Image

Pre-Launch Exclusive review: รีวิว/วิเคราะห์ส่วนผสม Sleeping mask ที่โดดเด่นด้วยนวัตกรรมสารบำรุงผิวจากสถาบันชั้นนำในประเทศ จาก One Of RapidRevive Sleeping Mask

บ้านเรามีงานวิจัยดีๆ เยอะเลยนะคะ แต่ส่วนใหญ่กลายเป็นว่าถูกนำขึ้นหิ้งไปเสียหมด มีเพียงส่วนน้อยที่มีการเอามาต่อยอดออกสู่ท้องตลาดให้ได้เชยชมกัน

วันนี้เลยขอหยิบยกเอา 1 กรณีศึกษาที่น่าสนใจ ที่หยิบเอางานวิจัยมาใช้ต่อยอดเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจให้ได้ชมกันค่ะ

เมื่อตอนต้นเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา ส่วนตัวได้รับการติดต่อจากแบรนด์แบรนด์หนึ่ง ให้ร่วมเป็น 1 ใน ผู้ร่วมทดสอบผลิตภัณฑ์ที่กำลังจะเปิดตัวเร็วๆ นี้ เป็นกลุ่มแรก

ทางแบรนด์เรียกเป็น Exclusive first secret reveal ของผลิตภัณฑ์ Sleeping mask แบรนด์ไทย พอได้เห็นส่วนผสมของสารบำรุงเราก็รู้สึกว่าค่อนข้างน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว เป็นการเลือกเอาสารบำรุงที่ผ่านการค้นคว้าวิจัยจากสถาบันชั้นนำในประเทศ มาผสานรวมกันกับนวัตกรรมและเทคโนโลยีจากต่างประเทศได้อย่างลงตัว จนกลายเป็น Sleeping mask ชิ้นนี้

แบรนด์นี้มีชื่อว่า One OfTM ซึ่งมีที่มาจากคำว่า One of a kind ซึ่งเป็นที่ถูกใช้กับสิ่งของที่มีมูลค่ามากและมีชิ้นเดียวในโลก โดยในที่นี้ก็คือ One of a kind beauty เพราะเราแต่ละคนมีความงามที่แตกต่างกันและมีคนคนเดียวในโลก และ One OfTM ก็เป็นแบรนด์ที่จะสร้างความงามนั้น สร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ใช้เพราะทุกคนสวยในแบบของตน ไม่จำเป็นต้องเหมือนใคร และไม่ต้องมีใครเหมือน

สำหรับตัวผลิตภัณฑ์จะมีชื่อว่า RapidRevive Sleeping Mask ที่จะมีหน้าตาในวันเปิดตัวเป็นแบบนี้ค่ะ

ผลิตภัณฑ์นี้จะมีพระเอกกับนางเอกอยู่ที่ตัว Dihydro oxyresveratrol กับ Purified XanthoneTM ซึ่งทั้ง 2 ตัวเป็นวัตถุดิบจากการค้นคว้าวิจัยจากสถาบันชั้นนำของบ้านเราค่ะ

  • Dihydro oxyresveratrol เป็นสารพฤกษเคมีที่แยกบริสุทธิ์ออกมาจากมะหาด โดยศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านเคมีผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ (CENP) ภาควิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยพบว่ามีฤทธิ์ในการต่อต้านการสร้างเม็ดสีที่ดีกว่าวิตามินซีถึง 7000 เท่า
  • Purified XanthoneTM เป็นสารพฤกษเคมีที่แยกบริสุทธิ์ออกมาจากมังคุด วิจัยโดยสารสกัดจากการพัฒนาและวิจัยของสถาบันค้นคว้าและพัฒนาผลิตผลทางการเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (KAPI) อันนี้คือมีผลการทดสอบทั้งในระดับหลอดทดลอง และในผิวหนังจำลอง ไม่น่าเชื่อว่า Xanthone ที่เราเคยรู้จักกันในด้านของคุณสมบัติในการต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย ดูแลปัญหาสิว จะมีประโยชน์ในการเสริมการสังเคราะห์คอลลาเจนด้วย น่าสนใจมากๆ

ซึ่งนอกเหนือจากน้องๆ นางเอกแล้ว ยังมีสารบำรุงอื่นๆ อีกหลายชนิด ที่เลือกมาได้อย่างลงตัว เดี๋ยวค่อยไปดูอีกทีในช่วงของการวิเคราะห์ส่วนผสมนะคะ

เนื้อของมาสก์จะมีความหยุ่นๆ เป็นเนื้อกึ่งๆ ครีม กึ่งๆ เจล เนื่องจากไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม เลยจะได้กลิ่นจางๆ ของวัตถุดิบอยู่เล็กน้อย

คัวผลิตภัณฑ์เกลี่ยได้ค่อนข้างง่าย ให้ฟีลลิ่งเคลือบๆ แต่ไม่หนักไม่เหนียวเหนอะหนะ ทิ้งไว้สักครู่เนื้อครีมจะซึม/แห้งไปค่ะ แต่ยังให้ความรู้สึกสดชื่น สบายผิวอยู่ ในภาพจะเป็นภาพหลังเกลี่ยแล้วประมาณ 3 นาทีค่ะ

สำหรับส่วนผสมเป็นดังนี้นะคะ

จากส่วนผสมจะเห็นว่ามีสารบำรุงอยู่หลากหลายชนิดด้วยกัน โดยขอเริ่มวิเคราะห์ที่น้องๆ นางเอกของเรา ที่แทนไว้ด้วยสีม่วง

  • Artocarpus lakoocha Wood Extract ตัวนี้สื่อถึง Dihydro oxyresveratrol ที่พัฒนาจากสาร Oxyresveratrol ที่แยกบริสุทธิ์ออกมาจากแก่นมะหาด (Artocarpus lakoocha) แล้วนำมาผ่านกระบวนการ Hydrogenation ได้เป็น Dihydro oxyresveratrol เพื่อให้สารมีความคงตัวขึ้น โดยสารในกลุ่ม Resveratrol นั้นเด่นเรื่อง Antioxidant อยู่แล้ว สำหรับตัว Dihydro oxyresveratrol ที่เป็นวัตถุดิบที่ผ่านการค้นคว้าและวิจัยจากศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านเคมีผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ (CENP) ภาควิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นั้นพบว่ามีฤทธิ์ในการต่อต้านการสร้างเม็ดสีที่ดีกว่าวิตามินซีถึง 7000 เท่า โดยวัดจาก ค่าความเข้มข้นของสารที่ยับยั้งเอนไซม์ Tyrosinase ได้ 50% (IC50) ในระดับหลอดทดลอง ซึ่งเอนไซม์นี้เป็นเอนไซม์ที่สร้างเม็ดสี ได้ค่า IC50 เท่ากับ 0.0275 ไมโครโมลาร์ (หน่วยวัดความเข้มข้นของสารในทางเคมี) เมื่อเทียบกับ Oxyresveratrol ตัวดั้งเดิมให้ค่า IC50 เท่ากับ 0.22 ไมโครโมลาร์ และ วิตามินซี (รูปแบบ Ascorbic acid) ที่ 200 ไมโครโมลาร์ (Reference: CENP)
    • ค่า IC50 น้อยๆ หมายถึงสารนั้นมีฤทธิ์ที่ดี คือใช้ปริมาณเพียงแค่นั้นก็ยับยั้งเอนไซม์ไปแล้วครึ่งหนึ่ง

  • สำหรับสารนางเอกอีกตัวก็คือ Garcinia mangostana Peel Extract ตัวนี้สื่อความหมายถึงเทคโนโลยี Purified XanthoneTM ที่แยกบริสุทธิ์ และผ่านการตรวจสอบคุณภาพและเอกลักษณ์สาร เพื่อยืนยันว่าเป็นสารที่มีความบริสุทธิ์จริง

รูปสูตรโครงสร้างของ Purifed XanthoneTM

Purified XanthoneTM ที่ว่านี้แยกออกมาจากจากเปลือกมังคุด (Garcinia mangostana) ซึ่งปกติแล้วพอพูดถึง Xanthone เรามักจะนึกถึงคุณสมบัติในการต่อต้านเชื้อแบคทีเรียบางชนิด เช่น พวกเชื้อก่อสิว แล้วเราก็มักจะเห็นการใช้สารสกัดจากมังคุดในผลิตภัณฑ์สำหรับดูแลสิวอยู่บ้าง แต่สาร Xanthone ตัวนี้มีความเด่นไปกว่านั้น คือ ตัวนี้พัฒนา ค้นคว้า และวิจัยโดยสถาบันค้นคว้าและพัฒนาผลิตผลทางการเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (KAPI) มีผลการทดสอบในผิวหนังมนุษย์ที่เพาะเลี้ยง (Ex vivo human skin model) โดยหน่วยงานที่เป็น 3rd party อย่างกลุ่มวิจัยการวิเคราะห์ระดับนาโนขั้นสูงและความปลอดภัย (ANCS) ศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติพบว่า ตัว Purified XanthoneTM นี้มีคุณสมบัติในการเสริมการสังเคราะห์คอลลาเจนของผิว

ภาพ แสดงประสิทธิภาพในการเสริมการสังเคราะห์คอลลาเจนของ Purified xanthoneTM ที่ความเข้มข้น 0.04% เทียบกับ Retinol 0.25% และสารควบคุม ในที่นี้เป็นตัวทำละลาย 0.5% DMSO (ที่มา ACNS)

ภาพ A จะเป็นการย้อมคอลลาเจนด้วยสีย้อม จะเห็นว่าการใช้ Purified xanthoneTM ในผิวหนังเพาะเลี้ยงจะมีปริมาณของคอลลาเจนเพิ่มขึ้น ซึ่งให้ผลดีกว่า Retinol อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ส่วนของภาพ B จะเป็นกราฟที่แสดงบริเวณ (พื้นที่ที่ติดสี) ของคอลลาเจนที่ประเมินด้วยเทคนิคการย้อมสีของเส้นใยคอลลาเจนในผิวหนังเพาะเลี้ยงของ Purified xanthoneTM ที่ความเข้มข้น 0.04% เทียบกับ Retinol 0.25% และสารควบคุม ในที่นี้เป็นตัวทำละลาย 0.5% DMSO

นอกจากนี้ ยังมีการทดสอบว่า Purified xanthoneTM  มีประโยชน์ในการปกป้องคอลลาเจนไม่ให้ถูกทำลายโดยไปยับยั้งเอนไซม์ MMP-1 ที่เป็นตัวย่อยสลายคอลลาเจน และมีคุณสมบัติลดการอักเสบระคายเคือง โดยไปกดการสร้างสารก่อการอักเสบกลุ่ม IL-6, IL-8 และ TNF-alpha ซึ่งเป็นตัวตั้งต้นของกระบวนการอักเสบต่างๆ ภายในผิว

แค่สองตัวนี้ก็ปังแล้ว เราลองมาดูสารอื่นๆ ที่น่าสนใจกันนะคะ

สีชมพู จะเป็นสารสกัดจากพืช และสารบำรุงต่างๆ ที่มีความน่าสนใจไม่แพ้กัน

  • Allium cepa bulb extract ตัวนี้เป็นสารสกัดจากหัวหอม ทางแบรนด์เคลมว่านำเข้ามาจากญี่ปุ่น มีคุณสมบัติในแง่ของการดูแลปัญหาจุดด่างดำ ริ้วรอย และปกป้องผิวจากรังสี UV
  • Bakuchiol ตัวนี้เป็นสารพฤกษเคมีในกลุ่มของ Meroterpene ที่ได้จากพืชชนิดหนึ่งที่มีชื่อว่า Psoralea corylifolia พืชนี้เป็นพืชเก่าแก่ มีใช้ทั้งในตำรับยาจีน และตำรับอายุรเวท มีการศึกษาหนึ่งเมื่อปี 2014 ศึกษาผลของ Bakuchiol เทียบกับ Retinol ทดสอบในผิวหนังจำลองที่เพาะเลี้ยงขึ้นมา พบว่า Bakuchiol ออกฤทธิ์คล้ายกับ Retinol ทั้งในแง่ของการเสริมการสังเคราะห์คอลลาเจน เสริมการสังเคราะห์โปรตีนและยีนอีกหลายชนิดที่เกี่ยวกับความ Firm ของผิว และยังเสริมการสังเคราะห์ Aquaporin-3 ที่มีประโยชน์ในการกักเก็บน้ำของผิว ต่อมา ทางทีมวิจัยเอาไปทดลองในอาสาสมัคร โดยให้ทาที่บริเวณหางตาที่มีตีนกาวันละ 2 ครั้ง เป็นเวลา 12 อาทิตย์ พบว่า ตำรับที่มีส่วนผสมของ Bakuchiol มีประโยชน์ในการลดริ้วรอย เพิ่มความกระชับและความยืดหยุ่น รวมถึงปรับสภาพสีผิวให้สม่ำเสมอมากขึ้น (Chaudhuri and Bojanowski. Int J Cosmet Sci. 2014;36(3):221-30.) ต่อมามีการทดสอบในอาสาสมัครอีกครั้งในปี 2018 เทียบกับ Retinol พบว่าให้ผลในด้านของการลดเลือนริ้วรอย และปรับสภาพสีผิวให้สม่ำเสมอเช่นเดียวกัน แต่อาสาสมัครกลุ่มที่ใช้ Bakuchiol มีอาการข้างเคียงน้อยกว่า (Dhaliwal, et al. Br J Dermatol. 2019;180(2):289-296.)

สีเขียว สูตรผสมของ Propylene Glycol, Menthol, Methyl Diisopropyl Propionamide, Ethyl Menthane Carboxamide, Menthyl Lactate, Hydroxypropyl Cellulose และ Acrylates Copolymer มีชื่อทางการค้าว่า Hydrosal® FreshCool ซึ่งเป็นวัตถุดิบของทาง Salvona ประเทศอเมริกา มีลักษณะเป็นระบบนำส่งแบบแคปซูล (Encapsulated) ที่เก็บกักเอาสารให้ความเย็นในกลุ่ม Menthol และอนุพันธ์เอาไว้ เพื่อค่อยๆ ให้แตกตัวปลดปล่อยสารให้ความเย็นออกมาให้เรารู้สึกสดชื่นได้อย่างยาวนาน

หน้าตาของแคปซูลที่บรรจุเอา Menthol และอนุพันธ์ไว้ภายใน ให้ความรู้สึกเย็นช้าๆ ได้อย่างยาวนาน (Image from Salvona Encapsulation Technologies)

ภาพนี้เป็นการเปรียบเทียบความรู้สึกเย็นจากการใช้ Hydrosal FreshCool เทียบกับ Menthol เปล่าๆ จะเห็นว่าให้ความเย็นได้ยาวนานกว่า (Image from Salvona Encapsulation Technologies)

สีส้ม: วิตามินอี คู่กับวิตามินซี ซึ่งใช้รูปแบบ Caprylyl 2-Glyceryl Ascorbate ซึ่งเป็นวัตถุดิบวิตามินซีที่น่าสนใจจากทาง Seiwa Kasei ประเทศญี่ปุ่น ที่ดัดแปลงโครงสร้างเอาวิตามินซีมาจับกับ Glycerin และเติมหมู่ไขมัน Caprylic acid ลงไปอีก 1 เสต็ป เพื่อเสริมความคงตัวให้น้อง สำหรับตัววิตามินซีเอง ก็มีประโยชน์ที่ดีกับผิวหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเป็น Antioxidant, Whitening และการดูแลเรื่องการสังเคราะห์คอลลาเจนของผิว

นอกจากนี้แล้วยังมีสารไขมันทดแทนให้แก่ผิว (แทนด้วยสีฟ้า) มี Sodium hyaluronate ที่ดูแลเรื่องความชุ่มชื้นผ่านการเติมน้ำให้ผิว และยังมีสารสกัดจากพืชและสารธรรมชาติอีกหลากหลายชนิดที่ดูแลผิวได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นด้านของ

  • ผิวแข็งแรง
  • Whitening
  • Firming/anti-aging
  • ดูแลเรื่องการระคายเคือง ให้ความรู้สึกสบายผิว

สำหรับเรื่องการใช้งาน ส่วนตัวมองว่าเนื้อครีมแม้จะดูข้น แต่ว่าพอได้ทดลองจริงแล้วก็พบว่าเกลี่ยได้ค่อนข้างง่าย ไม่เหนอะหนะหนักผิว ซึมไว/แห้งไว ไม่เหนอะหนะ แล้วก็ออกแบบมาได้คำนึงถึงคนใช้งาน คือ ไม่ได้เลอะหมอน แต่ส่วนตัวจะใช้วิธีทาแล้วทำอะไรอีกสักพักก่อนลงไปนอน ไม่ได้ทาแล้วขึ้นเตียงเลย ก็ถือว่าเขาทำมาได้ดีมาก

ในด้านของความรู้สึกหลังใช้ คิดว่า ถ้าเป็นเรื่องความชุ่มชื้นนี่ตอบโจทย์ค่อนข้างมาก แต่ถ้าเรื่องของ Whitening และริ้วรอย ตอนช่วงนี้ไม่ได้มีปัญหาเหล่านี้มากนัก ประกอบกับระยะเวลาที่ใช้ยังค่อนข้างสั้น เลยยังฟันธงไม่ได้ แต่ก็รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงในทางดีค่ะ

สำหรับสินค้าตัวนี้ ทางเพจก็ขอขอบคุณทางแบรนด์ One Of ที่เลือกให้เป็น 1 ในกลุ่มสุด Exclusive กลุ่มแรกๆ ที่ได้ทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจ ที่คัดเลือกเอานวัตกรรมจาก 2 สถาบันชั้นนำของชาติมารวมกัน และเสริมเข้ามาด้วยส่วนผสมอีกหลากหลายจากทั่วทุกมุมโลก เพื่อดูแลผิวเราได้อย่างลงตัว

สำหรับผู้ที่สนใจ ผลิตภัณฑ์นี้จะเปิดตัวครั้งแรกในวันที่ 29 ก.ค. 66 นี้ และมีเปิดรับ Pre-order ตั้งแต่ช่วง 27 ก.ค. นี้ค่ะ

รายละเอียดเพิ่มเติม สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ทางแบรนด์โดยตรงเลยนะคะ

Facebook: https://web.facebook.com/OneOfthailand

Instagram: https://www.instagram.com/oneof_th/

TikTok: https://www.tiktok.com/@oneof_th

Website: https://oneof-th.com/

Line@: https://linktr.ee/oneof_th

Line ID: @OneOf-th

Disclaimer: ผลิตภัณฑ์นี้ได้รับการสนับสนุนจากทางแบรนด์ One Of การรีวิวครั้งนี้เป็นการวิเคราะห์ส่วนผสม/วัตถุดิบตามหลักการทางวิทยาศาสตร์เครื่องสำอางและอาศัยความเห็นส่วนบุคคล และผู้เขียนไม่ได้ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทเครื่องสำอางใดๆ โปรดใช้วิจารณญาณ