Image

รีวิว/วิเคราะห์ส่วนผสม ครีมเพื่อผิวแห้งจนเป็นขุย Zeroid Richenic Cream Urea 5% สูตรนี้มี MLE + Defensamide

นี่คือครีมที่ขอให้นิยามว่า ที่ผ่านมาดิฉันทำอะไรอยู่ ทำไมถึงไม่ได้ลองตัวนี้ มองข้ามไปตลอดเลย

น้องคนนี้ก็คือ Richenic Cream Urea 5% จากบ้าน Zeroid ค่ะ

สำหรับแบรนด์ Zeroid นี้ชื่อเขาก็มีที่มานะคะ

โดยมาจากคำว่า Zero steroid ซึ่งเท่าที่เข้าใจคือ สินค้าในแบรนด์นี้ ทำออกมาเพื่อดูแลปัญหาผิวต่างๆ ซึ่งปกติมักจะต้องใช้ยาทาสเตียรอยด์มาแก้ไข แต่ผลิตภัณฑ์นี้เน้นการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และ Barrier ผิวให้แข็งแรง จึงไม่จำเป็นต้องใช้ Steroid นั่นเองค่ะ

(Image form Zeroid Korea official website)

สำหรับซีรี่ส์สีเขียวจะเป็นรุ่น Intensive ที่เน้นดูแลปัญหาผิวแห้งมาก โดยตัวที่หยิบมาวิเคราะห์ส่วนผสมในวันนี้จะเหมาะมากกับผิวแห้งมาก แห้งจนหยาบกระด้าง หรือผิวลอก เป็นขุย ด้วยส่วนผสมของ Urea จะดูแลปัญหานี้ได้ค่อนข้างดี โดยน้องมาในหลอดหน้าตาแบบนี้นะคะ

ส่วนนี้เป็นกล่องค่ะ

น้องมาในเนื้อแบบครีม ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม เลยจะได้กลิ่นวัตถุดิบจางๆ นะคะ

เกลี่ยได้ค่อนข้างง่าย ในช่วงแรกจะเหมือนหนัก แต่เมื่อเกลี่ยจนเซ็ตตัวจะให้สัมผัสเรียน นุ่ม คล้ายไหม และทิ้งไว้อีกสักพักจะให้ความรู้สึกเรียบเนียน ความรู้สึกนี้อยู่ค่อนข้างนาน เท่าที่ลองมาคือไม่ต่ำกว่า 6 ชั่วโมง

ตัวผลิตภัณฑ์ผ่านการทดสอบการอุดตันมาแล้วว่าก่อให้เกิดการอุดตันได้น้อย โดย AMA Lab, USA

ส่วนผสมเป็นดังนี้

ในภาพรวมของส่วนผสม น้องมาในเนื้อครีมที่มีทั้งออยล์บำรุง และออยล์เคลือบ

ในส่วนของสารเคลือบปกป้องผิวที่น่าสนใจในสูตรนี้ คือ C30-45 alkyl cetearyl dimethicone crosspolymer ซึ่งเป็น Polymer ระหว่างสายซิลิโคนกับสายไขมัน มีประโยชน์ในการเคลือบปกป้องผิว พร้อมกับให้สัมผัสที่นุ่มนวล เรียบ คล้ายไหม มาจับคู่กับ Caprylyl methicone ที่บางเบา ไม่เหนอะหนะ เลยทำให้เนื้อออกมาค่อนข้างดี

ในด้านของสารบำรุง ก็จะมีคีย์เทคโนโลยีของแบรนด์อย่าง MLE Technology ซึ่งประกอบด้วยสารหลายชนิด นำมารวมกันในสัดส่วนที่เหมาะสมตามสิทธิบัตรของทาง Neopharm จนเกิดเป็น Liquid crystal เหมือนไขมัน Lipid lamellar ที่เป็น Barrier ผิวตามธรรมชาติ

(Image from Zeroid)

  • Ceramide-9S หรือ Myristoyl/palmitoyl oxostearamide/arachamide MEA ซึ่งเป็นสิทธิบัตรของทาง Neopharm อิงตามสิทธิบัตรอเมริกา US patent US6221371B1 ของปี 2001 Claim ว่าให้ประโยชน์ในการเหนี่ยวนำให้ผิวสร้างไขมันใหม่ออกมาฟื้นฟู Barrier ผิวที่เสียหาย มีรายงานการวิจัยทดสอบประสิทธิภาพของสารนี้ในหนูทดลอง พบว่า ตัวนี้เมื่อใช้ร่วมกับไขมันชนิดที่มีในผิว (Physiological lipids) สามารถกระตุ้นให้ผิวเรามีการสร้างตัวรับที่มีชื่อว่า PPAR-α ออกมา ซึ่งมีประโยชน์ในการลดการอักเสบของผิว และสามารถต้านผลเสียของสเตียรอยด์ที่ไปทำให้ผิวบาง Barrier ผิวเสื่อม น้ำระเหยออกจากผิวได้มาก การใช้ Ceramide-9S จะช่วยเร่งการฟื้นฟู Barrier ผิวได้ดีขึ้น (Arch Dermatol Res. 2015;307(9):781-92.)

นอกจาก MLE ยังมีสารอีกตัวที่น่าสนใจคือ Defensamide® หรือ Methyl caprooyl tyrosinate มีรายงานว่าไปกระตุ้นเอนไซม์ Sphingosine Kinase 1 (SPHK1) ที่ Keratinocyte (เซลล์ผิวในชั้นหนังกำพร้า) ซึ่งไปมีผลเพิ่มการสังเคราะห์ Antimicrobial peptides (AMP) ตามธรรมชาติของผิว จึงส่งเสริมและปกป้องผิวจากเชื้อจุลินทรีย์ และเสริมภูมิคุ้มกันให้แก่ผิว (Ref: Medchem Express; J Dermatol Sci. 2015;79(3):229-34.; J Immunol. 2018; 200(1 Supplement):170.14) นอกจากนี้ผู้ผลิตวัตถุดิบยังกล่าวว่า มีคุณสมบัติเพิ่มความชุ่มชื้น ลดการอักเสบระคายเคือง และลดการระเหยของน้ำออกจากผิว ไปพร้อมๆกัน

เสริมมาด้วยตัวหลักอีกตัวในสูตรนี้นั่นก็คือ Urea ที่ความเข้มข้น 5% ซึ่งเป็นความเข้มข้นที่ยังเหมาะสมสำหรับการใช้บริเวณใบหน้าในกรณีที่ผิวแห้งมาก หยาบกร้าน (แต่ให้หลีกเลี่ยงรอบดวงตา และริมฝีปาก) โดย Urea นั้นถือว่าเป็นสารเพิ่มความชุ่มชื้นที่ถือว่าเป็น Gold standard สำหรับดูแลผิวแห้ง และยังเป็น Natural moisturizing factor (NMF) หรือ สารจับน้ำตัวหนึ่งที่พบได้ในผิวเรา โดยสาร Urea เป็นสารโมเลกุลเล็กที่ดึงน้ำเข้าหาตัวได้ (hygroscopic) นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติในการผลัดผิวแบบอ่อนๆ ไปพร้อมกัน

นอกจากนี้ยังพอจะมีข้อมูลว่า Urea นั้นมีคุณสมบัติในการเสริม Barrier ผิว โดยไปควบคุมการเจริญ-เปลี่ยนแปลงตัวเองของเซลล์ขี้ไคลให้โตเต็มวัยแข็งแรง (Differentiation) และมีส่วนเกี่ยวข้องกับการสร้างสารกลุ่ม Antimicrobial peptides (AMP) ตามธรรมชาติของผิว (Dermatol Ther (Heidelb). 2021;11(6):1905–1915.)

คอมบิเนชั่นชุดนี้ถือว่าเหมาะมากในการดูแลผิวแห้ง บอบบาง แห้งมากจนเป็นขุย

เสริม Hyaluron เพื่อเติมน้ำ

ในด้านของการดูแลการระคายเคือง ในสูตรจะมีส่วนผสมของ Panthenol ที่เสริมกระบวนการซ่อมแซมตัวเองของผิวได้ในตัว ร่วมกับ Bisabolol + Allantoin ที่มีคุณสมบัติเด่นในด้าน Soothing/Calming และ Phytosterols ที่อยู่ใน MLE ก็มีคุณสมบัติในการดูแลการอักเสบระคายเคืองด้วยอีกทาง

แถมมาด้วยสารสกัดจาก Cica และตัว Madecassoside ที่เป็นสารแอคทีฟในใบบัวบก มีคุณสมบัติที่ดีในการดูแลผิวหลายประการ

ส่วนผสมอื่นๆ เลือกมาอย่างดี ไม่มีสารที่ไม่เป็นมิตรกับผิว

ให้คะแนน

  1. สารบำรุง เน้นไปที่การดูแลปัญหาผิวแห้งมาก แห้งจนเป็นขุย ด้วยการใช้ Urea ที่ความเข้มข้น 5% มีคุณสมบัติผลัดผิวแบบอ่อนๆ พร้อมเติมน้ำ ใช้ MLE + Defensamide เข้ามาปรับสมดุลความแข็งแรงของผิว และมีส่วนผสมของสารที่ดูแลด้านการระคายเคือง ให้ความรู้สึกสบายผิว ส่วนตัวว่าทำมาได้ค่อนข้างดี ให้ไป 5 ฟลาสก์
  2. ส่วนผสมอื่นๆ ไม่มีสารที่ไม่เป็นมิตรกับผิว ให้ไป 5 ฟลาสก์
  3. ความชอบ จริงๆ ถือว่าเขาทำเนื้อมาได้ดีมาก ตอนทาครั้งแรกจะได้เนื้อหนักๆ หน่อย แต่เมื่อเกลี่ยไป จะได้ฟินิชที่ออกมาเกือบแมทท์ ให้ความรู้สึกนุ่มคล้ายไหม แล้วทิ้งไว้สักพัก จะไม่เหลือความเหนอะหนะ เหลือแค่ความนุ่มนวล ถ้าช่วงไหนผิวแห้งมาก ผิวเป็นขุย ตัวนี้ถือว่าตอบโจทย์มาก ให้ไป 5 ฟลาสก์

สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณทางแบรนด์ Zeroid สาขาประเทศไทยด้วยนะคะ ที่ส่งผลิตภัณฑ์ดีๆ มาให้ได้รู้จักและทดลองใช้ และขอบคุณทุกท่านด้วยค่ะที่ติดตามรับชมมาจนจบ

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ทางแบรนด์ Zeroid โดยตรงเลยนะคะ

Facebook https://www.facebook.com/ZeroidThailand

ทางไปช้อปปิ้ง

https://s.shopee.co.th/2LNisN8dEO

Disclaimer/Conflict of interest: ผลิตภัณฑ์นี้ได้รับการสนับสนุนจากทางแบรนด์ Zeroid การรีวิวครั้งนี้เป็นการวิเคราะห์ส่วนผสมตามหลักการทางวิทยาศาสตร์เครื่องสำอางและอาศัยความเห็นส่วนบุคคล ผู้เขียนไม่ได้มีผลประโยชน์ใดๆในการขายสินค้า โปรดใช้วิจารณญาณ

#Zeroid #ZeroidUreaCream  

Leave a comment