T’else rebrand คราวนี้ปังถึงใจจริงๆ
Blog นี้ขอหยิบเอาน้อง AOX glow essence มารีวิว/วิเคราะห์ส่วนผสมกันอย่างต่อเนื่องเลยค่ะ
แอบบอกก่อนเลยว่า รุ่นนี้เป็น Thailand exclusive พัฒนามาเพื่อคนไทย จำหน่ายในเมืองไทยเท่านั้นค่ะ
น้องมาในหน้าตาแบบนี้

ตัวภาชนะบรรจุเป็นขวดพลาสติกที่เป็นพลาสติกรักษ์โลกชนิด 30% PCR (Post-consumer recycled material) ซึ่งช่วยลด Carbon footprint ให้กับแบรนด์ ตรงตามคอนเซปท์ eco-friendly ของแบรนด์

เนื้อเอสเซนส์ค่อนข้างเบา ถ้าเทียบกับเอสเซนส์และแอมพูลในซีรี่ส์คอมบูชา

เกลี่ยได้ง่าย ให้ฟีลเคลือบผิว ลื่นๆ นิดหน่อย เมื่อทิ้งไว้ประมาณ 1 นาที จะแห้ง/ซึมไปจนหมด

ค่า pH อยู่ที่ราวๆ 5 ค่ะ

ส่วนผสมจัดเต็มตามท้องเรื่องเช่นเคย

แบรนด์ T’else เวอร์ชั่นรีแบรนด์ จะเป็นการเบลนด์กันของสารสกัดจากพืชจากนานาประเทศ โดยแปลงมาจากคำว่า Terra + Else
- ส่วนของ Terra ในสูตรนี้จะเป็นคอมบูชา (Camellia sinensis leaf extract หมักด้วย saccharomyces ferment filtrate) กับ โสมแดง (Panax ginseng root extract)
- ส่วนของ Else จะเป็น Hyaluronic acid 3 ชนิดที่เติมน้ำให้ผิวได้หลายระดับแบบฉ่ำ
มาดูส่วนผสมที่น่าสนใจกันดีกว่า
Kombucha ที่ผ่านกระบวนการหมักด้วย Saccharomyces yeast ซีรี่ส์นี้ตัวใบชาอัสสัมที่เขาเลือกมา คือเป็นเกรดที่ดีที่สุด ที่สมาคมนักดื่มชารู้จักกันในนาม FTGFOP หรือ “Finest Tippy Golden Flowery Orange Pekoe”
- ‘Orange Pekoe’ เป็นการกล่าวถึงชาทั้งใบ (whole leaf tea) โดยคำว่า Pekoe มีที่มาจากการแปลภาษาจีนผิดในช่วงแรกๆ โดยสื่อความหมายถึง White hair บนยอดอ่อนใบชา ส่วนคำว่า Orange มาจาก Dutch royal House of Orange-Nassau ซึ่งเป็นผู้ที่มีความสำคัญในการซื้อ-ขายชาในยุคศตวรรษที่ 17
- ส่วนอีก 3 คำ
- Tippy หมายถึง ยอดอ่อนของใบชา
- Golden สื่อถึงสีทองของยอดอ่อนใบชา
- Flowery เป็นการเน้นย้ำว่ายอดอ่อนของใบชายังอยู่อย่างสมบูรณ์ใน Whole leaves tea นั้นๆ (Reference: Australian Tea Centre)
- ในใบชาเกรด FTGFOP จะประกอบด้วยสารพฤกษเคมีสำคัญๆ หลายชนิด เช่นพวก Polyphenol, Flavonoid, Catechin, Glucuronic acid ซึ่งมีประโยชน์ที่ดีกับผิวหลายประการ และมีคุณสมบัติเป็น Antioxidant ที่ดี และมีประโยชน์ในการชะลอวัยของผิวพรรณ
- ผ่านกรรมวิธีการสกัดที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ ซึ่งเคลมว่าเป็น Slow brewing technology สกัดด้วยอุณหภูมิต่ำ 20 องศาเซลเซียส อย่างช้าๆ เป็นเวลา 336 ชั่วโมง เพื่อให้ได้สารสกัดจากคอมบูชาที่มีคุณภาพสูง โดยไม่มีสารเติมแต่งอื่นๆ
โสมแดง (Panax ginseng root extract) เป็นโสมคุณภาพสูงที่ผ่านกรรมวิธีผ่านกระบวนการนึ่งและตากแดดจนแห้งซ้ำๆ มากกว่า 7 ครั้ง ที่ผ่านการทดสอบยืนยันว่าประกอบด้วยสารในกลุ่ม Ginsenoside ในปริมาณสูงกว่าโสมธรรมดาถึง 8 เท่า โดยประโยชน์ของโสมในทาง Skincare นั้นค่อนข้างกว้าง และมีงานวิจัยรองรับอยู่หลายฉบับ โดยในภาพรวมโสมจะเด่นด้านการชะลอวัย ฟื้นฟูและปรับสภาพผิว
สารสกัดจากจุลินทรีย์ Probiotic อย่าง Bifida ferment filtrate, Lactobacillus ferment และ Lactobacillus ferment lysate ที่ดูแลเรื่อง Microbiome barrier ของผิว เพื่อให้ชุมชนจุลินทรีย์ (Microbiome) ผิวอยู่ในสภาวะสมดุล และแข็งแรง คล้ายๆ สูตร Kombucha essence เพิ่มเติมคือ มี lactobacillus/soybean ferment extract ซึ่งเมื่อผ่านกระบวนการหมักแล้ว Isoflavone ตัวใหญ่ในรูป Glycoside ที่มีน้ำตาลเกาะอยู่ จะถูกแปรสภาพเป็น Isoflavone aglycone ตัวเล็กลง มีฤทธิ์ Antioxidant เพิ่มขึ้น ให้ประโยชน์ด้านการชะลอวัย และมีรายงานว่าเป็น Phytoestrogen ให้ผิวนุ่มฟู ชุ่มชื้น
สารบำรุงอื่นๆ ได้แก่
- Hyaluronic acid 4 กลุ่ม ได้แก่
- Hya ตัวดั้งเดิม
- Hydrolyzed Hya ที่ผ่านการย่อยให้มีขนาดโมเลกุลเล็กลง
- Sodium acetylated Hya ที่เป็นตัวดัดแปลงเติมหมู่ Acetyl group ลงไปให้มีความชอบไขมันเพิ่มขึ้น ทำให้ซึมลงไปในหนังกำพร้า เกาะอยู่ในนั้น เพิ่มความชุ่มชื้น และทางผู้ผลิตวัตถุดิบเองก็มีเคลมเกี่ยวกับประโยชน์ในการเสริมการฟื้นฟู Barrier เสริมการแบ่งตัวเพิ่มจำนวนของ Keratinocyte (เซลล์ในชั้นหนังกำพร้า) เพื่อมาทดแทนตัวที่ได้รับความเสียหายจาก UV ไป และการทดสอบในระดับอาสาสมัครพบว่าเสริมความยืดหยุ่นให้ผิว
- Hydroxypropyltrimonium hya เป็น Hya ประจุบวกที่จะเคลือบเกาะกับผิวเราซึ่งมีประจุลบได้แน่น
- Pseudoceramide ตัว PC-9S (Myristoyl/Palmitoyl Oxostearamide/Arachamide MEA) ที่ดูแลเรื่อง Barrier ผิว ให้ผิวแข็งแรง
- วิตามินบี 3 ที่มีประโยชน์ที่ดีต่อผิวหลายอย่าง ทั้งในแง่ของ Whitening ผ่านการลดการส่งผ่านเมลานินที่สร้างเสร็จแล้วไม่ให้ออกไปด้านนอก ดูแลเรื่องการอักเสบระคายเคือง เสริมการสร้างไขมันที่เป็น Barrier ผิว และดูแลเรื่องรูขุมขน การเกิดสิว การปลดปล่อยน้ำมัน Sebum
- สารสกัดจากพืชมากมายหลายชนิด ที่ทางแบรนด์เคลมว่าเป็น Beauty plant complex ได้แก่ Lavender, Rosemary, Oregano และ Thyme ร่วมกับ สารสกัดอีกชุดที่ทางแบรนด์เคลมว่าเป็น Guardian plant shield ได้แก่ ถั่วเหลือง Willow, Cinnamon, Oregano, สน Hinoki, Baikal skullcap และ Purslane ดูแลและปกป้องผิว
- สารสกัดจากดาวเรือง ดูแลเรื่องการระคายเคืองผิว ให้ความรู้สึกสบายผิว (Soothing)
- Arginine เป็นกรดอะมิโน ที่เป็นสารจับน้ำให้ผิวตามธรรมชาติ (Natural moisturizing factor)
- Adenosine อาจให้ประโยชน์ในแง่ของการทำงานของผิว และการดูแลเรื่องริ้วรอย
แต่ว่าในเบสมีการแต่งกลิ่นด้วยน้ำมันหอมระเหยจากพืชตระกูลส้ม (Citrus spp.) ซึ่งอาจจะทำให้เกิดอาการแพ้แสงแดดได้ ถ้าใช้ในตอนกลางวันแล้วไปโดนแดดจัดๆ
แต่ว่า น้ำมันหอมระเหยกลุ่มนี้ในท้องตลาดจะมีพวกที่เป็นเกรด FCF คือ Furocoumarin free ด้วย โดยแยกเอาสาร Furocoumarin ออกจากน้ำมัน ทำให้ลดความเสี่ยงในการแพ้แสงแดดไป ซึ่งทางนี้ก็คิดว่า ทางแบรนด์คงใช้เกรด FCF แหละ
ในส่วนของเบสนั้นเป็นเบสแบบน้ำ ไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน และสารที่ไม่เป็นมิตรกับผิว
ให้คะแนน
- สารบำรุง เรียกได้ว่า จัดสารต้านอนุมูลอิสระมาสมชื่อ AOX ของผลิตภัณฑ์ พร้อมทั้งดูแลผิวหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็น PC-9S ที่ดูแล Barrier ผิว ส่วนผสมของพวก Pro-post biotics ที่ดูแล Microbiome, Hyaluronate หลากหลายฟอร์มเพิ่มความชุ่มชื้น เสริมสารสกัดจากพืชอีกมากมายหลายชนิดที่ให้ประโยชน์ได้หลายด้านอย่างครอบคลุม ทั้งชะลอวัย ดูแลริ้วรอย ให้ความรู้สึกสบายผิว ชุ่มชื้น อาจจะได้ไปถึง Whitening และในสูตรนี้มี Salix bark extract ที่มี Salicylic acid จากธรรมชาติ ประกบคู่มากับสารสกัดที่มีฤทธิ์ต่อต้านแบคทีเรีย น่าจะให้ประโยชน์ในการดูแลสิวด้วยอีก 1 ทาง ให้ไป 5 ฟลาสก์
- ส่วนผสมอื่นๆ จะขอหักคะแนนที่น้ำมันหอมระเหยจาก Citrus ที่อาจจะก่อการแพ้แสง/ไวต่อแดดได้ แม้ว่าส่วนตัวจะลองใช้กลางวันมาแล้วไม่เจอปัญหาอะไร และคิดว่า ทางแบรนด์คงใช้เกรด FCF ซึ่งเสี่ยงแพ้แสงน้อย แต่ไม่มีข้อมูล เลยขอให้ 4 ฟลาสก์
- การใช้งาน ด้วยความที่ตัว Essence เนื้อเบา ไม่ลื่น ไม่หนึบผิว จึงยัดเข้า Routine ผิวได้ง่าย ใช้ได้ง่ายทั้งเช้าเย็น แต่ส่วนตัวก็จะเลี่ยงถ้าวันไหนต้องเจอแดดจัดๆ นานๆ จะไปใช้แค่ก่อนนอน วอร์มๆ บนมือ แล้วกดเบาๆ บนหน้า ค่อนข้างให้ความรู้สึกสบายผิว ให้ไป 5 ฟลาสก์

สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณทางแบรนด์ T’else สาขาประเทศไทยด้วยนะคะ ที่ส่งผลิตภัณฑ์ดีๆ มาให้ตั้งแต่วันเปิดตัว และขอบคุณทุกท่านที่ติดตามรับชมมาจนจบค่ะ
สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ทางแบรนด์ T’else โดยตรงเลยนะคะ
https://web.facebook.com/TelseThailand
ช่องทางไปช้อปปิ้ง
แอพฟ้า https://s.lazada.co.th/s.GCJZS?cc
แอพส้ม https://s.shopee.co.th/7V1GfUBxHE
Disclaimer/Conflict of interests: ผลิตภัณฑ์นี้ได้รับการสนับสนุนจากทางแบรนด์ T’else สาขาประเทศไทย การรีวิวครั้งนี้เป็นการวิเคราะห์ส่วนผสม/วัตถุดิบตามหลักการทางวิทยาศาสตร์เครื่องสำอางและอาศัยความเห็นส่วนบุคคล และผู้เขียนไม่ได้มีผลประโยชน์ใดๆในการขายสินค้า โปรดใช้วิจารณญาณ


















