วันนี้มาคุยกันเรื่องผลเสียของน้ำต่อผิวหนังดีกว่าค่ะ
คิดว่าหลายๆคนต้องมีประสบการณ์แช่น้ำ หรือ ล้างจาน หรือ อาบน้ำ นานๆ จนมือเปื่อย เท้าเปื่อย
สงสัยไหมคะว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร วันนี้มีคำตอบมาเฉลยค่ะ
นั่นก็เพราะ น้ำ สามารถมีผลทำให้ความสามารถในการเป็น Barrier ผิว (Barrier function ของผิว) น้อยลงค่ะ และเซลล์ผิวเองก็ชอบน้ำ มันจะดูดน้ำไว้กับตัวค่ะ
เมื่อเซลล์ผิวดูดน้ำไว้มากขึ้นเรื่อยๆ มันก็จะบวมเต่ง อัดกันแน่นขึ้น ดันกันออกมาให้เราเห็นเป็นรอยเปื่อยนั่นเอง
ลองดูรูปภาพนี้ประกอบนะคะ
เมื่อเซลล์ผิวบวมเป่งกันจนดันกันออกมา จะทำให้กาวที่เคยเชื่อมระหว่างผิวหลวมลง ช่องว่างระหว่างเซลล์มีมากขึ้น มีผลทำให้สารต่างๆเข้าสู่ผิวได้ง่ายขึ้น รวมทั้งน้ำเอง
นอกจากนี้น้ำสามารถที่จะละลายเอาสารดูดจับน้ำตามธรรมชาติที่มีอยู่ในผิว (ที่เราเรียกว่า Natural moisturizing factor หรือ NMF) ออกมาด้วย ผลก็คือ ผิวมีความสามารถในการจับน้ำลดลงในระยะยาว เกิดเป็นผิวแห้งขึ้นได้ค่ะ
สำหรับวิธีป้องกันผลเสียจากน้ำนั้น ยังไม่มีนะคะ แต่เมื่อเราต้องอยู่กับน้ำนานๆ ควรรีบเช็ดตัวเช็ดมือให้แห้ง แล้วปล่อยให้ผิวคายน้ำออกมาเอง ค่อยทาครีมทับค่ะ
การทาครีมในช่วงที่ผิวเปื่อยอยู่นั่น อย่างที่บอกคือช่องว่างระหว่างเซลล์ผิวมันกว้างขึ้น ทำให้สารต่างๆเข้าผิวได้เยอะขึ้น อาจจะเสี่ยงแพ้มากขึ้นก็ได้ค่ะ
สรุป:
- น้ำทำให้เซลล์ผิวดูดน้ำไว้มากเกินไปจนเต่ง และดันเบียดกันจนทำให้เกิดช่องว่าง ส่งผลให้สารต่างๆเข้าผิวได้ง่ายขึ้น (Barrier ผิวเสียไป)
- น้ำละลายเอาสาร NMF ออกมา ทำให้ผิวแห้งได้ในระยะยาว