Image

รีวิว/วิเคราะห์ส่วนผสม สเปรย์โทนเนอร์ผลัดผิว CosRX AHA/BHA Clarifying treatment toner

ส่วนตัวมองว่ากลุ่ม Exfoliating หรือ Peeling (ผลัดผิว) นี่ก็สำคัญอยู่นะคะ โดยเฉพาะเวลาเราอายุเพิ่มขึ้น การผลัดผิวเกิดได้ช้าลง เราเลยอาจอาศัยพวกกลุ่มนี้เข้ามาช่วยเสริมการดูแลผิว

สำหรับ Blog นี้ขอหยิบเอาโทนเนอร์ผลัดผิว ที่ทำมาได้น่าสนใจ ทำมาแบบคลีนๆ และเป็นชอยส์ที่แลดูอ่อนโยนมาวิเคราะห์ส่วนผสมกันค่ะ

ผลิตภัณฑ์วันนี้คือ AHA/BHA Clarifying treatment toner จาก CosRX ที่มาในหน้าตาแบบนี้

เอาจริงแบรนด์ CosRX นี่ทำไลน์ Peeling (BHA-AHA) มาหลายสูตร สูตรคาดม่วงนี่ก็น่าสนใจค่ะ

ตรงนี้จะเป็นกล่องของผลิตภัณฑ์

ตัวนี้มาในขวดสเปรย์ แต่ส่วนตัวจะสเปรย์ลงสำลีจนพอชุ่ม แล้วค่อยเช็ด เว้นบริเวณรอบดวงตา

หลังเช็ดก็จะแห้งไว ซึมไว ไม่เหนอะหนะ พร้อมลงสกินแคร์ต่อไปได้เลย

ในส่วนของค่า pH จะอยู่ที่ราวๆ 4 ซึ่งเป็นค่า pH ที่ทำให้ AHA อยู่ในรูปที่ไม่แตกตัว และมีคุณสมบัติในการผลัดผิว

ส่วนผสมแบบเต็มเป็นดังนี้

มองว่าทำมาได้ค่อนข้างคลีน และเลือกใช้สารได้อ่อนโยนดีค่ะ

กลุ่ม AHA

  • ใช้น้ำแอปเปิ้ล (Pyrus malus fruit water) เป็นองค์ประกอบหลัก ซึ่งในน้ำแอปเปิ้ลจะมีกรด Malic (เป็น AHA ชนิดหนึ่ง) เป็นองค์ประกอบหลัก (Ref: Metabolites. 2018;8(4):74.)
  • ผสมผสานมากับ Glycolic acid
  • Sodium lactate ซึ่งถ้าอยู่ในระบบที่ค่า pH ประมาณ 3.6-3.8 บางส่วนของน้องจะกลายร่างอยู่ในรูป Lactic acid ซึ่งเป็น AHA ได้

ถัดมาเป็น BHA

  • ใช้สารสกัดจากเปลือกต้น Willow (Salix alba bark water) ซึ่งประกอบด้วย BHA ธรรมชาติ ร่วมกับ
  • Betaine salicylate ซึ่งเป็นอนุพันธ์ของ BHA ที่มีความอ่อนโยนขึ้น

ดูแลการระคายเคืองด้วย Panthenol และ Allantoin

ส่วนผสมทำมาได้ค่อนข้างคลีน ไม่มีสารที่ไม่เป็นมิตรกับผิว

ให้คะแนนแบบคลีนๆ

  1. สารบำรุง ตัว AHA เบลนด์ทั้งที่ได้จากธรรมชาติ และฟอร์มเกลือของ Lactate มาเบลนด์เข้ากับ Glycolic acid และส่วนของ BHA ใช้ฟอร์ม Betaine salicylate มาผสมกับ BHA ธรรมชาติ และดูแลการระคายเคืองด้วย B5 + Allantoin ถือว่าทำมาได้ค่อนข้างดี ให้ไป 5 ฟลาสก์
  2. ส่วนผสมอื่นๆ ไม่มีสารที่ไม่เป็นมิตรกับผิว รับไป 5 ฟลาสก์
  3. ความชอบ เนื้อของโทนเนอร์ค่อนข้างเบา ถึงเบามาก ส่วนตัวจะสเปรย์ลงบนสำลีจนชุ่ม แล้วใช้เช็ด เว้นบริเวณรอบดวงตา ทิ้งไว้แปบเดียว ไม่ถึง 1 นาทีก็พร้อมลงสกินแคร์ได้เลย ถ้าจะมีที่ให้ติ จะขอติ ว่า อยากให้มาในขวดแบบเทมากกว่า เพราะเราชอบใช้กับสำลี คหสต ล้วนๆ เลย ไม่หักคะแนนแล้วกัน ให้ไป 5 ฟลาสก์

เป็นบทวิเคราะห์ส่วนผสมแบบสั้นๆ แต่ก็ฉ่ำไม่เบา ขอบคุณที่ติดตามอ่านมาจนจบค่ะ

สำหรับท่านที่สนใจก็ขอแนบทางไปช้อปปิ้งด้านล่างค่ะ

แอพฟ้า https://s.lazada.co.th/s.u4azK?cc

แอพส้ม https://s.shopee.co.th/4fhHwXm4iu

Disclaimer/conflict of interests: ผลิตภัณฑ์นี้ซื้อด้วยตนเอง การรีวิวครั้งนี้เป็นการวิเคราะห์ส่วนผสม/วัตถุดิบตามหลักการทางวิทยาศาสตร์เครื่องสำอางและอาศัยความเห็นส่วนบุคคล และผู้เขียนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทเครื่องสำอางใดๆ โปรดใช้วิจารณญาณ

Image

Preview/Beauty update: เวชสำอางสุดเนี้ยบจากเกาหลี แบรนด์ Dr.Different ความแตกต่างที่เลอค่า

วันนี้มาอัพเดทสกินแคร์/เวชสำอางจากเกาหลีแบรนด์ใหม่ที่กำลังจะเข้าไทยเร็วๆ นี้ดีด้วยกันนะคะ

แบรนด์ที่มี่จะเอามาอัพเดทในวันนี้มีชื่อว่า Dr.Different ที่ก่อตั้งโดยอาจารย์หมอผิวหนัง Lee Dong-won ซึ่งเป็นผู้ที่มีความสำคัญในวงการเครื่องสำอางและวงการ Dermatology ท่านหนึ่งเลยหละ ท่านเป็นวิทยากรในงานประชุมวิชาการทาง Dermatology อยู่หลายครั้ง รวมถึงเป็นผู้แต่ง Book chapter ในตำรา Dermatology ที่ใช้ในทางการแพทย์ด้วย และนอกจากนี้ท่านเป็นคนพัฒนาตำรับผลัดผิว AHA ที่มีเอกลักษณ์ และใช้ตำรับนี้ถ่ายทอดวิทยาการให้แก่แพทย์ผิวหนังทั่วเกาหลี

(Image from Dr.Different official website)

ผลิตภัณฑ์ของแบรนด์นอกจากคุณหมอ Lee แล้ว ก็ยังมีผู้เชี่ยวชาญด้านอื่นๆ มาร่วมพัฒนาถึง 15 คนเลยทีเดียว

ชื่อแบรนด์เองก็มีความหมายนะคะ Dr.Different มีจุดที่แตกต่างอยู่ 4 จุด

(Image from Dr.Different official website)

  • Different origin ผลิตภัณฑ์ของแบรนด์พัฒนาโดยผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง 15 คน
  • Different ingredients ใช้ส่วนผสมสำคัญ หรือ Active ที่มีรายงานว่าดูแลผิวได้จริง เป็นมิตรกับผิว และมีความ Bio-identical คือ เป็นสารที่สามารถพบได้ในผิวหนังตามธรรมชาติ
  • Different formula พัฒนาสูตรในความเข้มข้น ค่า pH เนื้อผลิตภัณฑ์ต่างๆ ให้ Active ที่ใส่มาออกฤทธิ์ได้จริง
  • Different results จากทั้ง 3 ข้อที่ผ่านมา ทำให้ Dr.Different มีประโยชน์ในการดูแลผิวได้แตกต่าง และให้ผลลัพธ์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว

(Image from Dr.Different official website)

สำหรับผลิตภัณฑ์ของทางแบรนด์ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ออกมาหลายกลุ่มนะคะ โดยกลุ่มแรกที่มี่ได้ลองใช้จะเป็นกลุ่มของวิตามินเอ (Retinoids) ซึ่งทางแบรนด์เลือกใช้ Retinaldehyde หรือ Retinal ที่เก็บกักไว้ในเทคโนโลยีนีโอโซม ซึ่งมีด้วยกัน 3 สูตรนะคะ

จากการทดสอบประสิทธิภาพในอาสาสมัครพบว่า Retinaldehyde หรือ Retinal มีประสิทธิภาพสูงสุด จึงเป็นเหตุให้ทางแบรนด์เลือกใช้ Retinal

และนอกจากนี้ทางแบรนด์มีทั้งการประเมินความคงตัวของวิตามินเอ (Retinal) ในตำรับ มีสิทธิบัตรรองรับ และมีการประเมินประสิทธิภาสพของผลิตภัณฑ์ในอาสาสมัครด้วยค่ะ

แล้วมี่จะมารีวิว/วิเคราะห์ส่วนผสมในโอกาสถัดไปนะคะ

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม และอัพเดทข่าวคราวต่างๆ สามารถติดต่อได้ที่ทางเพจของแบรนด์ Dr.Different Thailand ได้โดยตรงเลยนะคะ

https://www.facebook.com/DrdifferentTH

Disclaimer: Sponsored items