[Cosme Diagnosis] Primæcure Mat จาก Cosmetici magistrali

[Cosme Diagnosis] Primæcure Mat จาก Cosmetici magistrali

อากาศร้อนๆแบบนี้ผิวก็เริ่มจะมันๆวาวๆอีกครั้ง วันนี้ก็เลยแวะเอาซีรัมคุมมันจากอิตาลีมารีวิวเล่าสู่กันฟังค่ะ

 

ซีรัมตัวนี้ใช้แทน Primer ได้ด้วยนะคะ

 

ผลิตภัณฑ์วันนี้ก็คือ Primæcure Mat จาก Cosmetici magistrali เวชสำอางจากประเทศอิตาลีค่ะ

 

IMG_0746-re

 

ตัวผลิตภัณฑ์มาในหลอดบีบสีขาว สกรีนลายโลโก้และชื่อผลิตภัณฑ์ เนื้อเป็นเนื้อสีขาวๆ กลิ่นหอมอ่อนๆ

IMG_0747-re

 

เนื้อจะเกลี่ยค่อนข้างง่าย แห้งและแนบสนิท เรียบเนียนไปกับผิวค่ะ

IMG_0748-re

 

มะกี๊บอกว่าใช้เป็นไพรม์เมอร์ได้ด้วย ก็เลยจะลองเทสต์กับรองพื้นให้ดูนะคะ

IMG_0749-re-horz

 

จะเห็นว่าบริเวณที่ทา Primæcure Mat จะ Mat กว่า สมชื่อเลยค่ะ แล้วก็เกลี่ยรองพื้นได้ดีกว่าด้วย

ลองให้ดูที่สภาวะแสงต่างๆกันนะคะ

IMG_0751-re-horz-2

 

เสียดายที่มี่เป็นคนผิวแห้ง ก็เลยไม่รู้ว่าคนที่ผิวมันมากๆจะคุมได้นานแค่ไหน แต่ผิวมี่ที่จมูกกับคาง Matt ตั้งแต่เช้ายันสี่ทุ่มเลยค่ะ (ใช้คู่กับรองพื้น Illamasqua Skin Base Foundation ค่ะ)

ค่า pH อยู่ที่ประมาณ 5 ค่ะ ใกล้เคียงกับผิวเราพอดีเลย

IMG_0761-re

ลองดูส่วนผสมกันบ้างดีกว่าค่ะ

Aqua, Propylene glycol, Ethylhexyl palmitate, Glycerin, Fomes Officinalis extract, Candelilla/Jojoba/Rice bran polyglyceryl-3 esters, Glyceryl stearate, Butylene glycol, Cyclopentasiloxane, Zinc PCA, Biotin, Arctium majus root extract, Carbomer, Sodium stearoyl lactylate, Cetearyl alcohol, Sodium hydroxide, Imidazolidinyl urea, Parfum, Disodium EDTA, Allantoin, Chlorphenesin, Phenoxyethanol, Plankton extract, Phenethyl alcohol, Tilia cordata flower water, Chamomilla recutita extract, Methylisothiazolinone, Sodium benzoate, Potassium sorbate.

มาดูคุณสมบัติของสารแต่ละอย่างกันดีกว่านะคะ

ปกติเครื่องสำอางจะประกอบด้วยส่วนสำคัญๆ อยู่ 3 ส่วนหลักๆ คือ

1.Actives หรือ สารออกฤทธิ์ เป็นสารที่ทำให้เครื่องสำอางมีคุณสมบัติพิเศษต่างๆ

2.Base หรือ ส่วนเนื้อของผลิตภัณฑ์ เป็นตัวอุ้มและเก็บสารออกฤทธิ์ไว้

3.Additives หรือ ส่วนของสารเติมแต่ง เป็นตัวเติมแต่งให้ผลิตภัณฑ์มีความน่าใช้ มีความปลอดภัย เช่น พวกสารกันเสีย พวกน้ำหอม พวกซิลิโคน ตัวเพิ่มความหนืด ฯลฯ

ลองมาไล่ไปทีละตัวเลยดีกว่า

คุณสมบัติสารแต่ละตัวแยกตามหน้าที่

1.Actives ได้แก่

-Fomes officinalis extract คือ สารสกัดจากเห็ดชนิดหนึ่ง มีคุณสมบัติช่วยควบคุมความมัน กระชับรูขุมขน เพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว การทดสอบประสิทธิภาพของสารสกัดในอาสาสมัครซึ่งจัดโดยบริษัทที่ผลิตสารสกัดฯ พบว่าให้ผลกระชับรูขุมขนได้ในทันทีที่ทา และผลที่ได้ดีกว่า Witch hazel กับ Zinc (Technical data sheets: Laboratoires Serobiologiques)

-Zinc PCA สารลูกผสมของ Zinc กับ Pyrollidone carboxylic acid (PCA) ซึ่ง PCA ปกติทำหน้าทีเป็น Natural moisturizing factor ที่อุ้มน้ำให้กับผิว Zinc เป็นแร่ธาตุที่มีคุณสมบัติควบคุมความมัน และเป็นองค์ประกอบของเอนไซม์บางชนิด สำหรับ Zinc PCA มีรายงานการวิจัยกล่าวว่า Zinc PCA ช่วยปกป้องเซลล์ผิวหนังจากรังสี UVA ได้ โดยไปลดการสร้าง Activator protein 1 และ MMP-1 ที่มักจะสร้างเวลามีรังสี UV ซึ่งตัว MMP เป็นเอนไซม์ที่ทำลายคอลลาเจนในผิวทำให้เกิดความหย่อนยานและริ้วรอย (Int J Cosmet Sci. 2012; 34(1):23-8.)

-Biotin หนึ่งในวิตามินกลุ่มวิตามินบี ทำหน้าที่เกี่ยวกับกระบวนการสร้างและสลายไขมัน รวมทั้งไขมันในเซลล์ผิว การได้รับ Biotin จึงมีส่วนช่วยให้ผิวหนังมีการสร้างไขผิวหนังอย่างปกติ รักษาความชุ่มชื้น ป้องกันผิวแห้ง ลดริ้วรอย

-Arctium majus root extract สารสกัดจากพืชตระกูลเดียวกับ Burdock อุดมด้วยวิตามินบี 1 6 12 และ E ให้ผลบำรุงผิว ควบคุมการสร้างน้ำมัน มีคุณสมบัติเป็น Antioxidant ช่วยลดการอักเสบ ในฐานข้อมูลงานวิจัยยังไม่พบที่เกี่ยวข้องกับผิวหนัง

-Allantoin สารสำคัญในรากคอมเฟรย์ มีประโยชน์ช่วยลดการแพ้ ลดการระคายเคือง และช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวหนัง มีรายงานการวิจัยสนับสนุนเรื่องคุณสมบัติในการช่วยสมานแผล (Acta Cir Bras. 2010;25(5):460-6.)

-Plankton extract สารสกัดจากแพลงค์ตอน มีหลายสายพันธุ์ แต่ละสายพันธ์ก็แตกต่างกันไป คุณสมบัติรวมๆของสารสกัดแพลงค์ตอน คือเพิ่มความชุ่มชื้นและให้คุณสมบัติสบายผิว (Soothing)

-Tilia cordata flower water น้ำที่ได้จากการคั้นดอกของ Lime tree Linden ผู้ผลิตบอกว่ามีประโยชน์ให้ความชุ่มชื้น Soothing และเป็น Whitening มีฟลาโวนอยด์หลายชนิด และมีแทนนิน ซึ่งเคยมีรายงานว่าสารพฤกษเคมีสองกลุ่มนี้มีฤทธิ์ Anti-oxidant และสามารถยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ไทโรซิเนสได้ ไม่พบงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับฤทธิ์ทางชีวภาพ

-Chamomilla recutita extract สารสกัดจาก German Chamomile ปกติใช้เป็น Anti-inflammatory, สารลดการระคายเคือง และให้ความรู้สึกสบายผิว

2.Base ก็จะมีส่วนของน้ำกับน้ำมัน ได้แก่

2.1 ส่วนของน้ำ ได้แก่ น้ำ, Propylene glycol, Glycerin, Butylene glycol

2.2 ส่วนของน้ำมัน ได้แก่ Ethylhexyl palmitate, Cetearyl alcohol, Glyceryl stearate น่าเสียดายที่ Ethylhexyl palmitate อาจจะอุดตันรูขุมขนได้ในบางคน

3.Additives ได้แก่

3.1Silicone มี Cyclopentasiloxane เป็นซิลิโคนที่ระเหยได้ ไม่เหนอะหนะ ให้ความรู้สึกที่ดีตอนทา และแห้งสบายผิว

3.2Emulsifier เป็นสารที่ช่วยผสานน้ำให้เข้ากับน้ำมัน ได้แก่ Candelilla/Jojoba/Rice bran polyglyceryl-3 esters ที่ค่อนข้างอ่อนโยน และเป็นธรรมชาติ กับ Sodium stearoyl lactylates ก็เป็นตัวที่อ่อนโยน และเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวได้เช่นกัน

3.3สารเพิ่มความหนืด ได้แก่ Carbomer

3.4สารปรับ pH ได้แก่ Sodium hydroxide ถึงจะเห็นสารตัวนี้ เราจะบอกว่ามันไม่ดี ก็คงไม่ถูก เพราะเค้าใส่มาแค่ปรับ pH ให้เหมาะสม (จากที่ลองวัดดูจะเห็นว่าเท่ากับ 5) ไม่ได้ใช้ในความเข้มข้นที่เยอะมากจนจะเป็นอันตรายได้แบบที่หลายๆคนเข้าใจ ในหลายๆครั้งเลยความระคายเคืองของสารขึ้นอยู่กับความเข้มข้นด้วย

3.5Perservatives ได้แก่ สารกันเสีย Imidazolidinyl urea, Chlorphenesin, Phenoxyethanol, Phenethyl alcohol, Methylisothiazolinone, Sodium benzoate, Potassium sorbate และสารจับโลหะ EDTA

3.6สารแต่งกลิ่น/Parfum

ถึงเวลาให้คะแนน

1. Actives จะเห็นว่าสารออกฤทธิ์เน้นไปที่สารควบคุมความมัน แต่ก็ไม่ได้คุมมันอะไรจนมากเกินไป ก็มีสารออกฤทธิ์อื่นๆมาช่วยเสริมความแข็งแรงของ Barrier ผิว ช่วยเรื่องความชุ่มชื้น ช่วยเรื่องกระชับรูขุมขน ลดการอักเสบในผิว และยังให้ความรู้สึกสบายผิวด้วย โดยรวมถือว่ามีประโยชน์หลายๆอย่าง ไม่ใช่แค่คุมมันเฉยๆ จึงขอให้ 5 ฟลาสก์

2. Base มาในรูปแบบของ Emulsion ซึ่ง Emulsion ที่ดีควรจะมีสารที่คอยดึงน้ำให้ผิว สารไขมันเคลือบผิว และสารไขมันจากธรรมชาติ ในส่วนผสมชุดนี้ มีสารดึงน้ำให้ผิวอยู่ 3 ตัว ไม่มีส่วนผสมของ Alcohol ที่เรามักจะเจอในกลุ่มเครื่องสำอางคุมมัน กระชับรูขุมขน ในส่วนของสารไขมัน Ethylhexyl palmitate กับ Glyceryl stearate จัดเป็นสารไขมันชนิดที่ดูดซึมได้ บ้าง เคลือบผิวได้บ้าง ก็ก้ำกึ่งกันไป แต่มีข้อน่าเสียดายคือ Ethylhexyl palmitate อาจจะอุดตันรูขุมขนได้ในบางคน แต่การตอบสนองของแต่ละคนก็จะแตกต่างกันไป บางคนอาจจะไม่อุดตันก็ได้ ส่วนตัวมี่ใช้แล้วก็ไม่ได้มีสิวผุดหรือเห่อขึ้นมาแต่อย่างใด จุดนี้จึงขอให้ 4 ฟลาสก์

3. Additives ดูเหมือนว่าจะใส่สารกันเสียมาเยอะมาก แต่ส่วนผสมส่วนใหญ่ค่อนข้างเป็นมิตรกับผิว ไม่ได้มีพิษมีภัยอะไร และโดยเฉพาะตัว Emulsifier ที่ค่อนข้างจะอ่อนโยนกับผิว แม้ว่าจะมีน้ำหอม แต่ก็ไม่เคยหักคะแนนน้ำหอมในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางทั่วไปที่ไม่ได้ใช้กับรอบดวงตามาก่อน จึงขอให้ 5 ฟลาสก์

4. การใช้งาน ส่วนตัวคิดว่าทาแล้วผิวดูเรียบเนียนขึ้น ริ้วรอยหาย รูขุมขนพร่องลง แต่งหน้าได้เรียบเนียนขึ้น ไม่เป็นคราบ รองพื้นยังสดเหมือนตอนแต่งใหม่ๆ ไม่ดรอประหว่างวัน และไม่ได้คุมมันมากเกินทำให้ผิวแห้งมากจนเกินไป จุดนี้จึงขอให้ 5 ฟลาสก์

คะแนน Primaecure

 

 

สุดท้ายนี้ขอขอบคุณทางบริษัทไอเมดิกา ด้วยค่ะ ที่ส่งผลิตภัณฑ์ดีๆมาให้มี่ได้ทดลองใช้

รายละเอียดเพิ่มเติม สามารถสอบถามที่ทางเพจ เลยนะคะ ขอบคุณที่ติดตามมาจนจบค่ะ

 

http://www.imedicaskincare.com/

Leave a Reply

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  Change )

Twitter picture

You are commenting using your Twitter account. Log Out /  Change )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  Change )

Connecting to %s