Image

รีวิว/วิเคราะห์ส่วนผสมเซรั่มดูแลปัญหาฝ้าด้วยเทรนด์ Minimal จากแบรนด์ Foré (ฟอร์เร่) กับ 4 White Melasma correcting serum

Content นี้จะนำเอาผลิตภัณฑ์เซรั่มที่น่าสนใจจากแบรนด์ Foré (ฟอร์เร่) ที่มีชื่อว่า 4 White Melasma correcting serum มาวิเคราะห์ส่วนผสมให้ได้ชมกัน

แบรนด์ Foré เป็นสกินแคร์แบรนด์ไทยน้องใหม่ ที่มีปรัชญาในการดูแลผิวหน้าด้วยเทรนด์ Minimal หรือ Less is more ด้วยการพัฒนาสูตรให้เป็นมิตรกับผิว โดยเลือกใช้ส่วนผสมตามงานวิจัยในปริมาณที่หวังผลได้

แบรนด์ Foré เลือกสารบำรุงด้วยเทคนิคการทำงานแบบ Double Action คือ

  • 1st Action: ดูแลปัญหาผิวต่างๆ เช่น ปัญหาสิว รอยสิว ฝ้า จุดด่างดำ ผิวหมองคล้ำ
  • 2nd Action: เพิ่มความชุ่มชื้นของผิวผ่าน 2 มิติ โดยการทดแทน Natural Moisturizing Factor (NMF) ด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ Black Oat และมี Lecithin เสริมการทำงานของชั้นไขมันที่เป็นปราการผิวตามธรรมชาติ ที่ช่วยให้ผิวเนียนนุ่ม ชุ่มชื้น และมีสุขภาพดี

โดยพัฒนาสูตรและส่วนผสมมาได้อย่างลงตัว และเลือกใช้ส่วนผสมที่จำเป็นมาดูแลผิวได้อย่างลงตัว

สำหรับสูตร 4 White Melasma correcting serum จะเป็นเซรั่มสำหรับดูแลปัญหาฝ้าและดูแลเรื่องผิวกระจ่างใสเป็นหลักค่ะ

โดยน้องจะมีหน้าตาประมาณนี้

มาในแพคเกจแบบขวดแก้วสีชา มีดรอปเปอร์

เนื้อเซรั่มค่อนข้างข้น ไม่มีกลิ่นเนื่องจากไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม

เกลี่ยได้ค่อนข้างง่าย ให้ความรู้สึกชุ่มชื้น เย็นและสบายผิว เนื้อจะมีความเคลือบผิวอยู่ แต่ไม่ถึงกับเหนอะหนะ

ค่า pH อยู่ที่ราวๆ 5 – 6 ซึ่งถือว่าใกล้เคียงกับผิวดี

สำหรับส่วนผสมหลักตามแบรนด์เคลมจะประกอบด้วยสารหลักดังนี้ค่ะ

  • 3% Tranexamic acid
  • 2% Alpha-arbutin
  • 5% Niacinamide
  • 4-butyl resorcinol

เสริม Dipotassium glycyrrhizate เข้ามาช่วยดูแลเรื่องความรู้สึกสบายผิว ดูแลเรื่องการระคายเคือง และ Lecithin ที่ดูแลด้านความชุ่มชื้นให้ผิว

ส่วนผสมแบบเต็มเป็นดังนี้

เรามาดูรายละเอียดส่วนผสมแต่ละชิ้นกัน

สารส่วนผสมที่ให้ประโยชน์หลักในด้าน Whitening แทนด้วยสีชมพู

  • Tranexamic acid หรือ TXA เป็นสารสำคัญชิ้นหนึ่งในวงการ Whitening เดิมทีใช้เป็นยาช่วยให้เลือดแข็งตัว เป็นยาห้ามเลือด แต่พบว่าสารสามารถออกฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์ไทโรซิเนส มีผลลดการสร้างเมลานิน ผ่านการยับยั้ง Plasmin ซึ่งปกติ Plasmin เป็นตัวตั้งต้นก่อนจะไปกระตุ้นฮอร์โมน alpha-MSH (Melanocyte stimulating hormone) ซึ่งเป็นฮอร์โมนตัวแม่ที่จะไปกระตุ้นให้เซลล์เมลาโนไซท์ ทำงานมากขึ้นก็สร้างเมลานินออกมาได้มากขึ้น พอโดนยับยั้งไปก็มีการสร้าง Melanin ออกมาลดลงเกิดเป็นประสิทธิภาพด้าน Whitening (J Am Acad Dermatol 2011;October:699-714.) มีรายงานการวิจัยศึกษาผลของ Tranexamic acid เข้มข้น 3 % ในสูตรครีมเพื่อรักษาฝ้าในอาสาสมัคร พบว่าให้ผลดีเทียบเท่าสูตรผสมของ Hydroquinone กับ Dexamethasone แต่ผลข้างเคียงต่ำกว่ามาก (J Res Med Sci. 2014;19(8):753-7.)
  • Niacinamide เป็นรูปแบบหนึ่งของวิตามิน B3 น้องมีประโยชน์กับผิวได้หลายประการ ถ้าเป็นด้านของ Whitening น้องจะไปยับยั้งการส่งผ่าน Melanin ที่สร้างเสร็จแล้วไม่ให้ออกไปภายนอก (ยับยั้งที่กระบวนการ Melanosome transfer) และยังมีประโยชน์อื่นๆ เช่น ดูแลเรื่องสิว ควบคุมความมัน ลดการอักเสบระคายเคือง เสริมการสร้างไขมันที่เป็น Barrier ผิว
  • มีงานวิจัยที่ทดสอบประสิทธิภาพของ TXA 2% + Niacinamide 2% ในอาสาสมัคร เป็นเวลา 8 สัปดาห์ พบว่าให้ผลเสริมฤทธิ์กันในการลดปริมาณเม็ดสี (Melanin index) ในอาสาสมัครได้ดี (Lee et al, Skin Res Technol. 2014 May;20(2):208-12.) ซึ่งทางแบรนด์ก็คือใช้ TXA 3% + B3 5% จัดเต็มไปอีก
  • 4-butyl resorcinol ออกฤทธิ์ยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ Tyrosinase ทำให้เมลานินถูกสร้างมาน้อยลง สารนี้มีการทดสอบประสิทธิภาพในอาสาสมัครที่เป็นฝ้ากับครีมที่มีส่วนผสมของสารนี้ 0.1% เป็นเวลา 6-8 สัปดาห์ พบว่ารอยฝ้าจางลง และมีรายงานผลข้างเคียงจากการทดสอบน้อย (Ann Dermatol. 2010; 22(1): 21–25.)
  • Alpha-arbutin เป็นตัวยืนพื้นอีกตัวแห่งวงการ Whitening มีคุณสมบัติในการยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ Tyrosinase ทำให้เมลานินถูกสร้างมาน้อยลง ผิวจึงแลดูขาวขึ้น

สำหรับสารบำรุงด้าน Whitening ที่ทางแบรนด์เลือกใช้นั้นเรียกได้ว่า Dose ถึง อิงตามงานวิจัย และมีการออกฤทธิ์ที่เสริมกันในหลายขั้นตอนของการสร้างเม็ดสีผิว สามารถสรุปได้ประมาณรูปนี้

สารบำรุงชุดต่อมา สารสกัดจาก Black oat (Avena strigosa seed extract) ที่มาในคอมบิเนชั่นกับ Lecithin และสารอื่นๆ น่าจะเป็นชุดส่วนผสมของ Aquarich ที่นำเข้าจากสวิตเซอร์แลนด์ ทางผู้ผลิตวัตถุดิบเคลมว่าสารบำรุงชุดนี้เป็น Epidermal moisture ally อารมณ์แบบมิตรแท้สำหรับเก็บกักน้ำ โดยมีผลการทดสอบสารสกัดชุดนี้ในอาสาสมัครโดยทางบริษัท พบว่าช่วยเสริมการกักเก็บน้ำให้อยู่ในผิวได้นานขึ้นถึง 24 ชั่วโมง และ ลดการเกิดอาการแห้ง ลอกเป็นขุยของผิวหนัง เมื่อให้อาสาสมัครใช้เป็นเวลา 14 วัน (TDS Aquarich by Rahn AG)

สำหรับส่วนผสมอื่นๆ ที่น่าสนใจ ได้แก่

  • Borage seed oil หรือ น้ำมันจากเมล็ด Borage ประกอบด้วยกรดไขมันจำเป็น Linoleic acid ที่ดูแลเรื่อง Barrier ผิว ให้ผิวแข็งแรง
  • Dipotassium glycyrrhizate ดูแลเรื่องการระคายเคือง และให้ความรู้สึกสบายผิว
  • Arginine เป็นกรดอะมิโน ที่ดูแลเรื่องการเก็บกักน้ำตามธรรมชาติของผิว

มาในเบสที่เป็นเบสแบบน้ำ ไม่มีส่วนผสมของสารที่ไม่เป็นมิตรกับผิว

มาให้คะแนนกันดีกว่านะคะ

  1. สารบำรุง สำหรับสารบำรุงที่จัดเป็น Whitening นั้นทำงานร่วมกันผ่านหลายกลไก ตั้งแต่ก่อนเริ่มสร้างเม็ดสี ระหว่างสร้างเม็ดสี ไปจนถึงสร้างเม็ดสีเสร็จแล้ว โดยมี B3 ไปขัดขวางไม่ให้เม็ดสีออกไปข้างนอก และเสริมสารที่ดูแลเรื่องความชุ่มชื้นผิวกับการระคายเคืองมาด้วยพร้อมๆ กัน ถ้ามี Antioxidant (AOX) อื่นๆ มาเสริมอีกสักหน่อยจะสมบูรณ์แบบ แต่จริงๆ เราก็สามารถไปทาวิตามินซี หรือ AOX อื่นเสริมเองในขั้นตอนอื่นของรูทีนก็ได้ โดยรวมขอให้ 4 ฟลาสก์
  2. ส่วนผสมอื่นๆ ไม่มีสารที่ไม่เป็นมิตรกับผิว ให้ไป 5 ฟลาสก์
  3. การใช้งาน ส่วนตัวได้ทดลองใช้ผลิตภัณฑ์นี้ประมาณ 2 สัปดาห์เศษๆ ค่อนข้างชอบเนื้อของเซรั่มที่ค่อนข้างชุ่มผิว ด้วยความที่เราเป็นคนผิวผสม/แห้ง เนื้อประมาณนี้คือกำลังดีเลย ส่วนประสิทธิภาพด้าน Whitening นั้นอาจจะยังฟันธงได้ 100% เลยไม่ได้ เพราะใช้มาแค่ระยะสั้นๆ และตนเองก็ไม่ได้มีปัญหาจุดด่างดำในช่วงนี้ แต่ก็รู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีของผิว จุดนี้ขอให้ 5 ฟลาสก์

สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณทางแบรนด์ Foré (ฟอร์เร่) ด้วยนะคะ ที่ส่งสินค้าดีๆ มาให้ได้ทดลองใช้ และขอบคุณทุกท่านด้วยค่ะที่ติดตามรับชมมาจนจบ

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อสอบถามทางแบรนด์ได้โดยตรงเลยนะคะ

Facebook: Fore skincare https://www.facebook.com/profile.php?id=100090069652535

ส่วนของราคาก็กำลังน่ารัก ขวดนี้ 30 ml อยู่ที่ 590 บาทค่ะ (สำรวจเมื่อ 4 ก.ย. 2566 ราคาอาจเปลี่ยนแปลงตามโปรโมชั่น)

สามารถติดตามไปแอบส่องแอบตำได้ที่ตามช่องทางของทางแบรนด์เลยนะคะ

LazMall https://s.lazada.co.th/s.kLPlj?cc

ShopeeMall https://shope.ee/3VHnh4Rc6j

Disclaimer/conflict of interests: ผลิตภัณฑ์นี้ได้รับการสนับสนุนจากทางแบรนด์ Foré  การรีวิวครั้งนี้เป็นการวิเคราะห์ส่วนผสม/วัตถุดิบตามหลักการทางวิทยาศาสตร์เครื่องสำอางและอาศัยความเห็นส่วนบุคคล และผู้เขียนไม่ได้ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทเครื่องสำอางใดๆ โปรดใช้วิจารณญาณ

Leave a comment