Image

รีวิว/วิเคราะห์ส่วนผสมเซรั่มวิตามินซี และเซรั่มวิตามินเอ สายคลีน จาก Biobalance

สวัสดีค่ะทุกท่าน สำหรับ Blog นี้ขอมาต่อกันที่บทวิเคราะห์ส่วนผสมเซรั่มที่น่าสนใจจากแบรนด์ Biobalance 2 ชิ้น คือ เซรั่มวิตามินซี ที่มีชื่อว่า Pure vitamin C super serum และเซรั่มวิตามินเอ ที่มีชื่อว่า Retinol’E super serum นะคะ

สำหรับท่านที่สนใจเกี่ยวกับแบรนด์ Biobalance สามารถติดตามคอนเทนท์แนะนำแบรนด์ Biobalance ได้ที่ลิงค์ด้านล่างนี้เลยค่ะ

(แนบลิงค์ https://miyeonthereviewer.com/2022/08/26/brandintro-biobalance/)

ทางเพจได้เคยนำเสนอรีวิว/วิเคราะห์ส่วนผสม Eye cream สุดปังของแบรนด์ไว้ ท่านใดที่พลาดสามารถติดตามได้ที่ลิงค์นี้ได้เลย

(แนบลิงค์ https://miyeonthereviewer.com/2022/09/23/biobalance-eye/)

ส่วนเซรั่มที่เราจะนำมานำเสนอกันในวันนี้นั้นเป็นเหมือนพระเอกนางเอกของแบรนด์กันเลยค่ะ คือ น้องวิตซี กับน้องวิตเอ ที่มีหน้าตาเป็นแบบนี้ค่ะ

โดยขอเริ่มที่น้องวิตซีนะคะ

น้องมีชื่อเต็มๆ ว่า Pure vitamin C super serum

ซึ่งมาในขวดแก้วสีชาแบบมีหลอดหยดค่ะ

สำหรับเนื้อสัมผัสจะเป็นเนื้อของ Propanediol ที่จะอุ่นๆ ให้ความรู้สึก ‘rich’ คือ อารมณ์เหมือนมีอะไร หนืดๆ นิดหน่อยตอนเกลี่ย

หลังเกลี่ย

ถ่ายภาพผ่านแฟลชจะเห็นเป็นส่วนของ propanediol ดูวาวๆ

หลังจากทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที ความวาวก็จะหายไปค่ะ

สำหรับส่วนผสม คือ สมเป็นสกินแคร์สายคลีน ก็คือ ตรงตามเทรนด์ ‘The less is more’ มากๆ

แค่เอา L-ascorbic acid (LAA) 10% มาละลายในเบสที่เป็น Propanediol ซึ่งการทำมาในเบสแบบไม่มีน้ำจะช่วยรักษาเสถียรภาพของ LAA เอาไว้

สำหรับ Propanediol นั้นจัดอยู่ในกลุ่มที่เรียกว่าเป็น Humectant solvent ซึ่งปกติเราใส่กันในปริมาณไม่มาก ราวๆ ไม่เกิน 5% เป็นสารให้ความชุ่มชื้นผ่านการดูดน้ำให้ผิว ในที่นี้เอามาเป็นเบสเลย เพื่อจะได้ปกป้องตัวสารวิตซีเอาไว้

Propanediol เป็นสารที่ทางผู้ผลิตวัตถุดิบเคลมว่าได้จากกระบวนการดัดแปลงจากวัตถุดิบทางธรรมชาติ เช่น ข้าวโพด ในวงการเครื่องสำอางทำขึ้นมาเพื่อทดแทนการใช้ Propylene glycol ซึ่งได้จากการสังเคราะห์ และมีรายงานถึงการแพ้-ระคายเคืองอยู่บ้าง

ถ้าดูจากคะแนนความเป็นมิตรต่อคน สัตว์และสิ่งแวดล้อมจาก Environmental Working Group (EWG) นั้นน้องจะมีคะแนนที่ 2 คะแนน แต่ถ้าเป็น Propylene glycol นั้นจะมีคะแนนอยู่ที่ 3 คะแนนค่ะ

ถ้ากล่าวกันตามจริงตามหลักการก็ไม่ได้ต่างกันเยอะมาก แต่ส่วนตัวมองว่าจากข้อมูลที่เห็นมา Propanediol นั้นมีข้อมูลว่าเกิดการระคายเคืองได้น้อยกว่า ก็น่าจะดีกว่า

สำหรับวิตามินซีที่ทางแบรนด์เลือกใช้นั้นเป็นรูปแบบ LAA ซึ่งเป็นรูปแบบดั้งเดิมตามธรรมชาติ ที่มีรายงานกล่าวถึงประสิทธิภาพที่ดีอยู่หลายชิ้นเหมือนกัน

ส่วนประโยชน์ของวิตามินซีก็จะดูแลผิวได้หลายด้าน เช่น

  • ด้านของ Whitening ผ่านการยับยั้งเอนไซม์ Tyrosinase ที่เป็นขั้นตอนหลักของการสร้างเม็ดสีผิว
  • เป็น Antioxidant ที่ดี
  • ลดการอักเสบและระคายเคือง
  • ปกป้องผิวจากรังสี UV (Photoprotective)
  • เป็นส่วนหนึ่งในการสังเคราะห์คอลลาเจน โดยเป็น Cofactor ให้แก่เอนไซม์ prolyl hydroxylase และ lysyl hydroxylase ที่ใช้สร้างกรดอะมิโนพิเศษ Hydroxyproline และ Hydroxylysine ในสายคอลลาเจน

วิตามินซีนั้นค่อนข้างบอบบางค่ะ สลายตัวง่ายจากหลายๆ ปัจจัย การทำมาในสูตรไม่มีน้ำแบบนี้ กับมาในขวดแก้วสีชาก็ช่วยปกป้องได้ในระดับหนึ่ง

แต่ว่าพอทำมาในเบสที่เป็น Humectant solvent แบบนี้ บางคนก็อาจจะไว ถ้าละเลงบนผิวเลยก็อาจจะระคายเคือง ซึ่งรูปแบบของการระคายเคืองก็มีได้หลายแบบ ตั้งแต่รู้สึกร้อนๆ แสบๆ ยุบยิบ จนไปถึงรูขุมขนอักเสบคล้ายเป็นสิว

ใครที่กำลังเริ่มใช้ หรือเคยใช้มาแล้วเกิดอาการระคายเคืองอาจจะลองผสมเข้ากับสกินแคร์อื่น วอร์มให้เข้ากันก่อนทาบนผิวก็จะช่วยลดอาการตรงนี้ได้ แล้วก็ค่อยๆ ปรับเพื่อให้ผิวเราค่อยๆ ชินกับน้องค่ะ

ส่วนอีกตัวเป็นเซรั่มวิตามินเอผสมวิตามินอีค่ะ น้องมีชื่อเต็มๆ ว่า Retinol’E super serum

มาในขวดแก้วสีชาแบบมีดรอปเปอร์เช่นกัน

เนื้อจะมาในรูปแบบออยล์ที่เหลวหน่อย

ถึงแม้จะเป็นออยล์ แต่มาลองดูเนื้อก่อน น้องเป็นออยล์ที่ค่อนข้างเบาไม่เหนอะหนะ เกลี่ยได้ง่าย เคลือบปกป้องผิว

ถ่ายภาพด้วยแฟลชจะเห็นความวาวของเนื้อออยล์อยู่เล็กน้อย

ตัวเซรั่มจะใช้เวลาในการซึมสักนิดค่ะ ทางแบรนด์ไม่ได้ใส่น้ำหอม เลยจะได้กลิ่นจางๆ ของวัตถุดิบอยู่ค่ะ

ส่วนผสมเป็นดังนี้

ในด้านของส่วนผสมนั้นจะมีวิตามินเอ ร่วมกับวิตามินอี ใน 2 รูปแบบ คือ Tocopheryl acetate และ Tocopherol ในความเข้มข้นรวม 2% และเสริม Bisabolol มาเพื่อดูแลเรื่องการระคายเคือง เนื่องจากตัว Retinol นั้นอาจจะก่อให้เกิดการระคายเคืองได้ในผู้ใช้บางราย

วิตามินเอ เป็นรูปแบบ Retinol จัดมาที่ 0.3% ซึ่งมีความระคายเคืองต่ำ แต่มากกว่าพวกกลุ่ม ester นิดหน่อย ซึ่งหลังๆ มา เราไม่ค่อยเจอพวก Ester ในท้องตลาดมากนัก ถ้าไม่นับพวก Ester ของ Retinoic acid อย่าง Hydroxypinacolone retinoate (ชื่อทางการค้า Granactive® Retinoid) ที่เจอได้อยู่

สำหรับวิตามินเอนั้นมีประโยชน์กับผิวหลายๆ ประการ จะเด่นไปในด้านของการดูแลผิวเรื่องริ้วรอย ผ่านกลไกที่ซับซ้อนหลายๆ อย่าง และอาจจะให้ประโยชน์ในการดูแลเรื่องสิวได้ ผ่านการควบคุมการแบ่งตัวและเปลี่ยนรูปของเซลล์ Keratinocyte ในชั้นหนังกำพร้า

ส่วนวิตามินอีนั้นเป็น Antioxidant ที่ละลายได้ในไขมัน แล้วก็ช่วยปกป้องวิตามินเอในตำรับไม่ให้เสื่อมสภาพ วิตามินอีเองก็ช่วยปกป้องผิวจากรังสี UV ได้อยู่บ้าง มีการเสริม Antioxidant สังเคราะห์อย่าง BHA, BHT เข้ามาช่วยปกป้องวิตามินเอ และอี ไว้อีก 1 สเต็ป

โดยรวมก็ถือว่าเป็นเซรั่มวิตามินเอที่ทำมาได้คลีนๆ และเรียบง่ายดีค่ะ

สรุปแล้วกลุ่ม Super serum ที่ทางแบรนด์ Biobalance นำเข้ามาในไทยทั้ง 2 ตัวนั้นก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ มาในราคาที่เอื้อมถึงได้ค่ะ

มาดูคะแนนกันนะคะ สำหรับวันนี้เนื่องด้วยส่วนผสมไม่ได้เยอะมาก เลยขอลดหัวข้อการให้คะแนนเป็น 2 หมวด คือ หมวดส่วนผสม แล้วก็หมวดการใช้งาน

  1. ส่วนผสม ทั้ง 2 ตัวเป็นเซรั่มที่ทำมาได้ค่อนข้างคลีน เรียบง่าย ตอบเทรนด์ ‘The less is more’ ซึ่งก็ถือว่าทำมาได้ค่อนข้างดีตามเทรนด์นะคะ แต่ถ้าบางคนที่ไม่ได้อินกับเทรนด์ The less is more อาจจะรู้สึกว่ามันเบาไปหน่อย มันมีอะไรได้อีก จุดนี้ขอให้ไป 3 ฟลาสก์
  2. การใช้งาน ในด้านของเนื้อสัมผัส ถ้าเป็นตัววิตซี น้องจะหนึบๆ หนักๆ นิดหน่อย เพราะเป็นเนื้อของ Propanediol ล้วนๆ แต่ไม่มันเหมือนน้ำมัน ใครที่กำลังเริ่มใช้เบสแบบนี้แนะนำให้ลองผสมเข้ากับครีมอื่นๆ ก่อน เพื่อให้ผิวเราค่อยๆ ปรับค่ะ ส่วนของตัววิตเอ นั้นจะมาในรูปแบบน้ำมัน ที่เบลนด์มาได้ฟิลลิ่งที่บางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ ไม่เยิ้มมาก ทาก่อนนอนตื่นมาไม่แห้ง หมอนไม่เปอะเปื้อน ขอให้ไป 5 ฟลาสก์

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถสอบถามได้ที่ทางแบรนด์โดยตรงเลยนะคะ

Facebook: https://www.facebook.com/BiobalanceOfficialThailand

ลิงค์สำหรับตามไปชอปปิ้ง

LazMall

ชอปปิ้งเซรั่มวิตามินซี: https://s.lazada.co.th/s.k1cLB?cc

ชอปปิ้งเซรั่มวิตามินเอ: https://s.lazada.co.th/s.k1cvu?cc

Shopee Mall Official Biobalance Mall https://invle.co/cle62tp

Image

[Preview] ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ สุดปังจาก Biobalance

เมื่อช่วงต้นเดือนทีผ่านมานี้ ทาง Biobalance ประเทศไทยได้นำเอาสินค้าความงามเข้ามาจำหน่ายในไทยอีกหลายรายการเลย

วันนี้เลยขออัพเดทให้ได้ชมกัน พร้อม Preview นิดหน่อยพอเป็นพิธีค่ะ

แบรนด์ Biobalance นั้นเป็นแบรนด์เวชสำอางที่น่าสนใจแบรนด์หนึ่งนะคะ ด้วยความที่ทางทีมผู้พัฒนาสูตรเลือกส่วนผสมจากธรรมชาติมาเบลนด์รวมกันอย่างลงตัว และตัวสินค้าเองก็มีราคาที่ย่อมเยา ไม่แพง จับต้องได้ เข้าถึงง่ายค่ะ

ส่วนตัวเคยทำ Brand introduction ไว้ หากท่านใดสนใจรับชมสามารถติดตามได้ที่ลิงค์นี้ได้เลยค่ะ

https://miyeonthereviewer.com/2022/08/26/brandintro-biobalance/

และ ได้รีวิว Eye cream ที่น่าสนใจ ราคามิตรภาพไว้ที่ลิงค์นี้ค่ะ

https://miyeonthereviewer.com/2022/09/23/biobalance-eye/

สำหรับสินค้าใหม่จากทาง Biobalance นั้นพึ่งวางจำหน่ายไปเมื่อ 11 พฤศจิกายนที่ผ่านมาค่ะ โดยขอเริ่มที่ 3 ชิ้นนี้ก่อนนะคะ

มีหน้าตาประมาณนี้ค่ะ

ตอนแรกที่เห็นเจ้ากล่องเหลืองๆ คือแบบ อันนี้อะไร ทำไมดูคลีนๆ ดูไปดูมาก็น่ารักดี

น้องชื่อ Hello clean Brightening cleansing balm with pure vitamin C

น้องเป็น Cleansing balm เนื้อนุ่ม แว่บแรกที่เปิดกระปุกมา ดูเหมือนจะแข็งนะคะ แต่เอาช้อนตักเข้าไปคือนุ่มมาก เหมือนไอศกรีมเลย

Hello clean มีส่วนผสมของวิตามินซี ร่วมกับสารสกัดจากดอก Porcelain (Hoya lacunosa flower extract) เข้าใจว่าน่าจะหมายถึง Crodarom® Porcelain Flower (INCI: Caprylic/Capric Triglyceride (and) Hoya Lacunosa Flower Extract) ทางผู้ผลิตวัตถุดิบเคลมไปในเชิงของการให้ความรู้สึกสบายผิว ลดความระคายเคือง เพิ่มความชุ่มชื้นและเป็น Antioxidant

ความน่ารักจุดแรกอยู่ที่น้องจะเปลี่ยนเนื้อจากบาล์มนุ่มๆ กลายเป็นออยล์ที่ให้สัมผัสหรูหราแบบ Silky เมื่อเรานวดวนๆ ไป ตอนล้างออกด้วยน้ำอุ่นๆ ผิวเราจะนุ่มมากเว่อร์

ส่วนตัวแนะนำให้ใช้เป็นเทคนิค Double clean นะคะ นวดๆ วนๆ จนฉ่ำใจ แล้วไปล้างด้วยโฟมหรือเจลล้างหน้าต่ออีกครั้ง มันจะฟินมาก

ความน่ารักจุดที่สองอยู่ที่ เราไม่ค่อยเห็นใครเคลมเกี่ยวกับการล้าง Sunscreen บนพวกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเท่าไหร่ แต่น้อง Hello clean เคลมว่าทำได้ค่ะ ก็ถือเป็นอะไรที่ดูน่ารักและน่าสนใจไปอีกแบบ

ถัดมาจะเป็นกลุ่มที่ทางแบรนด์เรียกว่า Super serum ซึ่ง ณ ขณะนี้ที่เข้ามาในบ้านเรามีด้วยกัน 2 สูตร คือ สูตร Pure vitamin C ที่เป็นวิตามินซีในความเข้มข้น 10% และ สูตร Retinol’E ซึ่งเป็น วิตามินเอ รูป Retinol 0.3% ร่วมกับ วิตามินอีรูป Tocopheryl acetate + Tocopherol รวม 2% ค่ะ

ตัวภาชนะเป็นขวดสีชาที่มีดรอปเปอร์นะคะ

สำหรับส่วนผสมของ Pure vitamin C นั้นมาแบบเรียบง่าย คลีนๆ ลีนๆ คือ เป็นวิตามินซี Ascorbic acid ละลายใน Propanediol ที่มีข้อมูลความปลอดภัยค่อนข้างดีค่ะ มีกันอยู่แค่ 2 ส่วนผสม ตรงตาม Concept ‘The less is more’ เป๊ะๆ

ส่วนตัว Retinol’E นั้น เป็นเบสแบบออยล์นะคะ อาศัย Coco-caprylate/caprate ที่เป็นออยล์ดัดแปลงจากน้ำมันมะพร้าว มีน้ำหนักเบา ไม่เหนอะหนะเป็นเบสหลัก ละลายเอาเรตินอล และวิตามินอีเอาไว้ เสริมมาด้วย Squalane เคลือบผิวให้ชุ่มชื้น และ Bisabolol ที่พบได้ในพืชหลายชนิด เช่น คาโมมายล์ มีความเด่นในด้านการลดการระคายเคือง ให้ความรู้สึกสบายผิว

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมของสินค้าชุดใหม่นี้สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ทางแบรนด์โดยตรงเลยค่ะ

Facebook: https://www.facebook.com/BiobalanceOfficialThailand

Official LazMall: https://invol.co/cle62s0

Official Shopee Mall: https://invle.co/cle62tp

Disclaimer/conflict of interests: ผลิตภัณฑ์นี้ได้รับการสนับสนุนจากทางแบรนด์ Biobalance สาขาประเทศไทย การรีวิวครั้งนี้เป็นการวิเคราะห์ส่วนผสม/วัตถุดิบตามหลักการทางวิทยาศาสตร์เครื่องสำอางและอาศัยความเห็นส่วนบุคคล และผู้เขียนไม่ได้ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทเครื่องสำอางใดๆ โปรดใช้วิจารณญาณ