Image

รีวิว/วิเคราะห์ส่วนผสมเซรั่มดูแลปัญหาฝ้า Melaclear advanced จาก ISDIN

Blog นี้ขอหยิบเอาเซรั่มดูแลปัญหาฝ้าตัวปังระดับโลกที่มีงานวิจัยตีพิมพ์ลงในวารสาร Journal of Cosmetic Dermatology (JCD) ซึ่งเป็นวารสารของค่าย Wiley เป็นค่ายวารสารทางวิชาการชั้นนำค่ายหนึ่ง มาวิเคราะห์ส่วนผสมกัน

น้องคือ Melaclear advanced จาก ISDIN ในซีรี่ส์ ISDINCEUTICS ซึ่งได้รับรางวัล Best beauty buy จาก InStyle เมื่อปี 2023 ที่ผ่านมา

หน้าตาเป็นแบบนี้นะคะ

ด้านในเป็นขวดอคริลิกที่ดูหรูหรา

เนื้อเซรั่มเป็นแบบครีมเจล มีกลิ่นหอม

ตอนเกลี่ยอาจจะรู้สึกเกลี่ยยากนิดหน่อย แต่ก็ให้ฟีลชุ่มชื้นตอนเกลี่ย และหลังใช้จะรู้สึกว่ามีเนื้อเซรั่มเคลือบผิวไว้สักพัก ก่อนจะซึมและแห้งไปจนหมด ทิ้งฟินิชสุดท้ายที่บางเบาไม่เหนอะหนะ

สำหรับเซรั่มตัวนี้มีงานวิจัยการันตีประสิทธิภาพในอาสาสมัครที่มีปัญหาฝ้า พึ่งตีพิมพ์เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมานี้เองค่ะ

โดยในเปเปอร์จะมี 2 ตอนนะคะ ทำการทดสอบตำรับ gel serum ที่มีส่วนผสมของ tranexamic acid, niacinamide, 4-butylresorcinol, phytic acid และ mixture of hydroxy acids ซึ่งก็ตรงกับส่วนผสมของ Melaclear พอดี

ตอนที่ 1 เป็นการประเมินประสิทธิภาพเบื้องต้นในผิวหนังจำลองที่มีเซลล์เมลาโนไซต์ หรือเซลล์ที่สร้างเมลานินอยู่ด้วย (Melanocyte-containing reconstructed human epidermis; RHEm) พบว่า ตำรับให้ผลลดการสร้างเม็ดสีเมลานินได้อย่างมีนัยสำคัญ (หรือแปลง่ายๆ ว่า เห็นผล) โดยลดไป 50% ตั้งแต่ 14 วันแรก และเมื่อทดสอบต่อไปอีก จนครบ 21 วัน พบว่าให้ผลลดเมลานินไป 67%

ในภาพแสดงผลการทดสอบที่วันที่ 9

การทดลองต่อมา นำเอา Melaclear ไปทดสอบในอาสาสมัคร 35 คน ให้ทาเช้าเย็นเป็นเวลา 12 สัปดาห์ และหยุดใช้ 4 สัปดาห์ ก่อนมาประเมินสภาพผิวอีกครั้ง

ผลการทดลองพบว่า

  • จำนวนจุดด่างดำลดลง และขนาดของจุดด่างดำเล็กลง และ ค่าเม็ดสี วัดจาก Melanin index ลดลง อย่างมีนัยสำคัญ ตั้งแต่ 14 วันแรก
  • และเมื่อใช้จนครบ 12 สัปดาห์ผลยิ่งดีขึ้นเรื่อยๆ ความรุนแรงของฝ้าลดลง และค่าความสว่างกระจ่างใส (luminosity) เพิ่มขึ้น
  • เมื่อหยุดใช้ไป 1 เดือน กลับมาวัดผิวใหม่ ฝ้าไม่กลับมา คะแนนผิวบางค่าดีขึ้นต่อเนื่อง เลยเป็นที่มาของชื่อ “Dark spot corrector with lasting results”

(Ref: Furmanczyk et al., Journal of cosmetic dermatology. 2024;23(6):2058–2065)

การทดสอบโดยแบรนด์ ในอาสาสมัคร 4 สัปดาห์ พบว่า

  • 84% รู้สึกว่าผิวกระจ่างใสขึ้น
  • 81% รู้สึกว่าจุดด่างดำลดลง

(Image from ISDIN US Official Website)

เรามาดูกลไกการสร้างเม็ดสีนิดหน่อย

การสร้างเม็ดสีผิว เกิดที่ Melanocyte ที่ชั้นล่างสุดของหนังกำพร้า โดยอาศัยเอนไซม์ Tyrosinase เปลี่ยนกรดอะมิโน Tyrosine หลายขั้นตอนจนได้เป็นเม็ดสี Melanin ไปเก็บรวมในถุง Melanosome ก่อนส่งผ่านออกไปที่เซลล์หนังกำพร้า (Keratinocyte; KC) ชั้นที่อยู่เหนือกว่า เราก็จะค่อยๆ เริ่มเห็นเป็นสีผิว เมื่อ KC พวกนี้มันเคลื่อนที่ออกมา เรียกกระบวนการนี้ว่า Melanosome transfer

สำหรับสารบำรุงกลุ่ม Whitening ใน Melaclear นั้นจะออกฤทธิ์ที่ครอบคลุมในหลายกลไกของการเกิดสีผิว ดังภาพ

ในการใช้งานเนื่องจากมีส่วนผสมของพวก Peeling ด้วย จึงแนะนำให้ใช้คู่กับกันแดด โดยส่วนตัวมองว่า ถ้ามีฝ้าไปแล้ว ISDIN active unify นั้นน่าจะเริ่ดไม่เบา และถ้าเอามาป้องกันจุดด่างดำ ฝ้า สำหรับคนที่ผิวไวต่อแสง ลองดูเป็น Spot prevent ก็ปังไม่แพ้กัน ใครลังเลอยู่ เชิญค่ะ

(อ่านรีวิวแบบเต็มของกันแดดทั้ง 2 สูตรได้ที่ >>Click<<)

มาดูส่วนผสมกัน

Combination ของส่วนผสมที่เลือกมา เรียกได้ว่าออกฤทธิ์เสริมกันอย่างลงตัว

กลุ่มของสาร Whitening ได้แก่

  • Tranexamic acid (TXA) สารนี้เดิมทีใช้เป็นยาห้ามเลือด แต่พบว่ามีคุณสมบัติทำให้สีผิวขาวขึ้น มีรายงานการวิจัยศึกษาผลของ Tranexamic acid ที่ความเข้มข้น 3 % กลุ่มอาสาสมัครที่เป็นฝ้า พบว่าให้ผลดีในการลดอาการฝ้าเทียบเท่าสูตรผสมของ Hydroquinone กับ Dexamethasone แต่ผลข้างเคียงต่ำกว่ามาก (J Res Med Sci. 2014;19(8):753-7.) มีรายงานว่า TXA สามารถยับยั้ง Plasmin ปกติ Plasmin เป็นตัวตั้งต้นก่อนจะไปกระตุ้นฮอร์โมน α-MSH (Melanocyte stimulating hormone) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ไปกระตุ้นให้ Melanocyte ทำงานเพิ่มขึ้น (J Am Acad Dermatol 2011;October:699-714.) การทดสอบในเซลล์เพาะเลี้ยงพบว่า TXA ไปลดการสร้าง tyrosinase enzyme และโปรตีนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการสร้างเม็ดสี และเสริมกระบวนการ Autophagy ของถุงเก็บเม็ดสี Melanosome ทำให้สีผิวจางลง (J Dermatol Sci. 2017;88(1):96-102.)
  • Niacinamide มีประโยชน์กับผิวหลายประการ ทั้งการดูแลเรื่องการอักเสบระคายเคือง และในด้าน Whitening น้องไปยับยั้งการส่งผ่านของถุงเม็ดสี melanosome ไม่ให้ออกมาภายนอก
  • 4-butylresorcinol ออกฤทธิ์ยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ Tyrosinase ทำให้เมลานินถูกสร้างมาน้อยลง ผิวขาวขึ้น การทดสอบในอาสาสมัครที่เป็นฝ้ากับครีมที่มีส่วนผสมของสารนี้ 0.1% เป็นเวลา 6-8 สัปดาห์ พบว่ารอยฝ้าจางลง และมีผลข้างเคียงน้อย (Ann Dermatol. 2010; 22(1): 21–25.)
  • Sclareolide เป็นสารพฤกษเคมีในกลุ่ม sesquiterpene lactone ที่พบในพืชหลายชนิด ข้อมูลจากผู้ผลิตวัตถุดิบกล่าวว่าสารนี้สามารถป้องกันไม่ให้เกิดจุดด่างดำจากมลภาวะ รังสี UV และ HEV light และเพิ่มความสว่างกระจ่างใสให้แก่ผิว (Ref: TDS SymBright® 2036) เมื่อใช้ร่วมกับ Niacinamide จะทำให้ประสิทธิภาพในการเป็น Whitening ดีขึ้น

กลุ่ม Organic acids ได้แก่

  • Gluconolactone เป็น polyhydroxy acid (PHA) มีคุณสมบัติการผลัดผิว (Exfoliant) คล้าย AHA แต่อ่อนโยน ระคายเคืองน้อยกว่า มีรายงานวิจัยสนับสนุนว่าการผลัดผิวของ PHA สามารถเพิ่มความชุ่มชื้น เพิ่มความแข็งแรงของ Barrier ผิวหนัง และมีคุณสมบัติเป็น Antioxidant รวมทั้งสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของสารออกฤทธิ์ชนิดอื่นๆ ในตำรับ (Cutis. 2004; 73(2 Suppl):3-13.)
  • Mandelic acid สารในกลุ่ม AHA ชนิดหนึ่ง พบใน Almond มีคุณสมบัติผลัดเซลล์ผิว เพิ่มเติมด้วยประโยชน์พิเศษ ในด้านการลดการอักเสบ และระงับเชื้อแบคทีเรียบางชนิด การทดสอบในอาสาสมัครพบว่าสารนี้ให้ผลในการดูแล และลดเลือนริ้วรอยที่เกิดจากการแก่ก่อนวัย ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ และลดการเกิดสิว (Cosmetic Derm. 1999;June:26-28)
  • Salicylic acid เป็น BHA ที่ลดการอุดตันในรูขุมขน

สารบำรุงอื่นๆ

  • Phytic acid เป็นสารที่มีประโยชน์หลายประการ ในทางการทำสูตร ใช้เป็นสารจับโลหะในสูตรเครื่องสำอาง ใช้เสริมฤทธิ์กับ Antoxidant อื่นในสูตรเพื่อเสริมความคงตัวให้แก่ตำรับ ในด้านการบำรุงผิว พบว่า Phytic acid มีฤทธิ์เป็น Antioxidant มีคุณสมบัติเป็น Whitening โดยไปจับ Copper ของเอนไซม์ Tyrosinase ทำให้การสร้างเม็ดสีเกิดขึ้นได้น้อยลง และมีคุณสมบัติในการผลัดผิว (Ref TDS: Biosil Technologies)
  • Saccharide isomerate เติมน้ำให้ผิวได้อย่างยาวนาน เพราะจับกับโปรตีนบนผิวได้ เลยไม่ถูกล้างหรือหลุดออกไปง่ายๆ
  • Tocopherol + Tocopheryl acetate (วิตามินอี) เป็น Antioxidant
  • Dipotassium glycyrrhizate ลดการระคายเคือง ซึ่งการระคายเคืองจะไปกระตุ้นให้การสร้างเม็ดสีผิวเพิ่มขึ้นได้ต่อไป

ในภาพรวมเป็นการเลือกเอาสารที่มีคุณสมบัติในการเป็น Whitening หลากหลายกลไก ตั้งแต่เม็ดสียังไม่ถูกสร้าง ไปจนถึงหลังเม็ดสีสร้างออกมาแล้ว ก็ไปขัดขวางไม่ให้ส่งออกมาข้างนอก พร้อมทั้งผลัดผิวอ่อนๆ กำจัดเซลล์ขี้ไคลที่ติดสีเดิมออก

ส่วนของเบสมาในส่วนผสมของเบสที่มีทั้งน้ำ สารไขมันสังเคราะห์ที่มีความปลอดภัย และซิลิโคน ในเนื้อแบบครีมเจล มีส่วนผสมของ Alcohol

มาให้คะแนนกัน

  1. สารบำรุง ในด้าน whitening เรียกได้ว่าทำถึงมาก เพราะดูแลกระบวนการสร้างเม็ดสีได้ครบจบ คุมกำเนิดเม็ดสี และดับ air time ไม่ให้น้องออกมาภายนอก พร้อมไปผลัดผิวทิ้งอีก เสริมสารลดการระคายเคือง ลดความไวในการสร้างเม็ดสีจาก UV-HEVIS และ Antioxidant พร้อมเติมน้ำ ครบ รับไป 5 ฟลาสก์
  2. ส่วนผสมอื่นๆ มีส่วนผสมของ Alcohol แต่ตัวเองได้ลองใช้แล้วไม่ได้มีปัญหาอะไร จุดนี้ขอให้ 4 ฟลาสก์
  3. ความชอบ ในด้านของการ Formulate ค่อนข้างเลือกสารมาได้ดี ในด้านเนื้อสัมผัส ทำมาได้ดีเช่นกัน ไม่ได้ลื่นมากตอนเกลี่ย แต่ก็ให้ฟีลที่ชุ่มชื้น ไม่เหนอะหนะ ไม่แห้งเกินไป โดยตัวเองไม่ได้มีปัญหาด้านจุดด่างดำ เลยไม่แน่ใจว่าเป็นเช่นไร แต่จากการได้แอบซุ่มลองใช้ตั้งแต่ช่วงปลาย ก.ค. ควบคู่กับ Retinal intense และกันแดด Active unify ก็รู้สึกว่าผิวกระจ่างใสขึ้น และดูมีสุขภาพดีขึ้น ให้ไป 5 ฟลาสก์

สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณทางแบรนด์ ISDIN สาขาประเทศไทยด้วยค่ะ ที่ส่งผลิตภัณฑ์ใหม่มาให้ได้เรียนรู้ เปิดหูเปิดตา และรู้จักกับเทคโนโลยีใหม่ๆ และขอบคุณทุกท่านที่ติดตามมาจนจบบทความ

สําหรับรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ทางแบรนด์ได้โดยตรงเลยนะคะ

Facebook https://www.facebook.com/ISDINTHAILAND/

ทางไปตำ

แอพฟ้า https://s.lazada.co.th/s.pVsts?cc

แอพส้ม https://s.shopee.co.th/9UiYdNbCzh

Disclaimer/conflict of interests: ผลิตภัณฑ์นี้ได้รับการสนับสนุนจากทางแบรนด์ ISDIN ประเทศไทย การรีวิวครั้งนี้เป็นการวิเคราะห์ส่วนผสม/วัตถุดิบตามหลักการทางวิทยาศาสตร์เครื่องสำอางและอาศัยความเห็นส่วนบุคคล และผู้เขียนไม่ได้มีผลประโยชน์ใดๆในการขายสินค้า โปรดใช้วิจารณญาณ

Image

รีวิว/วิเคราะห์ส่วนผสมเซรั่มวิตามินเอ Retinal Intense Serum จาก ISDIN แบรนด์เวชสำอางชั้นนำจากสเปน

เชื่อว่าหลายๆ ท่าน เคยได้เห็นผลิตภัณฑ์เซรั่ม Retinaldehyde ของ ISDIN มาบ้างแล้ว น้องทำมาได้น่าสนใจมากเลยทีเดียว ใน Blog นี้ก็เลยขอหยิบเอามาวิเคราะห์ส่วนผสมพร้อมทั้งเล่ารายละเอียดของผลิตภัณฑ์ชิ้นนี้กัน

น้องมีชื่อเต็มๆ ว่า ISDINCEUTICS Retinal Intense Serum ที่มาในกล่องหรูหราสีดำทอง

บรรจุภัณฑ์หลักจะเป็นขวดปั๊ม ที่แบ่งแยกออกเป็น 2 ส่วน หรือ compartment ที่ชัดเจน

ชั้นบนจะเป็นเนื้อน้ำนมบางเบา ส่วนชั้นล่างจะเป็นเนื้อ Emollient oil ที่ไม่เหนอะหนะ ที่เขาแยกออกจากกันส่วนหนึ่งก็เพื่อรักษาความคงตัวของสารสำคัญเอาไว้ให้ได้มากที่สุด

โดยทางแบรนด์จะเรียกส่วนของน้ำนมเนื้อบางเบา ว่าเป็น Aqueous phase ซึ่งจะประกอบด้วยส่วนผสมของ Niacinamide, Vit-A Tech, Symsitive®, Tetrepeptide-7 และ SynchrolifeTM ส่วนของ Oil phase จะมี Retinaldehyde 0.1%, Melatonin และ Bakuchiol สารบำรุงแต่ละตัวมีประโยชน์อย่างไรเดี๋ยวมาเล่าให้ฟังอีกทีค่ะ

(Image from ISDIN Thailand)

เวลาใช้งานทางแบรนด์แนะนำให้ปั๊มออกมา 2 ปั๊ม ซึ่งจะออกมาในรูปแบบประมาณนี้

ก่อนใช้งานให้วอร์มผสมกันจนได้ครีมเนื้อเดียวกัน ก่อนทาแล้วนวดเบาๆ บนใบหน้า ใช้แค่วันละครั้งเดียว ก่อนนอน

**พอบำรุงผิวตอนเช้าวันรุ่งขึ้นก็อย่าลืมใช้ผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดด และหลีกเลี่ยงแดดจัดนะคะ

เนื้อสัมผัสค่อนข้างดี เกลี่ยง่าย ซึมง่าย ไม่ทิ้งความมัน ความเหนอะหนะ

ถ้าเป็น ISDIN เรามั่นใจได้เลย ว่าทางแบรนด์ได้ทดสอบผลิตภัณฑ์ในอาสาสมัครทั้งในแง่ของ Safety-Efficacy มาเรียบร้อยแล้ว และ Serum ชิ้นนี้ก็เช่นกัน

สำหรับผลิตภัณฑ์ Serum ชิ้นนี้นั้น มีผลการวิจัยรองรับอยู่ 4 งานวิจัย ซึ่งเป็นการทดสอบในระดับ Pre-clinic 1 ชิ้น และทดสอบใน Clinical trial 3 ชิ้น มีชิ้นที่ได้รับคัดเลือกให้ไปนำเสนอในที่ประชุมแพทย์ผิวหนังสเปนด้วย

1 ในงานทดสอบที่น่าสนใจ คือ ทางแบรนด์ได้ทดสอบผลิตภัณฑ์กับอาสาสมัครช่วงอายุ 41 – 70 ปี จำนวน 34 คน ทุกสภาพผิว รวมทั้งคนที่มีผิวบอบบางแพ้ง่าย (Sensitive skin) โดยให้ใช้ผลิตภัณฑ์เป็นเวลา 4 สัปดาห์พบว่า

  • ริ้วรอยดูลดลง 43%
  • ความยืดหยุ่น (Elasticity) เพิ่มขึ้น 14%

และเมื่อใช้เป็นเวลา 3 เดือน แล้วให้ประเมินความพึงพอใจผ่านแบบสอบถาม พบว่า

  • ร้อยละ 90 ของอาสาสมัครรู้สึกว่าผิวพรรณดูอ่อนเยาว์ขึ้น เหมือนได้ผิวใหม่ (Renewed)
  • ร้อยละ 97 ของอาสาสมัครรู้สึกว่าผิวกระชับขึ้น

(Image from ISDIN Official Website)

คนที่ไม่เคยใช้กลุ่มวิตามินเอ มาก่อน ให้เริ่มดังนี้ เพื่อลดการเกิดระคายเคือง

  • สัปดาห์แรกใช้แค่อาทิตย์ละ 2 คืน
  • สัปดาห์ต่อมาลองใช้วันเว้นวัน และดูว่ามีอาการระคายเคืองไหม ถ้าไม่มีก็ขยับมาใช้ทุกวันได้เลยในสัปดาห์ที่ 3
  • ถ้าเกิดอาการผิวแห้ง ลอก ระคายเคือง ก็ให้ปรับลดความถี่ในการทาลงได้
  • และอย่าลืมว่า ทาเฉพาะตอนกลางคืน เนื่องจาก Retinaldehyde นั้นไวต่อแสง

ส่วนผสมเป็นดังนี้

โดย Concept หลักของผลิตภัณฑ์นี้ก็จะเป็น Renew-Repair-Soothe

ส่วนผสมวันนี้ขอแบ่งดังนี้ค่ะ

กลุ่มวิตามินรวม ใช้อักษรสีเขียว

วิตามินเอ ในรูปแบบของ Retinaldehye ซึ่งเป็นพระเอกหลักของผลิตภัณฑ์นี้

ปกติ เวลาเราได้รับวิตามินเอเข้าไปในร่างกาย ถ้าอยู่ในรูปแบบ Retinol ester หรือ Retinol ร่างกายจะแปรสภาพก่อน

สำหรับ Retinol นั้นถ้าร่างกายเราไม่พร้อมใช้ ร่างกายเราจะเอาไปจับกับกรดไขมัน เปลี่ยนเป็น Retinyl ester แล้วเก็บสะสมไว้ แต่ถ้าต้องการใช้เมื่อไหร่ เขาก็จะเปลี่ยนกลับมาเป็น Retinol ก่อน Oxidize ให้เป็น Retinal หรือ Retinaldehyde ก่อนเปลี่ยนเป็น Retinoic acid ที่ไปออกฤทธิ์ได้

แต่ตัว Retinoic acid ซึ่งออกฤทธิ์ได้เลยนั้นจัดเป็นยาตาม พ.ร.บ. ยา ซึ่งในทางเครื่องสำอางนั้นเราสามารถใช้กลุ่ม Retinol, Retinyl ester และ Retinal ได้

ประโยชน์ของวิตามินเอ นั้นค่อนข้างกว้าง เพราะว่าการออกฤทธิ์ของ Retinoic acid นั้นจะไปจับกับตัวรับในนิวเคลียส แล้วไปเพิ่มการสังเคราะห์โปรตีนหลายชนิด จึงให้ผลที่ดีกับผิวหลายประการ ตั้งแต่ระดับชั้นหนังกำพร้า ผ่านการปรับสมดุลการสร้างเซลล์ผิวใหม่ การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างหน้าที่ (Differentiation) สมดุลการผลัดผิว ปรับสมดุลการสร้างและย่อยสลายคอลลาเจน และพวก Matrix ต่างๆ จึงให้ประโยชน์รวมๆ ทั้งในด้านของริ้วรอย และ ความหนาของชั้นผิว

นางมีประโยชน์และประสิทธิภาพจริง แต่ข้อเสียของนางคือ เรื่องของการระคายเคือง และการไวต่อแสง ดังนั้นในช่วงเริ่มใช้ใหม่ๆ อาจจะต้องค่อยๆ เริ่ม ตามที่ได้แนะนำไปด้านบน และห้ามใช้กลางวัน นอกจากนี้ก็จะมีเรื่องของความเสี่ยงต่อทารกในครรภ์ ดังนั้นห้ามใช้ในหญิงตั้งครรภ์ หรือผู้ที่วางแผนจะตั้งครรภ์

แต่ข้อจำกัดอย่างหนึ่งในการขึ้นสูตรที่มีพวกวิตามินเอ คือ น้องค่อนข้าง Sensitive เสื่อมง่าย ถูกทำลายง่าย โดยทางแบรนด์ก็พัฒนาตำรับมาด้วยเทคนิคการแยก Phase เอา Retinaldehyde ออกมาจากน้ำ และออกแบบตำรับให้ปกป้องการเสื่อมสลายของ Retinaldehyde ในสูตรได้ โดยได้ผ่านการทดสอบแล้วว่า สามารถปกป้อง Retinaldehyde ให้อยู่ได้ถึง 6 เดือนหลังเปิดใช้งานเลยทีเดียว

ส่วนของวิตามินอื่นๆ ได้แก่

  • วิตามินซี มาในรูปแบบ Ascorbic acid มีประโยชน์หลายประการ ไม่ว่าจะเป็น Antioxidant เป็นส่วนหนึ่งในการสังเคราะห์คอลลาเจน ยับยั้งการสร้างเม็ดสีผ่านการยับยั้งเอนไซม์ Tyrosinase และลดการอักเสบระคายเคือง
  • วิตามินบี 3 มีประโยชน์กับผิวหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของผิวแข็งแรง ผ่านการเสริมการสร้างไขมันที่เป็น Barrier ผิว และลดการอักเสบระคายเคือง เป็น Whitening ผ่านการยับยั้งการส่งผ่าน Melanin ที่สร้างเสร็จแล้วไม่ให้ออกไปภายนอก
  • วิตามินอี เป็น Antioxidant ที่ละลายได้ในไขมัน ใช้ทั้งรูปแบบธรรมชาติอย่าง Tocopherol และรูป Ester อย่าง Tocopheryl acetate

สีม่วง เป็นสารบำรุงที่ให้ประโยชน์ในการดูแลเรื่องของริ้วรอย และการชะลอวัย

  • Melatonin จัดเป็นฮอร์โมนตามธรรมชาติชนิดหนึ่ง การใช้ Melatonin ในรูปแบบทาภายนอก มีคุณสมบัติหลายประการ และมีการศึกษารองรับอยู่หลายชิ้น ในภาพรวม Melatonin เป็น antioxidant ทางอ้อม (Indirect antioxidant) โดยมีผลไปเสริมสร้างเอนไซม์ที่เป็น Antioxidant ตามธรรมชาติของผิว สาร Metabolites ต่างๆ ที่เกิดจากการแปรสภาพ Melatonin มีฤทธิ์ต่อต้านอนุมูลอิสระ รวมถึงมีประโยชน์อื่นๆ เช่น ลดการอักเสบระคายเคือง ลดการสร้างเอนไซม์ MMP ที่ไปย่อยสลายคอลลาเจนทำให้เกิดริ้วรอยตามมา โดยในภาพรวมน้องมีประโยชน์ในด้านของการชะลอวัยและฟื้นฟูสภาพผิว (J Drugs Dermatol. 2018;17(8):966-969.)

ทำไมถึงต้องทา Melatonin ตอนกลางคืน?

ส่วนหนึ่งเพราะว่า ระบบ Melatoninergic antioxidative system (MAS) ที่อาศัย Melatonin เป็นตัวรักษาสมดุลและซ่อมแซมความเสียหายที่เกิดขึ้นในระหว่างวัน นั้นเหมือนจะถูกเปิดสวิตช์ให้ทำงานตอนกลางคืนค่ะ

สำหรับ Combination ของ Retinaldehyde กับ Melatonin ในความเข้มข้นที่ทางแบรนด์เลือกใช้นี้ อิงตามสิทธิบัตรเลขที่ EP2649986A2 (มีสิทธิบัตรคุ้มครอง)

  • Bakuchiol น้องเป็นสารในกลุ่มของ Meroterpene ที่พบได้ในพืชสมุนไพร มีการออกฤทธิ์คล้ายกับ Vitamin A ซึ่งมีการศึกษาในผิวหนังจำลอง พบว่าให้คุณสมบัติในการสังเคราะห์คอลลาเจน โปรตีนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับความกระชับผิว รวมไปถึง Aquaporin-3 ที่เกี่ยวข้องกับการเก็บกักน้ำและสารโมเลกุลเล็กเช่น Glycerol ก่อนนำไปทดสอบในอาสาสมัคร โดยให้ทาที่บริเวณตีนกาวันละ 2 ครั้ง เป็นเวลา 12 อาทิตย์ พบว่า เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของ Bakuchiol มีประโยชน์ในการลดริ้วรอย เพิ่มความกระชับและความยืดหยุ่น รวมถึงปรับสภาพสีผิวให้สม่ำเสมอมากขึ้น (Chaudhuri and Bojanowski. Int J Cosmet Sci. 2014;36(3):221-30.) ต่อมามีการทดสอบในอาสาสมัครอีกครั้งในปี 2018 เทียบกับ Retinol พบว่าให้ผลในด้านของการลดเลือนริ้วรอย และปรับสภาพสีผิวให้สม่ำเสมอ เช่นเดียวกัน แต่อาสาสมัครกลุ่มที่ใช้ Bakuchiol มีอาการข้างเคียงน้อยกว่า (Dhaliwal, et al. Br J Dermatol. 2019;180(2):289-296.)

ถัดมาจะเป็น Combination ของ Glycerin (and) Pentylene Glycol (and) Rosmarinus Officinalis (Rosemary) Leaf Extract (and) Palmitoyl Tetrapeptide-7 (and) Chrysin คือ SynchrolifeTM ที่เป็นวัตถุดิบของบริษัทชั้นนำระดับโลกอย่าง Croda ซึ่งมาในคอนเซปท์ที่ค่อนข้างล้ำ คือ เรื่องของ Neurobeauty และ Well-being โดยดูแลเรื่องการ ‘Digital Detox’ ลดลักษณะปรากฏที่ทำให้ใบหน้าแลดูเหนื่อย ดูล้า ผ่านการปรับสมดุลการทำงานต่างๆ ในระบบร่างกาย เช่น ระบบการทำงานของ Melatonin ระบบ Circadian rhythm การฟื้นฟูตนเองตามธรรมชาติของผิวในช่วงที่เรานอนหลับ ต่อต้านอนุมูลอิสระ ลดการอักเสบระคายเคือง รวมไปถึงดูแลเรื่องรอยคล้ำ รอยบวมใต้ตา (Ref: TDS SyncrholifeTM by Croda)

     มีผลทดสอบจากทางบริษัททั้งในระดับของเซลล์เพาะเลี้ยง และในอาสาสมัครอยู่หลายชุด ขอเลือกมานำเสนอบางรายการนะคะ

ในส่วนของการทดสอบในระดับเซลล์เพาะเลี้ยง พบว่า สูตรผสมของ Synchrolife

  • ลดการสังเคราะห์เอนไซม์ MMP ที่ไปย่อยสลายคอลลาเจน
  • ลดการสร้างอนุมูลอิสระ และลดการเกิด Lipid peroxidation
  • ลดการสร้างสารก่อการอักเสบกลุ่ม IL-6 และ PGE2
  • เสริมการสร้างคอลลาเจน Hyaluronic acid และ Fibronectin
  • การทดสอบกับ Blue light พบว่าสารดังกล่าวสามารถปกป้อง Mitochondria ของเซลล์ให้ได้รับความผิดปกติจาก Blue light ลดลง

ส่วนของการทดสอบในอาสาสมัครนั้น ทำกับอาสาสมัครจำนวน 27 คน อายุเฉลี่ย 38 ปี โดยให้ใช้ Synchrolife เป็นเวลา 2 เดือน เทียบกับครีมเบส พบว่า

  • ความยืดหยุ่นของผิวเพิ่มขึ้น เมื่อวัดด้วยเครื่อง Cutometer®
  • ความชุ่มชื้นเพิ่มขึ้น
  • ผิวมีความ Glow/Radiance เพิ่มขึ้น
  • ริ้วรอยดูเรียบมากขึ้น

ส่วนผสมชุดสีน้ำเงิน สารสกัดจากถั่ว Moth bean (Vigna aconitifolia seed extract) รู้จักกันในชื่อทางการค้าว่า Vit-A-Like™ LS 9898 เป็นวัตถุดิบจากบริษัทชั้นนำระดับโลกอย่าง BASF มีข้อมูลทดสอบในระดับหลอดทดลองและในอาสาสมัคร ว่ามีประสิทธิภาพที่ดีในการดูแลริ้วรอย โดยมีการทดสอบในอาสาสมัครเทียบกับ Retinol พบว่าให้ประสิทธิภาพใกล้เคียงกัน

(Image from BASF)

ปิดท้ายด้วยกลุ่มสารที่ดูแลด้านการระคายเคือง ซึ่งมีด้วยกัน 2 ชนิด

  • 4-t-Butylcyclohexanol มีชื่อทางการค้าว่า Symsitive® ลดความรู้สึกระคายเคืองผิว ผ่านการลดความไวในการตอบสนองที่ระบบประสาทรับความรู้สึกร้อน TRPV-1 ทำให้เรารู้สึกสบายผิว มีการทดสอบประสิทธิภาพของครีมที่มี 4-t-Butylcyclohexanol ในการลดการระคายเคืองของผู้ที่มีอาการผิวอักเสบบริเวณรอบปาก โดยให้ทาครีมดังกล่าวเป็นเวลา 8 สัปดาห์ พบว่าอาการอักเสบระคายเคืองนั้นดีขึ้น และยังได้ประโยชน์ในด้านการเพิ่มความชุ่มชื้นผิว และมีการระเหยของน้ำออกจากผิว (TEWL) ลดลง แสดงให้เห็นอ้อมๆ ว่า ผิวกลับมามีสุขภาพที่ดีขึ้น (J Cosmet Dermatol. 2020;19(6):1409-1414) อีกงานหนึ่ง ได้ทดสอบเปรียบเทียบประสิทธิภาพของครีมที่มี 4-t-Butylcyclohexanol กับ acetyl dipeptide-1 cetyl ester ในการลดการระคายเคืองจาก Capsaicin ในผู้ที่มีปัญหา Sensitive skin โดยให้อาสาสมัครทาครีมดังกล่าวเป็นเวลา 3 วัน แล้วมาทดสอบประสิทธิภาพในการลดการระคายเคืองหลังจากทา Capsaicin พบว่า 4-t-Butylcyclohexanol ลดการระคายเคืองได้ตั้งแต่ช่วง 1 – 2 นาทีแรก และให้ผลไม่ต่างจากครีมที่มี acetyl dipeptide-1 cetyl ester (J Eur Acad Dermatol Venereol. 2016;30 Suppl 1:18-20.)
  • Hydroxyacetophenone มีชื่อทางการค้าว่า Symsave H เป็นสาร Muti-functional ให้ประโยชน์เป็นสารเพิ่มประสิทธิภาพของสารกันเสีย ให้คุณสมบัติเสริมในด้านการลดการระคายเคือง และเป็น Antioxidant

ในภาพรวม น้องเป็นเซรั่มดูแลริ้วรอยที่อาศัยสารบำรุงหลายชนิดเข้ามาร่วมกันอย่างลงตัว โดยมีพระเอกหลักเป็น Retinaldehyde เสริมมาด้วย Bakuchiol, Melatonin SynchrolifeTM และ Vit-A-Like™ มี Antioxidant เสริมจากวิตามินซีและอี ได้ประโยชน์เรื่อง Whitening เสริมเข้ามา พร้อมกับมีสารบำรุงที่ดูแลเรื่องการระคายเคืองที่อาจจะเกิดขึ้น

สำหรับเนื้อเบสหลักก็ทำมาได้ค่อนข้างดี แต่อาจจะมีติดส่วนผสมของ Alcohol เข้ามาเล็กน้อย ส่วนผสมอื่นๆ นั้นเลือกมาได้ค่อนข้างดี และไม่มีสารที่ไม่เป็นมิตรกับผิว

ให้คะแนน

  1. สารบำรุง ทำมาได้ค่อนข้างดี โดยเด่นไปในด้านของการดูแลริ้วรอยจาก Retinaldehyde เป็นหลัก เสริมเอาสารอื่นๆ ที่ดูแลริ้วรอย และป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดจากอนุมูลอิสระ และความเครียด ดูแลผิวที่อ่อนล้าตามวัย พร้อมทั้งดูแลเรื่องการระคายเคือง และได้ประโยชน์ด้าน Whitening เข้ามาด้วย โดยรวมให้ไป 5 ฟลาสก์
  2. ส่วนผสมอื่นๆ ทำมาได้ค่อนข้างดี แต่มีส่วนผสมของ Alcohol อยู่นิดหน่อย ซึ่งตรงนี้ส่วนตัวได้ทดลองใช้มาประมาณเกือบเดือน ก็พบว่าไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่จำเป็นต้องหักคะแนนเหลือ 4 ฟลาสก์
  3. การใช้งาน ในด้านของประสิทธิภาพ ตนเองเป็นคนที่เชื่อมั่นใน Retinoids อยู่แล้ว และก็ใช้ Retinol อยู่เป็นประจำ พอได้น้องมาก็คือ ใช้ต่อเนื่องเลย ก่อนนอน ทุกคืน ไม่เจอด้านการระคายเคือง และเรื่องของการไวต่อแสง ในด้านของประสิทธิภาพด้านริ้วรอย อาจจะต้องรอเวลาอีกสักระยะ และตอนนี้ตนเองก็ไม่ได้มีปัญหาด้านริ้วรอยที่กังวล แต่ที่รู้สึกได้ก็จะเป็นเรื่องของความนุ่ม แน่น เฟิร์ม กระชับของผิว ที่รู้สึกว่าทำมาได้ค่อนข้างดี ให้ไป 5 ฟลาสก์

สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณทางแบรนด์ ISDIN สาขาประเทศไทยด้วยค่ะ ที่ส่งผลิตภัณฑ์ใหม่มาให้ได้ทดลองใช้ และขอบคุณทุกท่านที่ติดตามมาจนจบบทความ

สําหรับรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ทางแบรนด์ได้โดยตรงเลยนะคะ

Facebook https://www.facebook.com/ISDINTHAILAND/

ทางไปตำ

แอพฟ้า https://s.lazada.co.th/s.K4a4r?cc

แอพส้ม https://s.shopee.co.th/2qBF8nYE2K

Disclaimer/conflict of interests: ผลิตภัณฑ์นี้ได้รับการสนับสนุนจากทางแบรนด์ ISDIN ประเทศไทย การรีวิวครั้งนี้เป็นการวิเคราะห์ส่วนผสม/วัตถุดิบตามหลักการทางวิทยาศาสตร์เครื่องสำอางและอาศัยความเห็นส่วนบุคคล และผู้เขียนไม่ได้มีผลประโยชน์ใดๆในการขายสินค้า โปรดใช้วิจารณญาณ