Image

รีวิว/วิเคราะห์ส่วนผสมน้ำตบ Artemisia และ น้ำตบจากชาหมัก Kombucha จากแบรนด์ T’else แบรนด์น้องใหม่ในเครือ Neopharm เกาหลี

สวัสดีค่ะ

วันนี้มี่จะมารีวิวผลิตภัณฑ์จากแบรนด์น้องใหม่ในเครือของ Neopharm ให้ได้ชมกันค่ะ

ถ้าพูดถึง Neopharm ตัวเทคโนโลยีหลักที่โด่งดังของเขาคือ เทคนิค MLE ที่ใช้สารในกลุ่ม Pseudoceramide มาเป็นตัวหลักในการสร้างเนื้อครีมแบบพิเศษ ที่มีลักษณะคล้ายกับไขมันที่เป็นส่วนประกอบของ Barrier ผิวเรานะคะ

(ถ้าสนใจสามารถตามไปอ่านเพิ่มได้ที่ลิงค์นี้ค่ะ https://cosmeknowledge.wordpress.com/2017/02/03/atopalm-body)

 

คราวนี้ทาง Neopharm ได้ปล่อยผลิตภัณฑ์แบรนด์น้องใหม่ ที่เริ่มโด่งดังในเกาหลี อย่างแบรนด์ T’else ซึ่งมาจากคำว่า Tea + else โดยมีคอนเซปท์ของความเป็นธรรมชาติ ความ Minimal ซึ่งมีสินค้าออกมาหลายชิ้นนะคะ มี่จะทะยอยๆ มารีวิว โดยวันนี้จะขอเริ่มจากกลุ่ม Essence ก่อนค่ะ

สำหรับ Essence นี้มีด้วยกัน 2 สูตรนะคะ คือ สูตร Artemisia True essence ที่โดดเด่นด้วยการใช้น้ำหมักจาก Artemisia จากเกาะเจจูในความเข้มข้น 98% ร่วมกับโปรวิตามินบี 5 กับสารเพิ่มความหนืด ให้เราตบกันสนุกๆ และ อีกสูตรเป็นสูตร Kombucha Teatox essence ตัวนี้ใช้สารสกัดจากชาดำหมักที่เรารู้จักกันในนาม Kombucha ในความเข้มข้น 74% ร่วมกับสารบำรุงอื่นๆ พัฒนามาในสูตร Low-pH และแต่งกลิ่นด้วยน้ำมันหอมระเหยได้อย่างลงตัวค่ะ

telse 1

 

เราจะขอเริ่มรีวิวที่สูตร Artemisia True essence กันก่อนเลยนะคะ

arte 4

มาในขวดพลาสติกหนา เนื้อข้างในเป็นสีเขียวมะกอก/สีเขียวขี้ม้า

arte 5

น้องจะมีเนื้อเป็นแบบน้ำใส มีกลิ่นคล้ายๆสมุนไพร ดมไปดมมาก็คล้ายๆจิงจูฉ่าย อาจจะเพราะเป็นพืชใน Genus เดียวกันค่ะ

arte 2

เกลี่ยได้ค่อนข้างง่าย ซึมไว แห้งไว ไม่เหนอะหนะ

arte 3

สำหรับค่า pH จะอยู่ที่ราวๆ 4 – 5 นะคะ

arte 1

ส่วนผสมเป็นดังนี้ค่ะ

สผส artemisia

โดยตัว Artemisia scoparia extract จะเป็นคนละ species กับ Mugwort (Artemisia annua extract) ในน้ำตบ Artemisia ของแบรนด์ก่อนที่มี่เคยรีวิวไปก่อนหน้านะคะ

arte 6

(Image from T’else official website)

Artemisia เป็น Genus ของสมุนไพร ที่มีหลาย species กระจายกันไปทั่วโลก โดยนักพฤกษศาสตร์ในปัจจุบันพบเจอว่ามีมากกว่า 400 Species เลยทีเดียวค่ะ

ตัวนี้ Story ของเขาน่ารักนะคะ ส่วนตัวจะค่อนข้างอินและปลื้มกับอะไรแบบนี้ค่ะ มี่เล่าแบบสรุปเป็นข้อๆนะคะ

  • A. scoparia เป็น Species ที่พบได้บนเกาะเจจู และพื้นที่แถบ Eurasia แต่ว่าทางแบรนด์เคลมว่า A. scoparia ที่โตบนเกาะเจจู ได้รับอากาศบริสุทธิ์และสารอาหารพิเศษจากดินภูเขาไฟของเกาะเจจู เลยมีประโยชน์และคุณสมบัติที่ดีหลายอย่าง
  • A. scoparia มีชื่อสามัญว่า redstem wormwood ซึ่งสามารถใช้ทดแทนในสูตรยาจีน yin-chen ได้ค่ะ (ข้อมูลจาก Wikipedia)
  • ทางแบรนด์เคลมว่า เก็บเกี่ยวในช่วงเดือน พ.ค. – มิ.ย. ซึ่งจะเป็นฤดูที่ Artemisia นี้กำลังมีประโยชน์
  • มีสิทธิบัตรเกาหลี (เลขที่ KR10-0768085) รองรับว่า มีประโยชน์เด่นในด้านลดการอักเสบระคายเคือง เด่นกว่าอีกพันธุ์คือ A. capillaris (ตัวนี้เป็น Artemisia ที่ใช้ในตำรับยาจีน มีชื่อสามัญว่า yin-chen wormwood) นอกจากนี้ก็ยังมีประโยชน์ในด้านการเป็น Antioxidant ต่อต้านอนุมูลอิสระ ชะลอวัย
  • การทดสอบทางพฤกษเคมีพบว่าใน A. scoparia มีสาร Phytosterol ชนิด β-Sitosterol ซึ่งมีประโยชน์ในเชิงการลดการอักเสบระคายเคือง
  • สารอีกตัวที่ค่อนข้างเด่นและพบได้ใน A. scoparia คือ สารในกลุ่ม Coumarin ที่ชื่อ Scoparone ซึ่งมีรายงานว่ามีประโยชน์ในการกดภูมิคุ้มกัน (ตรงนี้จะเหมาะกับกลุ่มของสภาพผิวที่ภูมิคุ้มกันไวเกิน จนก่อให้เกิดการแพ้หรือระคายเคือง แต่ก็อาจจะมีข้อเสียได้ในคนปกติ คหสต.) และมีคุณสมบัติในการขยายหลอดเลือด ช่วยให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น (European Journal of Pharmacology. 1992;218 (1):123–8.)ซึ่งตรงจุดนี้ก็จะมีประโยชน์ในการช่วยให้ผิวมีสุขภาพดีขึ้น

ส่วนผสมอีกตัวที่ทางแบรนด์เติมเข้ามาคือ Panthenol หรือโปรวิตามินบี 5 ที่มีประโยชน์ในการเพิ่มความชุ่มชื้น และลดการอักเสบระคายเคือง ให้ความรู้สึกสบายผิว

 

ส่วนอีกสูตรจะเป็น สูตร Kombucha Teatox Essence ค่ะ

สูตรนี้ก็มี Story น่ารักๆนะคะ

เริ่มจากการหมักชาอัสสัมด้วยยีสต์ Saccharomyces ในโอ่งดินจนได้วุ้น Kombucha ก่อนเอาวุ้นมาสกัดเป็นวัตถุดิบใช้ในเครื่องสำอางค่ะ

kombucha ferment

(Image from T’else)

     ในหลายๆฐานข้อมูลมีการกล่าวถึง Kobucha ไว้ค่อนข้างมากนะคะ ซึ่งในภาพรวม Kombucha จะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการหมัก และภายในนั้นจะมีจุลินทรีย์หลายชนิด ทั้งแบคทีเรีย และ ยีสต์ ซึ่งหลายตัวเป็น Probiotic และมีประโยชน์ทางด้านสุขภาพค่ะ โดยสำหรับส่วนวุ้นที่เกิดขึ้นจะเป็นสารในกลุ่มของ Biocellulose ที่เชื้อในกลุ่มของ Acetobacter spp. เป็นตัวสร้างขึ้นมาค่ะ ซึ่งในด้านของประโยชน์ของ Kombucha นั้นมีค่อนข้างกว้างค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ Antioxidant, การลดการอักเสบระคายเคือง ส่วนที่เหลือจะเป็นฤทธิ์ในการเสริมสร้างสุขภาพเมื่อใช้รับประทานเป็นเครื่องดื่มค่ะ (Villarreal-Soto, et al. J Food Sci. 2018;83(3):580-588.)

มีนักวิทยาศาสตร์หลายๆกลุ่มได้ตรวจสอบสารอาหาร และพฤกษเคมีใน Kombucha ที่หมักด้วยรูปแบบต่างๆ พบว่าประกอบด้วยสารหลายๆอย่างซึ่งให้ประโยชน์กับผิวนะคะ เช่น กลุ่มของวิตามิน กลุ่มของกรดอินทรีย์ (organic acid) หลายชนิด โดยตัวที่มีประโยชน์กับผิวได้แก่ Glucuronic acid, Gluconic acid, Lactic acid (Villarreal-Soto, et al. J Food Sci. 2018;83(3):580-588.) โดยพวกนี้เป็นกรดอินทรีย์ในกลุ่ม PHA และ AHA ที่มีความสามารถในการเติมน้ำ และผลัดผิว (ขึ้นกับค่า pH ของตำรับ) สำหรับ Glucuronic acid มีรายงานว่ามีคุณสมบัติในการระงับเชื้อแบคทีเรียบางชนิดได้ และมีประโยชน์สำหรับผิวที่เป็นสิว

และนอกจากนี้ปริมาณของ Tea polyphenols ในกลุ่มของพวก Catechin อย่างพวก EGCG และอื่นๆ ก็ยังมีอยู่ในปริมาณที่ค่อนข้างสูง โดยมีหลายๆชิ้นงานสนับสนุนว่า การหมักชา จะทำให้พวกจุลินทรีย์ต่างๆไปเปลี่ยนสารเหล่านี้ให้มีขนาดเล็กลง มีฤทธิ์ที่ดีขึ้น ซึ่งเราเรียกว่า Bio-conversion

และเมื่อสารเหล่านี้มีขนาดเล็กลง น่าจะมีประโยชน์ในการซึมผ่านผิวได้ดีขึ้นด้วย (แต่ยังขึ้นกับปัจจัยอื่นๆอีก)

สำหรับทางเครื่องสำอาง ความงามและผิวพรรณ งานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการใช้ Kombucha ตรงๆ ยังมีอยู่จำกัดค่ะ โดยหลักๆ จะเป็นการใช้เพื่อสมานแผล (Wound healing) เช่น การศึกษาประสิทธิภาพของสารสกัด Kombucha ด้วยตัวทำละลาย Ethyl acetate ในการสมานแผลในหนูทดลอง โดยวิธีการฉีดเข้าชั้นหนังแท้ (Intradermal) พบว่า การสมานแผลเกิดได้ไวขึ้นค่ะ (Pakravan et al. J Cosmet Dermatol. 2018;17(6):1216-1224.)

ตัว Kombucha Teatox Essence จะมาในกล่องแถบคาดเหลืองนะคะ

kombu 4

มาในเนื้อสีเหลืองอ่อน

kombu 5

ข้นกว่าสูตร Artemisia เล็กน้อย มีกลิ่นหอมจางๆ

kombu 1

เกลี่ยได้ง่าย ซึมไว ให้ความรู้สึกบางเบา เย็นสบายผิว และไม่เหนอะหนะ

kombu 2

ค่า pH อยู่ที่ราวๆ 4 – 5 นะคะ

kombu 3

ตัว Kombucha essence นี้เป็นที่โปรดปรานของสาวเกาหลีนะคะ มีรางวัลมาการันตีอยู่หลายรางวัลด้วยค่ะ

kombu 6

สำหรับส่วนผสมเป็นดังนี้ค่ะ

สผส kombucha

วันนี้มี่ทำส่วนผสมไว้หลายสีหน่อยนะคะ

  • สีเขียว กับ สีฟ้า เป็นคู่พระนางของเรา คือ สารสกัดจากวุ้น (Scoby) ของ Kombucha ที่หมักด้วย Yeast saccharomyces ในโอ่งดินค่ะ ซึ่งสารสกัดจากชาดำหมักนี้มีประโยชน์ในเชิงของ Antioxidant นะคะ สองตัวนี้รวมกันอยู่ที่ความเข้มข้น 70.4% ในสูตรค่ะ
  • สีชมพู เป็นกลุ่มของ Hyaluron 4 ชนิด ได้แก่ Sodium hyaluronate แบบปกติ Hydrolyzed hyaluronic acid แบบที่ย่อยให้มีขนาดเล็กลง Hydroxypropyltrimonium hyaluronate แบบที่มีประจุบวก เกาะติดกับผิวได้ดี และ Sodium acetylated hyaluronate ที่เด่นด้านการเคลือบปกป้องผิวเช่นกัน
  • สีน้ำตาล กลุ่มของ Bifida ferment filtrate และ Lactobacillus ferment lysate จัดเป็นสารในกลุ่ม Postbiotic ที่ได้จากการสกัดเอาน้ำเลี้ยงจุลินทรีย์ Probiotic ออกมา มีประโยชน์ในด้านของความชุ่มชื้น การชะลอวัย เพิ่มความแข็งแรงให้แก่ผิว
  • สีม่วงเป็นสารบำรุงอื่นๆ ได้แก่ สารสกัดจาก Calendula กรดอะมิโน Arginine และสาร Adenosine ค่ะ

 

ทางแบรนด์มีการทดสอบประสิทธิภาพในอาสาสมัคร พบว่าอาสาสมัครมีรูขุมขนที่กระชับขึ้นหลังใช้โดยมพื้นที่ของรูขุมขนลดลง 4.3% และเมื่อใช้ต่อเนื่อง 2 อาทิตย์พบว่าอาสาสมัครมีรูขุมขนที่กระชับขึ้นหลังใช้โดยมพื้นที่ของรูขุมขนลดลง 7.2%

telse eff

(Image from T’else official website)

 

จุดหนึ่งที่มี่ค่อนข้าง Concern คือ เรื่องของภาวะไวต่อแสงที่อาจจะเกิดขึ้นได้จากสารกลุ่ม Furocoumarin ที่พบได้ในน้ำมันหอมระเหยจากเปลือกพืชตระกูลส้ม ซึ่งในนี้มีด้วยกัน 2 ชนิด คือ Citrus aurantium dulcis และ Citrus recutita

จากการสอบถามไปทางแบรนด์ ทำให้มี่ได้ความรู้ใหม่มาว่า กฏการควบคุมเครื่องสำอางของเกาหลี (Korean cosmetic regulation) ได้มีการควบคุมปริมาณของสารในกลุ่ม Courmarin ไม่ให้เกิน 1 ml/kg (หรือ 0.0001%) ค่ะ ซึ่งเกณฑ์นี้จริงๆแล้ว ใช้ควบคุมกับผลิตภัณฑ์ที่ใช้แล้วต้องสัมผัสแสงแดด อย่างผลิตภัณฑ์กันแดด หรือ พวก Suntan product ค่ะ

โดยเกณฑ์นี้สามารถประยุกต์มาใช้กับผลิตภัณฑ์ skincare ทั่วไปซึ่งไม่ได้มีจุดประสงค์ให้สัมผัสแสงแดดหลังใช้งานได้อยู่ค่ะ ถ้าค่าไม่เกินนี้ก็ถือว่ามีความปลอดภัยค่ะ

โดยทางแบรนด์ได้ทำการวิเคราะห์ปริมาณของ Furocoumarin ในผลิตภัณฑ์นี้แล้ว พบว่า ในผลิตภัณฑ์มีสารในกลุ่มนี้อยู่เพียง 0.00000009942% ซึ่งน้อยกว่าที่กฎหมายเกาหลีกำหนด เลยอาจจะกล่าวได้ว่า ผลิตภัณฑ์นี้ไม่ได้เสี่ยงต่อการเกิดภาวะไว้ต่อแสงค่ะ

 

มาให้คะแนนดีกว่านะคะ

สำหรับตัวที่มี่หยิบมาให้คะแนนจะเป็นตัว Kombucha Teatox Essence นะคะ เพราะตัว Artemisia มีส่วนผสมแค่ 3 อย่าง

  1. สารบำรุง ในด้านของสารบำรุงตัวหลักคือ Kombucha ซึ่งเป็นสารสกัดจากชาดำที่หมักด้วยยีสต์ Sacchromyces มีประโยชน์ในเชิงของการเป็น Antioxidant ชะลอวัย ป้องกันการเกิดริ้วรอย เสริมมาด้วย Hyaluron 4 ชนิด ที่มีประโยชน์ในการเติมน้ำให้ผิวที่หลายระดับชั้น เสริมกับพวก Postbiotic และสารบำรุงอื่นๆ มีประโยชน์โดยรวมในเชิงของการเติมน้ำ และชะลอวัย โดยทางแบรนด์มีเคลมเกี่ยวกับการ Calm sensitive skin และช่วยให้ผิว Glow ซึ่งจุดนี้มี่ว่าอาจจะยังไม่คลิ้กมาก เลยขอให้ไป 4 ฟลาสก์
  2. ส่วนผสมอื่นๆ จากที่ได้กล่าวไปว่า แม้จะมีส่วนผสมของน้ำมันหอมระเหยจากพืชในตระกูล Citrus ที่อาจมีความเสี่ยงทำให้เกิดภาวะไวต่อแสง แต่ทางแบรนด์ได้มีการวิเคราะห์ปริมาณสารในกลุ่ม Furocoumarin ที่เป็นตัวการแล้ว พบว่ามีอยู่น้อยกว่าเกณฑ์ที่กฎหมายของทางเกาหลีกำหนด จึงถือว่ามีความเสี่ยงต่อการแพ้แสงต่ำมาก และส่วนผสมอื่นๆ ไม่ได้มีพิษมีภัยอะไรกับผิว เลยขอให้ไป 5 ฟลาสก์
  3. การใช้งาน ส่วนตัวค่อนข้างชอบ Feeling และสัมผัสหลังใช้ของ Essence ตัวนี้นะคะ มันเป็นน้ำตบ ที่มีส่วนผสมของ Hya ตัวหนึ่งที่รู้สึกว่า ใช้แล้วผิวเรานุ่มนวลค่อนข้างนาน โดยไม่เหนียวเหนอะหนะและหนักผิว ให้ไป 5 ฟลาสก์

 

คะแนน kom-edit

สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณทางแบรนด์ T’else สาขาประเทศไทยด้วยนะคะ ที่ส่งสินค้าใหม่ล่าสุดมาให้มี่ได้ทดลองใช้ และขอบคุณทุกท่านด้วยค่ะที่ติดตามรับชมมาจนจบ

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถสอบถามได้ที่ทางแบรนด์ T’else หรือ เพจ Dermskin store ได้โดยตรงเลยนะคะ

https://www.facebook.com/dermskinstore

 

วันนี้คงต้องลากันไปก่อน พบกันใหม่โอกาสถัดไป สวัสดีค่ะ

Disclaimer/conflict of interests: ผลิตภัณฑ์นี้ได้รับการสนับสนุนจากทางแบรนด์ T’else การรีวิวครั้งนี้เป็นการวิเคราะห์ส่วนผสมตามหลักการทางวิทยาศาสตร์เครื่องสำอางและอาศัยความเห็นส่วนบุคคล และผู้เขียนไม่ได้มีผลประโยชน์ใดๆในการขายสินค้า โปรดใช้วิจารณญาณ

 

Image

one ingredient only!!! รีวิว/วิเคราะห์ส่วนผสม น้ำตบ Artemisia จาก Missha กับ Time revolution artemisia treatment essence

สวัสดีค่ะ

หลังๆมาเรามักจะเห็นหลายๆบริษัทเครื่องสำอางพยายามลดจำนวนวัตถุดิบที่ใช้เป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์บำรุงผิวลง เพื่อลดโอกาสในการเกิดอาการไม่พึงประสงค์ของลูกค้าตามเทรนด์ “Less is more” ที่เริ่มออกมาสักพัก

สำหรับวันนี้ มี่จะมารีวิวและวิเคราะห์ส่วนผสมของน้ำตบสูตร Artemisia จากแบรนด์ Missha ซึ่งมีส่วนผสมเพียงชนิดเดียว ตามเทรนด์ Less is more ที่ใช้ส่วนผสมเพียงชนิดเดียว หรือ One ingredient only

หลังๆมาเราเริ่มเห็นหลายแบรนด์ทำน้ำตบและเซรั่ม Artemisia ออกมาเรื่อยๆ โดยมี Missha เป็นเจ้าแรกค่ะ

มี่เองก็มีโอกาสได้รู้จักกับน้องตอนไปเกาหลีเมื่อเดือน เม.ย. ปี 2562 ที่ผ่านมานี้เองค่ะ สมัยนั้นนางพึ่งออก มีโปร 1+1 ด้วย เห็นว่าน่าลองก็จัดมาขำๆ

แต่พอเอามาใช้จริง กลับชอบมากๆ เฉยเลย และนางก็ติดอันดับ #ลูกรักบ้านมียอน ของปี 2562 ด้วยค่ะ

นางมีหน้าตาเป็นแบบนี้นะคะ

mis 1.JPG

ตัวนี้เห็นเหมือนจะธรรมดา แต่นางก็กวาดรางวัลมามากมายใช่ย่อยนะเออ

500_81104_20190731152813162_81104_20191220093847006mis reward

(Image from Missha Korea official website)

 

นางมาในขวดแก้ว เวลาหิ้ว เราก็จะหนักนิดหน่อย ไม่สิ ต้องบอกว่า ขวดแก้วก็ช่วยปกป้องเนื้อในผลิตภัณฑ์ได้ดีกว่าพวกพลาสติกค่ะ

สำหรับเนื้อน้ำตบเป็นแบบน้ำใส เหลว สีเขียวอมน้ำตาล มีกลิ่นคล้ายผัก+ชา

mis 2

mis 4

แต่เกลี่ยได้ค่อนข้างง่าย แห้งไว ซึมไว อาจจะหนึบๆนิดนึงค่ะ

mis 5

ค่า pH อยู่ที่ราวๆ 5 นะคะ

mis 3

 

สำหรับส่วนผสม แน่นอนว่า มีแค่ตัวน้ำหมัก Artemisia ค่ะ

สผส mis

ด้านข้างกล่องจะเขียนเป็น Artemisia annua extract นะคะ

แต่ที่แบรนด์เคลมจะเป็น Double fermented artemisa ค่ะ

โดยเก็บใบ Artemisia มาจากเกาะคังฮวา ซึ่งเป็นเกาะที่มีภูมิอากาศบริสุทธิ์ นำมาหมัก 2 ครั้ง ครั้งแรกในสภาวะอุ่น ครั้งที่สองในสภาวะเย็น ก่อนจะนำมาสกัดด้วยเทคนิคพิเศษ เพื่อเอาสารบำรุงในใบ Artemisia ออกมาค่ะ

Artemisia_essence_061

(Image from Missha US official site)

เห็น story อะไรแบบนี้แล้วมันจะสะกิดอินเนอร์ของหญิงเป็นพิเศษ เลยทำให้ต้องจัดมาลอง ก่อนจะติดใจนั่นเองค่ะ

 

ว่าแต่ Artemisia นี่มันคืออะไร

Artemisia เป็น Genus ของพืชในสกุล Asteracea ซึ่งเป็นสกุลเดียวกับดาวเรือง โดย Genus Artemisia ประกอบด้วยสมุนไพรและพืชผักหลายร้อยชนิดนะคะ เช่น

  • Artemisia vulgaris หรือ Mugwort ที่เอาไปหมักเบียร์ได้
  • Artemisia annua หรือ Sweet wormwood ที่เคยมีประวัติเอาไปสกัดสาร Artemisinin มาทำเป็นยาต้านมาลาเรีย
  • Artemisia argyi เป็นยาในตำรับยาแพทย์แผนจีน
  • Artemisia capillaris มีประโยชน์เป็นสมุนไพรช่วยให้หลับ
  • Artemisia lactiflora คือ จิงจูฉ่าย ที่ใช้เป็นอาหาร

ยังมีอีกมากมายหลายชนิดเลยทีเดียวค่ะ

วันนี้เราจะมาโฟกัสกันที่ Artemisia annua ซึ่งเป็น Sweet wormwood ที่ทางแบรนด์ใช้นะคะ

ใบของน้องมีหน้าตาประมาณนี้ค่ะ

artemisia-annua-benefits.jpg

(Image from https://ezhealthnews.com/artemisia-annua-natural-healthcare-herb-to-treat-cancer-and-malaria/)

 

ในใบของต้นนี้ ประกอบด้วยสารพฤกษเคมีในกลุ่ม Phenolics มากมายหลายชนิดเลยทีเดียว

Schermata_11-2457342_alle_16.54.16.png

(Eleoig [CC BY-SA 4.0 (https://creativecommons.org/licenses/by-sa/4.0)%5D)

ซึ่งมีประโยชน์เป็น Antioxidant มีประโยชน์ในเชิงลดการอักเสบระคายเคือง และด้านอื่นๆอีกมากมายค่ะ

สำหรับข้อมูลจากทางแบรนด์ ได้กล่าวว่า สารสกัดนี้มีประโยชน์ในการลดการระคายเคืองและให้ความรู้สึกสบายผิว (Soothing effect) โดยมีการทดสอบในอาสาสมัคร พบว่า สามารถลดระดับความระคายเคือง และอุณหภูมิของผิวได้ถึง 8.4% เลยทีเดียว

mis clinical

(Image from Missha Korea official website)

หลังจากส่วนตัวใช้มาหลายเดือน ก็รู้สึกว่าผิวแข็งแรง และรู้สึกสบายผิวมากขึ้นตามที่แบรนด์เคลมค่ะ

 

ที่สำคัญส่วนผสมก็แลดูมีความเป็นมิตร เพราะไม่มีสารที่อาจก่ออันตรายให้กับผิวอยู่เลย

 

และล่าสุดมี่ลองเข้าไปเชคในเว็บของ Missha Korea นางออกสินค้าไลน์ใหม่มาอีก 4 ชิ้นเลย

20191127170805_oocredsz

(Image from Missha Korea official website)

มีทั้ง

  • Pack foam cleanser อันนี้เป็น 2 in 1 mask + foam cleanser ค่ะ
  • Ampoule อารมณ์คล้ายๆเซรั่มค่ะ ตัวนี้ก็น่าสนนะคะ แต่ยังไม่มีโอกาสได้ลอง
  • Mist สเปรย์ฉีดบำรุงผิว
  • Mask sheet

 

เรียกได้ว่าน่าโดนไปหมด และก็น่าสงสัยว่า สินค้าตัวอื่นจะมี Artemisia อยู่เท่าไหร่กันเนาะ ถ้ามีโอกาสได้ไปเกาหลีอีกจะไปสืบเสาะมาให้ค่ะ 🙂

สำหรับวันนี้ขอไม่ให้คะแนนนะคะ เนื่องจากมีส่วนผสมชนิดเดียว เลยไม่รู้จะให้คะแนนอย่างไรดี พบกันใหม่โอกาสถัดไป สวัสดีค่ะ

Disclaimer/conflict of interests: ผลิตภัณฑ์นี้ซื้อด้วยตนเอง การรีวิวครั้งนี้เป็นการวิเคราะห์ส่วนผสมตามหลักการทางวิทยาศาสตร์เครื่องสำอางและอาศัยความเห็นส่วนบุคคล และผู้เขียนไม่ได้มีผลประโยชน์ใดๆในการขายสินค้า โปรดใช้วิจารณญาณ