Image

รีวิว/วิเคราะห์ส่วนผสมผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเบต้ากูแคน Cocktail mix จาก Zerie-B Vitta Colla Beta glucan C

สวัสดีค่ะ วันนี้มี่นำเอาผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร (หรือที่เราเรียกติดปากกันว่า อาหารเสริม) ดีๆฝีมือคนไทยมารีวิวให้ชมค่ะ

กับตัว Zerie-B Vitta Colla Beta glucan C ค่ะ ซึ่งเป็นสูตรผสมของเบต้ากลูแคน คอลลาเจน กรดอะมิโน แร่ธาตุ และผงผลไม้ค่ะ

ดูหน้าตากันก่อนเลยนะคะ

medi 1

นางจะมาในกล่องโทนชมพูขาวพาสเทล สไลด์เปิดออกมาข้างในจะมีตัววิตามิน ซึ่งเป็นแคปซูลอยู่ค่ะ กล่องหนึ่งมี 30 เม็ด ทานได้ 2 อาทิตย์ – 1 เดือนค่ะ

แคปซูลเป็นสีชมพูอ่อน/ชมพูแก่มุก ดูสวยงามดีค่ะ

 

เม็ดยา

 

ผงยาข้างในเป็นสีเหลือง/น้ำตาล มีกลิ่นสมุนไพร และกลิ่นหวานอมเปรี้ยวคล้ายเปลือกส้ม

 

ผงยา

 

ตรงนี้เป็นรูปด้านหลังของกล่องค่ะ

 

medi 2

นางผลิตจากโรงงานที่ได้รับมาตรฐาน GMP/HACCP และ ISO 9001 ด้วยค่ะ

 

มาดูรายละเอียดของส่วนผสมที่น่าสนใจกันดีกว่านะคะ

 

  • Beta glucan จากยีสต์ ซึ่งข้อมูลจากผู้ผลิตวัตถุดิบ Claim ว่า สาร Beta-glucan เป็นสารประกอบในกลุ่มคาร์โบไฮเดรต ที่มีคุณสมบัติช่วยปรับสมดุลภูมิคุ้มกันของร่างกาย ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง ข้อมูลจากงานวิจัยในสัตว์ทดลองและในเซลล์เพาะเลี้ยง พบว่า Beta-glucan ที่สกัดจากยีสต์ให้ผลดีในการฆ่าเซลล์มะเร็งบางชนิด (เป็น Cytotoxic ต่อเซลล์มะเร็งบางชนิด) (Kobayashi et al., J Cancer Res Clin Oncol (2005) 131: 527–538)
  • สูตรผสมของ Hydrolyzed marine Collagen กับ Coenzyme Q10, Selenium และ เมล็ดองุ่น ไปคล้ายกับงานวิจัยของ De Luca และคณะ (2016) ซึ่งใช้ Marine collagen peptides กับ Coenzyme Q10, Selenium และ เปลือกองุ่น ทดสอบในอาสาสมัคร พบว่า ให้ผลดีในการเพิ่มความชุ่มชื้น และความยืดหยุ่นในผิว (De Luca et al, Oxid Med Cell Longev. 2016;2016:4389410.)
  • ผงผลไม้ที่มีประโยชน์หลายชนิด อย่าง แอปเปิ้ล สตรอเบอรี่ กีวี ทับทิม และ ส้ม มีสารพฤกษเคมีจากธรรมชาติที่เป็น Antioxidant ได้ดีค่ะ
  • L-glutathione ก็เป็น Antioxidant ที่ดีเช่นกันค่ะ

 

โดยรวมคือ สารที่ใส่มาส่วนใหญ่เน้นไปที่คุณสมบัติการเป็น Antioxidant ที่ดี มี Beta-glucan ที่ช่วยเรื่องภูมิคุ้มกัน และมีคอลลาเจนที่ช่วยเรื่องผิวพรรณ ความเห็นส่วนตัวมี่คิดว่าดูเหมือนปริมาณต่อเม็ดจะน้อยไปนิดนึงนะคะ แต่สารพวกนี้หลายๆชนิด เราไม่มีค่าปริมาณที่แนะนำในแต่ละวัน เลยไม่แน่ใจว่าต้องเท่าไหร่มันถึงจะได้ผลนะคะ

 

มาให้คะแนนกันดีกว่าค่ะ

 

  1. ส่วนผสม เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่เน้นการบำรุงผิวพรรณเป็นหลัก อาศัยส่วนผสมที่เป็น Antioxidant ที่ดี เสริมมาด้วยคอลลาเจน และเบต้ากลูแคน โดยรวมก็ถือว่ามีอยู่หลายชนิดที่ช่วยเสริมคุณสมบัติซึ่งกันและกัน แต่ส่วนตัวมี่คิดว่าแต่ละตัวมีปริมาณอย่างละนิดอย่างละหน่อย เลยดูเหมือนอาจจะยังไม่สุด แต่ก็เหมาะกับคนที่ไม่อยากกินหลายๆเม็ด จัดอันนี้เม็ดเดียวจบ จุดนี้ขอให้ 4 ฟลาสก์ค่ะ
  2. การรับประทาน ตัวแคปซูลค่อนข้างทานง่าย มีกลิ่นที่ดี ส่วนตัวมี่พึ่งทานได้ครบ 1 กล่อง ก็รู้สึกดีค่ะ แม้จะมีช่วงที่นอนดึกติดกันหลายวันเพราะทำงาน แต่ก็ไม่ได้โทรมลงไปมากแบบที่เคย จุดนี้ขอให้ 4 ฟลาสก์ เช่นกันค่ะ

 

คะแนน medisci

 

สุดท้ายนี้อยากขอบคุณทางแบรนด์ Meddesci ที่ส่งผลิตภัณฑ์ดีๆมาให้มี่ได้ทดลองรับประทาน และขอบคุณทุกๆท่านที่ติดตามรับชมมาจนจบค่ะ

 

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ทางเฟสบุคของแบรนด์ Meddesci

https://www.facebook.com/Meddesci

 

และทางเวบไซต์ www.meddesci.com ได้เลยค่ะ

 

Disclaimer: ผลิตภัณฑ์นี้ได้รับเป็นของขวัญจากแบรนด์ Meddesci การรีวิวครั้งนี้เป็นการวิเคราะห์ส่วนผสมตามหลักการทางวิทยาศาสตร์เครื่องสำอาง และอาศัยความเห็นส่วนบุคคล ผู้เขียนไม่ได้มีผลประโยชน์ใดๆในการขายสินค้า โปรดใช้วิจารณญาณ

[Nutrition] รีวิววิเคราะห์ส่วนผสมอาหารเสริมควบคุมน้ำหนัก ccg

[Nutrition] รีวิววิเคราะห์ส่วนผสมอาหารเสริมควบคุมน้ำหนัก ccg

วันนี้มี่จะมารีวิวเจาะลึกวิเคราะห์ส่วนผสมอาหารเสริมคุมน้ำหนักลดความอ้วน จาก CCG ให้ชมกันค่ะ

ขอกล่าวถึงแบรนด์ CCG ซักเล็กน้อยนะคะ

แบรนด์นี้มีคอนเซปท์ว่า “ซีซีจี เราอยากให้ทุกคนลดน้ำหนักอย่างมีความสุข”

แบรนด์ CCG เกิดมาจากคุณหมอท่านหนึ่งที่เคยลองลดความอ้วนมาหลายวิธี และทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มลดน้ำหนักมาหลายชนิด ก่อนที่คุณหมอจะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์แต่ละตัวนั้น จะศึกษาถึงงานวิจัยและผลรองรับทางวิทยาศาสตร์ที่เชื่อถือได้ก่อนเสมอ จนได้มาเป็นสูตรเอกลักษณ์ของ CCG หลังจากที่ได้คุณหมอได้ทดลองรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารมาสักระยะหนึ่งพบว่าน้ำหนักตัวลดลงจนมีหลายคนเริ่มทัก ในขณะที่กิจกรรมในชีวิตประจำวันยังคงเหมือนเดิม จึงได้เริ่มคิดค้นและพัฒนาสูตรร่วมกับทีมเภสัชกรผู้ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านสมุนไพรและผลิตภัณฑ์ลดน้ำหนัก ออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ควบคุมและลดน้ำหนัก

นอกจากนั้นแบรนด์นี้ก็ยังผลิตในโรงงานผลิตยาที่ได้รับมาตรฐาน GMP สำหรับยา

 

มาดูโฉมหน้ากันก่อนดีกว่าค่ะ

 

20151224_083049-re

ตัวเม็ดจะมาแบบเม็ดเคลือบฟิล์มสีขาวนะคะ เม็ดไม่ใหญ่มาก กลืนง่าย เพราะเวลาเราใส่ปากดื่มน้ำตามฟิล์มจะลื่นๆไหลลงไปได้เองเลยค่ะ

หั่นให้ดูข้างในค่ะ

 

ccg 2

 

จะเห็นว่ามี Film ที่ค่อนข้างสม่ำเสมอเลยทีเดียว ตัวข้างในมีกลิ่นสมุนไพรชัดมากเลยค่ะ

 

ลองมาทดสอบการละลายแบบง่ายๆกัน จริงๆในอุตสาหกรรมจะต้องใช้เครื่องมือพิเศษมาทดสอบการแตกตัว (Disintegration) และการละลาย (Dissolution) แต่เนื่องจากมี่ไม่มีเลยขอใช้แบบประยุกต์นะคะ

 

เริ่มจากอุ่นน้ำให้มีอุณหภูมิประมาณ 35 – 40 องศา แล้วใส่ในบีคเกอร์ค่ะ

 

ccg 3

 

แล้วก็ใส่เม็ดยาลงไป

 

ccg 4

 

หลังจากนั้นก็ทิ้งไว้ประมาณ 2 ชั่วโมง แล้วคนให้เข้ากัน

(ที่ต้องคนเพราะว่าจริงๆแล้วร่างกายเรามีระบบการบีบตัวของทางเดินอาหาร ทำหน้าที่เคลื่อนเม็ดยาไปตามทางเดินอาหาร แต่ในบีคเกอร์แค่แช่ไว้เฉยๆ เราเลยต้องช่วยนิดหน่อย และอีกอย่างคือ เราไม่ได้มีการคุมอุณหภูมิของน้ำในบีคเกอร์ด้วย ก็เลยต้องทิ้งไว้นานหน่อยค่ะ)

 

ccg 5

 

พอคนเสร็จ ยาเม็ดก็จะละลายได้หมดเลยค่ะ ก็จะมั่นใจได้ว่า ขนาดแค่น้ำในบีคเกอร์มันยังละลายได้ ถ้าเรากินเข้าไปก็ไม่น่าจะไปอุดตันหรือเกิดก้อนอะไรในทางเดินอาหารนะคะ

(คือจริงๆการทดสอบ Disintegration จะมีเครื่องมือพิเศษที่สามารถคอนเฟิร์มผลได้ดีกว่านี้ แต่อันนี้แค่ทำเล่นๆ เป็นแนวทางเฉยๆนะคะ)

 

มาดูส่วนประกอบกันบ้างค่ะ

ใน 1 เม็ดนั้นหนักถึง 1300 มก.เลย ซึ่งถือว่าเยอะมาก ซึ่งการจะอัดเม็ดได้ต้องอาศัยสารช่วยอื่นๆมาทำให้ผงยานั้นขึ้นรูปได้ ถ้าวัดกันเฉพาะสารออกฤทธิ์ ใน 1 เม็ดก็จะประกอบองค์ประกอบต่างๆดังรูปนะคะ

 

20160113_082434-re

 

มาดูสรรพคุณของสารแต่ละตัวดีกว่าค่ะ

 

L-carnitine: เรียกได้ว่าไม่มีใครคงไม่รู้จักแน่นอน สารตัวนี้เป็นอนุพันธ์ในกลุ่มกรดอะมิโน มีผลช่วยไปกระตุ้นให้เซลล์เผาผลาญไขมันเป็นพลังงานได้ดีขึ้น จะมีประโยชน์มากถ้าทานแล้วออกกำลังกายด้วยค่ะ

งานวิจัยล่าสุดตีพิมพ์ในวารสาร Clinical Endocrinology เมื่อไม่กี่วันมานี้พบว่าอาสาสมัครน้ำหนักเกินที่กิน L-carnitine มีผลลดน้ำหนัก ลดรอบเอว ลดสะโพก ลดค่า BMI ได้ค่ะ แต่ในการทดสอบใช้ Carnitine ที่ 250 mg นะคะ (Clin Endocrinol (Oxf). 2015 Dec 15.) ในผลิตภัณฑ์ใช้ในรูปแบบเกลือ Tartrate หนัก 250 mg ค่ะ ในเปเปอร์ไม่ได้บอกค่ะว่าใช้ form ไหน เลยคิดว่าน่าจะไปในทางเดียวกันค่ะ

 

สารสกัดจากชาเขียว: ชาเขียวนั้นเป็นพืชที่มีสมบัติเด่นเรื่อง Antioxidant ช่วยชะลอวัย ลดความเครียด เวลาเรา Diet ร่างกายเราจะเครียด การมี Antioxidant เสริม ก็จะช่วยให้ร่างกายไม่เพลียค่ะ นอกจากนี้ในชาเขียวนี้ถ้ามี Caffeine ติดมาด้วย ก็จะช่วยเร่งการเผาผลาญได้อีก นอกจากนี้ชาเขียวสามารถช่วยยับยั้งเอนไซม์ที่ย่อยไขมัน ชื่อว่า Lipase จากกระเพาะอาหารและตับอ่อน ทำให้การย่อยไขมันลดลง เมื่อไขมันเข้าไปในร่างน้อยลงก็จะมีผลช่วยลดการสะสมของไขมันใหม่ได้

 

สารสกัดจากกระบองเพชร: กระบองเพชรมีหลายสายพันธ์นะคะ มีบางสายพันธ์ที่มีรายงานการวิจัยสนับสนุนว่าช่วยลดน้ำหนักได้ค่ะ โดยมีผลช่วยขับน้ำเสีย ลดการบวมน้ำ และเป็น Antioxidant ได้ด้วย สายพันธ์ที่มีงานวิจัยคือ Caralluma fimbriata สามารถลดน้ำหนัก กดความหิว ลดรอบเอว ถึงแม้ผลจะไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ แต่ก็มีแนวโน้มที่ดีค่ะ (Appetite. 2007 May;48(3):338-44. Epub 2006 Nov 13.)

 

สารสกัดจากส้มแขก: ประกอบด้วยสาร Hydroxy citric acid มีผลยับยั้งการย่อยแป้ง ทำให้แป้งดูดซึมได้น้อยลง ก็เลยป้องกันการนำน้ำตาล จากอาหารประเภท แป้ง ข้าว และน้ำตาล ไม่ให้เปลี่ยนไปเป็นไขมันสะสมตามร่างกายแต่จะนำไปใช้เป็นพลังงานของร่างกาย

 

กัวร์กัม (Guar gum) เป็นสารประกอบกลุ่มคาร์โบไฮเดรตที่ไม่โดนย่อย ไม่ดูดซึม มีผลพองตัวในทางเดินอาหาร ให้เรารู้สึกอิ่ม และทำหน้าที่เป็น Fiber ช่วยดูดซับไขมันและสารพิษได้

 

สารสกัดจากโสม (Ginseng extract) เรียกได้ว่ามีรายงานครอบจักรวาลเลยทีเดียวค่ะ สำหรับสารสกัดจากโสม มีประโยชน์หลายๆด้าน แต่ถ้าเป็นด้านการลดน้ำหนักโสมจะช่วยให้เนื้อเยื่อดูดซึมออกซิเจนได้มากขึ้น ทำให้กระบวนการเผาผลาญอาหารในร่างกายเพิ่มขึ้น มีการนำแคลอรี่ไปใช้ จึงทำให้น้ำหนักตัวลดลงได้

 

ผงลูกซัด (Fenugreek powder) จัดเป็นสมุนไพรชนิดหนึ่ง มีใช้แพร่หลายในอินเดีย ว่ากันว่ามีผลลดน้ำตาลในเลือด เพิ่มการเผาผลาญได้ มีงานวิจัยอยู่ชิ้นหนึ่งทดสอบประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่เป็นสูตรผสมของ glucomannan, chitosan, fenugreek, G sylvestre (สายพันธ์หนึ่งของผักเซียงดา), และ vitamin C พบว่าให้ผลดีในการลดน้ำหนัก (Curr Ther Res Clin Exp. 2003 Apr;64(4):248-62)

 

Zinc amino acid chelate: Zinc จริงๆมีประโยชน์หลายด้าน เช่นเป็นco-enzymeที่จำเป็นในกระบวนการเผาผลาญพลังงานในร่างกาย เป็นตัวช่วยควบคุมให้กระบวนต่าง ๆ ในร่างกายดำเนินไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ และคอยช่วยซ่อมบำรุงระบบเอนไซม์และเซลล์ต่าง ๆ สังกะสีทำงานร่วมกันกับเอนไซม์แลคเตตและมาเลตดีไฮโดรจีเนส (Latate and Malate Dehydrogenase) ซึ่งเป็นเอ็นไซม์ที่ร่างกายใช้ในพลังงาน

 

Vitamin E acetate: จริงๆมีประโยชน์เป็น antioxidant แต่เนื่องจากปริมาณที่ใส่มานั้นไม่มาก เลยคิดว่าน่าจะใส่มาปกป้องสารในผลิตภัณฑ์ไม่ให้เสื่อมเพราะอากาศ และแสง

 

Chromium amino acid chelate: Chromium นั้นจำเป็นต่อการใช้น้ำตาลของกล้ามเนื้อ การได้รับ Chromium ที่ถูกรูปแบบจะมีผลให้กล้ามเนื้อเผาผลาญน้ำตาลเป็นพลังงานได้มากขึ้น ก็จะมีน้ำตาลไปเก็บสะสมเป็นไขมันได้ลดลง และพบว่าโครเมียมเป็นส่วนประกอบของสารที่เรียกว่า GTF (Glucose tolerance factor) ที่มีส่วนช่วยในการควบคุมปริมาณน้ำตาลในร่างกาย

 

โดยรวมถือว่าส่วนผสมนี้ออกฤทธิ์ค่อนข้างครอบคลุมและเสริมฤทธิ์กันเป็นอย่างดี

คือ มีทั้งตัวที่ฟูในท้องให้ความรู้สึกอิ่ม ลดการดูดซึมแป้ง เพิ่มการเผาผลาญ และยังเสริมด้วย Antioxidant ช่วยลดความเครียดในร่างกายที่เกิดระหว่างการ Diet ด้วย

 

สำหรับด้านการใช้งาน มี่ทานมาได้ราวๆ 20 วันแล้วค่ะ รู้สึกว่ากางเกงหลวมนะคะ แต่น้ำหนักยังไม่เปลี่ยนแปลง อาจจะเพราะช่วงนี้หน้าหนาว ร่างกายเราเก็บสะสมไขมันอยู่ และมี่ก็ไม่ได้คุมอาหารเต็มรูปแบบมากนัก ยังทานขนมเค้ก น้ำหวาน ตามปกติอยู่เลยค่ะ แต่ที่สัมผัสได้เลยก็คือ เราทานอาหารได้น้อยลงก็อิ่มแล้ว ไม่ได้ถึงขั้นเบื่ออาหารเลยนะคะ และรู้สึกตัวอุ่นขึ้น เลยมโนได้ว่าการเผาผลาญเราดีขึ้นค่ะ นอกจากนี้ระหว่างทานก็ไม่ได้คลื่นไส้ หรือแน่นท้อง มวนท้องแต่อย่างใด

 

ทางแบรนด์บอกว่า ทาน ครั้งละ 2 เม็ด วันละครั้ง ส่วนตัวมี่นั้นทาน ก่อนอาหารซัก ครึ่งชั่วโมงและดื่มน้ำตาม 2 แก้วก็จะทานข้าวได้น้อยลงค่ะ

 

ให้คะแนนกันซักหน่อย

ส่วนผสม: 5/5

การใช้งาน: 5/5

 

คะแนน ccg

 

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ทางเฟสบุคของแบรนด์

http://www.facebook.com/thailandccg

http://www.ccgthailand.com

 

Disclaimer/Conflict of interests:

ผลิตภัณฑ์นี้ได้รับการสนับสนุนจากทางแบรนด์ CCG