งจากโรคไตระยะสุดท้าย และในอาสาสมัครสุขภาพดี พบว่าอาสาสมัครที่ใช้น้ำมันเมล็ดเชียความเข้มข้น 4% ในตำรับเป็นเวลา 8 สัปดาห์ มีอาการคันที่น้อยลง มีความชุ่มชื้นมากขึ้น มี Barrier ของผิวที่แข็งแรงขึ้น (สังเกตุได้จากค่าน้ำระเหยออกจากผิวที่ลดลง) (Ann Dermatol. 2010 May;22(2):143-8.) การทดสอบกับหนูทดลองพบว่า Alpha-linolenic acid และ Linoleic acid สามารถลดการสร้างเม็ดสีผิวจากรังสี UV ได้ และการทดสอบในเซลล์เพาะเลี้ยงพบว่า ALA สามารถกดการสร้างเม็ดสีผิวได้ดี รองลงมาคือ Linoleic acid และ กรดไขมันทั้งสอง ยังมีผลช่วยเสริมการผลัดผิวได้อีก (Arch Dermatol Res. 1998 Jul;290(7):375-81.)
  1. กลุ่มของวิตามิน มีส่วนผสมของวิตามินซี อี บี3 Folic acid และ Coenzyme Q10 ซึ่งวิตามินแต่ละตัวก็จะมีประโยชน์กับผิวในหลายๆด้าน เมื่อรวมกัน 5 ตัวนี้จะมีประโยชน์ในด้าน Whitening, Antioxidant, ริ้วรอย และช่วยให้ผิวแข็งแรง
  2. กลุ่มของสารสกัดจากพืช มีอยู่ด้วยกันหลายชนิด ได้แก่ สารสกัดจากใบ Bearberry, แตงกวา Mulberry, ชะเอม ที่ให้ประโยชน์เสริมกันในด้านของ Whitening ลดการอักเสบระคายเคือง และเป็น Antioxidant ช่วยในการชะลอวัย

ในภาพรวมจะเห็นได้ว่า สารบำรุงที่ใส่มามีประโยชน์ในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น Whitening เพิ่มความชุ่มชื้น ลดการอักเสบระคายเคือง เป็น antioxidant ช่วยชะลอวัย

 

ให้คะแนนกันดีกว่าค่ะ

  1. สารบำรุง ทั้ง 2 ผลิตภัณฑ์ใช้ส่วนผสมของสารบำรุงอยู่หลายชนิด ให้ประโยชน์ในด้านริ้วรอย ชะลอวัย ช่วยให้ผิวแข็งแรง ลดการอักเสบและระคายเคือง โดยกล่องชมพู มีสารของเปปไทด์ที่มีกลไกการออกฤทธิ์เป็นเอกลักษณ์ผ่าน Progerin ในผิว นำเข้ามาจากฝรั่งเศส ส่วนสีเขียว ในด้านของไวท์เทนนิ่ง เรียกได้ว่าจัดมาผ่านหลายกลไก ตั้งแต่ก่อนการสร้างเมลานิน ไปจนถึงหลังจากเมลานินเสร็จแล้ว และยังเสริมมาด้านผิวแข็งแรง โดยการทดแทนไขมันคืนให้แก่ผิวและเสริมการสังเคราะห์ AQP-3 ซึ่งเป็นโปรตีนที่ผิวใช้ในการเก็บกักน้ำได้ จุดนี้ขอให้ 5 ฟลาสก์
  2. ส่วนผสมอื่นๆ ทั้งสองชิ้นมาในเบสที่มีส่วนผสมของน้ำ สารดูดน้ำเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว และน้ำมันจากธรรมชาติ ไม่มีส่วนผสมของซิลิโคน แอลกอฮอล์ และสารที่ไม่เป็นมิตรกับผิว รับไป 5 ฟลาสก์
  3. การใช้งาน ต้องบอกก่อนเลยว่า กลิ่นและเนื้อสัมผัสของเซรั่มทั้งสองขวดโดนจริตมาก ส่วนตัวมี่ชอบทั้งเนื้อสัมผัส และกลิ่น ส่วนด้านประสิทธิภาพ มี่ลองใช้มาประมาณเกือบๆ 2 อาทิตย์ พบว่า ในด้านความชุ่มชื้น ถือว่าทำมาได้ดี เมื่อทาเราจะได้ความรู้สึกสบายและผ่อนคลาย ใช้ได้ทั้งเช้าและเย็น แต่งหน้าแต่งตาทับได้ไม่เลอะ ไม่ลอก ไม่เป็นขุย ในด้านริ้วรอย พวกริ้วรอยตื้นๆก็จะดูจางไป ส่วนด้านริ้วรอย Whitening รอยคล้ำ จุดด่างดำต่างๆ และรอยหางตา อาจจะต้องใช้เวลาอีกซักหน่อยค่ะ จุดนี้ขอให้คะแนนความชอบไป 5 ฟลาสก์

คะแนน mezae

สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณทางแบรนด์ Meaze’ ด้วยนะคะ ที่ส่งผลิตภัณฑ์ดีๆมาให้มี่ได้ทดลองใช้ และขอบคุณทุกท่านด้วยค่ะที่ติดตามรับชมมาจนจบ

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ทางแบรนด์โดยตรงเลยนะคะ

https://m.facebook.com/meazeorganic/

 

พบกันใหม่โอกาสถัดไป สวัสดีค่ะ

Disclaimer/conflict of interests: ผลิตภัณฑ์นี้ได้รับการสนับสนุนจากทางแบรนด์ Meaze’ การรีวิวครั้งนี้เป็นการวิเคราะห์ส่วนผสมตามหลักการทางวิทยาศาสตร์เครื่องสำอางและอาศัยความเห็นส่วนบุคคล และผู้เขียนไม่ได้มีผลประโยชน์ใดๆในการขายสินค้า โปรดใช้วิจารณญาณ

รีวิว/วิเคราะห์ส่วนผสม เซรัมบำรุงใต้ตาเพื่อความกระจ่างใส Graccy grace Grace aura synchronized eye gel

รีวิว/วิเคราะห์ส่วนผสม เซรัมบำรุงใต้ตาเพื่อความกระจ่างใส Graccy grace Grace aura synchronized eye gel

สวัสดีค่ะ ยังอยู่กับผลิตภัณฑ์จากแบรนด์ Graccy grace นะคะ

 

วันนี้เป็น Eye gel ที่มีชื่อว่า Grace aura synchronized eye gel ค่ะ

 

ดูหน้าตากันก่อนเลยนะคะ

 

eye 1.JPG

ข้างในเป็นขวดปั๊มทำจากแก้วนะคะ

 

eye-2

ตัวเนื้อเป็นเซรัมกึ่งเจลกึ่งครีม สีเนื้อ ไม่มีกลิ่น เพราะไม่มีส่วนผสมของน้ำหอมค่ะ

eye-3

 

เกลี่ยได้ค่อนข้างง่าย ให้ความรู้สึกชุ่มชื้นดี

 

eye-4

 

ถ้าทิ้งไว้ซักพักจะแห้งไว ซึมไว ไม่เหนอะหนะ และไม่ทิ้งคราบใดๆไว้เลยค่ะ

วัดค่า pH ซักหน่อยนะคะ

 

eye-5

ค่า pH อยู่ที่ราวๆ 5-6 ซึ่งใกล้เคียงกับผิวดีค่ะ

มาดูส่วนผสมกันบ้างนะคะ

 

%e0%b8%aa%e0%b8%9c%e0%b8%aa-eye

จากส่วนผสม ในส่วนสีม่วงคือสารบำรุงนะคะ มาดูกันเลยดีกว่าค่ะ

  • Aloe barbadensis leaf powder เป็นผงที่ได้จากการกระบวนการแปรรูปสารสกัดว่านหางจรเข้ มีผลเรื่องชุ่มชื้น และลดการระคายเคืองผิว
  • Hydrolyzed collagen และ Hydrolyzed lupine protein เป็นโปรตีนที่ผ่านกรรมวิธีการย่อยเพื่อให้มีขนาดเล็กลง ทำให้ดูดซึมผ่านผิวได้ดีขึ้น ให้ผลในแง่ชุ่มชื้น ข้อมูลจากผู้ผลิตวัตถุดิบ Hydrolyzed lupine protein กล่าวว่า สารนี้ประกอบด้วยกรดอะมิโนจำเป็นครบถ้วน ให้ผลด้านการชะลอวัย
  • Alpha-arbutin ช่วยเรื่องความขาว
  • Hydrolyzed corn starch มีบทบาทด้านการปรับสัมผัสของเนื้อครีมให้บางเบา และช่วยเรื่องชุ่มชื้น
  • สารสกัดจากยีสต์ Saccharomyces มีรายงานการวิจัยกล่าวว่า อาสาสมัครใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารสกัดจากยีสต์นี้ ทำให้การระเหยของน้ำออกจากผิวลดลง ความชุ่มชื้นในผิวหนังเพิ่มขึ้น และมีริ้วรอยลดลง (Food ChemToxicol. 2008; 46(11):3493-3500.)
  • Medicago sativa extract ให้คุณสมบัติเป็น Antioxidant
  • สารสกัดจากสาหร่ายน้ำจืดสีแดง Haematococcus ผู้ผลิตวัตถุดิบเคลมว่าอุดมด้วยสารสีแดง Astaxanthin ที่เป็นกลุ่มแคโรทีนอยด์ ให้ฤทธิ์เด่นในเรื่องการต้านอนุมูลอิสระ ให้ผลด้านการชะลอวัย

 

สำหรับส่วนผสมอื่นๆ ก็ไม่ได้มีตัวไหนไม่เป็นมิตรกับผิวเลยค่ะ

 

ให้คะแนนกันดีกว่านะคะ

  1. ส่วนผสม มีสารบำรุงผิวอยู่หลายชนิด ให้ผลในแง่ Antioxidant ช่วยชะลอวัย เพิ่มความชุ่มชื้น มีส่วนช่วยด้าน Whitening สำหรับส่วนผสมอื่นๆไม่ได้มีตัวไหนไม่เป็นมิตรกับผิว จุดนี้ขอให้ 4 ฟลาสก์เนื่องจากสารบำรุงยังน้อยไปนิด จะเหมาะกับคนที่มีร่องรอยอารยธรรมยังไม่มากค่ะ
  2. การใช้งาน ตัวอายเจลค่อนข้างบางเบา เกลี่ยง่าย ลื่น ช่วยอำพรางริ้วรอยเล็กๆได้ทันที ใช้ได้ทั้งกลางวันกลางคืน ทำให้เราเกลี่ยคอนซิลเลอร์ใต้ตาง่ายขึ้นไม่ตกร่องค่ะ ส่วนตัวมี่ค่อนข้างชอบอายเจลตัวนี้นะคะ ขอให้ไป 5 ฟลาส์กค่ะ

 

%e0%b8%84%e0%b8%b0%e0%b9%81%e0%b8%99%e0%b8%99-eye

 

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถเข้าไปดูได้ที่เพจ Graccy grace นะคะ

https://www.facebook.com/graccygracebygraccy/

 

Discliamer/conflict of interests: ผลิตภัณฑ์นี้ได้รับเป็นของขวัญจากเพื่อน การรีวิวครั้งนี้เป็นการวิเคราะห์ส่วนผสมตามหลักการทางวิทยาศาสตร์เครื่องสำอางและอาศัยความเห็นส่วนบุคคล และผู้เขียนไม่ได้มีผลประโยชน์ใดๆในการขายสินค้า โปรดใช้วิจารณญาณ