Image

รีวิว/วิเคราะห์ส่วนผสมครีมและมาสก์ชีท 10 ดรุณีไฮยา Blue Agave จากแบรนด์ T’else

หลังจากที่ใน Blog ก่อน ได้หยิบเอากลุ่มสกินแคร์จากแบรนด์ t’else ในไลน์ Kombucha ไปแล้ว วันนี้มาถึงคิวของไลน์ Blue Agave กันบ้างค่ะ

สำหรับท่านที่พลาดสามารถรับชมได้ที่ลิงค์นี้นะคะ >>Click<<

โดยสินค้าในไลน์ Blue Agave นี้มีด้วยกัน 2 ชิ้น คือ ครีม กับ มาสก์ชีทค่ะ

เริ่มจากครีมก่อน

น้องมาในกระปุกหน้าตาประมาณนี้

ตัวกระปุกผลิตจาก Plastic 50%PCR (Post-consumer recycled) ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความรักษ์โลกตามคอนเซปท์ของแบรนด์

เนื้อครีมเป็นสีฟ้าอ่อนๆ จริงๆ จะมีตัวแคปซูลกระจายอยู่ด้วยค่ะ แต่กล้องเก็บภาพไม่ค่อยชัด

สำหรับตัว Capsule นี้ก็คือ ทางแบรนด์เคลมว่าใช้เก็บกัก Hyaluronic acid 10 โมเลกุลที่มีขนาดและประโยชน์ในการบำรุงผิวแตกต่างกันออกไป

(Image from T’else Korea Official Website)

เนื้อครีมจะมีความพิเศษอีกจุด คือ นอกจากการมี Capsule เล็กๆ แล้ว น้องจะมีความลื่นและเหลวลงเมื่อเราเกลี่ย ซึ่งอาจเรียกแบบสวยๆ ว่า Shear thinning คือ ความหนืดลดลงเมื่อให้แรงสัมผัส

ก่อนเกลี่ย

เริ่มเกลี่ย

ซึ่งฟีลตรงเนี้ย จะบอกว่า คือ สดชื่นอิ่มเอมเปรมปรีดิ์เว่อร์

แล้วพอเกลี่ยเสร็จทิ้งไว้ประมาณ 3 นาที ก็จะไม่เหลือความเหนอะหนะ แต่ยังรู้สึกว่าผิวนุ่มชุ่มชื้น

เอาไปแช่เย็นแล้วตักมาซักนิดหน่อย มาละเลงบนหน้าเวลาเหนื่อยๆ คือ ดี๊ย์ดีย์

สำหรับในไลน์ Blue agave นั้น ในตาม Concept ของ T’else คือ Terra + Else โดย Terra ก็คือ ตัวสารสกัดจาก Blue agave (Agave tequilana Leaf Extract) ซึ่งผ่านกรรมวิธีสกัดที่เป็นเอกลักษณ์ของทางแบรนด์ ที่เรียกว่า Air Brewing 100TM technology ที่รอคอยกว่า 100 ชั่วโมง เพื่อให้ได้สารสกัดที่ดึงเอาพฤกษเคมีออกมาจาก Blue agave ที่เป็นพืชหายากได้อย่างคุ้มค่าและสมบูรณ์

โดยวิธีนี้ทางแบรนด์ก็เคลมว่า สามารถลดการปลดปล่อย Carbon dioxide สู่บรรยากาศได้ถึง 33% และประหยัดพลังงาน รวมทั้งไม่สร้าง by product ที่ไม่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

สมกับคอนเซปท์ “Little things change everything” ของแบรนด์ ที่เอาใจใส่ในทุกมิติ

ส่วนของ Terra คือ Blue Agave แล้ว ส่วนของ Else จะเป็นการเลือกใช้ Hyaluronic acid 10 อนุพันธ์ 10 รูปแบบ ที่มีประโยชน์ที่แตกต่างกันไป 10 โมเลกุล 10 คุณประโยชน์

(Image from T’else Thailand)

ตัวผลิตภัณฑ์ผ่านการทดสอบประสิทธิภาพและการระคายเคืองในอาสาสมัคร ว่าไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง

และในด้านของประสิทธิภาพก็คือไม่เบาเลย

เพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวหนังชั้น Stratum corneum ได้ทุกระดับชั้นผิว ชั้นบน เพิ่ม 368% ชั้นล่าง เพิ่ม 165%

อันนี้ทางแบรนด์ก็เคลมว่าแบบ เออ คงจะดีกว่าถ้าทาแล้วมันซึมลงไปมอยส์ด้านล่างด้านในด้วย ไม่ใช่แค่มอยส์แต่บนๆ

ส่วนของภาพถ่ายความชุ่มชื้นก็บอกเช่นเดียวกันว่าผิวชุ่มชื้นขึ้น

สำหรับส่วนผสมก็คือจัดหนัก จัดเต็มจริงๆ

เริ่มต้นด้วยพระเอกของงานก่อน

  • สารสกัดจาก Blue agave (Agave tequilana leaf extract) ใน Agave ประกอบด้วย สารกลุ่ม Polysaccharide จำพวก Fructan และ Inulin ที่มีประโยชน์ในด้านของการเพิ่มความชุ่มชื้น และเป็น Prebiotic ซึ่งเจ้า Fructan นี่แหละ ที่สำคัญในการเก็บกักน้ำให้แก่ต้น Agave มีชีวิตรอดในทะเลทรายอันแห้งแล้งได้ นอกจากนี้ยังมี Claim ว่าใน Blue agave ยังประกอบด้วย Flavonoids ซึ่งเป็น Antioxidant และ Saponin หนึ่ง ที่มีชื่อว่า cantalasaponin-1 แต่อันนี้แยกมาจาก Agave americana มีรายงานว่ามีฤทธิ์ในการลดการอักเสบในหนูทดลอง (Molecules. 2013;18(7):8136-46.) ซึ่งก็อาจจะมีใน A. tequilana เหมือนกัน
  • Hyaluronic acid 10 ชนิด ที่บำรุงผิวและเพิ่มความชุ่มชื้นได้ถึง 10 ระดับชั้นผิว ดังที่ได้นำเสนอไปก่อนหน้า ตัวที่น่าสนใจแล้วค่อนข้างเป็นเอกลักษณ์จะเป็นกลุ่มของ Silanol derivative เช่น Dimethylsilanol hyaluronate และ hyaluronate dimethylsilanol ที่เป็น Hybrid ของไฮยา กับ Organic silicon ข้อมูลจากผู้ผลิตวัตถุดิบระบุว่า นอกจากเรื่องชุ่มชื้น ยังมีประโยชน์ในเรื่องของการชะลอวัย ดูแลเรื่องริ้วรอยได้อีก 1 กรุบ
  • สารเพิ่มความชุ่มชื้นอื่นๆ เช่น Sodium PCA ที่เป็น Natural moisturizing factor ช่วยผิวจับน้ำ ประกบมากับน้ำมัน Jojoba และ Moringa (มะรุม) ที่มีกรดไขมันจำเป็น

  • ส่วนผสมที่เด่นเรื่อง Soothing effect ดูแลเรื่องการระคายเคือง ให้ความรู้สึกสบายผิว ซึ่งแทนด้วยอักษรสีชมพู มาทั้ง Allantoin, Hydroxyacetophenone ซึ่งนอกจากคุณสมบัติ Soothing ยังเสริมฤทธิ์สารกันเสียในสูตรอีกทาง, Rose water และ Dipotassium glycyrrhizate
  • Adenosine เด่นเรื่องการดูแลริ้วรอย
  • สารสกัดพืชอีกมากมายหลากหลายชนิด ให้ประโยชน์กับผิวหลายอย่าง ทั้งเป็น Antioxidant, Whitening และเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว

ในส่วนของเบสเป็นเนื้อครีมแบบ Water-based emulsion แต่น้องมี Ethylhexyl palmitate ที่อาจจะอุดตันได้ในบางคน แต่ส่วนตัวก็ใช้มาราวๆ เดือนครึ่ง ยังไม่เจอปัญหาใดๆ ค่ะ

ส่วนผสมที่เหลือคือเลือกมาได้เป็นอย่างดี แม้กระทั่ง จุดเล็กจุดน้อย อย่างการปรับค่า pH ที่เรานิยมใช้ Triethanolamine มาปรับ แต่น้องดันมีวาระซ่อนเร้นว่าอาจจะไปจับกับพวกสารบางชนิดแล้วทำให้เกิด Nitrosamine ที่อาจจะก่อมะเร็ง แต่เอาจริงมันเกิดยากมาก เพราะต้องใช้อุณหภูมิสูงมาก แต่แบรนด์ก็ไม่ได้ใส่มา เปลี่ยนมาใช้ Tromethamine ที่เป็นมิตรกว่ามาปรับค่า pH ให้เหมาะสมกับผิวแทน

ในภาพรวมก็คือ ฉ่ำอยู่ (ที่แปลว่าฉ่ำจริงๆ)

ถัดมาเราลองมาดูมาสก์ชีทกันบ้างนะคะ น้องมาในซองสีน้ำเงินค่ะ

ตัวน้ำมาสก์จะเป็นเนื้อคล้ายเซรั่ม/เจล เป็นเบสแบบใส

ค่า pH ของน้ำมาสก์อยู่ที่ ราวๆ 5 – 6 ซึ่งถือว่าใกล้เคียงกับผิวดี

แผ่นมาสก์ค่อนข้างโดดเด่นนะคะ แนบสนิทไปกับผิว

ตัวแผ่นมาสก์เป็นเทคโนโลยีสิทธิบัตร ที่ผลิตจากเส้นใยไผ่ ย่อยสลายได้ 100% ซึ่งผ่านการทดสอบ Biodegradability มาแล้ว และทางแบรนด์เคลมว่าเป็น “Water hole sheet” เวลาวางบนผิวน้องจะหดตัว 2 Step ก่อนจะแนบสนิทไปกับผิว

(ภาพจาก T’else Thailand)

ส่วนผสมเป็นดังนี้

ถ้าดูจากส่วนผสม สูตรของมาสก์จะค่อนข้างเด่นในด้านของการเพิ่มความชุ่มชื้นแบบชุ่มฉ่ำ สมกับเป็นแผ่นมาสก์ที่มาสก์แล้วให้การบำรุงฟื้นฟูผิวในยามเร่งด่วนจริงๆ

ในด้านของสารบำรุงจะมาคล้ายๆ กับ รุ่นครีม จะมีจุดที่แตกต่างเล็กน้อย

  • เสริม Niacinamide หรือ วิตามินบี 3 เข้ามา ซึ่งน้องก็มีประโยชน์ในการบำรุงผิวหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นการลดการอักเสบระคายเคือง เสริมการสังเคราะห์ Barrier ผิว รวมไปถึง Whitening ซึ่งมารวมกับสารสกัดจากพืชบางชนิด เช่น ขมิ้น ก็น่าจะได้ประโยชน์ในตรงนี้อยู่
  • เสริมกลุ่ม Soothing ให้ฉ่ำขึ้น ด้วย โปรวิตามินบี 5 (Panthenol) และ Pantolactone ที่เราอาจจะไม่ค่อยคุ้นหูเท่าไหร่ แต่น้องเป็นตัวตั้งต้นของ Panthenol อีกที มีคุณสมบัติเป็นสารเพิ่มความชุ่มชื้นที่ดี และมีเคลมว่าผิวเราจะเปลี่ยนน้องเป็น Panthenol และ Pantothenic acid ในผิวได้ต่อไป
  • ส่วนผสมยังมี Claim ถึงเรื่องการเปิดประตูน้ำด้วย Electrolyte ที่สำคัญ 3 ชนิด ได้แก่ Potassium (จาก Potassium hyaluronate, Potassium aspartate), Sodium (จาก Sodium hyaluronate) และ Magnesium จาก (Magnesium aspartate)
  • สำหรับ Magnesium aspartate พอมีข้อมูลจากผู้ผลิตวัตถุดิบอยู่ว่า มีประโยชน์ในการลดการระคายเคืองของผิวเสริมเข้ามา

ในภาพรวมเบสนี้ไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน และไม่มีสารที่ไม่เป็นมิตรกับผิว

มาให้คะแนนกัน

ถ้าเป็นการให้คะแนนของครีม จะขอให้ที่ 5/4/5 โดยหักคะแนนของ ส่วนผสมอื่นๆ ไป 1 คะแนนด้วยความที่น้องมี Ethylhexyl palmitate อยู่ในสูตร

ถ้าเป็นการให้คะแนนมาสก์ จะขอให้ที่ 5/5/5 เต็มที่ไม่หักค่ะ

เอามาเฉลี่ยๆ กัน เหลือ 5/4.5/5 แล้วกันเนาะ

สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณทางแบรนด์ T’else สาขาประเทศไทยด้วยนะคะ ที่ส่งผลิตภัณฑ์ดีๆ มาให้ตั้งแต่วันเปิดตัว และขอบคุณทุกท่านที่ติดตามรับชมมาจนจบค่ะ

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ทางแบรนด์ T’else โดยตรงเลยนะคะ

https://web.facebook.com/TelseThailand

สายชอปปิ้งเรียนเชิญได้ค่ะ

สูตรครีม

แอพฟ้า https://s.lazada.co.th/s.GCqFK?cc

แอพส้ม https://s.shopee.co.th/30YrJBPHvd

มาส์กชีท

แอพฟ้า https://s.lazada.co.th/s.GCsQd?cc

แอพส้ม https://s.shopee.co.th/7fKgtH5RBG

Disclaimer/Conflict of interests: ผลิตภัณฑ์นี้ได้รับการสนับสนุนจากทางแบรนด์ T’else สาขาประเทศไทย การรีวิวครั้งนี้เป็นการวิเคราะห์ส่วนผสม/วัตถุดิบตามหลักการทางวิทยาศาสตร์เครื่องสำอางและอาศัยความเห็นส่วนบุคคล และผู้เขียนไม่ได้มีผลประโยชน์ใดๆในการขายสินค้า โปรดใช้วิจารณญาณ

Image

[Beauty Update] The rebirth of T’else

แบรนด์ T’else ลูกรักของใครหลายๆ คน รีแบรนด์แล้วกลับมาใหม่แล้วนะคะ ภายใต้คอนเซปท์ใหม่ สวยหรูฉ่ำมงลง

จากเดิม T’else มาจากคำว่า Tea + Else

ตอนนี้ทางแบรนด์ได้รีแบรนด์ใหม่ เป็น Terra + Else

(Image from T’else Korea Official Website)

เน้นการผสมผสานสารจากธรรมชาติ มาใช้ร่วมกับสารจากงานวิจัยได้อย่างลงตัว ขานรับเทรนด์ Cleanical (clean + clinical) Beauty

ภายใต้คอนเซปท์ Balance ธรรมชาติ สุขภาพผิว และคุณภาพชีวิต “ผิวดี ชีวิตดี รักษ์โลก”

โดยใส่ใจตั้งแต่กระบวนการผลิต ลดการปลดปล่อย CO2 ออกสู่บรรยากาศ 33% และลดการใช้พลังงาน 33%

สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ออกมาหลังรีแบรนด์ใหญ่คราวนี้ มีด้วยกัน 3 Line

Kombucha x Hyaluronic acid มาใน Palette สีน้ำตาล ทางแบรนด์เคลมว่าได้คัดเลือกเอาใบชาอัสสัมคุณภาพสูงจากอินเดีย มาใช้ร่วมกับ Hya หลากหลายโมเลกุล เน้นความโกลวแบบสับแบบฉ่ำ

โดยใน Kombucha นั้นจะเป็นชาดำที่ผ่านกระบวนการหมัก ซึ่งได้สารพฤกษเคมีที่มีประโยชน์กับผิวหลายประการ ซึ่งจะได้เล่าถึงกรรมวิธีการสกัดและการได้มาของใบชาต่อไป

ป้ายยาคีย์เวิร์ดไว้ก่อน “Slow brewing technology

สำหรับพระเอกของไลน์ ดิฉันแอบเล็ง Hydroglow essence ไว้ค่ะ

น้อง Certified vegan ด้วยนะคะ

(Image from T’else Korea Official Website)

Red orange x Niacinamide มาใน Palette สีส้ม เลือกเอา Blood orange ออร์แกนิกจากอิตาลี่ มาจับคู่กับ Niacinamide ได้ย่างลงตัว

ใน Blood orange ประกอบด้วยพฤกษเคมีหลายชนิดที่มีประโยชน์กับผิว เมื่อใช้คู่กับ Niacinamide ก็จะให้ประโยชน์ในการดูแลรอยดำ สีผิวไม่สม่ำเสมอได้อย่างลงตัว

โดยตัวเซรั่มในไลน์ พึ่งมายังไม่ทันไร ก็กวาดรางวัลจากพส.เกาหลีไปเรียบร้อยแล้ว

(Image from T’else Korea Official Website)

นอกจากเซรั่มแล้ว ตัว Toner ก็น่าสนใจเหมือนกัน เพราะนอกจากสารสกัดจาก blood orange แล้ว น้องยังเสริมวิตามินมาอีกหลายชนิด ที่ให้ประโยชน์บำรุงผิวได้หลายอย่างเลย มีผลเทสต์ปรับผิวขาว ลดผิวเหลือง ใน 7 วัน มาในคอนเซปท์ #7DayToneUpToner

Blue Agave x Hyaluronic acid มาใน Palette สีน้ำเงิน หยิบเอา Blue agave ที่เจริญเติบโตได้อย่างสง่างามในภูมิอากาศทะเลทรายอันแห้งแล้ง มาใช้ร่วมกับ Hya เพื่อเติมปรับสมดุลความชุ่มชื้น พร้อมเติมน้ำให้ผิว

น้องคนนี้ก็ไม่เบานะคะ ตัวครีมก็คว้ารางวัลจากพส.เกาหลีไปแล้วเช่นกัน

(Image from T’else Korea Official Website)

สินค้าทุกไลน์วางจำหน่ายแล้ว วันนี้

ทางไปตำ

(Red orange niacinamide toner)

แอพฟ้า https://s.lazada.co.th/s.micRO?cc

แอพส้ม https://shope.ee/8pNO48dwWI

#telse#kombucha#redorange#blueagave

ในโอกาสถัดไป ทางเพจจะมานำเสนอบทวิเคราะห์ส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ในแต่ละไลน์ต่อไปนะคะ